ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตำนานของ 1047
No.1074 Canine Fang พันธุ์โหดเขี้ยวอำมหิต
ตอนที่ 2 : ตำนานของ 1047
    ไอล์รับถ้วยนมอุ่นใหม่จากรูมเมท... ภาพเด็กสาวที่ตกลงมาตายกับขนสีขาวยังติดตา แต่ก็ทำใจได้แล้ว เพื่อนร่วมห้องถึงจะเป็นคนแปลกๆสำรวจศพเละๆได้ไม่สะทกสะท้านแต่ก็มีน้ำใจ ที่สำคัญเขาคิดว่าสามารถอยู่อย่างสงบกับเจค เพื่อนใหม่คนนี้ได้เพราะเจคมองออกตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นว่าเขาไม่ใช่ผู้หญิง... ความประทับใจครั้งแรกมีผลต่อความสัมพันธ์มาก
    “ถ้าจะหนีออกจากที่นี่ก่อนได้รับอนุญาตผู้คุมมีสิทธิ์ยิงนาย  แต่ถ้านายทำตัวเป็นเด็กดีอยู่ในโอวาทผู้คุมก็ไม่ใช่ปัญหา... ต้องระวังเพื่อนร่วมหอให้ดี ทั้งชายและหญิง ผู้หญิงบางคนอาจจะร้ายกว่าที่เห็นภายนอกก็ได้ คนที่ถูกส่งมานี่ส่วนใหญ่มีประวัติเรื่องการใช้ความรุนแรง”
    บอกว่าที่นี่เป็นสถานกักกันเยาวชน แต่ห้องนี้ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์อย่างกับโรงแรมชั้นหนึ่ง... มีตู้เย็น เครื่องซักผ้า เคาน์เตอร์ทำครัวเสริมซิ้งก์ล้างจาน โทรทัศน์ 40 นิ้ว โซฟา โคมไฟตั้งพื้น โต๊ะทานอาหาร ห้องสุขาแยกจากห้องอาบน้ำ ห้องอาบน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่นน้ำเย็น พรมหนังเสือยังมี!! ตอนเดินผ่านๆเห็นมีบางห้องเปิดประตูรับลมไว้ยังไม่เห็นมีของพวกนี้ ห้องของเจคดีทุกอย่างเสียอย่างเดียวอยู่ชั้น 6 ไกลบันได
    เหมือนจะรู้ว่าใจของไอล์คิดอะไร เจคก็เลยอธิบาย
    “ขอให้มีเงินจะซื้ออะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละถ้าไม่ใช่ของผิดกฎหมาย ตอนวันอาทิตย์ไปข้างนอกได้แต่ต้องมีผู้คุมติดไปด้วย ถ้าเป็นของที่เคลื่อนที่ได้ก็เอากลับมาได้เลย แต่ถ้าแปลนห้องใหม่อย่างพวกกำแพง หน้าต่าง ประตู หรือเคาน์เตอร์นั่น ต้องขอกับผู้คุมถึงก่อนถึงจะจัดการได้”
    “นายเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะ เป็นลูกเศรษฐีเหรอ?”
    “...เปล่า... ฉันเป็นเด็กที่โตจากข้างถนนในชิคาโก โดนส่งมาที่นี่ในข้อหาแทงโสเภณีคนนึงตาย”
    แทงคนตาย?! ไอล์หน้าซีดเผือดไม่ใช่เพราะตกใจเรื่องที่เจคเล่า แต่ตกใจตัวเองเลือดที่พุ่งเป็นสายน้ำพุจากคนที่เขากรีดคอกลับมาหลอน ทำไมตอนนั้นเขาถึงฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็นนัก แล้วเขาก็ยังไม่นึกทุกข์ร้อนใจลืมมันไปจนบัดนี้
    “ส่วนเงินน่ะ ถ้าทำงานก็ได้เงิน จะได้มากเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับงานนะว่ายากง่ายแค่ไหน” เปรี้ยง!! เสียงปืนดังคั่นบทสนทนา “พูดเรื่องงานก็มีงานเข้าเลย ฉันไปนะต้องทำงานแล้ว”
    เสียงปืนดังมาจากห้องข้างๆนี่เอง ไอล์ขอตามไปด้วย มีเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันในมืดถืดมีดสั้นอยู่นอนร้องโอดโอยพลางบีบหัวไหล่ตัวเองแน่นไม่ให้เลือดไหลมาก คนยิงเป็นหนึ่งในผู้ดูแลหอพัก เธอเป็นผู้หญิงสวมเสื้อกล้ามทับด้วยแจ็คเก็ตหนังสีดำ ใส่มินิสเกิร์ตสีดำสั้นเน้นส่วนสะโพก
    “เจค เธอพาเขาไปตึกแพทย์ทีนะ” เธอพูด เจคยึดมีดเพื่อนร่วมหอแล้วเหวี่ยงไปให้ผู้ดูแล เธอจับด้ามมีดแม่นยำราวกับจับวาง
    ไอล์ห่วงเพื่อนที่เพิ่งรู้จักกัน เพราะเขามีเพื่อนในนี้แค่คนเดียว... ขอตามไปจนถึงหน้าห้องผ่าตัด ก็มีนายแพทย์สองคนรับช่วงต่อ
    “งานฉันก็จัดการกับพวกที่คิดจะหนีจากที่นี่โดยการจับตัวประกันหรือไม่ก็ทำร้ายผู้คุม ถ้าไม่ตายก็พามานี่ ถ้าตายก็... หากมีญาติฉันก็ต้องเขียนจดหมายแจ้งให้ทางบ้านรู้ หากไร้ญาติขาดมิตรฉันก็ทำหน้าที่เป็นสัปเหร่อไปเลย ขุดหลุมฝังที่สุสานด้านหลังหอพักนี่แหละ เด็กที่ตายเมื่อวานฉันก็เป็นคนเอาไปฝังเอง”
    เขาเข้ามาอยู่ในโลกพิสดารซะแล้ว... หรือว่าเขายังไม่ตื่นจากฝันกันนะ... ไอล์ห่วงสวัสดิภาพของตัวเอง เขาจะรอดชีวิตจนถูกปล่อยตัวรึเปล่า?
    “คนทำหน้าที่นี้มีนายคนเดียวเหรอ?”
    “อือ”
    “แล้วถ้ามีคนถูกผู้คุมยิงตายทีละมากๆนายจะขนไปยังไงล่ะ” เคยดูข่าวนักโทษร่วมมือกันแหกคุก ร่วมมือกันเป็นร้อยๆคนแต่ถูกผู้คุมยิงตายเรียบ ศพเกลื่อน
    “ไม่มีหรอก อย่างมากก็วันนึงไม่เกินสองคน คนที่นี่ไม่ไว้ใจใคร ไม่มีใครร่วมมือกับใครหรอก”
    ไม่มีใครไว้ใจใคร? แล้วคนตรงหน้านี่ไว้ใจเขารึเปล่า?
    เหตุผลที่ให้เขาเป็นรูมเมททั้งที่มีห้องว่างเหลือล่ะ... แล้วเขาจะไว้ใจเจคได้มั้ย?
    “ หมดธุระที่นี่แล้วก็กลับหอเถอะ” ไม่มีประโยชน์ที่จะมานั่งวิเคราะห์คนเพิ่งรู้จักกัน ระยะทางพิสูจน์ม้า เวลาพิสูจน์คน
    “เที่ยงตรงมีงานถ่ายแบบที่ย่านไทม์สแควร์”
    “แคนเซิ่ล”
    “บ่ายสองโมงมีนัดสัมภาษณ์ที่ลาควินต้า”
    “แคนเซิ่ล”
    “6 โมงเย็นมีนัดทานอาหารกับผู้จัดการบริษัทโกลด์แฟร์”
    “แคนเซิ่ล”
    “นี่จะแคนเซิ่ลทุกงานเลยเหรอเออร์วิน!!” ผู้จัดการส่วนตัวบ่นมาตามสาย
    “ถ้าผมยังหาลูกผมไม่เจอไม่รับงาน!!!” เออร์วินกระแทกเสียงใส่หูโทรศัพท์
    ลูก?... เมียยังไม่มี แล้วไปมีลูกตั้งแต่เมื่อไหร่... นักข่าวรู้เข้าคงได้ขายข่าวฉาวกันเพลิน... เออร์วิน ครอฟอร์ด นายแบบชื่อดังแอบมีลูกลับๆ
    กริ๊------ง ออดหน้าบ้านดัง เออร์วินวางหูโทรศัพท์แล้วเดินไปหน้าบ้าน บุรุษไปรษณีย์นำจดหมายมาส่งให้ เป็นจดหมายที่สั้นมาก
   
    -เรียนคุณเออร์วิน ครอฟอร์ด-
    ขณะนี้บุตรบุญธรรมของคุณอยู่ในความดูแลของ 1047 จึงเรียนมาเพื่อทราบ
    “1047!!!” เป็นการล้อเล่นที่ไม่ตลกเลย เพราะคนที่ถูกส่งไปที่ 1047 เป็นนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ทั้งนั้น
    “เครื่องคอมพิวเตอร์บนโต๊ะนายจะใช้ก็ได้นะ ใช้อินเทอร์เน็ตไม่ได้ แต่ถ้าเป็นอินทราเน็ตใช้ได้” เจคเห็นนั่งๆนอนๆทั้งวันเพื่อนคงเซ็ง
    “มีข้อมูลของคนที่นี่เก็บไว้มั้ย?” ยังแคลงใจเรื่องเด็กสาวที่ตกมาจากดาดฟ้า มาตายต่อหน้าอยากลืมก็ลืมไม่ลง มั่นใจอยู่อย่างคือเธอไม่ได้กระโดดลงมาเองแน่ๆ
    “ถ้าอยากหาข้อมูลของเด็กผู้หญิงที่ตกตึกตายล่ะก็ คลิ้กที่ไอค่อน Profile มุมซ้ายบนน่ะ  เซิร์ชหาชื่อ ซาร่าห์ มอร์แกน”
    ดูเหมือนเจคจะรู้ใจเขาไปซะทุกเรื่อง... ไอล์เปิดคอมพิวเตอร์แล้วทำตามที่เจคบอก
    ซาร่าห์ มอร์แกน เพศหญิง อายุ 16 ปี
    ความผิด : ค้าปืนเถื่อน และรับสั่งทำวัตถุระเบิดโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
    มีรูปภาพครึ่งตัวของซาร่าห์มอร์แกนแสดงทางด้านซ้ายมือของหน้าจอ เธอเป็นเด็กสาวที่ดูใสซื่อ เห็นแล้วให้บรรยากาศที่ชวนคิดไปว่าเธอก็เป็นแพะเหมือนเขา ข้อมูลที่เปิดเผยได้โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่านมีเพียงแค่นี้ ไอล์เปิดข้อมูลของตัวเองดูบ้าง
    ???
    ??? หมายความว่ายังไม่ได้ใส่ข้อมูลกระมัง ไอล์ปิดเครื่อง
   
    “จะอาบน้ำก่อนรึเปล่าไอล์” เจคถาม
    “นายจะอาบก็อาบไปก่อนเถอะ” ไอล์ยกแขนตัวเองขึ้นมอง ไม่อยากแกะผ้าพันแผลที่เจคขอให้ใหม่จากห้องพยาบาลเมื่อวานนี้เลย มองแขนตัวเองทีไรก็เห็นว่ามันอัปลักษณ์จนต้องเบนสายตาทุกครั้งไป
    “ถ้านายเซ็งมาก เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จฉันจะเล่าเรื่องที่น่าสนใจให้ฟัง” เจคพาดผ้าเช็ดตัวขึ้นบ่าแล้วเดินตรงไปที่ห้องอาบน้ำ “เรื่องตำนานของ 1047”
    “ตำนานของ 1047?” ที่นี่เก่าแก่ขนาดมีตำนานด้วยรึ
    เจคไดร์ผมเสร็จก็เริ่มต้นเล่าเรื่องด้วยสีหน้าจริงจัง “ที่ 1047 ประมาณเมื่อสิบกว่าปีก่อนเคยเป็นสุสานเก่า”
    สุสาน... ไอหูผึ่ง ตำนานเกี่ยวกับสุสานก็ต้องเป็น... เรื่องผี วิญญาณ หรือเรื่องเขย่าขวัญ เขาชอบพวกหนังหรือนิยายแนวนี้ซะด้วยสิ แต่เปิดดู เปิดอ่านทีไรพ่อบังคับให้ปิดโทรทัศน์ ปิดหนังสือทุกที
    “เริ่มสนแล้วสิ”
    “เล่าต่อสิ เล่าต่อ” ไอล์แสดงความเป็นเด็กให้เห็น ทำให้อีกฝ่ายหัวเราะได้เล็กน้อย
    เจคเล่าต่อไป
    สิบกว่าปี ที่ไม่รู้ว่ากว่าเท่าไหร่แน่เพราะตำนานนั้นหาแหล่งอ้างอิงได้ยากเสมอ สถานที่แห่งนี้เคยเป็นสุสานเก่า มีผู้ดูแลซึ่งเป็นบาทหลวงชราเพียงคนเดียว ท่านชรามากแล้วไม่มีเรี่ยวแรงจะดูแลสุสานได้ทั่วถึงที่นี่จึงกลายเป็นที่รกชัฏ ถ้าเกิดอะไรขึ้นที่สุสานนี้ก็ไม่มีใครล่วงรู้ สุสานแห่งนี้กลายเป็นที่ทิ้งขยะมีชีวิต เช่น แมว สุนัข และสารพัดสัตว์ที่เจ้าของไม่ต้องการแล้ว ด้วยความที่ท่านเป็นคนรักสัตว์จึงได้รับเลี้ยงสัตว์เหล่านั้น และเอ็นดูพวกมันเฉกเช่นลูกหลาน
    ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเรียบง่าย... จนกระทั่งวันหนึ่งมีเศรษฐีนายหนึ่งต้องการที่ดินของสุสานนี้ ท่านบาทหลวงได้ปฏิเสธไปอย่างนิ่มนวล เศรษฐีผู้นั้นกลับไป... แต่เรื่องไม่ได้จบแค่นั้น หลังจากนั้นไม่นานมีคริสต์ศาสนิกชนคนหนึ่งมาติดต่อเรื่องการฝังศพของภรรยา เขาไปหาท่านบาทหลวงในโบสถ์แต่ไม่พบจึงไปที่สุสาน ที่นั่นเขาพบศพของท่านบาทหลวงถูกแทงตาย สภาพศพมีคราบเลือดและน้ำหนองแห้งกรัง มีร่องรอยบวมช้ำกับการต่อสู้หลายแห่ง หนอนไชชอนตามเนื้อหนัง และศพอีกหนึ่งศพคือเศรษฐีที่มาติดต่อเรื่องการค้าที่ดิน
    รอยข่วน รอยกัด ของสุนัขและแมว รอยจิกของนกมีอยู่เต็มตัว จมูกยุบลงไปเป็นรอยบุ๋มกลมขนาดใหญ่ ศรีษะด้านหลังก็มีอีกรอยหนึ่ง รายงานการชันสูตรศพ รอยบุ๋มนั่นคือรอยเขี้ยวด้านบนของสัตว์ประเภทสุนัข     แต่สุนัขขนาดใหญ่ขนาดนั้น... ขนาดตัวของมันต้องใหญ่กว่าหมีเสียด้วยซ้ำ
    แต่ในระหว่างที่ตำรวจดำเนินการได้มีหญิงสาวคนหนึ่งกล่าวอ้างว่าเห็นหมาป่าเผือกตัวใหญ่ยักษ์ในสุสานแห่งนี้ แต่ตำรวจทำการตรวจค้นทุกซอกทุกมุมแล้วไม่พบอะไรเลย
    ...คดีนี้ปิดไม่ได้จนจบอายุความ...
    และสุสานนี้ถูกปิดตาย จนรัฐบาลได้เข้ามาทำการรื้อสุสานและสร้างสถานกักกันเยาวชน 1047 ขึ้นมา
    แต่หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องร้ายขึ้นมาอีก... ผู้ดำเนินการก่อสร้างอาคารของ 1047 หลายราย ตายอย่างลึกลับในสภาพที่มีรอยกัดใหญ่ลึกแบบเดียวกับคดีแรก ทุกครั้งที่จะมีเส้นขนสีขาวในสถานที่เกิดเหตุเสมอ... มันอาจจะเป็นเส้นขนของหมาป่าเผือกที่พยานในคดีแรกเล่าก็ได้ แต่ไม่เคยมีใครหามันพบ
    หมาป่าเผือก?
    หมาป่าเผือก... ก็ต้องมีขนสีขาวล้วน... เส้นขนในมือของซาร่าห์ มอร์แกน... ถ้าเป็นขนสัตว์ ความยาวขนาดนั้น ตัวมันก็ต้องใหญ่มากทีเดียว... รอยกัด... ตอนที่เข้าไปดูศพของซาร่าห์ มีรอยที่ว่านั่นรึเปล่านะ ไอล์นึกไม่ออกเพราะตอนนั้นมัวแต่สนใจขนสีขาวนั่นอย่างเดียว
    “เจค ตอนที่นายดูศพของซาร่าห์ มีรอยกัดที่ตัวเธอมั้ย?” ไอล์เล่าให้ฟังเรื่องขนสีขาวในมือศพของซาร่าห์ มอร์แกนให้เพื่อนฟัง
    “คงเป็นด้ายที่ติดมาจากงานทอผ้ามั้ง?”
    “แต่... นายไม่คิดว่ามันเหมือนกับเรื่องที่นายเล่าเหรอ?”
    เจคหัวเราะจนตัวงอ “นี่นายคิดว่าเรื่องที่ฉันเล่าเป็นเรื่องจริงเหรอ? ฮะๆๆๆๆๆๆ โอ๊ย ขำ ที่ฉันเล่าน่ะดัดแปลงมาจากหนังเขย่าขวัญที่ฉันดูเมื่อวานซืน”
    โดนหลอก!!! ไอล์เริ่มรู้นิสัยเพื่อนแล้ว.. ต่อจากนี้ไปเขาจะตั้งฉายาให้มันว่า ‘ไอ้ตัวแสบ’
    เจคหลอกเพื่อนสำเร็จ
    ไอล์ไม่เลิกคิด เขาเติบโตมาในชนบทที่เต็มไปด้วยสัตว์ และโรงงานทอผ้า ระหว่างเส้นด้ายกับขนสัตว์ทำไมเขาจะแยกไม่ออก เรื่องที่เจคเล่า ถึงจะไม่มากแต่ก็อาจมีมูลความจริง
    “บอกว่าเรื่องที่เล่าฉันแต่งเองก็แต่งเองสิ 1047 ถูกสร้างในอุโมงค์ใต้ดินจะไปเคยเป็นสุสานเก่าตอนไหน”
    “อุโมงค์ใต้ดิน?!!... แต่มีแสงส่องลงมานะ”
    “แต่ไม่มีดวงอาทิตย์” เจคโต้กลับ ความรู้สึกช้าจริงรูมเมทเขา ท้องฟ้าและแสงอาทิตย์เทียมของ 1047 ทำได้สมจริงแต่ถ้าช่างสังเกตสักหน่อยก็น่าจะรู้ว่าดวงอาทิตย์น่ะมีซะที่ไหน
    เจครู้ใจเขาไปหมด ยังไม่ทันถามก็ชิงตอบก่อนทุกที ไอล์สงสัยว่าหน้าเขามันฟ้องตลอดเวลาเลยหรือไงว่ากำลังคิดอะไร
    “ใช่เลย หน้านายน่ะดูง่ายมากๆ” ไม่มีหน้ากากซะเลย ไม่ได้โตมาในตัวเมืองชัวร์
    ตำนานจริงของ 1047 เขาไม่เล่าดีกว่า เดี๋ยวเด็กใหม่จะขวัญหนีดีฝ่อจนสติแตกไปซะก่อน ถือเป็นความปราณีจากรุ่นพี่ที่อยากให้รุ่นน้องอยู่รอดปลอดภัย และสามารถกลับบ้านได้อย่างครบสามสิบสอง
    “ไอล์ ส่งแขนมา” เจคหยิบขวดทีมีน้ำเต็ม ปากคีบ กับผ้าผืนเล็กและห่อสำลีที่วางรวมๆไว้บนเคาน์เตอร์ แล้วลากเก้าอี้เข้ามานั่งด้านหน้าไอล์ที่นั่งแกว่งขาอยู่ด้านข้างของเตียงนอน
    ไอล์ส่งแขนซ้ายให้
    “แขนขวาสิ” เจคดุ
    ไอล์ส่งแขนขวาให้อย่างไม่เต็มใจ มันเป็นเพื่อนหรือพ่อเขา?!
    เจคค่อยๆแกะผ้าพันแผลให้ช้าๆ ผ้าติดแผลหลายจุดทำให้แกะค่อนข้างยาก ยิ่งเป็นแผลที่ติดเชื้อง่ายยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ เมื่อแกะผ้าพันแผลเสร็จแล้วก็ใช้ปากคีบ คีบสำลีจุ่มยาฆ่าเชื้อทาแผลให้
    “...เสร็จแล้ว” พันผ้าพันแผลอันใหม่ให้เรียบร้อย
    เห็นแขนเขาแล้วไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยรึไง... ไอล์นึกขึ้นมาได้ว่าตอนศพซาร่าห์เละกว่านี้ยังเฉย แค่นี้เด็กๆ เจคมองหน้าไอล์นานจนคนถูกมองรู้สึกแปลกๆ เจคนึกถึงคำสั่งของหัวหน้าผู้คุม ให้ดูแลไอล์ เจฟเฟอร์สันอย่างดีที่สุด ปกติไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ลงมาสักครั้งตั้งแต่อยู่ที่นี่มา เหมือนกับว่าไอล์ไม่ใช่ผู้ต้องโทษยังไงยังงั้น
    ห้องทำงานหัวหน้าผู้คุม
    เออร์วิน ครอฟอร์ดขอเข้าพบหัวหน้าผู้คุมสถานกักกันเยาวชน 1047 เป็นการส่วนตัว และได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ ไม่มีการทักทาย ไม่มีการแนะนำตัว
    “ฉันมาเอาไอล์กลับ”
    “แต่”
    “ไม่รู้ล่ะ พาไอล์มาหาฉันเดี๋ยวนี้”
    “แต่”
    “ไม่ต้องแต่ นายก็รู้ว่าเด็กคนนั้นไม่ได้ทำผิดอย่างที่กล่าวหา”
    “ฟังกันบ้างสิโว้ย” พูดแล้วไม่ฟังเลย อิริคใช้พลังช้างสารคว่ำโต๊ะทำงาน คนดื้อด้านเงียบสนิท
    “...ฟังก็ได้” เสียงเบาจนแทบเป็นเสียงกระซิบ เพื่อนเก่าเราถึกขึ้นเยอะนะ สมัยเรียนด้วยกันมันยังเป็นเด็กขี้กลัวอยู่เลย เขาเชื่อแล้วว่าเวลาเปลี่ยนคนได้
    “ฉันรู้ว่าไอล์ไม่ได้ทำผิดอย่างที่กล่าวหา ไม่ได้ลงชื่อเขาในแฟ้มทะเบียนด้วย แต่ที่นี่ปลอดภัยกว่าข้างนอก”
    “หมายความว่าไง?”
    “เพราะไอล์ฟื้นขึ้นมาแล้ว พินัยกรรมของโจนาธานฉบับที่สองเริ่มมีผล ผู้หญิงโลภมากอย่างโจลีนต้องวางแผนฆ่าลูกบุญธรรมนายแน่ เพราะถ้าไม่มีไอล์สมบัติทุกอย่างในพินัยกรรมจะตกเป็นของหล่อน” อิริครู้เพราะเขาเป็นคนหนึ่งที่ลงนามในพินัยกรรมด้วยฐานะพยานคนหนึ่ง
    “สมบัติ โจนาธานมีสมบัติอะไร?” เห็นใช้ชีวิตอย่างชาวไร่ไปวันๆ จะหาสมบัติมาจากไหนมากมาย
    “บัญชีเงินฝากห้าหมื่นล้านดอลลาร์ พินัยกรรมระบุว่าให้นายเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินจนกว่าไอล์จะบรรลุนิติภาวะ แต่ถ้าไอล์เสียชีวิตก่อนบรรลุนิติภาวะ ทรัพย์สินทั้งหมดจะตกเป็นของโจลีน”
    “แต่โจนาธานกับโจลีนหย่ากันแล้ว” ไม่น่าเป็นไปได้ที่โจลีนยังมีสิทธิ์ ยกเว้นแต่ว่า... การหย่าถูกเลื่อนกำหนดโดยที่เขาไม่รู้เห็น และโจนาธานเสียชีวิตก่อนที่หย่าร้างกันอย่างเป็นทางการ
    “อย่างที่นายคิด โจลีนยังไม่ได้หย่ากับโจนาธานอย่างเป็นทางการ และเธอมีสิทธิ์ในพินัยกรรม”
    “ที่นี่ก็อันตรายพอกันนั่นแหละ” หนีโจลีนมาที่ 1047 หนีเสือประจระเข้ชัดๆ
    “ถ้ามีเจคอยู่ข้างๆ ไอล์จะปลอดภัย” อิริคมั่นใจ เขาสั่งให้ผู้คุ้มครองมือดีที่สุดคอยตามประกบตลอดแล้ว ตราบใดที่ยังมีอดีตนักฆ่าอาชีพผู้มีทั้งชื่อเสียงและชื่อเสียฉาวโฉ่ระคนกันอยู่ข้างกายไม่มีใครที่นี่ทำอันตรายไอล์ได้
    “เจค นักฆ่าในตำนานอาชญากรรมลือชื่อของชิคาโกน่ะเหรอ?!! อยู่กับคนแบบนั้นจะปลอดภัยได้ไง!!!” นอกจากหนีเสือประจระเข้ ยังมีสิงโตข้างตัว... สิงโตมันไม่เชื่องเหมือนแมวนะ
    “แต่นายไม่ว่างตามประกอบไอล์ 24 ชั่วโมงไม่ใช่รึ พ่อนายแบบชื่อดัง”
    “ฉันพักงานได้”
    “แล้วระหว่างที่พักงาน นายจะเอาเงินจากไหนมาใช้จ่าย หรือคิดจะใช้เงินที่โจนาธานทิ้งไว้ให้”
    เถียงไม่ขึ้น เขาไม่ทำเรื่องที่ทรยศต่อความไว้วางใจของโจนาธานที่ให้เขาเป็นผู้ปกครองของไอล์หรอก เงินของไอล์เขาจะไม่แตะแม้แต่เซนต์เดียว
    “ฉันไว้ใจเจค”
    แต่ฉันไม่ไว้ใจ เออร์วินคิด แต่ไม่รู้จะเถียงไปให้ได้อะไรขึ้นมา เพราะถ้าผู้คุมไม่อนุญาต แล้วเขาพาไอล์ออกไป เขาก็ได้กลายเป็นอาชญากรเหมือนกัน ผลสุดท้ายก็ต้องให้ทางนี้เป็นคนดูแลไอล์อยู่ดี
    กลุ้ม ใครจะไว้ใจไอ้บ้าที่รับจ้างฆ่าคนด้วยความสนุกได้ลง... เขาคงต้องฝันร้ายไปจนกว่าไอล์จะบรรลุนิติภาวะ...
    ตำนานที่เป็นที่รู้จักกันในวงกว้างกว่าตำนานของ 1047... ตำนานของนักฆ่าในเมืองแห่งความภาคภูมิใจในอาชศิลป์ มือมีดข้างถนนที่รับจ้างฆ่าคนไม่ว่าลูกเล็กเด็กแดง แต่มันไม่ได้ทำเพื่อเงิน เพราะนักฆ่าที่ทำเพื่อเงินจะฆ่าเหยื่อให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่เจคฆ่าเหยื่อให้ตายช้าที่สุดเพื่อความสะใจ ถ้าเจ้าอิริคมันฝึกสิงโตคลั่งให้เชื่องได้ขอเคารพมันเป็นพระเจ้าหมายเลขสองเลย
    ในตู้เย็นห้องพักหมายเลข 610 อาหารนอกจากไข่ไก่แล้วมีแต่อาหารสำเร็จรูปเต็มตู้เย็น ไม่ขาดสารอาหารแย่เรอะ ไอล์มองดูเจ้าของห้องตัวจริงแล้วส่ายศรีษะ มีเคาน์เตอร์ทำครัวกับเตาแก๊สไว้ทำอะไร หรือไว้ทอดไข่อย่างเดียว
    “ของสดๆน่ะไม่มีเลยเหรอ?” ไอล์ถาม
    “ถ้านายอยากกิน ที่ตึกฝึกงานมีขาย แต่สดน่ะมันสดจริงๆนะนายต้องทำเองหมดเลย”
    “...ฉันทำอาหารเป็น” เคยช่วยแม่ทำบ่อยๆ
    ไอล์ทำท่าจะเดินออกไป แต่ก็ชะงัก แล้วกลับไปค้นตู้เย็นต่อ
    “อ้าว ไม่ไปแล้วเรอะ หรือว่าขี้เกียจทำ?” ถ้าไอล์ไปเขาก็ต้องตามไปด้วย แต่ถ้าไอล์ไม่ไปเขาก็อยู่เฝ้าห้องต่อ
    “...ไม่มีเงิน” ไอล์ทำหน้าเจื่อน ลืมไปว่าไม่มีเงินติดตัวสักเซนต์
    “ยืมฉันก่อนก็ได้ เดี๋ยวมีแล้วค่อยใช้” บอกให้ดูแลอย่างดีที่สุดก็ต้องรวมถึงอาหารการกินด้วย
    ไอล์ซื้อปลามาตัวนึง กะกินแค่ปลาทอด ไม่ชอบกินอาหารสำเร็จรูป แต่ยืมเงินคนอื่นไม่อยากยืมทีละมากๆ เดี๋ยวเป็นหนี้ท่วมหัวโดยไม่รู้ตัว ไม่รู้เจ้าเจคจะคิดดอกเบี้ยรึเปล่าด้วย
    เขียง มีด พร้อม... ไอล์ข้องใจว่าในเมื่อเจคทำอาหารไม่เป็นทำไมในครัวมีอุปกรณ์ทำอาหารครบครัน... คงมีเพื่อนที่ทำอาหารเป็นมาทำให้มั้ง ไอล์สรุปเอาเอง
    ไอล์วางปลาลงบนเขียง มันดิ้นพราด ดีดหางสะเปะสะปะ ดิ้นไปมาจนตกเขียง... ไอล์ยกเขียงทุบหัวมันแบะ
    ...ทารุณสัตว์... เจคดูขั้นตอนการทำอาหารแล้วนึกถึงสมัยที่เขาเป็นนักฆ่าได้เลย
    “ขั้นตอนการทำปลาทอด... ถ้าเป็นปลาจำพวกที่ตรงกลางเนื้อกลวง ให้ทุบหัวมันให้ตายคาที่ ตัดหัวออกแล้วขอดเกล็ดให้หมด ใช้มือล้วงไส้ในออกมาให้เกลี้ยง แล้วนำไปทอดให้สุกทีละด้านโดยใช้ไฟปานกลาง” แน่ะ มาสอนวิธีทำอาหารเขาอีก ไม่ต้องห่วงว่าเขาจะขาดสารอาหารขนาดนั้นก็ได้ ท้องมันรับจนชินแล้วพวกของสำเร็จรูปเนี่ย สาธิตไปทำไป แต่ วิธีฆาตกรรมปลาน่าจะเอาไปใช้กับคนได้ เจคคิด... ปลาทอด กับ คนทอด แล้วถ้าเขาจะทำคนทอดด้วยสูตรเดียวกันนี่จะหากระทะที่ใหญ่พอได้มั้ยนะ
- โปรดติดตามตอนต่อไป -
ถ้าอ่านแล้วถูกใจสักนิด โปรดคอมเม้นท์ด้วยนะ
ตอนที่ 2 : ตำนานของ 1047
    ไอล์รับถ้วยนมอุ่นใหม่จากรูมเมท... ภาพเด็กสาวที่ตกลงมาตายกับขนสีขาวยังติดตา แต่ก็ทำใจได้แล้ว เพื่อนร่วมห้องถึงจะเป็นคนแปลกๆสำรวจศพเละๆได้ไม่สะทกสะท้านแต่ก็มีน้ำใจ ที่สำคัญเขาคิดว่าสามารถอยู่อย่างสงบกับเจค เพื่อนใหม่คนนี้ได้เพราะเจคมองออกตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นว่าเขาไม่ใช่ผู้หญิง... ความประทับใจครั้งแรกมีผลต่อความสัมพันธ์มาก
    “ถ้าจะหนีออกจากที่นี่ก่อนได้รับอนุญาตผู้คุมมีสิทธิ์ยิงนาย  แต่ถ้านายทำตัวเป็นเด็กดีอยู่ในโอวาทผู้คุมก็ไม่ใช่ปัญหา... ต้องระวังเพื่อนร่วมหอให้ดี ทั้งชายและหญิง ผู้หญิงบางคนอาจจะร้ายกว่าที่เห็นภายนอกก็ได้ คนที่ถูกส่งมานี่ส่วนใหญ่มีประวัติเรื่องการใช้ความรุนแรง”
    บอกว่าที่นี่เป็นสถานกักกันเยาวชน แต่ห้องนี้ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์อย่างกับโรงแรมชั้นหนึ่ง... มีตู้เย็น เครื่องซักผ้า เคาน์เตอร์ทำครัวเสริมซิ้งก์ล้างจาน โทรทัศน์ 40 นิ้ว โซฟา โคมไฟตั้งพื้น โต๊ะทานอาหาร ห้องสุขาแยกจากห้องอาบน้ำ ห้องอาบน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่นน้ำเย็น พรมหนังเสือยังมี!! ตอนเดินผ่านๆเห็นมีบางห้องเปิดประตูรับลมไว้ยังไม่เห็นมีของพวกนี้ ห้องของเจคดีทุกอย่างเสียอย่างเดียวอยู่ชั้น 6 ไกลบันได
    เหมือนจะรู้ว่าใจของไอล์คิดอะไร เจคก็เลยอธิบาย
    “ขอให้มีเงินจะซื้ออะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละถ้าไม่ใช่ของผิดกฎหมาย ตอนวันอาทิตย์ไปข้างนอกได้แต่ต้องมีผู้คุมติดไปด้วย ถ้าเป็นของที่เคลื่อนที่ได้ก็เอากลับมาได้เลย แต่ถ้าแปลนห้องใหม่อย่างพวกกำแพง หน้าต่าง ประตู หรือเคาน์เตอร์นั่น ต้องขอกับผู้คุมถึงก่อนถึงจะจัดการได้”
    “นายเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะ เป็นลูกเศรษฐีเหรอ?”
    “...เปล่า... ฉันเป็นเด็กที่โตจากข้างถนนในชิคาโก โดนส่งมาที่นี่ในข้อหาแทงโสเภณีคนนึงตาย”
    แทงคนตาย?! ไอล์หน้าซีดเผือดไม่ใช่เพราะตกใจเรื่องที่เจคเล่า แต่ตกใจตัวเองเลือดที่พุ่งเป็นสายน้ำพุจากคนที่เขากรีดคอกลับมาหลอน ทำไมตอนนั้นเขาถึงฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็นนัก แล้วเขาก็ยังไม่นึกทุกข์ร้อนใจลืมมันไปจนบัดนี้
    “ส่วนเงินน่ะ ถ้าทำงานก็ได้เงิน จะได้มากเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับงานนะว่ายากง่ายแค่ไหน” เปรี้ยง!! เสียงปืนดังคั่นบทสนทนา “พูดเรื่องงานก็มีงานเข้าเลย ฉันไปนะต้องทำงานแล้ว”
    เสียงปืนดังมาจากห้องข้างๆนี่เอง ไอล์ขอตามไปด้วย มีเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันในมืดถืดมีดสั้นอยู่นอนร้องโอดโอยพลางบีบหัวไหล่ตัวเองแน่นไม่ให้เลือดไหลมาก คนยิงเป็นหนึ่งในผู้ดูแลหอพัก เธอเป็นผู้หญิงสวมเสื้อกล้ามทับด้วยแจ็คเก็ตหนังสีดำ ใส่มินิสเกิร์ตสีดำสั้นเน้นส่วนสะโพก
    “เจค เธอพาเขาไปตึกแพทย์ทีนะ” เธอพูด เจคยึดมีดเพื่อนร่วมหอแล้วเหวี่ยงไปให้ผู้ดูแล เธอจับด้ามมีดแม่นยำราวกับจับวาง
    ไอล์ห่วงเพื่อนที่เพิ่งรู้จักกัน เพราะเขามีเพื่อนในนี้แค่คนเดียว... ขอตามไปจนถึงหน้าห้องผ่าตัด ก็มีนายแพทย์สองคนรับช่วงต่อ
    “งานฉันก็จัดการกับพวกที่คิดจะหนีจากที่นี่โดยการจับตัวประกันหรือไม่ก็ทำร้ายผู้คุม ถ้าไม่ตายก็พามานี่ ถ้าตายก็... หากมีญาติฉันก็ต้องเขียนจดหมายแจ้งให้ทางบ้านรู้ หากไร้ญาติขาดมิตรฉันก็ทำหน้าที่เป็นสัปเหร่อไปเลย ขุดหลุมฝังที่สุสานด้านหลังหอพักนี่แหละ เด็กที่ตายเมื่อวานฉันก็เป็นคนเอาไปฝังเอง”
    เขาเข้ามาอยู่ในโลกพิสดารซะแล้ว... หรือว่าเขายังไม่ตื่นจากฝันกันนะ... ไอล์ห่วงสวัสดิภาพของตัวเอง เขาจะรอดชีวิตจนถูกปล่อยตัวรึเปล่า?
    “คนทำหน้าที่นี้มีนายคนเดียวเหรอ?”
    “อือ”
    “แล้วถ้ามีคนถูกผู้คุมยิงตายทีละมากๆนายจะขนไปยังไงล่ะ” เคยดูข่าวนักโทษร่วมมือกันแหกคุก ร่วมมือกันเป็นร้อยๆคนแต่ถูกผู้คุมยิงตายเรียบ ศพเกลื่อน
    “ไม่มีหรอก อย่างมากก็วันนึงไม่เกินสองคน คนที่นี่ไม่ไว้ใจใคร ไม่มีใครร่วมมือกับใครหรอก”
    ไม่มีใครไว้ใจใคร? แล้วคนตรงหน้านี่ไว้ใจเขารึเปล่า?
    เหตุผลที่ให้เขาเป็นรูมเมททั้งที่มีห้องว่างเหลือล่ะ... แล้วเขาจะไว้ใจเจคได้มั้ย?
    “ หมดธุระที่นี่แล้วก็กลับหอเถอะ” ไม่มีประโยชน์ที่จะมานั่งวิเคราะห์คนเพิ่งรู้จักกัน ระยะทางพิสูจน์ม้า เวลาพิสูจน์คน
    “เที่ยงตรงมีงานถ่ายแบบที่ย่านไทม์สแควร์”
    “แคนเซิ่ล”
    “บ่ายสองโมงมีนัดสัมภาษณ์ที่ลาควินต้า”
    “แคนเซิ่ล”
    “6 โมงเย็นมีนัดทานอาหารกับผู้จัดการบริษัทโกลด์แฟร์”
    “แคนเซิ่ล”
    “นี่จะแคนเซิ่ลทุกงานเลยเหรอเออร์วิน!!” ผู้จัดการส่วนตัวบ่นมาตามสาย
    “ถ้าผมยังหาลูกผมไม่เจอไม่รับงาน!!!” เออร์วินกระแทกเสียงใส่หูโทรศัพท์
    ลูก?... เมียยังไม่มี แล้วไปมีลูกตั้งแต่เมื่อไหร่... นักข่าวรู้เข้าคงได้ขายข่าวฉาวกันเพลิน... เออร์วิน ครอฟอร์ด นายแบบชื่อดังแอบมีลูกลับๆ
    กริ๊------ง ออดหน้าบ้านดัง เออร์วินวางหูโทรศัพท์แล้วเดินไปหน้าบ้าน บุรุษไปรษณีย์นำจดหมายมาส่งให้ เป็นจดหมายที่สั้นมาก
   
    -เรียนคุณเออร์วิน ครอฟอร์ด-
    ขณะนี้บุตรบุญธรรมของคุณอยู่ในความดูแลของ 1047 จึงเรียนมาเพื่อทราบ
    “1047!!!” เป็นการล้อเล่นที่ไม่ตลกเลย เพราะคนที่ถูกส่งไปที่ 1047 เป็นนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ทั้งนั้น
    “เครื่องคอมพิวเตอร์บนโต๊ะนายจะใช้ก็ได้นะ ใช้อินเทอร์เน็ตไม่ได้ แต่ถ้าเป็นอินทราเน็ตใช้ได้” เจคเห็นนั่งๆนอนๆทั้งวันเพื่อนคงเซ็ง
    “มีข้อมูลของคนที่นี่เก็บไว้มั้ย?” ยังแคลงใจเรื่องเด็กสาวที่ตกมาจากดาดฟ้า มาตายต่อหน้าอยากลืมก็ลืมไม่ลง มั่นใจอยู่อย่างคือเธอไม่ได้กระโดดลงมาเองแน่ๆ
    “ถ้าอยากหาข้อมูลของเด็กผู้หญิงที่ตกตึกตายล่ะก็ คลิ้กที่ไอค่อน Profile มุมซ้ายบนน่ะ  เซิร์ชหาชื่อ ซาร่าห์ มอร์แกน”
    ดูเหมือนเจคจะรู้ใจเขาไปซะทุกเรื่อง... ไอล์เปิดคอมพิวเตอร์แล้วทำตามที่เจคบอก
    ซาร่าห์ มอร์แกน เพศหญิง อายุ 16 ปี
    ความผิด : ค้าปืนเถื่อน และรับสั่งทำวัตถุระเบิดโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
    มีรูปภาพครึ่งตัวของซาร่าห์มอร์แกนแสดงทางด้านซ้ายมือของหน้าจอ เธอเป็นเด็กสาวที่ดูใสซื่อ เห็นแล้วให้บรรยากาศที่ชวนคิดไปว่าเธอก็เป็นแพะเหมือนเขา ข้อมูลที่เปิดเผยได้โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่านมีเพียงแค่นี้ ไอล์เปิดข้อมูลของตัวเองดูบ้าง
    ???
    ??? หมายความว่ายังไม่ได้ใส่ข้อมูลกระมัง ไอล์ปิดเครื่อง
   
    “จะอาบน้ำก่อนรึเปล่าไอล์” เจคถาม
    “นายจะอาบก็อาบไปก่อนเถอะ” ไอล์ยกแขนตัวเองขึ้นมอง ไม่อยากแกะผ้าพันแผลที่เจคขอให้ใหม่จากห้องพยาบาลเมื่อวานนี้เลย มองแขนตัวเองทีไรก็เห็นว่ามันอัปลักษณ์จนต้องเบนสายตาทุกครั้งไป
    “ถ้านายเซ็งมาก เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จฉันจะเล่าเรื่องที่น่าสนใจให้ฟัง” เจคพาดผ้าเช็ดตัวขึ้นบ่าแล้วเดินตรงไปที่ห้องอาบน้ำ “เรื่องตำนานของ 1047”
    “ตำนานของ 1047?” ที่นี่เก่าแก่ขนาดมีตำนานด้วยรึ
    เจคไดร์ผมเสร็จก็เริ่มต้นเล่าเรื่องด้วยสีหน้าจริงจัง “ที่ 1047 ประมาณเมื่อสิบกว่าปีก่อนเคยเป็นสุสานเก่า”
    สุสาน... ไอหูผึ่ง ตำนานเกี่ยวกับสุสานก็ต้องเป็น... เรื่องผี วิญญาณ หรือเรื่องเขย่าขวัญ เขาชอบพวกหนังหรือนิยายแนวนี้ซะด้วยสิ แต่เปิดดู เปิดอ่านทีไรพ่อบังคับให้ปิดโทรทัศน์ ปิดหนังสือทุกที
    “เริ่มสนแล้วสิ”
    “เล่าต่อสิ เล่าต่อ” ไอล์แสดงความเป็นเด็กให้เห็น ทำให้อีกฝ่ายหัวเราะได้เล็กน้อย
    เจคเล่าต่อไป
    สิบกว่าปี ที่ไม่รู้ว่ากว่าเท่าไหร่แน่เพราะตำนานนั้นหาแหล่งอ้างอิงได้ยากเสมอ สถานที่แห่งนี้เคยเป็นสุสานเก่า มีผู้ดูแลซึ่งเป็นบาทหลวงชราเพียงคนเดียว ท่านชรามากแล้วไม่มีเรี่ยวแรงจะดูแลสุสานได้ทั่วถึงที่นี่จึงกลายเป็นที่รกชัฏ ถ้าเกิดอะไรขึ้นที่สุสานนี้ก็ไม่มีใครล่วงรู้ สุสานแห่งนี้กลายเป็นที่ทิ้งขยะมีชีวิต เช่น แมว สุนัข และสารพัดสัตว์ที่เจ้าของไม่ต้องการแล้ว ด้วยความที่ท่านเป็นคนรักสัตว์จึงได้รับเลี้ยงสัตว์เหล่านั้น และเอ็นดูพวกมันเฉกเช่นลูกหลาน
    ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเรียบง่าย... จนกระทั่งวันหนึ่งมีเศรษฐีนายหนึ่งต้องการที่ดินของสุสานนี้ ท่านบาทหลวงได้ปฏิเสธไปอย่างนิ่มนวล เศรษฐีผู้นั้นกลับไป... แต่เรื่องไม่ได้จบแค่นั้น หลังจากนั้นไม่นานมีคริสต์ศาสนิกชนคนหนึ่งมาติดต่อเรื่องการฝังศพของภรรยา เขาไปหาท่านบาทหลวงในโบสถ์แต่ไม่พบจึงไปที่สุสาน ที่นั่นเขาพบศพของท่านบาทหลวงถูกแทงตาย สภาพศพมีคราบเลือดและน้ำหนองแห้งกรัง มีร่องรอยบวมช้ำกับการต่อสู้หลายแห่ง หนอนไชชอนตามเนื้อหนัง และศพอีกหนึ่งศพคือเศรษฐีที่มาติดต่อเรื่องการค้าที่ดิน
    รอยข่วน รอยกัด ของสุนัขและแมว รอยจิกของนกมีอยู่เต็มตัว จมูกยุบลงไปเป็นรอยบุ๋มกลมขนาดใหญ่ ศรีษะด้านหลังก็มีอีกรอยหนึ่ง รายงานการชันสูตรศพ รอยบุ๋มนั่นคือรอยเขี้ยวด้านบนของสัตว์ประเภทสุนัข     แต่สุนัขขนาดใหญ่ขนาดนั้น... ขนาดตัวของมันต้องใหญ่กว่าหมีเสียด้วยซ้ำ
    แต่ในระหว่างที่ตำรวจดำเนินการได้มีหญิงสาวคนหนึ่งกล่าวอ้างว่าเห็นหมาป่าเผือกตัวใหญ่ยักษ์ในสุสานแห่งนี้ แต่ตำรวจทำการตรวจค้นทุกซอกทุกมุมแล้วไม่พบอะไรเลย
    ...คดีนี้ปิดไม่ได้จนจบอายุความ...
    และสุสานนี้ถูกปิดตาย จนรัฐบาลได้เข้ามาทำการรื้อสุสานและสร้างสถานกักกันเยาวชน 1047 ขึ้นมา
    แต่หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องร้ายขึ้นมาอีก... ผู้ดำเนินการก่อสร้างอาคารของ 1047 หลายราย ตายอย่างลึกลับในสภาพที่มีรอยกัดใหญ่ลึกแบบเดียวกับคดีแรก ทุกครั้งที่จะมีเส้นขนสีขาวในสถานที่เกิดเหตุเสมอ... มันอาจจะเป็นเส้นขนของหมาป่าเผือกที่พยานในคดีแรกเล่าก็ได้ แต่ไม่เคยมีใครหามันพบ
    หมาป่าเผือก?
    หมาป่าเผือก... ก็ต้องมีขนสีขาวล้วน... เส้นขนในมือของซาร่าห์ มอร์แกน... ถ้าเป็นขนสัตว์ ความยาวขนาดนั้น ตัวมันก็ต้องใหญ่มากทีเดียว... รอยกัด... ตอนที่เข้าไปดูศพของซาร่าห์ มีรอยที่ว่านั่นรึเปล่านะ ไอล์นึกไม่ออกเพราะตอนนั้นมัวแต่สนใจขนสีขาวนั่นอย่างเดียว
    “เจค ตอนที่นายดูศพของซาร่าห์ มีรอยกัดที่ตัวเธอมั้ย?” ไอล์เล่าให้ฟังเรื่องขนสีขาวในมือศพของซาร่าห์ มอร์แกนให้เพื่อนฟัง
    “คงเป็นด้ายที่ติดมาจากงานทอผ้ามั้ง?”
    “แต่... นายไม่คิดว่ามันเหมือนกับเรื่องที่นายเล่าเหรอ?”
    เจคหัวเราะจนตัวงอ “นี่นายคิดว่าเรื่องที่ฉันเล่าเป็นเรื่องจริงเหรอ? ฮะๆๆๆๆๆๆ โอ๊ย ขำ ที่ฉันเล่าน่ะดัดแปลงมาจากหนังเขย่าขวัญที่ฉันดูเมื่อวานซืน”
    โดนหลอก!!! ไอล์เริ่มรู้นิสัยเพื่อนแล้ว.. ต่อจากนี้ไปเขาจะตั้งฉายาให้มันว่า ‘ไอ้ตัวแสบ’
    เจคหลอกเพื่อนสำเร็จ
    ไอล์ไม่เลิกคิด เขาเติบโตมาในชนบทที่เต็มไปด้วยสัตว์ และโรงงานทอผ้า ระหว่างเส้นด้ายกับขนสัตว์ทำไมเขาจะแยกไม่ออก เรื่องที่เจคเล่า ถึงจะไม่มากแต่ก็อาจมีมูลความจริง
    “บอกว่าเรื่องที่เล่าฉันแต่งเองก็แต่งเองสิ 1047 ถูกสร้างในอุโมงค์ใต้ดินจะไปเคยเป็นสุสานเก่าตอนไหน”
    “อุโมงค์ใต้ดิน?!!... แต่มีแสงส่องลงมานะ”
    “แต่ไม่มีดวงอาทิตย์” เจคโต้กลับ ความรู้สึกช้าจริงรูมเมทเขา ท้องฟ้าและแสงอาทิตย์เทียมของ 1047 ทำได้สมจริงแต่ถ้าช่างสังเกตสักหน่อยก็น่าจะรู้ว่าดวงอาทิตย์น่ะมีซะที่ไหน
    เจครู้ใจเขาไปหมด ยังไม่ทันถามก็ชิงตอบก่อนทุกที ไอล์สงสัยว่าหน้าเขามันฟ้องตลอดเวลาเลยหรือไงว่ากำลังคิดอะไร
    “ใช่เลย หน้านายน่ะดูง่ายมากๆ” ไม่มีหน้ากากซะเลย ไม่ได้โตมาในตัวเมืองชัวร์
    ตำนานจริงของ 1047 เขาไม่เล่าดีกว่า เดี๋ยวเด็กใหม่จะขวัญหนีดีฝ่อจนสติแตกไปซะก่อน ถือเป็นความปราณีจากรุ่นพี่ที่อยากให้รุ่นน้องอยู่รอดปลอดภัย และสามารถกลับบ้านได้อย่างครบสามสิบสอง
    “ไอล์ ส่งแขนมา” เจคหยิบขวดทีมีน้ำเต็ม ปากคีบ กับผ้าผืนเล็กและห่อสำลีที่วางรวมๆไว้บนเคาน์เตอร์ แล้วลากเก้าอี้เข้ามานั่งด้านหน้าไอล์ที่นั่งแกว่งขาอยู่ด้านข้างของเตียงนอน
    ไอล์ส่งแขนซ้ายให้
    “แขนขวาสิ” เจคดุ
    ไอล์ส่งแขนขวาให้อย่างไม่เต็มใจ มันเป็นเพื่อนหรือพ่อเขา?!
    เจคค่อยๆแกะผ้าพันแผลให้ช้าๆ ผ้าติดแผลหลายจุดทำให้แกะค่อนข้างยาก ยิ่งเป็นแผลที่ติดเชื้อง่ายยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ เมื่อแกะผ้าพันแผลเสร็จแล้วก็ใช้ปากคีบ คีบสำลีจุ่มยาฆ่าเชื้อทาแผลให้
    “...เสร็จแล้ว” พันผ้าพันแผลอันใหม่ให้เรียบร้อย
    เห็นแขนเขาแล้วไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยรึไง... ไอล์นึกขึ้นมาได้ว่าตอนศพซาร่าห์เละกว่านี้ยังเฉย แค่นี้เด็กๆ เจคมองหน้าไอล์นานจนคนถูกมองรู้สึกแปลกๆ เจคนึกถึงคำสั่งของหัวหน้าผู้คุม ให้ดูแลไอล์ เจฟเฟอร์สันอย่างดีที่สุด ปกติไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ลงมาสักครั้งตั้งแต่อยู่ที่นี่มา เหมือนกับว่าไอล์ไม่ใช่ผู้ต้องโทษยังไงยังงั้น
    ห้องทำงานหัวหน้าผู้คุม
    เออร์วิน ครอฟอร์ดขอเข้าพบหัวหน้าผู้คุมสถานกักกันเยาวชน 1047 เป็นการส่วนตัว และได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ ไม่มีการทักทาย ไม่มีการแนะนำตัว
    “ฉันมาเอาไอล์กลับ”
    “แต่”
    “ไม่รู้ล่ะ พาไอล์มาหาฉันเดี๋ยวนี้”
    “แต่”
    “ไม่ต้องแต่ นายก็รู้ว่าเด็กคนนั้นไม่ได้ทำผิดอย่างที่กล่าวหา”
    “ฟังกันบ้างสิโว้ย” พูดแล้วไม่ฟังเลย อิริคใช้พลังช้างสารคว่ำโต๊ะทำงาน คนดื้อด้านเงียบสนิท
    “...ฟังก็ได้” เสียงเบาจนแทบเป็นเสียงกระซิบ เพื่อนเก่าเราถึกขึ้นเยอะนะ สมัยเรียนด้วยกันมันยังเป็นเด็กขี้กลัวอยู่เลย เขาเชื่อแล้วว่าเวลาเปลี่ยนคนได้
    “ฉันรู้ว่าไอล์ไม่ได้ทำผิดอย่างที่กล่าวหา ไม่ได้ลงชื่อเขาในแฟ้มทะเบียนด้วย แต่ที่นี่ปลอดภัยกว่าข้างนอก”
    “หมายความว่าไง?”
    “เพราะไอล์ฟื้นขึ้นมาแล้ว พินัยกรรมของโจนาธานฉบับที่สองเริ่มมีผล ผู้หญิงโลภมากอย่างโจลีนต้องวางแผนฆ่าลูกบุญธรรมนายแน่ เพราะถ้าไม่มีไอล์สมบัติทุกอย่างในพินัยกรรมจะตกเป็นของหล่อน” อิริครู้เพราะเขาเป็นคนหนึ่งที่ลงนามในพินัยกรรมด้วยฐานะพยานคนหนึ่ง
    “สมบัติ โจนาธานมีสมบัติอะไร?” เห็นใช้ชีวิตอย่างชาวไร่ไปวันๆ จะหาสมบัติมาจากไหนมากมาย
    “บัญชีเงินฝากห้าหมื่นล้านดอลลาร์ พินัยกรรมระบุว่าให้นายเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินจนกว่าไอล์จะบรรลุนิติภาวะ แต่ถ้าไอล์เสียชีวิตก่อนบรรลุนิติภาวะ ทรัพย์สินทั้งหมดจะตกเป็นของโจลีน”
    “แต่โจนาธานกับโจลีนหย่ากันแล้ว” ไม่น่าเป็นไปได้ที่โจลีนยังมีสิทธิ์ ยกเว้นแต่ว่า... การหย่าถูกเลื่อนกำหนดโดยที่เขาไม่รู้เห็น และโจนาธานเสียชีวิตก่อนที่หย่าร้างกันอย่างเป็นทางการ
    “อย่างที่นายคิด โจลีนยังไม่ได้หย่ากับโจนาธานอย่างเป็นทางการ และเธอมีสิทธิ์ในพินัยกรรม”
    “ที่นี่ก็อันตรายพอกันนั่นแหละ” หนีโจลีนมาที่ 1047 หนีเสือประจระเข้ชัดๆ
    “ถ้ามีเจคอยู่ข้างๆ ไอล์จะปลอดภัย” อิริคมั่นใจ เขาสั่งให้ผู้คุ้มครองมือดีที่สุดคอยตามประกบตลอดแล้ว ตราบใดที่ยังมีอดีตนักฆ่าอาชีพผู้มีทั้งชื่อเสียงและชื่อเสียฉาวโฉ่ระคนกันอยู่ข้างกายไม่มีใครที่นี่ทำอันตรายไอล์ได้
    “เจค นักฆ่าในตำนานอาชญากรรมลือชื่อของชิคาโกน่ะเหรอ?!! อยู่กับคนแบบนั้นจะปลอดภัยได้ไง!!!” นอกจากหนีเสือประจระเข้ ยังมีสิงโตข้างตัว... สิงโตมันไม่เชื่องเหมือนแมวนะ
    “แต่นายไม่ว่างตามประกอบไอล์ 24 ชั่วโมงไม่ใช่รึ พ่อนายแบบชื่อดัง”
    “ฉันพักงานได้”
    “แล้วระหว่างที่พักงาน นายจะเอาเงินจากไหนมาใช้จ่าย หรือคิดจะใช้เงินที่โจนาธานทิ้งไว้ให้”
    เถียงไม่ขึ้น เขาไม่ทำเรื่องที่ทรยศต่อความไว้วางใจของโจนาธานที่ให้เขาเป็นผู้ปกครองของไอล์หรอก เงินของไอล์เขาจะไม่แตะแม้แต่เซนต์เดียว
    “ฉันไว้ใจเจค”
    แต่ฉันไม่ไว้ใจ เออร์วินคิด แต่ไม่รู้จะเถียงไปให้ได้อะไรขึ้นมา เพราะถ้าผู้คุมไม่อนุญาต แล้วเขาพาไอล์ออกไป เขาก็ได้กลายเป็นอาชญากรเหมือนกัน ผลสุดท้ายก็ต้องให้ทางนี้เป็นคนดูแลไอล์อยู่ดี
    กลุ้ม ใครจะไว้ใจไอ้บ้าที่รับจ้างฆ่าคนด้วยความสนุกได้ลง... เขาคงต้องฝันร้ายไปจนกว่าไอล์จะบรรลุนิติภาวะ...
    ตำนานที่เป็นที่รู้จักกันในวงกว้างกว่าตำนานของ 1047... ตำนานของนักฆ่าในเมืองแห่งความภาคภูมิใจในอาชศิลป์ มือมีดข้างถนนที่รับจ้างฆ่าคนไม่ว่าลูกเล็กเด็กแดง แต่มันไม่ได้ทำเพื่อเงิน เพราะนักฆ่าที่ทำเพื่อเงินจะฆ่าเหยื่อให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่เจคฆ่าเหยื่อให้ตายช้าที่สุดเพื่อความสะใจ ถ้าเจ้าอิริคมันฝึกสิงโตคลั่งให้เชื่องได้ขอเคารพมันเป็นพระเจ้าหมายเลขสองเลย
    ในตู้เย็นห้องพักหมายเลข 610 อาหารนอกจากไข่ไก่แล้วมีแต่อาหารสำเร็จรูปเต็มตู้เย็น ไม่ขาดสารอาหารแย่เรอะ ไอล์มองดูเจ้าของห้องตัวจริงแล้วส่ายศรีษะ มีเคาน์เตอร์ทำครัวกับเตาแก๊สไว้ทำอะไร หรือไว้ทอดไข่อย่างเดียว
    “ของสดๆน่ะไม่มีเลยเหรอ?” ไอล์ถาม
    “ถ้านายอยากกิน ที่ตึกฝึกงานมีขาย แต่สดน่ะมันสดจริงๆนะนายต้องทำเองหมดเลย”
    “...ฉันทำอาหารเป็น” เคยช่วยแม่ทำบ่อยๆ
    ไอล์ทำท่าจะเดินออกไป แต่ก็ชะงัก แล้วกลับไปค้นตู้เย็นต่อ
    “อ้าว ไม่ไปแล้วเรอะ หรือว่าขี้เกียจทำ?” ถ้าไอล์ไปเขาก็ต้องตามไปด้วย แต่ถ้าไอล์ไม่ไปเขาก็อยู่เฝ้าห้องต่อ
    “...ไม่มีเงิน” ไอล์ทำหน้าเจื่อน ลืมไปว่าไม่มีเงินติดตัวสักเซนต์
    “ยืมฉันก่อนก็ได้ เดี๋ยวมีแล้วค่อยใช้” บอกให้ดูแลอย่างดีที่สุดก็ต้องรวมถึงอาหารการกินด้วย
    ไอล์ซื้อปลามาตัวนึง กะกินแค่ปลาทอด ไม่ชอบกินอาหารสำเร็จรูป แต่ยืมเงินคนอื่นไม่อยากยืมทีละมากๆ เดี๋ยวเป็นหนี้ท่วมหัวโดยไม่รู้ตัว ไม่รู้เจ้าเจคจะคิดดอกเบี้ยรึเปล่าด้วย
    เขียง มีด พร้อม... ไอล์ข้องใจว่าในเมื่อเจคทำอาหารไม่เป็นทำไมในครัวมีอุปกรณ์ทำอาหารครบครัน... คงมีเพื่อนที่ทำอาหารเป็นมาทำให้มั้ง ไอล์สรุปเอาเอง
    ไอล์วางปลาลงบนเขียง มันดิ้นพราด ดีดหางสะเปะสะปะ ดิ้นไปมาจนตกเขียง... ไอล์ยกเขียงทุบหัวมันแบะ
    ...ทารุณสัตว์... เจคดูขั้นตอนการทำอาหารแล้วนึกถึงสมัยที่เขาเป็นนักฆ่าได้เลย
    “ขั้นตอนการทำปลาทอด... ถ้าเป็นปลาจำพวกที่ตรงกลางเนื้อกลวง ให้ทุบหัวมันให้ตายคาที่ ตัดหัวออกแล้วขอดเกล็ดให้หมด ใช้มือล้วงไส้ในออกมาให้เกลี้ยง แล้วนำไปทอดให้สุกทีละด้านโดยใช้ไฟปานกลาง” แน่ะ มาสอนวิธีทำอาหารเขาอีก ไม่ต้องห่วงว่าเขาจะขาดสารอาหารขนาดนั้นก็ได้ ท้องมันรับจนชินแล้วพวกของสำเร็จรูปเนี่ย สาธิตไปทำไป แต่ วิธีฆาตกรรมปลาน่าจะเอาไปใช้กับคนได้ เจคคิด... ปลาทอด กับ คนทอด แล้วถ้าเขาจะทำคนทอดด้วยสูตรเดียวกันนี่จะหากระทะที่ใหญ่พอได้มั้ยนะ
- โปรดติดตามตอนต่อไป -
ถ้าอ่านแล้วถูกใจสักนิด โปรดคอมเม้นท์ด้วยนะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น