คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : หลอกตัวเอง
“สวัสดีครับฤทัย” คุณชลธารรีบเดินเข้ามาทักทายเมื่อเห็นฉันเดินเข้ามาในงานกับจิ่งหยูว
“สวัสดีค่ะคุณชลธาร” ฉันทักทายคุณชลธารพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้
“วันนี้ฤทัยสวยมากเลยครับ ผมดีใจที่ฤทัยมาร่วมงานด้วย”
“ขอบคุณค่ะ ฤทัยถือว่าเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมงานค่ะ”
ฉันยืนคุยกับคุณชลธารทั้งที่ยังยืนคล้องแขนกับจิ่งหยูว อยู่และสายตาที่เขามองฉันกับคุณชลธารเริ่มแสดงออกถึงความไม่พอใจ และตามมาด้วยการพูดตัดบทโดยการขอตัวเพื่อไปเตรียมตัว
เพราะคืนนี้จิ่งหยูวต้องขึ้นเวทีเปิดตัวนิตยสารฉบับครบรอบ 10 ปี
ที่เขาได้รับเชิญให้เป็นนายแบบขึ้นปก
“ผมขอตัวไปเตรียมตัวก่อน”
“เชิญครับ เดี๋ยวผมให้เจ้าหน้าที่พาไปที่นั่งที่จัดเตรียมไว้ให้”
คุณชลธารพูดเสร็จก็เรียกเจ้าหน้าที่ให้พาเราไปที่นั่งที่อยู่แถวหน้าสุด ซึ่งจัดเตรียมไว้เฉพาะแขกพิเศษเท่านั้น
ฉันยังคงเดินคล้องแขนกับจิ่งหยูวจนไปถึงที่นั่ง นักข่าวก็ยังคงบันทึกภาพเขาอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญก็มีภาพฉันติดไปด้วยอีกเช่นเคย
“ดีใจหละซิที่ได้เจอหมอนั่น” ทันทีที่นั่งลงจิ่งหยูวก็เริ่มพูดแขวะฉันอีก
แต่ครั้งนี้ฉันนั่งนิ่งไม่โต้ตอบอะไรเพราะกลัวว่าจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้ไม่อยู่
เพราะยิ่งต่อปากต่อคำกับเขาก็จะกลายเป็นเรื่องอีก และมันก็ได้ผลเขาไม่พูดแขวะฉันอีกเมื่อเห็นฉันนิ่งเงียบไม่ตอบโต้อะไร
เมื่อพิธีกรประกาศเข้าสู่พิธีการโดยเชิญคุณชลธารและผู้บริหารของนิตยสารอลิสขึ้นไปบนเวที
เพื่อกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงานและนักข่าว หลังจากนั้นพิธีกรก็เชิญจิ่งหยูวขึ้นบนเวที
เขาลุกขึ้นยืนแล้วหันหลังกลับไปโบกมือทักทายพร้อมกับร้อยยิ้มกว้างที่เผยให้เห็นเขี้ยวทั้งสองข้างก่อนจะเดินขึ้นไปบนเวที
แขกทุกคนส่งเสียงกรี๊ดกันเกรียวกราวโดยเฉพาะแขกผู้หญิงสาวๆ
ก็พ่อเจ้าประคุณหล่อซะขนาดนั้นแถมโปรยยิ้มหวานอีก จะไม่ให้ผู้หญิงกรี๊ดกันได้ยังไง
ก็คงมีแต่ฉันนั่นแหละที่นั่งนิ่งไม่ได้แสดงอาการอะไร ทันทีที่เขาพูดจบเจ้าหน้าที่ก็ปล่อยสายรุ้งและลูกโป่งลงมามากมายเป็นการฉลองที่ยิ่งใหญ่อลังการจริงๆ
แสง สีเสียง จัดมาเต็มจนฉันถึงกับตาค้างไปเลยทีเดียว
จิ่งหยูวลงมาหาฉันและพาฉันออกไปที่หน้างานเพื่อให้สื่อมวลชนถ่ายภาพและสัมภาษณ์
“คุณไปเถอะฉันจะยืนรอคุณอยู่ตรงนี้” ฉันบอกกับจิ่งหยูวให้เขาเข้าไปให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ
แต่เขากลับจูงมือฉันไปด้วยและนั่นก็เป็นที่จับตามองของนักข่าวต่างพากันรุมถ่ายรูปฉันกับเขากันยกใหญ่
“คุณจิ่งหยูวจะเดินทางกลับจีนเมื่อไหร่ครับ” นักข่าวสัมภาษณ์
“ยังไม่มีกำหนดครับว่าจะอยู่เมืองไทยสักพักเพราะผมไม่ได้กลับมาเมืองไทยนานแล้วก็เลยอยากจะอยู่ให้หายคิดถึงก่อน”
จิ่งหยูวตอบ
“มีอะไรพิเศษที่เมืองไทยหรือเปล่าครับเลยไม่อยากกลับหรือว่าจะติดใจผู้หญิงไทยซะแล้ว”
นักข่าวเริ่มสัมภาษณ์ประเด็นที่อาจเบี่ยงเบนมาทางฉัน
จิ่งหยูวได้แต่ยิ้มไม่ตอบคำถามของนักข่าว แล้วตัดบทด้วยการขอตัวกลับ
ปล่อยให้นักข่าวไปตีความเอาเอง ก่อนจะเดินจูงมือพาฉันออกจากงานเพื่อจะเดินทางกลับ
ฉันพยายามจะให้เขาปล่อยมือฉันหลายครั้งเพราะกลัวจะเป็นข่าวแต่ก็ไม่เป็นผลเขาดื้อดึงมากกว่าที่ฉันคิด
“คุณน่าจะตอบคำถามให้ชัดเจนไม่ควรทิ้งท้ายไว้อย่างนั้น
นักข่าวจะไปตีความเอาเองคุณก็จะเสียหาย” ฉันพูดกับเขาขณะที่กำลังนั่งอยู่ในรถเพื่อเดินทางกลับที่พัก
“คำถามอะไร”
“ก็ที่นักข่าวถามคุณว่ามีอะไรพิเศษที่เมืองไทยเลยไม่อยากกลับ”
ฉันทวนคำถามที่นักข่าวถามเขา
“จะให้ผมตอบอะไรหรือจะให้ผมตอบว่าผมติดใจผู้หญิงไทย” จิ่งหยูวไม่พูดเปล่าเขาหันมามองหน้าฉันเหมือนกำลังจะบอกอะไรบางอย่าง
และนั่นมันก็ทำให้ฉันไม่กล้าพูดอะไรกับเขาอีก ฉันแอบมองเขาขณะที่เขากำลังขับรถ
ภายใต้ท่าทางที่เข่งขรึมนี้ เขากำลังคิดที่จะทำอะไร บางทีเขาก็ดูเย็นชา
แต่บางทีก็ดูอ่อนโยน นี่เขาเป็นคนแบบไหนกันแน่ เขากำลังจะเอาชนะฉันอยู่ใช่ไหมทุกอย่างที่เขาแสดงออกกับฉันเป็นเพียงแค่ทำไปเพราะความสนุก
เขาจะรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้เขาทำให้ฉันสับสนไปหมด
เขาทำให้ฉันไม่เข้าใจตัวเอง ทุกครั้งที่เขาจ้องตา
ทำไมหัวใจมันเต้นไม่เป็นจังหวะแบบนี้ และมันก็เป็นคำถามที่ฉันยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้เลย
“ไม่นะฤทัย เธอไม่ได้คิดอะไรกับเขาทั้งนั้น เธอก็แค่สับสน เธอไม่ได้รักเขา
เขาก็แค่คิดว่าเธอเป็นแค่ของเล่นทุกอย่างที่เขาทำเขาไม่ได้คิดจริงจังอะไร” ฉันรีบบอกกับตัวเองเพื่อเป็นการเตือนสติตัวเองไม่ให้คิดอะไรเลยฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้
ความคิดเห็น