คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #26 : ::> ประวัติ ทาทา ยัง
เนื้อหาที่เราหามาให้อาจจะเยอะไปจนขี้เกียดอ่านก้ออ่านคล่าวๆไปละกันนะค่ะ
อมิตา มารี ยัง หรือ ทาทา ยัง (เกิด 14 ธันวาคม พ.ศ. 2523 ในประเทศไทย) นักร้องและนักแสดงชาวไทย ชนะเลิศการประกวดร้องเพลงระดับชาติเมื่ออายุ 11 ปี และได้เซ็นสัญญาเป็นนักร้องอาชีพเมื่ออายุ 14 ปี
ลูกครึ่ง ไทย-อเมริกา ทาทา ยัง ได้ชื่อเล่นว่า "ทาทา" มาหลังจากที่พ่อแม่ ไปเที่ยวประเทศอินเดีย และได้ชื่นชอบชื่อ บริษัททาทา ซึ่งเป็นบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในอินเดีย ทาทาจบการศึกษาจากโรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนาบริติช
ทาทาได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากหลังจากออกอัลมั้มภาษาอังกฤษชุดแรกที่ชื่อ I Believe ด้วยเพลงเปิดอัลบั้ม "Sexy Naughty Bitchy" ที่มีเนื้อหาล่อแหลม กล่าวถึงหญิงสาวที่ชอบแต่งกายนุ่งน้อย ห่มน้อย เพื่อยั่วยวนผู้ชาย อย่างไรก็ดี ทาทาก็ประสบความสำเร็จอย่างมากกับอัลบั้มชุดนี้ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่นและอินเดีย
"สาวน้อยมหัศจรรย์" เป็นชื่อแฝงที่เธอได้มาจากความสามารถ รอบตัวและความสำเร็จที่ได้มา ด้วยอายุอันน้อยนิดของ"อมิตา มาเรีย ยัง" หรือ "ทาทา ยัง" เด็กน้อยเสียงใสที่ พวกเรา เห็นเธอ จากเวทีประกวด นิสสันมิวสิก อะวอร์ด
- ในปี 2538
หลังจาก นั้นไม่นานเธอก็กลายเป็นสาวน้อยผมสั้น ทีท่าทะมัดทะแมงกับอัลบั้มชุดแรก "อมิตา ทาทายัง" ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
- ในปี 2539
เธอได้เป็นหนึ่งใน 5 นักร้อง หลักของแกรมมี่ ในการร่วมออกอัลบั้มพิเศษชุด 6-2-12 ที่เสมือนเป็น ใบการันตีจากคนใน วงการเพลงแล้วว่า "ทาทา" ไม่ใช่เด็กอีกแล้ว แต่เธอเป็นมืออาชีพเคียงบ่าเคียงไหล่นักร้อง ยอดนิยมรุ่นพี่ ในยุคนั้นได้อย่างสบายๆ
- ในปี 2540
เป็นอีกปีหนึ่งที่เรียกได้ว่า เป็นปีทองของเธอ ด้วยการเปิดประตูสู่การเป็นนักแสดง กับภาพยนตร์เรื่อง "จักรยานสีแดง" พร้อมกับออกอัลบั้มเพลง ประกอบภาพยนตร์ และถัดมาในปลายปีกับอัลบั้มเพลงส่วนตัว ความสามารถรอบตัว ทำให้เธอเป็นที่ยอมรับของมหาชนอย่างงดงาม ชื่อของเธอได้กลายเป็นคำที่ถูกพิมพ์บ่อยครั้งในสื่อต่างๆ โดยถูกยกย่องเป็น 1 ใน 10 บุคคลผู้เป็นอิทธิพล แก่ผู้คนในประเทศไทย จากนิตยสาร ELLE "อเมซิ่ง ทาทา" ที่ยังคงยอดขายหลักล้านที่ยากจะหาใครลบสถิติ ความเร็วและแรงของเธอได้ ซึ่งในกลางปีเดียวนั้นเองที่ รัฐบาลจีนได้เชิญเธอในฐานะนักร้องจากประเทศไทย เพียงคนเดียว ที่ไปร่วมงานเฉลิมฉลองส่งมอบเกาะฮ่องกงคืน ซึ่งนับเป็นการยอมรับ ในระดับสากลอีกครั้งของเธอ
- ในปี 2541
ดูเหมือนจะเป็นปีแห่งการ แสดงของทาทา "O-Negative รักออกแบบไม่ได้" เป็นภาพยนตร์ แนวใหม่ที่ชี้ถึง ความสำเร็จ ของเธอด้วยรางวัลมากมาย แม้ผลงานเพลงจะยัง ไม่มีเด่นชัดนัก แต่อัลบั้มเพลงประกอบ ภาพยนตร์ก็ช่วย ทำให้คนหายคิดถึงเธอได้ ในระดับหนึ่งเหมือนกัน จากนั้นเราก็ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเธอหลัง จากหายหน้าไปนาน เมื่อมีการเปิดตัวนักร้องหลักของกีฬา เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 "อมิตา ทาทา ยัง" ไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไปแล้ว เสียงเพลง "Reach for the stars" ที่ก้องกังวาลไปทั้งสนาม และยังแพร่ภาพไปทั่วโลกนั้น แสดงถึงพลัง แห่งเสียงร้อง และรัศมีการเป็น "ตัวจริง" ของหญิงสาวสวยคนนี้ เธอยังได้เป็น 1 ใน 25 บุคคล ผู้เป็นที่ยอมรับในเอเชีย จาก ASIA WEEK MAGAZINE
- ในปี 2544
ทาทากลับมา อีกครั้งในสังกัดใหม่ เทโร เรคอร์ด พร้อมอัลบั้มชุดใหม่ TATA YOUNG เพลงในอัลบั้มหลายเพลงยังคงเป็นแนวป๊อป แต่ที่ เปลี่ยนแปลงคือสีสันของแต่ละเพลงที่จะแตกต่างกันไป ซึ่งทั้งหมด นั้นก็ดึงมาจากบุคลิกของทาทาเอง เช่นเพลงสนุกอย่าง ช็อต, อา-โบ-เด-เบ, ตัวแสบ, หวานใจ ก็จะเป็นเพลงแสบๆ ซ่าๆ และร่าเริง หรือถ้าเป็นเพลงช้าอย่าง เก็บฉันไว้ยืนข้างเธอทำไม, อย่าเกลียดกันก็พอ ก็จะเป็นอารมณ์ซึ้งๆ ในแบบของเธอ ระยะเกือบ 2 ปี ที่ปล่อยให้แฟนเพลงรอคอย อัลบั้มเพลงชื่อ Real TT (เรียว ทีที) ซึ่งมีความหมายตรงตัวถึง ความเป็นตัวตนที่แท้จริงของทาทา ในมุมที่เป็นส่วนตัวที่คุณคาดไม่ถึง และไม่เคยสัมผัสมาก่อน มีหลากหลายอารมณ์ทั้งสนุก หัวเราะ เศร้าเคล้าน้ำตา แนวเพลงยังคงความเป็นป๊อป ที่ผสมผสานความเป็นแดนซ์, เทคโน และ R&B เปิดตัวด้วยเพลง "Super แฟน (super man)" เพลงเต้นรำ จังหวะสนุกๆ และเพลงช้าอย่าง "อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน" เรื่องจริงที่อาจเกิดขึ้น กับชีวิตใครหลายคน รวมทั้งเธอยังได้ควบตำแหน่ง Co-Producer ร่วมเขียนเนื้อเพลงและวางคอนเซ็ปต์ในอัลบั้มชุดนี้อีกด้วย
- ในปี 2547
ด้วยความสามารถในการร้องเพลงอันโดดเด่นของเธอ ทำให้ “Tata Young” กลายเป็นศิลปินไทยคนแรก ที่ได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินในสังกัด Columbia ของบริษัท Sony Music เช่นเดียวกับศิลปินระดับโลกอย่าง Celine Dion, Beyonce, Destiny’s Child, Ricky Martin และ John Mayer เพลง Sexy , Naughty , Bitchy หรือ I Believe ต่างได้รับความนิยมอย่างมากทั่วทั้งเอเซีย ติดชาร์ตวิทยุมาหลายคลื่น และในช่วงเวลาถัดมาทำให้เธอได้จุดประกายโด่งดังในเอเชียเมื่อเธอได้รับการติดต่อให้ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แห่งปีของ Bollywood (อินเดีย) ในเรื่อง Dhoom ซึ่งเธอได้ร้องเพลง Dhoom Dhoom ในเวอร์ชันภาษาอังกฤษ และทำให้ยอดขายของอัลบัมซาวด์แท็รกประกอบภาพยนตร์ขายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในอิยเดีย คนทั้งอินเดียให้ฉายาเธอว่า Dhoom Girl และเพลงก็โด่งดังทั่วเอเชีย และเพลงอัลบัม I Believe ของเธอยังเข้าไปติดอันดับ 1 ใน Zip Fm. และ ติดท็อปเท็นใน Oricon Chart 2 ชาร์ตเพลงดังในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย นอกจากนี้ เธอกลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของเด็กสาวจากแดนอาทิตย์อุทัยไปแล้วเมื่อ มิวสิกวีดีโอของเธอถูกเปิดทุก 10 นาที ที่จอยักษ์ใน ชิบูย่า แหล่งรวมของวัยรุ่นญี่ปุ่น ภายใน 2 สัปดาห์ อัลบั้มของเธอขายได้ถึง 100,000 ก็อปปี้ ซึ่งถือเป็นสถิติที่ดีเยี่ยมสำหรับศิลปินเอเซียที่เข้ามาขายในญี่ปุ่น จากนั้นเธอเดินทางไปเปิดการแสดงคอนเสิร์ตมาแล้วทั่วเอเซีย รวมทั้งเปิดการแสดงคอนเสิร์ต 6 รอบ ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งบัตรถูกขายหมดในเวลารวดเร็ว จนถูกกล่าวขานจากสื่อมวลชนของประเทศญี่ปุ่นว่าเป็นคอนเสิร์ตที่ร้อนแรงที่สุดในรอบปี และอัลบัม I Believe ก็ได้สร้างยอดขายของแต่ละประเทศได้อย่างประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะประเทศไทย, ญี่ปุ่น, อินโดฯ, สิงคโปร์, มาเลย์, อินเดีย ได้คว้ารางวัลแผ่นเสียงทองคำขาว (Platinum) และ โกล์ด (Gold) มาได้อย่างเรียบร้อย ด้วยยอดขายทั่วเชียกว่า 1.2 ล้านก๊อปปี้
- ในปี 2548
หลังจากปิดฉากอัลบัม I Believe ไปเรียบร้อยแล้ว ทาทาก็ส่งงานเพลงไทยให้แฟนเพลงหายคิดถึงกับอัลบัมที่มีชื่อว่า Dangerous Tata ที่มีซิงเกิ้ลเปิดตัวอย่าง Dangerous ที่ร่วมงานกับ ไทยเทเนี่ยม และในอัลบั้มนี้ยังได้ร่วมงานกับศิลปินอื่นๆอีกมากมายเช่น นภ พรชำนิ , โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร , บอย-ตรัย ภูมิรัตน์, (B5)
- ในปี 2549
เธอได้ร่วมงาน เอ็มทีวี เอเชีย อวอร์ดส ร่วมร้องเพลงกับ ลี ไรอันในเพลง Endless Love นอกจากนั้นเธอยังได้รับรางวัล Favorite Artist Thailand ไปครองอย่างสมใจอีกด้วย
และในปีเดียวกันนี้ เธอกลับมาพร้อมกับอัลบั้มเพลงสากลชุดที่สองของเธอ ในชื่อ 'Temperature Rising' ซึ่งมีเพลงเปิดตัวชื่อเพลง El Nin-YO!ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ความร้อนระอุทั่วเอเชีย ไม่ว่าจะขึ้นชาร์ต Zip FM ของญี่ปุ่น, อินโดฯ, สิงคโปร์, ประเทศไทย และทำให้เพลง El Nin-YO! กลายเป็นเพลงที่ฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมือง จนความแรงของซิงเกิ้ลเพลงแรกร้อนระอุอยู่ ทาทาก็เตรียมส่งซิงเกิ้ลที่สองที่ชื่อว่า Zoom ซึ่งเป็นแนวคอนเซ็ป "ดูแต่ มืออย่าต้อง"
หลังจากความสำเร็จที่ได้รับ และเสียงเรียกร้อง 7 เพลงจากอัลบั้ม Temperature Rising ได้ถูกนำมาผลิตเป็นวีซีดีคาราโอเกะในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ส่งท้ายปี ในเดือนธันวาคม 2549 ที่ชื่อว่า TATA YOUNG TEMPERATURE RISING LIVE IN BANGKOK ซึ่งจัดที่อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี ในวันที่ 15 ธันวาคม 2549 และทาทาก็ได้เซอร์ไพร์แฟนๆ ด้วยการนำซิงเกิ้ลตัวที่ 3 มาฉายในคอนเสิร์ต ซึ่งมีชื่อว่า Come Rain Come Shine ซึ่งเป็นแนวน่ารักสดใส ปนกับเซ็กซี่นิดๆ และเต้นไปพร้อมๆกัน
และความโด่งดังของเธอได้ประจักษ์ต่อสายตาคนทั้งเอเชีย เมื่อเธอได้เข้ามาเป็น Brand Ambassador ของสินค้าโทรศัพท์มือถือยี่ห้อเมืองไทยอย่าง I-Mobile และรุ่นที่เธอเป็น Brand Ambassador อยู่นั้นคือ I-Mobile 611 ซึ่งมากด้วยลูกเล่น และ Content มากมายจากทาทา และI-Mobile พร้อมที่ลุยตลาดเอเชียในปีนี้เป็นเรียบร้อยแล้ว และในช่วงเดือนมีนาจะมีทริปเที่ยวกับทาทาที่บาหลี 3วัน 2คืน กับผู้โชคดี 6 ท่าน ที่ซื้อโรศัพท์ไอ-โมบาย อีกด้วย
- และปี 2550
ถือว่าเป็นปีทองของเธอเลยทีเดียว เมื่อเธอได้เป็น Image Girl คนแรก และล่าสุดของช่อง Star World ช่องโทรทัศน์ระดับโลก ซึ่งดึกเธอมาประชาสัมพันธ์งานต่างๆของสถานี และเธอก็ได้ถ่ายทำโฆษณาของสถานีดังกล่าวที่ประเทศฮ่องกง โดยใช้เพลงที่อยู่ในอัลบัมที่มีชื่อว่า Come Rain Come Shine มาประกอบภาพยนตร์โฆษณาอีกด้วย ซึ่งเมืองไทยสามารถรับชมโฆษณาของเธอได้ที่ทาง True Visions ช่อง 34 'Star World'
และเธอก็ได้มีบริษัทที่ยุโรปมาติดต่อเซ็นสัญญากับทาทาไปโชว์ตัวและโปรโมทที่ยุโรป ซึ่งทาทาจะเดินทางไปโทรโมทในเดือนเมษายนนี้ และจะเริ่มโปรโมทที่ประเทศเยอรมันเป็นที่แรก แล้วค่อยๆจะมาโปรโมทที่ ฝรั่งเศส อังกฤษ และประเทศอื่นๆแถบยุโรป
- 2538 : อมิตา ทาทา ยัง
- 2538 : Tata 1,000,000 Copies Celebration
- 2538 : 6-2-12
- 2540 : Mos & Tata, co-recorded soundtrack for The Red Bike Story
- 2540 : Amazing Tata
- 2541 : TATA REMIX
- 2541 : O-Negative Soundtrack
- 2541 : High Light "Reach For The Star" (13th Asian Games)
- 2544 : Tata Young
- 2546 : Real TT
- 2547 : I Believe
- 2548 : Dangerous Tata
- 2549 : Best Of TATA YOUNG
- 2549 : Temperature Rising
ความคิดเห็น