คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 : จุดเริ่มต้น
บรรยากาศในยามดึกสงัด เสียงรถมอเตอร์ไซค์ราคาแพงดังกระหึ่ม เสียงล้อรถบอดกรวดหินดินทราย ร่างชายสองคนนั่งบนพาหนะราคาแพงนั้น ทั้งที่ความสูงนั้นไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่ แต่ความหนาแน่นของมวลกล้ามเนื้อบ่งบอกถึงวิถีชีวิตที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี ร่างหนึ่งสูงใหญ่ มีกล้ามเนื้อแน่น ไม่ว่าจะมีความลำบากเท่าไหร่ผ่านมาทักทายสักเท่าไหร่ ร่างนี้คงไม่สะท้านหรือสั่นคลอนกับสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนอีกร่างถึงแม้จะสูง แต่ดูบอบบางและเต็มไปด้วยความรักที่แผ่ออกมาจากร่างกาย
“พี่ครับๆ ทำไมพี่ต้องปิดตาผมด้วยครับ” ชายร่างบางถามออกมาน้ำเสียงดูตื่นเต้นมากกว่าจะตกใจกลัว แววตาของคนที่อยู่ด้านหน้าไหวระริกอ่อนโยนลง แต่เจ้าของเสียงกังวานคงไม่อาจเห็นได้
“ก็ไม่งั้นเค้าจะเรียกลักพาตัวเหรอวะ ถามอะไรก็ใช้สมองหน่อย ” น้ำเสียงนั้นปลายมีความรำคาญ แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันมีความใจดีแฝงอยู่ไม่น้อย
“พูดก็พูดเหอะพี่ ผมเพิ่งรู้วันนี้นี่แหละว่าผมโง่จริงจัง แม่ก็พยายามบอกผมหลายครั้งแล้วนะ แต่ผมไม่เคยเชื่อเลย ถ้ากลับไปเจอแม่....” ผมชะงักกับคำพูดตัวเอง เฮ้ย!!! ไอ่ล่ำนี่มันลักพาตัวเรามานี่หว่า แต่ทำไมเค้าดูสุภาพกว่าที่ดูพวกโจรในหนังตั้งเยอะ ความรู้สึกนี้ทำให้ผมไม่ค่อยกลัวเค้าเท่าไหร่ ที่ผมเนี่ยยยยย...ไม่ใช่ว่าผมหลอกง่ายหรือว่าอะไรนะ ผมสังเกตเห็นปืนที่บั้นเอวเค้าหรอก หลังจากนั้นนะ พอเค้าบอกให้ผมขึ้นรถ ผมก็กลายร่างจากหนุ่มกวนแสนจะยอกย้อนกลายเป็นเด็กน้อยที่ว่านอนสอนง่ายไปในทันที จากนั้นเค้าก็ปิดตาผมก่อนที่ขับรถออกมาอย่างนุ่มนวล
“รู้มั้ยว่าทำไม ชั้นต้องจับแกมา” เสียงทุ้มๆ ที่ผมเริ่มจะคุ้นๆ ก็ถามผมขึ้นมา
“ไม่รู้หรอกพี่ แต่นั่นแหละทำไมพี่โจรถึงลักพาตัวผมมาละ แล้วไอ่ที่สำคัญเลยปิดตาผมทำไมเนี่ยยยย ทางก็ขรุขระขนาดนี้ ผมร่วงไปหัวฟาดพื้นตายไปพี่รับชอบไหวเหรอ” ผมได้ทีไง ผมเลยจัดการอย่าได้เสียชื่อแกงส้ม จอมกวนประจำซอย
“.....” ไม่มีเสียงตอบรับจากหนุ่มล่ำด้านหน้าผม แต่ได้ทำให้ผมหยุดกระบวนการคิดทุกอย่างๆ คือมือร้อนข้างหนึ่งดึงมือผมไปจับที่เอวของเจ้าของมือนั้น!!! สิ่งที่ผมรู้สึกคือใบหน้าที่ร้อนผ่าวของผมไม่ต้องเห็นหน้าตัวเองในกระจก ผมก็รู้ว่าผมคงหน้าแดง มือข้างนั้นยังคงกุมมือผม
“กอดไว้สิ อีกข้างหน่ะ เด๋วก้อร่วงไปหรอก ชั้นรับผิดชอบไม่ไหวนะ” น้ำเสียงที่ได้ยิน อ๊ากกกกกก!!! พี่โจรมีมุมน่ารักแบบนี้ด้วยเหรอ เสียงอ่อนเสียงหวาน เสียงที่ดูล้อเล่นนั้นช่างชวนใจเต้น ...
ไม่จริง!!! ผมใจเต้นกับผู้ชายเหรอเนี่ยยยย....ถึงจะไม่เคยมีแฟนเป็นเรื่องราวกับใครเค้าหรอกนะ แต่ที่ผ่านๆ มา ผมก็ชอบผู้หญิงทั้งนั้น... ไม่ ไม่ ไม่ มันเป็นอาการของคนที่โดนโจรลักพาตัวต่างหากเล่า!!!
ผมนั่งซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ดมกลิ่นน้ำหอมพี่โจรสุดล่ำที่ลอบมากระทบจมูกประมาณยี่สิบนาที มือผมยังคงเกาะที่เอวโดยที่มีมือพี่โจรกุมอยู่อีกที หน้าผมคงจะหายแดงแล้วแหละ แต่อาการจากใจเต้นมันกลายเป็นใจหวิวๆ เหมือนตัวลอยๆ นี่สิมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดรถก็จอดลง พี่โจรสุดล่ำปลดผ้าปิดตาผมออก สิ่งที่ผมเห็นคือตึกเก่าโทรมๆ มีแสงไฟชั้นล่างสาดแสงออกมา บรรยากาศรอบข้างมือสนิท ที่นี่คงห่างจากแหล่งมนุษย์มนาเค้าอยู่กันพอสมควร เงียบซะ...ผมเริ่มวังเวง เบียดตัวเข้าใกล้พี่โจรอีกนิดนึง
“พี่ฮั่น เป็นไงบ้างครับ ” ผู้ชายคนที่วิ่งมาเป็นหนุ่มคมเข้ม ร่างกายดูแข็งแรง ตะโกนออกมาทั้งที่ตัวยังไม่พ้นประตู สงสัยจะห่วงลูกพี่แน่ๆ เลย
“ไปคุยกันข้างในเถอะ” พี่โจรที่มีชื่อฮั่น คว้าที่มือผมขวับแล้วลากผมเข้าไปข้างใน ประตูด้านนอกเป็นประตูเหล็กที่ดูแข็งแรงมาก พอเดินเข้าเป็นประตูกระจกหนาที่มีระบบสแกนลายนิ้วมือ ถึงจะเปิดออก
“โหยยยยย สุดยอดอ่ะ” ผมร้องออกมาอย่างตื่นเต้น ก็ที่นี่สุดยอดจริงครับ ด้านนอกนะดูโทรมๆ แต่ด้านในเนี่ย มีเปียโนตั้งริมหน้าต่างอยู่ โซฟาอย่างหรูหรา ผนังห้องสามด้านเป็นกระจก มองเลยไปอีกนิดเป็นบาร์เครื่องดื่มอย่างหรู ทุกตารางนิ้วปูพรม สุดยอดจริงๆ เลยนะเนี่ยยย ไม่มีคำบรรยากาศครับ
“เอ บี สรุปไอ่ตัวนี้ใช่มั้ย ที่เป็นตัวปัญหา” พี่โจรฮั่นถามลูกน้องสรุปไอ่คนเมื่อตะกี้มีฝาแฝดครับ หน้าเหมือนกันยังกะแกะ แต่ที่พี่โจรฮั่นพูดถึงเนี่ยยยคือ....ผม ใช่ป่าวอ๊า
“ชัวร์พี่ผมแน่ใจ” ไม่รู้ว่าเอหรือบีตอบ เพราะผมแยกไม่ออกจริงๆ คำตอบทำให้คุณหัวหน้าโจรถอนหายใจพร้อมทิ้งตัวลงบนโซฟา คือผมไปสร้างปัญหาในพวกเค้าเรื่องอะไร เพราะสองแฝดนั่นก็มองหน้าผมแบบเนือยๆ ดูแล้วไม่เป็นมิตรเอาซะเลย ต้องพาไปอบรมมารยามด่วนนะเนี่ย
“แล้วพี่จะเอาไงต่อกับมันอ่ะ” อีกคนถามทำลายความเงียบ พี่โจรฮั่นหันมามองหน้าผมแบบจริงจัง
HUN Talk
ผมหันไปมองหน้าใสๆ บ๊องแบ๊วนั่น ที่ทำให้คิดหนัก ถ้าปล่อยไปนะ อีกไม่เกินสามวันมันได้ไปทำหน้ากวนหน้ามึนแบบนี้ในโลงแน่ๆ
“ชั้นจะถามสมัครใจของนายละกันนะ ว่านายจะอยู่ที่นี่มั้ย” ผมมองหน้าไอ่เด็กหนุ่มนั่นอย่างจริงจัง
“ผมเหรอครับ” เสียงของเค้ามีความสงสัยอยู่ไม่น้อย คงงงละสิโจรที่ไหน เค้าถามตัวประกันแบบนี้ไอ่เด้กบ้าคนนี้มีพรสวรรค์ในการมอบความสุขจริงๆ แค่ผมอยู่กับเค้าระหว่างที่มา ก็เล่นเอาเสือยิ้มยากอย่างผมแทบจะฮาก๊าก ไหนจะวิ่งเข้าซอยตันทั้งๆ ก็ที่ห่างจากบ้านตัวเองไม่เท่าไหร่ ไหนจะเรียกผมว่าพี่โจร ยังไม่รวมกับอาการช๊อคที่เห็นปืนของผม เอาซะผมอารมณ์ดีขึ้นมาทีเดียว
“เมื่อวานนายไปเต้นที่งานรวมแก๊งค์ Hunter กับ แก๊งค์GB ใช่มั้ย” ผมเริ่มจากสิ่งที่เป็นต้นเหตุของการที่พวกผมต้องลักพาเด็กคนนี้มามาไว้ที่รังของผม เจ้าตัวพยักหน้าเหมือนพยายามคิดว่าตัวเองไปทำอะไรไว้กันแน่
“นายคงไม่รู้สินะว่าเมื่อวานเป็นการนัดส่งเฮโรอีนล๊อตใหญ่ที่เข้ามา” ต้นเรื่องเริ่มหน้าเหวอ เพราะไม่คิดว่าตัวเองไปยุ่งกับงานพวกนั้นได้ยังไง
“ผมแค่ไปเต้นพี่ ผมไม่รู้จริงๆ นะ จะบ้าตาย” เด็กนั่นสติแตกเริ่มปฏิเสธจนเป็นเรื่องเป็นราว
“ชั้นรู้ไง ชั้นถึงได้พานายมาที่นี่ เพราะตอนนี้ หัวหน้าพวก GB ถูกจับ แล้วหน้าใหม่ที่สุดที่เข้าไปก็คือนาย พวกนั้นเลยคิดว่านายเป็นสายให้กับตำรวจ ความจริงนายก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่งที่ แก๊งค์ Hunter วางไว้ พวกมันอยากขยายถิ่นอิทธิพลเอง แต่ความยิ่งใหญ่ของแก๊งค์GB มันก็มีอยู่ไม่น้อยเหมือนกันพวกมันก็ไม่กล้า พวก Hunter เลยต้องหาแพะมารับบาปชั่วๆ แทน” ผมเริ่มเว้นวรรคเพราะสีหน้าของคนฟัง
“แล้วทำไมผมต้องเชื่อพี่ด้วย พี่เป็นใครก็ไม่รู้ อยู่ๆ เรื่องบ้าๆ จะเกิดกับผมแบบนี้ได้ยังไงกัน ผมก็แค่ชอบเต้น ชอบร้องเพลง มัน...” เสียงที่หายไป เพราะผมเอามือปิดปากปากสวยเกินผู้ชายทั่วไปไว้ น้ำตาที่ไหลอาบแก้มหยดลงมือผม แขนอีกข้างโอบรัดมือทั้งสองข้างไว้ เพราะเจ้าของร่างทั้งดิ้นทั้งสะบัด ก่อนจะค่อยๆ อ่อนแรงลง แรงแค่นี้จะมาสู้ผมได้ยังไงกัน
“หยุดโวยวายแล้วฟังนะ ” ผมจับไหล่บางทั้งสองข้างไว้ มองจ้องเข้าไปในตาคู่สวยที่มีประกายนั้นไว้ เห็นน้ำตาที่ไหลออกอย่างชัดเจน น้ำเสียงผมอาจจะดูดุดันจนสะกดเจ้าตัวอย่างเด็ดขาด แต่ใจผมสิแอบหวั่นไหวกับ ดวงตาคู่นั้น ดูบริสุทธิ์ อ่อนต่อโลก และน่าทะนุถนอมจนผมต้องใจสั่น
“ถ้านายอยู่กับชั้น ชั้นรับรองความปลอดภัยนายด้วยชีวิตของชั้น แล้วครอบครัวนายก็จะไม่พลอยเดือดร้อนไปด้วย แต่ถ้านายยังอยากกลับไป ชั้นก้อไม่รู้ว่าจะรักษาชีวิตของนายกับครอบครัวได้นานแค่ไหน”ผมพูดออกไปแล้วกลั้นใจ มองตาคู่นั้นอีกครั้ง แต่ตอนนี้เจ้าของได้ก้มหน้าทบทวนอะไรหลายๆ อย่าง
“พี่ฮั่นครับ ผมแกงส้มฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ” แม้จะมีน้ำเสียงลำบากใจ แต่ผมก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะบอกตรงๆ ไอ่เด็กแกงส้มเนี่ย...ยังมีอีกหลายมิติที่คาดเดายาก เค้าเรียกว่า “คนมีของ”
“พี่ครับ แล้วหวังเฉาไปไหนละครับ” อยู่ดีๆ แกงส้มก็ถามอะไรแปลกๆ ขึ้นมาจนผมต้องหันไปมองหน้า เอกะบี ลูกน้องคนสนิทของผม ซึ่งคำตอบจากสีหน้าสองตัวนั้นก็บ่งบอกออกมาว่า ผมก็งงเช่นกัน
“พี่หม่าฮั่นก็ต้องคู่กะหวังเฉาสิคับ 5555” นั่นไงล่ะ ผมบอกแล้วว่ามันมีของ
ปล. เม้นเป็นกำลังใจหน่อยนะคะ เพื่อสุขภาพจิตที่ดีของไรเตอร์
ความคิดเห็น