คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 : The saddest fear comes creeping in
CHAPER 1
คิมแทยอนไม่เคยรู้หรอก...ไม่เคยรู้เลยว่าเกิดความผิดพลาดขึ้นตรงไหน
และถ้าเกิดมันย้อนเวลากลับไปได้ล่ะก็…
แค่ตาย...เธอคงจะสว่างไสวมากกว่านี้ร้อยพันเท่า
คนตัวเล็กสวมเสื้อฮู้ดสีเทาตัวใหญ่และผ้าปิดปากมิดชิดจนแทบจะมองไม่ออกว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ขาเรียวเล็กถูกกางเกงวอร์มอย่างดีปกปิด เรือนร่างบอบบางอ้อนแอ้นช่างขัดกับการเคลื่อนไหวตัวกระฉับกระเฉงรวดเร็วเสียจริงๆ ผู้คนธรรมดากำลังพากันตื่นจากหลับใหลในห้วงนิทราแสนหวานออกมารับรุ่งอรุณเช้าวันใหม่ แต่เธอคงเป็นคนเพียงคนเดียวบนโลกใบนี้ล่ะมั้ง...คนเดียวในโลกสีหม่นที่จำต้องเร่งรีบกลับไปในที่ๆ จากมาก่อนพระอาทิตย์จะขึ้น
คฤหาสน์หรูหราและโอ่อ่าตั้งตระหง่านในเงามืดยามค่ำคืนและทุ่งหญ้ากว้างสุดลูกหูลูกตา เสียงสายลมหวีดหวิวดังข้างหูราวกับกระซิบเตือนถึงอะไรบางอย่าง ขาเรียววิ่งเร็วมากขึ้นไปตามทางกว้างๆ โล่งๆ ที่เป็นหินเปียกชื้นเพื่อเข้าไปสู่ภายในเขตรั้วคฤหาสน์ ทันที่ที่ก้าวเข้าไปที่แห่งนั้น...ความสุขอันน้อยนิดพลันจางหายไปตามลมหายใจที่แผ่วลง
ร่างเล็กเคลื่อนตัวหลบหลังเสาต้นใหญ่แกะสลักอย่างสวยงามคอยจ้องมองแสงแดดอันอบอุ่นที่เริ่มส่องสว่างไปทั่วท้องฟ้าก่อนจะสาดส่องลงสัมผัสพื้นดินทีละน้อยอย่างอ่อนโยน แม้อยู่ใกล้แค่เอื้อมแต่กลับเอื้อมออกไปไม่ถึง ความเจ็บปวดแล่นจุกที่อกจนร่างทั้งร่างสั่นสะท้านด้วยความเสียใจ หยดน้ำอุ่นจากดวงตาหยดแล้วหยดเล่าไหลรินออกมาไม่หยุด
“ ลาก่อน... ”
ตายทั้งเป็นความเจ็บปวดทรมานช่างมากกว่าการตกนรกหมกไหม้นัก
พรึ่บบ!!
…!?!
เสียงกรีดร้องดังก้องในใจยามรู้สึกถึงสัมผัสแข็งกระด้างบนผิวเนื้อ ดวงตากลมเบิกกว้างมีแววตกใจและหวาดกลัว ร่างเล็กถูกประชิดตัวอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย กว่าจะรู้ตัวอีกทีเสียงประตูบานใหญ่ก็ปิดลงเสียแล้ว...แทยอนรู้สึกเหมือนตัวเล็กลีบท่ามกลางเงาใหญ่ดำทะมึนที่ปกคลุมลงมาช้าๆ หัวใจเต้นแรงด้วยความหวาดกลัวสุดขีด แผ่นหลังของเธอแนบชิดกับอกแกร่งของร่างสูงโปร่งมีไอเย็นกระจายรอบตัวไม่ผิดแผกจากทุกครั้งที่ได้เข้าใกล้ และเธอไม่ชอบมัน...เกลียดเลยด้วยซ้ำไป!
“ ข้างนอกนั่นมีอะไรอย่างนั้นหรือ...เธอถึงชอบแอบออกไปเล่นซนดึกๆ ดื่นๆ หืม? ”
ลมหายใจรินรดคลอเคลียที่ใบหูเล็กช่างหวาบหวิวรวมทั้งน่าหวั่นวิตก แทยอนพยายามซ่อนใบหน้าซีดเผือดของตัวเองลงต่ำเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรงบาง เธอโดนจับได้แล้ว...แก้ตัวอะไรไม่ได้อีกเมื่อทุกอย่างกระจ่างชัดเต็มตาแบบนี้
“ ... ”
“ แอบย่องออกไปทั้งที่ฉันกำลังนอนกอดเธออยู่ ”
“ … ”
“ ผิวสวยๆ ที่ฉันอุตส่าห์ทะนุถนอมดูแลมาอย่างดีก็มีแผลกลับมาทุกครั้ง คิดว่าฉันไม่เห็นหรือ? ”
“ … ”
แทยอนยืนตัวแข็งทื่อเมื่อผิวแก้มใสถูกริมฝีปากร้ายกาจนั่นพรมจูบไปทั่วแม้จะเป็นเพียงการแตะสัมผัสบางเบากลับสั่นไหวหัวใจเต้นระส่ำ ร่างเล็กถูกจับเผชิญหน้ากับผู้ที่เหนือกว่าโดยไร้การขัดขืน ก้าวถอยหลังไปเรื่อยๆ ตามการชักนำของร่างสูงตรงหน้าจนกระทั่งแผ่นหลังแตะแนบกับผนังเย็นเฉียบ
“ มองฉันคิมแทยอน ” ปลายนิ้วเรียวแตะปลายคางดันให้เงยหน้าขึ้นสบตา
“ คุณชาย...ฮึก...ฉัน... ”
คิมแทยอนไม่มีอะไรจะไปสู้เขาได้
ดวงตาคมกริบดุดันหากแต่แฝงอารมณ์บางอย่างจนเป็นประกายวาว ใบหน้างดงามไม่ต่างจากเทวดาผู้สูงศักดิ์นั้นช่างไร้ที่ติ เพียงครั้งแรกที่ได้สบตาคู่นั้นราวกับถูกดึงเข้าไปในภวังค์แห่งความลุ่มหลงไม่มีสิ้นสุด ถ้าหากว่า...ไม่มีปีกมัจจุราชสีดำกางสยายออกมาเสียก่อนเธอคงจะตกหลุมรักเขาไปหมดใจเป็นแน่ แม้ว่าจะไม่มี...เธอก็ไม่อาจหลุดพ้นได้อยู่ดี
ความกลัวทวีมากขึ้นจนคนตัวเล็กเริ่มสะอึกสะอื้น ร่างกายสั่นสะท้านไม่ต่างจากลูกนกยามถูกร่างกายนั้นขยับแนบชิดลงมา คุณชายแห่งตระกูลคิมกดจูบบนขมับบางก่อนจะเลื่อนไปตามส่วนต่างๆ บนใบหน้าจิ้มลิ้มราวตุ๊กตาอันล้ำค่าราคาแพงโดยไม่สนใจมือเล็กๆ ที่กำลังดันอกเขาอยู่
“ อย่า...อย่า... ”
“ บอกฉันทีซิเด็กน้อย...ฉันควรจะทำยังไงกับเธอดี? ”
“ ฮึก...ไม่เอานะ...ไม่เอา... ”
“ อย่าขัดใจฉันอีก ”
คุณชายผู้สูงศักดิ์เอ่ยอย่างเย็นชา แววตาวาววับไร้ความขี้เล่นและใบหน้าที่ถมึงทึงค่อยๆ เลื่อนไปใกล้ใบหน้าเปื้อนน้ำตาของคนใต้อาณัติกระซิบเสียงเย็นอย่างข่มขวัญคนดื้อด้านที่กล้าลองดีกับเขาเสียหลายครั้งทั้งที่รู้ดีแก่ใจว่าจะโดนอะไรบ้าง
“ ฉันมอบทุกสิ่งของฉันให้เธอยังไง ก็จงทำเช่นนั้นกับฉันซะ... ”
นั่นมันคือความผิดบาป
...การมีชีวิตอยู่คือความผิดบาปแสนสาหัสและโหดร้าย
“ ...ค่ะ ”
หลังจากเหตุการณ์สุดระทึกผ่านพ้นไป...หัวใจดวงน้อยก็ยังคงเต้นกระหน่ำด้วยความหวาดกลัวและกังวลใจ เธอถูกจับได้แล้ว...ผู้ชายคนนั้นรู้แล้วว่าเธอแอบออกไปข้างนอก ไม่เคยมีสักครั้งที่แทยอนจะพลาดพลั้งให้เขาจับได้คาหนังคาแบบนี้
แอ๊ดด
ประตูไม้ถูกเปิดเข้ามาแผ่วเบา คนตัวเล็กผุดลุกขึ้นจากเตียงหันไปจ้องหน้าผู้มาใหม่ สายตาแสดงออกถึงความไม่พอใจชัดเจน ถึงอย่างนั้นก็ตาม...รอยยิ้มใจดีลวงโลกนั่นก็ไม่ได้จางหายไปอีกตามเคย
“ คุณมาทำไม... ”
เสียงแหบแห้งเอ่ยถามออกไป ดวงตาคู่กลมโตวีน้ำตาลอ่อนงดงามและเคยสดใสแดงช้ำ จมูกเล็กรั้นๆ นั่นก็แดงก่ำ คงมีแต่ใบหน้าอ่อนเยาว์ล่ะมั้งที่ซีดขาวราวกับกระดาษ ปาร์คจองซูยิ้มอ่อนๆ
ช่างเปราะบางเหลือเกินนะเจ้าหญิง...
แตะสัมผัสเพียงนิดก็พร้อมจะแหลกสลาย
“ เธอรู้คำตอบดีอยู่แล้วนี่ใช่มั้ย? ”
“ เขาสั่งคุณมา ”
“ เธอรู้ดีเชียวล่ะ ” จองซูเอ่ยอย่างขบขัน รอยยิ้มของเขาเย็นชาต่างจากน้ำเสียงสิ้นเชิง “ เธอรู้...แต่เธอก็ยังทำ รู้ว่ามันผิดแต่เธอก็เลือกจะทำ ทีนี้จะโทษใครได้ล่ะหื้ม? ”
“ อย่ามาทำเป็นรู้ดีไปหน่อยเลย... ”
แทยอนรู้สึกโกรธ...โกรธมากๆ ที่ผู้ชายคนนี้พูดราวกับว่าตัวเองเข้าใจและรู้ทุกอย่างบนโลกใบนี้ รู้ทุกอย่างในจิตใจของเธอซึ่งที่จริงเขาไม่! หน้ากากลวงโลกของจองซูทำให้เธอสะอิดสะเอียนใจจะขาด ไม่อยากฟังข่าวร้ายๆ ที่มาพร้อมกับผู้ชายคนนี้
เขาเป็นสมุนปีศาจ...
ภายใต้คราบนักบุญลวงโลกไปวันๆ แบบนั้น!
“ บทลงโทษของคนที่ริอาจหนีไปข้างนอก ลองทายดูซิเจ้าหญิงผู้เลอโฉม...บทลงโทษบทไหนถึงจะสาสมกับที่เธอทำ ”
…!?!
“ ทำแบบนี้ไม่ได้นะ! ฉันแค่ออกไปข้างนอก...แล้วฉัน...ฉันก็กลับมา ”
ใช่...กลับมาทั้งที่ไม่อยากจะกลับมา
“ ไม่ใช่เรื่องที่สมควรจะโกหกหรอกนะเจ้าหญิง... ”
“ ฉันไม่... ”
“ เธออยากจะหนี แต่รู้ดีว่าหนียังไงก็ไม่พ้นใช่มั้ยล่ะถึงได้เลือกที่จะกลับมา ”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จองซูใช้สายตาเย็นยะเยือกมองเธอ แต่เธอก็ยังหวาดกลัวกับมันทุกครั้ง แทยอนปล่อยให้น้ำตาร่วงกระทบผิวแก้มเพราะรู้แก่ใจว่าทุกอย่างที่จองซูพูดออกมาทั้งหมดมันถูกต้องแล้ว...โลกภายนอกไม่มีอะไรที่เธอรู้จักเลย
เพราะความมือที่โอบล้อมมานานเกินไป
...นานจนหนีไปไหนไม่ได้อีกแล้ว
แกร๊ง!
คนตัวเล็กผวาเฮือกยามที่ของในมือของจองซูหล่นกระทบพื้น โซ่เหล็กแข็งแรงเส้นยาวส่องประกายวาววับ ยามที่ร่างสูงนั่นสาวเท้าเข้ามาหาแทยอนก็ขยับหนี รอยยิ้มอบอุ่นปรากฏขึ้นอีกครั้งในรอบเช้าของวัน ดวงตาเป็นประกายทอดมองใบหน้าเปรอะน้ำตานิ่งสงบ
“ ฉันไม่ว่างเล่นกับเธอหรอกนะ เพราะฉะนั้น...เข้ามาหาฉันดีๆ ”
“ ฉันไม่ใช่นักโทษนะ! ” คนตัวเล็กตะโกนเสียงแหบแห้ง “ ฉันอยากมีตัวตนบ้างนี่นา ฉันอยากใช้ชีวิตปกติในตอนเช้า อยากอยู่ในที่กว้างๆ ไม่ใช่ห้องนอนแคบๆ แบบนี้...ฮึก ฉันเกลียด...เกลียดที่ได้แต่หายใจไปวันๆ โดยไม่มีความสุขเลย! ”
“ แทยอนอา... ”
จองซูค่อยๆ คุกเข่าลงกับพื้นตรงหน้าเธอมือใหญ่กุมมือของเธอเอาไว้ราวกับจะปลอบใจ เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยอย่างอ่อนโยน บนใบหน้านั้นมีรอยยิ้มบางเบาฉาบเอาไว้
“ เธอมีตัวตนเสมอนะ ”
“ เธอมีค่าที่สุด ”
มีตัวตนเหรอ? มีค่างั้นเหรอ?
...โกหก
ชายหนุ่มลูบหัวเจ้าหญิงตัวน้อยที่เอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้น มือเล็กกำชายกระโปรงชุดนอนของตัวเองจนยับยู่ยี่ไปหมด ใบหน้าขาวสะอาดในวันนี้ดูมอมแมมน่าเอ็นดู และเขาไม่แปลกใจเลยที่ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้...
“ ข้างนอกนั่น...ถ้าเธออยากออกไปจริงๆ ล่ะก็...บางทีคุณชายอาจจะให้เธอออกไปก็ได้ ”
แค่บางที
“ เป็นเด็กดี ทำตัวว่าง่ายเข้าไว้นะ ”
“ … ”
ยามที่ได้สบตากับดวงตากลมๆ คู่นั้นแล้ว...จองซูไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเขารู้สึกถึงความเจ็บปวด เศร้าสร้อยและความหม่นหมองแผ่กระจายออกมา ชายหนุ่มถอนหายใจเล็กน้อย
“ เข้าใจนะครับเจ้าหญิง? ”
“ อื้อ... ”
ตราบนานเท่านาน...ยิ่งก ว่านิรันด์กาล
ความมืดมิดจะกลืนกินความสวยงามนี้เอาไว้
ช่างเย่อหยิ่ง จองหอง และดวงตาคล้ายกวางคู่นั้นกำลังร่ายมนตร์สะกด
...ทั้งที่เป็นแค่ลูกกวางตัวน้อยๆ เท่านั้นเอง
“ หยิ่งจังนะ ”
ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยดินและแผลเลือดซิบค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองร่างสูงใหญ่สง่างามที่นั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้ทรงเกียรติและหรูหรา ดวงตาคล้ายกวางคู่นั้นช่างไร้ซึ่งความรักเต็มไปด้วยความโกรธเกลียด ซึ่งชายหนุ่มรู้ดีว่าเพราะอะไร
“ เธอนี่...ไม่ค่อยพูดมากเหมือนเดิมเลยนะ ” จงใจพูดเน้นย้ำราวกับจะเยาะเย้ย “ อิมยุนอาเมื่อก่อนเป็นยังไง ตอนนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น ฉันล่ะดีใจจริงๆ ที่เธอไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด ”
“ แล้วไง...เป็นอิมยุนอาคนเดิมแล้วไงเหรอชองยุนโฮ? ”
“ แววตาเธอมันทำให้ฉันนึกถึงตอนเรายังเด็กนะรู้มั้ย ”
ความทุเรศของชองยุนโฮยังไม่หมดไปเลยสินะ
เมื่อก่อนเป็นยังไงตอนนี้ก็ไม่เปลี่ยน
...เลว!
“ ฉันจำไม่ได้ว่าระหว่างฉันกับคุณมีอะไรร่วมกัน คิดจะพูดอะไร? รำลึกความหลังงี่เง่าหรือไง ”
“ ใจร้ายเหมือนเดิมเลยนะเธอเนี่ย ”
“ ...หุบปากได้แล้วชองยุนโฮ คุณส่งคนไปจับฉัน ซ้อมฉันแล้วลากมาที่นี่ จะทำอะไรก็รีบทำเถอะ! ”
ลูกกวางที่ว่าพยศแล้วยิ่งพยศมากขึ้นอีก
ความอ่อนโยนไม่อาจใช้ได้อีกต่อไป
ไม่ว่าจะผ่านไปสักกี่ปียุนโฮก็ยังรู้สึกชอบใจทุกครั้งที่สบตากับแม่กวางสาวเย่อหยิ่ง ดวงตาคู่นั้นที่เหมือนดึงเขาลงไปในห้วงอะไรสักอย่างน่าเวียนหัว ปฏิเสธไม่ได้ว่าอิมยุนอางดงามขนาดไหน
แต่เขาก็ไม่อาจนำเธอไว้ข้างกายได้เช่นกัน
“ เธอพูดผิดแล้ว ฉันแค่ส่งคนไปเชิญมาดีๆ ถ้าเธอไม่บู๊จนได้แผลมาเองน่ะนะ หึ! ”
“ ต้องการอะไรจากคนธรรมดาอย่างฉันงั้นเหรอ ”
ยุนอาเชิดหน้ามองคนเลวๆ อย่างถือดี ถึงใบหน้าจะไร้อารมณ์เพียงไหนเธอก็ยังมีความรู้สึกเกลียดผู้ชายคนนี้จนฆ่าได้ไม่ลังเล เด็กผู้ชายที่คอยแต่ทำร้ายเธอในตอนนั้นก็ยังตามมารังควานชีวิตว่างเปล่าของเธอจนได้! เกลียดแค่ไหนยังบรรยายออกมาได้ไม่หมด
“ ชีวิตเธอไง...แค่อย่างเดียวเท่านั้นแหละ ”
เพี๊ยะ!
เจ็บทุกครั้งที่ขยับตัวแต่ยุนอาก็อาศัยแรงทั้งหมดที่มีลุกขึ้นและพุ่งไปตบหน้ายุนโฮอย่างแรง ใบหน้าคมคายค่อยๆ หันมามองร่างโปร่งบางของหญิงสาวในชุดมอมแมมด้วยรอยยิ้มละมุนเช่นเดิม
“ หึหึ เธอนี่ใจกล้าเหมือนเดิมเลยนะ ฉันล่ะประทับใจจริงๆ ”
“ ฉันก็ประทับใจที่คุณเลวขนาดนี้ ”
“ แค่ชีวิตไร้ค่าของเธอเองนะยุนอา แค่อย่างเดียวที่ฉันจะขอเธอ ”
“ ถ้าฉันขอชีวิตคุณล่ะ? ”
ยุนโฮอดหัวเราะไม่ได้ ท่าทางถือดีนั่นช่างสร้างความสำราญให้เขายิ่งกว่ารอยยิ้มหวานๆ เอาอกเอาใจของใครหลายคนเสียอีก รู้ดีเชียวล่ะว่าอิมยุนอาตรงหน้าเขาอันตรายแต่ก็ยังรู้สึกเอ็นดู
“ ถ้าเธอเอาไปได้... ” รอยยิ้มซาตานค่อยๆ เผยออกมาทีละน้อย “ ก็เอาไปเลยฉันให้ ”
“ แต่ถ้าไม่...ชีวิตของเธอก็คงต้องเป็นของฉันอย่างช่วยไม่ได้ ”
กริ๊ก!
ปลายกระบอกปืนสีดำขลับถูกหยิบขึ้นมาจากโต๊ะตัวเตี้ย ยุนอายังคงจ้องหน้ายุนโฮไร้อารมณ์ดังเดิมแม้ว่าปลายประบอกปืนนั้นจะเบนมาทางเธอ...และเล็งที่หน้าผากพอดิบพอดี
“ เหมือนจะตายง่ายไปหน่อยว่ามั้ย ”
“ คงงั้นมั้ง ”
ยุนอาเชื่อว่ายุนโฮคงไม่ปล่อยให้เธอตายง่ายๆ แน่นอน
อย่างน้อยคงต้องมีทรมานด้วยวิธีโรคจิตตามประสาคนเก็บกดนั่นแหละ
หนทางเลือกสุดท้าย...ก็ตายอยู่ดี
“ ครั้งเดียวฉันตาย แล้วคุณก็เชิญหัวเราะสะใจตามสบายเลยไง ”
“ แหม...ฉันไม่ใช่คนใจร้ายหรอกนะ เธอก็รู้นี่ ”
“ ฉันไม่รู้จักคุณ ”
รอยยิ้มของยุนโฮเลือนหายไปเหลือเพียงใบหน้าที่นิ่งเรียบ ร่างสูงสง่าจ่อปืนตรงหน้าผากชื้นเหงื่อจนรู้สึกได้ถึงความเย็นเยียบ ก่อนรอยยิ้มอ่อนโยนจะปรากฏขึ้นอีกครั้ง มันน่าขยะแขยงจนแทบทนมองไม่ไหวแม้สักนาที ยุนอาพยายามเบือนหน้าหนีแต่คางเธอถูกมือเรียวยาวล็อกเอาไว้
“ เธอรู้มาตั้งแต่แรก... ”
“ ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น! ”
“ ฉันชอบเธอมาก ” ยุนโฮยิ้มเยาะพลางหัวเราะในลำคอ
“ เธอรู้ใช่มั้ยล่ะว่าฉันชอบเธอมากขนาดไหนตอนเด็กๆ แต่เธอก็เป็นแบบนี้...ไม่ยอมรับรู้อะไร ”
“ ฉันไม่รัก...ชองยุนโฮ ”
“ รู้มั้ย? ว่าฉันรู้สึกยังไง ”
ยุนอาดิ้นเล็กน้อยอย่างอึดอัด แววตาของยุนโฮว่างเปล่าไร้ประกาย มือเรียวนั้นออกแรงบีบมากขึ้นจนกรามเธอปวดร้าวไปหมด แต่ก็ยังเลือกที่จะจ้องตากลับไปแข็งกร้าวพอกัน
“ รักมากพอๆ กับเกลียด คิดว่าฉันรู้สึกยังไงล่ะอิมยุนอา... ”
รักจนถอนตัวไม่ขึ้น
มากพอๆ กับที่เกลียดใบหน้างดงามนี้จนอยากจะฆ่าให้ตาย
ตายไปกับหัวใจของเขาเช่นกัน
ซอฮยอนเป็นเพียงแค่เด็กกำพร้าอาศัยโบสถ์เป็นที่ซุกหัวนอนและมีเด็กๆ กำพร้าคนอื่นๆ เป็นครอบครัว ทุกสิ่งทุกอย่างของเธอมีเพียงแค่รอยยิ้มและความสุขในแต่ละวันก็ล้ำค่ามากพอแล้ว ที่ๆ มีความสุข ไร้ซึ่งการเสแสร้ง แม้จะลำบากบ้างแต่ความสุขเล็กๆ น้อยๆ เหล่านั้นก็ไม่ได้หายไปไหน
ความสุขมักจะอยู่กับเราได้ไม่นาน
และมันเป็นแบบนั้นจริงๆ
คุณชายชิมเป็นผู้บริจาคเงินก้อนใหญ่ให้กับทางโบสถ์และเขาก็เป็นผู้อุปถัมภ์ของซอฮยอน เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร แต่ทุกคนบอกว่าเขาเป็นคนใจดีและร่ำรวยมาก ชายผู้สง่างามและมีรอยยิ้มบางๆ แต้มอยู่บนใบหน้าเสมอ
‘ หนูชื่ออะไรจ้ะ? ’
‘ ซอ...ซอฮยอนค่ะ ’
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแค่ไม่กี่ประโยคจะเปลี่ยนชีวิตเธอได้ขนาดนี้...ซอฮยอนที่เป็นแค่เด็กกำพร้าไม่มีตัวตนอีกต่อไปแล้ว เธอกลายเป็นคุณหนูคนเล็กของตระกูลชิม
มีทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อแม่แสนดีหามาให้
แต่ไม่มีความสุข...ไม่มีมันเลย
“ คุณชายคนโตกลับมาแล้วค่ะคุณผู้หญิง ”
“ เอ๊ะ? จริงเหรอ...ไปเรียกเขามาหาฉันหน่อยสิ เจ้าลูกชายคนนี้นี่นะกว่าจะกลับมาหาแม่ให้หายคิดถึงได้แต่ละที ”
สีหน้ายิ้มแย้มของคุณนายชิมที่ก่อนหน้านี้ว่าสดใสแล้วยิ่งสดใสมากขึ้นอีกเมื่อได้ยินว่าลูกชายคนโตกลับบ้านหลังจากเอาแต่ทำงานและหมกตัวอยู่ต่างประเทศมาเสียหลายปี ทุกคนยิ้มแย้มอย่างดีใจ ซึ่งไม่มีใครสังเกตเลยว่าใบหน้าสดใสของใครคนนึงกำลังซีดเผือด
“ น้องซอจ้ะ ไปต้อนรับพี่เขากับแม่นะจ้ะ ”
“ เอ่อ...ซอไปก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอกค่ะ ซอขอแค่...ยินดีกับการกลับมาของพี่เงียบๆ แล้วกันนะคะ ”
“ ได้ยังไงกันจ้ะ ปีหลังๆ มานี้พี่เขาถามถึงหนูตลอดเลยนะ...เถอะจ้ะ ไปหาให้พี่เขาหายคิดถึงหน่อย เอาแต่พูดถึงเราจนแม่น้อยใจแล้วนะเนี่ย ”
“ ซอ...ซอไม่... ”
“ พี่เขาอยากเจอเราจริงๆ นะน้องซอ อย่าดื้อกับผู้ใหญ่สิจ้ะ ”
ทำยังไงดี!? เธอไม่อยากขัดคำสั่งคุณแม่แต่ก็หวาดกลัวที่จะเผชิญหน้ากับพี่ชายคนโตของบ้าน หญิงสาวแทบจะร้องไห้เมื่อโดนดึงไปหน้าบ้านเสียแล้ว
“ คุณแม่คะ... ”
“ ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ พี่เขาคิดถึงน้องซอมากจริงๆ นะ ”
ซอฮยอนหลบข้างหลังของคุณแม่แต่เพราะคุณนายชิมเป็นคนตัวเล็กกว่าเธอมากนัก ไม่ว่าจะทำยังไงซอฮยอนก็ยังเป็นจุดสนใจของคนที่ก้าวลงจากรถอยู่ดี
“ ชิมชางมิน!!! ”
หัวใจหญิงสาวกระตุกวูบก่อนจะเต้นกระหน่ำอย่างหวาดหวั่น เจ้าของชื่อหันมายิ้มให้คุณนายชิมดูใจดีไม่ต่างจากผู้เป็นพ่อ แต่ซอฮยอนก็ยังหวาดกลัวเหมือนเดิม เพราะเธอรู้ดี...
สิ่งที่ตาเห็นเชื่อไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาดเลย
“ คุณแม่ครับ...คิดถึงผมมากขนาดที่ต้องเรียกชื่อเต็มยศเลยหรือไงครับ ”
“ ลูกคนนี้นี่! ดูซิ กว่าจะกลับบ้านได้นึกว่าจะรอให้แม่เหี่ยวตายก่อนซะอีก ”
“ คุณแม่ไม่เหี่ยวง่ายๆ แน่ครับ ผมเลยไม่รีบ ”
“ ชางมิน! ”
ถึงจะดุด่ายังไงคุณนายชิมก็ดูจะมีความสุขกับการกลับมาของลูกชายคนโต สองแม่ลูกพูดคุยหยอกล้ออย่างสนุกสนาน ซอฮยอนพยายามขยับตัวออกห่างคนทั้งสองและกะจะปลีกตัวเข้าบ้านเงียบๆ
“ จะไปไหนเหรอซอฮยอน... ” เสียงทุ้มแหบพูดขึ้นไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยจนเธอสะดุ้งโหยง ซอฮยอนหันกลับไปมองเขาเกร็งๆ “ น้องสาวไม่คิดถึงพี่ชายคนนี้เลยเหรอ ”
“ นั่นสิจ้ะน้องซอ ไม่คิดถึงพี่เขารึไงกัน ”
“ เอ่อ...ซอแค่เห็นว่าคุณแม่กับคุณชาง...พี่ชางมินกำลังคุยกันสนุกเลยไม่อยากขัดจังหวะน่ะค่ะ ”
“ เอาสิ ถ้าเธอไปโดยไม่สนใจพี่ คืนนี้ระวังไว้เถอะ... ”
...เขาเอาจริง
“ พี่จะกอดให้หายคิดถึงเลย ”
ดวงตาชางมินไม่ได้ล้อเล่นหรือเป็นเพียงเรื่องขบขัน ชางมินพูดประโยคข่มขู่แบบนั้นออกมาได้อย่างแนบเนียน ซอฮยอนแข็งทื่อขณะที่คุณนายชิมหัวเราะชอบใจ
“ ชางมินนี่น้า...โตขนาดนี้แล้วยังชอบกอดชอบหอมน้องเหมือนเดิมเลย เดี๋ยวหนุ่มๆ ที่มาจีบน้องซอก็เข้าใจผิดกันหมดพอดี ”
“ นี่น้องมีคนมาจีบด้วยเหรอครับ... ”
“ ถมเถไป ” คุณนายชิมหัวเราะคิกคักลูบผมของซอฮยอนอย่างเอ็นดู “ ก็น้องซอของคุณแม่ออกจะน่ารักขนาดนี้นี่จ้ะ สักวันน้องคงเจอคนที่ดีมากแน่ๆ ว่ามั้ยจ้ะน้องซอ? ”
“ …ค่ะ ”
ไม่อยากตอบอะไรไปมากกว่านี้ เธอขานรับสั้นๆ แล้วฝืนยิ้ม พยายามที่จะไม่มองไม่สนใจสายตาที่จ้องมองมาอย่างคุกคาม มันทั้งดิบเถื่อน ร้อนแรง หยาบกระด้างเสียจนรู้สึกขนลุกซู่ ซอฮยอนต้องแข็งใจยืนอยู่กับที่ไม่ให้ตัวเองวิ่งหนีไปไหนตอนที่ร่างสูงของชางมินเดินเข้ามาใกล้
“ สวยมากครับ ” ซอฮยอนรับรู้ได้ว่ามันไม่ใช่คำชมที่ปราศจากเลศนัย เธอก้มหน้าลงต่ำเพราะใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนมาใกล้ “ สวยขึ้นทุกวันเลยนะซอฮยอนนา...หวังว่าน้องสาวคนสวยของพี่จะไม่ได้แอบไปมีใครหรอกนะ ใช่มั้ย? ”
ถ้าเกิดเธอมีแฟนขึ้นมาจริงๆ อย่างที่เขาว่า ชางมินต้องเอาเธอตายแน่ๆ
ซอฮยอนไม่ใช่คนโง่ เธอจะไม่ทำมัน
“ เงียบทำไมครับ หรือว่ามีใครไปแล้ว ”
“ …เปล่าค่ะ ซอยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ ”
ซอฮยอนพูดเสียงเบา ช้อนตาขึ้นมองชางมินที่มีรอยยิ้มพอใจประดับอยู่บนหน้า ชายหนุ่มถือวิสาสะโอบไหล่เธอเข้าหาตัวไม่เกรงสายตาคุณนายชิมเลยสักนิด แต่ก็นึกขึ้นได้ คนอย่างชิมชางมินน่ะตบตาคนอื่นได้ง่ายดายเหมือนกับมีหน้ากากร้อยหน้าอย่างนั้นแหละ
“ เอ้า เราก็อย่าไปขู่น้องแบบนั้นสิ หวงอะไรไม่เข้าท่าจริง ซอฮยอนต้องเลือกผู้ชายที่ดีอยู่แล้วล่ะใช่มั้ยจ้ะ ยังไงก็อย่าลืมพามาดูตัวด้วยแล้วกันนะจ้ะ ”
“ คุณแม่ไม่ได้ยินเหรอครับว่าน้องยังไม่มีใคร ไม่ได้คิดเรื่องนี้ คุณแม่กำลังกดดันน้องอยู่นะครับ ”
“ ลูกคนนี้นี่ยังไง เราเองก็กำลังทำเกินหน้าที่เหมือนกันนะ ”
ทำเกินหน้าที่...?
คำๆ นี้ชางมินรู้สึกขัดหูอย่างน่าประหลาด
ชายหนุ่มกระแอมไอเล็กน้อย ไม่ต่อความยาวสาวความยืดกับมารดาตัวเองอีก เขาโอบไหล่น้องสาวคนดีที่ตัวแข็งทื่อเข้าบ้านหลบเลี่ยงไป อย่างน้อยซอฮยอนก็ยังรู้จักหลาบจำว่าการขัดใจคนอย่างเขาจะได้รับบทเรียนกลับมาแบบไหน
“ ปล่อยซอได้มั้ยคะ... ”
เสียงหวานๆ นุ่มๆ ร้องขออย่างหวาดเกรง หญิงสาวไม่กล้าสบตาเขาตรงๆ และเอาแต่จะมองลงไปข้างล่างอยู่ตลอด มือนุ่มจับมือชางมินเอาไว้เสียแน่น ท่าทางหวาดกลัวนั้นทำให้ชางมินหัวเราะเบาๆ
“ ทำไมล่ะหืม...พี่น้องกันจะโอบกันก็ไม่แปลก หรือโตแล้วเลยเล่นตัวกับพี่ชาย ”
“ ไม่กล้าหรอกค่ะ ซอแค่อึดอัด ”
“ นี่... ” ร่างสูงดันซอฮยอนติดกำแพงแล้วคร่อมทับ จงใจเป่าลมหายใจร้อนๆ ใส่ผิวแก้มใส “ อยู่นิ่งๆ สักสามนาทีให้ฉันได้เห็นหน้าเธอชัดๆ หน่อยซิ สามปีที่ผ่านมาเธอเปลี่ยนไปยังไงบ้าง ”
ไม่เปลี่ยนไปเลยสักอย่าง ยังสู้ผู้ชายที่ชื่อชางมินไม่ได้สักอย่าง
“ เงยหน้าขึ้นมาซอฮยอน! ”
ดูเหมือนว่าเธอจะทำให้ชางมินหงุดหงิดขึ้นมาจริงๆ แล้ว หญิงสาวรีบเงยหน้าขึ้นสบตากับพี่ชายในนาม ดวงตากลมโตใสซื่อและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ริมฝีปากสีอ่อนที่แย้มยิ้มได้อ่อนหวานเหลือจะทน ชางมินชอบมันทั้งหมด...ชอบจนคิดว่าตัวเองบ้าไปแล้ว
“ ซอฮยอนเมื่อสามปีก่อนน่ารักและใสซื่อ จนตอนนี้...เธอก็ยังดูเป็นแบบนั้น ”
“ ฉันก็ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนนี่คะ คุณเองก็ไม่เห็นจะเปลี่ยน... ”
เลวไม่เปลี่ยน ทำร้ายเธอไม่เปลี่ยน ซอฮยอนอยากจะตะโกนคำนี้ใส่หน้าหล่อๆ นั่นแรงๆ เธออัดอั้นตันใจมากแค่ไหนไม่มีใครรู้ ต้องทนอดกลั้นความรู้สึกแย่ๆ เอาไว้เสมอเพื่อปกป้องตัวเอง ชางมินไม่รู้หรอกว่าตัวเองได้พรากความสุขอันน้อยนิดของเธอไปแล้ว จะให้เธอทนมองรอยยิ้มเยาะแบบนั้นได้ยังไงกัน
“ ก็ดี ” ชางมินตอบรับ “ ในเมื่อฉันกลับมาแล้ว...ต่อไปนี้ในฐานะ ‘ พี่ชาย ’ เธอจะต้องเชื่อฟังสิ่งที่ฉันบอก ทำตัวดีๆ น่ารักว่าง่ายกับฉัน เข้าใจมั้ยซอฮยอน... ”
“ คุณเข้าไปพักก่อนเถอะค่ะ กลับมาเหนื่อยๆ ไม่ใช่เหรอคะ ”
“ ถ้าเธอดื้อกับฉันจะด่าเธอแรงๆ ถ้าเธอมองคนอื่นนอกจากฉันฉันจะตีเธอให้ตาย ถ้าเธอคิดจะหนีฉันจะจับเธอขังไว้ในห้อง และถ้าเธอไปมีใจให้คนอื่น...ฉันจะฆ่าให้หมดทุกอย่างที่เธอรัก ”
ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนก ปกติซอฮยอนไม่ใช่คนตื่นตูมและลนลานเพียงแค่ได้ยินคำขู่ กับชางมินไม่ใช่แบบนั้น...เธอกลัว...กลัวมาก สายตาคู่นั้นดูโรคจิตพร้อมจะทำอย่างที่พูดแน่ๆ ซอฮยอนทำได้แค่พยักหน้าเข้าใจเท่านั้น
“ เข้าใจที่ฉันพูดมั้ยซอฮยอน ”
ไม่มีทางเลือก...ไม่มีทางเลือกอะไรสักอย่าง
ชิมชางมินช่างเจ้าเล่ห์เหลือร้ายจริงๆ ...ซอฮยอนก็แค่หุ่นเชิดไร้ชีวิต
“ เข้าใจค่ะ ”
TALK :
ฟิคเรื่องนี้ออกแนวจิตๆ แต่ไม่ถึงกับหลอน จะเน้นความหลงใหลคลั่งไคล้เป็นพิเศษ
( ดูได้จากพระเอกแต่ละคน )
ความคิดเห็น