ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter II : Light (แสงนำทาง)RW
3 เดือนแล้วที่อยู่ที่นี่
เด็กชายอายุราว 10 ปีต้นๆ นั่งอยู่บนที่นอนภายในห้องของเขา
เขาใช้ดวงจาสีเทากวาดมองสำรวจไปรอบๆห้องอย่างเบื่อหน่าย
แล้วจบลงที่กล้องวงจรปิดพลางก้มหน้าถอนหายใจเฮือกใหญ่
เบื่อ!
ความเบื่อหน่ายเข้ามาเกาะกินจิตใจของกาเบรีย
ทุกวันเด็กชายจะต้องขึ้นลงลิฟต์ไม่ต่ำกว่า 10 รอบ
เพื่อไปรับการฝึกฝนพลังกายและสติปัญญาทั้งยังความสามารถพิเศษอื่นๆ
หลายครั้งที่เขานึกอยากจะออกไปสำรวจโลกภายนอก แต่ก็ถูกห้ามอยู่ร่ำไป
เด็กชายทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของเขาหวังจะงีบหลับอีกซักตื่น
เพราะไม่มีอะไรที่เขาจะทำได้ดีที่สุดนอกเหนือจากนี้แล้ว แต่เมื่อล้มลงนอนได้เพียงชั่วครู่
เขาก็ต้องทะลึ่งพรวดขึ้นมาเนื่องจากสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น
เสียงเอะอะจากชั้นล่างกระตุ้นเอาความอยากรู้อยากเห็นของกาเบรียให้ตื่นขึ้น
เด็กชายรีบเปิดประตูมุ่งสู่ที่เกิดเหตุทันใด ถึงแม้ว่าห้องของเด็กชายจะเต็มไปด้วยกล้องวงจรปิด
แต่เขายังมีอิสรที่จะเดินเข้าออกจากประตูห้องที่ถูกควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์สมองกล
ถึงกระนั้นอาณาเขตที่เขาสามารถรุกล้ำได้ก็ถึงแค่เพียงชั้น 40 ซึ่งก็คือส่วนของศูนย์วิจัยเท่านั้น
กาเบรียเร่งฝีเท้าให้เดินไปหยุดยืนอยู่ในลิฟต์
กดปุ่มสั่งการให้ลิฟต์ขับเคลื่อนตัวลงสู่ชั้น 59 ซึ่งถัดจากชั้นที่เขาอยู่เพียงชั้นเดียว
เมื่อประตูลิฟต์ที่หนาทึบเปิดออกก็เผยให้เห็นชายวัยกลางคนที่สวมชุดหมีเหมือนช่างวิศวะ
กำลังยืนมองเด็กหนุ่มผมแดงด้วยสายตากราดเกรี้ยวพร้อมส่งเสียงทุ้มต่ำดุว่าเด็กหนุ่ม
"เจ้าเฟเนค แก~ งานการมีไม่ทำ ชอบแอบไปหลบนอนไม่ก็หนีเที่ยว
แถมยังเมากลับมาทุกทีทั้งๆที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ"
เขากราดว่าใส่เด็กหนุ่มเป็นชุด
เด็กหนุ่มเบ้หน้าหนีไปอีกทางพลางกล่าวย้อนชายวัยกลางคนตรงหน้า
"อะไรกัน พ่อ แค่ชั้นฉันแอบไปข้างนอกนิดเดียวหาว่าอู้
ชั้นก็แค่ไปหาอะไรกินนิดหน่อยเอง ก็มันน่าเบื่อจะตายไป"
"แกนี่มัน "
ชายวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่า 'พ่อ' โกรธหน้าดำหน้าแดง
แต่ยังไม่ทันจะได้ว่าเจ้าลูกชายจอมขี้เกียจต่ออย่างหนำใจ
เขาก็ต้องกลืนคำด่าลงคอเพราะสายตาเหลือบไปเห็นกาเบรียซะก่อน
"อ้าว? กาเบรีย ลงมาถึงนี่มีอะไรรึ" ชายคนนั้นเอ่ยถาม
แต่ยังไม่ทันที่กาเบรียจะตอบเขาก็ชิงพูดต่อ
"ถ้าเป็นเรื่องสัญญาณเตือนภัยละก็ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก
เพราะไอ้เจ้าลูกชายตัวดีของลุงนี่แหละที่เป็นคนทำมันดังขึ้นมาเอง"
เขากล่าวพร้อมหันไปตบไหล่ลูกชายของตนอย่างไม่ยั้งมือ
กาเบรียรู้จักสองคนพ่อลูกนี่มาก่อนหน้านี้แล้ว
ตั้งแต่ตอนที่เขาถูกบังคับให้รับการฝึก คุณลุง เครกเกอร์
เป็นคนแรกที่ยอมเข้ามาเป็นเพื่อนคุยกับเขา
แต่เพราะคุณลุงเป็นช่างวิศวะของที่นี่จึงมีหน้าที่ครอบคลุมไปทั่วทั้งตึก
ไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนัก
ส่วนลูกชายของเขา เฟเนค กาเบรียไม่ค่อยจะสนิทสนมด้วยเท่าไหร่
เพราะหมอนี่มักไม่อยู่กับร่องกับรอย ชอบแว้บหายไปทุกทีที่มีโอกาส
แต่กาเบรียได้ยินมาว่าเจ้าคนนี้เป็นคนฝีมือดีคนหนึ่ง
ได้เป็นถึง 1 ใน 3 ผู้พิทักษ์ศูนย์วิจัยเลยทีเดียว
แต่ด้วยลักษณะที่ขี้เล่นทำให้ใครๆต่างก็หยั่งฝีมือที่แท้จริงของเขาไม่ได้ซะที
กาเบรียพยักหน้าเล็กน้อยแสดงถึงความเข้าใจ
คุณลุงเครกเกอร์จึงเดินกลับไปทำงานของเขาที่ห้องอื่นต่อ
สายตาของเด็กชายจึงตวัดไปมองเฟเนคที่นั่งลงที่เก้าอี้พลางฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์แทน
ก็ประโยคที่สองคนนี้พูกเมื่อกี้มันน่าสนใจน้อยซะเมื่อไหร่ล่ะ
กาเบรียจ้องมองเฟเนคจนเขารู้สึกได้ถึงสายตาที่มองมา
จึงเหลือบสายตาขึ้นมาสบแล้วเอ่ยถาม
"มีอะไรเหรอเจ้าหนู?"
เฟเนคใช้เสียงกวนๆอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาเอ่ยถาม
กาเบรียไม่ได้เอ่ยคำถามออกมาในทันที เขายืนชั่งใจคิดอยู่ครู่หนึ่ง
เฟเนคจึงหันเหความสนใจจากเด็กชายไปเป็นเกมในโทรศัพท์มือถือ
แต่เมื่อตัดสินใจได้แล้วเด็กชายจึงเขยิบเข้าไปใกล้ชายหนุ่มแล้วเอ่ยถามออกมาในที่สุด
"เฟเนค! นาย ทำยังไงถึงออกไปจากที่นี่ได้"
เด็กชายถามตรงประเด็น
เฟเนคได้ยินคำถามก็ชะงักจากการเล่นเกม
หันมาแค่นเสียงหัวเราะชอบใจแทนที่จะตอบคำถามของกาเบรีย
ทำให้เด็กชายฉุนกึกเล็กน้อยว่าคำถามของเขามันน่าหัวเราะตรงไหนกัน!
เฟเนคพยายามปรับเสียงหัวเราะให้เป็นเสียงพูดคุยตามปกติ
แต่ก็นานพอควรกว่าเสียงจะกลับมาเหมือนเดิม
กาเบรียนิ่งเงียบมองบุรุษตรงหน้า หมายจะรับฟังคำตอบอย่างตั้งใจ
และชายหนุ่มก็ตอบกลับมา
"เฮ้~ ที่นี่มันไม่ได้ออกไปง่ายๆอย่างที่นายคิดนา"
เสียงกวนๆหลุดอกจากปากของเฟเนคอย่างยากลำบากเนื่องจากยังฮาไม่เลิก
ใช่! มันคงจะออกไปไม่ได้ง่ายๆ แต่พอได้ฟังว่านายเข้าๆออกๆจนเป็นเรื่องธรรมดา
เรื่องยากๆนี่มันก็แลดูง่ายลงไปถนัดตา กาเบรียรำพึงในใจพอดีกับที่เฟเนคเอ่ยต่ออย่างรู้ทัน
"อ๊ะๆ นายคงคิดล่ะสิว่าถ้าชั้นออกไปได้มันก็เป็นเรื่องที่ง่ายมากใช่มะ"
กาเบีรยพยักหน้าเป็นเชิงตอบว่าถูกต้อง
ก็ไม่ผิดซักหน่อยที่เขาจะยอมรับว่ามันเป็นเรื่องจริง
เฟเนคเห็นคำตอบเป็น Yes
จึงลุกขึ้นมาโอบไหล่เด็กชายแล้วตบเป็นการเกลี้ยกล่อม
"อยากรู้มั้ยว่าทำไม" เขาเอ่ยถาม
เด็กชายเงียบและเฟเนคก็ถือว่าความเงียบนั้นเป็นคำตอบว่าใช่เสมอ
เขายกกำปั้นขึ้นชี้นิ้วโป้งเข้าหาตนเองแล้วยิ้มยิงฟันพร้อมปรากฎประกายระยิบระยับรอบๆตัว
"เพราะว่าชั้นเก่งไง"
กาเบรียปรับสีหน้าเป็นเหนื่อยใจ
ถึงจะคิดอยู่แล้วก็เถอะว่าถึงถามหมอนี่ไปก็ไม่ได้เรื่อง
และสุดท้ายการตัดสินใจถามออกไปก็เสียเปล่า
"ขอบใจที่อุตส่าห์ลำบาก" เด็กชายกล่าวลา
"เฮ้ย~" เฟเนครีบวิ่งไปดักหน้ากาเบรียที่กำลังเดินมุ่งสู่ลิฟต์
"อะไรกัน! นายไม่เชื่อเราะ"
กาเบรียชะงักฝีเท้าหยุดลง มองหน้าชายที่มายืนเกะกะขวางทางเขา
แล้วใช้สายตาตอบแทนคำพูด เฟเนคเห็นดังนั้นก็ยอมแพ้ เปิดปากเล้าความจริงแก่เด็กชาย
"อ๊ะ งั้นชั้นเล่าจริงๆและ"
กาเบรียเปลี่ยนท่ายืนเป็นกอดอกเตรียมรับฟัง
แต่ก็ดันถูกเจ้าเฟเนคจับลากเข้าลิฟต์ซะก่อน เขาจึงตีสีหน้าไต่ถาม
เฟเนคชูนิ้วชี้ขึ้นตรงริมฝีปากพลางส่งเสียง "ชู่" ให้เงียบฟังเขา
"ที่นี่ไม่ได้ ไปฟังห้องชั้น"
ลิฟต์เคลื่อนตัวลงมาอย่างนิ่มนวล ตัวเลขบนหน้าจอ LCD
บอกว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ชั้น 55 ประตูลิฟต์เปิดออกอัตโนมัติให้ผู้ที่โดยสารมากับมันเดินออกไป
เมื่อเสร็จภาระกิจประตูลิฟต์ก็ปิดลง ชายหนุ่มเดินนำหน้ากาเบรีย
แล้วผลักประตูเหนือป้ายหมายเลข 1553 ให้เด็กชายตามเขาเข้าไปข้างใน
แทบไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นห้องของชายหนุ่มจอมขี้เกียจแห่งปี
ห้องทั้งห้องดูสะอาดสะอ้านราวกับว่าไม่เคยมีฝุ่นจับ
ข้าวของถูกจัดวางเอาไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
และดังกับว่าเฟเนคอ่านใจเขาออกเพราะชายหนุ่มหัวเราะหึหึภายในลำคอ
"นี่แหละห้องชั้น ไม่ผิดหรอก" เขาว่า
เฟเนคตรงไปยังหัวเตียงของเขา งัดแผ่นกระดานไม้ออกเผยให้เห็นแผงปุ่มหลากสี
ชายหนุ่มเลือกกดปุ่มริมล่างสุดทางซ้ายมือแล้วผังแปรนของทั้งตึกก็โผล่ขึ้นมากลางห้องเป็นภาพสามมิติ
"เอาล่ะ เรามาว่ากันต่อ"
กาเบรียจัดการหาที่เหมาะๆนั่งเตรียมพร้อมรับฟังการกล่าวปราศัยของเฟเนคที่ท่าจะยืดยาว
เด็กชายสังเกตว่าเวลาเอาจริง สีหน้าของคนขี้เล่นจะเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาในทันที
"ตึกของศูนย์ทดลองนั้น แบ่งออกได้ 3 โซนด้วยกัน" ชายหนุ่มว่าแล้วก็เลื่อนไป
กดปุ่มที่อยู่ถัดไปจากปุ่มเดิม แถบสีสามสีปรากฎขึ้นภายในตัวตึกทกลองทันทีที่เขาสัมผัสปุ่มนั่น
"โซน C สีเขียว " เฟเนคเลือกกดปุ่มอีกปุ่มหนึ่ง
ทีนี่โซนสีเขียวขึ้นมาฉายเด่นชัดกลบสีอื่น
"ความปลอดภัย 98%"
กาเบรียพยักหน้าตอบรับอัตโนมัติ เขาชักกระหายอยากจะรู้โซนต่อไปเร็วขึ้น
"โซน B สีเหลือง ความปลอดภัย 30 %" เฟเนคกล่าวต่อ
หัวใจกาเบรียกระตุกวูบ 'จาก 98%ลดมาเหลือเพียง 30%เชียวเราะ'
เด็กชายรีบหันไปขอความเห็นจากผู้อธิบายโดยด่วน เฟเนคจึงกล่าวต่อไป
"ช่วงชั้นที่ 29-1 คือโซนสีเขียว โอกาสรอดมีถึง 98% ถือว่ารักษาการได้หละหลวมที่สุด
ส่วนช่วงชั้นที่นายสามารถเข้าออกได้อย่างอิสระนั่นก็คือช่วงชั้น 60-40 คือโซนสีเหลือง
การคุมกันจะมีมากกว่าโซนเขียวมากเพราะคือช่วงชั้นของศูนย์วิจัย
จะให้การวิจัยลับรั่วไหลออกไปที่อื่นไม่ได้"
เฟเนคเว้นช่วงอธิบายให้กาเบรียมีโอกาสแทรกถามบ้าง
เด็กชายจึงสนองตามที่เฟเนคต้องการ
"แล้วโซนสุดท้ายล่ะ"
เฟเนคเลื่อนมือไปกดปุ่มสีแดงที่ใหญ่ที่สุดตรงกลางแผงปุ่มบังคับการ
โซน A ปรากฎขึ้นด้วยสีแดงหลาจอใหญ่ ชายหนุ่มกล่าวต่อไป
"โซน A สีแดง โอกาสรอด 0%"
เด็กชายอายุราว 10 ปีต้นๆ นั่งอยู่บนที่นอนภายในห้องของเขา
เขาใช้ดวงจาสีเทากวาดมองสำรวจไปรอบๆห้องอย่างเบื่อหน่าย
แล้วจบลงที่กล้องวงจรปิดพลางก้มหน้าถอนหายใจเฮือกใหญ่
เบื่อ!
ความเบื่อหน่ายเข้ามาเกาะกินจิตใจของกาเบรีย
ทุกวันเด็กชายจะต้องขึ้นลงลิฟต์ไม่ต่ำกว่า 10 รอบ
เพื่อไปรับการฝึกฝนพลังกายและสติปัญญาทั้งยังความสามารถพิเศษอื่นๆ
หลายครั้งที่เขานึกอยากจะออกไปสำรวจโลกภายนอก แต่ก็ถูกห้ามอยู่ร่ำไป
เด็กชายทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของเขาหวังจะงีบหลับอีกซักตื่น
เพราะไม่มีอะไรที่เขาจะทำได้ดีที่สุดนอกเหนือจากนี้แล้ว แต่เมื่อล้มลงนอนได้เพียงชั่วครู่
เขาก็ต้องทะลึ่งพรวดขึ้นมาเนื่องจากสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น
เสียงเอะอะจากชั้นล่างกระตุ้นเอาความอยากรู้อยากเห็นของกาเบรียให้ตื่นขึ้น
เด็กชายรีบเปิดประตูมุ่งสู่ที่เกิดเหตุทันใด ถึงแม้ว่าห้องของเด็กชายจะเต็มไปด้วยกล้องวงจรปิด
แต่เขายังมีอิสรที่จะเดินเข้าออกจากประตูห้องที่ถูกควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์สมองกล
ถึงกระนั้นอาณาเขตที่เขาสามารถรุกล้ำได้ก็ถึงแค่เพียงชั้น 40 ซึ่งก็คือส่วนของศูนย์วิจัยเท่านั้น
กาเบรียเร่งฝีเท้าให้เดินไปหยุดยืนอยู่ในลิฟต์
กดปุ่มสั่งการให้ลิฟต์ขับเคลื่อนตัวลงสู่ชั้น 59 ซึ่งถัดจากชั้นที่เขาอยู่เพียงชั้นเดียว
เมื่อประตูลิฟต์ที่หนาทึบเปิดออกก็เผยให้เห็นชายวัยกลางคนที่สวมชุดหมีเหมือนช่างวิศวะ
กำลังยืนมองเด็กหนุ่มผมแดงด้วยสายตากราดเกรี้ยวพร้อมส่งเสียงทุ้มต่ำดุว่าเด็กหนุ่ม
"เจ้าเฟเนค แก~ งานการมีไม่ทำ ชอบแอบไปหลบนอนไม่ก็หนีเที่ยว
แถมยังเมากลับมาทุกทีทั้งๆที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ"
เขากราดว่าใส่เด็กหนุ่มเป็นชุด
เด็กหนุ่มเบ้หน้าหนีไปอีกทางพลางกล่าวย้อนชายวัยกลางคนตรงหน้า
"อะไรกัน พ่อ แค่ชั้นฉันแอบไปข้างนอกนิดเดียวหาว่าอู้
ชั้นก็แค่ไปหาอะไรกินนิดหน่อยเอง ก็มันน่าเบื่อจะตายไป"
"แกนี่มัน "
ชายวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่า 'พ่อ' โกรธหน้าดำหน้าแดง
แต่ยังไม่ทันจะได้ว่าเจ้าลูกชายจอมขี้เกียจต่ออย่างหนำใจ
เขาก็ต้องกลืนคำด่าลงคอเพราะสายตาเหลือบไปเห็นกาเบรียซะก่อน
"อ้าว? กาเบรีย ลงมาถึงนี่มีอะไรรึ" ชายคนนั้นเอ่ยถาม
แต่ยังไม่ทันที่กาเบรียจะตอบเขาก็ชิงพูดต่อ
"ถ้าเป็นเรื่องสัญญาณเตือนภัยละก็ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก
เพราะไอ้เจ้าลูกชายตัวดีของลุงนี่แหละที่เป็นคนทำมันดังขึ้นมาเอง"
เขากล่าวพร้อมหันไปตบไหล่ลูกชายของตนอย่างไม่ยั้งมือ
กาเบรียรู้จักสองคนพ่อลูกนี่มาก่อนหน้านี้แล้ว
ตั้งแต่ตอนที่เขาถูกบังคับให้รับการฝึก คุณลุง เครกเกอร์
เป็นคนแรกที่ยอมเข้ามาเป็นเพื่อนคุยกับเขา
แต่เพราะคุณลุงเป็นช่างวิศวะของที่นี่จึงมีหน้าที่ครอบคลุมไปทั่วทั้งตึก
ไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนัก
ส่วนลูกชายของเขา เฟเนค กาเบรียไม่ค่อยจะสนิทสนมด้วยเท่าไหร่
เพราะหมอนี่มักไม่อยู่กับร่องกับรอย ชอบแว้บหายไปทุกทีที่มีโอกาส
แต่กาเบรียได้ยินมาว่าเจ้าคนนี้เป็นคนฝีมือดีคนหนึ่ง
ได้เป็นถึง 1 ใน 3 ผู้พิทักษ์ศูนย์วิจัยเลยทีเดียว
แต่ด้วยลักษณะที่ขี้เล่นทำให้ใครๆต่างก็หยั่งฝีมือที่แท้จริงของเขาไม่ได้ซะที
กาเบรียพยักหน้าเล็กน้อยแสดงถึงความเข้าใจ
คุณลุงเครกเกอร์จึงเดินกลับไปทำงานของเขาที่ห้องอื่นต่อ
สายตาของเด็กชายจึงตวัดไปมองเฟเนคที่นั่งลงที่เก้าอี้พลางฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์แทน
ก็ประโยคที่สองคนนี้พูกเมื่อกี้มันน่าสนใจน้อยซะเมื่อไหร่ล่ะ
กาเบรียจ้องมองเฟเนคจนเขารู้สึกได้ถึงสายตาที่มองมา
จึงเหลือบสายตาขึ้นมาสบแล้วเอ่ยถาม
"มีอะไรเหรอเจ้าหนู?"
เฟเนคใช้เสียงกวนๆอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาเอ่ยถาม
กาเบรียไม่ได้เอ่ยคำถามออกมาในทันที เขายืนชั่งใจคิดอยู่ครู่หนึ่ง
เฟเนคจึงหันเหความสนใจจากเด็กชายไปเป็นเกมในโทรศัพท์มือถือ
แต่เมื่อตัดสินใจได้แล้วเด็กชายจึงเขยิบเข้าไปใกล้ชายหนุ่มแล้วเอ่ยถามออกมาในที่สุด
"เฟเนค! นาย ทำยังไงถึงออกไปจากที่นี่ได้"
เด็กชายถามตรงประเด็น
เฟเนคได้ยินคำถามก็ชะงักจากการเล่นเกม
หันมาแค่นเสียงหัวเราะชอบใจแทนที่จะตอบคำถามของกาเบรีย
ทำให้เด็กชายฉุนกึกเล็กน้อยว่าคำถามของเขามันน่าหัวเราะตรงไหนกัน!
เฟเนคพยายามปรับเสียงหัวเราะให้เป็นเสียงพูดคุยตามปกติ
แต่ก็นานพอควรกว่าเสียงจะกลับมาเหมือนเดิม
กาเบรียนิ่งเงียบมองบุรุษตรงหน้า หมายจะรับฟังคำตอบอย่างตั้งใจ
และชายหนุ่มก็ตอบกลับมา
"เฮ้~ ที่นี่มันไม่ได้ออกไปง่ายๆอย่างที่นายคิดนา"
เสียงกวนๆหลุดอกจากปากของเฟเนคอย่างยากลำบากเนื่องจากยังฮาไม่เลิก
ใช่! มันคงจะออกไปไม่ได้ง่ายๆ แต่พอได้ฟังว่านายเข้าๆออกๆจนเป็นเรื่องธรรมดา
เรื่องยากๆนี่มันก็แลดูง่ายลงไปถนัดตา กาเบรียรำพึงในใจพอดีกับที่เฟเนคเอ่ยต่ออย่างรู้ทัน
"อ๊ะๆ นายคงคิดล่ะสิว่าถ้าชั้นออกไปได้มันก็เป็นเรื่องที่ง่ายมากใช่มะ"
กาเบีรยพยักหน้าเป็นเชิงตอบว่าถูกต้อง
ก็ไม่ผิดซักหน่อยที่เขาจะยอมรับว่ามันเป็นเรื่องจริง
เฟเนคเห็นคำตอบเป็น Yes
จึงลุกขึ้นมาโอบไหล่เด็กชายแล้วตบเป็นการเกลี้ยกล่อม
"อยากรู้มั้ยว่าทำไม" เขาเอ่ยถาม
เด็กชายเงียบและเฟเนคก็ถือว่าความเงียบนั้นเป็นคำตอบว่าใช่เสมอ
เขายกกำปั้นขึ้นชี้นิ้วโป้งเข้าหาตนเองแล้วยิ้มยิงฟันพร้อมปรากฎประกายระยิบระยับรอบๆตัว
"เพราะว่าชั้นเก่งไง"
กาเบรียปรับสีหน้าเป็นเหนื่อยใจ
ถึงจะคิดอยู่แล้วก็เถอะว่าถึงถามหมอนี่ไปก็ไม่ได้เรื่อง
และสุดท้ายการตัดสินใจถามออกไปก็เสียเปล่า
"ขอบใจที่อุตส่าห์ลำบาก" เด็กชายกล่าวลา
"เฮ้ย~" เฟเนครีบวิ่งไปดักหน้ากาเบรียที่กำลังเดินมุ่งสู่ลิฟต์
"อะไรกัน! นายไม่เชื่อเราะ"
กาเบรียชะงักฝีเท้าหยุดลง มองหน้าชายที่มายืนเกะกะขวางทางเขา
แล้วใช้สายตาตอบแทนคำพูด เฟเนคเห็นดังนั้นก็ยอมแพ้ เปิดปากเล้าความจริงแก่เด็กชาย
"อ๊ะ งั้นชั้นเล่าจริงๆและ"
กาเบรียเปลี่ยนท่ายืนเป็นกอดอกเตรียมรับฟัง
แต่ก็ดันถูกเจ้าเฟเนคจับลากเข้าลิฟต์ซะก่อน เขาจึงตีสีหน้าไต่ถาม
เฟเนคชูนิ้วชี้ขึ้นตรงริมฝีปากพลางส่งเสียง "ชู่" ให้เงียบฟังเขา
"ที่นี่ไม่ได้ ไปฟังห้องชั้น"
ลิฟต์เคลื่อนตัวลงมาอย่างนิ่มนวล ตัวเลขบนหน้าจอ LCD
บอกว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ชั้น 55 ประตูลิฟต์เปิดออกอัตโนมัติให้ผู้ที่โดยสารมากับมันเดินออกไป
เมื่อเสร็จภาระกิจประตูลิฟต์ก็ปิดลง ชายหนุ่มเดินนำหน้ากาเบรีย
แล้วผลักประตูเหนือป้ายหมายเลข 1553 ให้เด็กชายตามเขาเข้าไปข้างใน
แทบไม่น่าเชื่อว่านี่เป็นห้องของชายหนุ่มจอมขี้เกียจแห่งปี
ห้องทั้งห้องดูสะอาดสะอ้านราวกับว่าไม่เคยมีฝุ่นจับ
ข้าวของถูกจัดวางเอาไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
และดังกับว่าเฟเนคอ่านใจเขาออกเพราะชายหนุ่มหัวเราะหึหึภายในลำคอ
"นี่แหละห้องชั้น ไม่ผิดหรอก" เขาว่า
เฟเนคตรงไปยังหัวเตียงของเขา งัดแผ่นกระดานไม้ออกเผยให้เห็นแผงปุ่มหลากสี
ชายหนุ่มเลือกกดปุ่มริมล่างสุดทางซ้ายมือแล้วผังแปรนของทั้งตึกก็โผล่ขึ้นมากลางห้องเป็นภาพสามมิติ
"เอาล่ะ เรามาว่ากันต่อ"
กาเบรียจัดการหาที่เหมาะๆนั่งเตรียมพร้อมรับฟังการกล่าวปราศัยของเฟเนคที่ท่าจะยืดยาว
เด็กชายสังเกตว่าเวลาเอาจริง สีหน้าของคนขี้เล่นจะเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาในทันที
"ตึกของศูนย์ทดลองนั้น แบ่งออกได้ 3 โซนด้วยกัน" ชายหนุ่มว่าแล้วก็เลื่อนไป
กดปุ่มที่อยู่ถัดไปจากปุ่มเดิม แถบสีสามสีปรากฎขึ้นภายในตัวตึกทกลองทันทีที่เขาสัมผัสปุ่มนั่น
"โซน C สีเขียว " เฟเนคเลือกกดปุ่มอีกปุ่มหนึ่ง
ทีนี่โซนสีเขียวขึ้นมาฉายเด่นชัดกลบสีอื่น
"ความปลอดภัย 98%"
กาเบรียพยักหน้าตอบรับอัตโนมัติ เขาชักกระหายอยากจะรู้โซนต่อไปเร็วขึ้น
"โซน B สีเหลือง ความปลอดภัย 30 %" เฟเนคกล่าวต่อ
หัวใจกาเบรียกระตุกวูบ 'จาก 98%ลดมาเหลือเพียง 30%เชียวเราะ'
เด็กชายรีบหันไปขอความเห็นจากผู้อธิบายโดยด่วน เฟเนคจึงกล่าวต่อไป
"ช่วงชั้นที่ 29-1 คือโซนสีเขียว โอกาสรอดมีถึง 98% ถือว่ารักษาการได้หละหลวมที่สุด
ส่วนช่วงชั้นที่นายสามารถเข้าออกได้อย่างอิสระนั่นก็คือช่วงชั้น 60-40 คือโซนสีเหลือง
การคุมกันจะมีมากกว่าโซนเขียวมากเพราะคือช่วงชั้นของศูนย์วิจัย
จะให้การวิจัยลับรั่วไหลออกไปที่อื่นไม่ได้"
เฟเนคเว้นช่วงอธิบายให้กาเบรียมีโอกาสแทรกถามบ้าง
เด็กชายจึงสนองตามที่เฟเนคต้องการ
"แล้วโซนสุดท้ายล่ะ"
เฟเนคเลื่อนมือไปกดปุ่มสีแดงที่ใหญ่ที่สุดตรงกลางแผงปุ่มบังคับการ
โซน A ปรากฎขึ้นด้วยสีแดงหลาจอใหญ่ ชายหนุ่มกล่าวต่อไป
"โซน A สีแดง โอกาสรอด 0%"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น