คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ● Chapter :: 2 ● One night beginning [part 1 ยังไม่จบนะ] ●
CHAPTER 2
One night beginning
“ก็ได้ค่ะ งั้นเราไปกันเลยไหมคะ” หญิงสาวกลั้นใจสงบสติอารมณ์แล้วถามผู้ชายตรงหน้าออกไปด้วยไปหน้าเปื้อนยิ้ม ไม่ใช่ว่าเธอเปลี่ยนใจหรือนึกพิศวาสอะไรขึ้นมาหรอกนะ นี่เป็นเพียงแค่วิธีการหนึ่งที่เธอมีไว้เพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์ล่อแหลมแบบนี้ก็เท่านั้น
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวมีท่าทีอ่อนลงชายหนุ่มคิดว่าเธอยินดีจะไปกับเขาแล้วจึงละมือทั้งสองที่โอบเอวหญิงสาวอยู่แล้วเลื่อนไปโอบบ่าเธอไว้หลวมๆ เพื่อพาเธอเดินออกจากผับโดยที่ไม่ทันระวังตัวก็ถูกหญิงสาวกระทุ้งศอกเข้าอย่างจังตามมาด้วยส้นสูงแหลมที่กระแทงลงมาที่หลังเท้า
“อ๊าก! เธอทำบ้าอะไรเนี่ย”
“สำหรับคนทุเรศอย่างนายแค่นี้มันยังน้อยไป”
ว่าจบก็โดนสาวเจ้าเตะเข้ากลางลำตัวเล่นซะเขาถึงกับต้องทรุดลงไปนั่งตัวงออยู่กับพื้น นี่ถ้าเกิดไอ้นั่นของเขาเกิดใช้งานไม่ได้ขึ้นมาเพราะโดนลูกเตะของเธอเขาจะถูกวงตระกูลรุมประนามขนาดไหนเนี่ยที่ไม่สามารถมีทายาทสืบสกุลได้
“ไปตายซะไป!” ด่าจบกวิตาก็เดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงกับมาที่เคาเตอร์บาร์ทันที ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์จะกินเหล้าแล้วด้วยซ้ำจ่ายเงินค่าเหล้าเสร็จเธอก็จะกลับไปพักเลย แต่พอเดินกลับมาที่เคาเตอร์กลับทำให้เธออารมณ์เสียเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
ทำไมคืนนี้เธอถึงเจอแต่พวกผู้ชายหน้าด้านนะ?
“ไปไหนมาตั้งนานครับ ผมคิดว่าคุณหนีผมกลับไปแล้วซะอีก”
“ฉันก็ไม่ได้บอกให้คุณอยู่รอนี่คะ”
“คุณไม่ได้บอกแต่ผมเต็มใจ เรายังไม่รู้จักกันเลยนะครับ”
“เสียใจค่ะฉันจะกลับแล้ว”
“ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลยนะ อย่างน้อยเราดื่มด้วยกันสักแก้วก็ยังดี”
กวิตาไม่ได้สนใจผู้ชายตรงหน้า เธอหันไปจ่ายเงินค่าเครื่องดื่มที่เคาเตอร์แล้วหันหลังเพื่อเดินออกมา แต่กลับถูกแรงกระชากที่ต้นแขนรั้งเธอเอาไว้เสียก่อน
“นี่คุณ!” ไอ้ผู้ชายคนนี้น่ารำคาญจริงๆ เลย
“เถอะน่าครับ ให้เกียจดื่มกับผมสักแก้วเถอะ” ชายตรงปล่อยมือที่จับแขนกวิตาในตอนแรกออก พลางยกมือขึ้นทั้งสองข้างแสดงท่าทางเหมือนยอมแพ้แต่ก็ยังไม่วายยื่นแก้วเหล้ามาตรงหน้าเธอ
“ก็ได้ๆ แค่แก้วเดียวพอใจรึยังละ”
คืนนี้เจอทั้งผู้ชายหน้าด้านทั้งผู้ชายน่ารำคาญ เธอเหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ดื่มๆ ไปให้มันจบแล้วกัน กวิตาคิดในใจพลางหยิบแก้วแอลกอฮอลล์ขึ้นดื่มแบบวันช็อตที่เดียวหมด เมื่อดื่มเสร็จแล้วเธอก็เดินออกมาจากตรงนั้นโดยไม่ได้สังเกตเลยว่าผู้ชายที่เคาเตอร์บาร์เมื่อกี้แอบเดินตามเธอมา
บริเวณลานจอดรถที่หน้าผับกวิตาเดินออกมาเพื่อเรียกแท๊กซี่กลับไปยังที่พัก แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวพ้นประตูผับอยู่ดีๆ ก็มีความรู้สึกแปลกๆ เกิดขึ้นกับเธอ
“ทำไมรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวแบบนี้นะ”
หญิงสาวพยายามสลัดความรู้สึกประหลาดนั้นออกจากตัว แอลกอฮอลล์แค่นี้ไม่สามารถทำให้คนคอแข็งอย่างกวิตาเมาได้หรอก แต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงได้รู้สึกเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวแล้วก็มึนหัวมากมายขนาดนี้มันทรมานราวกับเธอจะเป็นไข้ มือไม้อ่อนจนกวิตาเดินซวนเซแทบจะล้ม
“ดูคุณอาการไม่ค่อยดีเลยนะครับ ให้ผมไปส่งดีกว่าไหม”
“คุณ... ”
ชายหนุ่มที่ชื่ออีวานก็โผล่มาจากที่ไหนไม่รู้ตรงเข้ามาคว้าแขนของกวิตาไว้ สัมผัสที่ถูกเขาจับต้องทำให้กวิตารู้สึกร้อนวูบวาบราวกับถูกนาบด้วยเหล็กที่ร้อนจัด สัญชาตญาณและสติที่เหลืออันน้อยนิดบอกให้เธอหลีกหนีจากเขาให้ไกล ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนดีและในตอนนี้เขาไม่น่าไว้วางใจที่สุด
“ปล่อยฉัน”
“เห็นๆ อยู่ว่าคุณเมาจนเดินไม่ไหวแล้วให้ผมช่วยเถอะน่า ผมหวังดีนะ”
“ไม่! ฉันบอกให้ปล่อยฉันไง”
ถึงแม้ตอนนี้สติจะพร่าเลือนมากเพียงใดแต่กวิตาก็ยังใจแข็งพยายามใช้แรงที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดดิ้นรนขัดขืนออกจากการเกาะกุมของอีวาน ยิ่งมองเห็นสายตาของเขากวิตาก็ยิ่งมั่นใจ แก้วแฮลกอฮอลล์ที่เขายัดเยียดให้เธอกินก่อนหน้านี้มันต้องมีอะไรผสมอยู่แน่
“คิดว่าจะหนีพ้นก็ลองดู ถึงยังไงคืนนี้คุณก็ต้องร้องเรียกหาผมทั้งคืนคนสวย”
อีวานกึ่งฉุดกึ่งลากกวิตาให้เดินตามมายังลานจอดรถ หญิงสาวแทบไม่มีแรงขัดขืนหรือดิ้นรนเพราะความต้องการบางอย่างภายในที่มันปะทุอยู่ในตอนนี้กับความรู้สึกผิดชอบชั่วดีกำลังตบตีสติของเธออย่างรุนแรง แต่ก่อนที่จะไปถึงที่รถของอีวานกวิตาก็รวบรวมสติและแรงที่เหลืออยู่ได้ สมองสั่งให้เธอทำอะไรสักอย่างให้เขาปล่อยเธอและไวเท่าความคิดกวิตาก็งับเข้าที่ข้อมือของอีวานที่เกาะกุมเธอไว้ เขี้ยวเล็กๆ ฝังเข้าไปจนจมมิดได้กลิ่นคาวของเลือด ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทำให้อีวานตกใจและสะบัดมือออก หญิงสาวจึงอาศัยจังหวะผลักเขาให้ออกห่างจากตัวและวิ่งหนีมา แต่มันช่างยากเย็นเหลือเกินเพราะในตอนนี้แขนขาเธอไม่มีแรงจนแทบจะล้มลง
“เป็นอะไรรึป่าวครับคุณ”
ชายหนุ่มอีกคนคว้าตัวกวิตาไว้ได้ก่อนที่เธอจะล้มลง อ้อมกอดและสัมผัสของเขาทำให้หญิงสาวขนลุกซู่ สติที่พร่าเลือนทำให้เธอไม่ทันได้สังเกตว่าเขาเป็นผู้ชายคนเดียวกันกับคนที่เธอเจอที่หน้าห้องน้ำ ตรงกันข้ามกับชายหนุ่มที่สามารถจำเธอได้เป็นอย่างดีเขาไม่มีทางลืมสาวสวยอย่างเธอไปได้ เธอมันยัยตัวแสบคนนั้น
“ช่วยด้วย ช่วยพาฉันออกไปที”
“อะไรนะ?” ทีก่อนหน้านี้เธอยังขัดขืนเขาแทบตาย ทำไมอยู่ๆ มาขอร้องให้พาไปด้วยล่ะ
“คุณช่วยพาฉันออกไปจากที่นี่ที”
กวิตาของร้องชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า เธอพยายามอดกลั้นความรู้สึกที่เอ่อล้นขื้นมาจนแทบจะระเบิด ตอนนี้เธอต้องรีบไปจากที่นี่ก่อน ก่อนที่เธอจะทำเรื่องน่าอายตรงนี้
“เฮ้ยนั่นแกจะทำอะไรน่ะ ปล่อยมือจากยัยนั่นนะเว้ย!” ยังไม่ทันที่กวิตาจะได้ไปไหนอีวานก็ตามมาทันเสียก่อนและพุ่งไปขวางทางชายอีกคนไว้ทันที
“ปล่อย? ทำไมต้องปล่อย แล้วคุณเป็นอะไรกับเธอ”
“ฉันก็เป็นแฟนเธอน่ะสิ”
“หืม? เค้าบอกว่าคุณเป็นแฟนเขาน่ะที่รัก”
ชายหนุ่มแสร้งก้มหน้าลงไปถามหญิงสาวที่ยืนตัวสั่นอยู่ในอ้อมกอด ดูจากปฏิกิริยาของเธอแล้วก็เดาได้ไม่ยากว่าเธอคงหนีไอ้ผู้ชายตรงหน้ามาแน่ๆ
“มะ.. ไม่ใช่” กวิตาตอบด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ลมหายใจที่เป่ารดลงมายิ่งทำให้สติของเธอกระเจิดกระเจิงไปกันใหญ่
“เอ๊าได้ยินรึยัง เธอบอกว่าเธอไม่ใช่แฟนนายน่ะ”
“ทะ.. เธอโกหกน่ะสิ เราทะเลาะกันอยู่ ส่งเธอมาเดี๋ยวนี้”
“เสียใจด้วยนะเพราะเธอเพิ่งบอกฉันเมื่อกี้นี่เองว่าอยากไปกับฉัน”
“แก! พูดดีๆ ไม่รู้เรื่องหรือไงอยากมีเรื่องรึไงหา”
อีวานพุ่งตัวเข้าไปหมายจะแย่งตัวกวิตาแต่กลับถูกชายหนุ่มถีบจนกระเด็นกลับมาแทน ทั้งๆ ที่สองมือของเขายังประคองหญิงสาวเอาไว้อยู่ เมื่อตั้งตัวได้อีวานก็หวังจะพุ่งตัวเข้าไปอีกครั้งแต่ก็ต้องชะงักเมื่อสบสายตาเอาเรื่องที่เรียกได้ว่ามีประกายกล้าจนคนมองถึงกับเสียวสันหลัง ประกอบกับร่างกายที่สูงใหญ่ของเขาทำให้อีวานเสียเปรียบอยู่มาก
“ถ้าแกคิดว่าจะทำอะไรคนอย่าง จาง เคลวิน ได้ง่ายๆ เหรอ”
“นะ นี่แกคือ... ”
เมื่อได้ฟังชื่อของคนตรงหน้าอีวานถึงกำมีสีหน้าถอดสีขึ้นมาในทันที ถ้าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงผู้ชายตรงหน้าคนนี้ก็จัดว่าเป็นบุคคลอันตรายที่เขาไม่ควรต่อกรด้วยอย่างยิ่ง อิทธิพลและอำนาจที่เต็มเปี่ยมของชายหนุ่มเป็นสิ่งที่ผู้รักชีวิตควรหลีกหนีให้ไกล
“งั้น งั้นคุณเอาไปเลย ผู้หญิงคะ คนนั้นผมยกให้จะเอาไปต้มยำทำแกงที่ไหนก็เชิญเลย” อีวานรีบลนลานพูดแล้วจากไปโดยไว เขาฉลาดพอที่จะไม่เอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยงกับแค่ผู้หญิงคนเดียว
“หึ!” ชายหนุ่มทำแค่เพียงแสยะยิ้มแล้วก้มลงช้อนหญิงสาวในอ้อมแขนก่อนพาก้าวเดินไปยังรถคันหรูที่จอดอยู่ไม่ไกล ตอนนี้หญิงสาวไม่ได้สติอะไรแล้ว ได้แต่ปล่อยให้เขาหอบหิ้วไปไหนต่อไหนตามใจชอบโดยไม่รู้ชะตากรรมของตนเอง
ความคิดเห็น