คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : ll THE WIZARD ll Chapter 22
THE WIZARD 22
เวียนมาอีกครั้งสำหรับการสอบวัดระดับของทางโรงเรียน หากแต่ครั้งนี้สำคัญกว่าครั้งก่อนเป็นไหนๆ การเตรียมตัวสอบปลายภาคที่นักเรียนทุกคนก็แทบจะไม่ได้หลับไม่ได้นอนเพราะต้องข่มตาให้อ่านหนังสือกันถึงรุ่งสาง
ในยามค่ำคืนของช่วงเวลาการอ่านหนังสือสอบแบบนี้ นักเรียนจึงพลุกพล่านมากกว่าวันปกติ บ้างก็ออกมาอ่านหนังสือรับลมใต้หอพักของปราสาท บ้างก็ไปนั่งอ่านที่ร้านกาแฟของโรงเรียนกันตามอัธยาศัย ไม่วายสิ่งที่สำคัญที่สุดเห็นจะเป็นขนมนมเนยที่ต้องรองท้องกันไปทั้งคืนเพื่อใช้เป็นพลังงาน
“อากาศหนาวแบบนี้ใครเขากินไอศครีมกันบ้าง!”
คนตัวสูงที่เดินถือถุงขนมตามคนหน้าหวานออกมาจากมินิมาร์ทเอ่ยถาม อุณหภูมิแบบนี้แทนที่จะหาอะไรทานเพื่อช่วยสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย แต่อีกคนก็ชอบจะทำให้เขาเป็นห่วงอยู่ตลอดเวลา
“ก็คนมันอยากกินหนิ เลิกบ่นเป็นคนแก่ได้แล้ว”
คนที่เดินนำหน้าออกมาหันกลับไปตอบเสียงเจือยแจ้ว ไม่วายก็บ่นค่อนขอดคนตัวสูงก่อนจะตักไอศครีมในถ้วยที่ถืออยู่เข้าปากอย่างสบายอารมณ์
“แล้วไม่หนาวรึไง?”
“หนาวแล้วยังไงล่ะ นายก็ต้องกอดฉันให้อุ่นอยู่ดี”
คำพูดคำจาช่างน่ารักจนคนที่นึกเป็นห่วงอยู่เมื่อครู่ต้องยกยิ้มออกมาอย่างเปิดเผย เลย์กำลังทำให้คริสหายกังวลเป็นปลิดทิ้งเลยก็ไม่ปราน
“พูดแบบนี้คือต้องการใช่ไหม?”
ปากเรียวกระตุกยิ้มกรุ้มกริ้มพลางสาวเท้าเดินเข้าไปประชิดตัวอีกคน ยกมือข้างที่ไม่ได้ถือถุงขนมอยู่โอบรอบลำคอสวยให้เข้ามาหา ก่อนจะฝังปลายจมูกโด่งลงที่แก้มนิ่มของอีกคนอย่างรวดเร็วแล้วรีบผละออก
“ยังไม่ได้พูดซะหน่อยว่าต้องการ”ใบหน้าหวานยู่ลงอย่างนึกหมั่นไส้ ยังไม่ได้พูดสักคำเลยว่าอยากจะได้น่ะ อีกคนก็มักจะคิดเองเออเองตลอด
“แต่ฉันอยากให้”
“ชิส์! เลิกพูดไปเลยไป”
เพียงแค่นั้นมือบางก็ตักไอศครีมในถ้วยไปจ่อที่ริมฝีปากของคนที่ตัวสูงกว่าเพื่อเปลี่ยนบทสนทนา ก่อนอีกคนจะอ้าปากรับไอศครีมรสวนิลานั้นลงคอไปในทันที
“ที่พูดก็เพราะเป็นห่วงนะ จะสอบปลายภาคแล้วฉันกลัวนายไม่สบาย”
คริสหันหน้าไปพูดกับเลย์อย่างอ่อนโยน นัยน์ตาคู่คมฉายแววว่าเป็นห่วงคนตัวเล็กเอามากๆ ก่อนจะยกมือขึ้นวางบนตัวทุยของคนรักพลันลูบไปมาอย่างนึกเอ็นดู
“ก็รู้แล้ว นี่ฉันก็ยังไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”
“แล้วถ้าเกิดเป็นขึ้นมาล่ะ?”
“นั่นนายก็ต้องดูแลฉันไง” รอยยิ้มหวานระบายไปบนดวงหน้าจนคนที่มองอยู่ก็อดจะหมั่นเขี้ยวไม่ได้
คริสส่งมือไปดีดหน้าผากบางของอีกคนไปหนึ่งที เพราะเลย์น่ะเอาแต่ดื้อกับเขาอยู่ตลอดจนต้องคอยเป็นห่วงอยู่เสมอ แต่นั่นคริสก็ชอบที่จะเป็นห่วง ชอบที่จะดูแล มันจะดีกว่าไหมถ้าเลย์จะไม่เจ็บไม่ป่วยจนทำให้เขาแทบบ้าทุกครั้งไป
“มันเจ็บนะคริส!”
“ก็นายดื้ออ่ะ”
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ คริสที่ดีดหน้าผากอีกคนไปเต็มๆหวังกลั่นแกล้งก็ส่งใบหน้าหล่อเข้าไปเป่าลมที่รอยแดงบนผิวขาวๆ ก่อนจะกดริมฝีปากลงซับความเจ็บนั้นของอีกคนให้หายไป
“เลย์!”
เสียงเข้มที่ตะโกนเรียกคนหน้าหวานมาแต่ไกลทำให้คริสต้องผละริมฝีปากออกในทันที ก่อนใบหน้าที่เผยรอยยิ้มในตอนแรกจะเจือนลงไปเสียสนิท ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่ชอบใจเมื่อรู้ว่าใครที่เอ่ยเรียกชื่อคนรักของเขาเหมือนว่าสนิทสนมกันซะเหลือเกิน
“หยุดเลย! ห้ามหึง” เหมือนเลย์จะรู้ว่าสถานการณ์ต่อไปจะเป็นยังไง มือเล็กจึงยกขึ้นชี้นิ้วห้ามอีกคนเป็นเชิงออกคำสั่ง
“ฉันจะทำได้ยังไง ก็คนมันหวง”
“ง่า ก็บอกแล้วว่ารักนายแค่คนเดียว คิดไว้ๆว่าเขาเป็นแค่เพื่อนฉัน”
คำพูดของเลย์ทำเอาคริสถึงกับกลอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่าย อารมณ์ที่คุกรุ่นในจิตใจนี่แทบจะระเบิดตูมเลยล่ะ ก็จะไม่ให้หึงไม่ให้หวงได้ยังไงในเมื่อไอ้คนที่กำลังเดินเข้ามาหานั่นน่ะก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย คนที่มีใจให้กับคนรักของเขา เด็กเซนทอร์หน้าเข้มที่เขาไม่ชอบขี้หน้าเอามากๆ ทำไมจะต้องเข้ามาในช่วงเวลาแบบนี้ตลอดเลยก็ไม่รู้ มันน่าโมโหจริงๆ
“หวัดดีเทา มาซื้อของที่มินิมาร์ทหรอ?” เสียงหวานเอ่ยทักเพื่อนต่างปราสาทพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะโยนถ้วยไอครีมในมือที่ทานหมดแล้วลงถังขยะที่อยู่ใกล้ๆไป
“อื้ม พอดีจะซื้อขนมไว้ทานตอนอ่านหนังสือดึกๆน่ะ”
เทาตอบคำถามของเลย์ให้อย่างเป็นมิตร ก่อนจะเหลือบไปมองคนตัวสูงด้านหลังเพื่อนหน้าหวานที่เสมองไปทางอื่นเพราะไม่อยากเข้าหน้ากับเขาตรงๆ
“เหมือนกันเลย ฉันก็มาซื้อขนมเหมือนกัน”
“ว่าแต่...คืนดีกันแล้วหรอ?”
เทาเอ่ยถามเลย์อีกครั้งด้วยความสงสัย แต่คงจะคืนดีกันแล้วล่ะนะถึงได้ไปไหนมาไหนด้วยกันแบบนี้ และนั่นคริสที่หันมองออกไปอีกทางอยู่ในตอนแรกก็รีบหันกลับมาส่งสายตาไม่พอใจให้เทาทันที
“ยุ่งอะไรด้วย!”
“ไม่เอาน่าคริส”
นั่นเพราะคริสคงเริ่มจะควบคุมตัวเองไม่ได้แล้ว เลย์เลยรีบส่งมือเข้าไปกุมมืออีกคนไว้แน่นเพื่อให้ใจเย็นลง เทายังไม่ได้กวนโทสะอะไรเลย แต่ไม่ว่าเทาจะพูดอะไรออกไป คริสก็ดูเหมือนไม่ชอบใจไปเสียหมด
“อ่า...ฉันไปซื้อของก่อนนะเลย์ เดี๋ยวคนแถวนี้จะฟาดงวงฟาดงาใส่ฉันอีก รู้งี้ตอนความจำเสื่อมฉันน่าจะขอนายเป็นแฟนซะก็ดี”
พูดแค่นั้นเทาก็เดินผ่านคริสไปพลางผิวปากอย่างสบายอารมณ์ ไม่วายก็หันมายกยิ้มมุมปากให้ก่อนจะหัวเราะเบาๆเมื่อกวนประสาทได้สำเร็จ เขาไม่ได้คิดจะแย่งเลย์มาจากคริสหรอกนะ เพราะรู้ว่ายังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ก็ขอหน่อยเถอะ ขอยั่วอีกคนให้โมโหเล่นก็ยังดี หมั่นไส้มานานแล้ว
“ไอ้บ้าหนิ! นายอยากตายรึไง? ห๊ะ!”
เป็นไปตามที่เทาคาดไว้ เพราะคริสน่ะสติหลุดไปแล้ว ตะโกนไล่หลังเขามาจนหน้าแดงกล่ำไปหมด คงจะหงุดหงิดน่าดูเลยสิท่า
“ใจเย็นๆน่าคริส เทาก็แค่พูดเล่นเอง” เลย์บีบมือของอีกคนเพื่อให้คริสคลายความหึงหวงลง แต่ไม่วายก็แอบยกยิ้มเมื่อเห็นว่าคริสโดนอีกคนเล่นงานเข้าบ้าง
“นายดูมันกวนประสาทฉันดิ มันบอกจะขอนายเป็นแฟนอ่ะ”
“เทาก็แค่ล้อเล่น ก็นายมันน่าหมั่นไส้นี่นา”
“เลย์!”
ใบหน้าหล่อฉายแววไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วเสมองไปทางอื่นอย่างนึกงอนอีกคน เอาสิ งอนบ่อยจนจะเหมือนตุ๊ดอยู่แล้ว แต่คำพูดคำจาของเทาที่พูดมาน่ะจะไม่ให้เขาคิดได้ยังไง
“นายก็งอนฉันเป็นเด็กไปได้ ในเมื่อเราสองคนรักกันแล้วจะกลัวคนอื่นมาพรากไปทำไม หื้ม?”
พูดแค่นั้น เท้าเล็กก็ค่อยๆเขย่งขึ้นจากพื้นเพื่อเพิ่มความสูงให้เท่าอีกคน ก่อนจะโน้มใบหน้าหวานเข้าไปจุมพิตที่ริมฝีปากเรียวอย่างแผ่วเบาท่ามกลางผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา และที่สำคัญกว่านั้นคือที่ตรงนี้มันเป็นหน้ามินิมาร์ทที่คนเข้าออกเป็นว่าเล่น ไม่ได้อยู่ในห้องกันแค่สองคนสักหน่อย
“ถามจริง? นายอายบ้างไหม?”
คริสเอ่ยถามเลย์ออกไปแทบจะกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่ มองไปรอบๆเพื่อบอกอีกคนเป็นนัยๆว่ากำลังเป็นเป้าสายตาอยู่นะ คนเยอะแยะแต่คนตัวเล็กที่ไม่ชอบให้เขาทำอะไรลุ่มล่ามในที่สาธารณะกลับเป็นฝ่ายทำมันเสียเอง
“เออว่ะ ฉันลืมอ่ะ”
.
.
“คริส นายควรจะอ่านหนังสือบ้างนะ สอบไม่ผ่านแล้วจะรู้สึก”
คนหน้าหวานที่นั่งพิงหัวเตียงอ่านหนังสืออยู่นั้นเอ่ยค่อนขอดคนรักที่นอนทานขนมอยู่บนตักของเขาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ใครๆก็เคร่งเครียดกันในวันที่ใกล้สอบ แต่คนตัวสูงกลับทำตัวสบายใจจนอดเป็นห่วงไม่ได้เลย
“ฉันจำเนื้อหาได้หมดแล้ว”
“โม้!”
“ไม่ได้โม้ซะหน่อย พูดเรื่องจริง... ฉันอ่านมาก่อนหน้านั้นซะอีก แต่ที่ทุกคนเอาแต่ตึงเครียดกันแบบนี้ก็เพราะมาเร่งอ่านเอาวันใกล้สอบนี่ไง”
คำพูดของคริสทำเอาคนหน้าหวานต้องเบะปากอย่างนึกหมั่นไส้ เหมือนโดนอีกคนหรอกด่าก็ไม่ปราน ก็เขาน่ะเป็นหนึ่งในคนที่มาเร่งอ่านหนังสือในวันที่ใกล้จะสอบนี่นา
“แล้วจะคอยดู!”
“รอดูได้เลย เพราะฉันพร้อมสอบตั้งแต่สองวันที่แล้วโน่น”
คริสเหลือบม่านตาคมขึ้นมองอีกคนที่เขานอนหนุนตักอยู่ เพื่อบอกว่าเขาน่ะมั่นใจเอามากๆ ก่อนจะหยิบขนมเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆไปอย่างไม่เดือดร้อนใจ
“มั่นใจจังเลยนะ แล้ว...นายมานอนกินขนมบนเตียงฉันทำไม มดมันจะขึ้นรู้ไหม?”
“ก็ปล่อยให้มันขึ้นไปดิ เตียงฉันที่ว่างเหลือเฟือ”
ดูเหมือนไอ้คนที่นอนทานขนมอย่างสบายใจนั้นก็หวังอะไรลึกๆอยู่ข้างใน นอนเตียงเดียวกันทุกวันอยู่แล้ว แต่ไม่รู้จะพูดให้อีกคนเขินเล่นไปทำไม
“ถ้าว่างมากก็ไปอาบน้ำได้แล้วไป ฉันจะอ่านหนังสือต่อ”
“รออาบพร้อมนาย”
มือหนาวางกล่องขนมลงที่โต๊ะข้างหัวเตียงช้าๆ ก่อนจะเอื้อมไปรั้งมือบางของคนตัวเล็กเข้ามากุมไว้ที่หน้าอกแกร่ง เงยใบหน้าหล่อขึ้นมองอีกคนก็จ้องลึกที่นัยน์ตาคู่สวยเหมือนรอคำตอบ และนั่นก็เป็นเลย์ที่ต้องเบือนหน้าขึ้นสีระเรื่อหนีไปอีกทาง
“ม...ไม่ต้องรอ อาบไปก่อนเลย ฉันอ่านหนังสือดึกน่ะ” เลย์หันกลับมาสนใจตำราตรงหน้าอีกครั้ง ก่อนจะยกมันขึ้นบังใบหน้าของตัวเองเมื่ออีกคนที่นอนอยู่เอาแต่จ้องมองจนทำอะไรไม่ถูก
คริสค่อยๆเอื้อมมือขึ้นจับตำราเรียนที่คนตัวเล็กยกขึ้นบังหน้าออกให้พ้นทาง ค่อยๆพลิกร่างกายให้หันกลับไปมองอีกคนตรงๆ ก่อนจะเอียงคอเล็กน้อยเข้าไปประทับริมฝีปากที่พวงแก้มแดงๆนั้นอย่างอ่อนโยน
“ดึกแค่ไหนก็จะรอครับที่รัก”
เลย์บอกได้เลยว่าแทบจะวิ่งหนีออกไปจากห้องซะเดียวนี้ ถ้าไม่ติดว่าอีกคนที่เอ่ยพูดกันเมื่อครู่มันเอาแค่นอนคว่ำหน้ากอดรอบเอวเขาอยู่ ให้ตายเถอะว่าอายมากๆ ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นนะ แต่ยังไงก็อายอยู่ดีนั่นแหละ
“ฉันว่า...นายอย่ารอฉันเลย อาบก่อนดีกว่านะ”
“ไม่ต้องกลัว... สัญญาว่าจะไม่ทำอะไร”
.
.
.
สุดท้าย...สุดท้ายก็เข้ามานั่งในอ่างอาบน้ำพร้อมกับอีกคนอย่างไม่มีข้อแม้ เลย์แทบจะทึ้งหัวตัวเองซะให้หลุดเมื่อยังไงเขาก็ต้องยอมอีกคนอยู่ตลอด ใบหน้าขาวเจือสีจัดอย่างชัดเจนด้วยความเขินอาย แค่ได้เห็นหน้าท้องแบนราบที่เป็นรอนนั่นก็แทบห้ามเลือดในโพรงจมูกไว้ไม่ได้ แกล้งตายตอนนี้ยังทันไหมนะ
“ป่านนี้ก็ยังจะอายอยู่อีก ใช่ว่าไม่เคยเห็นซะที่ไหน” เอาเถอะว่าคริสชักจะปากดีขึ้นทุกวันๆ จนเลย์ต้องเบะปากกับคำพูดไม่สะเทือนน้ำสะเทือนบกของเขา
“ก...ก็ ตอนนั้นมันปิดไฟเว้ย!”
พูดแค่นั้นใบหน้าหวานก็ยู่ลงก่อนจะสะบัดหนีไปอีกทางอย่างนึกงอน จนคนที่มองดูอยู่ต้องยกมือสองข้างขึ้นทาบไปบนใบหน้าเรียวสวยก่อนจะรั้งให้กลับมามองกันตรงๆ
“โอเคครับ ยอมแล้วๆ”
พูดแค่นั้นนัยน์ตาคู่คมก็เสมองไปทางอื่นในทันที ไม่ใช่ไม่หวั่นไหว ยิ่งได้มองเลย์ตรงๆ ใบหน้าที่เปื้อนหยาดน้ำกับเส้นผมเปียกชุ่มที่ลู่ลงข้างแก้มมันทำให้คริสแทบจะอดใจไว้ไม่อยู่ แต่สิ่งอื่นที่สำคัญกว่านั้นมันทำให้เขาไม่อยากจะมองเลยจริงๆ
“ทำไมไม่หันหน้ามาพูดกับฉันตรงๆล่ะคริส” เสียงหวานเอ่ยถามด้วยความสงสัย ก่อนจะเอี้ยวตัวชะเง้อไปมองหน้าของอีกคนที่หันไปอีกทาง
“คือ... ผิวนายขาวเกินไป บางทีฉันอาจจะทนไม่ได้"
ไม่อ้อมคอม เพียงแค่ผิวขาวๆที่ต้องตาเขาใกล้ๆ มันทำให้คริสเริ่มเสียสมดุลจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ ก็เมื่อกี้น่ะเอาแต่มองหน้าหวานๆของอีกคน พอเผลอมองต่ำลงมาถึงหน้าอกสีผิวน้ำนมเข้าหน่อย บอกตรงๆว่าเขาก็เป็นคนที่มีความรู้สึก ไม่ได้ตายด้านเสียเมื่อไหร่
ใบหน้าหล่อค่อยๆหันกลับมาหาอีกคนช้าๆ จ้องสบสายตากันชั่วครู่ก็โน้มเข้าไปฝังรอยประทับที่ลำคอระหงษ์ ลากลงมาถึงไห้ปลาร้าสวยก็พรมจูบไปทั่วอย่างให้รู้ว่าเริ่มต้องการคนหน้าหวานตรงหน้าเข้าเสียแล้ว แทบจะหูดับตาบอดเมื่อกลิ่นสบู่อ่อนๆมันแตะสัมผัสจมูกจนอยากจะขอสูดดมมันทั้งคืน หอมหวานทุกอณูของร่างกายจนคริสหวงแหนมันเอามากๆ และนั่นใครๆก็ต้องอิจฉาเพราะเขาน่ะเป็นคนเดียวที่ได้รับมัน
“ย๊า! ไหนบอกว่าจะไม่ทำอะไรไงเล่า?”
เสียงหวานที่แวดใส่คนรักทำเอากายสูงต้องหยุดชะงักไปในทันที ก่อนจะมีสติขึ้นมาได้ก็เงยใบหน้าหล่อขึ้นจากแผ่นอกขาวของอีกคนช้าๆ ไม่วายทำอะไรไม่ถูกก็ยกมือขึ้นลูบท้ายทอยตัวเองไปมาอย่างเก้ๆกังๆ
“ก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลย” ตอบหน้าตาย คริสยังไม่สำนึกว่าทำอะไรกับอีกคนไปบ้าง
“ไม่ได้ทำ? แล้วนี่มันรอยอะไรเต็มหน้าอกฉันเลยวะ!?”
มือบางชี้ไปยังบริเวณผิวขาวเนียนของตัวเองที่เต็มไปด้วยรอยรักที่อีกคนฝากเอาไว้ แต่ถึงจะโวยวายไปบ้างแต่นั่นใบหน้าที่ขึ้นสีจัดกลับทำให้คริสต้องหลุดขำออกมาอย่างนึกเอ็นดู
“น่ารัก”
“คริส! นี่นายไม่ได้สำนึกเลยใช่ไหมเนี่ย?”
ใบหน้าหวานงองุ้มก่อนจะก้มลงหลบสายตาคมของอีกคน ต่อว่าไปก็ชักจะเหนื่อยใจเพราะคริสก็ไม่ได้สำนึกผิดเลยสักนิด แต่แล้วทำไมเขาต้องยิ้มวะ แล้วทำไมต้องหน้าแดง มันน่าหงุดหงิดชะมัด
“สำนึกแล้วครับ ขอโทษนะ หายโกรธรึเปล่า?”
เมื่อยังเห็นอีกคนเอาแต่นั่งก้มหน้า คริสเลยก้มหน้าเข้าไปหาเพื่อมองว่าอีกคนหายโกรธเขาหรือยัง แต่ไม่วายยิ่งก้ม เลย์ก็ก้มต่ำลงไปเรื่อยๆ นี่ก็ก้มจนหน้าจะจมไปกับน้ำในอ่างแล้วนะ
“……………………………..”
“เลิกก้มได้แล้ว ฉันขอโทษแล้วไง ก็นายมันอันตรายต่อหัวใจฉันหนิ ฉันเป็นคนมีความรู้สึกเหมือนกันนะ เห็นแบบนี้ใครจะอดใจได้เล่า”
พูดแค่นั้นมือหนาก็ค่อยๆเชยคางมนต์ของอีกคนให้เงยขึ้นช้าๆ จ้องลึกสบนัยน์ตาคู่สวยของคนตรงหน้าอีกครั้งอย่างให้รู้ว่าขอโทษ ก่อนจะเกลี่ยนิ้วไปมาบนพวงแก้มนิ่มของคนที่งอนเขาอยู่ทั้งรอยยิ้ม
“ก็...ยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”
“หื้ม?” คริสเลิกคิ้วเป็นเชิงถามอีกคนว่าใช่หรือ ทีเมื่อกี้ยังโวยวายเสียยกใหญ่แหนะ
“……………………………”
“หายโกรธฉันรึยัง?” คริสเอ่ยถามย้ำเพื่อความมั่นใจ ก็เลย์น่ะไม่เคยจะเดาอารมณ์ได้สักครั้งหรอก
“ไม่ได้โกรธซะหน่อย”
“จริงอ่ะ?”
“จริงๆ”
“งั้น...ขอรางวัลหน่อยดิ” ไม่พูดเปล่า ใบหน้าหล่อยังยื่นแก้มไปให้คนตรงหน้าอย่างรู้งาน และแน่นอนอีกคนก็รู้ดีว่ามันควรจะทำยังไงต่อไป
ฟอดดดดดดดดดดดดดดดดดด !!!!!!!!!!!!!!!!!
“ได้กำไรตลอด....”
คนหน้าหวานเบะปากน้อยๆก่อนจะฉีกยิ้มไปให้คนรักจนเห็นรอยบุ๋มที่พวงแก้ม อยากจะสบตาคู่คมนั้นอย่างที่ต้องการแต่มีหรือจะจ้องมันกับอีกคนได้นานกว่าที่คิด เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต้องหลุบตาลงต่ำเมื่อหัวใจมันเต้นถี่รัวทุกทีไป ก็สายตาที่คริสมองมาน่ะ ใครได้เห็นก็ระทวยทั้งนั้นแหละ เมื่อก่อนก็กลัวเอามากๆว่าถ้าคริสมองใครสักคนที่ไม่ใช่เขาคงจะเสียใจจนไม่เป็นผู้เป็นคนอย่างแน่นอน แต่เพราะตอนนี้มั่นใจ มั่นใจว่าคริสจะมองมาที่เขาแต่เพียงผู้เดียว
…THE WIZARD…
ที่เก่าเวลาเดิมในพื้นที่ส่วนหนึ่งของห้องสมุดขนาดใหญ่ ยังคงเป็นแหล่งรวมตัวที่ดีของทุกคนในกลุ่มเหมือนอย่างเคย เพราะสอบวัดระดับเสร็จสิ้นไปแล้วก็มีเวลาว่างมากพอที่จะนั่งพูดคุยกันเหมือนวันเก่าๆที่ผ่านมา
ช่วงเวลามีเรื่องเดือดร้อนที่ต้องปรึกษาหารือกันก็มักจะมาที่แห่งนี้อยู่บ่อยๆ เบื่อแล้วล่ะร้านเหล้าข้างโรงเรียน นึกถึงเหตุการณ์ครั้งที่แล้วก็ทำเอาทุกคนเข็ดกันไปหมด เอาจริงๆก็ไม่ได้ไม่อยากไปหรอกนะ แต่มันคงจะดีกว่าถ้ารุ่นน้องหน้าหวานภายในกลุ่มจะไม่ไปเมาแล้วทิ้งระเบิดไว้ที่นั่นเหมือนครั้งก่อน
“เดี๋ยวก็ปิดเทอมแล้วสินะ...ดีโอ ไค คริส แล้วก็เลย์ ปีหน้าจะได้เป็นรุ่นพี่แล้วใช่ไหม? ชางมินกับยูฮวานก็ต้องขึ้นเป็นประธานปราสาทของตัวเอง ส่วนฉัน แจจุง จุนซูและยูชอนคงต้องจากที่นี่ไป”
คำพูดของประธานปราสาทดราก้อนอย่างยุนโฮทำเอาเลย์ใจหายไม่น้อยเลยทีเดียว ใบหน้าหวานฉายแววตกใจเป็นอย่างมากที่นึกขึ้นได้ว่านี่ก็เป็นปีสุดท้ายของพวกพี่ๆเขาแล้ว ผูกพันธ์กันมาหนึ่งปีเต็มเหมือนว่ามันเนิ่นนานกว่านั้นเสียอีก ถึงเวลาต้องจากกันจริงๆ ทำเอาใจหล่นวูบก็ไม่ปราน
“ผมลืมคิดไปเลยว่ารุ่นพี่จะจบกันแล้ว แบบนี้ผมคงคิดถึงแย่เลยนะครับ”
“คิดถึงก็ไปหาพวกฉันสิเลย์” ยูชอนเอ่ยกับลูกพี่ลูกน้องคนสนิทพร้อมทั้งรอยยิ้ม
“ผมไปหาได้หรอครับ?”
“แน่นอน พวกฉันก็อยู่มหา’ลัยในเครือของเดอะวิซาร์ดนั่นแหละ ใกล้ๆรัวโรงเรียนเราเอง จะไปหาตอนไหนก็ได้ทั้งนั้น”
คำพูดของยูชอนทำเอาเลย์ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก นึกว่าจะไม่ได้เจอกันแล้วเสียอีก นั่นก็ทำให้รอยยิ้มหวานระบายบนดวงหน้าน่ารักอีกครั้ง
“แต่ที่ฉันจะฝากพวกนายก็มีอยู่เรื่องนึง พอดีน้องชายฉันกับน้องชายแจจุงจะมาเรียนที่นี่น่ะ ยังไงก็ช่วยดูแลหน่อยนะ”
ยุนโฮเอ่ยอย่างฝากฝัง น้องชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับเขา และน้องชายแท้ๆของแจจุงที่จะมาเรียนที่นี่ ทำให้ยุนโฮอดเป็นห่วงเสียไม่ได้เมื่อตัวเขาเองต้องย้ายไปอยู่ในรั้วมหา’ลัยในเร็วๆนี้
“ว่าแต่น้องชายรุ่นพี่ชื่ออะไรหรอครับ?” ไคเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ สีหน้าฉายแววเจ้าเล่ห์เสียชัดเจน ร้อนถึงดีโอที่นั่งอยู่ข้างๆต้องหยิกเข้าที่ต้นขาของเขาอย่างรู้ทัน
“ไปรอเจอเจ้าตัวแล้วถามเองแล้วกัน น้องชายฉันอยู่ฟีนิกซ์ ส่วนน้องชายแท้ๆของแจจุงอยู่ยูนิคอร์น”
“น้อยชายพี่แจจุงอยู่ยูนิคอร์นหรอครับ?”
ไคเอ่ยถามอีกครั้งด้วยสีหน้าชื่นบาน ก็ยูนิคอร์นน่ะขึ้นชื่อเรื่องผู้ชายหน้าหวานนี่นา เรียวหน้าสวยๆ กับแววตาเป็นประกายก็ไปรวมอยู่ที่ปราสาทนั้นหมดเลยล่ะ
“นี่นายเพ้อเกินไปรึเปล่า?”
“โอ้ย!”
เหมือนว่าดีโอคงจะเหลืออด มือเล็กจึงส่งไปดึงใบหูของอีกคนอย่างนึกหมั่นไส้ ไม่ใช่ไม่รู้ว่าไคคิดอะไร มองป้าดเดียวทะลุปรุโปรงเลยก็ไม่ปราน และนั่นความน่ารักของคู่รักคู่นี้ก็ทำเอาทุกคนปล่อยเสียงหัวเราะออกมาได้เป็นอย่างดี
“น้องชายฉันมันจะมาย้ายของเข้าหอวันนี้ ยังไงฉันฝากด้วยนะ” ยุนโฮเอ่ยฝากฝังอีกครั้ง
“ส่วนน้องชายฉันจะมาพรุ่งนี้ ฝากด้วยเช่นกัน”
ไม่ปล่อยให้คนรักของตัวเองฝากฝังน้องชายแต่เพียงฝ่ายเดียว แจจุงก็ด้วยอีกคน รอยยิ้มหวานกับใบหน้าสวยๆเหมาะสมแล้วกับยูนิคอร์น มีแต่ความขาวสะอาดและบริสุทธิ์จนทุกคนที่ได้เห็นก็ต้องยกยิ้มไปตามๆกัน
อีกไม่นานก็จะได้เป็นรุ่นพี่ของน้องๆปีหนึ่งแล้ว เหมือนเวลาที่ผ่านมามันช่างรวดเร็วซะเหลือเกิน ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร จะเป็นรุ่นพี่ที่ดีได้อย่างพี่ๆเขาหรือเปล่าก็ยังไงรู้ แล้วต่อไปมันจะวุ่นวายขนาดไหนกันก็ไม่อาจคาดเดาได้ แต่เพราะที่ผ่านมามันหนักหนาสาหัสไม่น้อยเลยทีเดียว ฉะนั้นก็ต้องกัดฟันสู้มันเหมือนที่ผ่านมาละนะ
...THE WIZARD…
เด็กหนุ่มร่างสูงที่เพิ่งลงจากรถคันหรูของครอบครัว เดินเข้ามาภายในตัวโรงเรียนอย่างมาดมั่น ใบหน้าเรียวยาวกับผิวที่ขาวเกินกว่าผู้ชายทั่วไปทำให้นักเรียนคนอื่นๆต้องเหลียวมอง
สีหนาที่เรียบนิ่งนั้นกลับไม่คิดจะสนใจสายตาที่จ้องมองมาเลยแม้แต่น้อย แน่วแน่เดินหน้าต่อไปเรื่อยๆตามเส้นทางที่ลูกพี่ลูกน้องประธานปราสาทดราก้อนเขียนให้ในกระดาษ พลางมือหนาก็ยกขึ้นขยับหูฟังอันใหญ่ที่สวมอยู่ให้เข้าที่ ก่อนจะเดินตรงดิ่งยังสถานที่นัดหมายทันที
“นายเป็นน้องชายพี่ยุนโฮรึเปล่าเด็กน้อย?”
เสียงหวานเอ่ยถามเด็กหนุ่มหน้าตาดีออกไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเห็นว่ารุ่นน้องคนนั้นเอาแต่ยืนนิ่งอยู่กับที่จนต้องส่งมือไปโบกตรงหน้าเพื่อเรียกสติให้กลับมา
“ค...ครับ” เด็กหนุ่มตอบกลับอย่างตะกุกตะกัก พลันพยักหน้าตอบรุ่นพี่หน้าหวานไปอย่างรวดเร็ว
“ชื่ออะไร?”
คำถามที่ทั้งห้วนทั้งสั้นเห็นจะเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่คนตัวสูงที่ตัวติดกับคนรักอยู่ตลอดเวลา เพราะเนื้อเสียงแบบนั้นทำเอาเด็กหนุ่มต้องหันไปมองด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะทำสีหน้าเรียบนิ่งเช่นเดียวกับคนที่ถามเขาออกไป
คริสไล่กวาดสายตาดูการแต่งตัวของรุ่นน้องตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า เสื้อยืดคอกลมกับกางเกงขาสั้นเหนือเข่า ไม่วายยังคีบร้องเท้าแตะด้วยอีก แฟชั่นอะไรของมันล่ะนั่น ทำเอาคริสต้องส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนใจ
“ชื่อโอเซฮุน”
รุ่นน้องหน้าตาดีเอ่ยตอบกลับไปด้วยสีหน้าเย็นชา ทั้งยังไม่มีหางเสียงจนทำให้คริสต้องขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่พอใจ
“พูดกับรุ่นพี่ให้มันมีหางเสียงหน่อยไม่ได้รึไง?”
“คริส! ไม่เอาน่า ไปนั่งรอที่โต๊ะไป นายทำเด็กมันกลัวแล้วเห็นไหม?”
อีกครั้งที่เลย์ก็รับรู้ได้ในทันทีว่าที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าคริสน่ะหวงเขา แต่อ่อนใจกว่าคือไม่วายยังหึงหวงกับรุ่นน้องที่เพิ่งจะเจอกันครั้งแรกนี่สิ
“ไม่เอาอ่ะ ฉันจะอยู่ข้างๆนาย”
คำพูดคำจาของคริสเวลาได้พูดกับคนหน้าหวานทำเอาเซฮุนต้องกระตุกยิ้มที่มุมปากอย่างนึกขัน มันอ่อนลงทันทีจนเซฮุนก็รับรู้ได้ว่าคนทั้งคู่นั้นมีความสัมพันธ์กันเป็นแบบไหน
“ฉันชื่อเลย์นะ ส่วนพี่คนนี้ชื่อคริส”
“แล้วผมต้องไปไหนต่อครับพี่เลย์” เซฮุนเอ่ยถามอย่างนอบน้อม ถึงสีหน้าจะไม่แสดงความรู้สึกออกมาก็เถอะ แต่น้ำเสียงก็ไม่ได้แข็งกร้าวเหมือนที่พูดกับคริสเลยสักนิด
“เดี๋ยวฉันจะพานายไปส่งที่หอฟีนิกซ์ แล้วรุ่นพี่ปราสาทนั้นจะแนะนำนายเอง มีอะไรก็มาหาฉันได้ตลอดนะ จะให้ช่วยอะไรก็บอก”
เซฮุนพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะจ้องมองใบหน้าของรุ่นพี่หน้าหวานนิ่งๆ อยู่อย่างนั้น จนคริสที่มองดูอยู่ก็ถึงกับไม่ชอบเอาเสียเลย พลันส่งสายตาจ้องเขม่นไปให้อย่างเปิดเผย เอาเถอะว่ากับใครคริสก็ไม่เว้นทั้งนั้น
“พี่คริส”
“อะไร?”
เมื่อเห็นรุ่นน้องเอ่ยเรียกชื่อที่ไม่มีคำลงท้าย ก็ทำให้คริสต้องถามออกไปด้วยความไม่พอใจเช่นกัน ให้ตายเถอะว่าปีนเกลียวตั้งแต่มาวันแรกเลย ก่อนจะต้องตกใจเมื่อประโยคต่อมาที่รุ่นน้องหน้าตาดีพูดทำเอาเขาแทบระเบิดลงในทันที
“ผมชอบพี่เลย์”
“ไอ้...เด็ก...เวร!”
มือหนากำเข้าหากันแน่นจนสั่นไปหมด กัดฟันกรอดเอ่ยพูดกับรุ่นน้องที่กล้าดีอย่างเหลืออด แทบจะปรี่เข้าไปชกหน้าตาลูกคุณหนูนั่นสักทีสองทีจนใจจะขาด ถ้าไม่ติดว่าคนที่กำลังห้ามเขาอยู่นั้นเอ่ยสั่งให้ใจเย็นลงเสียก่อน
“เซฮุนแค่พูดเล่นน่ะคริส.... เอ่อ เซฮุนไปรอฉันหน้าหอพักก่อนนะ เดี๋ยวฉันตามไป”
ประโยคแรกรีบเอ่ยห้ามคนรักก่อนที่จะสร้างเรื่องไปมากกว่านี้ ท้ายประโยคก็เอ่ยบอกรุ่นน้องหน้าตาดีที่ยืนอยู่อย่างใจเย็นให้รีบเดินหนีไป ดีไม่ดีหน้าหล่อๆของเซฮุนจะมีรอยช้ำไปเสียก่อน
“ให้ตายเหอะ! ไอ้เด็กนี่มันกวนส่วนที่เดินได้จริงๆ”
“…………………………..”
“นายยิ้มอะไร?”
เมื่อเห็นว่าคนหน้าหวานเอาแต่ยืนยิ้มให้เขา คริสก็อดจะสงสัยไม่ได้ นี่เขากำลังโมโหอยู่นะที่ไอ้เด็กนั่นบอกชอบคนรักของเขาต่อหน้าต่อตา เห็นแล้วว่าที่มันเอาแต่จ้องตั้งแต่แรกน่ะเป็นเพราะอะไร ตะหงิดใจอยู่แล้วเชียว แต่ทำไมเลย์ยังเอาแต่ยิ้มอยู่ได้นะ นี่ไม่รู้สึกอะไรเลยรึไง
“ก็ยิ้มเพราะดีใจน่ะสิ”
“หึ! ดีใจที่ไอ้เด็กหน้าวอกนั่นมันบอกชอบนายน่ะหรอ?”
“เปล่า ดีใจที่เห็นนายหึงฉันต่างหาก มันทำให้รู้ว่าฉันสำคัญกับนายมากขนาดไหน”
รอยยิ้มหวานระบายบนดวงหน้าออกมาอย่างเปิดเผย ยิ่งเห็นอีกคนที่เอาแต่ตามหึงตามหวงเขาเลย์ก็อดจะนึกขันไม่ได้ เพราะนึกว่ามันทำให้ตัวเองเป็นคนสำคัญของใครบางคนขึ้นมา ความดีใจแบบนี้มันต้องปกปิดด้วยหรือ
“แน่ล่ะ ก็นายเป็นคนสำคัญของฉันหนิ… โอ้ย! อีกไม่นานฉันต้องเป็นบ้าแน่ๆ ไอ้เด็กเซนทอร์ก็ยังไม่หายหัวไป ไอ้หน้าวอกฟีนิกซ์ก็เข้ามาอีกแล้ว! ฉันจะอกแตกตายแล้วนะ!”
ตะโกนออกไปเหมือนคนสติหลุดก็ไม่ปราน มือหนาก็ยกขึ้นกุมศรีษะของตัวเองก่อนจะนั่งยองลงกับพื้นอย่างหมดแรง แต่นั่นเลย์กลับเอาแต่ยืนหัวเราะอยู่เหมือนเดิม ก็คริสน่ะ เคยแสดงอารมณ์แบบนี้บ่อยนักเมื่อไหร่ ดูเหมือนครั้งนี้จะสติแตกจริงๆนั่นแหละ
“………………….”
“หัวเราะอะไรเลย์ แฟนนายกำลังจะบ้าแล้วนะ?” คริสที่นั่งลงกับพื้นเงยหน้าถามคนรักอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นเมื่ออีกคนก็เอาแต่หัวเราะไม่หยุด
“ถ้านายเป็นบ้า ฉันก็จะรักคนบ้าอย่างนายตลอดไป”
เพียงแค่นั้นเลย์ก็ค่อยๆย่อกายนั่งลงตรงหน้าของอีกคนช้าๆ ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปจุมพิตที่ริมฝีปากของคนตัวสูงเบาๆ ให้กลีบเนื้อนุ่มหยุ่นแตะกันชั่วครู่ก็ผละออก ปิดท้ายด้วยการฝังปลายจมูกเล็กลงที่แก้มกร้านของอีกคนให้เป็นรางวัล จนคนที่หน้าบูดบึ้งอยู่ในตอนแรกต้องเผยยิ้มออกมาอย่างพอใจ ต่อให้ใครจะเข้าหาเลย์มากมายขนาดไหน ยังไงเลย์ก็ต้องเป็นของคริสแต่เพียงผู้เดียว
…THE WIZARD…
***งืมมมมม เหมือนหลังๆป่วงมากเหลือเกิน 55555 น้องฮุนโผล่มาแหละ ว้ายยย!
ตอนหน้าจบแล้วนะคะ ย้ำค่ะ! มันจะจบแล้ว งื้อออออ T^T
สำหรับรวมเล่ม ไรท์ตัดสินใจว่าจะรวมนะคะ ตอนนี้กำลังให้น้องวาดแฟนอาร์ตหน้าปกให้อยู่ ใครอยากได้รอรายละเอียดกันนะคะ แต่สิ่งที่กลัวคือ อาจไม่มีคนอยากได้ 5555555555555
สุดท้าย ไอเลิฟยูววววววววววววว ><
ความคิดเห็น