คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 1 คู่หู??
1
คู่หู??
“อือ...” ร่างบางในชุดนอนสีขาวสะอาดตัดกับเตียงสีดำและห้องที่มืดสนิทขยับเพื่อบิดขี้เกียจหลังจากที่เมื่อคืนทำงานมาอย่างเหน็ดเหนื่อย ก่อนจะลุกจากเตียงเพื่อไปจัดการธุระส่วนตัว
ฉันอาบน้ำแปรงฟันด้วยความเคยชินก่อนจะแต่งชุดนักเรียนเพื่อไปเรียนและทำงาน งานของฉันคือเป็นฮันเตอร์ล่าอมนุษย์และมนุษย์ที่มีความสามารถพิเศษ จะเรียกตามความสามารถที่มีอยู่ เช่น เมื่อคืนฉันพึ่งจัดการเงามืดได้ เงามืดจะใช้เรียกคนที่มีความสามารถในการซ่อนตัวสูงและฝีเท้าเบา เหมาะกับการรับจ้างเป็นนักฆ่าและโจร แต่โจรไม่ได้เรียกว่าเงามืดทุกคนเพราะเงามืดจะเก่งกว่าโจรมากและสามารถจัดการศัตรูได้ในเวลาอันน้อยนิด ความสามารถพิเศษนี้สามารถฝึกได้แต่ต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะมาเป็นมืออาชีพ แต่บางคนก็มีเพียงความสามารถและใช้มันอย่างถูกต้อง ประกอบอาชีพที่บริสุทธิ์ จะมีเพียงคนที่ขึ้นแบล็กลิสต์เท่านั้นจะถูกล่า และบางคนก็จะมาเป็นฮันเตอร์เหมือนกับฉันนั่นเอง
การแบ่งมนุษย์และอมนุษย์ที่มีความสามารถพิเศษแบบนี้จะแบ่งออกเป็น 5 สาย มีสาย A, B, C, D, E และสายพิเศษอีกหนึ่งสายนั่นคือสาย F ซึ่งจะเรียงลำดับจากเก่งไปถึงเก่งมาก สาย A เป็นเพียงผู้ที่มีความสามารถพิเศษทั่วไป เช่น เงามืด สาย B จะเป็นผู้ที่เก่งขึ้นมาและทำเรื่องร้ายแรงไว้มาก เช่น เงามืดที่พัฒนาตัวเองจนกลายเป็นรัตติกาลสีดำ นั่นคือจะเก่งกว่าเงามืดและเย็นชากว่า ไร้หัวใจและฆ่าไม่เลือก สาย C จะเริ่มมีอมนุษย์เข้ามาจัดด้วย เช่น มนุษย์หมาป่า และก็อบลิน สาย D จะเป็นผู้ที่มีความสามารถพิเศษเท่ากับฉัน ความสามารถพิเศษของฉันคือรับรู้ความเคลื่อนไหวรอบตัวได้อย่างรวดเร็ว หูดี สายตาดี จมูกดี และว่องไว อีกทั้งฉันยังมีอุปกรณ์พิเศษ ซึ่งถ้าฉันทำเรื่องมืดๆก็คงไม่มีใครจับฉันได้ สาย E จะเป็นอมนุษย์ส่วนใหญ่ พวกนี้จะจับยากมากและต้องจับเป็นเท่านั้น จะมีก็เช่น พวกที่อ่านใจได้ แวมไพร์ และคนที่มีจักษุมาร รวมถึงนักเวทย์ระดับสูงซึ่งมีน้อยมาก และสายพิเศษ F จะเป็นอมนุษย์ทั้งหมดรวมถึงเทพด้วย เช่น แวมไพร์ที่อายุมากจะมีความเก่งกาจอย่างหาเทียบไม่ติด จิ้งจอกขาวซึ่งเป็นเทพ และแมวดำ ซึ่งเป็นแมวของผู้ใช้เวทย์ แต่สายพิเศษ F จะพบเจอได้น้อยมากจริงๆ
ฉันรับหน้าที่ฆ่าและล่าตั้งแต่สาย A-D เท่านั้น ยังไม่เคยล่าสาย E และ สายพิเศษ F เพราะฉันยังไม่พัฒนาไปถึงขั้นนั้น ฉันจัดตารางสอนลงกระเป๋าก่อนจะเดินไปหยิบขนมปังทาแยมที่โต๊ะอาหารซึ่งคุณป้าของฉันจะทำไว้ให้มากัดไปคำนึงและเดินออกจากบ้านไปโดยไม่ลืมที่จะหยิบขนมปังติดมือมา!!
ฉันเดินไปรอรถเมล์ที่ป้ายก่อนรถเมล์จะมาตรงเวลา ฉันรีบขึ้นเพื่อหาที่นั่งดีๆแต่ก็ต้องผิดหวังเพราะตอนเช้าคนจะแน่นมาก รู้แบบนี้น่าจะไปใช้รถไฟฟ้าใต้ดินดีกว่า แย่จริง!
สักพักก็ถึงป้ายที่ฉันจะต้องลง ฉันลงป้ายที่ใกล้โรงเรียนที่สุด ก่อนจะเดินเข้าไปในโรงเรียน โรงเรียนนี้จัดการเรียนการสอนแบบปกติ แต่มีสิ่งที่ไม่ปกติคือห้องพิเศษ H (Hunter) โรงเรียนนี้สอนวิชาชีพฮันเตอร์ด้วยซึ่งมันก็คืออาชีพที่ช่วยชีวิตของฉันได้ทุกวันนี้นั้นแหละ แน่นอน!!ฉันต้องอยู่ห้องพิเศษ H อยู่แล้ว!!
ครืด!
ฉันเปิดประตูห้องเรียนเข้าไปก่อนจะพบว่าเหล่านักเรียนฮันเตอร์ทุกคนกำลัง ‘เล่นไพ่’ กันอยู่ อืม...เหมือนจะไม่ใช่ไพ่ธรรมดาด้วย เพราะมันคือไพ่ ‘มนต์ตรา’ ของ ‘ลีนา’ ฮันเตอร์ระดับC ที่เป็นนักเวทย์ฝึกหัด
“อ้าว! ฟีด้า มาเล่นด้วยกันมั้ย?” ‘ดาร์วี่’ พี่ชายของลีนาถามฉัน เขาเป็นนักเวทย์ระดับ C เหมือนกับน้องสาวนั่นแหละ ทั้งสองคนเป็น ‘คู่หู’ กันด้วย
“ไม่ละ!!” ฉันปฏิเสธ ในห้องเรียนพิเศษนี้มีคนที่มีระดับ D อยู่แค่ 7 คนเท่านั้น คือ ฉัน ธีร์, จิวรี่, อีน่า, คีย์, คิน และ คุโระ
ธีร์และจิวรี่เป็นคู่หูกัน อีน่ากับคีย์ และคินกับคุโระ แต่ฉันไม่มีคู่หูเพราะไม่มีใครที่มีระดับเดียวกับฉัน และสูงกว่าฉัน ในห้องนี้มีสูงสุดแค่ระดับ D เพราะถ้าสูงกว่านี้จะอยู่ในห้องพิเศษ S (Super)
“แต่ฉันคิดว่าวันนี้เธอน่าจะดวงดีนะ เท่าที่ดูแล้วตอนนี้ดวงดาวของเธอจะมีดาวอีกดวงมาเคียงคู่ ดูเหมือนเธอจะไม่ชอบแต่เป็นผลดีกับเธอแน่นอน!!” ลีนาพูด
“เคียงคู่!! นั่นก็หมายความว่า ‘เจ้าหญิง’ ของเราจะได้มี ‘คู่หู’ กับเขาเสียทีสินะ!!” ดาร์วี่พูดขึ้น
“เฮอะ! ใครสนกัน!!” ฉันเบือนหน้าหนีก่อนจะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน โดยไม่สนใจคำพูดพวกนั้นอีก
“หึหึ” คินหัวเราะในลำคอก่อนเดินมานั่งข้างๆฉัน “กลัวเหรอ? เจ้าหญิง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียน
“ฮึ! อย่าง ‘ฟีดาร่า’ ไม่กลัวใครหรอกย่ะ!!” ฉันตอบกลับ
“นึกว่าเจ้าหญิงอยากมีคู่หูซะอีก ฮะๆ” คราวนี้เป็น ‘ฝาแฝด’ คุโระพูด คินกับคุโระเป็น ฝาแฝดที่เป็นเพศเดียวกัน ปกติแล้ว ‘คู่หู’ จะเป็นคู่ต่างเพศกันเพื่อให้มีแนวคิดหลายๆแบบ คู่นี้เป็นคู่พิเศษที่ต้องอยู่ด้วยกัน แต่ฉันไม่ยักรู้ว่าเพราะอะไร
“นายสองคนหุบปากไปเลย!!” ฉันมองฝาแฝดทั้งสอง คินมีผมสีขาว นัยน์ตาสีทองทอประกายทอประกาย ส่วนคุโระมีผมสีขาวเช่นกัน แต่มีนัยน์ตาสีนิล เพราะฉะนั้นก็แยกเขาไม่ยากนักหรอกถึงแม้ว่าหน้าตาจะเหมือนกันแค่ไหนก็ตาม เหอๆ
“ว้า...เจ้าหญิงของขึ้น” เขาทั้งสองคนพูดพร้อมกันก่อนจะเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว ชิ อย่าให้จับได้นะ พ่อคู๊นนนน
“เฮ้!! ได้ข่าวกันมั้ย? มีเด็กใหม่มาแหละ!! เป็นผู้ชายด้วย!! มีเรื่องกับการ์เดียนอยู่กลางสนามเลย!!” หืม? เด็กใหม่? แถมยังกล้ามีเรื่องกับ ‘การ์เดียน’ หมอนี่สงสัยจะไม่ได้ตายดีไปดูสักหน่อยจะเป็นอะไรไป
“คิน...คุโระ ไปดูกันมั้ย?” ฉันหันไปถามพี่น้องฝาแฝด ที่บังเอิญเดินกลับมาแล้ว
“ไปสิ เจ้าหญิง” เขาทั้งสองตอบรับก่อนเราทั้งสามคนจะเดินไปที่สนาม คินกับคุโระเดินขนาบข้างฉัน เหมือนองครักษ์กับเจ้าหญิงเลยแฮะ
ฉันมองไปที่กลางสนามเห็นชายร่างสูงคนหนึ่งกับลังสู้รบปรบมือกับ ‘การ์เดียน’ ของเจ้าชายห้องพิเศษ S ห้องนั้นก็มีอยู่คนนึงเหมือนกันที่ไม่มีคู่หูเหมือนฉัน เขาเป็นเทพซะด้วยสิและมีการ์เดียนสองคน ขึ้นชื่อว่าการ์เดียนก็ต้องเก่งมากๆอยู่แล้ว เหมือนเขาจะอยู่ระดับ E น่าจะเป็น...อัศวิน อ่า...อัศวินสายน้ำเงินซะด้วย ไม่ใช่คนธรรมดาสินะ
เสียงอาวุธกระทบกระทั่งกันไปมากลางแดดอันร้อนแรง ฝ่ายการ์เดียนหอบแฮกๆไปแล้วแต่ผู้มาใหม่ยังสบายๆชิลๆ ดูจากวิธีการขยับตัวแล้วเหมือนจะเป็น...แวมไพร์...น่าจะใช่ แต่การมาต่อสู้กลางแดดยังไงแวมไพร์ก็เสียเปรียบนี่นา! ทำไมหมอนี่ชิลจังหว่า?
“เจ้าหญิง เด็กใหม่เป็นแวมไพร์ป่ะ?” คุโระหันมาถามฉัน
“คิดว่าใช่...แต่ทำไมถึงไม่ร้อนเลยอ่ะ?” ฉันหันไปถามคู่แฝด “นายว่ามันแปลกๆมั้ย? เป็นแวมไพร์แต่ไม่กลัวแดด”
“เป็นลูกครึ่ง” คินพูดขึ้นมาเบาๆ
“อะไรนะ?” ฉันกับคุโระโพล่งขึ้นพร้อมกัน “นะ...นายรู้ได้ยังไง?” ฉันถาม
“ไอ...ไอปีศาจกับเทพปนกันมั่วมาก แต่กลมกลืนมากกว่าขัดแย้ง” คินยังตอบ “ลูกครึ่งแวมไพร์...มังกร” หา? บ้าเป็นไปได้ไง นั่นมันของตรงข้ามกันเลยไม่ใช่? แวมไพร์ถือเป็นปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุด แล้วมังกรก็เป็นเทพที่แข็งแกร่งที่สุดด้วย!! มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยนะ!!
“เป็นไปได้เหรอคิน?”
“เป็นไปได้...7.98%” เอ่อ...นายไม่ต้องละเอียดขนาดนั้นก็ได้!!
“ว้าว! ดูสิๆๆ การ์เดียนเป็นอัศวินที่เน้นความถึกของร่างกายยังหอบ ต้องเป็นเทพชั้นสูงแน่ๆ!!” คุโระพูดอย่างตื่นเต้น ฉันมองไปทางคุโระและกลับมามองคิน เขาทั้งสองคนเป็นคู่หูที่ต่างกันลิบเลยอ่ะ!! คนหนึ่งตื่นเต้นอย่างกับเด็กๆ อีกคนสงบเย็นยะเยือกแบบว่าอยู่ใกล้แล้วไม่เปิดแอร์ก็หนาวอะไรเทือกนั้น!!
“อ้ะ!! นั่นครูใหญ่!!” เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นก่อนทุกอย่างจะเข้าสู่ความเงียบ ทั้งสองคนที่สู้กันกลางสนามหยุดไปแล้ว...เอ๊ะ!! ทั้งสอง ‘ตน’ ต่างหากสินะ อืม...
“ทำอะไรกันกลางสนามรึ โอ้ว...ประลองนี่เอง แต่ฉันแนะนำให้ไปที่สังเวียนในหอกีฬาดีกว่านะ เอาละเด็กๆแยกย้ายๆไปเรียนได้แล้ว เดี๋ยวครูเคลียร์เองงง”
น้ำเสียงของครูใหญ่ดังขึ้นก่อนนักเรียนจะพากันทำหน้าเซ็งแต่ก็ยอมเดินกลับไปเรียนอยู่ดี ฉันเองก็เดินไปด้วยหมายจะกลับห้อง
“อ้อ! เดี๋ยวสิคุณฟีดาร่าาาา รบกวนไปพบฉันที่ห้องด้วยยยย” ครูใหญ่พูดขึ้น ฉันที่เดินมาได้สามก้าวถึงกับชะงัก...
“แต่หนูไม่ได้ทำอะไรผิดนะคะ! ‘มาสเตอร์!!’ ” ฉันหันกลับไปพูดด้วยอาการออกแนวร้อนรน
“ก็ไม่ได้คิดว่าเธอผิดดด แต่ครูมีเรื่องจะคุยด้วยยยย” เสียงยานแปลกๆของครูใหญ่ทำเอาฉันปวดหัว ก่อนที่คินกับคุโระจะมาบังตัวฉันไว้ คุโระที่อยู่ฟากขวาจะถนัดซ้าย ที่มือซ้ายเขาจึงมีดาบญี่ปุ่นเล่มหนึ่ง คินอยู่ฟากซ้ายแต่ถนัดขวา มือขวาเขาจึงมีดาบอยู่เล่มหนึ่งเช่นกัน
“พวกผมขอตามไปด้วยในฐานะผู้พิทักษ์เจ้าหญิง” เขาสองคนพูดพร้อมกัน
“ก็ได้ๆ ฉันม่ายว่าหรอกกก พ่อจิ้งจอกน้อยยยยย” ครูใหญ่พูดก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็ว
“เฮ้อ...” ฉันถอนหายใจก่อนจะ ‘เทเลพอร์ต’ ตัวเองไปที่ห้องครูใหญ่
ฉันนั่งบนโซฟาตัวยาวโดยมีคินกับคุโระขนาบข้างเหมือนเดิม...แต่คราวนี้ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนักโทษมากกว่าเจ้าหญิงนะ! เหอะๆ
ฉันมองครูใหญ่ที่ตอนนี้กลายเป็นมาสเตอร์ไปแล้ว... อันที่จริงครูใหญ่เป็นแวมไพร์ที่อายุมาก แต่ยิ่งอายุมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งแข็งแกร่งดังนั้นครูใหญ่จึงต้อง ‘ปลอมตัว’ เพื่อกลบกลิ่นอายของตัวเอง และเพื่อทำให้อยู่กลางแสงแดดได้ แต่ฉันไม่รู้หรอกว่าเขาใช้อุปกรณ์อะไรทำให้ ‘ร่างปลอม’ ของเขาเป็นตาแก่ตัวเล็กๆสูงไม่ถึง 150 เซนติเมตรผมขาวหงอกซึ่งต่างกับร่างจริงลิบลับ เฮ้อ บางทีนะฉันว่าคนแก่นี่ก็เข้าใจยากอยู่พอควร...
ฉันมอง ‘ครูใหญ่’ ในร่างของ ‘มาสเตอร์’ ที่เป็นแวมไพร์ เขามีผมสีดำสนิทยาวสยายและนัยน์ตาสีแดงเข้ม เอ่อ...เข้มเหมือนเลือดอ่ะนะ ตัวสูงราว 180 เซนติเมตรหรืออาจสูงกว่านั้น จมูกโด่ง ริมฝีปากหยักคล้ายกระจับสีแดง ผิวสีขาวซีดยิ่งกว่าไก่ต้ม...อืม...หล่อจริงๆนั่นแหละ
“ฟีด้าจัง...ฉันรู้ว่าเธอคงพอจะได้ยินคำทำนายของเด็กๆมาบ้างแล้ว...คำทำนายของเด็กสองคนนั่น...น่าเชื่อถือนะ” ครูใหญ่หันมาพูดกับฉัน เสียงของเขากังวานราวกับสะกดฉันเอาไว้ให้ฟัง...นี่น่ะเหรอ ‘ความสามารถ’ ที่เขาล่ำลือกัน “ฮะๆ อยากมีมั้ยล่ะ ‘คู่หู’ น่ะ”
ฉันยิ้มให้ครูใหญ่ก่อนจะพูดว่า “มาสเตอร์เองก็รู้ดีอยู่แล้วนี่คะ...ว่าฉันไม่ต้องการคู่หู”
“นั่นสินะ ‘เด็กพิเศษ’ อย่างเธอคงไม่ต้องการหรอก แต่ถ้าเธอไม่มีคู่หู เธอก็ ‘อัพเลเวล’ตัวเองไม่ได้นะ” ครูใหญ่หันมาทำหน้าเครียด อืม...ไม่ค่อยน่าเชื่อหรอก เขาเสแสร้งเก่งมาก
“ไม่ลองหาให้ ‘จีม์’ ก่อนล่ะคะ”
“แหม...อย่าย้อนสิ เธอก็รู้ว่า ‘จีม์’ เคยมีคู่หูมาก่อน ก็แค่คู่หูเขา ‘ตาย’ ไปแล้วแค่นั้นเอง แถมเขาเลเวลสูงกว่าเธอตั้ง 1 เลเวลนะ!!” ครูใหญ่ทำท่าจีบปากจีบคอพูดทำเอาฉันคิ้วกระตุกไปหลายรอบ
“เข้าเรื่องเถอะครับ” คินที่นั่งฟังมานานพูดขึ้นแทรก ฉันรู้นะคินว่านายแอบคิ้วกระตุกหงึกๆไปหลายรอบ เหอๆ
“นั่นสิ” ครูใหญ่หันมาทำหน้าจริงจังที่มาจากใจจริง (ล่ะมั้ง) “เธอจะได้คู่หูเร็วๆนี้แหละ แต่คงไม่ใช่ตอนนี้เพราะรู้สึกว่าเขาจะทำตัวเกเรไปสักหน่อย เดี๋ยวฉันจะสั่งสอนและตักเตือนก่อนละกันนะ จากนั้นจะส่งตัวไปหาที่ห้องเรียนถึงที่เลย” ครูใหญ่พูดหน้ายิ้ม
“อะ...อ้าว! แล้ว...เขาไปไหนแล้วคะ?” ฉันถาม
“ไม่บอกจ้ะ เอาละหมดธุระแล้ว เชิญจ้า” แบบนี้มันไล่กันที่นามาสเตอร์!! ฉันคิดอย่างเคืองแค้นในใจก่อนจะลุกยืนขึ้นแล้วโค้งทำความเคารพและเทเลพอร์ตตัวเองกลับห้อง
ฮึ่ย!! สุดท้ายก็ไม่รู้เลยว่าเป็นใคร!
...ในขณะเดียวกัน
“หืม...เด็กคนนี้น่ะเหรอ? ‘คู่หู’ ของผม” ร่างสูงที่แอบอิงอยู่ในมุมมืดพูดขึ้น
“ใช่...เด็กคนนี้แหละ ดูแลเธอให้ดีๆนะ ‘เจ้าหญิง’ ที่มีพลังสูงแบบนี้น่ะ หาไม่ได้ง่ายๆเลย” เสียงใสกังวานตอบกลับอย่างไม่หยี่ระ
“แต่ ‘คุณแม่’ ก็หามาจนได้” เสียงทุ้ม นุ่มของร่างสูงยังคงเอื้อนเอ่ย
“มันเป็นคำขอร้องต่างหาก! แม่แค่อยากช่วยแค่นั้นเอง!!” หญิงสาวแย้ง คู่สนทนาที่อยู่ในมุมมืดหยักยิ้มราวกำลังกลั้นหัวเราะอย่างเต็มที่
“หึหึ แล้วจะไม่อยู่ที่นี่จริงๆน่ะเหรอ?”
“ไม่ละ...ฉันไม่ได้ว่างมากขนาดนั้น ‘เด็กน้อย’ ฉันไปละ” ร่างบางในชุดสีขาวสะอาดพลิ้วไหวหายไปก่อนจะมีชายอีกคนโผล่เข้ามายังที่ที่เขาและเธอได้คุยกัน
“หึหึ ไม่ทันแล้วล่ะ ‘คุณพ่อ’ เธอไปแล้ว...”
“งั้นเหรอ? ไม่รอคุยกันบ้างเลยน้า...‘ราชินี’ ”
...ไม่ใช่โชคชะตาที่นำพาเธอมาพบฉัน
แต่บาปกรรมที่ทำร่วมกัน มันคือเครื่องเชื่อมโยงฉันกับเธอ
แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเท่าใด สุดท้ายเราต้องพบเจอ
เพื่อ ‘แก้ไข’ สิ่งที่ฉันกับเธอ ‘ได้ก่อร่วมกัน’...
ความคิดเห็น