ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ความฝันหรือความจริง
“คาซึ ตื่นได้แล้ว.....คาซึ  ไอ้คาซึโว้ย!!  ตื่นซีวะ” เสียงใครเรียกเนี่ย ใช่แล้วเป็นเสียงเพื่อนเขาที่ชื่อ อางาตะ ฮิคารุ นี่เอง ส่วนตัวเขาเองชื่อ อาซาคุโระ คาซึกิ ปกติคาซึกิจะไปโรงเรียนพร้อมกับเพื่อนเขาอีก 4 คนเพราะบ้านอยู่ติดกัน แต่วันนี้คาซึกิตื่นสายผิดปกติ (ผิดปกติจริงๆเพราะปกติเขาจะตื่นเช้ากว่าทุกคนด้วยซ้ำ)
“เมื่อไหร่จะตื่นวะ ไอ้นี่ !!” เสียงใครอีกล่ะทีนี้ อ้อ เจ้าชินจินี่เอง  คนนี้เค้าชื่อว่า ฮาจิเมะ ชินจิ คนนี้ดูมีมาดของคนฉลาดมากกว่าคนอื่น
“ตื่นแล้วโว้ย ไอ้บ้า มาตะคอกใส่หูคนอื่นได้ไงวะ” คาซึพูดอย่างฉุนกึก หนวกหูๆ น่ารำคาญจริง
“เออ ตื่นซะที รีบแต่งตัวแล้วไปข้างล่างเร็วสองคนนั่นรออยู่” ชินจิพูด แล้วทั้งชินจิและฮิคารุก็ลงไปรออยู่ข้างล่าง อ้อ ลืมบอกว่า บ้านของคาซึกิน่ะ เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ซึ่งก็ใหญ่พอสมควร เพราะเขาเป็นลูกเศรษฐี แต่ในบ้านมีเขาอยู่แค่คนเดียว เพราะพ่อกับแม่ไปทำงานที่ต่างประเทศ แต่ก็มักจะโทรมาหาเขาบ่อยๆ ก็เขาเป็นลูกชายคนเดียวของบ้านนี้นี่  ความจริงคาซึเป็นลูกคนที่ 2 มีพี่สาวอีกคนที่ตอนนี้ก็เรียนอยู่ที่ต่างประเทศเหมือนกัน....
‘รอ? รอทำไม วันนี้วันอาทิตย์นะ ฉันควรจะได้อยู่บ้านนอนตื่นสายสิ เฮ้อ....เอาเถอะๆ’ คาซึบ่นในใจ แต่ก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วก็ลงไปพบเพื่อนๆที่รออยู่ชั้นล่าง
‘เป็นไรไปวะ เหม่อเชียวนะ’ ซาซาเมะ หรือ วาตารุ ซาซาเมะ  เพื่อนในกลุ่มอีกคนของเขาพูด แลทุกคนก็พยักหน้าแสดงความเห็น
ด้วยอย่างแรง
ก็เหม่อแน่ล่ะ คาซึมัวแต่คิดถึงเรื่องเมื่อคืน มันเป็นความฝันหรือเรื่องจริงกันแน่นะ ........แต่ถ้าเป็นความฝันก็คงเป็นความฝันที่เหมือนจริงมาก...หรือว่าเขาจะคิดมากไปเองนะ
“เปล่า ไม่มี’ไรน่า เออ ว่าแต่วันนี้มันวันหยุดนะเว้ย มาปลุกทำไมวะ มีอะไรก็รีบๆว่ามา จะได้ไปนอนต่อ”
“ไอ้นี่ ในหัวมีแต่กินกับนอนรึไง มาคุยเรื่องการขึ้นคอนเสิร์ตที่จะจัดในวันงานโรงเรียนไงล่ะ ลืมไปแล้วหรอ” ซานะ หรือ โอจิวะ ซานะดะพูด เพื่อนอีกคนของคาซึเป็นคนพูด ความจริงพวกของคาซึมีความใฝ่ฝันอยากจะตั้งวงดนตรีของตัวเองและจัดแสดงตามที่ต่างๆ งานโรงเรียนคือก้าวแรกของพวกเขา
...วงของพวกเขามีชื่อว่า Darken มีสมาชิกในวง 5 คน คือ อาซาคุโระ คาซึกิ (Vol) ,โอจิวะ ซานาดะ (G) ,ฮาจิเมะ ชินจิ (G) ,อางาตะ ฮิคารุ (B) ,และ วาตารุ ซาซาเมะ (Dr) โดยมีซาซาเมะเป็นหัวหน้าวง
“เออ ..ลืมไปเลย!!” คาซึลืมเรื่องนี้ไปซะสนิทจริงๆ ก็ที่คุยเรื่องนี้กันครั้งสุดท้ายก็เดือนที่แล้วโน่น หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยอีกเลย เพราะมัวเคร่งกับการสอบปลายภาค
“ไอ้บ้า!!” อีก 4 คนตะโกนขึ้นพร้อมกัน  งานโรงเรียนจะจัดขึ้นในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า
“เออ เอาเถอะๆ พวกนายเองก็ลืมเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ” คาซึพูด เขาคิดยังงั้นเพราะถ้ามีคนนึกถึงเรื่องนี้บ้าง ก็คงไม่มาพูดเอาวันนี้อย่างไม่มีแบบแผนอะไรเลยแบบนี้หรอก
“...............” ทุกคนตกอยู่ในความเงียบสักครู่หนึ่ง
“เอางี้นะ เรื่องเพลงกับดนตรีต่างๆ ฉันคิดว่าพวกนายจำได้หมดแล้ว” ซาซาเมะแสดงความคิดเห็น เมื่อเห็นทุกคนนิ่งเงียบ
“อืม....”
“เพราะฉะนั้น ก็จะมาว่าถึงการควบคุมอารมณ์ อย่าให้ตื่นเต้นเวลาขึ้นแสดงจริง”
“เออน่า... เรื่องหมูๆ”
“เอาล่ะ จบการประชุมแค่นี้ ทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้านได้เลย” ซาซาเมะพูดอย่างสั้นๆ
เฮ้ยๆ มันจะสั้นไปรึเปล่า มาปลุกคนอื่นตื่นเพื่อจะพูดแค่เนี้ย.....
    เมื่อทุกคนกลับไปหมดแล้ว คาซึกะจะขึ้นไปนอนต่อ แต่คิดอีกทีไม่เอาดีกว่า อากาศแจ่มใสแบบนี้ต้องออกไปเดินเล่นนอกบ้านซะหน่อย.....
ขณะที่เดินเล่นไปเรื่อยเปื่อย อย่างสบายอารมณ์ อยู่ๆไอ้อากาศดีที่ว่าเมื่อตะกื้ มันดันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กลายเป็นท้องฟ้ามืดครึ้ม ลมพัดแรงมาก แรงจนน่ากลัวว่ามันจะพัดเอาตัวเขาลอยไปด้วย  อีกทั้งยังมีเม็ดฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก
‘อะไรอีกล่ะเนี่ย ตะกี้อากาศมันยังดีอยู่เลยนี่นา’ เขาคิดอย่างหัวเสีย ต้องรีบหาที่หลบฝนก่อน
“อ้าว เฮ่ย !!” เขาพูดออกมาด้วยอารมณ์ที่ทั้งหัวเสีย ทั้งงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขา ก็ทั้งสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ต้นไม้ สัตว์ ผู้คน ทุกอย่างที่อยู่รอบๆตัวเขาเมื่อตะกี้ .....มันหายไปไหนหมด!!
เหลือแต่ความว่างเปล่า........แต่เขาก็ยังวิ่งต่อไปเรื่อยๆ ก็ใครจะยอมเป็นเป้านิ่งให้ฝ้าผ่าใส่หัวเล่นกันเล่า
ฟ้าผ่าเรื่อยๆ แต่มันดูเหมือนจะพยายามจะเล็งมาที่เขา  จะดันผ่า เปรี้ยง เปรี้ยง ตามก้นเขามาติดๆเลยนี่ ตอนนี้เหมือนคาซึกำลังเล่นวิ่งไล่จับกับไอ้สายฟ้าบ้าๆนี่...........คราวนี้ เอาเข้าจนได้ ถือว่าคาซึเป็นฝ่ายแพ้ เพราะสายฟ้ามันผ่าโดนคาซึเต็มๆ ทำให้เขารู้สึกชาไปทั่วตัว แต่ไม่ยักกะตายแฮะ เหตุการณ์นี้มันคล้ายกับเมื่อคืนเลยนี่นา........
แล้วเขาก็หมดสติไปอีก .........
พอฟื้นขึ้นมาก็พบว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเหมือนเดิม คาซึยังคงอยู่ที่เดิม ....ทั้งๆที่เขาคิดว่าวิ่งหนีสายฟ้าที่ไล่ตามผ่าเขานั่นไปไกลแล้วนะ ที่ไม่เหมือนเดิมก็มีแต่ตัวเขาที่เปียกปอนไปหมด กับผู้คนที่เดินผ่านที่มองดูเขาด้วยสายตาแปลกๆ พวกนั้นคงคิดว่าเขาเดินตกท่อน้ำที่ไหนซักแห่ง แล้วตะเกียกตะกายขึ้นมาได้ แต่ดันมาหมดแรงเลยมานอนสลบไสลอยู่ที่นี่ ก็แถวนี้น่ะ ไม่มีทีท่าว่าฝนตกเลยนี่....แต่ช่างเถอะ อ้อ มีสร้อยข้อมือสีใสอยู่ที่ข้อมือขวาของเขาด้วย เขาเพิ่งสังเกตเห็นนี่แหละ แถมพยายามถอดเท่าไหร่ก็ไม่ยอมออกอีก เขารีบกลับบ้านเพื่อไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่พอถอดเสื้อผ้าจะอาบน้ำสระผม เขาก็สังเกตเห็นอีกสิ่งหนึ่งที่มาพร้อมกับเหตุการณ์ประหลาดๆนั่น ก็คือ ต่างหูที่มาอยู่ที่หูของคาซึตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แถมเป็นต่างหูที่มีลักษณะยาว  พอมันมาอยู่ที่หูเขา ซึ่งมีใบหน้าที่มองดูสวยคล้ายผู้หญิงแล้ว ถ้าไปบอกคนอื่นว่า คาซึเป็นผู้หญิง คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่เชื่อ.....และก็เป็นอีกอย่างที่พยายามถอดออกยังไง มันก็ไม่ยอมออก ในที่สุดเขาก็เลิกพยายามที่จะเอาของสองสิ่งนั้นออกจากตัวเขา เขาเดินตรงไปที่ห้องน้ำแล้วก็อาบน้ำสระผมในห้องน้ำแสนหรูในบ้านของเขา...........(ปล. คาซึเป็นคนประเภทที่จะถอดเสื้อผ้าให้เสร็จสรรพก่อนแล้วค่อยเข้าห้องอาบน้ำ)
ห้องน้ำตระกูลอาซาคุโระหรูจริงๆ มีอ่างอาบน้ำที่สามารถปรับอุณหภูมิน้ำได้ตามต้องการ แถมบนขอบอ่าง หรือจะเรียกว่าขอบสระก็ได้ เพราะอ่างนั้นใหญ่มากๆ มีพวกน้ำหอมกลิ่นต่างๆที่เอาไว้ใสในน้ำเพื่อแช่ตัว ห้องอาบน้ำของเขาหรือแทบจะทั้งบ้านเป็นกระจกหมด เวลาอาบน้ำจึงสามารถมองเห็นวิวต่างๆได้ เขาไม่เข้าใจทำไมต้องทำอย่างนี้นะ น่าอายจะตาย อย่างน้อยก็ยกเว้นห้องน้ำซักห้องไม่ได้หรอ ให้มันดูทึบๆเป็นส่วนตัวหน่อย ถึงแม้ว่าม่านที่ใช้ปิดรอบห้องน้ำจะเป็นม่านทึบก็เหอะ.......
แต่ของหรูๆพวกนั้นเขาไม่ค่อยได้ใช้หรอก ส่วนใหญ่พี่สาวกับคนอื่นๆในบ้านจะใช้ซะมากกว่า ปกติเขาจะใช้ห้องอาบน้ำส่วนตัวที่อยู่ติดกับห้องนอนของเขาที่มีแค่ฝักบัวกับของใช้ที่จำเป็นเท่านั้น จะใช้ห้องอาบน้ำหรูๆนั่นก็เฉพาะเวลาที่มีเรื่องให้คิดมาก นั่นก็คือเวลานี้นี่เอง
พอเข้ามาในห้องอาบน้ำปุ๊บ คาซึก็เปิดน้ำอุ่นใส่อ่าง แล้วหยดน้ำมันหอมลงในน้ำ แล้วลงไปแช่ตัวในน้ำนั่น แล้วก็ครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดกับเขาวันนี้และเมื่อคืน เขามั่นใจว่าจะต้องไม่ใช่ความฝันแน่ๆ ไม่งั้นต่างหูกับสร้อยข้อมือมันมาได้ไง........เออ ใช่ แล้วมันมาได้ไงล่ะ
คาซึคิดว่าอีกไม่นานคงจะมีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นกับเขาอีกแน่ จึงเดินไปเปิดม่านทั้งหมด สงสัยเขาคิดว่าจะมีอะไรโผล่มาจากท้องฟ้าล่ะมั้ง....  แล้วก็จ้องมองท้องฟ้าและครุ่นคิดไปเรื่อยๆ ( ปล. มันจะไม่เกินไปหน่อยเรอะ เดินล่อนจ้อนไปเปิดม่านจนเหลือแต่กระจกใสๆหน้าตาเฉย แถมยังกลับมานอนแช่ในอ่างโดยไม่รู้สึกอะไรอีกแน่ะ)
มันมาอยู่ที่เราได้ไงนะ .........มาอยู่ที่เราได้ไง..........มาอยู่ที่เราได้ยังไง....................................
แล้วเขาก็ผล็อยหลับไป.........
“เมื่อไหร่จะตื่นวะ ไอ้นี่ !!” เสียงใครอีกล่ะทีนี้ อ้อ เจ้าชินจินี่เอง  คนนี้เค้าชื่อว่า ฮาจิเมะ ชินจิ คนนี้ดูมีมาดของคนฉลาดมากกว่าคนอื่น
“ตื่นแล้วโว้ย ไอ้บ้า มาตะคอกใส่หูคนอื่นได้ไงวะ” คาซึพูดอย่างฉุนกึก หนวกหูๆ น่ารำคาญจริง
“เออ ตื่นซะที รีบแต่งตัวแล้วไปข้างล่างเร็วสองคนนั่นรออยู่” ชินจิพูด แล้วทั้งชินจิและฮิคารุก็ลงไปรออยู่ข้างล่าง อ้อ ลืมบอกว่า บ้านของคาซึกิน่ะ เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ซึ่งก็ใหญ่พอสมควร เพราะเขาเป็นลูกเศรษฐี แต่ในบ้านมีเขาอยู่แค่คนเดียว เพราะพ่อกับแม่ไปทำงานที่ต่างประเทศ แต่ก็มักจะโทรมาหาเขาบ่อยๆ ก็เขาเป็นลูกชายคนเดียวของบ้านนี้นี่  ความจริงคาซึเป็นลูกคนที่ 2 มีพี่สาวอีกคนที่ตอนนี้ก็เรียนอยู่ที่ต่างประเทศเหมือนกัน....
‘รอ? รอทำไม วันนี้วันอาทิตย์นะ ฉันควรจะได้อยู่บ้านนอนตื่นสายสิ เฮ้อ....เอาเถอะๆ’ คาซึบ่นในใจ แต่ก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วก็ลงไปพบเพื่อนๆที่รออยู่ชั้นล่าง
‘เป็นไรไปวะ เหม่อเชียวนะ’ ซาซาเมะ หรือ วาตารุ ซาซาเมะ  เพื่อนในกลุ่มอีกคนของเขาพูด แลทุกคนก็พยักหน้าแสดงความเห็น
ด้วยอย่างแรง
ก็เหม่อแน่ล่ะ คาซึมัวแต่คิดถึงเรื่องเมื่อคืน มันเป็นความฝันหรือเรื่องจริงกันแน่นะ ........แต่ถ้าเป็นความฝันก็คงเป็นความฝันที่เหมือนจริงมาก...หรือว่าเขาจะคิดมากไปเองนะ
“เปล่า ไม่มี’ไรน่า เออ ว่าแต่วันนี้มันวันหยุดนะเว้ย มาปลุกทำไมวะ มีอะไรก็รีบๆว่ามา จะได้ไปนอนต่อ”
“ไอ้นี่ ในหัวมีแต่กินกับนอนรึไง มาคุยเรื่องการขึ้นคอนเสิร์ตที่จะจัดในวันงานโรงเรียนไงล่ะ ลืมไปแล้วหรอ” ซานะ หรือ โอจิวะ ซานะดะพูด เพื่อนอีกคนของคาซึเป็นคนพูด ความจริงพวกของคาซึมีความใฝ่ฝันอยากจะตั้งวงดนตรีของตัวเองและจัดแสดงตามที่ต่างๆ งานโรงเรียนคือก้าวแรกของพวกเขา
...วงของพวกเขามีชื่อว่า Darken มีสมาชิกในวง 5 คน คือ อาซาคุโระ คาซึกิ (Vol) ,โอจิวะ ซานาดะ (G) ,ฮาจิเมะ ชินจิ (G) ,อางาตะ ฮิคารุ (B) ,และ วาตารุ ซาซาเมะ (Dr) โดยมีซาซาเมะเป็นหัวหน้าวง
“เออ ..ลืมไปเลย!!” คาซึลืมเรื่องนี้ไปซะสนิทจริงๆ ก็ที่คุยเรื่องนี้กันครั้งสุดท้ายก็เดือนที่แล้วโน่น หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยอีกเลย เพราะมัวเคร่งกับการสอบปลายภาค
“ไอ้บ้า!!” อีก 4 คนตะโกนขึ้นพร้อมกัน  งานโรงเรียนจะจัดขึ้นในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า
“เออ เอาเถอะๆ พวกนายเองก็ลืมเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ” คาซึพูด เขาคิดยังงั้นเพราะถ้ามีคนนึกถึงเรื่องนี้บ้าง ก็คงไม่มาพูดเอาวันนี้อย่างไม่มีแบบแผนอะไรเลยแบบนี้หรอก
“...............” ทุกคนตกอยู่ในความเงียบสักครู่หนึ่ง
“เอางี้นะ เรื่องเพลงกับดนตรีต่างๆ ฉันคิดว่าพวกนายจำได้หมดแล้ว” ซาซาเมะแสดงความคิดเห็น เมื่อเห็นทุกคนนิ่งเงียบ
“อืม....”
“เพราะฉะนั้น ก็จะมาว่าถึงการควบคุมอารมณ์ อย่าให้ตื่นเต้นเวลาขึ้นแสดงจริง”
“เออน่า... เรื่องหมูๆ”
“เอาล่ะ จบการประชุมแค่นี้ ทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้านได้เลย” ซาซาเมะพูดอย่างสั้นๆ
เฮ้ยๆ มันจะสั้นไปรึเปล่า มาปลุกคนอื่นตื่นเพื่อจะพูดแค่เนี้ย.....
    เมื่อทุกคนกลับไปหมดแล้ว คาซึกะจะขึ้นไปนอนต่อ แต่คิดอีกทีไม่เอาดีกว่า อากาศแจ่มใสแบบนี้ต้องออกไปเดินเล่นนอกบ้านซะหน่อย.....
ขณะที่เดินเล่นไปเรื่อยเปื่อย อย่างสบายอารมณ์ อยู่ๆไอ้อากาศดีที่ว่าเมื่อตะกื้ มันดันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กลายเป็นท้องฟ้ามืดครึ้ม ลมพัดแรงมาก แรงจนน่ากลัวว่ามันจะพัดเอาตัวเขาลอยไปด้วย  อีกทั้งยังมีเม็ดฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก
‘อะไรอีกล่ะเนี่ย ตะกี้อากาศมันยังดีอยู่เลยนี่นา’ เขาคิดอย่างหัวเสีย ต้องรีบหาที่หลบฝนก่อน
“อ้าว เฮ่ย !!” เขาพูดออกมาด้วยอารมณ์ที่ทั้งหัวเสีย ทั้งงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขา ก็ทั้งสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ต้นไม้ สัตว์ ผู้คน ทุกอย่างที่อยู่รอบๆตัวเขาเมื่อตะกี้ .....มันหายไปไหนหมด!!
เหลือแต่ความว่างเปล่า........แต่เขาก็ยังวิ่งต่อไปเรื่อยๆ ก็ใครจะยอมเป็นเป้านิ่งให้ฝ้าผ่าใส่หัวเล่นกันเล่า
ฟ้าผ่าเรื่อยๆ แต่มันดูเหมือนจะพยายามจะเล็งมาที่เขา  จะดันผ่า เปรี้ยง เปรี้ยง ตามก้นเขามาติดๆเลยนี่ ตอนนี้เหมือนคาซึกำลังเล่นวิ่งไล่จับกับไอ้สายฟ้าบ้าๆนี่...........คราวนี้ เอาเข้าจนได้ ถือว่าคาซึเป็นฝ่ายแพ้ เพราะสายฟ้ามันผ่าโดนคาซึเต็มๆ ทำให้เขารู้สึกชาไปทั่วตัว แต่ไม่ยักกะตายแฮะ เหตุการณ์นี้มันคล้ายกับเมื่อคืนเลยนี่นา........
แล้วเขาก็หมดสติไปอีก .........
พอฟื้นขึ้นมาก็พบว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเหมือนเดิม คาซึยังคงอยู่ที่เดิม ....ทั้งๆที่เขาคิดว่าวิ่งหนีสายฟ้าที่ไล่ตามผ่าเขานั่นไปไกลแล้วนะ ที่ไม่เหมือนเดิมก็มีแต่ตัวเขาที่เปียกปอนไปหมด กับผู้คนที่เดินผ่านที่มองดูเขาด้วยสายตาแปลกๆ พวกนั้นคงคิดว่าเขาเดินตกท่อน้ำที่ไหนซักแห่ง แล้วตะเกียกตะกายขึ้นมาได้ แต่ดันมาหมดแรงเลยมานอนสลบไสลอยู่ที่นี่ ก็แถวนี้น่ะ ไม่มีทีท่าว่าฝนตกเลยนี่....แต่ช่างเถอะ อ้อ มีสร้อยข้อมือสีใสอยู่ที่ข้อมือขวาของเขาด้วย เขาเพิ่งสังเกตเห็นนี่แหละ แถมพยายามถอดเท่าไหร่ก็ไม่ยอมออกอีก เขารีบกลับบ้านเพื่อไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่พอถอดเสื้อผ้าจะอาบน้ำสระผม เขาก็สังเกตเห็นอีกสิ่งหนึ่งที่มาพร้อมกับเหตุการณ์ประหลาดๆนั่น ก็คือ ต่างหูที่มาอยู่ที่หูของคาซึตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แถมเป็นต่างหูที่มีลักษณะยาว  พอมันมาอยู่ที่หูเขา ซึ่งมีใบหน้าที่มองดูสวยคล้ายผู้หญิงแล้ว ถ้าไปบอกคนอื่นว่า คาซึเป็นผู้หญิง คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่เชื่อ.....และก็เป็นอีกอย่างที่พยายามถอดออกยังไง มันก็ไม่ยอมออก ในที่สุดเขาก็เลิกพยายามที่จะเอาของสองสิ่งนั้นออกจากตัวเขา เขาเดินตรงไปที่ห้องน้ำแล้วก็อาบน้ำสระผมในห้องน้ำแสนหรูในบ้านของเขา...........(ปล. คาซึเป็นคนประเภทที่จะถอดเสื้อผ้าให้เสร็จสรรพก่อนแล้วค่อยเข้าห้องอาบน้ำ)
ห้องน้ำตระกูลอาซาคุโระหรูจริงๆ มีอ่างอาบน้ำที่สามารถปรับอุณหภูมิน้ำได้ตามต้องการ แถมบนขอบอ่าง หรือจะเรียกว่าขอบสระก็ได้ เพราะอ่างนั้นใหญ่มากๆ มีพวกน้ำหอมกลิ่นต่างๆที่เอาไว้ใสในน้ำเพื่อแช่ตัว ห้องอาบน้ำของเขาหรือแทบจะทั้งบ้านเป็นกระจกหมด เวลาอาบน้ำจึงสามารถมองเห็นวิวต่างๆได้ เขาไม่เข้าใจทำไมต้องทำอย่างนี้นะ น่าอายจะตาย อย่างน้อยก็ยกเว้นห้องน้ำซักห้องไม่ได้หรอ ให้มันดูทึบๆเป็นส่วนตัวหน่อย ถึงแม้ว่าม่านที่ใช้ปิดรอบห้องน้ำจะเป็นม่านทึบก็เหอะ.......
แต่ของหรูๆพวกนั้นเขาไม่ค่อยได้ใช้หรอก ส่วนใหญ่พี่สาวกับคนอื่นๆในบ้านจะใช้ซะมากกว่า ปกติเขาจะใช้ห้องอาบน้ำส่วนตัวที่อยู่ติดกับห้องนอนของเขาที่มีแค่ฝักบัวกับของใช้ที่จำเป็นเท่านั้น จะใช้ห้องอาบน้ำหรูๆนั่นก็เฉพาะเวลาที่มีเรื่องให้คิดมาก นั่นก็คือเวลานี้นี่เอง
พอเข้ามาในห้องอาบน้ำปุ๊บ คาซึก็เปิดน้ำอุ่นใส่อ่าง แล้วหยดน้ำมันหอมลงในน้ำ แล้วลงไปแช่ตัวในน้ำนั่น แล้วก็ครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดกับเขาวันนี้และเมื่อคืน เขามั่นใจว่าจะต้องไม่ใช่ความฝันแน่ๆ ไม่งั้นต่างหูกับสร้อยข้อมือมันมาได้ไง........เออ ใช่ แล้วมันมาได้ไงล่ะ
คาซึคิดว่าอีกไม่นานคงจะมีเหตุการณ์แปลกๆเกิดขึ้นกับเขาอีกแน่ จึงเดินไปเปิดม่านทั้งหมด สงสัยเขาคิดว่าจะมีอะไรโผล่มาจากท้องฟ้าล่ะมั้ง....  แล้วก็จ้องมองท้องฟ้าและครุ่นคิดไปเรื่อยๆ ( ปล. มันจะไม่เกินไปหน่อยเรอะ เดินล่อนจ้อนไปเปิดม่านจนเหลือแต่กระจกใสๆหน้าตาเฉย แถมยังกลับมานอนแช่ในอ่างโดยไม่รู้สึกอะไรอีกแน่ะ)
มันมาอยู่ที่เราได้ไงนะ .........มาอยู่ที่เราได้ไง..........มาอยู่ที่เราได้ยังไง....................................
แล้วเขาก็ผล็อยหลับไป.........
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น