คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : สับสนในใจ
********ฉันยืนทอดอารมณ์อยู่สักพักจิ่งหยูวก็เดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ข้างๆฉัน เขายืนมองทะเลไปด้วยกันกับฉันเรายืนมองทะเลด้วยกันอยู่อย่างนั้น
ฉันไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาแอบมองหน้าฉันอยู่เหมือนเขาจะรู้ว่าฉันมีความกังวลมากมายอยู่ในใจ
เขาเลยปล่อยให้ฉันยืนอยู่อย่างนั้นสักพักก่อนจะหันมาถามฉัน
“คุณไม่สบายหรือเปล่า” จิ่งหยูวไม่พูดเปล่าเดินเข้ามายกมือขึ้นมาแตะที่หน้าผากฉันด้วยความเป็นห่วง
และมันก็ทำให้ฉันตกใจรีบขยับตัวก้าวถอยหลังเพื่อไม่ให้เขาสัมผัสตัวฉันได้
แต่อีกฝ่ายกลับก้าวตามมาและหยุดยืนมองหน้าฉัน ดวงตาคมคู่นั้นเหมือนมีมนต์สะกดให้ฉันยืนมองตาคู่นี้ที่มันซ่อนอะไรอยู่มากมายมันทำให้ฉันอยากรู้ว่าในดวงตาคู่นี้มีอะไรซ่อนอยู่
เขากำลังจะทำอะไรเขากำลังล้อเล่นกับความรู้สึกของฉันหรือเขาเพียงแค่อยากเอาชนะฉัน
ฉันไม่รู้จริงๆว่าเขาต้องการอะไรจากฉัน นิ้วเรียวของเขาค่อยๆสัมผัสกับแก้ม นวลของฉันแล้วล้อมกรอบใบหน้าฉันไว้ เขาค่อยๆโน้มตัวต่ำลงมาเรื่อยๆ
แต่อย่าหวังว่าเขาจะทำแบบนั้นกับฉันได้อีก
ฉันรีบผละตัวเองออกห่างจากเขาก่อนที่เขาจะทำได้อย่างใจคิด แล้วเดินหันหลังกลับไปที่รถ
ปล่อยให้อีกฝ่ายเดินตามมาอย่าง ว่าง่าย เราใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็กลับมาถึงโรงแรม
ระหว่างที่เราอยู่ในลิฟท์เพื่อจะขึ้นไปห้องพัก เขาก็หันมาถามฉันอีกครั้ง
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
“นี่คุณยังจะมาถามฉันอีกเหรอว่าฉันเป็นอะไร” ฉันหันไปมองหน้าเขา แต่ตอนนี้น้ำตามันเริ่มเอ่อล้นออกมาทีละน้อย
จนทำให้จิ่งหยูวมีสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไรต่อประตูลิฟท์ก็เปิดออกพอดี
ทันทีที่ประตูลิฟท์เปิดฉันก็รีบเดินหนีเขาและเข้าห้องพักไป
เราต่างแยกย้ายกันเข้าห้องพัก
และไม่ได้เจอหน้ากันอีกเลยจนถึงตอนเช้าเพราะฉันต้องไปกินข้าวเช้ากับเขา
แต่เราก็ไม่ได้คุยอะไรกันเราต่างก็นั่งเงียบไม่ยอมพูดอะไร
จนกระทั่งถึงเวลานัดหมายช่างแต่งหน้าก็นำชุดมาให้ฉันและจิ่งหยูวเปลี่ยนในห้อง พี่คชาจัดช่างแต่งหน้ามาสองชุด ฉันกับจิ่งหยูวเลยแต่งหน้าและแต่งตัวอยู่ในห้องของตัวเอง
พอถึงเวลาหกโมงเย็น เจ้าหน้าที่ของโรงแรมก็มาตามฉันกับเขาเพราะบริษัทส่งรถมารับแล้ว
ฉันเปิดประตูเดินออกมาจากห้องพักด้วยความลำบากเพราะชุดที่ฉันใส่มันเข้ารูปพอดีตัวเป๊ะจนทำให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งบนเรือนร่างฉันได้ชัดเจน
แถมเป็นผ้าซีทรูอีกต่างหาก โอ้ยเกิดมาก็เพิ่งเคยใส่ชุดที่ดูวาบหวิวแบบนี้
ไหนจะรองเท้าส้นสูงปรี๊ดนี่อีก
“พี่คชาเอาชุดอะไรมาให้ฉันใส่เนี่ย” ฉันบ่นพึมพำกับตัวเอง จังหวะที่เดินออกจากห้องจิ่งหยูวก็กำลังออกจากห้องมาพอดี
เราบังเอิญสบตากันแต่เขาซิออกอาการตกตลึงมองฉันตาค้าง ก็วันนี้ฉันแต่งตัวออกจะหรูหราและเซ๊กซี่ซะขนาดนี้จะไม้เขาตาค้างได้ยังไง
ส่วนจิ่งหยูวคงไม่ต้องบอกปกติเขาก็ดูดีอยู่แล้วยิ่งวันนี้เขาสวมสูทสีแดงเลือดหมูผูกด้วยไทด์สีเดียวกับสูทตัดกับเสื้อเชิ้ทสีขาวที่ใส่ข้างในเขายิ่งทั้งดูหล่อ
และสมาร์ทกว่าทุกวัน
วันนี้เขาต้องหล่อที่สุดในงานแน่นอนขนาดฉันเห็นเขาฉันยังตกตะลึงในความหล่อของเขาเลย
เราเดินขึ้นลิฟท์ไปพร้อมกันเพื่อลงไปขึ้นรถที่หน้าโรงแรม ระหว่างที่อยู่ในลิฟท์ฉันไม่กล้าจะมองหน้าเขา
เพราะตอนนี้ใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะแล้วจะว่าไปใจฉันเต้นแรงตั้งแต่เจอกันที่หน้าห้องพักแล้ว
ยิ่งตอนนี้เรามาอยู่ด้วยกันสองคนแถมยังยืนอยู่ใกล้ๆกันอีก ฉันยิ่งทำตัวไม่ถูกได้แต่ยืนนิ่งเป็นรูปปั้น
ฉันเหลือบสายตาไปมองตัวเลขที่ขึ้นเตือนอยู่ในลิฟท์ตอนนี้ลิฟท์ลงมาที่ชั้น2
จวนจะถึงชั้น1 ประตูลิฟท์ก็จะเปิด แต่ฉันก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงของจิ่งหยูวเรียกฉัน
“คุณ” ฉันหันไปมองหน้าเขา แต่สิ่งที่เขาทำหลังจากนั้นยิ่งทำให้ฉันตกใจมากขึ้นไปอีก
เมื่อเขาเอามือมาจับมือฉันไปคล้องกับแขนของเขาแล้วพาฉันเดินออกจากลิฟท์ไปที่หน้าโรงแรม
ทุกสายตาหันมามองที่เราฉันทำอะไรไม่ถูกดีที่จิ่งหยูวเรียกสติฉันด้วยการใช้มืออีกข้างมาบีบมือฉันเบาๆแล้วพาฉันเดินต่อไปจนถึงรถ
รถที่บริษัทส่งมาเป็นรถบีเอ็มดับบลิวสีดำและเป็นรุ่นที่เปิดประทุนมั่นช่างหรูหราสมเกียรติเขาจริงๆ
คนขับรถยืนรอเพื่อจะเปิดประตูรถให้เขาแต่เขากลับขอกุญแจกับคนขับ ไม่นะนี่เขาจะขับรถไปเอง
ฉันรีบคัดค้านทันที
“คุณ คุณจะขับรถไปเองไม่ได้นะ” แต่เขาไม่ฟังคำพูดฉันเลย หันไปคว้ากุญแจจากคนขับรถและเดินมาเปิดประตูฝั่งฉันแล้วจับฉันขึ้นไปนั่งบนรถซะงั้น
เขารีบปิดประตูรถและเดินไปฝั่งคนขับและรีบสตาร์รถออกไปปล่อยให้คนขับรถที่ทางบริษัทส่งมายืนงงอยู่อย่างนั้น
“คุณ ฉันบอกคุณไม่ได้ยินหรือไงว่าคุณขับรถไปเองไม่ได้”
คำพูดของฉันไม่ได้มีประโยชน์อะไร จิ่งหยูวยังคงขับรถต่อไปหน้าตาเฉย
เมื่อรู้ว่าคำทัดทานของฉันไม่เกิดประโยชน์ฉันจึงนั่งนิ่งไม่พูดอะไรกับเขาอีกปล่อยให้เขาขับรถมาจนถึงโรงแรมหรูแห่งหนึ่งซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน
พอรถจอดถึงหน้าโรงแรมเจ้าหน้าที่ก็เดินมาเปิดประตูรถให้ฉันกับเขาและรับกุญแจรถจากเขาเพื่อขับรถไปจอด
ฉันยืนตะลึงตั้งแต่เริ่มก้าวเข้างานมีพรมแดงปูทอดยาวตั้งแต่หน้าโรงแรมไปจนถึงห้องที่จัดงาน
แขกที่มาร่วมงานมีทั้งที่อยู่ในวงการบันเทิงและนอกวงการ แต่ละคนล้วนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันในสังคมทุกคนแต่งตัวมาประชันกันอย่างสุดฤทธิ์
จิ่งหยูวจับมือฉันไปคล้องกับแขนของเขาอีกครั้งเราสองคนเดินเข้าไปในงานพร้อมกัน
นักข่าวกดชัตเตอร์กันรัวตั้งแต่เห็นเขาลงมาจากรถ
การ์ดรีบกันเดินมากันเขาตลอดแนวเพราะกลัวจะมีการฉุดกระชากจากพวกแฟนขลับ
เสียงกรี๊ดสนั่นหวั่นไหวปนเปไปกับเสียงแฟนขลับที่ตะโกนเรียกชื่อเขา
ป้ายไฟชื่อเขาถูกยกชูขึ้น บอกตามตรงถ้าตอนนี้ถ้าฉันไม่มีเขาฉันก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันเพราะฉันไม่เคยมางานที่ยิ่งใหญ่อลังการณ์ขนาดนี้
เขาพาฉันเดินเข้ามาในบริเวณงาน
ซึ่งตอนนี้แขกที่มาร่วมกันก็เริ่มทยอยมากันจนแน่นขนัด
ความคิดเห็น