คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 01 ▷ f i r s t t i m e a g a i n
.. A G A I N ..
FIRSTTIME AGAIN
“สระผมครับ”
เสียงหวานดังขึ้นทำให้ผมต้องหลบสายตาจากลูกค้าตรงหน้า เขาค่อยๆเดินเข้ามาภายในร้านของผมก่อนจะปิดประตูไม้ลงอย่างเก่า
ผมเหลือบไปเห็นคิมจงอิน เพื่อนและหุ้นส่วนของผมที่นั่งอยู่ตรงเคาท์เตอร์มองมาที่ร่างบางตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา
“ผมว่า.. คุณถอดรองเท้าแล้วเปลี่ยนมาใส่สลิปเปอร์ของทางร้านเราก่อนดีไหมครับ เท้าเย็นๆเดี๋ยวคุณจะไม่สบายเอา”
ผมพูดพร้อมกับยิ้มบางๆ ขายของผมค่อยๆก้าวไปยื่นข้างหน้าเขาก่อนที่ผมจะย่อตัวลงไปแก้ปมเชือกรองเท้าคอนเวิสคู่นั้น
“ขอบคุณครับ”
เสียงใสดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่เจ้าตัวจะขยับถอยหลังไปเล็กน้อย ร่างบางนั่งยองลงกับพื้นช้าๆ ก่อนที่นิ้วเรียวจะค่อยๆแก้ปมเชือกรองเท้าด้วยตัวเอง
ผมหัวเราะเบาๆในรำคอ แล้วค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบสลิปเปอร์สีขาวที่วางไว้ข้างๆประตูมากให้คนตรงหน้าก่อนจะลุกขึ้นยืน
ผมมองเท้าเล็กๆของเขาที่กำลังสวมใส่สลิปเปอร์ มันเล็กกว่าเจ้ารองเท้าสีขาวนั้นค่อนข้างเยอะ ผมเอื้อมมือไปข้างหน้าเพื่อจะดึงเขาให้ลุกขึ้น ใบหน้าหวานเงยขึ้นมามองมือของผม ก่อนที่เขาจะค่อยๆยกมือเล็กๆของเขามาวางบนมือของผม ผมออกแรงดึงเพียงเล็กน้อยร่างบางก็ลุกขึ้นมายืนเต็มตัว
“เชิญทางนี้ครับ”
ผมพูดขึ้นก่อนจะเดินนำเขาไปยังมุมเล็กๆสำหรับลูกค้าที่จะสระผม
ร่างโปร่งของเซฮุนค่อยๆเดินนำอีกคนมาตรงเตียงสีครีมสำหรับสระผม เซฮุนเดินไปหยิบผ้าขนหนูสีน้ำตาลอ่อนที่ถูกม้วนใส้ตู้ไม้ไว้อย่างเป็นระเบียบออกมาสองสามผืนก่อนจะเดินมาหยุดอยู่หน้าอ่างอลูมิเนียมเล็กๆ เขามองแผ่นหลังบางที่หน้าถนุถนอมของคนตรงหน้า มือใหญ่ค่อยๆวางผ้าขนหนูลงบนบ่าของผู้ที่เป็นลูกค้าก่อนตามด้วยผ้ายางสีเดียวกับเตียงที่ร่างบางนั่งอยู่ เซฮุนค่อยๆรั้งไหล่เล็กให้ลงนอนบนเตียงนั้น
แพขนตาหนาของร่างบางทำให้ดวงตาคมของเซฮุนไม่สามารถละสายตาไปจากวงหน้าหวานนั้นได้เลย ร่างโปรงเปิดน้ำเบาๆก่อนจะนำมือไปอังเพื่อวัดอุณหภูมิของน้ำ เขาปรับเครื่องทำน้ำอุ่นข้างๆเตียงอีกนิดหน่อยก่อนจะนำฝักบัวไปจ่อที่ผมสีอ่อนของอีกคน
“จริงๆแล้ว ก่อนจะสระผมด้วยแชมพูควรจะใช้น้ำที่ค่อนข้างอุ่น..”
“......”
“มันจะทำให้สิ่งสกปรกหลุดออกมาได้ง่าย”
แม้จะไม่มีเสียงหวานคอยโต้ตอบ แต่เซฮุนก็ยังคงเลือกที่จะพูดต่อไป
“แต่ผมรู้ คุณคงไม่ชอบน้ำอุ่นซักเท่าไหร่”
ร่างเล็กหัวเราะเบาๆในลำคอ นิ้วเรียวของเซฮุนค่อยๆลูบไปตามเส้นผมเล็กของร่างบาง มีบางครั้งที่นิ้วเรียวทำหน้าที่คอยกั้นระหว่างเส้นผมกับใบหน้าขาวเพื่อไม่ให้น้ำไหลไปเลอะเทอะวงหน้าสวยนั้น
เซฮุนละมือจากหัวเล็กๆของร่างบางเพื่อไปปิดวาวน้ำ ก่อนที่จะบีบแชมพูกลิ่นพีชลงในผ่ามืออีกข้างของตนเอง เขาขยี้แชมพูจนเกิดฟองแล้วจึงนำฟองนิ่มไปชโลมจนทั่วผมเส้นเล็ก
บริเวณเล็กๆของร้านสไตล์วินเทจนี้คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นอ่อนๆของพีช กลิ่นหวานผสมกับกลิ่นเปรี้ยวของผลไม้ชนิดนี้ช่วยให้ความคิดฟุ้งซ่านของใครหลายๆคนจางหายไป ..
แต่ไม่ใช่กับเขาทั้งสองคน....
เสียงหยาดฝนกระทบกับพื้นถนนหน้าร้านดังอย่างต่อเนื่องราวกลับแทนที่คำพูดมากมายที่ใครบางคนอยากจะพูดมันออกมา
เซฮุนล้างฝองนุ่มออกจากเส้นผมของร่างบาง เมื่อเขาแน่ใจว่ากลุ่มฟองทั้งหมดถูกน้ำเย็นๆชะล้างออกไปแล้ว เขาจึงค่อยๆนำครีมนวดกลิ่นเดียวกันกับแชมพูออกมาชโลมจนทั่วเส้นผม
“คุณเป็นคนผมเส้นเล็กแล้วก็ตรง .. คุณน่าจะลองใช้จะลองใช้แชมพูที่ช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับเส้นผมดูนะครับ .. มันจะได้ไม่ชี้ฟูน่ะ”
เสียงแหบของเซฮุนเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งยิ้มบางๆ เล็บที่ยาวออกมาเพียงเล็กน้อยของเขาค่อยๆเกาหนังศรีษะของร่างเล็กอย่างเบามือ นิ้วเรียวกดลงที่ขมับของอีกคนเบาๆก่อนจะหมุนวนเผื่อให้อีกคนรู้สึกผ่อนคลาย
“ถ้าคุณใส่ใจดูแลเส้นผมของคุณอีกซักนิด .. คุณจะมีเส้นผมที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องอิจฉาเลยหล่ะ..”
ดวงตากลมของคนที่นอนอยู่เปิดขึ้น ก่อนจะจ้องเข้าไปในดวงตาเรียวของอีกคนอย่างตัดพ้อ ริมฝีปากสีชมพูนั่นค่อยๆเปิดออกพร้อมกับประโยคที่ทำให้ทั้งคู่ตกอยู่ในภวังค์..
“คนเราเวลามีสิ่งดีๆอยู่กับตัว..แต่มักมองไม่เห็นค่าของมัน ...
แล้วจะมาใส่ใจทำไมกันในวันที่สายไป...”
Flash Back
ผมมองกระเป๋าเดินทางสีคาราเมลใบใหญ่ของผมที่ตอนนี้มันกินพื้นที่ไปกว่าครึ่งของบล็อกที่นั่งเหลี่ยมๆบนรถไปสีแดง ก่อนจะขยับตัวเพื่อคลายความเมื่อยล้าแล้วค่อยๆพิงตัวลงกับเบาะนุ่ม..
ต้นไม้นานาชนิดด้านนอกหน้าต่างผ่านหน้าผมไปต้นแล้วต้นเล่า ทั้งพุ่มเล็กๆและลำต้นใหญ่ๆ บ้างก็ลู่ตามแรงลม บ้างก็ชุ่มไปด้วยหยาดน้ำฝน ผมค่อยๆยกกล้องตัวใหญ่ของผมที่ถูกคล้องไว้ที่คอขึ้นมาบันทึกภาพบรรยากาศแปลกตาไปเรื่อย บ้านเรือนทรงวี่เหลี่ยมเตี้ยบ้างสูงบ้างที่ตั้งเบียดเสียดกันบ้างก็ปลีกตัวตั้งอยู่บนเนินเขาทำให้ผมรู้สึกตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก .. คึคึ ก็บ้านที่เกาหลีมันไม่เป็นแบบนี้นี่นา :P ผมเลื่อนมือขึ้นมาปลดผ้าพันคอสีเลือดนกแสนนุ่มที่คุณม๊าเป็นคนตลงมาถักเพื่อผมเลยนะ อุณหภูมิในรถไฟนี้อุ่นกว่าข้างนอกเยอะ..
ผมได้แต่ปล่อยให้สายตาของผมทอดมองออกไปไกล....
นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่ผมเลื่อนนิ้วอยู่บนจอโทรศัพย์สีขาวในมืออย่างเบื่อหน่าย รูปของผมกับเพื่อนๆมากมายถูกเลื่อนผ่านสายตาผมไป ทั้งรูปภาพที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและรูปภาพที่เต็มไปด้วยหยดน้ำตา..
ราวกับผ่านมาซักสองสามปีได้ที่ผมได้ถ่านรูปภาพพวกนี้ขึ้นมา แต่เปล่าเลย.. มันเพิ่งถูกถ่ายขึ้นเมื่อ23 ชม.ที่แล้วเอง
อ่า... จะวันนึงแล้วสิ่นะที่ผมได้จากครอบครัว เพื่อนๆ และประเทศที่ผมได้พักอาศัยมาตลอด 18 ปี.. มันอาจฟังแล้วดูดีเวลาที่ใครๆต่างชื่นชมเวลาที่พวกเขาได้ยินว่าคุณสามารถสอบชิงทุนนักเรียนแลกเปลี่ยนไปต่างประเทศได้..
แต่สำหรับผมแล้วมันไม่ใช่เลยสักนิด..
ผมไม่ได้ดีใจกับมันเลยแม้แต่น้อย ..
ผมรู้ตั้งแต่วันแรกที่ผมตกลง
ตอบรับทุนหลังจากที่ได้รับการติดต่อจากทางโครงการแล้ว..
ทุกๆก้าวของผมต่างจะต้องเต็มไปด้วยอุปสรรค์ขวากหนาม
บนบ่าที่ถูกสะพายไว้ด้วยเป้ที่เต็มไปด้วยความหวังของใครหลายๆคนช่างหนักอึ้งเหลือเกิน
แค่คิดมันก็เหนื่อยแล้วใช่ไหมครับ..
แต่ก็นะ.. ผมคงต้องลองกับมันดูซักครั้ง
อันยอง เยอรมันนี :)
TBC
THE?
ความคิดเห็น