คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : โอคกลับบ้าน
หลายเดือนผ่านมา
หลังจากที่จบเหตุการณ์ในภาคแรก เนื่องจากซอมบี้มาสเตอร์ได้สร้างความเสียหายไปทั่วทั้งเกม ทางบริษัทจึงได้ขอทำการปิดเซิฟเวอร์ 1 อาทิตย์ เพื่อบำรุงรักษาสิ่งก่อสร้าง ๆ แล้วยังนำแพทใหม่เข้ามาอัพเดทให้กับในเกมด้วย
ซึ่งแพทดังกล่าวได้มีชื่อว่า ศาสตราครองใต้หล้า เป็นการอัพเดทข้อมูลของเหล่าอาวุธที่ทรงพลังที่สามารถทำให้ผู้ที่ครองครองมันมีขุมพลังที่สามารถครองพื้นพิภพได้เลยทีเดียว
แล้วแพทใหม่นี้ยังได้เพิ่มความโหดของเหล่าอสูรระดับบอสเข้าไปอีกด้วย เนื่องจากทางทีมงานผู้พัฒนาร่วมประชุมกันแล้วจากการนำข้อมูลของผู้เล่น 3 คนมาร่วมประมวลแล้วก็ได้เห็นว่า ถ้าหากครอบครองอาวุธดี ๆ บอสในเกม ๆ นี้ก็ไร้ความหมายไปเลยน่ะซิ จึงได้ทำการปรับเปลี่ยนระดับ ของอสูรทั้งหมดภายในเกมให้แทนที่จะเป็นระดับ SS-F โดยปกติทั่วไปแบบผู้เล่นอีกต่อไปแล้วให้มาเป็นระดับเลเวลแทน
แถมระดับของเหล่าผู้เล่นต่าง ๆ ในเกมก็ได้มีการปรับระดับให้เป็นตัวเลข โดยที่มีระดับมากที่สุดที่ 1000 เลยทีเดียว โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้จะนำเอาค่าประสบการณ์จากฐานข้อมูลต่าง ๆ ของผู้เล่นตั้งแต่ที่เริ่มเล่นเกมมามาคำนวณกับระบบการคิดเลเวลแบบตัวเลขนี่เอง
ส่วนเรื่องระดับต่าง ๆ ของไอเทมนั้นจะยังคงเดิมเอาไว้อยู่คือ SS-F
พริบตาแรกที่มีการเปิดให้บริการเกมหลังจากที่อัพเดทแพทเข้ามา ทำให้มีเหล่าผู้เล่นที่สนใจในระบบใหม่ ๆ ขึ้นมาอีกด้วย และที่ขาดไปเสียไม่ได้ก็คือ เหล่ากิลใหญ่ ๆ ภายในเกมต่างระดมกำลังออกตามล่าหาตำนานแปลก ๆ ในเกม เพื่อหวังที่จะครอบครองศาสตราครองพิภพ
ณ บ้านชานเมืองแห่งหนึ่ง
“ซ่า ๆ ๆ ๆ” ในบริเวณดอกไม้หน้าบ้านหลังหนึ่งโอคกำลังยืนรดน้ำต้นไม้อย่างสบายอกสบายใจ
“ดีนะที่มีปิดอัพเดทแพทเกมหลายวัน”
“ไอ้เราเลยมีเวลากลับบ้านซะยาวเลยนา” ในระหว่างที่เขากำลังรดน้ำต้นไม้อยู่นี้ ก็ได้มีหญิงชราวัย 80 เศษ ๆ แต่ดูเหมือนว่ารูปร่างของ เธอ จะหาได้แก่ตามอายุไปเลยแม้แต่น้อย
“ว่าไงตัวแสบวันนี้ตื่นก่อนยายเลยนิ” หญิงชราทักทายโอคยามเช้าอย่างคุ้นเคย
“อรุณสวัสดิ์คร้าบคุณยาย”
“โอคอยากให้ยายนอนให้พออ่ะ เหะ ๆ ก็เลยว่าสายกว่านี้หน่อยแล้วโอคถึงค่อยไปปลุกยายไปวัด” หลายชายตัวดียิ้มแห้ง ๆ ออกมา เพราะสภาพของเขาในตอนนี้มันเหมือนกับกำลังทำเรื่องผิดสัญญาอย่างไงอย่างงั้น
อันที่จริงนี่ก็คือเวลาปิดเทอมของโอค ซึ่งโอคที่ตอนแรกก่ะว่าจะใช้เวลาทั้งหมดของช่วงปิดเทอมตามหาเพื่อนรักของเขาต่อ แต่เขาก็ต้องคิดได้เช่นกันว่าตัวเขาเองก็ยังมีครอบครัวอยู่เช่นกัน แถมตัวเขามันก็เล่นไม่กลับบ้านมา 3 ปี กว่า ๆ แล้วเห็นจะได้ เขาจึงพักเรื่องการตามหาเพื่อนรักไปก่อนแล้วกลับมาอยู่บ้านนี่เอง
และเรื่องที่ทำให้โอคกำลังหัวเราะแห้ง ๆ อยู่นี่ก็คือ วันนี้เขาได้สัญญากับคุณยายของเขาเอาไว้ว่าจะไปวัดใกล้ ๆ บ้านเป็นเพื่อนคุณยาย แต่เขายังไม่อยากจะไปปลุกยายของเขาให้ตื่นมาพร้อมเขานี่ซิ ก็เจ้าตัวเล่นตื่นซะ ตี 5 ครึ่ง เพื่อมาเตรียมทำอาหารถวายพระ ซึ่งพอทำอะไรเสร็จสรรพ ก็ยังเหลือเวลาอีกตั้งเยอะเขาก็เลยมายืนรดน้ำต้นไม้ด้วยเหตุนี้
“โอครดน้ำต้นไม้เสร็จพอดีเลยอ่ะยาย”
“เราไปกันเลยไหมครับ” โอคเดินไปเก็บสายยางให้เข้าที่แล้วเดินไปกอดยายของเขาจากด้านหลัง
“แต่ถึงโอคไม่ถามยายก็คงพร้อมแล้วใช่ไหมล่า”
“ฮั่นแน่ใส่น้ำหอมซะด้วยยี่ห้อใหม่หรือเปล่าคร้าบ” ก่อนที่จะเจอมะแหงกใส่กลางหัวเจ้าตัวก็รีบผละจากการกอดคุณยายไปยังโรงเก็บรถ เพื่อนำรถยนต์ประจำบ้านหลังนี้ขับออกมารับคุณยายของเขาแล้วทั้งคู่ก็ตรงไปยังวัดใกล้ ๆ บ้านในทันที
“เดี๋ยวยายจะเข้าไปฟังพระเทศน์ซะหน่อย โอครอยายไหวไหมลูก” ยายของโอคถามเขาขึ้นมาด้วยความเกรงใจอยู่นิด ๆ เพราะ คุณยายเองก็รู้ว่าหลายชายตัวดีก็เหมือนกับวัยรุ่นทั่ว ๆ ไปนี่แหละที่จะให้เข้าไปนั่งขาแข็งนิ่ง ๆ นาน ๆ ก็คงไม่ไหว
“ไม่เป็นไรคร้าบยาย”
“เดี๋ยวโอครอตรงนี้ก่อนก็ได้” เจ้าตัวดีกล่าวจบก็เดินหันหลังกลับไปทันที หลังจากที่ส่งยายของเขาเข้าโบสถ์ไปแล้ว
“จะปีใหม่แล้วซินะ”
“ทำบุญหน่อยดีกว่าไหมเนี่ยเรา” โอคเดินทอดน่องไปเรื่อย ๆ เขาก็พบกับตู้รับบริจาคสร้างโลงศพ และก่อนที่เขากำลังจะใส่เงินลงไปโอคก็ได้แต่ขอพรในใจเอาไว้ว่า
‘ขอให้สุขภาพของคุณยายแข็งแรงอยู่กับเราไปนาน ๆ ’ หลังจากที่ทำบุญจนสุขใจแล้วโอคก็เดินไปหาอะไรทานที่ร้านอาหารใกล้ ๆ วัดแห่งนี้
“คุณน้าคร้าบ ขอผัดไก่ 3 รสราดข้าวนะครับ” โอคสั่งอาหารกับเจ้าของร้านอย่างคุ้นเคย
“อ้าวเจ้าโอคได้ยินยายเพลินบอกมาว่าไปเรียนในตัวเมืองนี่”
“ช่วงนี้ปิดเทอมแล้วเหรอไงเราน่ะ ถึงได้พายายเพลินมาวัดได้” เจ้าของร้านซึ่งเป็นสาวร่างท้วมเอ่ยปากถามโอคด้วยท่าทางคุ้นเคย
“ใช่แล้วน้าจุ๊”
“แล้วข้าวผมอ่ะ” โอคยิ้มตอบกลับไปก่อนจะถามเร่งอาหารของเขา
“รีบจังวุ้ยเจ้าโอค”
“มาช่วยน้าผัดหน่อยไหมล่ะ” เจ้าของร้านถามโอคด้วยรอยยิ้มแบบมีเล่ห์นัย
“ง่ะ”
“แล้วยัยเจนไปไหนล่ะนั่นไม่มาช่วยน้าจุ๊ดูร้าน” บุคคลที่โอคกล่าวถึงก็คือลูกสาวเพียงคนเดียวของเจ้าของร้านอาหารแห่งนี้
“อ๋อลูกสาวน้าน่ะเหรอ”
“เอาอาหารไปส่งหลวงพ่อท่านน่ะ”
“นี่เรารีบไปไหนหรือเปล่าล่ะ อีกไม่นาน เจนลูกน้าก็กลับมาแล้ว จะได้ให้ช่วยสอนการบ้านปิดเทอมเจนมันหน่อย”
“= =”
“อะไรเนี่ย ข้าวก็ให้ทำเอง ยังจิกหัวใช้สอนการบ้านลูกสาวอีกวุ้ย” โอคทำหน้าเซ็ง ๆ ในระหว่างที่ตัวเขากำลังผัดอาหาร (ตู) สั่งเองทำเอง
“เดี๋ยวก็คิดค่าเสียหายเป็นลูกเขยบ้านนี้เลยเป็นไง” แน่นอนคำพูดของโอคนั้นเขามักจะกล่าวเล่น ๆ กับ น้าจุ๊ของเขาเสมอ เพราะเขารู้ว่า น้าจุ๊เจ้าของร้านอาหารตามสั่งแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องหวงลูกสาวมากขนาดไหน
“อ๋อเหรอออออออออออ”
“แต่คงอีกนานล่ะจ๊ะนายโอคเพราะลูกสาวน้าเพิ่งเรียนม.ปลายอยู่เลย”
“โอครอได้ไหมล่ะจ๊ะ” เจ้าของร้านแกล้งถามเสียงยานคาง เพราะตอนแรก ๆ เจ้าแสบนี่มาคอยล้อคอยแหย่มันก็รำคาญ ๆ อยู่หรอกนะ แต่ไป ๆ มา ๆ เธอชักจะเริ่มชินเข้าไปแล้ว
“แต่เห็นโอคกลับมาร่าเริงได้แบบเดิมก็ดีแล้วล่ะ”
“เพราะตอนแรก ตอนไอ้เจ้าจอนนี่หายตัวไปดูแกทำหน้าอย่างก่ะโลกจะแตกพาคนอื่นเค้าเป็นห่วงไปหมดรู้ไหม” เจ้าของร้านแกล้งถาม ๆ ดู เพราะเธอก็เป็นห่วงโอคเอามาก ๆ พอควร
“ว่าแต่ไปทำอะไรมาล่ะถึงได้คิดได้แล้ว” พอเจ้าของร้านถามเสร็จโอคก็ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า
“ไปเล่นเกมมา”
“โหไอ้โอคโตจนหมาเลียก้นไม่ถึงแล้วยังเล่นเกมเป็นเด็ก ๆ ไปได้” แน่ล่ะแม้โอคจะขี้เล่นแบบไหนก็ตาม แต่เธอก็รู้ว่าโอคมันตอบกลับมาตามความเป็นจริงแน่นอน เธอจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าเกมสมัยนี้มันเป็นคนอมทุกข์ให้กลับมาร่าเริงแบบเดิมได้ไง
“ไว้ลองเล่นดูก็รู้เองแหละท่านแม่ยาย”
“ส่วนตอนนี้ท่านลูกเขยหิวแล้วของไปนั่งทานก่อนแล้วกันนะ” โอคนึกขำ ๆ กับใบหน้าของน้าจุ๊คนนี้เมื่อเขาบอกเหตุผลออกไป
“เคร๊งงงงงงงงงงงงงง” แต่ยังไม่ทันไรเสียงข้าวของตกลงพื้นทำให้เขาหันไปมองยังต้นเสียง ก็พบว่าลูกสาวสุดหวงของเจ้าของร้านนี่เองที่ทำปิ่นโตสแตนเลสตกพื้นกระจาย
“น้าไม่เกี่ยวนะเว๊ยเจ้าโอครับผิดชอบคำพูดตัวเองด้วยล่ะ”
“หุหุหุ” เจ้าของร้านแกล้งเดินไปรับรายการอาหารจากโต๊ะข้าง ๆ โดยปล่อยให้โอคมันรับผิดชอบคำพูดของตนเองต่อลูกสาวของเธอ
“ชิ่งกันเลยวุ้ย น้าจุ๊แกน่าจะได้โล่แม่ดีเด่นแห่งปีนะเนี่ย”
“-*-“
“เอ่อ....เจนอรุณสวัสดิจ้า” โอคแกล้งยกมือทักทายสาวน้อยม.ปลายผมยาวแต่มัดเอาไว้เรียบร้อยด้านหลัง และด้วยใบหน้าที่ขาวเนียนออกไปทางหมวย ๆ ของเธอนี่แหละจึงทำให้ใครต่อใครมองก็รู้ว่า เจนคนนี้โตมาต้องเป็นสาวสวยหมวยน่ารักมากแน่ ๆ
“คะค่ะ”
“สวัสดีค่ะพี่โอค มหาลัยในเมืองปิดเทอมแล้วเหรอค่ะ” เจนเอ่ยปากทักทายโอคกลับไปด้วยท่าทางตะกุกตะกักพร้อมด้วยใบหน้าแดงแจ๋ที่เธอได้ยินโอคพูดแหย่แม่ของเธอเล่นเมื่อครู่
“น้าจุ๊น้ำอัดลมขวดนะ” โอคเห็นสาวน้อยยังไม่หายเกร๊ง เขาเลยเดินไปหยิบขวดน้ำอัดลมแล้วตักน้ำแข็งเปล่ามาอีก 1 แก้วรินน้ำใส่แก้วแล้วยื่นไปให้เจน
“โดนน้าจุ๊ใช้ไปส่งข้าวให้หลวงพ่อคนจะเหนื่อยแย่เห็นหน้างี้แดงแจ๋เชียวอ๊ะพี่เลี้ยงน้ำเรา”
“นั่ง ๆ” แม้เจนจะเกิดอาการเขินอยู่เล็กน้อยก็ตามแต่เธอก็ยอมนั่งแต่โดยดี โดยที่เธอเอาแต่มองหน้าโอคที่กำลังจ้วง ๆ ๆ ๆ ข้าวอย่างไม่สนใจสายตาใคร
แน่นอนเจ้าตัวแสบก็พอรู้ว่าถูกสาวน้อยจ้องหน้าอยู่แต่เขายังไม่สามารถคิดคำขอโทษดี ๆ ให้ได้เลยเนียนกินข้าวต่อไป
“โป๊กกกกกกกกกกกก”
“จ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
“เจ็บ ๆ ๆ ๆ”
“น้าจุ๊ทำไรเนี่ยเอากระทะมาฟาดหัวกันได้” โอคเอามือมาลูบหัวตัวเองที่โนขึ้นมาเล็กน้อย
“ไม่ต้องมาเนียนเจ้าโอค”
“รู้หรอกนะว่าหาคำขอโทษลูกสาวน้าไม่ได้”
“เพราะฉะนั้นมาสอนการบ้านปิดเทอมยัยเจนแทนคำขอโทษก็แล้วกัน” เจ้าของร้านกล่าวคำขาด โอคซึ่งเห็นว่าก็ดีเหมือนกันจึงพยักหน้ารับคำช้า ๆ
“ถ้างั้นเดี๋ยวผมมาอีกที” โอคกล่าวจบเขาก็จ่ายเงินค่าอาหารและน้ำอัดลมก่อนจะเดินออกไปจากร้านเพราะนี่ก็ได้เวลาที่ยายของเขาจะฟังเทศน์เสร็จพอดี
“แล้วเจอกันนะเจน” หลักจากโอคเดินจากไปนานพอควรแล้วสาวน้อยเจนก็ได้แต่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยทีเดียว
“พี่โอคกลับมาร่าเริงเหมือนเดิมแล้วนะค่ะคุณแม่”
“ไม่รู้ว่าไปทำอะไรมากันนะ. . . .” เจนหันไปคุยกับแม่ของเธอ
“เห็นโอคมันบอกแม่ว่ามันไปเล่นเกมมาน่ะลูก แต่แม่ไม่รู้นะว่ามันเป็นเกม ๆ เดียวกับที่เจนเล่นหรือเปล่า”
“หิวหรือยังเจนเดี๋ยวแม่ทำอะไรให้กิน”
“ค่ะคุณแม่”
“เอาไว้ค่อยถามพี่โอคดีกว่า ว่าพี่โอคเล่นเกมสัประยุทธ์ออนไลน์ไหม” แล้วเจนก็เดินไปช่วยแม่ของเธอเสริฟอาหารให้กับลูกค้า
กลับมาที่โอคพอเขาส่งยายเข้าบ้านได้แล้วด้วยความรู้สึกสงสัยเอามาก ๆ ว่าทำไมอยู่ ๆเขากลับถูกเด็กแว๊นแถว ๆ นี้คนหนึ่งขับมอไซด์ตามมาแอบจอดอยู่แถว ๆ หน้าบ้าน
“งั้นเดี๋ยวโอคขอออกไปซื้อของก่อนนะครับยาย พอดีเมื่อกี้โอคลืมไปสนิทเลยเหะ ๆ” พอโอคเดินออกมาจากบ้านของเขาไกลพอประมาณแล้วเขาก็เดินตัดพุ่มไม้ใกล้ ๆ เพื่อข้ามเข้าไปในสวนสาธารณะทันที แล้วเขาก็เดินไปนั่งเล่นชิงช้าซะอย่างงั้น
‘รีบ ๆ โผล่หัวมาเร็ว ๆ หน่อยดิเว๊ยร้อน’ โอคบ่นในใจเพราะในตอนนี้เป็นเวลา 10 โมงกว่า ๆ แล้วจึงไม่แปลกเลยว่าแสงแดดจะเริ่มร้อนขึ้นมาบ้างแล้ว
“เห้ยนายน่ะ” และในที่สุดเขาก็พบกับคนที่สะกดรอยตามเขามาจนได้ โดยผู้ที่สะกดรอยตามเดินคาบบุหรี่มาด้วย
แต่โอคเห็นสภาพของมันแล้วเขาแทบอนาถใจไปไม่น้อย เพราะนี่ขนาดเด็กหนุ่มอายุน่าจะประมาณม.ปลายยังทำตัวแบบนี้แล้ว ชะรอยว่าอนาคตอาจดับวูบได้ถ้าเกิดไม่โดนผู้ใหญ่ที่ดีอย่างเขา(?) คอยแนะนำให้ไปยังทางที่ถูกที่ควร
“ว่า ?” โอคเงยหน้าไปมองเด็กหนุ่มที่กำลังพ่นควันบุหรี่ออกมาจากปากแล้วมองเขาแบบหาเรื่อง
“นายเป็นอะไรกับ เจน” เด็กหนุ่มถามโอคห้วน ๆ
‘อ๋อ เจ้าเกรียนนี่แอบชอบเจนอยู่นี่เองแฮะ’ โอคเริ่มจะเข้าใจอะไรขึ้นมาแล้ว
“เป็นพี่ชายที่พลัดพรากกันมา 10 ปี แล้วเพิ่งรู้ว่าตัวเองมีน้องสาวเลยมาหา” เขาแกล้งลองตอบมั่ว ๆ ออกไปดู
“แกอย่ามาฝอย ฉันได้ยินนะเว๊ยว่าแกจะมาจีบเจน”
“ขอเตือนดี ๆ นะว้อย ถ้าไม่อยากเจ็บตัวเลิกยุ่งกันเจนซะ” เด็กหนุ่มกล่าวขมขู่โอคด้วยท่าทางก้าวร้าว
“ควับ” แต่อยู่ ๆ โอคกลับโบกมือเรียกเด็กหนุ่มให้เดินเข้ามาใกล้ ๆ มีหรือวัยรุ่นเลือดร้อน แถมยังมั่นใจตัวเองแบบสุด ๆ อย่างเด็กหนุ่มจะกลัวว่าโอคเล่นลูกไม้อะไรเขาจึงเดินเข้าไปหาอย่างไม่กลัวเกรง
“เห็นไหมนี่อะไร” พอเด็กหนุ่มเดินมาถึงโอคแล้วเขาก็ชี้ตัวเองสลับกับพื้นดินด้านหน้า
“แกอย่ามาเล่นมุขดักควายมีอะไรก็รีบ ๆ ว่ามา” เด็กหนุ่มที่ไม่เข้าใจการกระทำของโอคแหกปากหาเรื่องทันที
“ใจเย็นพ่อคุณ”
“เอาใหม่นะดูตามนิ้วของฉันช้า ๆ นะ” โอคลองทำอีกครั้งโดยการชี้นิ้วไปที่ตัวเอง โดยครั้งนี้เด็กหนุ่มก็มองตามนิ้วของโอคที่ชี้มายังตัวเอง แล้วพอเขาชี้ที่พื้นอีกครั้งเด็กหนุ่มก็ก้มมองตาม
“ + +” ทันใดนั้นแววตาของโอคก็เกิดประกายขึ้นมาแล้วเขาก็รีบลงมือหวดมีขวาของเขาฟาดใส่หัวของเด็กหนุ่มเต็มแรง
“เพี๊ยะ !!!”
“โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย” เด็กหนุ่มร้องลั่นอย่างเจ็บปวด แถมพอเขาเงยขึ้นมาอโมโหแล้วเตรียมพุ่งหมัดใส่โอค แต่ก็นับว่าโอคไวกว่าเพราะโอคได้โยกชิงช้าไปด้านหลังแล้วเหวี่ยงมาด้านหน้ากระโดดถีบขาคู่ใส่ยอดอกของเด็กหนุ่มอย่างแรงไปเต็ม ๆ
“ผั๊วะ”
“อ๊อกกกกกกกกกกกกกกก” เด็กหนุ่มกลิ้งไปตามแรงถีบของโอคแล้วล้มลงไปกลิ้งคลุกฝุ่นกับพื้นด้วยอาการจุก ๆ
“หนอย............แก”
“เล่นลอบกัดกันนี่หว่า”
“เหว๊ออออออออออ”
“ตึงงงงงงงงงงงงงงง” แต่แล้วเด็กหนุ่มกลับร้องเสียงหลงอีกครั้ง เพราะโอคจงใจกระทืบเท้าใส่พื้นใกล้ ๆ ใบหน้าของมัน
“อะไรฟร่ะ”
“ไอ้เราหรือก็นึกว่าจะเจ๋ง”
“เห็นทำตัวอย่างก่ะเจ้าถิ่น ที่แท้ก็กากสุด ๆ” โอคยืนกอดกดยิ้มเย้ยขึ้นมา
“ไอ้น้องพี่จะบอกอะไรให้นะถ้าริอาจอยู่ในวงการนี้ล่ะก็ อย่าเผลอไม่งั้นแกจะโดนยิ่งกว่าลอบกัดอีก เข้าใจ๋” โอคถามเด็กหนุ่มย้ำ
“อะอืม” เด็กหนุ่มรู้ตัวดีว่าขืนหากเถียงอะไรโอคตอนนี้เขาโดนหมอนี่อัดยับแน่ เพราะแรงจากการโดนตบเกรียน และ ถีบอัดยอดอกเมื่อกี้แล้ว ชายตรงหน้าเก่งเรื่องต่อสู้พอควร
“ไอ้น้อง นายเรียนห้องเดียวกับ เจนใช่ไหม” โอคลองถามออกไปดู
“อืม” เด็กหนุ่มพยักหน้ารับตอบเขาขึ้นมา
“แล้วแอบชอบหนูเจนมานานหรือยัง” เพียงแค่โอคถามจบเด็กหนุ่มก็เกิดอาการหน้าแดงขึ้นมาอย่างปกปิดไม่มิด
“เหอะ ๆ”
“เพราะนายทำตัวแบบนี้ไงล่ะ น้าจุ๊เขาถึงไม่ยอมให้นายเข้าใกล้ลูกสาวเขาซักที”
“เอางี้ถ้านายรับปากว่าจะปรับปรุงตัวฉันอาจจะยอมเป็นสะพานเชื่อมความรักให้กับนายก็ได้สนไหม” เพียงแค่โอคกล่าวจบเด็กหนุ่มก็รีบเงยหน้าขึ้นมามองโอคทันที
และด้วยอะไรก็ตามในตอนนี้ดวงอาทิตย์กำลังฉายอยู่ด้านหลังของโอคพอดิบพอดีเป๊ะ ๆ จนทำให้เด็กหนุ่มเผลอนึกไปตามความฟุ้งซ่านว่า ในตอนนี้ได้มีพระเจ้าองค์หนึ่งลงมาโปรดหนทางรักอันมืดมนของเขาแล้ว
ความคิดเห็น