ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Romantic suspense มหัศจรรย์รางวัลของความรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : Episode 1

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 55






    (1)

    นางเอกที่มีเจ้าของอยู่ก่อนแล้ว

     

    "นายผักดอง!!"

    "...."

    "มัวยืนบื้ออะไรตรงนั้นน่ะ หา!"

    "โอ๊ย เจ็บๆๆๆ อย่าเที่ยวดึงหัวชาวบ้านเซ่!"

    "ฮึ! ก็นายอยากยืนเอ๋อทำไมล่ะ บอกให้มาช่วยซีลอคแท้ๆ ให้ตายสิ"

     

    พราว สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มในชุดนักศึกษากอดอกบ่นชายหนุ่มข้างๆเธอ อุตส่าห์จะให้มาช่วยถือแท้ๆ แต่กลับยืนมองสาวอยู่นั่นแหละ ต่อให้มองไปกี่ร้อยครั้งก็ไม่มีสาวไหนแลนายหรอก เฮอะ ก็หน้าตาอย่างกับผักดองแบบนี้

    ลีทัสลูบหัวตัวเอง หลังจากที่โดนดึงผมเพราะตัวเองเหม่อ ยัยชอบใช้ความรุนแรง! มิน่าถึงไม่มีหนุ่มไหนชายตามองหน้าตาก็พอดูได้อยู่หรอก แต่ถ้าไม่เปลี่ยนนิสัยป่าเถื่อนนี่ พนันได้อีกร้อยชาติก็ไม่มีใครเอา !!

     

    "เอ้าๆ อย่ามัวแต่นินทาคนอื่นในใจในระยะเผาขนสิ ฉันรู้นะยะ! เอานี่ไปถือเลยไป!"

     

    สาวเจ้าส่งชีทร้อนๆทีเพิ่งซีล็อคเสร็จให้กับลีทัส หมอนั่นตกใจและปล่อยมือที่โดนยัดชีทให้ถืออยู่ จนเอกสารเหล่านั้นหล่นลงบนพื้นหมด คิก! นายซุ่มซ่ามเอ๊ย พราวยิ้มที่มุมปาก

     

    "เฮ้! ทำบ้าอะไรของเธอ!! ก็เห็นอยู่ว่ามันเพิ่งถ่ายเสร็จ ชีทมีน้อยซะที่ไหน มันร้อนนะเฟ้ย! อยากให้ลวกมือตายเรอะไง!"

    "ซุ่มซ่ามทำหล่นแล้วยังมาแก้ตัวอีก"

     

    ผมไม่เถียงต่อเพราะรู้ว่าขืนเถียงต่อมันอาจจะทำให้ไมเกรนกำเริบอีกก็ได้ สู้ก้มลงเก็บของแล้วรีบเดินเอาชีทไปแจกเพื่อนดีกว่าจะได้ไม่ต้องอยู่กับยัยนี่นาน  ประสาทจะกิน! ลีทัสบ่นในใจ

     

    "เก็บให้มันเร็วๆหน่อยสิ ปลิวไปตรงนั้นเลยเห็นมะ!" เมื่อได้ทีไม่มีคนเถียงต่อก็ชักจะเอาใหญ่ พราวเลยบ่นต่อไปเรื่อย พลางเดินไปช่วยเก็บชีทที่ปลิวว่อน เวลาหมอนี่สงบปากสงบคำมันดูแปลกยังไงไม่รู้แฮะ แต่ยังไงก็เถอะ ดีเหมือนกัน จะได้มีฉันบ่นแค่คนเดียว

     

    พอเก็บเสร็จแล้วเราทั้งคู่ก็เดินขึ้นตึกเพื่อเอาชีทไปแจกเพื่อนๆในคลาส อาศัยระหว่างเดินขึ้นตึกชั้นหก ขอแนะนำตัวสั้นๆก่อนเลยละกันนะครับ

    ผม ลีทัส เด็กมหาลัยปีสอง ส่วนคณะกับเอกอะไรขอไม่บอกละกัน เอาเป็นว่าไม่ใช่คณะที่ผู้ชายแมนๆส่วนมากจะเรียน หากคุณอ่านและสังเกตดีๆต่อไป เดี๋ยวก็จะรู้เอง เชื่อสิ!

    ส่วนยัยคนข้างๆผมชื่อ พราว เพื่อนที่เคยอยู่มัธยมเดียวกันห้องเดียวกัน และด้วยความโชคร้ายนี่เองจึงทำให้เรามาอยู่มหาลัยเดียวกันคณะเดียวกัน เอกเดียวกัน แต่ที่น่ายินดีด้วยหน่อยก็คือเราทั้งคู่ต่างอยู่กันคนละสาขาที่เรียน อันที่จริงผมต่างหากที่เข้าเรียนแบบเดียวเธอ เพราะเธอน่ะเข้าที่นี่ได้เพราะสอบตรงติดก่อน ส่วนผมมันรอบแอดมิชชั่น ก็ใช่ว่าอยากจะเลือกเรียนแบบเธอซะทีเดียวหรอกนะ

    คุณรู้อะไรมั้ย สี่อันดับที่ผมยื่นคะแนนแอดมิชชั่นน่ะ สามอันดับบนผมเลือกคณะที่เกี่ยวกับวิทย์และเลขทั้งนั้นเลย ซึ่งพอมาอันดับที่สี่ ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมเลือกคณะที่ห่างจากคำว่า เลข กับ วิทย์โดยสิ้นเชิง เพราะผมมั่นใจว่ายังไงก็ไม่ได้อันดับสุดท้ายอยู่แล้ว อย่างมากก็คงแค่อันดับสอง ความมั่นใจเปี่ยมล้นของผมคงมากเกินไป..ทำให้ชีวิตของผมจึงมาอยู่ที่อันดับสี่

    ส่วนผมเดาว่าคุณคงต้องอยากรู้จักหน้าค่าตาของคนที่จะมาเป็น พระเอก ให้กับเรื่องนี้ล่ะสิ ขอให้คุณคิดถึงผู้ชายหน้าตาธรรมดา ตาชั้นเดียวที่เป็นสัญลักษณ์ประจำตัวตั้งแต่เกิด ผิวเหลืองจัดไปทางซีดเหลืองเหมือนพวกเด็กขี้โรค ชอบใส่เสื้อนักศึกษาตัวใหญ่ๆแล้วเอาเสื้อเข้ากางเกง มีกระเป๋าเป้ซึ่งต้องติดตัวไว้ตลอดเวลา(วางไว้ไม่เป็น) ผมทรงรองทรง ไม่เคยไว้ยาวเกินติ่งหู(พวกซอยระต้นคอน่ะ ลืมไปได้เลย!) ที่สำคัญที่สุดก็คือพระเอกเรื่องนี้..เป็นตัวจืดจาง!

    เดาว่าคุณจะต้องอยากปิดเรื่องนี้ทันทีที่อ่านคำอธิบายพระเอกจบ แต่เป็นผมไม่ขอแนะนำให้ทำแบบนั้น ถึงพระเอกของเราจะจืดเกินไป แต่เขาก็มีความเท่ในตัวบ้างล่ะนะ ถ้าจะเปรียบก็คงเป็น แจ็ค เด็กชาวบ้านธรรมดาที่ปลูกต้นถั่วยักษ์ และเข้าก็ปีนขึ้นไปเพื่อเอาไข่ทองคำลงมาพร้อมกับเจ้าหญิงเลอโฉมซึ่งโดนจับตัวไปตั้งแต่เด็ก จากนั้นทั้งคู่ก็ครองรักกันอย่างมีความสุข..จบบริบูรณ์ (<<มันมีด้วยเรอะ เรื่องนี้น่ะ!)

    ว่าที่เจ้าหญิงเลอโฉมซึ่งจะมาเป็นว่าที่นางเอกของเรื่องนี้ เป็นผู้หญิงสวย หน้าตาน่ารักราวกับตุ๊กตาบาร์บี้ ตาสองชั้น(ที่ผมไม่มี) ผิวขาวสว่างใส(ที่ผมก็ไม่มี) และเป็นดาวประจำเอกซึ่งที่คนล้อมหน้าล้อมหลังแน่นอนที่สุดว่าผมก็ไม่เป็น..

     

    ตุบ

     

    "โอ๊ย นายนี่มันไอ้จอมซุ่มซ่ามอันดับหนึ่งเลยจริงๆ"

    "ขอโทษ คิดอะไรเพลินไปหน่อย"

    "เลิกคิดฟุ้งซ่านซักทีเถอะขอร้อง ตั้งแต่ตอนซีลอคนั่นแล้ว คราวนี้ก็สะดุดทำชีทหล่นกระจายหมด!"

    "เฮ้ย! ตอนซีลอคอะไรกัน ตอนนั้นฉันไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย เธอสิมาดึงผมฉัน ยัยบ้า!"

     

    หลังจากที่พราวเอาแต่บ่นผมอยู่ฝ่ายเดียว ธรรมชาติคนเราไม่มีทางจะยอมให้คนอื่นบ่นอยู่ฝ่ายเดียวหรอก เชื่อสิ มันก็ต้องมีโต้กลับกันบ้าง คราวนี้เธอเป็นฝ่ายเงียบและหันมาทำหน้าจริงจังช่วยผมเก็บชีท ดี ให้รู้ซะบ้างว่า บางครั้งการเรียนรู้ที่จะเงียบก็เป็นสิ่งที่ดี! (เอาตัวจืดๆของผมรับรองได้ว่านางเอกของเรื่องจะไม่ใช่ยัยนี่!)

     

     

    ครืดด ด

     

    "เอ้า เอาของมาเสิร์ฟค้าาาา ~ ~"

    "โอ๊ะ อย่าบอกนะว่าชีทเทส'จารย์รวงระวีน่ะ..!!"

    "ใช่แล้วว เอาไปอ่านสอบซะนะ"

     

    พราวตะโกนพร้อมกับแจกชีทให้เพื่อนซึ่งเดินมารุมโดยมีผมมาเป็นคนช่วยแจกอีกแรง ถึงแม้ว่าเราจะอยู่กันคนละสาขาที่เรียน แต่ความจริงผมสนิทกับพวกสาขาของพราวมากกว่าสาขาของตนเองเสียอีก ผมว่าพวกสาขานี้คุยง่าย เข้าง่ายกว่านะ อ๊ะ ไม่ได้หมายความว่าสาขาของผมมันหยิ่งหรืออะไรหรอกนะ เพียงแต่พวกเขารวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนกันหมดแล้วต่างหาก (คนที่ไม่ได้มารับน้องตอนขึ้นปี1เช่นผม จะรู้ว่าตัวเองก็พลาดโอกาสไปไม่น้อยทีเดียว)

     

    "เสร็จแล้วว ฟู่วว ~ ~"

     

    พราวปาดเหงื่อที่ไหลลงมา แอร์ในห้องนี้เสีย และก็ไม่มีใครมาซ่อมซะที จะเป็นบ้าตายก็เพราะแบบนี้น่ะแหละ เฮ้ออ ร้อนจัง! ไปกินไอศกรีมหน้ามอดีกว่า เห็นว่าเปิดใหม่มีโปรโมชั่นไอติม 2 ถ้วยแถมแก้วเป๊ปซี่เย็นๆแก้วโต ชวนลีทัสดีกว่า!

     

    "ไปกินไอติมกันเถอะลี.."

    "จะชวนลีทัสเหรอจ๊ะ? เขาเพิ่งออกไปเดินตามสาวเมื่อกี้แน่ะ!"

    "หา ไปเร็วซะจริง.."

    "อยากกินไอติมเหรอ พวกเราว่างนะจ๊ะ!"

     

    แม้จะไม่ได้กินกับเขาคนนั้น แต่อย่างน้อยก็ได้กินล่ะนะ (ถึงจะเป็นยัยสองสาวจอมมั่วนิ่มที่ส่งเสียงออดอ้อนนี่ก็ตาม) ช่วยไม่ได้ล่ะนะ ไปกับยัยพวกนี้ก็ได้!

     

     

    นางเอกของผม.. คุณรู้มั้ยว่าผมประหม่าแค่ไหนเวลาคุยกับผู้หญิง(ยกเว้นพราวไว้คนนึง) และจะยยิ่งประหม่ามากกว่านี้เมื่อได้คุยกับเธอคนนั้น แต่ถึงอย่างไรมันก็ทำให้ผมมีความสุข..ที่ได้คุยกับเธอ

     

    "อะเอ่อ เฟิร์ม!"

    "อ๊ะ ทัสมาเนีย! มีอะไรเหรอจ๊ะ?"

    "กะก็บอกให้เลิกเรียกว่า ทัสมาเนียไง ฉันชื่อ ลีทัส นะ"

    "ฮ่าๆ ทัสมาเนียออกจะน่ารัก แล้วมีอะไรล่ะ ลีทัส?"

    "นี่เป็นบทพูดเธอน่ะ งานสุนทรพจน์ของอาจารย์พิม"ผมหยิบปึกกระดาษซีลอคที่เย็บแม็คแล้วยื่นให้เธอ

    "อ๋อ ที่ต้องพูดพรุ่งนี้สินะ?" เธอรับมาแล้วก้มหน้าดูข้อมูลบนชีท "ต้องพูดทั้งหมดนี่จริงๆเหรอ? มันเยอะมากเลยนะ"

    "ถะถ้ามันยาวไปก็ตัดออกได้นะ.." ไม่อยากให้ตัดเลยแฮะ อุตส่าห์นั่งคิดถึงเที่ยงคืน เฮ้ออ

    "เข้าใจแล้ว เจอกันพรุ่งนี้นะ!" ส่งยิ้มหวานก่อนหันหลังเดินลงบันไดไป

     

    เอาเลยสิลีทัส! ไม่มีอะไรที่นายทำไม่ได้ไม่ใช่เรอะ! ของแค่นี้ปอกกล้วยยังยากกว่าเลยนะเฟ้ย!จิตสำนึกของผมตะโกนบอกตัวเอง มันดังมาจากส่วนที่ลึกที่สุดในตัวผม และจะยังคงหลอกหลอนทำให้ผมเสียใจกับการกระทำนี้ถ้าไม่ได้ทำมันลงไปในตอนนี้

     

    "ฟะเฟิร์ม!" ใบหน้าสวยใสหันมาพร้อมกับดวงตากลมโตเป็นเชิงคำถาม นั่นล่ะ! จุดที่ทำให้ผมประหม่า ไม่อยากจะยอมรับเลยว่าตัวเองแพ้ตาคู่นั้น

    "ไปกินอะไอติมกันมั้ย.."

     

    ในช่วงที่จิตใจผมกำลังกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ(ที่สามารถพูดออกไปได้)นั้นเอง มือใหญ่และหนาของใครบางคนก็กดทับลงบนไหล่ผมจากทางด้านหลัง ทำให้รู้สึกหนักที่หัวไหล่เป็นอย่างมากจนต้องเงยหน้าหันไปหาเจ้าของมือนั้น

     

    "..หวะหวัดดี ไม่ได้เจอกันนานนะ คาราวาน"

    "อย่ามายุ่งกับเฟิร์ม ถ้าไม่อยากเจ็บตัวนะไอ้หนู"

     

    อะไอ้หนู หมายความว่าเจ้าร่างยักษ์นี่มันว่าเราตัวเล็กสินะ น่าโมโหจริงๆ พูดออกมาได้ว่าผมตัวเล็ก! เห็นอย่างนี้ผมก็สูงตั้งร้อยเจ็ดสิบแปดนะเฟ้ย! ถึงเวลาที่เทียบกับ คาราวาน คนยักษ์นี่แล้วผมจะสูงเลยไหล่มันแค่นิดเดียวก็เถอะ!

     

    ไม่อยากจะแนะนำเท่าไหร่ แต่สงสัยว่ามันคงเป็นหน้าที่ของพระเอกที่ต้องอธิบาย คาราวาน ชื่ออย่างกับขบวนรถ ไม่รู้เอามาตั้งเป็นชื่อคนได้ยังไง แน่ล่ะ! ไม่มีชื่อไหนจะเท่ไปกว่า ลีทัส อีกแล้ว ฮ่าๆ

     

    ชายหนุ่มร่างยักษ์รู้จักกันในชื่อ คาราวาน นักศึกษาปีสองเอกปรัชญาและศาสนา ด้วยร่างกายที่สูงเกือบสองเมตรและขนาดตัวใหญ่กว่าคนทั่วไปทำให้นักศึกษาไม่เว้นแม้แต่อาจารย์(บางคน)เป็นต้องเกรงกลัวกันทั้งสิ้น และสาเหตุหลักที่ไม่มีผู้ชายคนไหนกล้าเข้ามาจีบเฟิร์มเลยสักคนเดียว ใช่แล้ว! คุณเข้าใจไม่ผิดหรอก คาราวาน คือ แฟน ของเฟิร์ม และนางเอกของผมก็มีเจ้าของแล้ว!!

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×