ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi]ฉันนี่แหละ แอนตี้เกาหลี!

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่1 ยิ่งเกลียด ยิ่งเจอ!

    • อัปเดตล่าสุด 24 พ.ค. 56


    บทที่ 1

    ห๊า!!! นี่แม่ก็บ้าไปตามพวกเด็กไร้สาระนั่นด้วยหรอ!”

    กลางมื้อเช้าที่เรียงรายไปด้วยอาหารฝีมือแม่ ผมถึงกับกลืนไม่ลง เพราะแม่บอกจะไปไอ้คอนเสิร์ตเกาหลี.. ให้ตายเถอะ มันเป็นไวรัสแน่ๆ!

    แม่ได้บัตรฟรีมาตั้งสองที่แน่ะ ลูกก็ควรจะไปกับแม่นะ พ่อเค้าไม่ว่างพอดีเลยย

    แม่ผมยิ้มแฉ่งพร้อมชูบัตรบัตรสีชมพูแหววสองใบขึ้นมา โดยไม่ดูสีหน้าผมเลยสักนิด

    ผมยอมไปเป็นอาหารหมู ดีกว่าไปคอนเสิร์ตนั่น แม่ก็รู้นี่ว่าผมไม่ชอบอ่า

    ผมทำสายตาวิงวอน

    แม่ล่ะ ไม่เข้าใจลูกจริงๆ เค้าไปทำอะไรให้ลูกเจ็บช้ำห้ะ

    ทำสิแม่ เมื่อวานแฟนคลับมัน ยังตบหน้าลูกชายแม่อยู่เลย

    แหม ลูกชายแม่คงไปทำอะไรเค้าก่อนน่ะสิ เอาเถอะ แม่เป็นแม่ คำของแม่คือคำขาด นอกจากแม่จะไปแล้ว แม่จะลากคอแกไปด้วย ^^”

    ไม่มีทาง!!!”

    ผมค้านหัวชนฝา 

    นี่คุณ แกล้งลูกแบบนั้นมันไม่ดีนะ

    และแล้วเสียงนุ่มๆของพ่อผมก็ดึงความสนใจของผมและแม่ไป

    แหม ก็มันน่าหมั่นไส้นี่

    ที่จริงพ่อจะไปกับแม่เค้าเองล่ะ ฮ่าๆๆ

    พ่อหันมาพูดกับผมพร้อมหัวเราะร่า ...ครอบครัวชาวร๊อคที่ผมวาดฝันไว้ พังทลายไม่เป็นชิ้นดีเลย ฮึ่ยย!

    ผมไปเรียนล่ะ พ่อกับแม่นี่ไร้สาระจริงๆ

    ผมคว้ากระเป๋าสะพายที่โต๊ะก่อนจะวิ่งออกไป พร้อมเสียงตามหลัง

    นี่เป็นคำที่เค้าใช้พูดกับพ่อหรอยะ เจ้าลูกบ้า!”

    ผมรีบใส่รองเท้านักเรียน ที่ถูกตัดจนขาดลุ่ยเพื่อความร๊อค และวิ่งออกไปด้วยความรวดเร็ว ก่อนที่แม่จะตามมาฟาดผมทัน

    เฮ้ยยย ไอ้กร

    เสียงไอ้สตังค์ที่ยืนโบกไม้โบกมืออยู่อีกฝั่งตรงข้ามของถนน ผมชูมือขึ้นเป็นเชิงทักทาย ก่อนมันจะวิ่งมาหาผม ...เราไปโรงเรียนด้วยกันทุกวันครับ เพราะว่าบ้านใกล้ๆกัน และโรงเรียนเราก็ใกล้บ้านพวกเราด้วย ทำให้เราไม่ค่อยไปเรียนสายสักเท่าไหร่ ...โรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนเอกชนชื่อดังครับ แถมแพงหูฉี่ เพราะเป็นโรงเรียนแห่งเดียวที่มีสอนวิชาศิลปะดนตรี การแสดง ที่ได้มาตรฐานสากล ผมถึงดั้นด้นมาเรียนให้ได้ เพราะผมมีความฝัน ฝันที่อยากจะเป็นมือกีต้าร์วงร๊อคที่มีชื่อเสียง!

    นี่ ได้ยินว่ามีนักเรียนแลกเปลี่ยนจากเกาหลี จะเข้ามาเรียนโรงเรียนเราด้วยล่ะว่ะ

    ผมได้ยินถึงกับหยุดเดิน

    นี่ชีวิตกูจะเจอ แต่คำว่า เกาหลี เกาหลี เกาหลี หรอวะเนี่ยย ช่างแม่งเถอะ.. อย่าให้อยู่ห้องเดียวกับเราก็พอ!”

    .

    .

    .

    .

    .

    สวัสดีครับ ผม ยู แทซัน จากวันนี้ผมจะมาเรียนที่นี่ ในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยนในสาขาวิชาการแสดงและร้องเพลง ผมสามารถพูดไทยได้ เพราะผมมีผู้อุปถัมภ์เป็นคนไทยครับ ..ผมถึงได้มาที่นี่ ฝากตัวกับทุกคนด้วยนะครับ ^^”

    อ๊ายย..น่ารักจังงงงงงง >O<’

    ดูรอยยิ้มเค้าสิ เหมือนจะทำให้ฉันละลายได้เลยอ้า

    ขอสมัครเป็นแฟนคลับเลยได้มั้ยเนี่ย กรี๊ดดดด

    .

    .

    นี่มันอะไรกันฟะ!!!!!!!!

    ฮ่าๆๆ กูว่าที่เค้าว่ากันว่า ยิ่งเกลียดยิ่งเจอเนี่ย ท่าจะจริงแล้วว่ะ

    ไอ้สตังค์ตบไหล่ผมที่นั่งอึ้งกับโชคชะตา ที่ราวกับว่าเล่นตลกกับผม

    เอาเถอะ จะเกลียดมันตั้งแต่ตอนนี้ มันก็เร็วเกินไป ไม่ต้องไปยุ่งกับมันก็พอ

    ผมถอนหายใจพร้อมเตรียมฟุบโต๊ะ

    แทซัน เธอไปนั่งข้างนายกร ตรงนู้นน แทนนายสตังค์แล้วกันนะ

    ผมได้ยินอย่างนั้นถึงกับเด้งตัวขึ้นมาแทบไม่ทัน

    จารย์ๆๆๆ ผมไม่เอาหรอกนะ!! ทำไมต้องเป็นผมด้วยล่ะ!”

    จริงด้วยค่ะ หมอนั่นเกลียดเกาหลีจะตายไป ให้เค้านั่งข้างหนูก็ได้นะคะ

    และก็มีเพื่อนร่วมห้องผู้หญิงแทรกเสริมขึ้นมา ผมพยักหน้าเห็นด้วยรัวๆ

    นี่นายกร ครั้งก่อนฉันให้นายเขียนรายงานเกี่ยวกับดนตรีมา แล้วเธอมาบ่นเรื่องเกาหลีให้ครูฟังทำไมยะ นี่ถือเป็นการทำโทษแล้วกัน!”

    แต่!”

    ไม่มีแต่ เธอจะได้หัดกระชับมิตรและเลิกอคติแบบนั้นสักที เอาล่ะ แทซันไปนั่งที่ ครูจะเริ่มสอนแล้วนะ เปิดหน้า24..

    อะไรกัน อะไรกัน อะไรกั๊น! ไม่ตลกนะเฟ้ย! ขณะที่ผมกำลังพร่ำเพ้อ ผมก็เหลือบไปมองไอ้เกาหลีนั่น ..ท่าทางแบบนี้ ..ตัวเล็กๆติ๋มๆแบบนี้ ท่าจะคุมไม่ยาก ไว้ค่อยขู่มันให้ไปเปลี่ยนที่นั่งกับไอ้สตังค์ก็ได้

    ฝากตัวด้วยนะครับ ^^”

    มันทักทายพร้อมด้วยรอยยิ้ม.. ผมไม่พูดอะไรแต่เบือนหน้าหนี ยิ้มอะไรของมันนักหนาวะ

    คิดว่าฉันอยากนั่งใกล้นายรึไง เจ้าโง่.

    หืมม.. เสียงอะไรแว่วๆ มาจากคนข้างๆ

    เมื่อกี๊นายว่าอะไรนะ

    คิดว่าฉันอยากนั่งใกล้นายรึไง เจ้าโง่ ^^”

    คราวนี้ ทั้งภาพเสียงเต็มสองหูและสองตา

    นายว่าใครโง่ฟะ!”

    ผมกระชากคอเสื้อ หมอนั่นขึ้นมา แต่มันกลับทำหน้าไม่รู้สึกรู้สาอะไรสักนิด

    แล้วเห็นฉันพูดกับใครล่ะ ไอ้โง่ ^^”

    ไอ้ !@#$%^&*)(*&^%$#

    นี่สองคนนั้นทำไรกันน่ะ!”

    เสียงอาจารย์ทำให้ผมต้องจำต้องปล่อยคอมันออก

    เปล่าครับ เค้าแค่หวังดีจัดคอเสื้อให้ผมน่ะครับ ^^”

    มันตอบ... ผมหันหน้าขวับไปหามัน แต่มันกลับยิ้มให้ผม !??  โว้ยยยยย กวนประสาทชะมัดเลยเว้ยยยยยย !

    ผมต้องข่มอารมณ์ทั้งชั่วโมงเรียนเพื่อไม่พลั้งมือฆ่าคนข้างๆ ..

    นี่นาย เลิกเรียนพาฉันไปดูโรงละครของที่นี่หน่อยสิ

    อยู่ๆมันก็พูดขึ้นมาขณะที่ผมฟุบหลับอยู่บนโต๊ะ ..ผมค่อยๆเอาหน้าขึ้นก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงรำคาญ

    ทำไมฉันต้องพานายไปด้วย

    เพราะนักเรียนใหม่อย่างฉันขอไง

    แล้วอะไรที่ทำให้นายคิดว่าฉันจะพานายไป..หา? ฝันไปเถอะ ไปหาคนอื่นไป

    ผมตอบปัดรำคาญก่อนจะฟุบลงบนโต๊ะต่อ...

    .

    .

    .

    ในที่สุดก็ถึงเวลาเลิกเรียนที่ผมถวิลหาจนได้ ผมบิดขี้เกียจก่อนจะจัดแจงหนังสือลงกระเป๋า เตรียมตัวกลับบ้าน

    พาฉันไปได้รึยัง

    ผมมองขึ้นไปตามต้นเสียง.. ก็พบไอ้เกาหลียืนทำหน้าใสอยู่

    ฉันบอกว่าไม่พาไปไง ออกไปได้แล้ว เกะกะทางฉัน

    ผมผลักไหล่มันออกเพื่อนให้หลีกทางผม น่ารำคาญชะมัด

    นี่.. ท่าจะเป็นของสำคัญนะ

    ก่อนที่ผมจะเดินออกจากห้องเรียน มันก็ดึงให้ผมหันกลับไปดู

    เห้ย! ปิคกีต้าร์ฉัน เอาไปตอนไหนฟะ

    ผมเห็นไอ้เกาหลียืนยิ้ม พร้อมในมือที่ถือสร้อยที่มีปิคกีต้าร์ห้อยต่องแต่งอยู่

    ถ้าฉันหักมัน นายก็ยังจะไม่พาฉันไปหรอ

    มันทำท่าจะหักปิคกีต้าร์ผม

    โอเคๆๆๆ ฉันพาไปแล้ว แค่พาไปก็พอใช่มั้ย!!”

    ผมจำใจต้องยอมมันจนได้ แสบนักนะ!

    เดินนำไปสิ ถึงแล้วฉันจะคืนให้

    โว้ยยยยยย พระเจ้า!!  

    ..โรงเรียนผมค่อนข้างจะกว้าง โรงละครที่มันอยากไป ตั้งอยู่ตรงข้ามกับสนามฟุตบอล ผมกับไอ้เกาหลีเดินลัดสนามไปเรื่อยๆ ซึ่งการเดินกับมันทำให้เวลาเดินช้าขึ้นเยอะเลย

    ทำไมต้องเป็นฉันด้วยวะ คนอื่นอยากพานายไปมีตั้งเยอะตั้งแยะ

    และผมก็ทำลายความเงียบลงพร้อมเดินเตะก้อนหินตามสนามไปเรื่อยๆ

    ฉันอยากได้คนพาไปเฉยๆ ไม่ใช่คนมาติดหนึบ น่ารำคาญ และอีกอย่าง ฉันชอบเห็นคนโง่ดิ้นพล่าน ซึ่งนายก็ทำได้ดี ^^”

    นาย....! เอาเถอะ ปากอย่างนาย ฉันจะไม่ถือเอามาเป็นอารมณ์แล้วกัน

    ผมก้มหน้าเตะก้อนหินต่อไป เมื่อมันพูดคำว่าโง่บ่อยกว่าชื่อผม(ซึ่งมันยังไม่รู้จักชื่อผมด้วยซ้ำ) ผมก็คงต้องชินแล้วล่ะ ไม่อยากทำร้ายคนอ่อนแอ หึ!   ว่าแต่ ...หมอนี่เป็นคนยังไงกันแน่ รอยยิ้มนั่นกับคำพูดขัดกันจนหน้าหงุดหงิด ปั้นหน้ายิ้มตลอดเวลาแบบนั้น ไม่เหนื่อยบ้างรึไงฟะ

    แล้วทำไมถึงอยากมาโรงละครนัก

    มันเรื่องของฉัน

    ก็ถามไปงั้น ฉันไม่อยากรู้เรื่องของนายหรอกนะ

    ผมขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับหมอนี่จริงๆ - - ... ตอนนี้ใจผมไปอยู่ที่กีต้าร์แล้ว วันนี้ผมมีเล่นที่ผับที่มีสาวสวยที่ผมแอบชอบร้องเพลงที่นั่น แค่คิดก็อารมณ์ดีแล้ว คึคึ

    ยิ้มอะไรของนาย น่าขนลุกชะมัด

    เสียงเรียบๆของคนข้างทำความคิดผมแตกสลาย ..อย่างนี้ล่ะ ผมถึงได้เกลียดเกาหลี!

    ชั่งฉันเถอะน่า! ....ถึงโรงละครแล้ว

    ในที่สุดเราก็มาหยุดที่หน้าโรงละครขนาดใหญ่ ที่ภายนอกถูกแต่งด้วยสวนสวยอย่างสวยงาม ...ไอ้เกาหลียืนจ้องไม่วางตา

    ฉันกลับล่ะ เอาสร้อยฉันมา

    ผมแบมือ แล้วมันก็เอาสร้อยมาวางให้ผมโดยดี ผมได้รับมาก็เดินหันหลังกลับทันที ..แล้วผมก็ชำเลืองเห็น.. มันยิ้ม.. ยิ้มที่ไม่เหมือนทุกครั้ง มันไม่จอมปลอม ....มันดีใจอะไรของมันขนาดนั้นนะ

    ชั่งเหอะ ผมเดินกลับโดยไม่คิดอะไรต่อ น้อง จีจี้จ๋า พี่จะไปหาแล้วนะ !

    .

    .

    .

    .

    .

    ผมยืนอยู่หน้าโรงละคร ที่พ่อกับแม่เจอกันครั้งแรกแล้วนะครับ ...

    แล้วน้ำใสๆก็รินไหลออกจากตาของผมหลังจากพยายามจะกลั้นมัน.. สิ่งที่ผมพอจะทำได้ตอนนี้ คือสืบสานความฝันของพ่อและแม่ ถึงการมีชีวิตอยู่แค่เพียงคนเดียว มันจะทรมานก็ตาม...

    พ่อครับ..

    แม่ครับ..

    ให้ผมไปอยู่ด้วยได้มั้ยนะ....


    ---------------------------------------------------------------

    พรุ่งนี้ประมาณสามทุ่มจะมาต่อตอน2นะ ขอกำลังใจหน่อยนะคะ T^T

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×