ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF SEOHYUN&ETC.

    ลำดับตอนที่ #2 : S E O & N : : Love U, Senior FIN.

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ค. 56


    Duck- ร้านค้าแจกธีมบทความ Fly

    Love U, Senior

    รักนะครับ ..คุณรุ่นพี่


     


    โปรดหันกลับมาอย่างน้อยสักครั้ง

    วันนี้ฉันจะรอต่อไปอย่างนี้

    เพียงหนึ่งคำในใจที่ฉันไม่สามารถเก็บไว้ได้

    ฉันรักเธอ



     

     

                สวัสดีครับ เปิดตัวอย่างร่าเริงและเริงร่ามากมาย ตอนนี้คุณอยู่ในการดำเนินเรื่องของผม ผมมีชื่อเต็มๆว่า ชาฮากยอล ชื่อในวงการของผมก็คือนายเอ็น ลีดเดอร์แห่งวง VIXX ที่เพิ่งเดบิ้วท์ได้ไม่นานมากนัก ผมเป็นคนแบบนี้(แบบไหน) ..น่ารักแบบนี้(=_=) ฮ่ะๆๆ เอาเป็นว่าผมน่ะเป็นคนเปิดเผยนะ ผมมีผู้หญิงในอุดมคติอยู่คนนึงซึ่งพวกคุณก็คงรู้กันอยู่แล้วว่าคือ นางฟ้ามักเน่เจ้าหญิง(เอามาให้หมด)แห่งโซนยอชิแด หรือก็คือซอฮยอนนั่นเอง

     

                ผมชอบผู้หญิงสวย หวาน เรียบร้อย และเป็นคนดูแลตัวเอง เล่นดนตรีเก่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นเปียโน และแน่นอน ซอฮยอนซอนเบเข้าเครือข่ายทั้งหมดที่ผมว่ามาเลย คนอะไรไม่รู้ ..เป๊ะอ่ะ >< และวันนี้ผมก็ได้เจอเรื่องที่ไม่คาดฝัน เพราะผมได้เจอกับเธอแบบตรงๆเลยล่ะ จากเดิมก็เคยเจอกันตามเวทีบ้าง หลังเวทีบ้างนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมากมาย แต่วันนี้ผมได้ร่วมโต๊ะอาหารกับเธอเลยนะ ขอเล่าย้อนหลังไปหน่อยแล้วกัน

     

                วันนี้เป็นวันแสนว่างของผม ผมก็เลยนัดเพื่อนในวงการที่ค่อนข้างจะสนิทออกมาทานอาหารกันข้างนอก ซึ่งก็คือมินฮยอกบีทูบี เยวอนจิวเวอลี่ และยัยอึนยองทูเอ็กซ์

     

                อ๊ะๆๆ ขอบอกก่อนเลยนะว่าความสัมพันธ์ของผมกับอึนยองน่ะไปไกลสุดแค่คำว่าพี่น้องเท่านั้นจริงๆ แม้จะมีหลายคนที่จิ้นคู่เราก็ตาม หรือบางคนก็หาว่าผมเป็นผู้ชายเลว อันที่จริงไม่ใช่นะครับมันเป็นสคริปต์รายการเขาน่ะ เข้าเรื่องเลยดีกว่า

     

     

                เมื่อชั่วโมงที่แล้ว

     

                “เดี๋ยวอาทิตย์หน้าต้องไปเล่นคอนที่ประเทศไทย ว่างไหม ไปด้วยกันดิ”

     

                “นี่คุณมินฮยอกครับ ผมไม่ได้เป็นคนว่างงานขนาดนั้นนะครับ ผมก็เป็นคนมีการมีงานทำเหมือนกัน”ผมพูดแล้วชกไหล่มินฮยอกอย่างหมั่นไส้ “อย่าลืมซื้อของมาฝากนะ”

     

                “ใช่ๆ อยากได้ไอ้อะไรนะ ..ยาหม่องตราเสือเหรอ เห็นเขาบอกว่าใช้ดีอ่ะ”เยวอนนูนาพูดแล้วยิ้มแก้มพอง

     

                ผมกินอาหารต่อเงียบๆปล่อยให้ 2 คนคุยกันต่อไป นี่เป็นร้านอาหารที่ไม่ใหญ่มากนัก แต่คนกลับแน่นร้าน แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีคนสนใจพวกเรามากนัก มากนักไม่ได้หมายความว่าไม่มีนะครับ มีอยู่บ้าง ..นิดนึง

     

                “โอป้าๆๆๆๆ ออนนีๆ”

     

                “อึนยองๆ ใจเย็นๆ วิ่งทำไมเนี่ย”เยวอนนูนาพูดแล้วตบไหล่อึนยองเบาๆ

     

                ผมขมวดคิ้วแล้วส่ายหน้าอย่างระอา ก็เป็นแบบนี้ไงล่ะ ม้าดีดกะโหลกชะมัดเลย “เป็นอะไรอึนยอง”

     

                “เอ็นโอป้า มินฮยอกโอป้า เยวอนออนนี รู้ไหมฉันเจอใคร >//<

     

                “ใคร?”มินฮยอกถามแล้วหันมากระซิบกับผม “หนุ่มๆแหง”

     

                “เหอะๆ”ผมหัวเราะในลำคอแล้วมองอึนยอง “นี่ ค่อยๆก็ได้ เจอใคร ทำไมต้องแตกตื่นขนาดนี้”

     

                “ฉันเจอ ฉันเจอ ..จินอุนซอนเบล่ะ”

     

                “ทูเอเอ็ม?”

     

                “ใช่ๆๆๆๆ”อึนยองพยักหน้ารัวๆ ผมยักไหล่แล้วกินต่ออย่างไม่ค่อยใส่ใจ “แต่ไม่ได้แค่นั้นนะโอป้า!!!

     

                “อะไรอีก”ผมถามแล้วมองอึนยองที่เขย่าแขนผม “มาทั้งวงรึไง”

     

                “ไม่ใช่สักหน่อย ฉันเจอจินอุนซอนเบมากับซอฮยอนซอนเบต่างหาก”

     

                พรืดดดดดดดด

     

                ผมพ่นน้ำออกมาอย่างตกใจ มินฮยอกเอื้อมมือมาตีหัวผมแล้วโวยวาย “แหยะ ทำอะไรของนายเนี่ยเอ็น เต็มแขนฉันเลย”

     

                “ขอโทษๆ”ผมพูดแล้วมองหน้าอึนยอง “เธอบอกว่าเจอใครด้วยนะ”

     

                “จินอุนซอนเบกับซอฮยอนซอนเบ ตอนนี้พวกเขากำลังถ่ายรูปกับแฟนคลับอยู่นอกร้าน เดี๋ยวคงตามเข้ามา”อึนยองพูดแล้วมองหน้าผมแซวๆ “ฉันชวนมานั่งโต๊ะกับเราด้วยล่ะเอ็นโอป้า อย่าลืมรางวัลนะ”

     

                “-/////- บะบ้าไปแล้ว”

     

                ให้ตายเถอะ นี่ผมกำลังจะได้เผชิญหน้าแล้วเหรอเนี่ย ขอทำใจก่อนได้ไหมอ่ะ

     

                “ทางนี้ค่าทางนี้”

     

                ผมสะดุ้งเฮือกแล้วมองอึนยองที่โบกมือร่าเริงซึ่งนั่นก็หมายความว่าเธอกำลังใกล้เข้ามาแล้ว ผมก้มหน้ามองจานข้าวและไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นเลย ให้ตายเถอะ เมื่อวานผมเพิ่งไปอัดรายการวิทยุและประกาศออกไปกลางรายการเลยว่าผมชอบเธอมากแค่ไหน ต้องโทษฮงบินจริงๆที่ยุผม อ๊า แล้วแบบนี้ผมจะมองหน้าเธอตรงๆได้ยังไง ถ้าเธอยังไม่ได้ฟังมันก็ดีไป แต่ถ้าเธอฟังแล้วล่ะ

     

                =/////= อ๊ากกกกกก เขินวุ้ย

     

                “หวัดดีครับๆๆ”เสียงผู้ชายทักซึ่งก็คงเป็นจินอุนนั่นล่ะ หมดเสียงทักก็ตามด้วยเสียงลากเก้าอี้ ที่ว่างยังมีอยู่ข้างๆผม ผมแอบเหล่มองขึ้นไป จินอุนนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามผมข้างกับมินฮยอก ซึ่งนั่นก็หมายความที่ว่างข้างๆผมจะต้องเป็นของ

     

                “สวัสดีค่ะ”

     

                เสียงหวานใสดังขึ้นพร้อมกับร่างบางที่นั่งลงข้างๆผม ผมมองอย่างอึ้งตะลึง ใบหน้าที่ไร้เมคอัพแต่ยังคงน่ารักน่าเอ็นดูของเธอทำให้ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ เธอทักทายพวกเราแล้วยิ้มให้กับทุกคน และสุดท้ายก็มาหยุดอยู่ที่ผม

     

                “สวัสดีค่ะ”

     

                “อะ เอ่อ ครับๆๆๆๆ”ผมพูดแล้วยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมดแก้ว ผมกำลังจะตายอยู่แล้วนะ ใครก็ได้ช่วยผมที

     

                “ขอรบกวนโต๊ะด้วยนะครับ พอดีโต๊ะไม่ว่างเลย”

     

                “ไม่เป็นไรค่ะจินอุนซอนเบ พวกเรายินดี”เยวอนนูนาพูดแล้วสะกิดผม “เป็นอะไรของนายน่ะเอ็น”

     

                “เอ็นโอป้าเขาก็อะ.. อุ๊บ”

     

                ผมเอื้อมมือไปปิดปากอึนยองทันทีก่อนที่เด็กคนนี้จะพูดอะไรออกมา ผมใช้สายตาข่มขู่แล้วส่ายหน้าช้าๆ

     

                “โอ๊ะ นี่ 2 คนปิ๊งกันนอกจอปะเนี่ย”จินอุนซอนเบพูดแล้วชี้พวกเราอย่างแซวๆ

     

                ผมส่ายหน้าแล้วหัวเราะแห้งๆ “ก็เป็นพี่น้องกันแหละครับ”

     

                “ไม่ต้องสุภาพก็ได้ ฮยองแก่กว่าผมนะ แต่อันที่จริง ก็ห่างกันไม่กี่เดือนเน๊อะ แต่จะว่าไปก็เกือบปีนะ ผมต้องเรียกฮยองไหม”

     

                “ไม่ต้องเรียกฮยองก็ได้”ผมพูดแล้วพยักเพยิดกับมินฮยอก “จริงไหม”

     

                “อ่า ใช่ๆๆ”มินฮยอกพยักหน้าแล้วมองที่คนข้างตัวผม “คุณซอฮยอน วันนี้ว่างเหรอครับ”

     

                “อ่อ ก็ไม่เชิงค่ะ ตอนนี้เป็นเวลาพักเลยออกมาทานข้าว เดี๋ยวก็ต้องกลับไปซ้อมต่อแล้วค่ะ”เธอพูดอย่างนอบน้อมแล้วหันมามองผมกับอึนยอง “ฉันดูรายการพวกคุณด้วยนะคะ”

     

                “ครับ?”

     

                “ช่วงนั้นฉันว่างน่ะค่ะก็เลยมีโอกาสได้เปิดดู คุณเอ็นดูใจร้ายกับอึนยองมากเลยนะคะ”

     

                “ใช่ๆๆๆ ใช่ไหมล่ะคะ ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้..”

     

                “อึนยอง”

     

                คราวนี้ไม่ใช่เสียงผมนะ แต่เป็นเยวอนนูนากับมินฮยอกต่างหากที่หยุดเด็กคนนี้พร้อมๆกัน

     

                “ชิ อะไรกันก็ไม่รู้”อึนยองเบ้ปากแล้วหันไปมองจินอุนแทน “โอป้าคะ ทำไมดูเหมือนกระเป๋าหนักๆเลยล่ะ”

     

                “อ้อ ขอบใจนะอึนยองที่ช่วยพูด”จินอุนพูดแล้วดีดตัวขึ้นหยิบกระเป๋ามาเปิด “ก็ซอฮยอนน่ะสิ เห็นว่าพี่กำลังจะไปอัดราย wgm เลยยัดวิตามินมาเต็มสูบเลย”

     

                “จินอุน ฉันเป็นห่วงสุขภาพนายต่างหาก”ซอฮยอนพูดแล้วตีแขนจินอุน

     

                ผมมองการกระทำของคนทั้งคู่แล้วรู้สึกอิจฉาอยู่ลึกๆ เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าซอฮยอนเป็นคนค่อนข้างจะเก็บตัว เธอไม่สนิทกับใครง่ายๆแล้วยิ่งเป็นผู้ชาย แต่กับจินอุนคนนี้ ดูเหมือนจะได้ความไว้ใจ และความสนิทสนมจากซอฮยอนไปมากเลยล่ะ

     

                ผมจะมีโอกาสแบบนั้นบ้างไหม

     

                “นี่ๆๆๆเอาไปแบ่งกันนะ”จินอุนพูดแล้วยื่นกระปุกวิตามินมาที่พวกเราแต่ละคน “มันดีต่อสุขภาพ คุณแม่เขาบอกมา”

     

                “มันจะดีเหรอ”เยวอนนูนาพูดแล้วมองหน้าซอฮยอนอย่างเกรงใจ

     

                “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันมีอีกเยอะเลย จินอุนน่ะเป็นพวกบ้าพลัง บำรุงแต่ข้างนอก แต่ไม่ค่อยชอบกินวิตามิน”ซอฮยอนพูดแล้วยิ้มเป้นมิตรให้พวกเราทุกคน

     

                ผมมองกระปุกวิตามินในมือแล้วแอบเหล่มองหญิงสาวข้างๆ .. ผมสัญญาว่าผมจะกินวิตามินทุกวันเลยล่ะคร้าบบบบบบบ

     

                “ทำไมเอ็นไม่ค่อยพูดเลยวะ เงียบกริบไปเลยแฮะ”

     

                ผมแอบกระทืบเท้ามินฮยอกจากใต้โต๊ะ ทั้งๆที่มันก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าผมเขินมากแค่ไหน ยังจะมาแหย่อีก และนั่นไง สายตาของจินอุนและซอฮยอนทิ่มผมแล้วอ่ะ T^T “เอ่อ ..มะ ไม่รู้จะพูดอะไรน่ะ”

     

                จินอุนปรบมือดังๆ 3 ครั้งแล้วชี้ผม “เออใช่!!

     

                “จินอุน เสียมารยาท ชี้หน้าได้ไง”ซอฮยอนพูดแล้วตีมือจินอุน

     

                ผมยิ้มแห้งๆแล้วส่ายหน้า “ไม่เป็นไรๆ”

     

                “ฉันจะบอกว่าเมื่อวานฉันได้ฟังรายการวิทยุที่ VIXX ไปออกด้วยล่ะ”

     

                เฮือก! นั่นไง มาแล้ววววววว T^T

     

                “เอ็นบอกว่าเธอคือผู้หญิงในอุดมคติของเขาน่ะ แล้วเขาก็บอกด้วยว่าเขาชอบเธอม๊าก มาก อีกอย่างเขาถูกแฟนคลับเรียกว่าเป้นฉันคนที่ 2 ด้วยนะ”

     

                “คิกๆ”อึนยองหัวเราะแล้วมองผมแซวๆ “โอป้า ปิดไม่มิดหรอกน่า”

     

                “-/////-“ผมยกน้ำที่เพิ่งถูกเติมดื่มอีกครั้งจนหมดแก้ว ให้ตายเถอะ แค่นี้ก็เขินจะแย่แล้วนะ “อ่า มันก็ ..นะ”

     

                “จินอุน เพ้อเจ้อใหญ่แล้วนะ”ซอฮยอนปรามดุๆ ผมแอบเหล่มองเธออีกครั้งและบังอฺญที่เธอหันมามองผมพอดีทำให้เราสบตากัน

     

                “>/////<”ผมดีดตัวนั่งหลังตรงแล้วลุกขึ้นยืน “เอ่อ ขอตัวก่อนนะ พอดีนึกขึ้นได้ว่าจะต้องไปตึก SBS กับเมเนเจอร์น่ะ”

     

                พูดจบผมก็ก้มๆบอกลาทุกคนแล้ววิ่งออกมาทันที ให้ตายเถอะ ตอนนี้หน้าผมมันร้อนไปหมดแล้วนะ ..ถึงจะมีโอกาสได้ร่วมโต๊ะกับซอฮยอน แต่ผมก็เขินเธออยู่ดี

     

              ไม่มีอะไรคืบหน้าเลยจริงๆ

     

              -^-
























                “ฮยอง เมื่อกี๊ผมผ่านห้องแต่งตัวของโซนยอชิแดซอนเบด้วยล่ะ”

     

                “แล้วไง”ผมถามฮงบินที่ดูเหมือนจะตื่นเต้นเหลือเกิน ไม่อยากจะอวดหรอกนะ ผมน่ะเคยนั่งร่วมโต๊ะกับซอฮยอนมาแล้วด้วยซ้ำ ..นึกถึงวันนั้นก็ยังเขินไม่หายเลย ถ้าผมมีความกล้ากว่านั้นอีกสักนิดผมคงจะได้อยู่คุยกับเธอนานกว่านั้น แต่ทำไงได้ล่ะ เธอน่ะอยู่สูงจนผมไม่กล้าคว้าเลยด้วยซ้ำ

     

                “ก็ไม่แล้วไงหรอก แต่ผมได้นี่มาด้วย”ฮงบินพูดแล้วชูกระปุกวิตามินขึ้นมา

     

                ผมแย่งกระปุกนั้นมาถือไว้แล้วมองหน้าเจ้าน้องชาย “นี่แกได้มาได้ไง ใครให้”

     

                “โห่ฮยอง ใครกันล่ะจะพกวิตามินน่ะ”ฮงบินพูดแล้วยักคิ้วหลิ่วตา “มากไปกว่านั้นนะ ซอนเบยังตบบ่าให้กำลังใจผมด้วยล่ะ”

     

                “หึ!

     

                “อิจฉาใช่ม้า”

     

                “ไปไกลๆเลยไป”ผมดันหน้าฮงบินแล้วโยนกระปุกวิตามินคืนให้มัน

     

                วันนี้ผมมี Live ของรายการ Music Bank และเป็นวันเดียวกันกับที่โซนยอชิแดซอนเบจะกู๊ดบายเสตรจ IGAB และที่ผมมานั่งไม่สบอารมณ์อยู่ตรงนี้ก็เพราะว่า

     

                ซีเอ็นบลู ..ก็มาน่ะสิ

     

                คุณรู้จักไหมล่ะ คู่รักมันหวานน่ะ ..ฮึ่ย น่าอิจฉาชะมัดเลย

     

                “VIXX เตรียมตัวด้วย จะถึงคิวพวกนายแล้ว”

     

                “ครับ”

     

                พวกเราทุกคนตอบเมเนเจอร์ฮยองที่เดินเข้ามาตาม ผมเดินไปที่หน้ากระจกแล้วใส่คอนแทกเลนส์สีปีศาจ เหอะๆมันเป็นคอนเซ็ป ต์ใหม่ของพวกเราน่ะ เขาอยากให้ออกมาแนวแบบแวมไพร์ ผมว่านะ คนที่เหมาะกับบุคลิกนี้ที่สุดคงเป็นเลโอนั่นล่ะ กับผมน่ะเหมาะกับพวกน่ารักๆ คิ้วตี้บอยมากกว่า หุๆ

     

                “สวัสดีค่ะ”

     

                “เฮือก”

                ผมสะดุ้งแล้วเซถอยหลังไปติดประตู เมื่อเปิดประตูออกมาผมก็เจอเข้ากับซอฮยอนที่คงจะเดินกลับไปที่ห้องแต่งตัว เธอยิ้มสดใสให้ผม ดวงตาของเธอเป็นประกาย ให้ตายเถอะ เมมเบอร์คนอื่นไปไหนกันหมด ลีดพวกแกใกล้จะตายแล้ว

     

                “วันนี้สู้ๆนะคะ”

     

                “ครับๆๆๆ”ผมพยักหน้ารัวๆไม่กล้าสบตาเธอ และสุดท้ายก็เป็นผมที่เดินหนีออกมา เมื่อเดินออกมาแล้วผมก็หยุดเดิน ให้ตายเถอะ นี่ผมมัวทำอะไรอยู่ ผมมัวมาเขินอายอะไรอยู่อีก ในเมื่อเธออยู่ตรงหน้าผมแล้วแท้ๆ อย่างน้อยผมควรจะต้อง “ซะ..”

     

                ผมกลืนน้ำลายลงคอคำพูดที่อยากจะพูดทั้งหมดถูกดูดกลืนหายไปหมดเลย ยงฮวาซอนเบกำลังคุยกับซอฮยอนอยู่ทั้ง 2 คนหยอกล้อกันอย่างสนิทสนมและเดินออกไปด้วยกัน

     

                เจียมตัวซะเอ็นเอ๊ย แกหมดสิทธิ์แล้ว เหลือศูนย์เลยล่ะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                “ฮยองเป็นไรอ่ะ หน้าเจื่อนเชียว”

     

                หลังจากทำการแสดงจบแล้วผมกลับมาที่ห้องแต่งตัวก่อนเป็นคนแรก ตามด้วยเค็นที่มาถามผม “เปล่า แล้วนี่คนอื่นไปไหนกันหมด มันไม่กลับมากันรึไง”

     

                “โอ๊ย เขาอยู่ข้างเวทีกันหมดแล้ว โซนยอซอนเบกำลังแสดงอยู่”

     

                ผมเด้งตัวลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปจากห้องแต่งตัวทันที อย่างน้อยได้มองอยู่ห่างๆก็ยังดีนี่ บนเวทีมีการแสดงเพลง IGAB และผมออกมาในท่อนโซโล่ของซอฮยอนพอดี ผมยิ้มตามกับใบหน้าอิ่มที่เปื้อนรอยยิ้มบริสุทธิ์ของเธอ ไม่แปลกใจจริงๆที่ใครๆก็รักผู้หญิงคนนี้ ขนาดผมเอง จากที่แค่ชอบ..

     

                ยังกลายเป็นความรักตั้งแต่เมื่อไหร่ยังไม่รู้เลย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ผมกับเมมเบอร์คนอื่นๆขึ้นไปบนเวที ตอนนี้เป็นช่วงสุดท้ายของรายการแล้ว ผมเหลือบมองซอฮยอนที่ยืนอยู่ไม่ไกลมากนัก แต่ดันเห็นสายตาของไอ้น้องชายตัวแสบที่ยักคิ้วอย่างกวนๆให้ผม ผมกัดปากแล้วแกล้งค้อนเค็นที่ได้ยินอยู่ใกล้กับซอฮยอน

     

                ผมยืนยิ้มไปเรื่อยๆ สายตาก็แอบเหล่มองเธอเป็นระยะ ซอฮยอนดูสดใส ร่าเริงมาก ถึงแม้ว่าพวกเธอจะไม่ได้รางวัลกับการกู๊ดบายเสตรจครั้งนี้แต่โซนยอชิแดทุกคนก็ยังคงยิ้มดีใจ เผลอๆดีใจกว่าซีเอ็นบลูที่เป็นคนชนะอีกด้วยมั้ง ผมเดินตามๆคนอื่นไปเพื่อลงจากเวที และในวินาทีที่ผมเห็นซอฮยอนตีแขนยงฮวาใจผมก็จี๊ดขึ้นมาทันที

     

                อยากเป็นคนนั้นบ้างจัง

     

                ผมเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้สึกตัวแต่เมื่อจะถึงทางลง ซอฮยอนกลับมายืนอยู่ข้างผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ผมหันไปมองเธอแล้วยิ้มแห้งๆ “วันนี้เต็มที่เลยนะครับ”

     

                “เวทีสุดท้ายนี่คะ”

     

                “ครับ”

     

                “คุณได้กินวิตามินที่ฉันให้ไหมคะ”

     

                “ครับ แน่นอน”ผมพยักหน้าแล้วแอบกำมือตัวเอง ผมเขินจะตายอยู่แล้วนะ

     

                “ฉันฝากกระปุกใหม่ไว้ให้ฮงบินไม่รู้ว่าฮงบินได้ให้คุณเอ็นหรือยัง”ซอฮยอนพูดแล้วแตะไหล่ผมเบาๆ “วิตามินดีต่อสุขภาพนะคะ >_<

     

                ผมมองซอฮยอนที่ขยิบตาให้ผมแล้ววิ่งลงไปหาพวกออนนีของเธอที่ตะโกนเรียก ตอนนี้ใจผมลอยไปไกลแล้ว ไกลไปแล้วจริงๆ ให้ตายเถอะ ซอฮยอนทำร้ายผมชัด เอ๊ะว่าแต่เมื่อกี๊เธอพูดว่าอะไรนะ..

     

                ฝากวิตามินไว้ที่ฮงบินงั้นเหรอ

     

              ..วิตามินที่ฮงบินมันเอามาอวดผม

     

              หน็อย นั่นของผมชัดๆ

     

              “ไอ้ฮงบินนนนนนนนนนนนน แกอยู่หนายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
















                “ฮยอง นี่ยังไม่หายโกรธผมอีกเหรอเนี่ย”

     

                “ไปไกลๆเลยไป”

     

                ผมผลักหน้าฮงบินออกแล้วคว้าเสื้อยีนส์ตัวเก่งมาใส่ ผมไม่คุยกับฮงบินมา 3 วันแล้วโทษฐานที่ไอ้เด็กบ้านี่แกล้งหลอกผม หน็อย คิดจะขโมยวิตามินของผมไปเหรอ อย่างนี้ตองงอนให้เข็ด

     

                “โห่ อะไรเนี่ย แก่กว่าใครในวง เป็นถึงลีดเดอร์ไมมขี้งอนจังว๊า”

     

                “ออกไปจากห้องฉันได้ละ ไปเลยไป”

     

                “เหอะๆ ฮยอง นี่ยังไม่หายงอนอีกเหรอเนี่ย”

     

                ผมหันไปมองเลโอที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องแล้วยักคิ้ว “มันสมควรได้รับโทษของมัน โกหก นิสัยไม่ดี”

     

                “งั้นฮงบินฮยอง ไม่ต้องเอา ไอ้นั่น ให้เอ็นฮยองแล้วแหละ มัวแต่งอนแบบนี้”

     

                ผมหันไปมองฮยอกที่เดินเข้ามาอีกคนแล้วเอียงคอ “ไอ้นั่น อะไรวะ”

     

                “หายงอนเค้าก่อนจิ”ฮงบินพูดแล้วทำหน้าแบ๊วใส่ผม

     

                ผมถอนหายใจแล้วเขกหัวน้องชายตัวแสบอย่างหมั่นไส้ “เออๆๆ อะไรของแก ฉันก็ไม่ได้งอนหรอกเว้ย”

     

                “แล้วแต่งตัวจะหนีเค้าไปทำไมเล่า”

     

                “นี่ถ้าแกยังไม่เลิกทำแต๋วแบบนี้นะ ฉันจะถีบแกออกไปนอกหอเลย ติดไอ้เคยมารึไง”

     

                “แง่ะ”ฮงบินดีดตัวออกจากผมแล้วถอยไปยืนข้างเลโฮและฮยอก

     

                “พวกแกมีอะไรกันพูดมาเร็วๆ ฉันจะออกไปข้างนอก”ผมพูดตัดรำคาญ ผมไม่ชอบให้ไอ้พวกนี้เข้ามาจุ้นในห้องนอนของผมนานนักหรอก ของผมชอบหายอยู่เรื่อย ล่าสุดปอกหมอนของผมก็หายไป ไปเจออีกทีอยู่ที่หมอนของฮยอกเฉยเลย ผมโมโหไปหลายวันเลย ก็ปอกหมอนนั่นน่ะ

     

                ลายหน้าซอฮยอนเชียวนะ

     

                “เมื่อวานอ่ะ ตอนที่พวกผมหนีซ้อม ผมไปเจอกับโซชิซอนเบมา”

     

                “ซอฮยอนเหรอ”

     

                “ช่ายยยยย”ฮยอกลากสเยงยาวแล้วหันไปยิ้มกับฮงบิน “ซอฮยอนนูนาไปกับฮโยยอนนูนา”

     

                “แล้วไง”

     

                “แล้วนูนาเขาก็ฝากนี่มา”

     

                ผมมองฮงบินที่ยื่นแผ่นซีดีมาตรงหน้าผม ผมรับมาแล้วชูขึ้น “นี่มันอัลบั้มของพวกเรานี่”

     

                “ใช่ อัลบั้มของพวกเรา ซอฮยอนนูนาน่ะบอกว่าไปซื้ออัลบุ้มของพวกเรามา บอกว่าชอบเพลงของพวกเรามาก นูนาเขาส่งอัลบั้มนี่ให้ผมบอกว่าฝากเอามาให้เอ็นฮยอง แล้วก็ฝากอัลบั้ม TTS มาให้ฮยองด้วย”

     

                “*o*”ผมตาวาวทันที

     

                “แต่ฮยองก็มีแผ่น TTS อยู่แล้วนี่นา อันนี้ผมขอได้ปะ”

     

                “ฮงบินฮยอง แค่วิตามินเอ็นฮยองยังงอนไป 3 วันเลย ถ้าเป็นอัลบั้มที่มีข้อความพวกนี้ล่ะก็นะ เหอะๆ มีหวังเป็นเดือน”

     

                ผมมองฮยอกแล้วแบมือไปตรงหน้าฮงบิน “เอามาเลย นี่พวกแกแอบเปิดอ่านเหรอ”

     

                “ไม่รู้ ไม่เกี่ยว เลโฮฮยองเป็นคนคิด”

     

                “อ้าว ไอ้นี่ ก็แอบดูด้วยกันนี่หว่า อุ๊บส์ เค้าไปนะ”

     

                พูดจบไอ้ 3 คนก็พากันวิ่งออกไป ผมไม่วิ่งตามให้เสียเวลาหรอกนะ ผมเปิดปกอัลบั้มของพวกเราแล้วเห็นที่หน้าของผมมีข้อความที่เขียนด้วยลายมือน่ารักๆอยู่

     

                “ฉันชอบเพลงของพวกคุณมากนะคะ ถึงพวกคุณจะเพิ่งเป็นวงน้องใหม่ แต่ฉันเชื่อว่าต่อไปข้างหน้าพวกคุณจะต้องมีชื่อเสียงโด่งดังมากแน่นอน สู้ๆนะคะ”

     

              ผมยิ้มแล้ววางอัลบั้มลงก่อนจะหยิบอัลบั้ม TTS ขึ้นมาที่หน้าปกด้านของซอฮยอนก็มีข้อความจากลายมือเดียวกันเขียนอยู่

     

                “ตอนไปขึ้นไลฟ์ครั้งก่อนนั้นคุณเอ็นเอาซีดีของคุณมาให้ฉัน ตอนนี้กลับกันนะคะ ฉันเอาให้คุณบ้าง ไม่ได้ให้กับมือเหมือนกัน เพราะคุณก็ไม่ได้เป็นคนให้ฉันกับมือ(อิอิ ^^) แต่ยังไงก็ขอบคุณนะคะที่สนับสนุนฉัน”

     

                ผมเอนตัวลงนอนแล้วกอดอัลบั้มนั้นไว้ ลืมไปเลยว่าจะออกไปข้างนอก ลืมหมดทุกสิ่งทุกอย่างเลย ..เหมือนฝัน เหมือนกับฝันชะมัดเลย

     

                “ฮยองๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

     

                “โอ้โห นอนเยิ้มเชียวลีดเรา”

     

                ผมเด้งตัวขึ้นแล้วมองฮงบินกับฮยอกที่วิ่งเข้ามาอย่างเคืองๆ “พวกแกมีอะไรกันอีกล่ะเนี่ย”

     

                “ฮยองจะออกไปไหน อดไปแล้วล่ะ มีงานด่วน”

     

                “อะไรวะ ก็วันนี้เมเนเจอร์บอกว่าพักผ่อนไม่ใช่เร๊อะ”

     

                “ก็ใช่”ฮยองพูดแล้วดึงแขนผม “แต่เราต้องไปอัดวิทยุ Kiss Radio อ่ะ”

     

                “อะไร ทำไมจู่ๆพวกเราก็ต้องไปล่ะ”

     

                “ก็ BTOB ติดงานด่วนที่ปูซาน รถเสียแล้วกลับมาไม่ทัน เมเนเจอร์ฮยองเลยให้พวกเราไปออกแทน”

     

                “เฮ้อ..”

     

                “ฮยอง แต่น่าดีใจออกนะ”

     

                “เพราะ? น่าดีใจตรงไหน ฉันกำลังจะออกไปเที่ยวอยู่แล้วเชียว”

     

                “ก็มันน่าดีใจตรงที่ DJ วันนี้คือมินโฮฮยองกับ ..ซอฮยอนนูนาน่ะสิ”

     

                ผมลุกขึ้นจากเตียงทันทีที่ฮงบินพูดจบ “เฮ้ยพวกแกแต่งตัวให้ไวเลย แล้วลงไปข้างล่างเดี๋ยวนี้ เร็วๆเลยนะ รีบลงไปเดี๋ยวนี้ อย่าไปสายเข้าใจไหม”

     

                นี่แหละ สิ่งที่มีความสุขทั้งหมดของผม

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

              ตลอดการอัดวิทยุผมแทบไม่เป็นอันทำอะไรเลยเมื่อผมถูกไอ้พวกน้องๆตัวดีดันให้ผมมานั่งข้างกับซอฮยอน ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปสบตาด้วยซ้ำ เขินจะแย่อยู่แล้วนะ >////<

     

                “ครับ ก็ได้คุยกันไปพอหอมปากหอมคอแล้วนะครับ ตอนนี้ไปฟังเพลงกันก่อน Superhero Vixx ครับ”

     

                “โย่วววว”เคนพูดใส่ไมค์แล้วเอาหูฟังออก

     

                ผมเอาหูฟังออกบ้างแล้วเป่าลมหายใจออกทางปาก

     

                “เดี๋ยวเลิกแล้วมีงานกันต่อรึเปล่าฮะเนี่ย”

     

                “ไม่มีครับ”ราวี่ตอบมินโฮแล้วมองผม “เอ็นฮยอง ไมหูแดงอ่ะ”

     

                “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

     

                ทุกคนหัวเราะพร้อมกัน ผมเอากระดาษสคริปต์ขว้างใส่ราวี่ “พูดมาก”

     

                “ฮ่าๆๆๆ ไม่ต้องเขินครับฮยอง เรื่องปกติ”มินโฮพูดแล้วดึงแก้มซอฮยอน “ใครใกล้ยัยแก้มป่องก็เป็นแบบนี้ทุกคนแหละ”

     

                “มินโฮ อะไรเนี่ย”

     

                ซอฮยอนปัดมือมินโฮออกแล้วยิ้มบางๆให้ผม “แหะๆ ไม่มีอะไรค่ะ อย่าใส่ใจมินโฮเลย หมอนี่เพี้ยนไปแล้ว”

     

                “เออ ใช่เซ่”มินโฮพูดกับซอฮยอนแล้วมองพวกผม “เออนี่ซอฮยอน วิตามินที่เธอให้ฉันไปน่ะ กินหมดแล้วนะ”

     

                ผมแอบมองมินโฮกับซอฮยอนที่คุยกัน ไม่ต่างจากจินอุน อิจฉาจัง ..เมื่อไหร่เธอจะหันมามองที่ผมบ้าง

     

                “คุณเอ็นคะ”

     

                เฮือก

     

                เหมือนเธอจะได้ยิน.ในสิ่งที่ผมคิดอ่ะ >< “ครับ”

     

                “วิตามินที่ให้ไปได้ทานบ้างไหมคะ”

     

                “อ่อ ครับ”

     

                “ค่ะ”เธอยิ้มให้ผมแล้วเอียงคอ น่ารักสุดๆ

     

                ให้ตายเถอะ ผมรู้เลยว่าผมน่ะมันแสนจะขี้ขลาด เธอพยายามจะชวนผมคุยตั้งมากมาย แต่ไอ้อาการพูดมากของผมมันหายไปหมดเลยตอนที่สบตากับเธอ ผมอยากจะใกล้ชิดเธอ อยากจะเป็นมากกว่าคนที่แอบชอบบ้าง พระเจ้า.. ผมจะได้สิทธินั้นบ้างไหม”

     

                “เอ็น เดี๋ยวเบรกหน้านายต้องร้องโซโล่นะ ตกลงเลือกเพลงไว้ยัง”

     

                ผมหันไปมองพีดีแล้วลุกไปใกล้เขา “เบรกหน้าแล้วเหรอครับ”

     

                “ใช่ จะร้องเพลงอะไร พวกเราจะได้เตรียมซาวน์ให้”

     

                ผมครุ่นคิดแล้วเหลือบไปมองซอฮยอน ..ในตอนนี้ เพลงนี้คงเป็นเพลงที่เหมาะสมที่สุดแล้ว เผื่อว่าเธอจะรู้ตัวบ้าง ว่าผมชอบเธอขนาดไหน

     

                ผมกระซิบบอกพีดีแล้วเดินไปนั่งที่ กลับเข้าสู่การอัดอีกครั้ง พวกเราก็พูดคุยกันตามสคริปต์และในที่สุดก็มาถึงช่วงเวลาของผม

     

                “โอ้นี่เป็นครั้งแรกเลยหรือเปล่าครับที่ลีดเดอร์จะได้โซโล่เดี่ยว”

     

                “ใช่ครับ รู้สึกประหม่าเหมือนกัน”ผมพูดแล้วยิ้มเขินๆ

     

                “ทำไมถึงเลือกเพลงนี้มาร้องคะคุณเอ็น เป็นเพลงที่ความหมายดีทีเดียว แล้วแทมินก็เคยร้องไปแล้วด้วยในรายการเรา”

     

                ผมสบตาซอฮยอนที่ถามมา ผมลุกขึ้นแล้วยิ้มให้เธอ “ผมอยากจะบอกความรู้สึกของผมให้ผู้หญิงที่ผมชอบรู้ครับ”

     

                “ว๊าววววววววว”

     

                เสียงฮือฮาในห้องอัดดังขึ้น ซอฮยอนมองหน้าผมนิ่งๆ ถ้าผมไม่ได้ตาฝาด ผมรู้สึกว่าแก้มขาวๆของเธอมันอมชมพูเล็กน้อย

     

                เธอรู้ รู้ใช่ไหมซอฮยอน

     

              “ไปฟังกันเลย I Love You โดยคุณเอ็นครับ”

     

                แปะๆๆๆๆๆๆ

     

                ผมลุกจากที่นั่งแล้วไปยืนที่หน้าขาตั้งไมค์ หยิบหูฟังมาใส่ หลับตาและลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ผมมองไปที่ซอฮยอน แน่นอน เธอเองก็กำลังมองผมอยู่ “ช่วยรับรู้ถึงใจผมด้วยนะครับ”

     

     

     (ขออนุญาตเขียนแต่คำแปลนะคะ ไม่เขียนเนื้อร้อง เป็นความหมายของเพลงที่ใช้ประกอบฟิคตอนนี้)

    (ฟินนนนนนนนนนนนนน)

    I Love You-Taemin(ไม่รู้ว่าต้นฉบับของใคร หรือเป็นเพลงของแทมินเลย)

     

     

    แย่มาก คนแบบเธอ

    ทำไมเธอเอาหัวใจของฉันไปโดยที่ฉันไม่อนุญาต

    เพราะเธอ ฉันต้องอยู่อย่างยากลำบาก

    แต่เธอก็ไม่เคยรู้

     

    ฉันรู้ ว่ามันไม่ใช่ฉัน

    ว่าฉันไม่มีค่าพอให้เธอมอง

    แต่บางครั้ง ไม่ได้เหรอที่จะแบ่งรอยยิ้มของเธอ ให้กับฉันด้วย

    แม้ว่ามันจะไม่ใช่ความรัก

     

    โปรดหันกลับมาแม้เพียงสักครั้ง

    วันนี้ ฉันจะรอตลอดไปอย่างนี้

    เพียงหนึ่งคำในใจที่ฉันไม่สามารถเก็บเอาไว้ได้

    ฉันรักเธอ

     

    เมื่อวานนี้ฉันฟุบลงไปกับโต๊ะ

    และฉันหลับไปด้วยความเศร้าใจเพื่อเธอ

    เมื่อฉันลืมตา ก็มีแต่น้ำตาเปรอะเปื้อน

    ชื่อของเธอ ..และความหมดหวังที่ล่องลอย

     

    โปรดหันกลับมาแม้เพียงสักครั้ง

    วันนี้ ฉันจะรอตลอดไปอย่างนี้

    เพียงหนึ่งคำในใจที่ฉันไม่สามารถเก็บเอาไว้ได้

    ฉันรักเธอ

     

    ตอนนี้เมื่อฉันมองภาพด้านหลังของเธอ

    ที่ซึ่งฉันใช้ ..บอกคำนั้นเงียบๆเหมือนน้ำตาที่ร่วงหล่น

    ฉันรักเธอ

     

              ผมสบดวงตากลมโตของเธอที่มองมาที่ผมอยู่ตลอดที่ร้องเพลง เมื่อเพลงจบผมก็ถอดหูฟังออกแล้วเดินกลับมานั่งที่ท่ามกลางเสียงปรบมือของทุกคน การอัดรายการวิทยุดำเนินต่อไป มีข้อความจากแฟนๆส่งเข้ามา ส่วนใหญ่จะถามว่าผมร้องเพลงนั้นให้ใคร และส่วนใหญ่ก็จะบอกว่าผมร้องให้ซอฮยอน

     

                ทุกคนรู้ แล้วตัวเธอ ..รู้บ้างไหม

     

                “ว้า วันนี้สนุกมากเลยจริงๆนะครับ ผ่านไปแป็บเดียวก็หมดเวลาแล้ว”

     

                “ใช่แล้วค่ะ น่าเสียดายนะคะ ยังคุยไม่จุใจเท่าไหร่เลย”

     

                เธอยังคงพูดปกติ เฮ้อ.. ผมจะไปคาดหวังอะไร ผู้หญิงใสซื่อแบบเธอ ไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการจะสื่อหรอก

     

                “ได้เวลาบอกลากันแล้วเหรอครับเนี่ย”เคนพูดแล้วพวกเราก็พากันฝากผลงาน และสุดท้ายก็บอกลาผู้ฟัง

     

                “ขอบคุณที่ทำงานอย่างหนักค่ะ/ขอบคุณที่ทำงานอย่างหนักครับ”

     

                พวกเราพูดขึ้นพร้อมๆกัน ผมจับมือกับมินโฮแล้วหันไปยิ้มให้ซอฮยอนเล็กน้อย เธอมองหน้าผมแวบเดียวก็หันไปพูดคุยกับฮงบินและราวี่ต่อ

               

    “ฮยอง คิดดีแล้วเหรอเนี่ยชอบยัยแก้มป่องอ่ะ”

     

                “ทำไม”ผมถามมินโฮแล้วแอบเหลือบมองซอฮยอน

     

                “ฮยองต้องผ่านหลายด่านเลยนะ ซอฮยอนเป็นน้องสาวของเอสเอ็มนะ ต้องผ่านทึกฮยอง คยูฮยอง ชางมินฮยอง ไหนจะแอมเบอร์ แล้วก็พวกโซชินูนาอีก”

     

                “เหอะๆ พูดเหมือนกับว่ามีสิทธิ์นั้นอย่างงั้นแหละ”ผมยักไหล่แล้วเขย่ามือมินโฮ “ไว้เจอกันใหม่นะ”

     

                “ครับ ^-^

     

                ผมโค้งบอกลาทีมงานทุกคนแล้วเดินออกมาจากห้องอัดก่อน ผมลงมาข้างล่างแล้วยืนพิงผนัง หลับตาลงช้าๆปล่อยให้ลมเย็นๆพัดมา

     

                เธอไม่เคยรู้เลยจริง..

     

                “คุณเอ็นคะ”

     

                ผมลืมตาอย่างตกใจ และตกใจกว่าเมื่อเห็นหน้าของซอฮยอนอยู่ไม่ห่างผมมากนัก “คะ ครับ?”

     

                “เรียกโอป้าได้ไหมคะ”

     

                “ครับ?”

     

                “ไม่ต้องสุภาพกับฉันก็ได้ค่ะโอป้า”

     

                เธอพูดแล้วยิ้มให้ผมอย่างจริงใจ ผมเกาหัวตัวเองแล้วพูดกับเธออย่างประหม่า “ซะ ซอฮยอนออกมามีอะไรรึเปล่า ทำไมไม่อยู่ข้างในล่ะ”

     

                “ก็เห็นโอป้าออกมาก่อนนี่คะ”

     

                “เอ่อ คือโอป้าเหนื่อยนิดหน่อยน่ะ”

     

                เธอยิ้มแล้วก็หันหลังให้ผม “โอป้ารู้ไหมคะ ว่าพวกออนนีบอกว่าให้ฉันมีความรักสักที”

     

                “เอ๋”

     

                “แล้วยังบอกอีกด้วยว่าจะดีมากถ้าเป็นคนที่รักในตัวฉันจริงๆ ไม่ใช่รักเพราะฉันคือซอฮยอน โซนยอชิแด”

     

                ผมมองเธออย่างไม่ค่อยเข้าใจ จู่ๆทำไมเธอถึงมาพูดแบบนี้กับผมล่ะ

     

                “แล้วพวกออนนีก็ยังบอกด้วยว่าจะดีถ้าเป็น”

     

                “...”

     

                “เอ็นโอป้า”

     

                “!!!!!”ผมมองเธออย่างทึ่งๆ “เอ่อคือ..”

     

                “เพลงนั้นน่ะ ฉันเข้าใจนะคะ ฉันก็มองโอป้า ยิ้มให้โอป้าออกจะบ่อย แต่เป็นโอป้าเองต่างหากที่ไม่เคยรู้เลย”

     

                “เอ่อคือ ..ก็โอป้าเขินนี่นา”ผมพูดแล้วเกาหัวตัวเองอีกครั้ง “ละ แล้ว ว่ายังไงครับ”

     

                “คะ?”

     

                “ถ้าเข้าใจความหมายของผม แล้วยังไงต่อครับ”

     

                “ลองดูค่ะ”

     

                “ครับ?”

     

                “ไม่ได้ลองคบนะคะ ฉันเองก็โตขึ้นกว่าเดิมเยอะแล้ว การได้มีคนดีๆสักคนอยู่ในชีวิตก็น่าจะโอเค ..ฉันจะลองดูนะคะ ^-^

     

                “หมายความว่า..”

     

                “โอป้ารอได้ไหมคะ ขอเวลาฉันดูโอป้าก่อน หลังจากนั้น..”

     

                “ได้ๆๆๆๆๆ ได้อยู่แล้ว”ผมพูดก่อนที่เธอจะพูดจบ “นานแค่ไหนก็จะรออยู่แล้ว”

     

                “^-^

     

                “^////^

     

                ผมกับเธอยืนมองหน้ากันอยู่อย่างนั้น ผมเอามือมากุมกันแล้วเอาไว้ที่หน้าอก

     

                พระเจ้า ..ขอบคุณนะครับที่มอบสิทธิ์นั้นให้กับผม ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ

     

                ..

     

              ผมน่ะ ..รักรุ่นพี่คนนี้ที่สุดเลย

     

              ...

     

              รักนะคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×