คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : Mistake 17 20%
Mistake 14
ประตูรถถูกเปิดออกอีกครั้งและคราวนี้ก็เป็นแบคฮยอนนั่นเองที่ขึ้นมาบนรถ
เขาขึ้นมานั่งข้างผมในขณะที่คนที่นั่งเฝ้าผมอยู่ก่นหน้านี้ก็ลงไปนั่งข้างคนขับ
จื่อเทาไม่ได้ขึ้นมานั่งด้วยผมไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน
แล้วเขาทำอะไรจุนมยอนรึเปล่า
“นายทำอะไรพี่จุนมยอนรึเปล่าแบคฮยอน”
ผมหันมาถามเขาอย่างร้อนรน
“แหม
เป็นห่วงกันออกนอกหน้าแบบนี้ไม่คิดว่าฉันจะเสียใจเป็นบ้างรึไงกัน” แบคฮยอนว่าขำๆ
เหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก “ฉันยังไม่ทำอะไรเขาตอนนี้หรอกจงแดอา...”
“หมายความว่ายังไง ไม่ทำอะไรตอนนี้”
“ไม่ทำอะไรตอนนี้ก็แปลว่าอนาคตมันก็ไม่แน่ไงล่ะครับJ ”
รอยยิ้มแบคฮยอนน่าเกลียด....สำหรับผมแล้วรอยยิ้มของแบคฮยอนน่าเกลียดเหลือเกิน
“นายทำแบบนี้ทำไม นายเป็นใครกันแน่แบคฮยอน”
“อีกไม่นานนายจะได้รู้ทุกอย่าง ออกรถ!” เขาหันมาตอบผมเพียงแค่นั้นแล้วก็สั่งให้คนออกรถ
เขาไม่แม้แต่จะหันมาเหลียวแลผมอีกเลยและนั่นก็เป็นอาการที่บอกผมเป็นนัยว่าไม่อะไรจะคุยด้วยแล้ว
ถึงให้ผมเซ้าซี้อะไรเขาไปตอนนี้เขาก็คงจะไม่ยอมตอบคงทำได้แค่เพียงรอเวลาเท่านั้น
รอเวลาที่เขาจะยอมบอกทุกอย่างกับผม....
*****
ผมเดินกลับเข้ามาในห้องที่มีไคยืนรอรับคำสั่งอยู่ก่อนแล้ว
แบคฮยอนปล่อยตัวผมหลังจากที่เราคุยกันได้ไม่นาน ส่วนอี้ฟานก็แยกออกไป
ผมไม่ได้ร้อนรนที่จะตามจงแดไปเพราะรู้ดีว่าแบคฮยอนไม่มีทางทำร้ายคนที่ตัวเองชอบได้หรอก
แบคฮยอน หรือก็คือ แบคฮัน
ที่แอบชอบจงแดตั้งแต่เด็กๆ ผมรู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่มีจิตใจโหดร้ายอะไร
เพียงแต่พ่อของเด็กคนนั้น คุณอาแบคกยอง
คุณอาคนนี้ต่างหากที่อยู่เบื้อหลังเรื่องทั้งหมด!
ทุกอย่างมันใกล้เข้ามาแล้ว ความจริงทุกอย่างกำลังจะถูกเปิดเผย และเมื่อถึงเวลานั้นคนที่ทำเรื่องเลวร้ายทุกอย่างนี้จะต้องได้รับผมตอบแทนอย่าสาสม!!
“เรื่องเป็นยังไงบ้างครับนายท่าน”
เสียงของลูกน้องคนสนิทดังขึ้นดึงสติผมที่กำลังล่องลอยไปให้กลับมาอยู่ที่เดิม
ผมกระแอมไอเล็กน้อยแล้วยกกาแฟขึ้นจิบก่อนจะตอบคำถาม
“เป็นไปตามที่เราคาดไว้”
“แล้วนายท่านจะให้ผมทำยังไงต่อครับ”
“รอทางนั้นติดต่อกลับมา แล้วเราจะมาเริ่มเล่นเกมกัน”
“แล้วนายหญิงจะไม่เป็นอันตรายแน่หรือครับ”
“เด็กนั่นไม่มีทางทำอะไรเฉินเฉินหรอก”
*****
ผมไม่รู้ว่าผมหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่และผมก็ไม่รู้ด้วยว่าตอนนี้ผมอยู่ที่ไหน
รอบตัวดูว่างเปล่าไม่มีอะไรเลยทั้งห้องมีเพียงเตียงที่ผมนอนอยู่ซึ่งมันก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรนัก
ไม่มีแม้กระทั่งหน้าต่าง ยังดีหน่อยที่ห้องมันไม่ได้มืดจนน่ากลัว
หากให้เดาตอนนี้มันก็คงจะเป็นช่วงเวลาเช้าๆ
เพราะตอนที่ผมนั่งรถมากับแบคฮยอนนั้นมันยังมืดอยู่เลย
หรือบางทีนี่อาจจะยังไม่เช้าเลยก็ได้
ก็ผมอยู่ในห้องที่แทบจะเรียกได้เต็มปากเต็มคำว่าห้องปิดตายขนาดนี้ให้มานั่งเดาสภาพลมฟ้าอากาศให้ตายยังไงก็ไม่มีทางเดาถูกหรอก
ทั้งห้องเงียบสงัดไม่มีแม้แต่เสียงลมพัดมันเงียบจนได้ยินแม้กระทั่งเสียงลมหายใจของผมเอง
เสียงความเคลื่อนไหวที่ดังมาจากหลังบานประตูห้องเรียกสายตาของผมที่กำลังสำรวจรอบห้องให้หันไปหยุดอยู่ตรงที่มาของเสียง
ร่างกายดีดตัวลุกขึ้นขดขาเข้ามาชิดตัวก่อนที่สองแขนจะกอดขาคู่นั้นไว้โดยอัตโนมัติ
เหมือนตกอยู่ในหนังระทึกขวัญเมื่อบานประตูค่อยๆ แง้มออกมาอย่างช้าๆ
เหมือนเล่นตลกกับตนที่ต้องคอยลุ้นว่าใครเป็นคนเปิดเข้ามา
“สวัสดีเพื่อนรัก”
ความคิดเห็น