คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : One Way...(end EunSiHae)
[SF] EunSiHae – One Way ..(END)
ภายในห้องหรูกว้าง สีขาวสะอาด ตกแต่งอย่างดีและมีข้าวของเครื่องใช้ครบถ้วนบนตึกสูงกว่า 10 ชั้นมีกลิ่นยาอ่อนๆฟุ้งกระจายอยู่ทั่วห้องกับร่างเล็กของฮยอกแจที่อยู่ในชุดฟอร์มคนไข้ของโรงพยาบาลนอนอยู่บนเตียงใหญ่ที่ถูกจัดเตรียมไว้อย่างดี เพราะห้องที่ฮยอกแจพักอยู่ เป็นห้องวีไอพี ที่ฮยอกแจขอให้ทางโรงพยาบาลสร้างขึ้นมาห้องนึง สำหรับเขาคนเดียวเท่านั้น โดยที่ไม่ให้คนนอกเข้านอกจากทงเฮที่ฮยอกได้บอกกับทางโรงพยาบาลไว้ว่า ถ้าทงเฮมาก็ให้เขาเข้ามา แต่อย่าให้เขารู้ว่าผมป่วยเป็นโรคอะไร และซีวอน ฮยอกแจยอมเสียงานมากมายไปกับห้องๆนี้ เพื่อความสะดวกและความเป็นส่วนตัว ห้องนี้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ที่ฮยอกแจรู้ว่าตัวเองป่วยและต้องได้รับการผ่าตัดในอีกไม่ช้า แต่ระหว่างนี้ก็ต้องทำงานไปก่อนแล้วค่อยหาเวลาพักงานมาผ่าตัดซึ่งยิ่งนานวัน อาการป่วยเค้าก็เริ่มออกอาการมากขึ้นจึงต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อย และสร้างห้องนี้ขึ้นมา
แอดดด
“คุณฮยอกแจคะ คุณคะ เป็นยังไงบ้างคะ ฉันขอโทษที่มารบกวนเวลาหลับของคุณนะคะ แต่ฉันจะมาพาคุณลงไปห้องสแกนสมองหนะค่ะ คุณหมอรออยู่” นางพยาบาลสาวที่อยู่ในชุดฟอร์มสีขาวสะอาดเปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมกับบุรุษพยาบาลอีกคนที่เข็นรถเข็นสำหรับคนไข้เข้ามาด้วย
“ไม่เป็นไรครับ ยังไงผมก็ยังไม่ได้หลับอยู่แล้ว” ฮยอกแจยิ้มบางให้คนที่เข้าห้องมาใหม่ทั้ง 2 คน แล้วค่อยๆขยับลงมาจากเตียงโดยที่มีบุรุษพยาบาลคอยช่วยเหลืออยู่ตลอด
ฮยอกแจถูกพาเข้ามาในห้องใหญ่ที่แบ่งเป็น 2 ฝั่ง โดยมีห้องควบคุมที่มีจอคอมพิวเตอร์ประมาณ 4-5 ตัวกั้นอยู่ ฝั่งนึงในห้องกว้างที่ฮยอกแจเข้ามาคือฝั่งที่มีเครื่องมือการแพทย์เต็มไปหมดและเตียงสำหรับคนไข้1 เตียง กับอีกฝั่งที่ฮยอกแจสนใจก็คือ ฝั่งที่มีเครื่องใหญ่รูปร่างคล้ายโดนัดที่มีรูตรงกลางและเตียงขนาดนอนคนเดียวได้ติดกันอยู่ เตียงฝั่งนั้นมีลักษณะพิเศษตรงที่สามารถเลื่อนเข้าไปในเครื่องใหญ่นั้นได้
“สวัสดีครับคุณฮยอกแจ ผมเจ้าหน้าที่แผนกเอ็กซ์เรคิม จงอุน จะดูแลคุณระหว่างทำการเอ็กซ์เรคอมพิวเตอร์ครับ” เจ้าหน้าที่ร่างสูงยกยิ้มให้ฮยอกแจแล้วแนะนำตัวอย่างเรียบร้อย
“คุณฮยอกแจขึ้นไปนอนบนเตียงเลยครับ เดี๋ยวนางพยาบาลจะมาฉีดสารทึบรังสีให้นะครับ”
ฮยอกแจลุกขึ้นเดินไปที่เตียงอย่างว่าง่าย เมื่อนางพยาบาลเห็นว่าร่างเล็กของฮยอกแจอยู่บนเตียงแล้ว ก็นำถาดเข็มฉีดยามาทำการฉีดสารเข้าทางเส้นเลือดของฮยอกแจทันที เมื่อฉีดเสร็จแล้วฮยอกแจก็ต้องเดินไปอีกฝั่งนึงของห้องที่มีเจ้าเครื่องใหญ่นั่นอยู่ ส่วนพวกนางพยาบาล บุรุษพยาบาล และเจ้าหน้าที่ ก็จะเดินเข้าไปในห้องควบคุมและเฝ้าดูฮยอกแจผ่านทางทีวีวงจรปิด
“คุณฮยอกแจคะ นอนนิ่งๆนะคะ คุณหมอจะเริ่มทำการสแกนแล้วค่ะ” นางพยาบาลสาวพูดส่งสัญญาณในร่างเล็กนอนลงผ่านอินเทอร์คอมจากห้องควบคุม ทั้งๆที่ตอนพูด ก็ยกยิ้มบางให้ฮยอกแจด้วย แต่แววตาของนางพยาบาลสาวฉายแววกังวลมาก เพราะเธอเป็นนางพยาบาลที่คอยดูแลร่างเล็กมาตั้งแต่วันแรกที่พบเนื้องอก เธอไม่อยากให้คนไข้ทีเธอดูแลเจอกับโรคร้ายๆนี้เลย แต่วันนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของการตรวจสมองของฮยอกแจ ก่อนจะทำการผ่าตัดในสัปดาห์หน้าตามที่เจ้าตัวขอไว้ เพราะครั้งที่แล้วที่ทำการตรวจเมื่อเดือนก่อน เนื้องอกเล็กๆนี้ยังดูไม่ร้ายแรงเท่าไหรเลยเลื่อนการผ่าตัดออกไปก่อนได้
ฮยอกแจรับคำและนอนนิ่งตามที่นางพยาบาลบอก เมื่อเวลาผ่านไป ไม่นานฮยอกแจก็เอ็กซ์เรเสร็จ เจ้าหน้าที่ขอให้ร่างเล็กนอนพักบนเตียงเอ็กซ์เรก่อนสัก 10 นาทีแล้วค่อยในบุรุษพยาบาลพากลับห้อง ซึ่งฮยอกก็ไม่ได้ว่าอะไร ยอมทำตามขั้นตอนอย่างง่ายดาย
“ตอนนี้ก็ 4 ทุ่มแล้ว ยังไงก็ดูผลการตรวจไม่ได้เพราะตอนนี้มีแต่แพทย์ฝึกหัดกับแพทย์ศูนย์ฉุกเฉินอะครับ ไม่ใช่แพทย์เฉพาะทาง คุณคงต้องรอผลการตรวจพรุ่งนี้นะครับ ไปพักผ่อนเถอะครับ” เจ้าหน้าที่บอกกับฮยอกแจก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปในห้องควบคุมอย่างเดิม
4 ทุ่มแล้วหรอ..ทงเฮจะหลับรึยังนะ...
แม้แต่เวลาฮยอกแจก็ไม่วายจะคิดถึงคนที่รัก ร่างเล็กที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดนั่งนิ่งบนรถเข็นที่มีบุรุษพยาบาลเข็นให้อยู่ ตอนนี้บุรุษพยาบาลพาฮยอกแจมาถึงห้องพักแล้ว แต่ดูเหมือนฮยอกแจจะไม่รู้ตัวเลย เอาแต่นั่งเหม่อ
“เอ่อ..คุณฮยอกแจครับ ถึงห้องแล้วครับ”
“อ้ะ..คะ ครับ ขอบคุณครับ”
ฮยอกแจลุกจากรถเข็นแล้วขึ้นไปนอนบนเตียงตามปกติ แต่พอบุรุษพยาบาลเดินออกไป ร่างเล็กก็ค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นมานั่งพิงกับหัวเตียง เขากวาดสายตาไปรอบๆห้องกว้างและหยุดสายตาไว้ที่หน้าประตู
ทงเฮ...นายคงจะไม่กลับมาหาฉันแล้วสินะ..
“ฮึก..ฮึก...ฮืออ” ฮยอกแจเริ่มร้องไห้อีกครั้ง ร่างเล็กลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปยังจุดทงเฮยืนอยู่เมื่อตอนเย็น
“ฮยอกขอโทษ ฮือออ ฮะ ฮยอกไม่ดีเลย ฮึก ฮยอกมันเลว ฮืออ”
“อ้ะ โอ๊ย! มะ มือ เป็น อะไร โอ๊ย ทำไมขยับไม่ได้ ทำไมมือสั่นแบบนี้หละ ฮือออ อย่าเป็นแบบนี้สิฮยอกกลัว ฮือออ ช่วยด้วย ฮืออ” ร่างเล็กที่กำลังยืนร้องไห้อยู่หน้าห้องและมีมือเล็กที่ใช้ปิดหน้า อยู่ดีๆมือเล็กข้างขวาของฮยอกแจก็สั่นและขยับตามที่สมองสั่งไม่ได้ มันคืออาการอะไร...
“ฮืออ ทำไงดี ฮือออ คุณพยาบาลอยู่ไหน ช่วยฮยอกด้วย ฮือออ ฮยอกกลัว ฮืออ” ฮยอกแจเริ่มกลัวเข้ามากๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะตอนนี้ตาของฮยอกแจก็เริ่มพร่า อาการมันค่อยๆรามอย่างรวดเร็วจาก มือ ไปถึงตา
“ชะ ช่วย ด้วย...” ฮยอกแจใช้มือเล็กอีกข้างที่ยังใช้การได้อยู่ทุบประตู แต่ด้วยแรงที่มีน้อยเสียงทุบประตูเลยไม่ดังมาก พยาบาลที่อยู่ด้านนอกก็ไม่ได้ยินกัน และตอนนี้ร่างทั่งร่างของฮยอกแจก็เกร็งไปหมด ร่างเล็กทรุดฮวบลงกับพื้นเย็น ด้วยอาการปวดหัวรุนแรงที่ตามมา แต่ดูเหมือนครั้งนี้มันจะหนักกว่าเดิม และทำให้ร่างเล็กหมดสติไป
เช้าวันใหม่ที่โรงพยาบาลเดิม ห้องเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือ ภายในโรงพยาบาลชั้นที่ฮยอกแจอยู่และในแผนกศูนย์สมองของโรงพยาบาลมีทั้งคุณหมอ แพทย์ฝึกหัด และแม้แต่พยาบาลก็เดิน วิ่งกันวุ่นวายไปหมด เพราะเมื่อคืน มีพยาบาลเวรดึกที่จะต้องเข้าไปเช็คความเรียบร้อยของในห้องคนไข้อย่างห้องของฮยอกแจ ก็เข้าไปเจอร่างเล็กนอนฟุบตัวขดงออยู่ที่พื้นในห้อง พยาบาลสาวพยายามปลุกแค่ไหนก็ไม่ตื้นจึงไปเรียกแพทย์ฝึกหัดมาดูอาการเบื้องต้น และได้ให้น้ำเกลือร่างเล็กเอาไว้ก่อน
“คุณใช่มั้ยที่เป็นคนเจอฮยอกแจนอนอยู่ที่พื้น” เสียงทุ้มที่สั่นเล็กน้อยแต่เต็มไปด้วยความกังวลใจเอ่ยถามกับพยาบาลสาว ชีวอนที่รีบเคลียคิวคนไข้ของตัวเองแล้วขับรถด้วยความเร็วสูงมาที่โรงพยาบาลที่เป็นเคลือข่ายเดียวกันกับโรงพยาบาลที่เขาทำงานอยู่ ตอนนี้ใจของร่างสูงไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว มันกลัว และรู้สึกโหวงๆแปลกๆ กลัวว่าฮยอกแจจะเป็นอะไรไป
“ใช่ค่ะ” นางพยาบาลตอบ
“ตอนนั้นเขามีอาการเป็นยังไงบ้าง คุณบอกผมได้มั้ย”
“คนไข้นอนขดตัวอยู่ที่พื้นค่ะ แต่ฉันปลุกเท่าไหรเธอก็ไม่ตื่น ฉันเลยไปเรียกแพทย์ฝึกหัดที่เข้าเวรอยู่มาตรวดอาการเบื้องต้นหนะค่ะ แล้วเค้าก็บอกว่าคนไข้เธอหมดสติไปหนะค่ะ คาดว่าคงเป็นเพราะอาการปวดหัวที่รุนแรง” นางพยาบาลเปิดแฟ้มบันทึกประวัติที่แพทย์ฝึกหัดได้บันทึกไว้เมื่อคืน แล้วส่งให้กับซีวอนอ่านพลางฟังเธอพูดไปด้วย
“ทำซีทีสแกนแล้วใช่มั้ย...ผลตรวจหละ ผมขอดูหน่อย”
ซีวอนไม่รอให้นางพยาบาลตอบ แต่เดินเข้าไปที่จอคอมพิวเตอร์ทันที ซีวอนมองภาพที่ปรากฏขึ้นมาบนจอสี่เหลี่ยมด้วยใจจดจ่อ และสีหน้าตกใจไม่น้อย
“ทะ ทำไมมันโตเร็วแบบนี้...” เมื่อซีวอนเห็นภาพหมดทุกภาพที่เกิดจากการสแกน เขาถึงกับพูดไม่ออก เพราเนื้ออร้ายที่เขาเคยตรวจดูมันเป็นเพียงก้อนเล็กๆเท่านั้น แต่พอมาวันนี้มันโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งถ้าไม่รีบผ่าตัดเอามันออกไปฮยอกแจก็จะมีชีวิตอยู่ได้เพียง 2 เดือน แต่ถึงอย่างนั้น ภาพที่ปรากฏขึ้นมาคือเนื้อร้ายก้อนใหญ่มันไปกดทับเส้นเลือดในสมองด้วย เพราะฉะนั้นถึงจะผ่าตัดยังไงร่างเล็กก็จะกลับมาเป็นปกติไม่ได้แล้ว มีทางให้เลือกอยู่ 2 ทางคือ ตาย กับ เป็นอัมพาตไปตลอดชีวิต..
ต่อค่ะ
ตึกๆๆ
“คุณหมอคะ! แย่แล้วค่ะ คนไข้หายตัวไปค่ะ!” เสียงพูดปนเสียงหอบของนางพยาบาลอีกคนที่เหนื่อยจากการวิ่งออกมาจากห้องพักของฮยอกแจมาหาซีวอนที่หน้าห้องแผนกสมอง
“อะไรนะ! คุณฮยอกแจหายตัวไป หายไปตอนไหน แล้วทำไมถึงเพิ่งมาบอกผม!! บ้าเอ้ย!” ซีวอนสบถออกมาอย่างอารมณ์เสีย ไม่ต้องเตรียมแล้วแผนผ่าตัด...ขายาวของร่างสูงรีบเดินออกตามหาทุกซอกทุกมุมของโรงพยาบาล รวมทั้งยังสั่งให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในโรงพยาบาลช่วยกันหาด้วยเช่นกัน เพราะร่างสูงคิดว่าฮยอกแจของเขาคงยังไปไหนไม่ได้ไกลมาก
คุณอย่าทำกับผมแบบนี้สิ คุณทำให้ผมจะเป็นบ้าอยู่แล้วนะ...
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“ทงเฮ...ฮยอกกำลังจะไปหานะ รอฮยอกนะ...” ตอนนี้ร่างเล็กของฮยอกแจไม่ได้ใส่ชุดคนไข้ของโรงพยาบาลแล้ว เพราะร่างเล็กแอบเปลี่ยนตอนที่ตื่นขึ้นมาแล้วเห็นว่าคนข้างนอกกำลังวิ่งกันให้วุ่น ร่างเล็กเปลี่ยนจากชุดคนไข้มาเป็นเสื้อยืดธรรมดากับกางเกงยีนส์สีเข้มแล้วสวมเสื้อหนาไว้กันหนาวทับอีกที เพราะตอนนี้ก็เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ส่วนหมวกที่ร่างเล็กสวมใส่อยู่ก็จะเป็น หมวกที่ถักมาจากไหมพรมนุ่มให้ความอบอุ่นกับศีรษะได้ และฮยอกแจก็ยังไม่ลืมที่จะใส่แว่นกันแดดด้วยเพื่อไม่ให้คนอื่นจำเข้าได้
“คุณลุงครับ จอดตรงนี้เลยครับ..อะ นี่ครับค่ารถ ขอบคุณนะครับ” ร่างเล็กมองเห็นตึกสูงที่อยู่ใกล้ๆนี่แล้ว ก็บอกให้คนขับแท็กซี่จอด แล้วยื่นเงินให้กับคนขับรถแท็กซี่
ฟึ่บ
“เอ้า โทรศัพท์หายไปไหนเนี่ย สงสัยจะลืมเอามา แต่ถึงจะเอามาด้วยทงเฮก็คงไม่รับโทรศัพท์เราอยู่ดี....” ทันทีที่ร่างเล็กก้าวลงมาจากรถก็ควานหาโทรศัพท์เครื่องเล็กที่ปกติจะเอามันมาไว้ในกระเป๋ากางเกงอยู่เสมอ แต่วันนี้คงเป็นเพราะรีบ เลยลมหยิบมาด้วย
“...แล้วจะเอาไงหละทีนี้ จะขึ้นไปหาบนห้องทำงานของทงเฮเลยดีมั้ยนะ แต่ถ้าขึ้นไป เราก็คงจะมองหน้าทงเฮไม่ติด...ทำไงดี...” ร่างเล็กยืนบ่นกับตัวเองพลางเดินไปเดินมาวนอยู่ที่หน้าตึกสูงที่เป็นบริษัทของทงเฮ
“เอ่อ..ขอโทษนะครับ ตอนนี้คุณทงเฮอยู่ข้างบนรึเปล่าครับ” หลังจากที่ฮยอกแจเดินวนไปวนมาหน้าตึก และบ่นนู่นบ่นนี่กับตัวเองได้สักพักก็ตัดสินใจได้ว่าจะเข้าบริษัทไปหาทงเฮ ถึงจะกลัวแค่ไหนก็ตาม แต่อย่างน้อยเขาก็อย่าบอกให้คนที่เขารักรู้ว่าเขาป่วยเป็นโรคอะไร อย่างน้อย ก็ขอบอกทงเฮให้รู้ไว้ เผื่อทงเฮจะได้สงสารเขาบ้าง ถึงจะเป็นการเรียกร้องความสนใจก็เถอะ แต่มันก็คือความต้องการของเขาอยู่แล้วไม่ใช่หรอ...ทำให้ทงเฮสนใจและกลับมาดูแลเหมือนเดิม...
“คุณทงเฮหรอคะ วันนี้ฉันยังไม่เห็นเลยนะคะ” ร่างเล็กของฮยอกแจเดินเข้ามาถามกับมุมของประชาสัมพันธ์ภายในบริษัท แต่พอได้ยินประโยคของหญิงสาวในชุดฟอร์มตอมกลับมา ดวงใจที่กำลังเต้นเร็วเพราะความตื่นเต้นและกลัวก็เต้นช้าลงทันที
“หระ หรอครับ เอ่อ..ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณครับ”
ทงเฮคงจะเสียใจมากสินะ...ทงเฮไม่เคยมาทำงานสายเลยซักครั้ง...ฮยอกขอโทษ..
ร่างเล็กรีบก้าวออกมาจากตึกสูงอย่างไวเมื่อรู้สึกว่าดวงตามันร้อนพ่าวไปหมด น้ำใสที่เอ่อล้นอยู่ที่ขอบตา กำลังจะไหลลงมา เขาไม่อยากให้คนอื่นเห็นเขาในสภาพนี้ เดี๋ยวจะเป็นจุดสนใจ
“ฮึก...ไม่เป็นไรนะฮยอกแจ ไม่เป็นไร เราต้องไม่เป็นอะไร...” ร่างเล็กที่เดินออกมาจากบริษัทได้ไม่กี่ก้าวก็มาหยุดและพักอยู่ที่มุมตึกเมื่อรู้สึกว่าเริ่มจะหายใจไม่ทันและอาการปวดหัวก็กำเริบด้วย แต่ครั้งนี้ฮยอกแจพกยามาด้วย ถึงแม้ในตัวจะไม่ได้พกน้ำเลยฮยอกแจก็พยายามกลืนยาฝืดๆลงคอจนได้
“ฮึก...” แต่มันก็ไม่ได้ผล ในเมื่อยาที่ฮยอกแจกินเข้าไปมันไม่สามารถทำให้อาการปวดหัวรุนแรงนี้ลดลงได้เลย มีแต่ปวดมากขึ้นเรื่อยๆ
“ชะ ช่วยด้วย ช่วยผมด้วย...” ร่างเล็กที่ทรุดฮวบลงไปกับพื้นสกปรกมีแต่รอยเท้าของคนที่เหยียบลงไปบนพื้นไม่รู้กี่เท้า
“ทง..เฮ..ชะ ช่วย ฮยอ...” ร่างเล็กพูดขอความช่วยเหลือจากคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแต่ก็ไม่มีใครคิดจะช่วยเขาเลย จนกระทั่งลมหายใจเฮือกสุดท้ายของฮยอกแจที่เรียกหาทงเฮและฮยอกแจก็ยังพูดประโยคที่ตั้งใจจะพูดไม่จบเลยแต่ร่างกายมันไม่ตามใจ ร่างเล็กจึงหมดสตินอนแน่นิ่งไปกับพื้นดิน
ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาตรงแถวมุมตึกบริษัทใหญ่เห็นร่างเล็กที่นอนแน่นิ่งอยู่ ก็เดินกันเข้ามารวมตัวเป็นกลุ่มอยู่รอบๆร่างเล็กจนเป็นจุดสนใจของคนที่กำลังจะเดินเข้าไปในตึกนั้น
“ลุงรปภ.ครับ ตรงนั้นเค้ามีอะไรกันหรอครับ” เสียงมีเสน่ห์ของคนที่เป็นเจ้าของตึกแห่งนี้พูดขึ้น
“อ้าว คุณทงเฮ คือลุงก็ไม่แน่ใจนะ ลุงยังไม่ได้เดินเข้าไปดูเลย แต่เห็นได้ยินเค้าพูดกันว่ามีคนเป็นะไรซักอย่างเนี่ยแหละ ลุงก็ฟังไม่ค่ยรู้เรื่องหนะ อย่าไปสนใจเลย”
“หรอครับ แต่ยังไงก็ต้งเอาเค้าออกไปนะครับ ผมไม่ชอบให้ใครมาเป็นลมเนแล้งหน้าบริษัทของผม”
“ครับผม! เดี่ยวเรื่องนี้ลุงจัดการเอ...”
“คุณ! คุณฮยอกแจ! ตื่นสิ! คุณจะหลับไม่ได้นะ ฮยอกแจ!! ตื่น!” ยังไม่ทันที่ลุงรปภ.จะพูดจบก็มีเสียงทุ้มเสียงหนึ่งตะโกนมาจากกลุ่มที่มีคนมุงอยู่ที่มุมตึก ซึ่งเสียงนั้นก็ดังพอที่จะทำให้ทงเฮหันขวับไปมองด้วยสีหน้าตกใจ
ตึกๆๆๆ
พลั่ก
“ฮยอก..” ร่างหนาของทงเฮวิ่งมาจากหน้าตึกที่ไม่ได้ไกลมากแล้วก็แหวกฝูงชนเข้ามา เมื่อเห็นว่าเป็นใครที่นอนอยู่บนพื้นเท่านั้นแหละ เขาแทบจะถลาตัวเข้าไปกอด แต่สายตาดันไปเจอเข้ากับร่างสูงอีกคนที่กำลังจะปั้มหัวใจให้ฮยอกแจอยู่
“อย่าแตะต้องตัวฮยอกแจ..” ร่างหนาขบฟันแน่น พร้อมส่งสายตาดุดันไปให้ซีวอน
ซีวอนไม่ตอบกลับ ไม่แม้แต่จะต่อยกลับด้วย หรือมองหน้าทงเฮเลย แต่เขาก็เดินถอยออกมาจากร่างเล็กที่อยู่บนพื้นตามที่ทงเฮพูดห้ามไว้
“หมอจะทำอะไร” ทงเฮถามร่างสูงอีกคน ที่ตอนนี้กำลังกดโทรศัพท์เหมือนจะต่อสายหาใครอยู่
“ฉันถามว่าหมอจะทำอะไร ตอบสิ!!” ทงเฮเริ่มขึ้นเสียงใส่ซีวอน เมื่อเห็นว่าอีกคนไม่สนใจที่จะฟังเขา เอาแต่กดโทรศัพท์
“...คังอิน ส่งรถพยาบาลมาให้ผมหน่อย ตอนนี้ผมอยู่ที่บริษัทx ด่วนนะ ที่นี่มีผู้ป่วยโรคมะเร็งสมองอาการสาหัสอยู่ ไม่ต้องพาคนมาเยอะนะ แค่แพทย์ฝึกหัดที่อยู่ในการดูแลของผม แล้วก็หมอกับพยาบาลแทยอนก็พอ เพราะผมก็จัดการไปบ้างแล้ว...” ซีวอนไม่ตอบทงเฮ แต่กลับเรียกชื่อของคนปลายสายที่เป็นผู้ช่วยที่คนสนิทเพื่อให้รู้ว่าเป็นเขาที่โทรไป ร่างสูงกรอกคำพูดใส่โทรศัพท์ที่มีคนของโรงพยาบาลทางปลายสายรอฟังอยู่ เมื่อซีวอนพูดจบประโยคก็ตัดสายทิ้งทันที
“เดี๋ยวจะมีรถพยาบาลมารับคุณฮยอกแจ...คุณกลับไปทำงานเถอะ” ซีวอนวางสายจากเจ้าหน้าที่ขอวโรวพยาบาล แล้วหันมาพูดกับทงเฮด้วยน้ำเสียงเรียบๆแต่แววตาก็เต็มไปด้วยความเครียดที่แฝงอยู่ไม่น้อย
“ฉันไม่ไป ฮยอกแจเป็นคนรักของฉัน ฉันจะดูแลเขาเอง!” ทงเฮที่แอบได้ยินซีวอนคุยโทรศัพท์ก็อึ้งไม่น้อย
ฮยอกเป็นโรคมะเร็งในสมองหรอ..เเล้วทำไมฮยอกถึงไม่บอกหละ..
“ตามใจคุณ...ถ้าคุณคิดว่าคุณหาเรื่องผมแบบนี้แล้วจะช่วยคุณฮยอกแจได้ก็ตามใจ ผมจะได้กลับไปทำงานของผม แล้วคุณก็รอรถพยาบาลไปแล้วกัน” ร่างสูงของซีวอนค่อยๆเดินออกไปละแวกที่มีคนยืนอยู่เต็มไปหมด แล้วเดินต่อไปข้างหน้าเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย เพราะเวลานี้ เขาคงกลับไปทำงานอย่างที่บอกกับทงเฮไม่ได้
คุณฮยอกแจ...ผมทำถูกแล้วใช่มั้ย คุณต้องการอย่างนี้ใช่รึเปล่า ผมถอยออกมาแล้ว ผมขอให้คุณมีความสุขนะ...
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วี้ วอ วี้ วอ วี้ วอ….
เสียงรถพยาบาลดังมาแต่ไกลในท้องถนนกว้างและมาหยุดอยู่ตรงที่มุมตึกขอวบริษัทใหญ่ ตามที่ซีวอนได้บอกกับเจ้าหน้าที่ไว้
“ขอทางหน่อยค่ะ...ขอโทษนะคะ อย่ายืนมุงกันนะคะ เจ้าหน้าที่เราต้องการพื้นที่ค่ะ ขอโทษนะคะ!” เสียงของพยาบาลสาวและเจ้าหน้าที่ช่วยกันทั้งตะโกนทั้งพูดขอทางจากคนที่ยืนมุงดูกันอย่างกับยืนดูหนังกลางแปลงที่กำลังฉายอยู่
“เดี๋ยวครับ! ผมขึ้นไปด้วยได้มั้ยครับ” ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังยกร่างเล็กที่อยู่บนกระดานแข็งใช้สำหรับรองนอนขึ้นรถอยู่
“คุณคือคุณทงเฮใช่มั้ยครับ ขึ้นมาเลยครับ” เสียงของแพทย์ที่อยู่บนรถตอบกลับมา ซึ่งปกติแล้ว ทางโรงพยาบาลมีกฎว่า ห้ามให้ญาติขึ้นมาด้วย แต่ครั้งนี้ทงเฮขึ้นมาได้เพราะว่าหลังจากที่ซีวอนเดินออกไป ซีวอนก็โทรกลับไปหาคังอินอีกรอบนึง
“พวกนายรู้จักคุณทงเฮใช่มั้ย ถ้าเค้าขอขึ้นรถ ก็ให้ขึ้นมาได้เลยนะ...แล้วถ้าผลเป็นยังไงก็บอกคุณทงเฮไปตรงๆเลย ส่วนผม ผมจะไปดูงานที่อเมริกาเลย อาจจะไม่ได้ติดต่อกลับมา ฝากบอกพ่อผมด้วย”
หลังจากที่ทงเฮขึ้นรถพยาบาลมาเป็นคนสุดท้าย ร่างหนาก็รู้สึกว่าตัวเองมาเป็นตัวถ่วงการทำงานของพวกหมอและพยาบาล เขารู้สึกว่าเกะกะเหลือเกิน เครื่องมือการแพทย์เต็มรถไปหมด เพราะเนื่องจากรถพยาบาลคันนี้เป็นของโรงพยาบาลเอกชนจึงมีเครื่องมือที่ทันสมัยและครับถ้วน บนรถมีแพทย์ แพทย์ฝึกหัดรวมทั้งผู้ช่วยและพยาบาลรวมแล้วประมาณ 5 คน
“พยาบาลแทยอนต่อสายเครื่องช่วยหายใจด้วยครับ ตอนนี้ผู้ป่วยหายใจเองไม่ได้” เสียงของแพทย์พูดขึ้นมาระหว่างทำการตรวจร่าวเล็กที่นอนอยู่ สายท่อเล็กๆโยงมาจากเครื่องถูกต่อเข้ากับจมูกของร่างเล็กเรียบร้อยด้วยความรีบเร่งของพยาบาลสาว
“หัวหน้าครับ ตอนนี้คนไข้หัวใจเต้นช้าลงครับ ถ้าเราไม่รีบปั๊มหัวใจ เราอาจจะเสียคนไข้ไปได้นะครับ” แพทย์ฝึกหัดที่กำลังนั่งมองหน้าจอที่เป็นรูปกราฟขึ้นลงอยู่ แล้วรายงานมาให้แพทย์อีกคนนึงฟัง
“ชางมิน เอาเครื่องปั๊มหัวใจมา” แพทย์ที่นั่งอยู่ข้างๆร่างเล็กพูดสั่งหนึ่งในแพทย์ฝึกหัดด้วยเสียงเรียบแต่เต็มไปด้วยอำนาจในการสั่ง
“ 1… 2 … clear! 1…2…clear!....” แพทย์ที่เป็นหัวหน้าปั๊มหัวใจของร่างเล็กสลับกับใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจไปเรื่อยๆ โดยที่มีผู้ช่วยอีกหลายคนคอยทำหน้าที่ของตัวเองอยู่
ทงเฮที่นั่งอยู่หลังสุดก็อดกลัวไม่ได้ที่เห็นคนรักต้องเป็นแบบนี้ เขานั่งนิ่งรอผลที่จะออกมา ทั้งๆที่แพทย์ฝึกหัดก็พูดเหมือนจะให้เตรียมใจเอาไว้ตั้งแต่ก่อนจะเริ่มใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจแล้ว
“หัวหน้าครับ ตอนนี้คนไข้ไม่รู้สึกตัวแล้วครับ ไม่ตอบสนองเลยครับ”
“หัวหน้าครับ หัวใจเต็นช้าลงครับ”
เสียงของแพทย์ฝึกหัดหลายคนกำลังรายงานสิ่งที่ตัวเองเห็นจากจอสี่เหลี่ยมที่ตัวเองประจำอยู่ อาการของร่างเล็กทรุดลงเรื่อยๆ โดยไม่มีท่าทีจะดีขึ้นจนแพทย์ภายในรถเครียดกันหมด
ตี๊ดดด
“....”
“ฮยอกแจ!” ……
ฮยอกรักทงเฮ...ฮยอกขอโทษ....
จบค่ะ พอแล้ว จบจบจบ 55555 เสียงตี๊ดนั่นเป็นเสียงอะไรก็ให้ทุกคนไปทายกันเองนะคะ 55555 เฟย์หาจุดจบของเรื่องนี้ไม่ได้เลยออ่า ยากจัง เลยจบมันแบบนี้เลย เรื่องเครื่องมือการแพทย์กับขั้นตอนการช่วยชีวิตคนหรืออะไรที่เกี่ยวกับหมอในเรื่องนี้อะ มันยากมากเลย เฟย์พยายามหาข้อมูลจริงๆแต่มันก็ไม่ได้ทั้งหมดอะ - -“ มีบางอันที่จริงบ้างไม่จริงบ้าง เฟย์อยากให้คนอ่านแล้วได้ความรู้(รึเปล่า) 55555 ก็เอาเป็นว่าถ้าอันไหนไม่จริงก็ถือซะว่ามันเป็นฟิคละกันเน๊อะ
ปล1.เรื่องต่อไปที่เฟจะแต่งรับลองว่าจะเป็นแนวสดใสๆโนว์ดราม่าค่ะ แต่จะเป็นเรื่องหรือคู่ใครก็รอดูกันนะคะ #จะดีมากถ้าคอมเม้นมาว่าอยากอ่านคู่ไหนกัน T^T
ปล2.เฟย์รอคอมเม้นแรกอยู่น้า...รอนานมากเลย เมื่อไหรจะมี T T เฟย์ไม่รู้เลยอะว่าคนอ่านรู้สึกยังไง ช่วยคอมเม้นหน่อยนะคะ จะวิจารณ์ฟิคหรือพูดค่อยยังไงก็ได้ค่ะ เพราะตอนนี้เฟรู้สึกเหมือนคุยอยู่คนเดียว เหงาเน้~ …
ความคิดเห็น