คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : การต่อสู้ครั้งแรกกับเพื่อนใหม่ที่ชตาพาพบ
เรื่องราวยาวนานมากมายที่ผ่านมาในโลกที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตายาวนานนับร้อยนับพันปีถ้าจะให้เล่าทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นต้องใช้เวลาเล่าเท่าใดก็ยังไม่อาจประมาณ การต่อสู้ยาวนานที่เรียกว่า RAGNAROK สงครามศักดิ์สิทธิ์ครั้งใหญ่เมื่อนานมาแล้วระหว่างเทพเจ้า มนุษย์ และปีศาจได้ก่อเกิดผลเสียร้ายแรงต่อดินแดนทั้งหมดอย่างหมาศาล
หลังจากสงครามสิ้นสุดลง เหล่ามนุษย์ทั้งหลายก็ต่างพากันลืมเลือนเหล่าเทพเจ้าและจอมปีศาจ เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่าพลังอำมหิตที่ยังคงวนเวียนอยู่ยังคงเฝ้ารอวันที่จะหวนคืนขึ้นมา
พันปีที่ผ่านพ้นทำให้ดวงจิตอำมหิตที่เฝ้ามองมีพลังเพิ่มขึ้นๆทีละน้อยๆจนในที่สุดสิ่งที่ผู้คนได้ลืม ก็กลับมาปรากฏขึ้นอีกครั้งทุกสิ่งทุกอย่างถูกบดบังด้วยความชั่วร้ายเรื่องเล่าที่ถูกกักเก็บถูกเล่าต่อถึงตำนานอสูรปีศาจที่จางหายจากความทรงจำและตอนนี้พวกมันกลับมาอีกครั้งและกระจายไปทั่วทุกดินแดน
จากเมืองที่สงบสุขของชาวมนุษย์จำเป็นต้องฝึกฝนตนเองเพื่อรับมือกับสิ่งชั่วร้ายทั้งหมด ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไป การเดินทางและการผจญภัยของผู้คนมากมายได้ถูกถ่ายทอดต่อๆกันมา เรื่องราวมากมายถูกเล่าในนามของ RAGNAROK ความสนุกสนาน ความเศร้า ความยากลำบาก และความทรงจำถูกร้อยเรียงเป็นตำนานกล่าวขานให้ผู้คนได้เข้าใจ
แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นบนหนังสือเล่มนี้บันทึกเรื่องที่ต่อๆไปหลังจากนั้นสงครามครั้งใหญ่ระหว่างมนุษย์ได้ดำเนินต่อเนื่องอย่างดุเดือด และสิ่งที่มนุษย์ค้นพบคือในตัวของเด็กบางคนที่เกิดระหว่างสงคราม มีพลังที่ซ่อนอยู่ในตัว
พลังจิตที่ก่อเกิดในตัวเด็กที่ก่อเกิดท่ามกลางไฟสงครามที่ร้อนระอุพวกเขาเรียกมันว่า “จิตวิญญาณแห่งผู้สร้าง คาร่า (Khara)” และสิ่งนี้จะเป็นตัวกำหนดชตาเพื่อความเป็นไปของพวกเขา เมื่ออัศวินศักดิ์สิทธิ์ ครูเซเดอร์แห่งพอนเตร่านามว่า เฮลอง ได้นำเด็กกลุ่มหนึ่งที่มีพรสวรรค์พร้อมกับจิตวิญญาณแห่งผู้สร้างเข้าการฝึกฝนที่โรงเรียน ทหารแห่งหนึ่งในหุบเขาเอ็มโจลเนียล ( Mjolnirอ่านยากนิสนึงออกเสียงเป็นภาษาฝรั่งเศสจะเพราะกว่านะ=-=) เพื่อเข้าการฝึกฝนตามความถนัดของตนเอง
สิบปีหลังจากวันนั้น
ลึกเข้าไปในหุบเขาเอ็มโจลเนียลปรากฎร่างชายผู้หนึ่งผมสีดำสนิทเขาสวมเกราะหนังบางๆพร้อมกับกริชเล็กๆแต่คมกริบที่เหน็บอยุ่ข้างเอวของเขา
จิลค่อยๆลืมตาขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่เขาพบว่าเขาอยู่ในห้องมืดๆที่มีเสียงเล่าก่อนหน้านี้พร้อมกับภาพที่เปิดไปพร้อมบทบรรยายซึ่งหลังจากจบคำบรรยายแล้วเข้าก็ถูกสูงสีขาวดูดกลืนเข้าไปอีกครั้ง
“ฮะๆๆๆ มาแล้วสินะที่นี่จุดเริ่มต้นของ RO2 ตามที่บอร์ดเขียนไว้ เมือง Mjolnil จะได้เริ่มเล่นกันสักทีว่าแต่ระบบแบบนี้ไม่เคยเห็นแฮะทำเหมือนจริงสุดๆเลย” จิลกล่าวขึ้นด้วยความดีใจหลังจากที่เขารอที่จะเล่นเกมนี้มานานแสนนาน แต่เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันจะเจ๋งขนาดนี้
จิลหันมองไปรอบๆ ด้านหลังของเขาเป็นอาคารขนาดกลางที่ตั้งของโรงเรียนที่ผู้บรรยายกล่าวถึง และด้านหน้ารอบๆเขาเป็นอะไรทีแปลกตากับระบบการ์ตูนสามมิติที่มีสีสันสวยงามต่างกับโลกแห่งความจริงและทุกอย่างล้วนจับต้องได้
จิลลองชักกริชที่ติดอยู่ข้างเอวของเขาออกมาถือพร้อมกับสำรวจไปมาและลองกวัดแกว่งดู เขากวัดแกว่งมันได้อย่างคล่องแคล่วว่องไวและสวยงามเหมือนร่ายรำด้วยท่วงท่าของเทพบุตร (=-= เห้ย! เกินไปไหม)
จิลค่อยๆเดินลงจากเนินดินเล็กๆลงมา จิลมองเห็นใครคนหนึ่งแต่ชุดคล้ายๆกับเขานอนสลบอยู่ที่แนวหญ้าเล็กๆ จิลรีบวิ่งเข้าไปดูอาการ
“เห้ยนี่!....เป็นอะไรทำไมมานอนอยู่ตรงนี้ฟะ ลุกขึ้นมาคุยกันก่อนสิ” จิลตรงเข้าไปถามบุคคลเพียงหนึ่งเดียวที่เขาพึ่งเจอหลังจากถูกส่งตัวเข้ามาในหุบเขาแห่งนี้
ชายหนุ่มที่นอนก้มหน้าอยู่ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองหน้าจิล “ข้าถูกลอบโจมตี
” ชายหนุ่มที่เงยหน้าขึ้นมากล่าวพร้อมกับทำหน้าเหมือนร่างกายของเขาจะไม่ไหวแล้ว
และเสียงดังกรุกกรัก เหมือนกิ่งไม้หักก็ดังอยู่บริเวณแนวป่ารอบๆของจิล จิลรีบลุกขึ้นพร้อมกับกำกริชในมือแน่นและสอดส่ายสายตามองไปรอบๆอย่างระวังตัว
‘เสียงแบบนี้ไม่ใช่แค่ตัวเดียวแน่สองตัว บ้าน่าถ้าเกิดมีมอนสเตอร์ระดับที่ทำให้หมอนี่ตกในสภาพนี้ได้ถึงสองตัวหละก็
.จบเห่แน่ พึ่งเข้ามาแต้ๆ TT_TT”จิลนึกขณะที่มองรอบตัวอย่างกังวล
และไม่นานเจ้าของเสียงกรุกกรักรอบๆก็กระโจนตรงเข้าหาจิลทันที “ปอ
.ริ่ง!!” เสียงมอนสเตอร์คำรามอย่างน่ากลัวพร้อมกับพุ่งตรงเข้าหาจิลด้านหน้าของเขาโดยตรง
“มาแล้ว!! ย๊ากกก!! ฉึบ!” เมื่อจิลเห็นเขาตะโกนลั่นพร้อมกับฟันสิ่งที่ปรากฏตัวตรงหน้าเข้าเต็มแรง เสียงกริชในมือของจิลฟันเข้าไปที่ตัวโปลิ่งสีแดงเข้าอย่างจัง
“หา
.โปลิ่งมอนเสตอร์ระดับต่ำสุดของเกมนี่ - - หมอนี่แพ้ของแบบนี้งั้นเหรอ” จิลหันไปมองที่ซากชายหนุ่มที่ตอนนี้กำลังพยายามลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก
หลังจากที่โปลิ่งตัวน้อยโดนโจมตีทำให้มันกระเด็นห่างจากจิลไปเกือบสองเมตร แต่ความหน้ากลัวของโปลิ่งไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ตอนนี้ด้านหลังของจิลเปิดช่องว่างขนาดใหญ่ โปริ่งอีกตัวที่ซ่อนตัวอยู่ในแนวป่าได้กระโดดถี่พุ่งเข้าโจมตีด้านหลังของจิล
“ปอ
.ริ่งง!!” เสียงร้องดังและร่างที่พุ่งเข้าโจมตีจิลด้านหลัง
จิลหันกลับไปตามเสียงร้อง “หืม
...พรึ่บ!” จิลโยกตัวหลบด้วยขาขวาที่ตวัดพลิกตัวทำให้ปอริ่งพลาดเป้าที่หมายตาไปอย่างน่าเสียดายแต่จิลไม่ได้ปล่อยโอกาศให้หลุดลอยไปหลังจากเขาพลิกตัวหลบขาซ้ายที่ตั้งเป็นหลักก่อนหน้าได้ตวัดขึ้นและหมุนตัวเตะไปที่โปลิ่งตัวนั้นอย่างจัง ตรงหน้าของโปลิ่งที่พุ่งด้วยความเร็วที่เสริมจากบาทาของจิลยังมีอีกเป้าหมายที่ยืนรออยู่ “ปอ
..ริ่ง
.ปั่ก!!” ปอริ่งทั้งสองพุ่งชนกันอย่างรุนแรงทำให้ทั้งสองต้องจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถ
“ฮืมม
.หมอนี่กำจัดปอริ่งที่กินยาของเราไปได้ด้วยเหรอเนี่ย เป็นเด็กใหม่ที่น่าสนใจดี ฮิ ฮิ ฮิ” เสียงของชายหนุ่มสวมแว่นคนหนึ่งที่ซ่อนเร้นกายอยู่บนต้นไม้ใกล้ๆมองดูอยู่ด้วยความพึ่งพอใจกล่าวขึ้นเบาๆ
“ยานี่ก็มีผลดีเหมือนกันนะเนี่ย เอาไว้วันหลังไปทำไว้แกล้งหัวหน้าบ้างดีกว่า แฮะ คงจะสนุกพิลึก ฮิ ฮิ ฮิ” ชายหนุ่มสวมแว่นกระโดดลงมาจากต้นไม้และเดินจากไป
จิลค่อยๆมองไปที่ซากของโปริ่งมี แสงระยิบระยับสีขาวส่องออกมาจากตัวของโปริ่งที่นอนเป็นศพทับกันอยู่
“นั่นมันเป็นของนายแล้วไอหนุ่ม” เสียงคนที่บาดเจ็บนอนอยู่ก่อนหน้ากล่าวบอกจิล
“ไอเทมดรอปสินะ สวยดีแฮะ งั้นขอดูหน่อยก็แล้วกัน” จิลกล่าวแล้วเดินตรงเข้าไปยังซากปอริ่งทั้งสองพร้อมกับเอื้อมมือเข้าไปใกล้ๆ ที่ข้อมือของเขาปรากฏภาพแสงออกมาเป็นรูปภาพไอเทมที่ตกจากมอนสเตอร์ ประกอบไปด้วย เจลโลปี้ สองอัน ยาเลือดขนาดเล็กหนึ่งขวด
“นี่คือระบบ item drop เพียงผู้เล่นใช้นิ่วจิมไปยังไอเทมหรือ Pick all ระบบจะทำการเก็บไอเทมที่เลือกไปยังกระเป๋าของท่านในทันที
“นายเป็นNPC สินะชั้นจำได้ว่าเควสแรกที่ชั้นเห็นเพื่อนเล่นมันเป็นนายที่นอนอยู่” จิลพูดขึ้นและมองไปยังชายที่บาดเจ็บอยู่แต่ตอนนี้เขาลุกนั่งได้แล้ว
“ออไอหมอนั่นหนะเหรอ จำได้ว่าสองวันก่อน NPC ที่เมืองนี้ส่วนหนึ่งขอลาพักร้อนหนะ ช่วงฤดูร้อนหนินะ แล้วพอดีว่าชั้นเองก็เดินวนไปวนมาในหุบเขานี่มาตั้งนานแล้ว พอดีที่กลับมาที่นี่ก็เพราะหิวมากแล้วเลือดก็เหลือน้อยมาเจอกับโปลิ่งสองตัวนี้ ชั้นก็เลยเป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ” ชายหนุ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้จิลฟังขณะที่ร่างของเขาไม่มีแรงเหลือเลย
“หิวเหรอ
.ในเกมเนี่ยนะ!?” จิลประหลาดใจเมื่อได้ยินคำนี้ซึ่งเขานึกว่านี่เป็นเพียงเกมไม่น่าจะหิวหรือมีอะไรทำนองนี้
ชายหนุ่มที่นั่งอยู่หัวเราะจิลแล้วก็พูดต่อไปว่า “ฮะๆๆ ที่นี่หนะถูกจำลองให้ทุกอย่างเหมือนจริงแม้แต่แนวการเล่นก็ต่างไปจากระบบปกติมากรวมถึงไอเทมแล้วรความอิสระของผู้เล่นที่นี่เหมือนกับโลกจำลองที่เหมือนกับโลกจริงมากที่สุด นายคงไม่รู้เรื่องในนี้เลยสินะ เดี๋ยวชั้นจะอธิบายให้นายฟังเอง เพราะชั้นเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาระบบเกมนี้ยังไงหละ” ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มๆเล็กน้อย
“- - ผู้พัฒนาระบบ > หลงทาง >หมดแรง> เป็นศพ - -แหม่เป็นเหตุผลที่เข้ากันดีจริงๆด้วยแฮะ” จิลพูดขึ้นขณะสายตามองชายตรงหน้าด้วยสายตาที่ไม่เชื่อถือ
ชายหนุ่มเห็นดังนั้น “ก็ชั้นพัฒนาระบบภายนอกที่เชื่อมต่อเข้ามาแต่ไม่ได้รู้เรื่องภายในนี่หว่า จะให้ทำไงหละฟะ เอาเถอะ เดี๋ยวชั้นจะแสดงให้นายดูเกี่ยวกับสิ่งที่ชั้นรู้ก็แล้วกัน แต่ก่อนอื่นชั้นขอแนะนำตัวก่อนก็แล้วกัน ชั้นใช้ชื่อในเกมว่า เมนอส เป็นเมจิคเชี่ยน ยินดีที่ได้พบ” ชายหนุ่มกล่าวแนะนำตัวและยื่นมือออกมาด้านหน้า
จิลเห็นพอจะรู้ธรรมเนียมบ้าง “เอาเถอะยังไงซะมีคนไปด้วยก็ดีกว่าไม่มี ชั้นจิลเป็นติฟ ฝากตัวด้วย” จิลกล่าวพร้อมกับยื่นมือไปจับมือของเมนอสที่ยืนมา
และนี่ก็เป็นมิตรภาพระหว่างเพื่อนที่สื่อถึงกันจบ - -
ยัง!! มันพึ่งจะเริ่มต่างหากเล่า
ความคิดเห็น