คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : วิวาท
2
“เฮ่ เฮ้”
“ ...รัน”
“ รัน ทางนี้” เสียงร้อยเรียกทำให้รันตื่นจากภวังค์
“ทางนี้จ๊ะ” เสียงมาเรียนั่นเองที่เรียกมาแต่ไกล รันโบกมือทักทายตอบมาเรีย ที่ตอนนี้ยืนอยู่บริเวณด้านหน้าห้องอาหารของมหาวิทยาลัย
“ยายมา”
“แหม ...สายเลย” รันยกข้อมือสวยขึ้นดูนาฬิกาด้วยท่าทางเก้อๆที่ปล่อยให้มาเรียต้องรอนาน
“ไม่หรอกรัน”
“ นี่ฉันก็พึ่งมาเหมือนกัน ”
“ให้ตาย”
“เธอไม่หรอกว่าวันนี้ฉันเจอกับอะไรมาบ้าง” มาเรียบ่นอุบ
รันมองหน้าญาติสาวด้วยความอยากรู้ อะไรที่เป็นสาเหตุให้ใบหน้าสวยของญาติเธอต้องยุ่งเหมือนยุงตีกันได้ขนาดนี้ คิ้วสวยได้รูปโค้งแทบชนกัน
“ให้ตายมันน่าโมโหจริงๆ” มาเรียยังไม่หยุดโวย
“ เธอรู้ไหมรัน”
“ฉันน่ะต้องเจอกับไอพวกเด็กปีศาจที่มาในคราบเทพบุตรรูปหล่อล่ะเธอเอ้ย” รันพยักหน้าตาม
“แล้วไง” รันถามด้วยความสนใจ
“ ก็นะ”
“แถมผู้อำนายการยังเรียกฉันเข้าพบอีก”
“เธอทายสิว่าเรื่องอะไร”
“เรื่อง...” รันถาม
“ฉันล่ะจะบ้าให้ได้”
“รันพวกเขาเข้าข้างไอ้พวกเด็กขี้เต๊ะบ้านั้น”
“ยายมามันเรื่องอะไรกันแน่ที่เธอจะบอกฉัน”
“ฉันล่ะงงเรื่องที่เธอพูดอยู่นะเนี่ย” มาเรียเม้มปากสวยได้รูปแน่น
“ ฉันไม่สงสัยเลยทำไมต้องเข้าข้างเด็กบ้าพวกนั้นก็นะเป็นถึงลูกหลานมหาเศรษฐีระดับโลกนิ”
“เธอเอ้ย... แถมเห็นว่าเป็นนักธุรกิจไฟแรงระดับแนวหน้าเลยล่ะเธอ หรือจะระดับโลกดีล่ะ ให้ตายฉันอยากจะบ้าตายจริงๆเล้ย” มาเรียทำท่าโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ บ่นทอไม่หยุด
“ให้ตายเป็นถึงคนสำคัญ พวกนั้นมาทำอะไรที่นี่กันนะ ถ้ามาเรียนเห็นจะเชื่อยาก” มาเรียเบ้ปากอย่างไม่อยากเชื่อในเรื่องที่เธอเจอมาในวันนี้
“ให้ตายมาเรียฉันไม่เข้าใจ เธอช่วยหยุดโวยวายแล้วบอกฉันดีๆไม่ได้หรือไงเนี่ย”
“เอาน่าฉันเองยังไม่รู้เลยมันเรื่องอะไร” มาเรียพูดตัดบทเอาเสียดื่อๆ
“จริงสิ...เป็นไง” มาเรียถามขึ้น
“เรื่องเธอหรือของฉันล่ะยายมา” รันถามออกไปบ้าง
“โถ... โถ...”
“ให้ตายรัน เธอนี่เวลาโกรธยังสวย”
“ฮิ ฮิ”
“เลิกเล่นเลยยายมา”
“ก็เรื่องที่แม่บอกไงเล้า”
“อย่าบอกนะยายรันว่าเธอลืมมัน”
“ยารันอีกแล้วนะเธอน่ะฉันจะบ้าตายให้ได้เลย” มาเรียช่วยเตือนเพราะดูเหมือนญาติสาวแสนสวยผู้รักสันโดษของเธอที่ดูเหมือนจะลืมไปแล้วว่าเธอเคยบอกอะไรไป
“คุณป้า”
“ อ้อ”
“ ไปสิ”
“ไป ฉันไปอยู่แล้วล่ะ” รันพูดพลางเดินหยิบอาหารไปพลาง
“จริงสิมาเรีย ใครไปบ้างล่ะ”
“ก็พวกๆญาติๆเราเหมือนเดิมนั่นแหละเธอ”
“ เอ่อ”
“ทำไมมีอะไรอีกยายมา” รันถามญาติสาวของเธอ มันดูแปลกๆเหมือนลังเลที่จะพูดอะไรต่อ
“รัน”
“เห็นเธอต้องทำใจนะเพราะดูเหมือนงานนี้แม่จัดใหญ่กว่าทุกที เท่าที่ฉันรู้แขกที่แม่เชิญมาแต่ละคนเป็นนักธุรกิจมหาเศรษฐีระดับโลกเลยนะเธอ”
มาเรียหยุดตักอาหาร หันหน้ามาพูดกับรันด้วยท่าทางขึงขังเอาจริงเอาจัง เธอรู้ดีว่าญาติเธอคนนี้ไม่ค่อยชอบนักหรอกกับงานเลี้ยงอะไรพวกนี้ หล่อนจึงถูกตั้งฉายาว่าเจ้าหญิงผู้สันโดษ
“จริงสิเธอต้องตื่นเต้นแน่ๆถ้าฉันบอกว่าใครจะมาอีก”
“ใคร ...” เธอหยุดตักอาหารถามอย่างสงสัย
“นี่คีบ เอแคลร์ให้ชิ้นสิ”
มาเรียทำปากยื่นชี้ไปยังถาดใส่เอแคลร์สีเหลืองอร่าม รันคีบเอแคลร์สีเหลืองหน้าทานให้มาเรียและตัวเองอย่างละชิ้น
“ทายสิ”
“เอาน่ารีบบอกมาเถอะ เธอก็เล่นอยู่ได้”
“ก็คนในตระกูลเดิร์สเตนเบอร์ก ไง” รันชะงักเมื่อได้ยินชื่อเจ้าของสถาบันที่พวกเธอกำลังทำงานอยู่
“จริงสิ”
“อืมม์”
“ให้ตายยายมา นี่คุณลุงคุณป้ารู้จักกับคนในตระกูลเดิร์สเตนเบอร์กด้วยเหรอเนี่ย” รันตื่นเต้นที่ได้ยิน
“ก็งั้นสิ ...”
“แต่นะรันเจ้าของสถาบันจริงๆแล้ววันงานคุณแม่บอกไม่มาหรอก”
“อ้าว”
“ทำไมเป็นงั้นล่ะ”
รันหน้าสลด เธออยากเห็นว่าผู้ที่สร้างมหาวิทยาลัยนานาชาติที่น่าอยู่เคิร์สเตนเบอร์ก เป็นคนรูปร่างหน้าตาแบบไหน เธอพอได้ยินมาบ้างว่าเป็นตระกูลอันเก่าแก่ของกรีซ เพราะสถาปัตยกรรมที่ใช้ตกแต่งสถานที่ก็เน้นไปในทางรูปปั้นกรีซชะส่วนใหญ่ เป็นแบบที่เธอชื่นชอบมากทีเดียว
“ก็เธอคิดดูสิคนระดับนั้น”
“ เขามีธุรกิจระดับโลกเลยนะเธอ เขาคงจะมีเวลาอยู่หรอก”
“ อีกอย่างรู้สึกว่าเขาจะมีกันเพียงสองคนพี่น้องด้วย แถมหล่อระดับดาราหนังฮอลลีวูดทั้งคู่เลยล่ะเธอ”
รันพยักหน้าก็คงจะอย่างที่มาเรียพูดนั่นแหละเท่าที่เธอรู้มาก็ประมาณนั้น แต่เธอไม่ได้สนใจอะไรภายนอกมากนักหรอก นอกจากหนังสือวรรณกรรมที่เธอรักก็แค่อยากเห็นผู้ที่สร้างมหาวิทยาลัยที่น่าทึ่งอย่างเคิร์สเตนเบอร์กก็เท่านั้น เธอไม่ค่อยชอบอยู่ในโลกแห่งความจริงมากนัก
รันคิดว่าโลกที่เธออยู่มันสวยงาม แตกต่างจากโลกข้างนอกนี่เป็นไหนๆ ที่ดูยังไงก็แสนจะโหดร้าย ก็ดูอย่างพ่อแม่ที่เธอรักยังถูกโลกนี้พรากไป ไม่เห็นจะต้องให้เลือก เธอเลือกโลกแห่งความฝันที่แสนสวยของเธอดีกว่า
“จริงสิ ..”
“คนพวกระดับใหญ่โตพวกนั้นเหรอจะมางานเลี้ยงธรรมดา ธรรมดาอย่างนี้”
“ฮาๆๆ”
“เราเลยอดเห็นเจ้าของที่นี่เลยเนอะ” มาเรียหัวเราะ โบกมือไปมา
“เอาน่าคนระดับนั้นเขาไม่ให้เราเห็นตัวได้ง่ายๆหรอก” มาเรียบอกอย่างขอไปที
“รันไปนั่งที่เดิมเถอะ...”
“โน้นแน่ะ”
มาเรียชี้ไปยังสวน ด้านหลังห้องอาหารที่แสนจะเงียบสงบที่พวกเธอชอบไปนั่งทานอาหารกันเป็นประจำตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษา
“ได้”
“แต่เดี๋ยวนะมาเรีย ฉันขอชื้อน้ำก่อน...”
รันเตรียมวิ่งไปร้านน้ำ แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะเอาจานอาหารส่งให้มาเรียช่วยถือไว้แทน ร่างบางวิ่งปลิวหายเข้าไปภายในโรงอาหารของวิทยาลัย
“รันนั้นเธออย่าบอกนะว่ากินหมดนั่นน่ะ” มาเรียมองแก้วน้ำผลไม้ที่มีขนาดใหญ่มากที่ญาติสาวถืออยู่
“โถ่...มาเรียเธอก็น่าจะรู้ดีไม่เห็นต้องถามทุกครั้งไป คุณป้านะสิแกให้ฉันมาชะเยอะเลย ฉันก็บอกแกแล้วนะ”
“ธรรมดาย่ะ ...คนที่นี่เขารักเธอกันทั้งนั้นแหละ”
มาเรียทำปากยื่นด้วยความหมั่นใส้ แต่ไม่จริงจังนัก ทำไมเธอจะไม่รู้ล่ะ รันเป็นคนสวยน่ารักหุ่นบอบบางสวยจนหาตัวจับยาก เท่าที่เธอเคยเห็นใครมายังไม่เห็นมีใครสวยเหมือนญาติสาวเธอคนนี้เลยสักคน แถมนิสัยแสนจะอ่อนหวานผิดกับเธอลิบลับคนละแนวกันเลย
“เธอก็พูดไปนั่น”
รันหันไปค้อนให้มาเรีย เธอจึงไม่ได้ระวังตัวมองว่าข้างหน้ามีคนกลุ่มหนึ่งเดินมาใกล้ ทำให้เธอเสียหลักชนเข้าอย่างจัง รันล้มไปข้างหน้าเต็มแรง
“รันระวัง...” ยังไม่ทันที่มาเรียจะร้องเตือนมันสายเกินไป
“ว้าย...”รันชนเข้ากับร่างสูงใหญ่เข้าอย่างจัง
“ตายแล้ว..”
“ยายรันเป็นไงบ้าง” มาเรียรีบคว้าแขนรันไว้แน่น
“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ทันเห็น”
รันรีบล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าผืนงามมาเช็ดให้ทันที แต่ดูเหมือนยิ่งเช็ดมันก็ยิ่งเลอะเปื้อนเป็นวงขนาดใหญ่น่าเกลียด
“ให้ตายซุ่มซ่ามชะมัด”
“ไม่มีตามองข้างหน้าหรือไงยายโง่”
เสียงเหมือนตำนิลอยมา ข้างๆหู รันหน้าแดงก่ำไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมองว่าเป็นเสียงของคนที่เธอชนเข้าหรือเปล่า
“ไม่เอาน่าจอห์น”
เสียงชายอีกคนปรามเพื่อนของเขา รันจึงรู้ว่าเขาไม่ได้มาเพียงคนเดียวแต่มากันมากกว่าหนึ่ง แต่เธอยังไม่กล้าหาญพอที่จะเงยหน้าขึ้นมองพวกเขาอยู่ดี
“ทอมนายก็ดูเสื้อโทมัสสิ ฉันว่าตัวนี้พึ่งส่งมาถึงเมื่อเช้านี่เองไม่ใช่หรือไงโทมัส” จอห์นพูดถากถาง ถามอย่างหาเรื่องเต็มที่ เขามองเสื้อของโทมัสอย่างไม่ชอบใจนักที่เห็นรอยเปื้อนขนาดใหญ่
“เอาน่า...เอาน่า นายก็ไวยวายอยู่ได้ ไอ้โทมัสมันไม่เห็นว่าอะไรเลย” วิชัยปราม
“นายก็ใจดีเรื่อยเลยวิชัย” เสียงจอห์นยังคงโวยวายไม่เลิกเขาปัดมือของรันที่กำลังเช็ดเสื้อให้โทมัสออกอย่างแรง
ทำให้ใบหน้าขอรันแดงระรื่นขึ้นเนื่องจากความรู้สึกผิดไม่ใช้เพราะเจ็บที่มือเลยสักนิดถึงมือเธอจะดูแดงเป็นปื้นเพราะแรงกระทบจากมือของจอห์น แถมยังมีคนคอยตอกย่ำความผิดของเธอให้ลึกลงไปเสียอีก
“หนอย นี่”
“วันนี้มันวันซวยอะไรกันนักนะ”
มาเรียไม่พอใจที่เห็นจอห์นทำแบบนั้นกับญาติเธอ มันทำให้เธอฉุนมาก แต่ดูเหมือนพวกคนกลุ่มนี้จะไม่สนใจเธอเลยสักนิดเดียวเหมือนเธอไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย
“แล้วนั่นโทมัส มันเป็นบ้าอะไรของมันวะตาค้างเชียว”
จอห์นตบไหล่โทมัส เขามองตามสายตาเพื่อนจึงได้รู้ว่าทำไมโทมัสมันถึงต้องนิ่งเงียบ
“ ให้ตายโทมัส...”
“สวยว่ะ”
เสียงอุทานเบาๆหลุดออกจากปากของจอห์น ทุกสายตาจึงจับจ้องไปที่ร่างของรันที่อยู่ตรงหน้าของโทมัส สิ่งที่พวกเขาเห็นคือ สาวน้อยแสนสวยร่างบางแสนงามยืนเด่นสง่า ในมือของเธอถือผ้าเช็ดหน้าที่เปื้อนน้ำผลไม้ที่ทำหก ใบหน้าแดงก่ำ สาเหตุที่ทำให้ใบหน้างามแดงได้ขนาดนั้นก็คงเพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นและการโวยวายของจอห์นอย่างไม่ต้องสงสัย พวกเขารู้แล้วว่าทำไมโทมัส ถึงได้ตะลึงนิ่งอยู่เหมือนคนเป็นบ้าใบ้
“โทมัสนายจะว่าไง...” วิชัยถามเพื่อนเสียงเรียบ
“ฉันขอโทษฉันไม่ทันระวัง”
รันขอโทษขอโพยสียงสั่น เธอประมาทไปเอง ที่ทำให้เสื้อเขาเลอะไปหมด ไม่ผิดเลยที่พวกเขาจะพากันโกรธอย่างนี้
“เอาน่ารันเธอไม่ได้ตั้งใจเสียเมื่อไหร่ล่ะ”
เสียงมะนาวไม่มีน้ำของมาเรียดังขึ้นปลอบใจเพื่อน เธอไม่เข้าใจนักว่าเรื่องแค่นี้มันจะอะไรกันนักหนาก็แค่ทำน้ำผลไม้เลอะแค่นิดเดียว คนระดับพวกเด็กบ้านี่ก็คงหาชื้อใหม่ได้สบายๆ
“แต่มาเรียฉันทำเขาเลอะ” เสียงเล็กสั่นไหว แหบพร่าอย่างประหม่าดังลอดออกมาไม่ดังนัก
“ก็เธอไม่เห็น เด็กพวกนี้สิต้องหลบเธอ เขาน่าจะเห็นว่าเธอเดินมา พวกเขาเองนั่นแหละควรจะหลบเธอ”
“คงคิดว่าตัวเองใหญ่ชะเต็มประดา เลยไม่คิดจะหลบใคร”
“หรือหลบใครไม่เป็นก็ไม่รู้” มาเรียพูดอย่างเอาเรื่อง แกมหมั่นไส้
“อ้าวเจ๊..ไหงงั้นล่ะ” จอห์นโวยใบหน้าหวานหล่อของเขามองหน้ามาเรียอย่างเอาเรื่อง
“แล้วมันจริงมั๊ยล่ะ”
มาเรียยังคงตอกกลับ เธอไม่ค่อยชอบเด็กโข่งขี้เต๊ะกลุ่มนี้นักหรอก เธอรู้จักนิสัยพวกเขาดี ไอ้พวกลูกหลานมหาเศรษฐีระดับโลกมองไม่เห็นหัวใคร แถมยังอวดดีคิดว่าพวกตัวเป็นนักธุรกิจชื่อดัง จึงมาทำเป็นเบ่งใส่คนนั้นคนนี้ทีคงคิดว่าที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยของเพื่อนพวกเขาสินะ
“ให้ตาย ไม่อยากเชื่อ” มาเรียทำปากจิจ๊ะไปมาขึ้นจมูก
แม่เธอเชิญไอ้พวกเด็กบ้าไปงานเลี้ยงที่บ้านชายทะเลปลายสัปดาห์ด้วย เธอล่ะไม่อยากเจอเลยจริงๆไอ้พวกเด็กขี้เต๊ะไม่มีมารยาท แต่ที่น่าหมั่นไส้เด็กขี้เต๊ะพวกนี้เป็นพวกอัจฉริยะชะด้วย ได้รับความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยกันทุกคนแถมแต่ละคนมีธุรกิจระดับประเทศ
“นี่ๆๆนายจำได้เปล่า” ทอมทักขึ้น สะกิดจอห์น
“ไรของนายทอม”
“ยายนี้ก็อาจารย์ ที่สอนภูมิศาสตร์ไง พวกนายจำหล่อนไม่ได้หรือไง”
“อ๋อ ที่สอนภูมิศาสตร์ภายในประเทศ”
วิชัยเสริมจ้องมองใบหน้าสวยอย่างจำได้มีอะไรบ้างถ้าผ่านสายตาเขาแล้วจะจำไม่ได้เพราะเขาได้ขึ้นชื่อเป็นผู้อัจฉริยะด้านความจำมาตั้งแต่ยังเด็ก
“จริงสิ ฉันจำได้” วิชัยบอก
“นายรู้ได้ไงทอม” จอห์นถาม
“ก็นายเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาอยู่แต่หน้าคอมพิวเตอร์นายจะรู้ได้ไงไอ้บ้า”
“ก็วันนั้นไงที่พวกเรามาวันแรก ในห้องอธิการบดี เขาเอารายชื่ออาจารย์มาให้เราคัดเลือกอาจารย์ตัวอย่างดีเด่นไงเล้า” ทอมบอก
“อ้อ ที่นายบอกยายคนนี้ไม่น่าเชื่อถือไงจอห์น”
จอห์นพยักหน้า เล่นเอามาเรียที่หน้าชา ไม่พอใจเหมือนเธอถูกดูหมิ่นว่าตัวเธอไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะได้รับรางวัล
“หนอยไอ้เด็กบ้า”
“พวกนาย...มันจะมากไปแล้วนะ”
มาเรียกรี๊ดลั่นด้วยอาการที่กลั้นไว้ไม่อยู่ ที่ได้ยินคำสบประมาทเข้าเต็มสองหูซึ่งๆหน้า
“ คิดว่านายเป็นใครกันก็ไอ้พวก...นี่หาเรื่องกันในห้องอธิการบดียังไม่พอใจใช่มะ”
“ อย่างงั้นได้เลยอย่าคิดนะว่าฉันจะกลัวเด็กบ้าอย่างพวกนาย” มาเรียชี้หน้าพวกหนุ่มๆ โดยเฉพาะจอห์นที่เธอรู้สึกเกลียดที่สุด
“นี่เจ๊..พูดดีๆนะใครกันเด็ก”
“เจ๊หรือเปล่าที่เด็ก”
“ไอ้เด็กบ้า”
“ เจ๊เองหรือเปล่าตัวกะเปียกทำเป็นเก่ง” จอห์นพูดโต้ตอบมาเรียอย่างไม่ลดละ
“ใครเจ๊นายไม่ทราบ”
“ ไอ้เด็กเมื่อวานชืน ฉันไปนับญาติกับนายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” มาเรียทำท่ายียวน ใบหน้าแดงก่ำเพราะความโกรธ
“ให้ตายยายนี่”
“มันน่านัก” จอห์นชักยั๊ว กับท่าทางอวดดีของมาเรีย
“ทำไม”
“นายจะทำอะไรฉัน”
“อีโถ...”
“ นึกว่ากลัวสินะ”
“หนอยฝันไปเถอะที่คนอย่างฉันจะกลัว ปลาหมออย่างนาย”
“ยายนี่” จอห์นกัดฟันกรอด
“พอเถอะมาเรีย ”
รันปรามมาเรีย เพราะเธอเห็นท่าไม่ดีนัก เธอรู้ดีว่าถ้ามาเรียโกรธมันจะเป็นยังไงต่อไป เรื่องคงจะบานปลายไปกันใหญ่ เธอไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้น
“เธอก็อย่างนี้ทุกที” มาเรียหน้าง้ำ
“นี่นะ”
“ถ้าไม่เห็นแก่หน้ารันนะนายตายแน่ไอ้เด็กขี้เต๊ะ” มาเรียกัดฟันกรอดยังไม่วายหาเรื่องต่อ
“ขอโทษค่ะ”
“ ฉันควรรับผิดชอบเอง”
“ เดียวตอนเย็นช่วยกรุณาส่งบิลไปให้ฉันที่หอสมุดเก่าห้องวรรณกรรม ฉันจะชดใช้ค่าเสียหายให้เอง เพราะถึงยังไงมันเป็นความรับผิดชอบของฉันเอง”
“ไปเถอะยายมา” รันตัดบทเสียงมั่นคงกว่าเมื่อแรก
“สวยน่ารักแถมจิตใจดี ว่าไมโทมัส” จอห์นกระทุ้งศอกใส่เพื่อน โทมัสยังคงก้มมองร่างบางตรงหน้านิ่ง
“เฮ้ โทมัสนายว่าไง...” จอห์นร้องขึ้นเพราะเห็นเพื่อนไม่คิดจะทำอะไรนอกจากยืนนิ่งมองหน้าสาวตรงหน้านิ่ง
“อ่อ ...อืม”
“เอ้าโว้ยเอา”
“ อะไรของแกวะโทมัสเอาแต่อ่อ อยู่ได้”
ทอมโวยขึ้นบ้างอย่างหัวเสีย ไม่เข้าใจว่าคนอย่างโทมัสจะอะไรนักหนา พวกเขาเคยเจอสาวสวยพราวเสน่ห์มามากเสียจนไม่เห็นต้องมาตะลึงอยู่แบบนี้เลย
“เอาเป็นตามที่ฉันบอกก็แล้วกันนะค่ะช่วยส่งบิลไปแล้วฉันจะจัดการชดใช้ให้” รันพูดตัดบท
“ขอตัวนะค่ะ” รันพูดตัดบทก็เดินจากไปกับมาเรีย ปล่อยให้หนุ่มๆมองตามหลัง
“รันเธอนี่มันจริงๆเชียว”
“เธอ เลิกใจดีไม่เข้าท่าเสียทีจะได้ไหม ฉันล่ะปวดหัวกับเธอจริงๆเห็นแล้วหงุดหงิดเป็นบ้า ให้ตายสิ”
“โอ้ย...โอ้ย...” มาเรียร้องตะโกนเสียงดังด้วยความอัดอั่น
มาเรียยังหัวเสียไม่หายกับพวกเด็กแสบพวกนั้น ถึงเธอจะบอกว่าเด็กพวกนั้นเป็นเด็กแสบแต่ความจริงพวกเขาก็อายุไม่ได้แตกต่างจากพวกเธอมากนัก แถมหุ่นของพวกเขาแต่ละคนเห็นจะไม่ใช่เด็กเสียด้วยซ้ำแต่ละคน สูงใหญ่ล่ำกำยำกันแทบทุกคน แถมยังหล่อเข้าขั้นราดาระดับแนวหน้าที่หาตัวจับยากทีเดียว อีกอย่างเธอก็ไม่เคยเห็นใครหล่อเท่าเด็กพวกนี้มาก่อนเลยด้วย
“เอาน่ามาเรียเธอก็เห็นแล้วว่าฉันผิดที่ไปชนเขาเข้า” รันปรามไม่ให้พูดต่อ
“แล้วไงล่ะก็เธอไม่ได้ตั้งใจนี่ฉันพูดจริงมะ” มาเรียยังคงแย้งต่อ
“เธอรู้ไหมรันพวกนั้นน่ะลูกหลายใครกัน สุดจะแสบเลยล่ะเธอเอ้ย” รันตวัดสายตามองเพื่อน
“ใคร... ลูกหลานใครเหรอ” รันถามสายตาคู่สวยตวัดมองหันมองหน้ามาเรีย
“ก็นะ”
“พวกนั้นนะถูกเรียกว่ากลุ่มเด็กอัจฉริยะ พวกเขาเรียนจบมาจากเมืองนอกนะเธอเห็นว่า มาทำธุระเกี่ยวกับเรื่องอะไรสักอย่างนี่แหละเธอรู้ไหมรัน ตอนที่พวกเขาเรียนแต่ละคนมีอาจารย์ส่วนตัวด้วย พวกเขาสามารถเลือกอาจารย์ที่สอนด้วยตัวเองเลยล่ะ แถมหนึ่งในนั้นก็เป็นลูกชายของเจ้าของสถาบันเคิร์สเตนเบอร์กนี้ด้วยนะ เธอรู้ไหมพวกเขานี่แหละที่บ้านเราเชิญไปร่วมงานเลี้ยงปลายสัปดาห์นี้น่ะ เธอเอ้ยสนุกแน่ๆ”
มาเรียยิ้มด้วยความหมั่นไส้ให้กับบุคคลที่เธอกำลังพูดถึง
“จริงเหรอมาเรีย ถ้าอย่างนั้นงานนี้ก็ใหญ่มากนะสิ” รันเริ่มวิตกเธอไม่ชอบนักกับงานเลี้ยงใหญ่ๆเธอไม่ชอบพบปะผู้คนมากนักมันดูชอบกลแปลกๆเธอไม่ชอบให้ใครจับจ้อง หรือโดนใครจ้องมอง
“ไม่หรอกรัน”
“ ก็พวกเด็กนี่เป็นเพื่อนบ้านเราที่บ้านพักตากอากาศกันทั้งนั้น เธอไม่เคยสังเกตเห็นบ้านที่รายล้อมติดกับทะเลหลังใหญ่ๆเรียงกันไปตลอดแนว ฝังซ้ายของบ้านเราก็คือบ้านพวกเด็กแสบพวกนี้ทั้งนั้น”
รันพยักหน้ารับรู้ เธอเองไม่ค่อยได้ไปบ้านคุณป้ามากนักเพราะไม่อยากเจอกับพวกญาติๆ
“ให้ตาย”
“ ฉันคิดว่าจะมีความสุขกับงานเลี้ยงคาวนี้แล้วเชียวนะ จะต้องมีมารร้ายมาขัดความสุขจนได้สิ” มาเรียนบ่นพึมพำอย่างไม่ชอบใจนัก
“ไม่หรอกมาเรีย”
“ พวกเขาไม่หน้ามาวุ่นวายกับเราหรอก” รันออกความเห็นปลอบ
“ก็ขอให้มันจริงเถอะ”
“ ฉันเห็นหน้าพวกเขาก็หมดสนุกแล้วล่ะ” มาเรียทำหน้าเบ้
“เอาน่า เอาน่า”
“กินเยอะๆจะได้โตไวไว”
“ย่ะ...ยายแม่แก่เอ้ย”
ความคิดเห็น