ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : จุดเริ่มต้นที่สิ้นหวัง
ช่วงนี้กำลังจะหมดฤดูหนาว ต้นไม้ทั้งหลายกำลังจะผลิใบต้อนรับแสงแดดขัดกับบรรยากาศในตัวเมืองที่ยังมืดครึ้มด้วยฝุ่นละออง
ฉันชื่อ เซิ่นชิง อาศัยอยู่ในเซี่ยงไฮ้ เรียนม.5อยู่โรงเรียนมัธยมปลายเหิงเตี้ยน โรงเรียนฉันมีนักเรียนตั้งหลายแบบ แต่ฉันได้อยู่ห้องที่เค้าว่าเก่งที่สุด ฉันไม่สนใจมันด้วยซ้ำไป วันๆฉันจะเอาแต่เล่นเทนนิสกับฟ่งอี้เพื่อนของฉันเองเธอเป็นคนอ่อนไหวง่ายใจอ่อนซึ่งมันตรงข้ามกับฉันอย่างสิ้นเชิง ที่ฉันเล่นเทนนิสก็เป็นเพราะฉันชอบนักเทนนิสของโรงเรียน เขาชื่อจางยุ่นเจี๋ย และฉันรู้ว่าเขาก็ชอบฉัน พวกเราสบตากันบ่อยๆ แต่แค่ไม่มีใครแสดงความรู้สึกข้างในออกมาเท่านั้นเอง พวกเราจึงเป็น แค่เพื่อน ทั้งที่แต่ละคนคิดไปไกลกว่านั้น
***************
ใครๆก็รู้สึกได้ว่าฉันและเขาชอบๆกันอยู่ จนฟ่งอี้ที่เป็นคู่ซี้ของฉันถึงกับบอกว่าแค่พวกเธอคบกันมันก็ไม่ต่างจากตอนนี้เลย
จนกระทั่งถึงวันเกิดของยุ่นเจี๋ย มีรุ่นน้องยันรุ่นพี่มาสารภาพรักกับเขาเยอะมาก ฉันรู้ว่าเขาไม่สนใจหรอกเพราะคิดว่าเขาน่ะเล็งฉันแค่คนเดียว ผ่านไปครึ่งเช้าฟ่งอี้ และเป๋าหู่ เดินมาต่อว่าฉันอย่างโมโห
"แม่คนสาวมั่น เธอจะมั่นไปไหนกันยะ"
"ก็ฉันไม่ได้คิดอะไรกับเค้าซะหน่อย"
"เฮอะโกหกตาใสๆ ใครจะเชื่อเธอ"
"แล้วชั้นไปทำอะไรผิดล่ะ  ทุกคนก็มีสิทธิ์จะสารภาพรักกันทั้งนั้นแหละน่า"
"เธอนี่ไม่คิดถึงความรู้สึกของยุ่นเจี๋ยเลยนะ ที่เค้าต้องปฏิเสธคนอื่นมาครึ่งวันก็เพราะรอเธอคนเดียว"
"รอฉัน"
"นี่ดอกไม้ พวกฉันซื้อมาให้แล้ว ไปจัดการให้จบจะได้คบกันไปเลย"
"พวกเธอหมายถึง...แฟน?"
"ก็ใช่น่ะสิยัยซื่อบื้อเอ๊ย"
แล้วฟ่งอี้เป๋าหู่ก็พูดโน้มน้าวจนฉันยอมสละความหยิ่งทิ้งไปหมด ขณะที่ฉันกำลังเดินไปที่ห้องของยุ่นเจี๋ย ทำไมมันตื่นเต้นอย่างนี้นะ ฉันต้องซ่อนดอกไม้ไว้ เค้าต้องรู้แน่ๆเลย >< อั้ยยะ จะทำยังไงดี
"โครม"
ฉันชนเข้ากับรุ่นพี่ที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำ เธอแต่งหน้าจัดมากแต่ก็สวยมาก
"ขอโทษค่ะ เป็นอะไรมั้ยค่ะ"
"อ่อ จ่ะไม่เป็นไร เห็นเธอ เดินเงอะงะๆอยู่ฉันไม่รู้ว่าจะเดินทางไหน"
"TT ขอโทษค่ะๆ หนูไม่ได้ตั้งใจน้า"
"ตั้งใจหน่อย เธอจะสารภาพรักใช่มั้ย เธอต้องมั่นใจนะ"
พูดจบรุ่นพี่คนสวยก็เดินจากไป เอ๊ะแต่เธอรู้ได้ยังไงนะ ฉันรวบรวมความกล้าแล้วเดินไปที่ห้องยุ่นเจี๋ยอีกครั้ง ยุ่นเจี๋ยมองมาที่ฉันแถมยังยิ้มให้ ฉันเขินจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว ><///
"เอ่อ คือ...นายรอ...."
ฉันพูดตะกุกตะกักอยู่ในลำคอ เขินจนเกร็งไปทั้งตัว
'ให้ตายเหอะเกิดมาไม่เคยเป็นแบบนี้เลย'
""โครม ""
ฉันชนกับใครบางคนอีกรอบ แย่ชะมัด แต่ที่แย่ที่สุดคือ เมื่อฉันเงยหน้าขึ้นมา รุ่นพี่ที่เพิ่งเจอเมื่อตะกี้กำลังจูบกับ ยุ่นเจี๋ย
"ยุ่นเจี๋ยนายมันเลว นายหลอกฉัน"
"ใครหลอกใครกันแน่ เธอต่างหากที่คิดไปคนเดียว"
"แต่ที่ผ่านมา..."
"แม้แต่สายตาที่แสดงความรักกับความสมเพชเธอยังแยกไม่ออกเลยนะ เซิ่นชิง ฉันสงสารคนที่เธอชอบชะมัด"
"ยุ่นเจี๋ย ฉันเกลียดแก ฉัน... "
ฉันควานหาช่อดอกไม้ที่ถือมาเมื่อครู่แต่พบว่าไปอยู่ในมือยุ่นเจี๋ยแล้ว เท่าที่จะหยิบได้ก็มีแต่ลูกเทนนิสนี่แหละที่ใกล้มือ ก็เลยหยิบแล้วปาเข้าที่หน้าเขาเต็มแค้น
"ผัวะ"
"พี่หวางรู่ พี่ไม่เป็นไรนะครับ "
'ไยรุ่นพี่ปิศาจร้ายคนนั้นชื่อหวางรู่เองหรอ'ฉันคิดในใจ
"เซิ่นชิงเธอทำร้ายรุ่นพี่ฉันจะบอกอาจารย์"
"เชิญเลย ฉันไม่น่าเสียเวลาไปกับคนเลวๆอย่างนายเลย อีตาบ้า" ฉันปล่อยโฮเต็มที่แต่ดูเหมือนเขาไม่สนใจฉันเลย ดีที่เพื่อนรักฉันมาพอดี รีบลากฉันกลับไป
"ถ้านายจะฟ้องว่าเซิ่นชิงทำร้ายร่างกายนะ พวกเราก็จะฟ้องว่านายกับหวางรู่จูบกันในโรงเรียน"
เท่านั้น ยุ่นเจี๋ยก็ชักสีหน้าไม่พอใจ แต่แค่นั้นมันเทียบไม่ได้กับความรู้สึกของฉันหรอก......วันนี้มันวันซวยชัดๆเลย....
***************
บ่ายวันนั้น หรงเอ๋อร์ ฟ่งอี้และเป๋าหู่พาฉันไปร้องคาราโอเกะย้อมใจ ร้องไปได้ไม่กี่เพลงฉันก็หยุดแล้วก็ซึมอยู่อย่างงั้น
"โอย มันช้ำมันชอก โฮ.... ฉันไม่เอาแล้ว"
"อกหักครั้งเดียวทำเป็นพูดไป พวกฉันน่ะเจอมาเยอะกว่าเธอกี่เท่าก็ไม่รู้นะ"
ก็ฉันมันไม่ได้รักใครง่ายๆนี่นา"
"จ้าๆ แม่สาวมั่น อกหัก ครั้งนี้เป็นประสบการณ์น่า เลิกร้องไห้น้า คนเก่ง"
"นี่พวกเธออย่าทำเหมือนฉันเป็นเด็กเซ่"
"ฮะๆๆ หายเศร้าแล้วนี่นาไปกันเถอะ เดี๋ยวฉันพาไปส่งที่บ้านนะ" หรงเอ๋อร์บอกฉันแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
เย็นวันนั้น หรงเอ๋อร์บอกว่าจะพาทั้งแก๊งไปทำบุญล้างซวยที่วัด แต่ยังไม่ทันจะถึงวัดความซวยก็มาหาฉันอีกจนได้
"ตู๊ดดดดดดด ตู๊ดดดดดด"
"รับโทรศัพท์เร็ว เซิ่นชิง" เป๋าหู่รีบส่งกระเป๋าให้ฉัน ฉันหยิบมือถือขึ้นมาดูก็รู้สึกแค้นมาก กำมือถือแน่นจนมือสั่นไปหมด
"ใครหรอ เซิ่นชิง รึว่า..." หรงเอ๋อร์ถามอย่างเป็นห่วง
"สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณโทรผิดรึเปล่าคะ"
"เซิ่นชิงฉันขอโทษที่ตอนกลางวันทำให้เธอเสียใจ"
"ฉันไม่อยากฟังนาย นายจะพดอะไรฉันไม่รับรู้แล้ว" ฉันเริ่มพูดเสียงดังแถมยังน้ำตาคลอ
"เดี๋ยว เซิ่นชิงนี่เธอกำลังเขาใจผิดนะ อย่าคิดไปเองซี่"
"ฉันเข้าใจผิดอะไรไม่ทราบ เธอจะบอกให้ฉันยกโทษให้น่ะ ไม่มีทางหรอก อีตาบ้าๆๆๆๆๆ ฉันเกลียดที่สุดเลย" ฉันทำท่าจะขว้างโทรศัพท์ทิ้ง
แล้วก็โดน ฟ่งอี้ยึดไปคุย ฉันรู้สึกท้อแท้มากฟุบหน้าร้องไห้ไปเลยเมื่อเงยหน้าขึ้นมก็เห็นฟ่งอี้ทำหน้าเจื่อนๆ
“เค้าว่าไงบ้าง”
แต่ฟ่งอี้อยู่ๆก็ร้องเพลงขึ้นมา เสียงของเธอไพเราะสมกับอยู่ชมรมประสานเสียง ไม่นานพวกเราทุกคนก็ร้องเพลงเดียวกัน แล้วเริ่มเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ
ฉันมีความสุขมาก เป็นบรรยากาศที่ดีจริงๆ หรงเอ๋อร์เบรกรถตรงสี่แยก พวกเราก็ยังร้องเพลงกันต่อไปทั้งๆที่ไม่รู้ว่า ตกลงนายจางยุ่นเจี๋ยพูดอะไรกับฟ่งอี้กันแน่
ทันใดนั้นเองฉันเห็นแสงประหลาดพุ่งเข้ามาในตาฉัน จู่ๆทุกคนก็หยุดร้องเพลง
""เอี๊ยดด......โครม""
พวกเราชนเข้ากับรถบรรทุก ฉันได้กลิ่นเลือดและกลิ่นไหม้ของเครื่องยนต์ เพื่อนรักของฉันอาการสาหัส ฉันกลัวมาก กลัวว่าพวกเธอจะตาย แต่ยังไม่ทันยกโทรศัพท์ขึ้นก็มีรถพยาบาลวิ่งมาแล้ว หน่วยพยาบาลขนร่างของเพื่อนฉันขึ้นรถไป ทำราวกับว่าฉันไม่มีตัวตน ฉันตะโกนเรียกให้พวกเขาพาฉันไปด้วยก็ไม่มีใครตอบกลับมาเลย ฉันเป็นห่วงเพื่อนจึงวิ่งตามรถพยาบาลจนหกล้มกลางถนน แล้วมีรถยนต์วิ่งทะลุร่างฉันไป
นี่ฉันตายแล้วใช่มั้ย  ฉันนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้น ฉันจะตายไปพร้อมกับความรู้สึกแย่ๆแบบนี้น่ะหรอ?
แล้วฉันก็รู้สึกเหมือนถูกใครบางคน กระชากคอเสื้อด้านหลัง คนคนนั้นแรงเยอะมากจนฉันขึ้นไปลอยหัวทิ่มกับพื้นแล้วลากฉันลงมาจากกลางอากาศ เขาลากฉันดิ่งลงสู่พื้นดิน ทะลุมันลงไป แต่น่าแปลกที่ฉันไปได้ขัดขืนเลย เขาพาฉันดิ่งลงไป ดิ่งลงไป ลึกเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เมื่อฉันลืมตาขึ้น ก็พบกับ........
ฉันชื่อ เซิ่นชิง อาศัยอยู่ในเซี่ยงไฮ้ เรียนม.5อยู่โรงเรียนมัธยมปลายเหิงเตี้ยน โรงเรียนฉันมีนักเรียนตั้งหลายแบบ แต่ฉันได้อยู่ห้องที่เค้าว่าเก่งที่สุด ฉันไม่สนใจมันด้วยซ้ำไป วันๆฉันจะเอาแต่เล่นเทนนิสกับฟ่งอี้เพื่อนของฉันเองเธอเป็นคนอ่อนไหวง่ายใจอ่อนซึ่งมันตรงข้ามกับฉันอย่างสิ้นเชิง ที่ฉันเล่นเทนนิสก็เป็นเพราะฉันชอบนักเทนนิสของโรงเรียน เขาชื่อจางยุ่นเจี๋ย และฉันรู้ว่าเขาก็ชอบฉัน พวกเราสบตากันบ่อยๆ แต่แค่ไม่มีใครแสดงความรู้สึกข้างในออกมาเท่านั้นเอง พวกเราจึงเป็น แค่เพื่อน ทั้งที่แต่ละคนคิดไปไกลกว่านั้น
***************
ใครๆก็รู้สึกได้ว่าฉันและเขาชอบๆกันอยู่ จนฟ่งอี้ที่เป็นคู่ซี้ของฉันถึงกับบอกว่าแค่พวกเธอคบกันมันก็ไม่ต่างจากตอนนี้เลย
จนกระทั่งถึงวันเกิดของยุ่นเจี๋ย มีรุ่นน้องยันรุ่นพี่มาสารภาพรักกับเขาเยอะมาก ฉันรู้ว่าเขาไม่สนใจหรอกเพราะคิดว่าเขาน่ะเล็งฉันแค่คนเดียว ผ่านไปครึ่งเช้าฟ่งอี้ และเป๋าหู่ เดินมาต่อว่าฉันอย่างโมโห
"แม่คนสาวมั่น เธอจะมั่นไปไหนกันยะ"
"ก็ฉันไม่ได้คิดอะไรกับเค้าซะหน่อย"
"เฮอะโกหกตาใสๆ ใครจะเชื่อเธอ"
"แล้วชั้นไปทำอะไรผิดล่ะ  ทุกคนก็มีสิทธิ์จะสารภาพรักกันทั้งนั้นแหละน่า"
"เธอนี่ไม่คิดถึงความรู้สึกของยุ่นเจี๋ยเลยนะ ที่เค้าต้องปฏิเสธคนอื่นมาครึ่งวันก็เพราะรอเธอคนเดียว"
"รอฉัน"
"นี่ดอกไม้ พวกฉันซื้อมาให้แล้ว ไปจัดการให้จบจะได้คบกันไปเลย"
"พวกเธอหมายถึง...แฟน?"
"ก็ใช่น่ะสิยัยซื่อบื้อเอ๊ย"
แล้วฟ่งอี้เป๋าหู่ก็พูดโน้มน้าวจนฉันยอมสละความหยิ่งทิ้งไปหมด ขณะที่ฉันกำลังเดินไปที่ห้องของยุ่นเจี๋ย ทำไมมันตื่นเต้นอย่างนี้นะ ฉันต้องซ่อนดอกไม้ไว้ เค้าต้องรู้แน่ๆเลย >< อั้ยยะ จะทำยังไงดี
"โครม"
ฉันชนเข้ากับรุ่นพี่ที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำ เธอแต่งหน้าจัดมากแต่ก็สวยมาก
"ขอโทษค่ะ เป็นอะไรมั้ยค่ะ"
"อ่อ จ่ะไม่เป็นไร เห็นเธอ เดินเงอะงะๆอยู่ฉันไม่รู้ว่าจะเดินทางไหน"
"TT ขอโทษค่ะๆ หนูไม่ได้ตั้งใจน้า"
"ตั้งใจหน่อย เธอจะสารภาพรักใช่มั้ย เธอต้องมั่นใจนะ"
พูดจบรุ่นพี่คนสวยก็เดินจากไป เอ๊ะแต่เธอรู้ได้ยังไงนะ ฉันรวบรวมความกล้าแล้วเดินไปที่ห้องยุ่นเจี๋ยอีกครั้ง ยุ่นเจี๋ยมองมาที่ฉันแถมยังยิ้มให้ ฉันเขินจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว ><///
"เอ่อ คือ...นายรอ...."
ฉันพูดตะกุกตะกักอยู่ในลำคอ เขินจนเกร็งไปทั้งตัว
'ให้ตายเหอะเกิดมาไม่เคยเป็นแบบนี้เลย'
""โครม ""
ฉันชนกับใครบางคนอีกรอบ แย่ชะมัด แต่ที่แย่ที่สุดคือ เมื่อฉันเงยหน้าขึ้นมา รุ่นพี่ที่เพิ่งเจอเมื่อตะกี้กำลังจูบกับ ยุ่นเจี๋ย
"ยุ่นเจี๋ยนายมันเลว นายหลอกฉัน"
"ใครหลอกใครกันแน่ เธอต่างหากที่คิดไปคนเดียว"
"แต่ที่ผ่านมา..."
"แม้แต่สายตาที่แสดงความรักกับความสมเพชเธอยังแยกไม่ออกเลยนะ เซิ่นชิง ฉันสงสารคนที่เธอชอบชะมัด"
"ยุ่นเจี๋ย ฉันเกลียดแก ฉัน... "
ฉันควานหาช่อดอกไม้ที่ถือมาเมื่อครู่แต่พบว่าไปอยู่ในมือยุ่นเจี๋ยแล้ว เท่าที่จะหยิบได้ก็มีแต่ลูกเทนนิสนี่แหละที่ใกล้มือ ก็เลยหยิบแล้วปาเข้าที่หน้าเขาเต็มแค้น
"ผัวะ"
"พี่หวางรู่ พี่ไม่เป็นไรนะครับ "
'ไยรุ่นพี่ปิศาจร้ายคนนั้นชื่อหวางรู่เองหรอ'ฉันคิดในใจ
"เซิ่นชิงเธอทำร้ายรุ่นพี่ฉันจะบอกอาจารย์"
"เชิญเลย ฉันไม่น่าเสียเวลาไปกับคนเลวๆอย่างนายเลย อีตาบ้า" ฉันปล่อยโฮเต็มที่แต่ดูเหมือนเขาไม่สนใจฉันเลย ดีที่เพื่อนรักฉันมาพอดี รีบลากฉันกลับไป
"ถ้านายจะฟ้องว่าเซิ่นชิงทำร้ายร่างกายนะ พวกเราก็จะฟ้องว่านายกับหวางรู่จูบกันในโรงเรียน"
เท่านั้น ยุ่นเจี๋ยก็ชักสีหน้าไม่พอใจ แต่แค่นั้นมันเทียบไม่ได้กับความรู้สึกของฉันหรอก......วันนี้มันวันซวยชัดๆเลย....
***************
บ่ายวันนั้น หรงเอ๋อร์ ฟ่งอี้และเป๋าหู่พาฉันไปร้องคาราโอเกะย้อมใจ ร้องไปได้ไม่กี่เพลงฉันก็หยุดแล้วก็ซึมอยู่อย่างงั้น
"โอย มันช้ำมันชอก โฮ.... ฉันไม่เอาแล้ว"
"อกหักครั้งเดียวทำเป็นพูดไป พวกฉันน่ะเจอมาเยอะกว่าเธอกี่เท่าก็ไม่รู้นะ"
ก็ฉันมันไม่ได้รักใครง่ายๆนี่นา"
"จ้าๆ แม่สาวมั่น อกหัก ครั้งนี้เป็นประสบการณ์น่า เลิกร้องไห้น้า คนเก่ง"
"นี่พวกเธออย่าทำเหมือนฉันเป็นเด็กเซ่"
"ฮะๆๆ หายเศร้าแล้วนี่นาไปกันเถอะ เดี๋ยวฉันพาไปส่งที่บ้านนะ" หรงเอ๋อร์บอกฉันแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
เย็นวันนั้น หรงเอ๋อร์บอกว่าจะพาทั้งแก๊งไปทำบุญล้างซวยที่วัด แต่ยังไม่ทันจะถึงวัดความซวยก็มาหาฉันอีกจนได้
"ตู๊ดดดดดดด ตู๊ดดดดดด"
"รับโทรศัพท์เร็ว เซิ่นชิง" เป๋าหู่รีบส่งกระเป๋าให้ฉัน ฉันหยิบมือถือขึ้นมาดูก็รู้สึกแค้นมาก กำมือถือแน่นจนมือสั่นไปหมด
"ใครหรอ เซิ่นชิง รึว่า..." หรงเอ๋อร์ถามอย่างเป็นห่วง
"สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณโทรผิดรึเปล่าคะ"
"เซิ่นชิงฉันขอโทษที่ตอนกลางวันทำให้เธอเสียใจ"
"ฉันไม่อยากฟังนาย นายจะพดอะไรฉันไม่รับรู้แล้ว" ฉันเริ่มพูดเสียงดังแถมยังน้ำตาคลอ
"เดี๋ยว เซิ่นชิงนี่เธอกำลังเขาใจผิดนะ อย่าคิดไปเองซี่"
"ฉันเข้าใจผิดอะไรไม่ทราบ เธอจะบอกให้ฉันยกโทษให้น่ะ ไม่มีทางหรอก อีตาบ้าๆๆๆๆๆ ฉันเกลียดที่สุดเลย" ฉันทำท่าจะขว้างโทรศัพท์ทิ้ง
แล้วก็โดน ฟ่งอี้ยึดไปคุย ฉันรู้สึกท้อแท้มากฟุบหน้าร้องไห้ไปเลยเมื่อเงยหน้าขึ้นมก็เห็นฟ่งอี้ทำหน้าเจื่อนๆ
“เค้าว่าไงบ้าง”
แต่ฟ่งอี้อยู่ๆก็ร้องเพลงขึ้นมา เสียงของเธอไพเราะสมกับอยู่ชมรมประสานเสียง ไม่นานพวกเราทุกคนก็ร้องเพลงเดียวกัน แล้วเริ่มเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ
ฉันมีความสุขมาก เป็นบรรยากาศที่ดีจริงๆ หรงเอ๋อร์เบรกรถตรงสี่แยก พวกเราก็ยังร้องเพลงกันต่อไปทั้งๆที่ไม่รู้ว่า ตกลงนายจางยุ่นเจี๋ยพูดอะไรกับฟ่งอี้กันแน่
ทันใดนั้นเองฉันเห็นแสงประหลาดพุ่งเข้ามาในตาฉัน จู่ๆทุกคนก็หยุดร้องเพลง
""เอี๊ยดด......โครม""
พวกเราชนเข้ากับรถบรรทุก ฉันได้กลิ่นเลือดและกลิ่นไหม้ของเครื่องยนต์ เพื่อนรักของฉันอาการสาหัส ฉันกลัวมาก กลัวว่าพวกเธอจะตาย แต่ยังไม่ทันยกโทรศัพท์ขึ้นก็มีรถพยาบาลวิ่งมาแล้ว หน่วยพยาบาลขนร่างของเพื่อนฉันขึ้นรถไป ทำราวกับว่าฉันไม่มีตัวตน ฉันตะโกนเรียกให้พวกเขาพาฉันไปด้วยก็ไม่มีใครตอบกลับมาเลย ฉันเป็นห่วงเพื่อนจึงวิ่งตามรถพยาบาลจนหกล้มกลางถนน แล้วมีรถยนต์วิ่งทะลุร่างฉันไป
นี่ฉันตายแล้วใช่มั้ย  ฉันนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้น ฉันจะตายไปพร้อมกับความรู้สึกแย่ๆแบบนี้น่ะหรอ?
แล้วฉันก็รู้สึกเหมือนถูกใครบางคน กระชากคอเสื้อด้านหลัง คนคนนั้นแรงเยอะมากจนฉันขึ้นไปลอยหัวทิ่มกับพื้นแล้วลากฉันลงมาจากกลางอากาศ เขาลากฉันดิ่งลงสู่พื้นดิน ทะลุมันลงไป แต่น่าแปลกที่ฉันไปได้ขัดขืนเลย เขาพาฉันดิ่งลงไป ดิ่งลงไป ลึกเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เมื่อฉันลืมตาขึ้น ก็พบกับ........
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น