คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่2 บ้านของคิมฮิมชาน
ร่างสูงของบังยงกุกทอดเท้าเดินไปตามทางเดินริมระเบียงของตึกศิปศาสตร์ อาจารย์จงฮยอนบอกว่านัดคิมฮิมชานให้เรียบร้อย นายนั่นกำลังรออยู่ที่ห้องบันทึกเสียงของคณะ เพราะวันนี้มีเวรทำความสะอาด คิมฮิมชานเลยต้องอยู่ทำเวรที่ห้องอัด
วันนี้จะเป็นวันแรกที่การติวหนังสือเพื่อเกรดที่ดีกว่านี้จะเริ่มขึ้น หากแต่บังยงกุกรู้สึกว่าไม่อยากจะให้คนๆนั้นเป็นคนติวให้เลยสักนิด ไม่อยากอยู่ใกล้ชิดกับคนๆนั้น รู้สึกกลัวเวลาต้องสบสายตาที่ด้านชาแต่แฝงด้วยความน่ากลัว
คิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนไนกี้คู่โปรดมาหยุดที่หน้าห้องอัด ถึงห้องอัดเสียงจะเป็นห้องที่เก็บเสียงได้พอตัว แต่ก็ยังไม่เก้บได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ยงกุกจึงได้ยินเสียงเพลงทำนองแบบป็อปผสมฮิพฮิอพดังลอดบานประตูออกมา เสียงซาวด์ที่ใช้ประกอบดูน่าขนลุกด้วยเสียงโทรศัพท์ดังกริ๊ง~ และเสียงคำรามของท้องฟ้าเหมือนฝนกำลังตกรุนแรง
แต่ที่สะดุดใจยงกุกมากที่สุดคือเสียงทุ้มแหบที่กำลังร้องคลอดนตรีนั้นอยู่ต่างหาก
“บ้าไปแล้วใช่ไหม เธอบ้าแล้วใช่ไหม ทำไมเธอต้องทำอย่างนี้บอกฉันที
ถอยไปให้ไกลฉัน ให้ไกลจากตัวฉัน หายออกไปให้พ้นจากสายตาเสียที”
เนื้อหาของเพลงดูคล้ายกำลังผลักไล่ไสส่งใครสักคนด้วยถ้อยคำที่น่ารังเกียจ ถ้อยคำที่ไร้เยื่อไย ช่างเหมาะกับใบหน้าเรียบเฉยของคิมฮิมชานเสียนี่กระไร
มือเรียวเปิดประตูห้องอัดเข้าไปแล้วก็พบว่าติวเตอร์จำเป็นของตนเองกำลังนั่งอยู่ที่หน้าเครื่องควบคุม มือเรียวขาวปรับนู่นนี่ กดปุ่มอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะเต็มไปหมด ก่อนจะเสียบยูเอสบีเพื่อคัดลอกไฟล์เพลงในเครื่องลง
“เพิ่งรู้ว่านายก็ร้องเพลงพอใช้ได้”ชายหนุ่มเปิดบทสนทนาเมื่อเห็นว่าคุณติวเตอร์ยังไม่ยอมละจากเครื่องควบคุมเสียที ชายหนุ่มร่างบางไม่ตอบอะไรกลับมา เมื่อคัดลอกเสร็จก็ปิดเครื่องและปิดไฟในห้องทันที ท่ามกลางความงงงุนของยงกุกที่ยืนพิงผนังห้องอยู่ ชายหนุ่มต้องรีบเดินออกจากห้องเมื่อร่างบางคิดจะล็อกห้องโดยที่เขายังอยู่ข้างใน
...คนบ้าอะไรเนี่ย คิดจะขังเขาจริงๆเหรอ...
คิดว่าจะเอ่ยต่อว่าเสียหน่อย ร่างบางของฮิมชานก็หมุนตัวเดินออกไปทันที เท้าเรียวบางในรองเท้าคัชชูคุ่สวยเดินลงบันไดไปอย่างไม่รอลูกศิษย์เลยสักนิด บังยงกุกสบถด้วยความไม่เข้าใจ
รู้อยู่ว่าคิมฮิมชานน่ะเฉยชา เคร่งขรึม แล้วโลกส่วนตัวสูง แต่นี่มันจะมากเกินไปหรือเปล่า ร่างสูงเดินเร็วๆไปให้ทันร่างบางก่อนจะกระชากแขนเรียวของคนที่กำลังเดินลงบันไดให้หยุด ปากกำลังจะเอ่ยต่อว่าแต่ก็ต้องชะงักค้างเมื่อดวงตาคู่เรียวรี่ของคิมฮิมชานหันมาสบกับตัวเอง นัยน์ตาสีดำสนิทจ้องมาราวกับจะทำถาม “อะไร”
วูบ~
เหมือนลมเย็นๆพัดผ่านร่างของบังยงกุกไป มือที่จับแขนเรียวไว้ค่อยคลายออก อยากเบือนหน้าหนีสายตานั้นที่จ้องมาแต่สิ่งที่ทำคือจ้องสายตากลับไปเท่านั้น
....ราวกับต้องมนต์ของปีศาจที่น่ากลัว....
“เราจะไปที่บ้านของฉันกัน บ้านฉันอยู่ไม่ไกล เดินไปแล้วแล้ว”นับเป็นประโยคแรกที่ร่างบางพูดกับเขา ก่อนที่ฮิมชานจะเดินลงบันไดต่อไม่สนใจคนที่กำลังนิ่งค้าง
แววตาของนาย...น่ากลัวจริงๆ คิมฮิมชาน
เดินผ่านสวนสาธารณะใกล้มหาลัยมาได้ไม่เท่าไหร่ร่างบางที่เดินนำก็เลี้ยวเข้าซอยย่านผู้ดีที่ยงกุกเคยเห็นว่ามีคนดังหลายๆคนอยู่ เป็นหมู่บ้านของดาราเลยก็ว่าได้ ทั้งคิมคิบอม หรือชเวซีวอนที่เป็นดาราดาวรุ่งตอนนี้ก็อาศัยอยู่ที่นี่ทั้งนั้น
ร่างบางไปหยุดหน้าบ้านหลังหนึ่ง ใหญ่โตพอสมควรเชียวล่ะ ละสายตาจากตัวบ้านมามองเจ้าของบ้านเห็นว่าฮิมชานเดินเข้าบ้านไปแล้ว ร่างสูงจึงรีบเดินตามเข้าไปทันที
บ้านหลังใหญ่แต่ดูเงียบและอึมครึมแปลกๆ มองหาทั่วบ้านก็ไม่เจอคนอื่นเลย ทั้งที่บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ก็น่าจะมีคนรับใช้สักคนหรือสองคน
“ไม่มีใครอยู่ ฉันอยู่กับน้องสองคน”เสียงทุ้มแหบไขข้อข้องใจราวกับรู้ว่าร่างสูงคิดอะไรอยู่ ยงกุกเผลอไปมองดวงตานั้นอีกแล้ว แล้วก็ต้องเสหลบเมื่อรู้สึกว่าขนแขนกำลังจะลุกชันขึ้น
“แล้วนายจะติวให้ฉันที่ไหนล่ะ”เอ่ยถามเมื่ออีกคนที่จะติวให้ดูไม่มีที่ท่าจะสนใจเขาเลย คนตัวเล็กกว่าเดินไปหยิบน้ำอัดลมในตู้เย็นมาเปิดแล้วส่งให้เท่านั้น
“นายอยากติวขนาดนั้นเชียว หรือว่าอยากกลับ ...”ฮิมชานถามคนที่ดื่มน้ำอัดลมอย่างตรงๆจนยงกุกสำลักน้ำแค่กๆ จะให้บอกหรือเปล่าล่ะว่าไม่อยากจะติวเลย จะให้บอกเหรอวะกลัวสายตาของร่างบาง
“เปล่า...เดี๋ยวมืด”แก้ตัวไปอย่างนั้นเอง สำหรับเขาที่ทำงานกลางคืนจะมากลัวอะไรกับตอนกลางคืนกลางค่ำ จงโจรไม่เคยกลัวหรอก
“ฉันจะไปเอาชีทสรุปบนห้อง รอแป๊บนึงแล้วกัน”ฮิมชานบอกก่อนเดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง ตอนนี้ทั้งบ้านชั้นล่างจึงเหลือเพียงเขาคนเดียว มองดูรอบๆแล้วยงกุกสังเกตได้ว่าบ้านนี้ไม่ค่อยมีรูปถ่ายเลย แม้แต่รูปครอบครัว แล้วที่ร่างบางบอกว่าอยู่กับน้องสองคนทำให้สงสัยว่าพ่อ-แม่ของฮิมชานไปไหน...หรือจะทำงานอยู่ที่อื่น
ผ่านไปราวยี่สิบนาทีก็ยังไม่มีวีแววว่าร่างบางของคิมฮิมชานจะลงมาจากชั้นบน บังยงกุกถือวิสาสะไปชะโงกมองตรงบันไดก็ไม่เห็นหรือได้ยินเสียงอะไรที่ผิดปรกติเลยสักนิด
...หรือว่าหมอนั่นก็ไม่อยากจะติวให้เขากันนะ...
คิดแบบนั้นแล้วอดหงุดหงิดใจไม่ได้ ให้เขามานั่งคอยทำไมกัน บอกว่าไม่อยากติวแต่แรกก็สิ้นเรื่อง ขาเรียวจะเดินไปหยิบกระเป๋าเป้เพื่อจะกลับบ้านกลับสะดุดชะงักเมื่อได้ยินเสียผะแผ่วจากชั้นสอง
“ฮื่อ...”
ถ้าไม่เข้าใจผิดไป...นั่นมันเสียงครางหรือเปล่า เสียงครางแหบๆแบบนั้น...
คล้ายเสียงของนายเลยนะ
“คิมฮิมชาน!”
ทีบีซี.
ดำเนินเรื่องเอื่ยๆไปเรื่อยๆ พล็อตวางมาแบบสั้นๆค่ะ แค่วางว่าตัวละครเป็นยังไงเท่านั้นเอง แล้วก็แตงสดอย่างไร้จุดหมาย จะได้ไปต่อหรือตกรอบก็ยากจะหยั่งรู้ ฮ่าๆๆ
แล้วเสียงใครก็แน่ ใช่ของฮิมจริงหรือเปล่า ติดตามด้วยค่ะ ;)
ความคิดเห็น