ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Magic Fox เรื่องหมาหมา [Yaoi -,,-]

    ลำดับตอนที่ #2 : มอบตัว

    • อัปเดตล่าสุด 26 มิ.ย. 55


     อรุณเบิกฟ้านกกาโบยบินออกหากินล่าเลิงแจ่มใส...กึก

    มือเรียวเล็กของเด็กหนุ่มเคลื่อนที่กระทบปุ่มหยุดของนาฬิกาปลุกเจ้าปัญหา เด็กหนุ่มขยี้ตา

    ไล่ความงัวเงียที่แสนเกลียด ยันตัวขึ้นจากเตียงบิดตัวไล่ความขี้เกียจที่ครอบงำร่างกายอยู่ทุกวีทุกวัน

    จนน่ารำคาญ เด้งตัวกระชากม่านเพื่อเรียกหาแสงอาทิตย์ยามอรุณรุ่ง (ศัพท์ไรเตอร์ชวนสยิวกิ้วมาก

    เลย ไรเตอร์เพิ่งเคยบรรยายแบบนี้ถ้าขัดใจก็ประทานอภัยเถิด)

     

    ฮาโยโฮเฮ้ ฮ่าฮ่าฮ่า โย่ว โย่ว (บ้าไปแล้ว) ผมผม ผม แฟง น้อยจ้า ไม่อยากบอกแหละว่า

    กำลังแปรงฟันอยู่ ตื่นเต้นจริงๆก็วันนี้เป็นวันสำคัญนะซิ วันนี้ผมจะไปโรงเรียนแล้ว!! ยาฮู่ ผมว่ามัน

    ต้องสนุกแน่ๆเลย และจะมีเพื่อนใหม่กี่คนกันน่ะ ผมคิดด้วยความตื่นเต้นขณะที่มือถูสบู่บริเวณสะโพก

    ที่มีปานแสนประหลาด ไม่ประหลาดได้ยังไงล่ะก็ด้านซ้ายเป็นปานรูปตานัยต์ราเป็นเขี้ยว ด้านขวา

    เป็นปานดำคล้ายๆกุหลาบ แต่ถ้าล่างลงไปก็คือจั้กกะดึ๋ยของผม แล้วจะรูปไปทำไมเนี้ย

    "แฟงงง ลงมากินข้าวได้แล้ว วันนี้วันสำคัญไม่ใช่เหรอ"เสียงแม่อันเป็นที่รักของผมเรียกแล้ว

    เธอเป็นหญิงร่างท้วม หน้าตาใจดีจนหน้าตกใจ ผมคงได้แม่มาเยอะ โฮะโฮะ ไม่ได้หลงตัวเองน่ะ ก็

    คนมันน่ารักอ่า (ชิ เริ่มหมั่นไส้) 

    "จ่าจ่ะ จะไปแล้ว"ผมสะบัดก้นกระโดดโลดเต้นทะลุออกจากห้องกลิ้งกุกๆลงจากบันไดไม้เก่าๆ

    "เดินลงดีๆไม่เป็นหรือไง แฟง”เสียงเย็นๆแทบจะเยือกของป๊าปี้ที่รักของผม ท่านเป็นคนใจ

    ดีน่ะแต่ติดเย็นชานิดๆ ไม่รู้เป็นสับปะดอยหอยทากอะไร ความหมั่นไส้ปนทะเล้นของผมทำให้ร่าง

    น้อยๆของผมพุ่งตัวไปหาพ่ออันเป็นที่รักแล้วใช้แขนเล็กๆของตนคล้องไปที่ลำคอเบาๆ เบียงหน้า

    หอมแก้มเล็กน้อยเพื่อเกิดอาการอ้อนเล็กๆ

    “นี้ เปล่าได้แล้ว รีบไปกินข้าว วันนี้ต้องไปมอบตัวไม่ใช่เหรอเขาปิดไม่รู้ด้วยน่ะ”พ่อขู่เพื่อให้

    ผมปล่อยและมันก็ได้ผล ผมปล่อยมือทันใด และรีบเด้งไปนั่งที่ตนเองรีบจวงข้าวอย่างเร็วจนเม่กลัว

    จะติดคอ

    “ช้าๆก็ได้ เจ้าแฟง”เอาจะหลิวเคาะหัว

    “อ็แองอีบอ่า (ก็แฟงรีบอ่า)”รีบกินอย่างว่องไวปากก็กลืนมือก็หยิบน้ำที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาดื่ม

    จนลำลัก

    “นั้นไง!”แม่กระชากน้ำออกจากปากและค่อยๆลูบหลังผม

    “จะไหวเหรอ”เสียงพ่อคันจังหวะการลำลักของผม

    “แน่อยู่แล้ววววววววววว”รีบวิ่งไปหยิบกระเป๋าหน้าประตูบ้านและกระฉากประตูออก จากนั้น

    อย่างเดียวคือรีบสอยเท้าไปในตัวเมืองให้เร็วที่สุด แต่ไม่รู้อะไรเมื่อผมออกแรงวิ่งทีไรเหมือนเท้ามัน

    จะลอยขึ้นมาให้ได้และรู้สึกว่าผมจะวิ่งเร็วกว่าเด็กคนอื่นเป็นหลายเท่าตัว ไม่รู้มันเป็นความสามารถ

    หรือนางฟ้าทำคถาตกแล้วมนต์ที่เหลือปลายๆคถาอาจจะเสกมาโดนผมก็เป็นได้

    ขณะที่ผมกำลังแหวกผู้คนที่หนาแน่นอยู่นั้น ผมก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากด้านหลังจน

    ผู้คนรอบข้างผมเริ่มแหวกเป็นวงกลมและเริ่มมุงมาที่ผมคนเดียว ผมเริ่มวอกแวกหันซ้ายหันขวาด้วย

    ความระแวงว่าผมทำอะไรผมหรือเปล่า

    “นี่!! ปล่อยน่ะโว๊ย!!”เสียงนั้นทำให้ผมหันหลังมาอย่างเต็มตัว ภาพที่ปรากฏนั้นคือชายร่าง

    ผอม หน้าตาตอบจนจะเหลือแค่หนังหุ้มกระดูก เสื้อผ้าขาดหลุยเหมือนผ่านสนามรบมานับครั้งไม่

    ถ้วน ซึ่งขณะนี้มือผอมๆของเขาโดนรัดกุมด้วยมือหนาใหญ่ของใครบ้างคน ผมไม่อาจรู้ได้เพราะเขา

    ใส่วูดปิดหน้าปิดตาจนดูหน้ากลัวและร่างสูงๆของเขาก็เป็นที่สะดุดตาอยู่แล้วปนกับการกระทำของ

    เขาทำเอาแทบจะติดป้ายประกาศ

    “นายทำอะไรเขาน่ะ”ผมพยายามทำตัวเป็นพระเอกเพื่อจะช่วยคนที่โดนรังแกและไม่มีทางสู้

    “นี้ เธอยังรู้ตัวใช่ไหม ว่าเจ้าหมอนี่มันล้วงกระเป๋าเธออยู่”ชายร่างสูงพูดพร้อมโยนกระเป๋าตัง

    ของผมมาให้ผม

    “ใช่ที่ไหนเล่า!”ชายร่างผอมตะโกนเสียงดัง

    “ฮึ! นี่อะไรล่ะ”ร่างสูงแกะมือของชายร่างผอมออก สิ่งที่ตกลงมาจากมือนั้นคือสร้อยรูปเขี้ยว

    พอผมเห็นอย่างนั้นไม่ต้องรอให้ใครจัดการมืออันเรียวงามของผม (หลงตัวเองไปไหมฮะ!)ได้สวิงกิ้ง

    เหวี่ยงไป ณ แสนไกลกระทบหน้าของชายร่างผอมอย่างจัง เล่นเอาร่างนั้นทรุดกับพื้นโดยที่มือของ

    เขายังโดยร่างสูงจับอยู่

    “แก! กล้ามาน่ะ นั้นมันของสำคัญของฉันเลยน่ะ เจ้าบ้าเอย อยากได้เงินนักใช้ไหมเอาไป๊”

    ผมโยนกระเป๋าตังที่ร่างสูงเพิ่งจะคืนให้เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว ร่างผอมใช้มืออีกข้างหยิบกระเป๋าตังของ

    ผมขึ้นมากอดไว้และสลัดมือออกจากการกุมของร่างสูงและวิ่งจากไป ผมหยิบสร้อยที่แม่ให้มาสวมที่

    คอและก้มหยิบกระเป๋าที่อยู่บนพื้น จากนั้นเหตุการณ์เป็นอย่างไรไม่รู้ เพราะผมรู้สึกว่าเสียเวลากับ

    พวกบ้าบอนี้มานานมากแล้วนี้ก็ไกล้เวลามอบตัวและประกาศห้องเรียนแล้วถ้าไม่รีบไปผมได้ตายแน่ๆ

     

    ผมยืนอยู่ในแถวที่มีเด็กอายุรุ่นราวคาวเดียวกับผม ผมหันซ้ายหันขวาหาพ่อกับแม่อย่าง

    ลอกแลกเพราะการมอบตัวต้องมีผู้ปกครองมายืนยันด้วยและคิวของผมก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ผมรู้สึก

    ร้อนรนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อไรจะมาเนี่ย อ๊ากกกก 

    อยู่ดีๆก็มีคนมาจับไหล่ผม การกระทำนั้นทำให้ผมสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ แต่ทำไมก็ไม่

    รู้อยู่ดีๆมือที่เคยจับกระดาษของผม มันปล่อยกระดาษและจับมือที่อยู่บนไหล่จากนั้นก็เหวี่ยงไปในท่า

    ทุ้ม ดีน่ะที่ข้างหน้าผมไม่มีใครเพราะมันถึงคิวผมแล้ว แต่เรื่องนั้นไม่สำคัญเรื่องที่สำคัญคือผมทุ้มใคร

    หลังจากที่หลับหูหลับตาทุ้มผมลืมตาขึ้นมามองคนที่อยู่บริเวณเท้าของผมคนคนนั้นคือเจ้าหน้าที่

    หรืออะไรสักอย่าง เพราะเข้าติดป้ายคำว่า “ผู้ดูแล” เอาไว้ตรงหน้าอกด้านขวา

    “อูยยยย ”ผู้ชายที่ผมทุ้มร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

    “ต๊าย ตายยย เจ้าแฟง แกไปทำเขาทำไมกันหึ?”แม่ถามผมด้วยคว่ามผิดใจ แต่ใยมือถึงมา

    เขกกะโหลกผมได้ล่ะ YY

    “กะ ก็แฟงตกใจนี้แม่ ใครให้มาตอนรีบๆเล่า”ผมพูดพรางกวาดสายตามองไปรวบๆเพราะรู้สึก

    เหมือนบรรยากาศมันเงียบๆไงชอบกล

    “มะ ไม่เป็นไรครับ คุณแม่”ผูชายที่นอนนิ่งเมื่อกี้ลุกขึ้นมาโดยใช้มือผมเป็นที่ยึดเพื่อดึงตัวเอง

    ขึ้น

    “จะไม่เป็นอะไรได้ยังไง ดูซิเลือดเติมเลย”พ่อพูดอย่างตกใจเล็กๆ แต่หน้าก็ยังไม่ไหวติ่งจาก

    อาการหน้านิ่ง

    “หะ? เลือด?”ผู้ชายคนนั้นพูอย่างตกใจ และเอามือคลำของเหลวที่ไหวออกจากหัวกำลังเช็ด

    มันแล้วเอามาดู ทันใดนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งใส่ชุดเหมือนกันแต่ตัวใหญ่กว่าจนผมต้องแหงนหน้ามอง

    “ต้องขอโทษจริงๆครับ ที่ทางเราเสียมารยาท”ผู้ชายคนนั้นพูดกับทางผมพรางปิดตาของ

    ชายหัวแตกและลากจากไปในที่สุด

    “เชิญค่ะ!!”คนที่ดูท่าจะเป็นครูเรียกผม้พราะโต๊ะของแกว่างอยู่น้อยแล้วรอแค่ผมไปมอบตัว

    เท่านั้น

    “ครับๆ”

    ผมเดินตรงไปที่โต๊ะของเขายืนต่อหน้าและยืนเอกสารให้โดยที่มีพ่อกับแม่ยืนขนานนาบข้างๆ

    ผู้หญิงที่ผมเหมารวมเป็นครูเสร็จเอกสารและหันหน้าไปดูพ่อกับแม่ ผมกันไปมองพ่อกับแม่ที่เข้า

    พยักหน้าเหมือนตอบรับอะไรบ้างอย่างจากแม่และพ่อ

    “เอาลองถือซิ”ครูคนนั้นยืนหินลักษณะกลมๆให้ผม ผมรับมาอย่างงงๆ “ทีนี้ก็ลองนึกว่านาย

    ต้องสู้และถ้านายไม่สู้นายจะต้องตาย”

    ผมพยักหน้ารับอย่างงงๆและทำอย่างที่ครูบอก ก่อนแรกผมหลับตาจากนั้นเคยๆทำใจให้

    โล่งๆก่อนที่จะนึกว่าตัวเองอยู่ในสงครามที่ตนไม่มีวันชนะ แต่การทำอย่างนั้นกลับโดนขัดด้วยเสียง

    อืออึงของคนรอบๆตัวผม ผมลืมตาขึ้นเพื่อดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น มองซ้ายขวาก็ไม่มีอะไรผิดปกติ เลย

    กลับมามองหน้าครูต่อ ทำไมกันครูถึงได้ดูอึ่งๆ

    “เอ่อ...จากนั้นก็ทำเหมือนเมื่อกี้แต่ให้นึกว่าอยากปกป้องใครสักคนถ้านายไม่ทำเขาจะตาย”

    ผมทำตามที่ครูบอกผมหลับตาและใช่ผมก็ต้องนึกหน้าพ่อแม่ที่ตกอยู่ในอันตราย อยู่ๆน้ำตาผมก็ไหล

    ออกมาโดยไม่รู้ตัวทำให้ผมต้องลืมตาขึ้นเพื่อเช็ดมัน จากที่เช็ดเสร็จก็มองไปรอบๆเห็นทุกคน

    หลับตากันหมดไม่เว้นแม้กระทั้งพ่อกับแม่

    “ยินดีด้วยคุณได้เข้าเรียนที่ที่ดูกว่าโรงเรียนนี้”ผมไม่เข้าใจสิ่งที่ครูพูด สิ่งที่ทำได้คือหันไป

    มองหน้าแม่ที่ตอนนี้ร้องไห้เป็นเผาเต่า เต่าเผา อยู่ที่ไหล่ของพ่อ

    “แม่เป็นอะไรไป”ผมถามด้วยความเป็นห่วง

    “อึก แฟง เราคงต้องไกลกันแล้วล่ะลูกรัก..อึก อือออ”แม่สะอึกสะอืนใส่หน้าผมก่อนจะไป

    กอดพ่อ

    “งั้นขอเชิญทางนี้เลย”ครูชี้ไปที่ทางไหนึ่งที่เป็นประตูขนาดใหญ่สีดำทะมึนที่มีคนคล้ายๆคน

    เปิดประตูอยู่”เชิญเข้าไปด้านในได้เลย เดี๋ยวสมภาระเราจะส่งไปให้ทีหลัง”

    “คะ ครับ”ผมหันไปมองหน้าแม่ที่ยืนโบกมือให้ผมทั้งน้ำตา ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินไป

    ที่ประตู หยุดเพื่อให้คนเฝ้าประตูเปิดประตูให้ หลังจากที่มันเปิดออก ผมก็เขาไปด้วยอาการมึนงง



















    ---------------------------------------
    มุมไรเตอร์

    วิจารณ์บ้างจิ อยากรู้ *3*  จะได้ปรับปรุง น้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×