ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปรากฏว่าเป็นรัก

    ลำดับตอนที่ #23 : ไม่ได้เหรอคะ

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 67


    มาสฟ้ามองทุกอย่างเงียบๆ ด้วยสีหน้าราบเรียบเหมือนทุกครั้ง แต่ความรู้สึกของเธอนั้นซับซ้อนจนไม่รู้ว่าหากจะต้องอธิบายความรู้สึกของตน เธอจะเริ่มที่ตรงไหนดี ทว่าโชคยังคงเข้าข้างเธออยู่บ้างเพราะหลังจากที่โยนเหมือนฝันเข้าไปในห้องเก็บของเก่าของตระกูลแล้ว ทั้งแม่และพ่อของเธอก็ไม่สนใจเรื่องอื่นอีก พวกท่านคงเหนื่อยกับเหมือนฝันจนไม่อยากจะรับมือกับปัญหาอื่นอีก

    ร่างสูงของผู้ชายเพียงคนเดียวของครอบครัวนั้นปรี่เข้าไปตระกองกอดภรรยาสุดที่รักของเขาทันที ทำราวกับว่าเชอลีนเป็นคนที่ถูกโยนเข้าไปในห้อง ไม่ใช่เหมือนฝันลูกสาวคนเล็กของเขาที่กำลังทุบบานประตูอีกฟากเสียงดังสะนั่น

    “แม่ทำแบบนี้กับฝันไม่ได้นะคะ แม๊!”

    “เลิกโวยวายสักที เสียงดังโหวกเหวกน่ารำคาญ!” เชอลีนตะโกนกลับไปด้วยเสียงที่ดังก้องพอกัน ตวาดลูกแล้วเชอลีนก็หันไปออเซาะสามีของเธอทันที “คุณกฤษดูยายฝันสิคะ”

    “คุณกฤษผิดเองครับ หนูเชอลีนเลยต้องปวดหัวแบบนี้” เรื่องราวไม่พ้นลงเอ่ยอีหรอบเดิม และมาสห้าก็ไม่นึกอยากที่จะดูภาพเดิมฉายซ้ำครั้งที่ล้าน หญิงสาวจึงติดสินใจเอ่ยแทรกคู่รักที่หวานแหวจนชวนคลื่นเหียนตรงหน้า

    “ฟ้านัดพี่แพรวเอาไว้ ว่าจะพายายฝันเข้าไปในเมือง...ทำไมวันนี้คุณพ่อคุณแม่ไม่เข้าไปในเมื่อแล้วก็ช็อปปิ้งแก้เครียดกันล่ะค่ะ ฟ้าจะได้ไม่ต้องยกเลิกนัดพี่แพรวเขา”

    คนชื่อชื่อแพรวที่มาสฟ้ากำลังพูดถึงคนนี้เป็นพนักงานขายประจำตัวของมาสฟ้าและเหมือนฝัน ที่ดูแลพวกเธอมานานตั้งแต่เริ่มทำงานเก็บเงินได้ จนตอนนี้ที่เริ่มซื้อข้าวของราคาแพงไม่เว้นแต่ละวัน แต่จะสนิทกับมาสฟ้าเป็นพิเศษเพราะว่าหญิงสาวมักจะเลือกซื้อของผ่านทางออนไลน์ ไม่เข้าหน้าร้านเนื่องจากต้องการเลี่ยงที่พลุกพล่าน

    “แบบนั้นก็ดีนะครับหนูเชอลีน ถือโอกาสกินข้าวเย็นกันด้วยเลย” คมกฤษเห็นพ้องกับบุตรสาว สายตาที่มองหน้าภรรยาก็พลันหวานเชื่อมขึ้นมาอีกเท่าตัว

    “เดทเหรอคะ?” ภรรยาคนสวยนั้นแสร้งลังเลอยู่สองนาทีก่อนจะผงกศีรษะตกลง “ถ้าคุณกฤษว่างั้นก็โอเคค่ะ หนูเชอลีนตามใจคุณกฤษ”

    “หนูเชอลีนของคุณกฤษแสนดีจังครับ”

    คำชมนั้นของผู้เป็นพ่อทำให้มาสฟ้าที่ไม่ค่อยชอบแสดงอารมณ์ทางสีหน้าถึงกับอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว นิ่วหน้ากับตัวเองเพราะต่อให้เธอจะพยายามพร่ำบอกตัวเองอย่างไร แต่มาสฟ้าก็รู้สึกค้านกับคำกล่าวเมื่อครู่ของผู้เป็นพ่อของตนอยู่ดี คำพูดที่จะใช้นิยามแม่คนสวยของเธอนั้นมีได้หลากหลาย เกินกว่าที่มาสฟ้าจะบอกได้หมดในคราวเดียว แต่เธอมั่นใจว่าหนึ่งในนั้นไม่มีคำว่าแสนดีอยู่ด้วยอย่างแน่นอน

    “น้องเธอเลิกบ้าเมื่อไหร่ค่อยปล่อยมันออกมา เข้าใจไหม?” เชอลีนหันขวับกลับมา จ้องมาสฟ้าเขม็งแล้วคาดโทษลูกสาวคนโตของตนเองอย่างรู้ทัน

    “ค่ะ ยายฝันเลิกโวยวายเมื่อไหร่ ฟ้าถึงจะเปิดประตูให้น้อง”

    “ดี” ในเมื่อมาสฟ้ารับปากแล้วเชอลีนก็วางใจ ถึงได้จูงมือสามีของเธอเดินออกไปด้านนกด้วยพร้อมกับบรรยากาศกระหนุงกระหนิงที่อบอวลไปทั่วบ้าน กระทั่งคนที่ถูกขังอยู่อีกฟากของบานประตูอย่างเหมือนฝันยังสัมผัสได้ หญิงสาวแนบหูกับบานประตู จึงได้ยินทุกคำของการสนทนาเมื่อครู่ เธอรอกระทั่งทุกอย่างเงียบไปพักใหญ่จึงเรียกชื่อมาสฟ้าด้วยน้ำเสียงระแวดระวัง

    “ฟ้า ฟ้า”

    “จ๋า” มาสฟ้าขานรับ แต่ก็ยังไม่เปิดประตูให้เหมือนฝัน

    “แม่กับพ่อไปแล้วเหรอ?”

    “รออีกหน่อย ยังไม่ได้ยินเสียงรถเลย”

     

    “พี่ฟ้าไม่รักอี้เทียนไม่ได้เหรอคะ?”

    ฟังคำถามนั้นแล้วมาสฟ้าเหม่อพิงบานประตู ซึ่งอีกฟากนั้นมีน้องสาวสองนาทีของเธอนอนลืมตามองเพดานห้อง ในเมื่อมาสฟ้าไม่ยอมเปิดประตูให้ ไม่ว่าจะเพราะไม่กล้าขัดคำสั่งผู้เป็นแม่ หรือจะเพราะยังไม่อยากทะเลาะกับน้องสาว เหมือนฝังคงทำอะไรไปไม่ได้มากกว่านอนนิ่งเช่นนี้

    จะให้อาละวาดทำลายข้าวของในห้องนี้เหมือนทุกทีเหมือนฝันก็เกรงใจวิญญาณของคุณย่าทวด ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้โยกตัวโปรดของท่านในยามที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งตอนนี้กำลังมองมาที่เธอด้วยสายตาเป็นห่วง เหมือนฝันรับรู้ความรู้สึกอึดอัดเหมือนคนกำลังจมน้ำจากท่านได้ แม้ว่าท่านจะอยู่ในร่วงโปร่งแสงแทบจะไม่เหลือแววความดุ เหมือนครั้งที่ท่านยังมีชีวิต และแข็งแรงพอที่จะนั่งด้วยตัวเอง แต่ย่าทวดของพวกเธอก็ยังให้ความรู้สึกครั่นคร้ามยามเข้าใกล้ท่านเสมอ

    หลังจากความเงียบที่ชวนอึดอัดพักใหญ่ เหมือนฝันก็เป็นคนทำลายความเงียบ ทว่าน้ำเสียงที่เจ้าหล่อนใช้กลับทำให้ตัวคนฟังรู้สึกหนักอึ้งในหัวใจกว่าก่อนหน้า หากเป็นยามปกติที่เหมือนฝันใช้น้ำเสียงบังคับขู่เข็ญ ยื่นคำขาดให้เธอตัดขาดกับผู้ชายทุกคนที่เข้ามาจีบมาสฟ้าคงจะรีบมือ ไม่ก็หาคำตอบให้คำถามนั้นได้ง่ายกว่านี้ ไม่ต้องเอาแต่เงียบมองบานประตูห้องที่กั้นระหว่างพวกเธอทั้งสองคนเหมือนที่เป็นอยู่ ครั้งนี้น้ำเสียงของเหมือนฝันนั้นมันทั้งเศร้าสร้อยฟังดูแล้วคล้ายกับว่าเหมือนฝันกำลังอ้อนวอนเธออยู่

    “พี่ฟ้าไม่รักอี้เทียนได้ไหมคะ” หนที่สองนี้น้ำเสียงของเหมือนฝันครั้งนี้เป็นการอ้อนวอนด้วยความสิ้นหวัง “พี่ฟ้าไม่ยุ่งกับเขาได้ไหมคะ”

    มาสฟ้านั้นก็เงียบไปนาน เห็นได้ชัดว่าเธอเองมีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้วเพียงแต่กลัวว่าพูดไปมันจะทำให้น้องที่เธอรักปานแก้วตาดวงใจนั้นเจ็บช้ำ

    “ฝันคุยกับคุณทวดเหรอ ทำไมคุณทวกไม่ชอบอี้เทียนเหรอ?” ผู้เป็นพี่เอ่ยถาม มีความรู้สึกว่าที่เหมือนฝันเอ่ยกับเธอเช่นนั้นก็เพราะมีบางสิ่งบางอย่างกระตุ้นให้เหมือนฝันพูด ลำพังแค่การที่เจ้าตัวหวงเธอนั้น คงไม่พอทำให้เหมือนฝันถึงกับต้องเอ่ยปากอ้อนวอน แค่ทำเหมือนที่เคยทำกับผู้ชายคนอื่นๆ ที่เข้ามาในชีวิตของมาสฟ้าทุกอย่างก็เรียบร้อย ทว่าเหมือนฝันกลับเงียบไม่ยอมตอบคำถาม ยิ่งเหมือนฝันเงียบก็เท่ากับว่าใช่ มาสฟ้าจำต้องเปลี่ยนคำถาม “หรือว่าคุณย่าทวดไม่ชอบกุหลาบที่พี่จัดไว้ให้”

    “คุณทวดเตือนพี่ฟ้าให้ระวัง” เหมือนฝันบอกต่อคำพูดที่คุณย่าทวดกระซิบบอกมาอย่างแผ่วเบา ส่วนเรื่องกุหลาบดอกโตในแจกันที่วางอยู่บนโต๊ะนั้นเหมือนฝันเลือกที่จะข้ามไป เพราะสำหรับเธอแล้วมีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่า

    ‘บอกเจ้ามาส ต้องระวัง ต้องระวัง’

    เสียงแหบพร่าของคุณย่าทวดนั้นกระซิบแผ่วผ่านสายลมมากระทบหูเหมือนฝัน เป็นคำพูดเดิมที่ท่านบอกกับเธอตั้งแต่ที่แม่โยนเธอเข้ามาในห้องนี้ และท่านก็ยังคงพูดต่อไปพร้อมมองหน้าเธอประหนึ่งว่าเหมือนฝันนั้นเป็นความหวังสุดท้ายของท่านแล้ว ก่อนสายตาของท่านนั้นเหม่อมองไปร่างบอบบางของหลานสาวอีกคนที่อยู่อีกฟากของบานประตู จากนั้นสายตาไร้ชีวิตจึงเคลื่อกลับมามองหน้าเหมือนฝัน

    ‘อย่าไปยุ่ง ต้องระวัง’

    “พี่ฟ้าไม่รักอี้เทียนได้ไหมคะ ฝันไม่อยากให้พี่ฟ้าเป็นอะไรไป”

    “พี่จะเป็นอะไรไปล่ะ พี่ก็อยู่กับฝันตรงนี้”

    “แต่คุณทวดบอกว่าอี้เทียนจะทำให้พี่ฟ้าซวย เขาเป็นตัวปัญหา” เหมือนฝันนอนกับพื้น มองวิญญาณของคุณทวดผู้เป็นคนตั้งชื่อให้เธอและพี่สาวที่กำลังค่อยๆ เลื่อนหายไป กระทั่งรอบกายเหลือเพียงความว่างเปล่า เหมือนฝันจึงยกเข่าตัวเองมากอดแนบอกในท่าทารก ปากบอกด้วยเสียงอู้อี้ “ฝันไม่อยากให้พี่ฟ้าเป็นอะไรไป พี่ฟ้าเลิกกับเขาเถอะ”

    “ไม่ได้เหรอกฝัน” มาสฟ้าถอนหายใจยาวเหยียด บอกน้องสาวด้วยน้ำเสียงมั่นคงอย่างคนที่ตัดสินใจแน่วแน่แล้ว หากเป็นเรื่องอื่นมาสฟ้าคงฝืนใจตัวเองทำเพื่อเหมือนฝันได้ แต่สำหรับอู่อี้เทียนแล้วมาสฟ้ารู้ว่าเธอทำไม่ได้และก็ไม่อยากจะทำด้วย “พี่เคยพยายามแล้ว ฝันก็รู้นี่...”

    มาสฟ้าหมายถึงตอนที่เธอหักใจ ปฏิเสธคำขอแต่งงานของอู่อี้เทียนแล้วปล่อยให้เขาไปเผชิญความตายอยู่กลางถนนเหมือนอย่างที่เธอเห็นในนิมิต คืนนั้นเหมือนฝันเอง็อยู่กับเธอด้วย ดังนั้นเหมือนฝันย่อมรู้เรื่องที่เกิดขึ้นทุกอย่างดี

    “แต่มันไม่เหมือนกัน!” เหมือนฝันลุกขึ้นมาแหวเสียงแหลมอย่างคับข้องใจ ตอนนั้นฝันรู้นะว่าพี่ฟ้าชอบอี้เทียนแต่มันไม่ใช่แบบนี้ สายตาที่พี่ฟ้ามองอี้เทียนฝันเห็นนะ ฝันดูออกว่าพี่ว่ากำลังจะทิ้งฝัน ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพราะเขา...ขนาดรู้ว่าคบกับอี้เทียนจะเป็นอันตรายพี่ฟ้าก็ยังจะไม่เลิก แล้วแบบนี้จะให้ฝันเข้าใจว่ายังไง

    เข้าใจว่าพี่เลือกที่จะรักอี้เทียนเท่านี้ได้ไหม? มาสฟ้าถามเสียงหวาน ไม่โกรธและไม่ตอบโต้การชวนทะเลาะนั้นของน้องสาว รู้ว่าเหมือนฝันกำลังหวงเธอจนเกินเหตุไปเท่านั้น เมื่อเวลามาถึง เหมือนฝันใจเย็นลงกว่านี้ทุกอย่างก็จะค่อยๆ ดีขึ้นมาเอง ซึ่งแน่นอนว่าทุกอย่างจะต้องใช้เวลา “พี่รักเขา เขาเองก็รักพี่ เท่านี้ยังไงพออีกเหรอ”

    “แล้วที่คุณทวดพูดล่ะ พี่ฟ้าจะว่ายังไง ฝันรู้ว่าพี่ฟ้ารักเขาแต่ฝันรู้สึกไม่ดีเลยค่ะ มันไม่เหมือนกับตอนที่พี่ฟ้าคบกับไอ้ยุทธสักนิด” เหมือนฝันบอกด้วยความรู้สึกอัดอั้น “เหมือนพี่ฟ้าจะทิ้งฝันไปเพราะอี้เทียนจริงๆ”

    “ไม่มีใครทำให้พี่ทิ้งฝันได้หรอก ฝันก็รู้ว่าพี่รักฝันแค่ไหน” มาสฟ้าปลอบน้อง

    “แต่พี่ฟ้าก็จะไม่เลิกยุ่งกับอี้เทียนอยู่ดี” เหมือนฝันว่ากระเง้ากระงอด พร้อมกับดิ้นปัดๆ อยู่บนพื้นเหมือนทุกครั้งที่มาสฟ้าขัดใจ ภาพนั้นแม่แต่วิญญาณของคุณย่าทวดของเจ้าหล่อนยังอดที่มองเหมือนฝันด้วยสายตาอ่อนอดอ่อนใจไม่ได้ มาสฟ้าที่ได้ยินเสียงขลุกขลักเหมือนมีอะไรดิ้นอยู่บนพื้น ก็เดาได้ไม่ยากว่าต้นเหตุของเสียงนั่นคือน้องสาวของเธอ

    “ไม่จ้ะ พี่จะไม่เลิกรักอี้เทียน” มาสฟ้าตอบอย่างเด็ดเดี่ยว

    “ฟ้า!” ที่ทำให้เหมือนฝันถึงกับต้องแผดเสียงออกมาอย่างคับแค้นใจ เล่นเอาบรรดาผีๆ ที่อยู่รอบตัวพร้อมใจกันส่ายหัว “แล้วไหนบอกว่ารักฝันไง”

    “ก็รักฝันไง แล้วก็รักอี้เทียนด้วย” มาสฟ้าตอบอย่างหนักแน่น เธอเองก็มั่นใจในความรู้สึกของตัวเองพอสมควร ถึงแม้ว่าหลายสิ่งหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับอี้เทียนยังคงไม่ชัดเจน เหมือนมีหมอกหนาๆ ปกคลุมรอบตัวเขาอยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งหนึ่งที่มาสฟ้ามั่นใจอย่างไม่มีข้อกังขาใดๆ เลย นั่นก็คือความรู้สึกที่เธอมีต่อเขา ความปรารถนาที่รุนแรงและแรงดึงดูดที่เกิดขึ้นยามสบตากับชายหนุ่มนั้น ความรู้สึกแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อน...ไม่ว่าจะกับใครก็ตาม

    ความรู้สึกที่ว่านี้มันทั้งรุนแรงและชัดเจนจนแม้มาสฟ้าอยากจะหลอกตัวเองว่ามันไม่มีอะไรระหว่างพวกเขา เป็นเพียงความรู้หวั่นไหวที่เกิดจากความใกล้ชิด แค่ความรู้สึกวูบวาบชั่วครู่ชั่วคราวก็จะค่อยๆ หายไปเองเธอก็ทำไม่ได้

    “พี่จะรักเขาฝัน...” หญิงสาวยืนยันอย่างคนแน่วแน่ในการตัดสินใจของตัวเองแล้ว “แล้วพี่ก็ไม่อยากให้เราบังคับให้พี่ต้องเลือกระหว่างเรากับอี้เทียน เพราะถ้าเราทำแบบนั้นพี่คงจะเสียใจ”

    “แต่ฝันไม่อยากให้พี่ฟ้าเป็นอะไรไป”

    มาสฟ้าไม่รอให้น้องสาวของเธอได้พูดอะไรไปมาสฟ้านี้ หญิงสาวก็ผลักประตูห้อง ก้มลงไปประคงกอดน้องของเธอ ปากก็พร่ำบอกในสิ่งที่แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือไม่ แต่มาสฟ้าก็ไม่มีทางเลือกมากนัก

    “พี่จะไม่เป็นอะไรฝัน พี่จะไม่เป็นอะไร” มาสฟ้ากระซิบบอก โดยที่สายตานั้นจ้องมองไปยังเก้าอี้โยกที่ว่างเปล่าในห้อง ภาวนาในใจให้คุณย่าทวดของเธอรับรู้คำสัญญานี้ด้วย แม้จะอยู่กันคนละโลกแต่มาสฟ้าก็ไม่อยากให้ท่านเป็นห่วงเธอ “พี่ไม่เป็นอะไรหรอก เชื่อสิ”

    “...”

    “พี่จะระวังตัว พี่ไม่เคยระวังตัวด้วยเหรอ ฝัน...อย่ากลัวอะไรไปก่อนเลย เราเองก็เป็นแค่คนธรรมดาต้องใช้ชีวิต ขืนกลัวนั่นกลัวนี่จนไม่ได้ใช้ชีวิตพี่คงเสียดายแย่” มาสฟ้าอธิบาย

    “พี่ฟ้ารักมันขนาดนั้นเลยเหรอ” เหมือนฝันถามย้ำอีกหนเพื่อความมั่นใจ ไม่อยากจะเชื่อว่ามาสฟ้าทุ่มเทขุดหาคำพูดทั้งหลายมาเกลี้ยกล่อมเธอเพียงเพื่ออยากจะคบกับอู่อี้เทียน “ขนาดเป็นฝันที่ขอร้อง พี่ฟ้าก็จะไม่หยุดรักเขาเหรอ”

    “พี่ทิ้งเขามาครั้งหนึ่งแล้ว แต่เขาก็ยังหาทางกลับมาหาพี่จนได้ ฝันยังจะให้พี่ทิ้งเขาซ้ำสองอีกเหรอ” มาสฟ้าย้อนถามผู้เป็นน้อง แววตาของเธอนั้นเด็ดเดี่ยวกระทั่งเหมือนฝันที่จ้องตอบนั้นหายใจสะดุด “ฝัน...พี่รักเขา”

    เท่านั้นก็พอสำหรับทุกความข้องใจของเหมือนฝันแล้ว

    “เขาเป็นของพี่ ต่อให้คนคนนั้นจะเป็นฝัน ก็ขวางพี่ไม่ได้หรอก ฝันเข้าใจที่พี่พูดไหม?”

    “เข้าใจค่ะ” เหมือนฝันพยักหน้า จากสายตาและน้ำเสียงราบเรียบทว่าเด็ดขาดของผู้เป็นพี่สาวก็มากพอที่จะทำให้เหมือนฝันกลัวหัวหด มือที่เย็นเฉียบนั้นชื้นขึ้นเล็กน้อยเพราะเหงื่อที่ค่อยๆ ซึมออกมาจากผ่ามือ เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่มาสฟ้าจะทำให้เธอรู้สึกกลัวจนแทบไม่กล้าหายใจแบบนี้ “ฝันขอโทษที่ทำตัวงี่เง่า ฝันจะไม่ทำอีกแล้วค่ะ”

    “พี่รู้ ฝันไม่กล้าหรอก”

     

    คุณมาสฟ้าคนามของศรีพูดอย่างนี้ใครมันจะไปกล้าล่ะค่ะ ว่าสนาของอี้เทียนมันนะคะทูนหัว // กำหมัดดดดด ศรีน่ะรักคุณมาสมาตลอด ทำไมคุณมาสไม่เห็นความรักของศรีบ้างเล่าคะ กระซิกๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×