คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : SF Sehun X Chen Bad Guy V END
SEHUN X
CHEN
Bad Guy V
วันต่อมา
ผมตื่นขึ้นมาตอนเช้าจนเกือบจะเรียกว่าสายของอีกวันหลังจากที่เมื่อวานผมฟื้นในตอนค่ำๆ
แล้วพบกับเรื่องที่ทำให้ผมแปลกใจนิดหน่อยหรืออาจจะแปลกใจมากเลยก็ว่าได้
เพราะเมื่อวานนี้เซฮุนอยู่กับผมตลอดจนผมหลับไปเขาคอยดูแลผมตลอดเหมือนกับว่าเซฮุนคนเดินกลับมาแล้ว
แต่ผมก็ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองให้มากเขาอาจจะแค่รู้สึกผิดที่เป็นคนทำให้ผมเจ็บก็ได้
เลยเอาแต่พูดขอโทษซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น...
แต่ที่น่าแปลกคือเมื่อวานผมไม่เห็นจงอินเลย...
ทั้งๆ ที่ปกติแค่ผมเป็นหวัดจงอินก็คอยดูแลอย่างกะผมป่วยมาเป็นชาติขนาดว่ายอมโดดซ้อมเต้นมาอยู่กับผมทั้งวันไล่ขนาดไหนยังไม่ยอมไปเลย
ผมได้แต่คิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาอาจจะมีธุระสำคัญจริงๆ
แล้วก็ได้แต่หวังว่าคงจะไม่ได้มีเรื่องอะไร แบคฮยอนเพื่อนผมเมื่อวานนี้ก็ดูซึมๆ
ไม่ค่อยพูดเอาแต่นั่งก้มหน้าจนชานยอลต้องขอพากลับไปพัก
ทุกคนดูแปลกไปจนผมเริ่มจะสงสัยแล้วว่าเมื่อตอนที่ผมสลบไปมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นรึเปล่า
แล้วทำไมทุกคนต้องทำเหมือนปิดบังอะไรผมอยู่สักอย่าง
“อ้าว
ตื่นแล้วหรอครับจงแดฮยองหิวไหมครับผมลงไปซื้อซุปมาให้กำลังร้อนๆ เลยเดี๋ยวทานซะหน่อยนะครับจะได้ทานยาต่อ” เป็นเซฮุนที่เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับในมือที่ชูถุงซุปร้อนๆ
ขึ้นมาโชว์ให้ผมดู
ผมยิ้มรับเขาเลยส่งยิ้มตอบกลับมาแล้วเดินเข้ามาจัดจานเตรียมอาหารเช้าที่เกือบสายๆ
ให้กับผม ใบหน้าของเขายังคงเปื้อนยิ้มเหมือนเมื่อวานแต่ทำไมผมถึงได้รู้สึกว่าในรอยยิ้มสดใสนั้นมันมีความเศร้าหรืออะไรสักอย่างซ่อนอยู่
“เซฮุน...”
“ครับ
ฮยองอยากได้อะไรบอกผมได้เลยนะครับ” แม้แต่เสียงขานรับของเขามันยังสดใสเลย
เหมือนเขาทำเพื่อปกปิดอะไรบ้างอย่างจริงๆ นะ
“เมื่อวาน...มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า”
“...”
ผมไม่ได้คิดไปเองใช่ไหมที่คิดว่าเห็นเซฮุนชะงักไปตอนผมถามคำถามนั้น
แสดงว่าเมื่อวานตอนที่ผมสลบไปมันจะต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ และมันก็คงจะเป็นเรื่องที่ร้ายแรงพอสมควร
“...ผมว่าฮยองทานซุปซะหน่อยนะครับจะได้สดชื่นขึ้น”
ซุปร้อนๆ ถูกนำมาจ่อไว้ตรงหน้า ผมมองเซฮุนอย่างต้องการคำอธิบาย
เซฮุนเองก็คงจะรู้ว่าไม่สามารถปิดบังอะไรผมได้เขาเพียงถอนหายใจก่อนจะเอาถ้วยซุปไปวางไว้ที่โต๊ะแล้วลากเก้าอี้มานั่งอยู่ข้างเตียงก่อนสองมือนั้นจะรวบมือผมไปกุมไว้
“ผมรู้ว่าฮยองอึดอัดกับเวลานี้
แต่ว่าผมยังไม่สามารถพูดอะไรได้ในตอนนี้ฮยองต้องเข้าใจผมนะครับ”
“...”
“ขอเวลาอีกสักหน่อยผมสัญญาว่าผมจะดูแลฮยองไม่ไปไหน”
- B A D G U
Y –
หลังจากวันนั้นระหว่างผมกับเซฮุนก็เหมือนจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม
เหมือนตอนที่เซฮุนยังไม่ได้ไปต่างประเทศ
แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือการที่คนสำคัญในชีวิตของผมสองคนหายไป แบคฮยอนหลังจากวันนั้นที่โรงพยาบาลผมก็ไม่เจอเขาเลยพอถามชานยอลหมอนั่นก็บ่ายเบี่ยงที่จะตอบบอกแค่ว่าเดี๋ยวก็รู้แล้วก็ไม่บอกอะไร
และพอผมถามถึงจงอินก็ไม่มีใครตอบ
ทั้งชานยอลทั้งเซฮุนพวกเขาเอาแต่บอกว่าให้ผมรอเวลาที่เหมาะสมแค่นั้น...
แล้วเมื่อไหร่มันจะถึงเวลาที่ผมจะได้รู้ซักทีว่ามันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นอีก
“จงแดแบคฝากมาให้”
“หืม?
แบคฮยอนฝากมาให้เราหรอ”
ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเองเมื่อเพื่อนในคลาสซึ่งจำได้ว่าบ้านอยู่ใกล้กับแบคฮยอนแต่อยู่คนละกลุ่มกับพวกผมเอาจดหมายมาให้
“อื้อ”
“แล้วทำไมแบคฮยอนไม่เอามาให้เราเองล่ะ
แล้วทำไมต้องเอาจดหมายมาให้หมอนั่นหายไปไหนเราไม่เห็นหมอนั่นมาจะอาทิตย์หนึ่งได้แล้วนะ”
“เขาไปฝรั่งเศษน่ะ
เห็นบอกว่าจะไปเรียนต่อที่นู่นแบคไม่ได้บอกจงแดหรอ”
คยองซูเอียงคอถามผมกลับอย่างสงสัย
เพราะปกติแล้วผมกับแบคฮยอนแล้วก็ชานยอลตัวติดกันจะตาย แต่นี่เพื่อนจะไปเรียนต่อต่างประเทศทั้งทีผมกลับไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักนิด
“ไม่ได้บอกอ่ะ
ติดต่อไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”
“คงกำลังยุ่งเรื่องเดินทางหล่ะมั้ง”
ผมพยักหน้าเข้าใจแม้ว่าจะไม่ได้รู้สึกเห็นด้วยกับเหตุผลที่คยองซูยกมาก็เถอะ
นี่มันเป็นการตั้งใจหลบหน้ากันชัดๆ!
แล้วทำไมหมอนั่นต้องทำแบบนั้นกับผมกัน?
ซอกจดหมายสีฟ้าอ่อนถูกเปิดออกทันทีเมื่อคยองซูเดินออกไป
ตอนนี้ชานยอลเองก็กำลังเล่นบอลอยู่กับเพื่อนคนอื่นๆ
มีแค่ผมที่นั่งรอหมอนั่นอยู่คนเดียว
คงถึงเวลาที่ผมจะได้รู้ซะทีว่ามันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกับผมอีก
คราวนี้คงถึงเวลาจริงๆ แล้วล่ะ!
ถึงจงแดเพื่อนรัก
ฉันรู้สึกผิดทุกครั้งที่เรียกนายว่าเพื่อนรักตั้งแต่เกิดเรื่องบ้าๆ
ที่ฉันทำอะไรโง่ๆ ลงไป
ระหว่างนายกับเซฮุนมันเป็นเพราะฉันเองฉันเป็นคนโกหกเรื่องที่เซฮุนไปต่างประเทศเพราะไปหมั้นทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วว่าผู้หญิงในรูปนั้นเป็นญาติห่างๆกับเซฮุน
และฉันยังทำชั่วด้วยการแกล้งส่งข้อความหาเซฮุนว่านายกับจงอินกำลังสมรู้ร่วมคิดกันหักหลังเขาด้วยการแอบคบกัน
ฉันผิดเองจงแด...ฉันขอโทษ
ฉันรู้ว่าเรื่องที่ฉันทำมันไม่สามารถให้อภัยได้ฉันถึงได้ไม่กล้าแม้แต่จะไปเจอนาย
เหตุผลทั้งหมดที่ฉันทำเรื่องนั้นมันก็เป็นเพราะฉันเห็นแก่ตัวเองที่อยากให้จงอินคนที่ฉันรักได้สมหวังกับนาย
เพียงแค่ไม่อยากเห็นเขาเสียใจฉันถึงได้ทำเรื่องเลวร้ายพวกนั้นไป
และกว่านายจะได้อ่านจดหมายฉบับนี้ฉันก็คงอยู่ที่ฝรั่งเศสแล้ว
ฉันขี้ขลาดจนไม่กล้าไปขอโทษนายต่อหน้าได้แต่ส่งจดหมายมาขอโทษอย่างคนขี้ขลาด
ฉันขอเวลาอีกสักหน่อยถ้าหากว่าฉันรวบรวมความกล้าได้แล้วฉันจะไปขอโทษนายด้วยตัวฉันเอง
สุดท้ายนี้ฉันไม่ขอให้นายอภัยให้แต่ฉันแค่อยากจะให้นายได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับเซฮุนเหมือนเดิมอย่างที่เคยเป็น
ฉันรักนายเพื่อน
นี่มัน...เรื่องอะไรกัน?
ล้อกันเล่นใช่ไหม? แบคฮยอนชอบจงอินอย่างนั้นหรอ
แล้วที่ผ่านมาระหว่างผมกับเซฮุนมันคือความเข้าใจผิดสินะ
และที่จงอินหายไปก็เพราะเหตุผลนี้ด้วยรึเปล่า...
เซฮุนเองก็รู้เรื่องนี้แล้วงั้นเหรอ?
มิน่าล่ะเขาถึงได้เอาแต่ขอโทษแถมยังกลับมาทำดีกับผมเหมือนเดิม
เรื่องทุกอย่าง...มันเป็นแบบนี้เองสินะ
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่สองขาของผมมันออกวิ่งไปตามทางที่มันจะพาผมไปเจอกับเซฮุน
สิ่งที่รู้อยู่ตอนนี้ก็คือผมควบคุมสองขานี้ให้วิ่งช้าลงไม่ได้เลย...
- B A D G U
Y –
“เซฮุนนา!!!”
ไม่รู้ว่าเกิดบ้าดีเดือดมาจากไหนผมถึงได้กล้าตะโกนเรียกเซฮุนที่กำลังเล่นบาสกันอยู่กับเพื่อนที่มากกว่าสิบคน! แล้วนี่คือวิ่งจากสนามบอลมาสนามบาสของคณะเจ้าเด็กนี่มันไม่ใช่ใกล้ๆ
เลยนะนั่น แต่ตอนนี้ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้วล่ะครับ
เมื่อเห็นว่าเซฮุนอยู่ตรงไหนผมก็วิ่งเข้าไปหาเขาทันที
“อ้าว จงแดฮยองมา
เอ๋?”
“ขอโทษ...ฮยองขอโทษ”
ผมอาจจะเป็นบ้าไปแล้วก็ได้เพราะไม่รู้ว่าผมไปเอาความกล้ามาจากไหนถึงได้มากระโดดกอดเซฮุนกลางสนามบาสขนาดนี้
ทุกอย่างรอบตัวเหมือนจะหยุดนิ่งไปชั่วครู่ก่อนที่จะเป็นเสียงของเซฮุนที่ดังขึ้นข้างหูผมพร้อมกับมือนั้นที่ลูบหัวผมเหมือนปลอบโยน
“รู้เรื่องแล้วงั้นเหรอครับ”
“ฮึก ขอโทษ”ผมไม่สามารถเอ่ยคำไหนได้เลยนอกจากคำว่าขอโทษ
มันเป็นความผิดของผมเองด้วยที่ไม่เชื่อใจเซฮุนให้มากกว่านี้
และผมผิดเองที่ไม่ได้ถามเขาก่อนว่าความจริงมันคืออะไร ตัดสินเขาแค่สิ่งที่ตัวเองเห็นเอาแต่เชื่อในสิ่งที่คนอื่นบอกโดยไม่ได้ถามเขาด้วยซ้ำว่าความจริงมันคืออะไร
“ฮยองไม่ต้องขอโทษผมหรอก
ผมต่างหากที่จะต้องเป็นคนขอโทษ ผมขอโทษนะครับที่วู่วามใช้แต่อารมณ์
ไม่ได้ถามฮยองซะก่อนว่าความจริงคืออะไร ผมผิดเองที่ไม่ไว้ใจฮยองผมขอโทษนะครับ”
“ไม่ฮยองต่างหากที่ต้องขอโทษนาย”
“เอ่อ...จะขอโทษกันอีกนานไหมครับ
ถ้านานพวกผมจะได้ไปเล่นที่อื่นต่อ” น้ำเสียงกวนๆ
มาพร้อมกับใบหน้าทะเล้นที่แทรกเข้ามาตรงกลางตอนที่ผมกับเซฮุนผละออกจากกัน
เป็นเจ้าเด็กโย่งเซโล่เพื่อนสนิทอีกคนของเซฮุนนั่นเอง
“ขะ ขอโทษ
ฮยองไม่ได้ตั้งใจ” ผมว่าพลางก้มหน้าอย่างอายๆ ให้ตายเหอะตอนจะทำล่ะไม่คิด
พอมีสติแอบเหลือบมองรอบๆ
ถึงได้รู้ว่าตัวเองคิดผิดแค่ไหนที่เลือกจะมาขอโทษเซฮุนเอาวันนี้และตอนนี้ สายตาจากทั่วทิศกำลังมองมายังผมสองคนพร้อมกับรอยยิ้มล้อเลียนจนผมต้องรีบหันหลังเตรียมจะเดินหนีออกมา
แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีมือมาคว้าแขนผมไว้
“จะทิ้งให้ผมโดนล้อคนเดียวอย่างนั้นหรอครับ?”
“ถ้าไม่อยากโดนล้อก็ตามมาสิ
>//<”
ถึงแม้จะเป็นผมที่ออกปากชวนให้เขาตามมาแต่เอาเข้าจริงคนที่พาผมวิ่งหนีออกมากลับเป็นเซฮุนเองต่างหาก
เสียงล้อดังขึ้นอยู่ข้างหลังอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนีแต่ก็อดจะยอมรับไม่ได้ว่านี่เป็นเวลาแห่งความสุขของผมจริงๆ
หลังจากที่ไม่ได้สัมผัสความรู้สึกนี้มาเป็นเวลานาน
ผมสัญญากับตัวเองไว้เลยว่าต่อแต่นี้ไปผมจะรักษาคนที่เป็นความสุขของผมไว้ให้ดีที่สุด
และผมจะเชื่อใจใช้เหตุผลกับความรักครั้งนี้ให้มากที่สุด
จะได้ไม่ต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก
Special
“เซฮุนจดหมายอะไรหรอ”
ผมถามเซฮุนที่นั่งจิบกาแฟพลางอ่านจดหมายในมือด้วยใบหน้าที่ดูงงงวย
อ้อ
ตอนนี้ผมกับเซฮุนเราแต่งงานกันแล้วครับ แต่เป็นการแต่งงานแบบเงียบๆ
ไม่ได้หวือหวาอะไรมีเพียงคนในครอบครัวแล้วก็เพื่อนสนิทของผมทั้งสองคนเท่านั้นที่ไปเป็นพยานรักให้
แต่น่าเสียดายที่แบคฮยอนกับจงอินไม่ยอมมาด้วย
แต่ผมก็เข้าใจนะว่าพวกเขาคงยังทำใจกับเรื่องนั้นไม่ได้
หลังจากที่แต่งงานกันไม่นานเซฮุนก็ขึ้นเป็นผู้บริหารแทนคุณพ่อของเขาที่ขอลามือจากการบริหารงานอันเหนื่อยล้า
ผมเองก็เป็นผู้ช่วยส่วนตัวให้เซฮุนเขาอีกที ชีวิตประจำวันของเราสองคนก็ไม่ได้ต่างไปจากเดิมนักเป็นไปในแนวเรียบง่ายซะมากกว่า
แม้จะมีทะเลาะกันบ้างแต่พอเวลาผ่านไปเราก็มาปรับความเข้าใจกัน
ผมว่าผมชอบการใช้ชีวิตแบบนี้นะ
“ฮยองดูเองเถอะครับ”
“หืม?
จดหมายอะไรเนี่ย” ผมถอดผ้ากันเปื้อนเดินไปหยิบเอาจดหมายเจ้าปัญหานั้นมาอ่าน
ก่อนจะต้องเอามือปิดปากอุทานออกมาด้วยความช็อก “ขอเชิญร่วมงานมงคลสมรส บยอน
แบคฮยอน กับ คิม จงอิน!!!”
ผมหันหน้าเหวอๆ
กลับไปมองเซฮุน
รายนั้นก็พยักหน้าให้ผมด้วยใบหน้าที่บอกถึงความเหวออยู่ไม่น้อยไปกว่าผมเลย
สองคนนั้น...ให้ตายเหอะ! นี่มันยิ่งกว่าฝันอีกเหอะ
“จะยังไงก็เถอะ
ผมว่าเราควรไปตัดชุดพิเศษสำหรับงานนี้นะครับ”
“...”
“และที่สำคัญ...”
ร่างสูงเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังก่อนที่แขนยาวจะโอบรอบเอวผมไว้กระชับแน่นๆ
แล้วกระซิบประโยคที่ทำให้ผมเขินจนหน้าแดงด้วยน้ำเสียงที่ผมเคยบอกว่ามันเซ็กซี่ที่สุดของเขา
“...เราควรรีบเร่งในการผลิตทายาทให้ได้ก่อนที่คู่นั้นจะแซงหน้าเราไปก่อนนะครับ
J”
จบเหอะ
ขอโทษที่ตอนจบไม่มีอะไรเลย T0T
ความคิดเห็น