ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    KRiSLAY ... FEEL & FOOL

    ลำดับตอนที่ #2 : FEEL & FOOL #1

    • อัปเดตล่าสุด 8 ม.ค. 56


    FEEL & FOOL #1
     
     
     
     
    :
     
     
     
    "โทษทีครับ"
     
     
    ร่างสูงชะงักขา เมื่อมีอีกคนวิ่งสวนทางมาอย่างรีบเร่ง
     
    เขาหันไปมองก่อนจะตัดสินใจ....ตามไปดู
     
     
     
     
     
     
    "เลย์"
     
     
    เสียงคุ้นเรียกทำให้คนที่กำลังจะเดินออกจากตึกต้องหันหลังกลับมา
     
     
    ".................."
     
     
     
    "จะกลับแล้ว?"
     
     
    ไคถามแปลก แล้วจะให้เขาอยู่ไปทำไมล่ะ
     
     
     
     
    "ลู่หานล่ะ?" เลย์เสมองไปด้านหลัง ไม่เห็นมีร่างเล็กเดินตามมาด้วย
     
     
    ไคส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะคว้าแขนให้เลย์เดินตามมา
     
     
     
    "คุยกันหน่อย"
     
     
     
    สองร่างของเพื่อนสนิทเดินหลบมายังมุมหน้าประตูทางหนีไฟ
     
     
     
     
     
     
     
     
    "ขอโทษที่ไม่ได้บอกเรื่องนั้น"
     
     
     
    ".........................." เลย์ได้แต่ก้มหน้า เขาเองไม่ได้อยากรู้เรื่องพวกนั้นมากนักหรอก เพราะมันเป็นเรื่องของคนสองคน 
     
     
     
     
     
     
    "ฉันชอบลู่หาน"
     
     
    ประโยคที่ทำให้เลย์ต้องหลับตาลง
     
    แม้ว่าไคจะไม่พูดออกมาตรง ๆ เลย์ก็รู้ดี....
     
     
     
    "นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน ฉันอยากให้นาย......"
     
    ทุกอย่างที่เป็นเรื่องของลู่หาน มันเป็นเรื่องของไคไปหมดแล้ว
     
     
    เลย์ยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะพยักหน้ารัว ๆ เขารู้ดีว่าไคอาจจะไม่ค่อยสบายใจ หากว่าเขายังคงไม่เปิดใจรับลู่หาน
    มือเล็กจับไหล่ของไคแล้วบีบมันเล็กน้อย ให้ได้รู้ว่าเขาทำให้ไคได้ทุกเรื่องตามที่ไคต้องการ
     
    นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เพื่อนคนนึงจะทำให้ได้
     
     
    ไคคว้าร่างเล็กมากอดไว้แน่น รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
    เขาเองไม่อยากจะถามเรื่องราวของเลย์มากนัก เขาไม่อยากเป็นแผลใจให้ใคร แม้ว่าจะไม่แน่ใจในความรู้สึกของอีกฝ่าย เพราะเลย์ไม่เคยพูดอะไรออกมาตรง ๆ แต่ไคก็อยากจะให้เรื่องราวตรงนี้มันจบลงด้วยความเข้าใจ
     
     
    แม้ว่ามันจะทำให้อีกฝ่ายเจ็บปวดอย่างที่สุดก็ตาม.....
     
     
     
    และคนที่รับรู้ถึงความเจ็บปวดนั้นได้ดี ก็คือร่างสูงที่เดินตามเข้ามาดูเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างเงียบ ๆ
     
     
     
     
    :
     
     
     
     
    "นี่คือหัวหน้าของพวกคุณ อู๋อี้ฝาน หรือ คริส โทษทีที่แนะนำช้าไปหน่อย คริสเพิ่งกลับไปเยี่ยมบ้านมา"
     
    เมเนเจอร์ของวงอธิบายในส่วนของทีมฝั่งจีน สมาชิกรับรู้ว่าความสามารถพอเพียงที่จะคอยดูแลคนทั้งวงได้ ด้วยความสามารถทางด้านภาษาและอื่น ๆ อีกหลายอย่าง
     
     
     
    "ฝากตัวด้วย" เด็กหนุ่มร่างสูงกว่ามาก เดินเข้ามาทักทายคนที่เคยพบหน้ากันมาก่อน ไม่สิ อาจจะเป็นคนแรกที่เขาเอ่ยปากคุยด้วยเลยล่ะมั้ง
     
     
    "ฮะ...พี่"
     
    คนที่มาใหม่รู้สึกว่าอายุจะมากกว่าเล็กน้อย
     
     
    "เรียกชื่อเฉย ๆ ก็ได้"
     
    "อย่าเลยรับ ผมเด็กกว่า อีกอย่างคุณเป็นตุ้ยจ่างด้วย"
     
     
     
    แค่การพูดคุยกับเลย์ในครั้งแรก คริสก็โดนขีดเส้นแบ่งกั้นซะแล้ว
     
     
     
     
    "เลย์ ยังเหนื่อยอยู่ไหม ซ้อมท่อนนี้ให้หน่อยสิ"
     
    หลังจากเลิกซ้อมร่วมกันทั้งวงแล้ว หัวหน้าวงก็เดินเข้ามาขอความช่วยเหลือจากเลย์ แน่นอนว่ามันเป็นส่วนของการเต้นในบางท่าที่เขายังทำได้ไม่ดีนัก
     
     
    "ได้ฮะ เดี๋ยวผมขอไปล้างหน้าล้างตาก่อน"
     
    คริสยิ้มน้อย ๆ ให้ ก่อนจะไปนั่งรอ
     
     
     
    ปัง
     
     
     
    "เลย์ล่ะครับ?"
     
     
    คนที่เปิดประตูพรวดพลาดเข้ามาเอ่ยถามร่างสูงที่นั่งอยู่ในห้องซ้อม
     
    คริสพยักเพยิดไปทางห้องน้ำภายในห้องซ้อม ก่อนจะยิ้มให้ 
     
     
    ไคกับคริสรู้จักกันคร่าว ๆ แล้ว เพราะพวกทีมโปรเจคทั้ง 12 คน ได้เคยรวมตัวกันซ้อมเต้นในบางเพลงที่ต้องโปรโมทร่วมกันมาบ้าง หากแต่ว่ายังไม่ค่อยได้พูดคุยกันมากเท่าไหร่ เพราะอยู่กันคนละทีมด้วย
     
    แต่คริสก็รู้จักไคดีว่าเป็นเพื่อนร่วมห้องของลูกทีมเขา และเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกทีมของเขามีแววตาเศร้าอยู่เสมอ....
     
     
     
    "เลย์"
     
     
    "หืม? จะกลับแล้วเหรอ?"
     
     
     
    "อือ จะไปดูรองเท้ากับลู่ แล้วก็คืนนี้ลู่หานไปค้างด้วยนะ"
     
    ไคบอกล่วงหน้า ดูเหมือนทั้งคู่จะดีต่อกันแล้ว แต่ยังไงซะเลย์ก็เป็นเพื่อนร่วมห้อง จะชวนใครเข้าออกก็คงต้องบอกให้อีกฝ่ายได้รับทราบ
     
     
    ของที่เคยชอบไปดูด้วยกัน เดี๋ยวนี้ไคไปดูกับคนอื่นได้แล้ว...
     
    แววตาเลย์วูบลงเล็กน้อยแล้วก็ตัดสินใจบอกไค
     
     
     
    "คืนนี้ฉันจะซ้อมเต้นกับตุ้ยจ่างนะ" ไคหันไปมองอีกคนที่นั่งอยู่มุมห้อง 
     
     
    "คงกลับดึก ก่อนเข้าไปจะโทรไปบอก"
     
     
     
    อย่างน้อยทั้งคู่คงจะมีเวลาร่วมกันในห้องสักพักใหญ่ล่ะ
     
     
    ไคยิ้มให้ ก่อนจะตบบ่าแล้วบอกให้เลย์ตั้งใจซ้อม แล้วเดินผละออกไปสมทบกับคนที่รออยู่ด้านนอก
     
     
     
     
    "ถ้าไม่สะดวก ก็ไม่เป็นไรนะ"
     
     
    เป็นคำพูดมองหาการประชดไม่ออก 
     
     
    "ไม่เป็นไรหรอก ซ้อมเถอะครับ"
     
     
     
    ทั้งคู่เริ่มซ้อมจนมืดค่ำแล้ว ก็ยังไม่มีอะไรก้าวหน้าเท่าที่ควร คริสสังเกตแววตาและสีหน้าของคนที่ซ้อมให้ ก็ไม่ค่อยได้เห็นความตั้งใจนัก 
     
     
    "..............." เลย์หยุดกึก เมื่อมือใหญ่ของท่านหัวหน้าวงจับเข้าที่แขนของเขา
     
     
     
    "ถ้ายังไม่พร้อมที่จะเต้น ก็เสียเวลาเปล่า"
     
     
    เลย์มองหน้าคริสอย่างแปลกใจ คน ๆ นี้ทำไมถึงมองเขาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง แต่เขาไม่คิดจะยอมรับ เรื่องบางเรื่องจะให้ใครมารับรู้ไม่ได้
     
     
    "ผมเปล่า พี่ต่างหาก ผมบอกหลายรอบแล้วแต่พี่ไม่สนใจ"
     
     
    คริสเอาเวลาไปลอบมองและสังเกตคนที่อยู่ด้วยต่างหาก
     
     
     
    "เอาเถอะ ฉันว่าเราไปหาอะไรกินดีกว่า อยู่ไปก็ไม่ได้อะไร"
     
     
     
     
    "ผม อยาก ซ้อม"
     
     
     
    เลย์พูดเสียงหนักแน่น เหมือนใจไม่อยากจะออกไปจากห้องนี้สักเท่าไหร่ นี่มันแค่สองทุ่มกว่าเท่านั้น ถ้าเขากลับ.....จะกลับไปเจออะไร...?
     
     
    "นายบอกว่าอยากซ้อม แต่ใจนายไม่รู้ลอยไปอยู่ไหน?"
     
     
     
    "............." คนตัวเล็กเถียงไม่ออก มันอาจจะเป็นอย่างนั้นจริงก็ได้
     
     
     
    "ผมยังไม่อยากกลับ"
     
     
    ถ้าเป็นคำพูดของคนอื่น ๆ ที่ผ่านมาของคริส มันคงแปลความหมายได้ว่า คน ๆ นั้นอยากจะใช้เวลาอยู่กับเขาให้นานกว่านี้....
     
     
    แต่สำหรับเด็กคนนี้แล้ว คงไม่ใช่
     
     
     
    "คงมีอะไรที่นั่นที่ทำให้นายไม่อยากกลับไปใช่ไหม"
     
     
     
    แทงใจดังจึก....
     
     
    เลย์เบือนหน้าไปทางอื่น ไม่อยากจะสนทนาในเรื่องที่แสนจะอึดอัดใจเช่นนี้
     
     
     
     
     
    "มันเรื่องส่วนตัวของผม"
     
     
    โดนเลย์พูดแบบนั้นแล้ว คริสไม่อยากจะพูดต่อ มันก็จริง เขามีสิทธิอะไรจะไปรับรู้เรื่องของคนตัวเล็ก
     
     
    มีสิทธิอะไร...?
     
     
     
     
    ".....จะพาผมไปไหน?"
     
    เลย์งง เพราะคริสจับที่ข้อมือเขาแล้วเดินไปหยิบเป้แล้วลากเขาติดมือไปด้วย
     
     
     
    "กินข้าว ฉันหิว"
     
     
     
     
    "ทำไมพี่ชอบบังคับผม!?"
     
     
    "ก็เพราะนาย...ดื้อกับฉัน!"
     
     
     
     
     
    ร่างสูงพาคนตัวเล็กมาทานรามยอนข้างทางง่าย ๆ ใกล้ ๆ ตึก SMent จนจัดการให้ท้องเต็มไปด้วยอาหารจนแน่นแล้ว ต่างคนต่างก็มองหน้ากันอย่างที่ตัดสินใจว่าจะเอายังไงต่อ
     
     
     
    "ฉันไม่คิดว่าอิ่มขนาดนี้แล้วยังมีแรงเต้นไหว"
     
    คริสเอ่ยขึ้นมา
     
     
    เลย์เงียบ ไม่ได้ตอบอะไร ไม่ได้เสนออะไรอีก เขาเองก็กำลังตัดสินใจว่าจากนี้จะไปทำอะไรที่ไหนต่อ
     
     
     
    "จะไปกันหรือยัง?"
     
     
    "อืม" คนตัวเล็กกว่าส่งเสียงรับในลำคอ ก่อนจะถูกคนตัวสูงกว่าคว้ามือเดินไปด้วย ไม่สิ ลากไปมากกว่าอีกครั้ง
     
     
     
    "จะพาผมไปไหนอีก..?"
     
    เลย์ถามขณะที่โดนท่านหัวหน้าลากไปไหนก็ไม่ยอมบอกกล่าวกันบ้าง
     
     
    "ฉันไม่พานายไปถ่วงทะเลหรอก มาเถอะน่า"
     
     
     
    "ไม่เอา ผมจะกลับ"
     
     
     
     
    ".............................." คริสหยุดเดิน เมื่อคนตัวเล็กร้องบอกเช่นนั้น ก็เลยต้องหันมามองด้วยความสงสัย ก่อนหน้าไม่มีวี่แว่วว่าอยากจะกลับ แต่ทำไมมาบอกว่าจะกลับซะแล้วล่ะ
     
     
    "ปล่อยผมกลับบ้านเถอะ"
     
    น้ำเสียงวิงวอน 
     
     
     
     
    "นายจะกลับไปในที่ ๆ ไม่ได้เป็นของนายเหรอ?"
     
     
     
    คริสช่างพูดแทงใจน้องมากมาย เขาเองก็พอจะเดาได้คร่าว ๆ ถึงความสัมพันธ์ของคนฝั่งเกาหลี และคนฝั่งจีนอีกสองคน....ซึ่งเป็นลูกทีมของเขาเอง
     
     
     
    "ทำไมคุณถึงต้องมายุ่งกับเรื่องของผมด้วย!?" คำพูดที่เสียดสีความรู้สึกเขา ทำให้เลย์เกิดอาการไม่พอใจ และอยากจะทำทุกอย่างให้ห่างผู้ชายตรงหน้าให้มากที่สุด....
     
     
    "ก็นายไม่รู้จักตัวเองสักทีน่ะสิ"
     
     
     
     
     
    "อะไรล่ะ?? พี่เพิ่งเจอผมไม่กี่วันจะมารู้ดีกว่าตัวผมเองได้ยังไง?"
     
     
    เลย์เถียงอย่างไม่ยอมแพ้ ผู้ชายคนที่มาเป็นหัวหน้าวงของเขา ทำไมถึงได้เจ้ากี้เจ้าการและเดาใจอะไรเขาได้หมดทุกอย่างอย่างนี้นะ!!
     
     
     
    "ถ้านายรู้จักตัวเองดีพอ....นายควรตะโกนใส่หน้าหมอนั่น ว่านายชอบเขา!!"
     
     
     
     
     
     
    "พี่คริส!?"
     
     
     
     
    "ตกใจทำไม นายคิดว่ามีแต่นายเท่านั้นที่รู้เหรอ? นายไม่รู้ตัวบ้างหรือไง แววตาที่นายแสดงออกอย่างลึกซึ้งนั้น มันตีความหมายว่าอะไร หมอนั่นไม่ได้โง่หรอก แต่เขาแค่วางนายไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม ก็เท่านั้น"
     
     
    คริสมองได้อย่างทะลุปรุโปร่ง หลังจากที่ได้เข้ามาร่วมทีมแล้ว ไม่ว่าอะไรที่เกี่ยวกับคน ๆ นี้ เขามักจะคอยจับความรู้สึกของคน ๆ นี้ได้เสมอ
     
    ร่างสูงยังจำสีหน้าในวันที่เขาตามไปเห็นไคกอดเลย์ได้อย่างดี แม้จะดูมีความสุขที่เข้าใจกัน แต่สีหน้าและแววตาที่ปวดร้าวนั่น ไม่มีใครได้เห็น....นอกจากเขา
     
     
    จนเขาอยากจะทำให้ความเจ็บปวดนั้น...จางหายไปด้วยมือของเขาเอง
     
     
     
     
    "จะไปไหนก็ไป!!!"
     
     
     
    "เลย์!?"
     
     
     
    ร่างเล็กสิ่งตัวปลิวให้ห่างจากความจริง ขายาว ๆ นั่นก้าวไม่ออก จึงปล่อยให้หลังของเลย์หายลับไปกับตา
     
    ยากที่จะคว้ามาไว้ในครอบครอง หัวใจของเลย์ไม่เคยอยู่กับเจ้าตัว
     
     
     
    คริสรู้ดีว่ามันอยู่ที่....ใคร
     
     
     
     
     
     
    "วันนี้ไม่ยิ้มเลย...?"
     
    ไคเอ่ยถาม ขณะพาลู่หานมานั่งทานไอติมตากแอร์อยู่ในห้าง หลังจากพากันเลือกซื้อรองเท้าคู่ใหม่ที่ไคแนะนำให้
     
     
    "เสียตังค์เยอะ จะให้ยิ้มได้ไง"
     
     
    "ไม่เห็นแพงเลย เท่านี้คุณหนูลู่ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกครับ"
     
    ไคเย้า หากแต่ดวงตากลมโตไม่ได้สนุกไปด้วย
     
     
     
    "ไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า หืม?"
     
    มือของไควางบนมือนิ่มของอีกฝ่ายอย่างปลอบใจ
     
     
    "มีอะไรก็พูดมาสิ ฉันยินดีรับฟัง"
     
     
     
     
     
    "นาย...มีความสุขไหม?"
     
     
    "........" ไคยิ้มอย่างอ่อนโยน ก่อนจะต่อให้อีกว่า
     
    "นั่งมองหน้านายอย่างนี้ จะไม่มีได้ยังไงล่ะ"
     
     
     
    "ฉัน...ฉันกำลังรู้สึกว่า ขณะที่เรามีความสุขกัน ยังมีใครบางคนที่กำลังเป็นทุกข์"
     
    ลู่หานไม่ได้สบายใจในเรื่องของพวกเขามากนักหรอก เขาพอจะเข้าใจว่าไค...อาจจะเป็นคนสำคัญของใครอีกหลาย ๆ คน แต่พอเขาเข้ามา ก็กลับยึดไคเอาไว้เป็นการส่วนตัวแบบนี้
     
     
     
    "อย่าคิดมากเลย ฉันว่าทุกคนจะได้เจอแต่สิ่งที่ดีที่สุดอยู่แล้ว เชื่อสิ" มือใหญ่เอื้อมไปวางบนศีรษะของคนน่ารักแล้วแกว่งไปมาเบา ๆ
     
    คนที่เขาให้ความสำคัญกลับส่งสายตาจ้องตรงกลับมา
     
     
     
    "ฉันมีความสุขมากเกินไปหรือเปล่าไค....?"
     
     
     
    "ไม่...เราอย่ามีความสุขมากเกินไป แบ่งไว้วันข้างหน้าบ้างก็ได้...นะ"
     
    บางทีไคเองก็ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองว่าจะมีอะไรดีไปกว่าวันนี้ที่เขาได้อยู่ข้าง ๆ ลู่หานแบบนี้ แต่เขากลับคิดเผื่อไปว่า อยากจะอยู่ใกล้ ๆ ลู่หานในทุก ๆ วัน...นับจากนี้ต่างหาก
     
     
     
     
     
    ร่างเล็กมาหยุดยืนอยู่ที่ริมแม่น้ำแห่งหนึ่ง สายทอดยาวหายไปในความมืด หมดหนทางที่จะไปไหนต่อได้
     
    ป่านนี้ไคกับลู่หานกำลังทำอะไรอยู่....
     
     
    ถ้าเขากลับเข้าบ้านไปตอนนี้ จะเป็นการรบกวนความเป็นส่วนตัวของพวกเขาหรือเปล่า..?
     
     
     
     
     
    'เขาแค่วางนายไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม ก็เท่านั้น'
     
     
     
    จู่ ๆ เสียงของคริสก็แว่วเข้าหู
     
    คงใช่สินะ อย่างจางอี้ชิง ก็คงเป็นได้แค่ 'เพื่อน' เพื่อนที่ไคคงให้ความสำคัญได้เท่านั้นจริง ๆ
     
     
     
     
    'นายควรตะโกนใส่หน้าหมอนั่น ว่านายชอบเขา!!'
     
     
    ถ้ามันพูดได้ง่ายขนาดนั้นก็คงดี.....
     
     
     
     
     
     
     
    กริ๊ก
     
     
    เมื่อได้ยินเสียงปลายทางรับโทร เลย์จึงกรอกคำพูดที่ตั้งใจจะพูดไว้ลงไป
     
     
     
     
    "ไค...ฉันมีบางอย่างจะบอกนาย ฉันขอโทษที่ทำให้นายไม่สบายใจ ยังไงก็ขอให้เราเป็นเพื่อนรักกันอย่างนี้ตลอดไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะเก็บความรู้สึกส่วนลึกเอาไว้ ไม่บอกนาย....ฉัน จะเก็บมันเอาไว้ตลอดไป"
     
    เลย์ตัดสายโทรศัพท์ทิ้งไป พร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างไม่ต้องอายใคร
     
     
     
     
    "............................." ปลายสายที่ไม่ได้พูด ก็กลับมีน้ำตาไหลลงมาอย่างช่วยไม่ได้
     
     
     
    "เฮ้...ใครโทรมาเหรอ?" ร่างสูงเดินเช็ดหัวออกมาจากห้องน้ำ ก่อนจะเดินไปเปิดทีวีแล้วกดเลือกช่อง
    ทำให้คนที่นอนอยู่บนเตียงมีโอกาสได้เช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาเมื่อกี้ให้มันหายไปได้
     
     
    "ไม่มีอะไร คงโทรผิดน่ะ" ลู่หานตอบก่อนจะตัดสินใจลบสายที่โทรเข้ามาล่าสุดทิ้ง 
     
    ไคไม่ได้ถามอะไรต่อ เพราะมัวแต่สนใจรายการในทีวี
     
     
     
     
     
     
     
    ริมแม่น้ำ....ที่เดิม
     
     
     
     
     
    "....................................................."
     
     
     
     
    "ถ้ายังไม่อยากกลับไป ก็ไปที่ห้องฉันก่อน"
     
     
     
    ไม่มีทางเลือก....
     
    หัวใจของเขาถูกปิดตายไปอย่างง่ายดาย หลังจบการสนทนาเมื่อครู่
     
     
     
    ครั้งนี้....แม้ว่าจะไม่มีการจูงมือแกมบังคับ แต่เขาก็เดินตามร่างสูงไปอย่างง่ายดาย
     
    อย่างน้อยคืนนี้เขาขอแค่ที่พักพิงสักคืน คงไม่เป็นไรหรอก
     
     
     
     
     
     
    -จบตอน-
     
     
     
    ร้องไห้ตอนจบประจำ = =" เฮอะ!!
     
    อย่ามาทำตัวน่าสงสารนะเฟ้ยยยยย!!!

     
    TAG OF THE DAY :
    #LOVE ME HATE MY LAY 555555555555555
     
     
     
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×