คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : ตอนที่ 8
ครองขวัญจำต้องกลับเข้าไปนั่งรอฟังข่าวของเขาอยู่ในห้องพัก
ระหว่างนี้เธอส่งข้อความไปหาโซเฟียเพื่อบอกให้รู้ว่าเกิดเหตุผิดพลาดอะไรถึงทำให้ผิดนัดนี้ได้
'ฉันโทรศัพท์ไปหาได้ไหม' ครองขวัญอยากได้ยินเสียงเพื่อนรัก
และอยากจะคุยกันให้รู้เรื่องมากกว่าแค่การส่งข้อความ
'ฉันไม่สะดวกตอนนี้
ว่าแต่ขวัญอยู่ที่ไหน'
'ฉันลงไปหาเธอแล้วแต่ว่ามีเรื่องนิดหน่อย เธอเข้ามาในโรงแรมได้ไหม
เจอกันตรงไหนก็ได้ฉันจะหาทางลงไปอีกครั้ง'
'ไม่ได้เด็ดขาด ให้ใครรู้ไม่ได้ว่าฉันอยู่ที่ไหน
เอาเป็นว่าถ้าวันนี้ขวัญไม่สะดวก งั้นเดี๋ยวฉันจะติดต่อมาใหม่อีกครั้ง
ยังพอมีเวลาอีกหลายวันกว่าที่จะถึงวันเดินทาง'
"เดินทางงั้นเหรอ" ครองขวัญฉุกใจคิด
แล้วรีบหยิบตั๋วเครื่องบินที่เตรียมไว้ให้โซเฟียออกมาดูทันที ใบแรกเป็นชื่อของโซเฟียถูกต้อง
แต่ใบที่สองเป็นชื่อของอัลเบิรต์ นามสกุลมอน
'เธอจะไปเมืองไทยกับใคร'
ไม่มีข้อความใดๆ ตอบกลับมาจากโซเฟียอีก
ครองขวัญเริ่มรู้สึกว่าเรื่องนี้มีความผิดปกติ
และอยากรู้ว่าคนที่จะร่วมเดินทางไปกับเพื่อนรักคือใคร
หรือว่าการหายตัวไปก่อนงานวิวาห์จะไม่ใช่เรื่องการลักพาตัวอย่างที่ขบคิดไว้แต่แรก
แว่ปหนึ่งคิดไปถึงคนบาดเจ็บที่อยู่อีกห้องหนึ่งว่า
เขาล่ะ
มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องเหล่านี้ด้วยมากแค่ไหน
หรือรู้มาตั้งแต่ต้นว่าเจ้าสาวจะหนีงานวิวาห์
คนบาดเจ็บพาตัวเองมาทวงความรับผิดชอบถึงที่
อัลเฟรโด้กลับเข้ามาในห้องที่ครองขวัญอยู่
ทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ด้วยท่าทีเมื่อยล้าสีหน้าอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด
ยิ่งทำให้ต้นเหตุของการบาดเจ็บครั้งนี้รู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก
"คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ"
ครองขวัญเอ่ยถามเป็นคำแรก
พิจารณาดูจากภายนอกแล้วอัลเฟรโด้ไม่ได้มีบาดแผลใดร้ายแรงหรือน่ากลัว
แต่เมื่อคิดถึงว่าเขาเอาตัวเองรองรับตัวเธอไว้ แล้วล้มไปกับพื้นถนนคอนกรีตอย่างแรง
หมดสภาพของท่านประธานผู้ยิ่งใหญ่
ก็ทำให้ครองขวัญรู้สึกซาบซึ้งและอยากจะตอบแทนน้ำใจที่มีให้
"ก็เจ็บน่ะซิ ถามได้"
ชายหนุ่มแกล้งพูดต่อไปอีกว่า
"ฉันเลยต้องเสียนัดสำคัญที่ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะนัดได้อีก
ก็เท่ากับว่าโรงแรมเสียรายได้ไปจำนวนหนึ่ง แล้วนี่ข้อศอกฉัน หลังฉัน ขาอีก
ตอนนี้ทั้งเมื่อยทั้งเจ็บระบมจนแทบจะเข้าไปนั่งประชุมไม่ไหวแล้ว"
ท่านประธานหนุ่มร้องโอยเบาๆ เมื่อขยับขาข้างหนึ่ง
"แล้วทำไมไม่ไปหาหมอ ไปไหมคะ
ฉันไปเป็นเพื่อน"
"ถ้าไปหาหมอก็เป็นเรื่องใหญ่อีก
หมอก็จะต้องจับฉันนอนโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียด
ก็เท่ากับว่าฉันต้องหยุดงานอีกกี่วันล่ะ"
"ฉันขอโทษค่ะ"
สาวน้อยพูดเสียงอ่อย ถอนหายใจก้มหน้าลงด้วยความสำนึกผิด
ใครจะคิดว่าเขาจะตามไปทันเล่า
"ขอโทษแล้วมันได้อะไรขึ้นมา
ฉันหายเจ็บหรือไงครองขวัญ" อัลเฟรโด้ย้อนถามเสียงเข้ม
เขาเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของตัวต้นเรื่องแล้วก็นึกสนุก
อยากจะแกล้งให้ครองขวัญให้รู้สึกผิดมากไปกว่านี้
เพื่อให้ตัวเองได้ในสิ่งที่ต้องการเป็นข้อแลกเปลี่ยน
อัลเฟรโด้ทำทีว่าจะลุกขึ้นเพื่อกลับไปทำงานต่อ
และร้องโอยอย่างเจ็บปวดที่หลังจนหญิงสาวตกใจรีบเข้ามาประคอง
"คุณเจ็บตรงไหน
หลังหักหรือเปล่า" ครองขวัญตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
ท่านประธานหนุ่มเล่นละครได้แนบเนียนเหมือนจริงจนใจหาย
"เจ็บหลัง"
อัลเฟรโด้ทำเสียงอ้อน
"ขาด้วย ข้อศอกอีก"
"ตกลงตรงไหนบ้างคะ ฉันได้ดูให้ว่ามันบวมหรือช้ำมากหรือเปล่า
ถ้าอาการไม่ดีคุณไปโรงพยาบาลเถอะ"
"ฉันไม่ไปโรงพยาบาลเด็ดขาด"
เขาส่ายหน้า แอบชำเลืองมองดูครองขวัญที่พยายามจะสำรวจร่างกายนี้ว่าเจ็บตรงไหน
"ขาคุณคงจะเคล็ดตอนที่ล้ม
ข้อศอกมีรอยเขียวก็คงตอนล้มเหมือนกัน ส่วนหลัง เอ่อ ถอดเสื้อให้ฉันดูหน่อยได้ไหมคะ"
"ถอดเสื้อเหรอ"
อัลเฟรโด้ถามย้ำเพื่อให้แน่ใจว่าหญิงสาวต้องการให้ถอดเสื้อ
"คุณล้มลงไปทั้งตัวแบบนั้นแถมฉันยังทับไปอีกคน
ไม่แน่ว่าที่หลังคุณเจ็บอาจมีกล้ามเนื้อส่วนไหนบาดเจ็บ
หรือไม่ก็กระดูกส่วนไหนมีปัญหา ถ้าคุณไม่สะดวกที่จะถอดเสื้อให้ดู เดี๋ยวฉันไปตามคุณคริสเตียนมาดูให้ก็ได้ค่ะ"
สาวน้อยตั้งท่าจะลุกแต่คนเจ็บรีบห้ามไว้
"ไม่ต้อง"
อัลเฟรโด้ร้องห้ามเสียงดังลั่น ทำให้ครองขวัญต้องหันหน้ามามองด้วยความสงสัย
"คริสเตียนไปกินข้าวกลางวันแล้ว
หมอนั่นเป็นผู้ชายจะละเอียดเท่าผู้หญิงได้อย่างไร เธอดูให้นั่นแหล่ะ"
ว่าไปนั่น
ความจริงแล้วหลังของเขาไม่ได้เป็นอะไรเลย
ถึงแม้ว่าอัลเฟรโด้จะล้มลงทั้งตัวก็จริงแต่เพราะชายหนุ่มออกกำลังกายและดูแลตนเองอยู่เสมอ
อาการบาดเจ็บจากการล้มไม่ได้มีผลอะไรมาก
เรียกว่าเคล็ดขัดยอกธรรมดาที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งทนได้ แต่ที่ต้องการก็คืออยากหาเรื่องให้ครองขวัญอยู่ใกล้เพื่อคอยดูแลนั่นเอง
"ไหนคะ มา ฉันดูให้"
ครองขวัญตั้งใจจะสำรวจดูว่าแผ่นหลังของท่านประธานหนุ่มมีปัญหาอะไรหรือไม่
แต่พอเอาเข้าจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น
เสื้อเชิ้ตสีขาวราคาแพงกำลังถูกมือน้อยๆ
ของหญิงสาวแกะกระดุมออกอย่างช้าๆ แค่ปลดกระดุมเพียงไม่กี่เม็ดก็เผยกล้ามเนื้อหน้าอกที่แสนจะดูดีจนแก้มสาวถึงกับหน้าแดงด้วยความเขินอาย
กล้มเนื้อหน้าท้องเป็นลอนใหญ่อย่างมีระเบียบแสดงถึงว่าอัลเฟรโด้ดูแลตนเองดีแค่ไหน
ไรขนสีน้ำตาลอ่อนที่ขึ้นปกคลุมตั้งแต่หน้าอกเรื่อยลงมาจนถึงหัวเข็มขัด
"ตรงไหนที่เจ็บคะ" ครองขวัญเอ่ยถาม
เมื่อบอกให้อัลเฟรโด้หันหลังให้
"ตรงนี้หรือเปล่า" เธอแตะเบาๆ
ที่กลางหลัง
"นิดหน่อย"
"แล้วตรงนี้ล่ะคะ"
หญิงสาวเคลื่อนมือต่ำลงมาอีกจนเกือบถึงเอว
"ก็เจ็บนิดหน่อย"
"มันคงช้ำเพราะกระแทก
เดี๋ยวฉันทายาให้ดีกว่า"
"ไม่ต้อง"
อัลเฟรโด้ร้องห้ามแล้วหันหน้ามาหาหญิงสาวพร้อมบอกว่า
"เธอจะทายาหม่องหรือยานวดอะไรก็ช่าง
แต่ว่ากลิ่นมันจะติดตัวฉันไปตลอด
แล้วบ่ายนี้ฉันต้องประชุมใจคอเธอจะให้คนทั้งห้องได้กลิ่นยาพวกนี้เหรอ"
"แต่ว่าถ้าไม่ทาคุณอาจจะระบมมากว่านี้นะคะ"
หญิงสาวแย้ง
"ไม่เป็นไร ฉันจะทนให้ได้ เธอจำไว้แล้วกันว่าตรงไหนบ้าง
แล้วเดี๋ยวคืนนี้ค่อยทายาก็ได้"
"แต่ว่า..."
ครองขวัญกำลังจะอ้าปากพูด แต่ถูกอัลเฟรโด้ชิงพูดตัดหน้าต่ออีกว่า
"จริงๆ
เวลาที่ฉันขยับตัวด้านหน้านี่ก็เจ็บนะ" ว่าแล้วพ่อเจ้าประคุณก็หันหน้ามาหา
แล้วจับมือของครองขวัญมาวางไว้ที่หน้าอก
"คุณเจ็บตรงไหนคะ"
ครองขวัญถามเสียงเบา ยังไม่กล้าที่จะขยับมือไปไหน
ใบหน้าหวานร้อนวูบวาบแก้มแดงก่ำจนเป็นสีเข้ม
"ไม่รู้ เธอลองจับดูก่อน
ฉันก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน" อัลเฟรโด้ปล่อยมือที่กุมมือของอีกฝ่ายไว้
รอให้คุณหมอสาวตรวจดูอาการบาดเจ็บอย่างละเอียดด้วยความสบายใจ
"ตรงนี้เจ็บไหมคะ"
สาวน้อยเลื่อนมือมาวางที่กลางอก ครองขวัญจำได้ว่าตอนที่ล้มลงมาทับร่างของเขานั้น
ใบหน้าของตนซบลงที่กลางอกตรงนี้
"นิดหน่อย
มันจะเจ็บเวลาที่ขยับตัวในบางครั้ง" ชายหนุ่มบอกอาการ
"แล้วตรงนี้ล่ะคะ"
เธอเคลื่อนมือลงมาที่ใต้ราวนม ใช้ปลายนิ้วกดลงเบาๆ ให้ทั่ว
ถ้ามองด้วยสายตายังไม่เห็นร่องรอยการบอบช้ำที่ชัดเจนมาก
แต่ก็ประมาณไม่ได้เพราะตัวเธอทั้งตัวล้มทับลงมาเต็มแรง
"ไม่ แต่ว่าตรงนี้ซิ เจ็บมาก"
หัวใจของครองขวัญกระตุกวาบ
เมื่อท่านประธานหนุ่มจับมือเธอมาวางไว้ที่บริเวณต้นขาทั้งสองข้างคือ
"ตรงนี้เวลาเดินมันขัด เจ็บนิดหน่อย
ดูซิว่ามันเป็นอะไรมากไหม"
"ท้องคุณไม่เจ็บหรือจุกใช่ไหม"
สาวน้อยพยายามข่มความรู้สึกของตนเองไว้
แต่ที่เก็บไม่มิดคือสีหน้าที่อัลเฟรโด้ดูออกว่า ครองขวัญเขินอายแค่ไหน
"ท้องไม่เจ็บ ไม่รู้สึกจุก
แต่ว่าเวลาเดินอย่างที่บอกบางครั้งก็เหมือนจะเจ็บแต่บางครั้งก็ไม่"
คนป่วยบอกอาการ
"ตัวฉันคงกระแทกไปโดนมันเข้า
คุณเจ็บไปถึงด้านหลังตรงเอ่อ ก้นกบไหมคะ"
ยิ่งถามคุณหมอจำเป็นก็ยิ่งหน้าแดงขึ้น
"ไม่นะ
แต่ก็มีบ้างที่นั่งแล้วเจ็บ" เขาว่าไปโน่น
อย่างที่บอกว่าอัลเฟรโด้แทบไม่รู้สึกอะไรกับอุบัติเหตุครั้งนี้ด้วยซ้ำ
แต่ที่แกล้งทำว่าเจ็บโน่นเป็นนี่ก็เพราะอยากให้ครองขวัญมาดูแลอยู่ใกล้ๆ ต่างหาก
และเมื่อสามารถทำให้เจ้าหล่อนมาอยู่ใกล้โดยไม่ต้องออกคำสั่งหรือบังคับกันด้วยวาจาแล้ว
ยามที่คุณหมอสาวถามไถ่อาการหรือตรวจร่างกายด้วยการแตะสัมผัสนั้น
มันทำให้ท่านประธานหนุ่มรู้สึกดีมากเสียจนไม่อยากหายป่วยเลยด้วยซ้ำ
"คุณคงจะช้ำไปทั้งตัวนั่นล่ะค่ะ
คงไม่มีอะไรร้ายแรงมาก ฉันว่าคุณไปโรงพยาบาลให้หมอสั่งยาคลายกล้ามเนื้อ
หรือไม่ก็มียานวดยาทาอะไรก็ได้ น่าจะหายไวกว่า" ครองขวัญสรุปอาการ
"อ้าว
แล้วไหนบอกว่าจะทายาให้ฉันไง"
"มันเป็นยาหม่องขวดเล็กที่ฉันติดตัวมาด้วย
แต่ถ้าต้องทาตัวคุณเกือบทั้งตัวเกรงว่ามันจะไม่พอ"
"งั้นเดี๋ยวจะให้คริสเตียนไปหายาทามา
แล้วเธอก็ทาให้ฉันด้วยแล้วกัน" อัลเฟรโด้สรุปเองเออเอง
"จริงๆ
คุณทาเองหรือไม่ก็ให้คุณคริสเตียนทำให้ก็ได้นะคะ" ครองขวัญบ่ายเบี่ยง
ไม่ใช่ไม่อยากทำให้ เพราะอย่างไรเสียเธอก็คือต้นเหตุของการเจ็บตัวของเขา
เพียงแต่แค่ดูเฉยๆ ยังทำให้หัวใจแทบจะหยุดเต้น ขืนต้องทายาให้นวดให้ด้วยแล้ว
รับรองว่าครองขวัญต้องหัวใจวายตายก่อนที่จะทายาเสร็จแน่
ก็ใครใช้ให้พ่อคนตัวดีชอบสั่งรูปร่างงดงามราวกับรูปปั้นที่แกะสลักแล้วมีชีวิต หัวใจของครองขวัญคงทนไม่ไหวแน่ถ้าเกิดว่าในระหว่างที่ทายาอยู่นั้น
อยากจะเข้าไปแนบชิดกับรูปปั้นแกะสลักที่มีชีวิตอย่างอัลเฟรโด้เข้าให้
"ได้ไง เธอเป็นคนทำฉันเจ็บ
เธอก็ต้องดูแลพยาบาลฉันซิ หรือว่าเธอจะโยนหน้าที่ให้คนอื่น"
เขาแกล้งทำเสียงเข้ม
"ไม่ใช่ค่ะ ฉันแค่เห็นว่าคุณเป็นผู้ชาย
คุณคริสเตียนก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน มันคงจะดีกว่าฉันที่เป็นผู้หญิง"
หญิงสาวให้เหตุผล
"จะดีกว่าตรงไหน
คริสเตียนมือหนักจะตาย แต่เอาเถอะ ถ้าเธอรังเกียจไม่อยากทำให้ฉันก็ไม่ว่า
ว่าแต่เธอล่ะ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า" ปลายเสียงคนพูดคล้ายกับน้อยใจในที ครองขวัญส่ายหน้าไม่พูดอะไรต่อสักคำ
"งั้นฉันกลับไปทำงานต่อ
เธอก็หาข้าวหายากินซะ หรือถ้าเป็นอะไรมากก็บอกให้คนพาไปโรงพยาบาลได้ตลอดเวลา"
ร่างสูงลุกขึ้นยืน ครองขวัญรีบลุกขึ้นตามแล้วอาสาติดกระดุมเสื้อให้
"โอย..."
เขาเจ็บจริงเมื่อลุกขึ้นโดยไม่ทันระวัง อัลเฟรโด้ก้มหลังลงเล็กน้อยด้วยความรู้สึกเจ็บ
"คุณเจ็บเหรอ ไหนๆ ขอฉันดูซิ"
ครองขวัญตกใจ
"ตายจริง เริ่มบวมแล้วแน่เลย"
แผ่นหลังของอัลเฟรโด้มีบางบริเวณที่เริ่มแสดงอาการช้ำเป็นสีแดงเข้ม
ครองขวัญรีบวิ่งไปเปิดกระเป๋าแล้วหยิบขวดยาหม่องที่ติดตัวมาด้วยเอามาทาเบาๆ
ที่ด้านหลังเพื่อคลึงให้รู้สึกดีขึ้น
"มีกลิ่นนิดหน่อยนะคะ
แต่ว่าอีกสักพักคุณจะรู้สึกดีขึ้น"
ดีขึ้นจริงๆ
แต่ไม่รู้ว่าที่ดีขึ้นได้เพราะสรรพคุณวิเศษในยาหม่อง
หรือเพราะมีปลายนิ้วของครองขวัญเคล้าคลึงเบาๆ ให้อัลเฟรโด้รู้สึกดีกันแน่
"ดีขึ้นไหมคะ"
"นิดหน่อย ขอบใจเธอมาก ฉันต้องไปประชุมแล้ว"
"มาค่ะ ฉันใส่เสื้อให้
ยาอาจจะมีกลิ่นติดเสื้อคุณบ้างแต่คงไม่มาก
ถ้ามันช่วยให้คุณดีขึ้นคืนนี้ฉันจะทาให้อีกรอบ
แล้วรับรองว่าพรุ่งนี้อาการปวดจะหายแน่นอนค่ะ"
"เธอพูดเองนะว่าจะทายาให้ฉัน"
อัลเฟรโด้ทวนคำพูดของหญิงสาวด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
ครองขวัญรู้ตัวว่าหลุดปากพูดออกมาโดยไม่ทันระวัง
แก้มสาวแดงก่ำขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นสายตาวาววับของท่านประธานหนุ่มที่ก้มลงมามองอยู่ในขณะนี้
"ทาตรงนี้ให้ด้วยซิ
ฉันเจ็บเหมือนกันนะ" เขาชี้ไปที่กลางอก
"ได้ค่ะ" หญิงสาวรับคำเบาๆ
แล้วรีบทายาหม่องบริเวณที่เขาเจ็บทันที
"มันร้อน ทำไงถึงจะหายร้อน"
"รอสักพักนะคะ
ให้ยาออกฤทธิ์แล้วคุณก็จะหายร้อน" ครองขวัญขยับเข้ามาติดกระดุมเม็ดบนสุด
เอวสวยได้รูปถูกสองมือของอัลเฟรโด้รั้งเข้ามาใกล้มากขึ้น
"ร้อน ยิ่งติดกระดุมยิ่งร้อน"
เขาก้มลงมากระซิบเบาๆ ที่ข้างหู
"แกะกระดุมก่อนไหมคะ" สาวน้อยช่วยคิดหาทางออก
ร่างกายเริ่มรู้สึกร้อนวูบวาบมากขึ้นเมื่อตัวเธอถูกดึงเข้ามาแนบชิดกับกายแกร่งที่ยืนอยู่ตรงหน้า
"ไม่ต้อง
ฉันมีวิธีฆ่าเวลาให้หายร้อน"
วิธีฆ่าเวลาให้หายร้อนของอัลเฟรโด้ก็คือ
การประคองใบหน้าหวานไว้ในอุ้งมืออย่างถนอมแล้วส่งริมฝีปากมาเชิญชวนให้ร่วมทำกิจกรรม
เพื่อรอให้ยาหม่องคายพิษร้อนออกมาจนหมด
ครองขวัญไม่ทันตั้งตัวกับการถูกจูบในครั้งนี้
แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธว่ามันคือสิ่งที่หัวใจปรารถนา
รสจูบที่แสนอ่อนหวานมาพร้อมความรู้สึกที่เปลี่ยนไประหว่างคนทั้งสอง
เหตุการณ์การช่วยชีวิตจากอุบัติเหตุที่เพิ่งผ่านมาหมาดๆ
เปลี่ยนภาพลบที่เคยรู้สึกให้กลายเป็นชื่นชมและประทับใจมากขึ้น
ประตูที่กั้นความรู้สึกในหัวใจไว้เริ่มถอดกลอนตัวเองออกอย่างช้าๆ
และดูเหมือนว่ามันจะเริ่มแง้มให้ชื่อของอัลเฟรโด้แทรกเข้ามาในพื้นที่ดวงใจได้ทีละน้อยอย่างไม่รู้ตัว
เมื่อชื่อของอัลเฟรโด้เข้ามาในหัวใจน้อยๆ
ของครองขวัญมากขึ้น ความแข็งขืนหรือต่อต้านที่เคยมีก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ท่านประธานหนุ่มรู้สึกว่ามันช่างวิเศษกว่าครั้งไหน
ที่จูบของตนไม่ต้องบีบบังคับให้อีกฝ่ายยอมรับอย่างหมดทางสู้
แต่มันกลายเป็นความเขินอายที่ไม่กล้า แต่สุดท้ายก็พร้อมจะเดินร่วมกันด้วยความเต็มใจ
จูบใดๆ
ของผู้หญิงในโลกไม่หอมหวานเท่าครองขวัญ จูบใดๆ
ของผู้หญิงในโลกนี้ไม่ปรารถนาอีกต่อไปหากว่ามีครองขวัญ จูบใดๆ
ของใครก็ไม่มีค่าเท่าจูบจากครองขวัญ จูบใดๆ
ต่อจากนี้ในชีวิตของอัลเฟรโด้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากครองขวัญเพียงคนเดียวเท่านั้น
หรือว่าเป็นโชคชะตาที่คนบนฟ้าพาให้ทั้งสองมาเจอกัน
และช่วยเปิดประตูหัวใจให้ทั้งคู่ได้รับรู้ความคิดความรู้สึก
ที่ซ่อนอยู่ภายในของกันและกันได้ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทุกวินาที
ฝากเพจนักเขียนค่ะ ยิปซี อิ่มอุ่น
ทักทายพูดคุยกันนะคะ
เป็นกำลังใจให้กันค่ะ
ฝากลิงค์อีบุ๊คนะคะ
|
|
|
ความคิดเห็น