ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fan Fiction D.Gray-Man : Noah inside Allen ( Rewrite ) ]

    ลำดับตอนที่ #2 : "Second"

    • อัปเดตล่าสุด 5 ต.ค. 54



     

    “Second”

     

    “ทรยศ...พระเจ้า?”

    เสียงของโคมุอิเกิดผิดปกติขึ้นมากระทันหัน ความรู้สึกจากน้ำเสียงของการพูด ความตกใจที่ไม่เคยเจอมาก่อน โคมุอิตัดสายตาลงไปมองหน้าอเลน แต่อเลนดันไม่สบตาด้วย

    “...คุณเฮพลัสก้าปล่อยผมลงทีเถอะครับ”

    อเลนพูดเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงค่อย เฮพลัสก้าวางเขาลงอย่างถนอมมากที่สุด อเลนก้าวเท้าเดินลงทันที แล้วเดินตัดหน้าโคมุอิอย่างไม่สบตาด้วย

    “อเลน รึว่าที่เธอขอฉันมาตรวจร่างกายก็เพราะ-“

    “ช่วยกรุณาขึ้นไปชั้นบนกันเถอะครับ”

    “อเลน เธอ-“

    “ได้โปรด...”

    จากนั้นโคมุอิก็พาอเลนขึ้นไปโดยไม่ปริปากพูดซักคำ อเลนเดินออกมาอย่างรวดเร็วที่สุด ขาทั้งสองข้างเดินสลับกันไปมาอย่างเร็วฉันพลัน คิดว่าเขาจะไปที่ไหนกัน?

    “โอ้ อเลนอาหารเสร็จพอดีเลยล่ะฮ้า~”

    โรงอาหาร ขอย้ำว่า โรงอาหาร ยิ่งน้ำเสียง ดัด-จะ-หริด แบบนี้ไม่มีใครนอกจากเจรี่ เชื่อเลยว่าแค่อเลนเดินออกไปตรวจเพียงแค่แปปเดียวก็เสร็จทันเวลาพอดี

    “งั้นเหรอครับ พอดีเลยนะครับ บังเอิญจัง” อเลนฝืนยิ้มเต็มที่

    “...เป็นอะไรล่ะฮ้า?” เจรี่จิ้มหน้าผากอเลน

    “เอ๋?”

    “เมื่อตะกี้เธอยังร่าเริงอยู่เลย เป็นอะไรไปงั้นเหรอ?”

    “อ่อ...ผมแค่ไปไว้อาลัยแก่เหล่าหน่วยค้นหาที่เสียชีวิตน่ะครับ”

    อเลนกล่าว การแสดงของเขาช่างยอดเยี่ยมขนาดเจรี่ยังเชื่อได้ แต่ก็ยังมีบางคนที่เป็นกลางอาจจับไต๋อเลนได้ นั่นก็คือ

    “ไง กินจุเหมือนเดิมเลยนะนาย”

    “ราวี่?”

    “ไปทางโน้นกันหน่อยสิ เดี๋ยวระหว่างนายกินฉันจะถามอะไรนายหน่อย”

    ราวี่จ้องอเลนแปลก ๆ ซึ่งทำให้อเลนเผลอเหงื่อไหลออกมาเป็นสาย ราวี่สังเกตได้แต่ไม่พูดจาใด ๆ ทั้งสิ้น ขณะนี้วิญญาณบุ๊คแมนทำหน้าที่แล้ว อเลนจะเผลอไม่ได้อีก

     

    *แกร๊ง*

     

    เสียงวางของถาดที่เต็มไปด้วยอาหารหลากหลายจากมุมโลกดังขึ้น ราวี่แอบขนลุกนิด ๆ กับอาหารเหล่านั้น

    “มีอะไรรึเปล่าครับราวี่?” อเลนรุกถาม

    “อ่อนั่นสิ เดี๋ยวฉันจะสรุปอะไรให้นายฟังหน่อย”

    “สรุป? สรุปเรื่องอะไรกันครับรา-”

    “นานมาแล้ว”

    “*อึ่ก...*”

     

     

    ท่านเคานท์พันปี [ The Millennium Earl ] หรือใบนามปีศาจที่พวกเรามองกันนั้น เป็นอดัมแห่งเหล่าสาวกพี่น้องโนอาทั้งสิบสี่คน

    สิบสี่ ใช่ สิบสามคนนั้นแหละ หนึ่งในนั้นซึ่งเป็นน้องชายสุดท้องนามว่า เนีย’ [ Neah ] ได้มีความเห็นแตกต่างจากเหล่าพี่น้องโนอาและได้เกิดทรยศหักหลัง ต่อสู้คัดค้านกับท่านเคานท์พันปี

    ซึ่งในช่วงนั้น เนียก็ได้ทราบอยู่แก่ใจ เขาจึงมอบพลังของโนอา คุณสมบัติแห่งนักดนตรีหรือ การทำลายล้างให้แก่บุคคลหนึ่งที่ไม่ทราบ จากนั้นเนียก็ได้สิ้นชีวิตเพราะต่อสู้กับท่านเคานท์ไม่สำเร็จ

    เพราะอะไร? ตามข้อมูลข่าวสารที่พวกเราเหล่าบุ๊คแมนได้ทราบข่าวมาล่าสุดนั้นไม่มีบันทึกเอาไว้ นอกจากจัตุรัสนาวาที่เนียได้สถิตอยู่ เขามีห้องลับแห่งหนึ่ง ห้องลับแห่งนั้นที่แม้นแต่ท่านเคานท์ยังไม่รู้ว่าอยู่หนใด

     

     

    “นอกจากนายอเลน นายสามารถเปิดประตูเข้าไปได้ แถมยังบังคับจัตุรัสนาวาได้อีก นายมีความสัมพันธ์อะไรกับเนีย นายรู้เรื่องอะไรบ้าง หรือว่านายจะเป็นบุคคลที่เนียมอบความสามารถให้กันแน่? ตอบมาสิอเลน!

    “ผม!...ไม่เข้าใจว่า คุณพูดเรื่องอะไรนะรา-“

     

    *ตึก ตึก!!*

     

    “อั่ก!

    กลับมาอีกครั้งกับความรู้สึกเดิม ราวกันหัวใจหยุดเต้นไปชั่ววูบ ร่างกายร้อนผ่าว เลือดเย็นไปทั่วร่ายกายเพียงชั่วขณะ ร่างกายสั่นเครือ ความรู้สึกเจ็บปวดแปลบเล็กน้อยแผ่ทั่วร่างกาย ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป จะเป็นใครห็คงยอมตายจะดีกว่า

    “เฮ่ย อเลน! นายเป็นอะไรไป?!”ราวี่ตะโกนพลางเขย่าอเลน

    “ปะ...เปล่าครับ ไม่มีอะไร...”อเลนตอบเสียงค่อย

    “...งั้นรีบ ๆ กินให้เสร็จเดี๋ยวจะได้ไปที่นั่นกัน”

    “เสร็จเป็นชาติแล้วครับ”

    “...ห๊ะ?!!

     

     

    สถานที่ที่อเลนกับราวี่เดินทางไปนั้น อยู่ข้างล่างอีกฝั่งของมุมวิยาศาสตร์ เป็นสถานที่ที่ใช้เปิดประตูเพื่อเข้าไปในจัตุรัสนาวา โดยจะมีเรือโนอาหรือประตูในรูปร่างที่แปลกตาสีขาวส่องแสงขนาดใหญ่

    พวกเขาทั้งสองคนเข้าไปข้างในโดยราวี่เป็นคนเดินนำ จากนั้นสถานที่ก็ได้เปลี่ยนไป ในที่ที่พวกเขาอยู่นั้นคือสถานที่ที่เหล่าโนอาได้ถือกำเนิดขึ้นมา โดยปัจจุบันไร้นักดนตรีมาควบคุม หรือภายในของจัตรุรัสนาวานี่เอง

    “เหมือนเดิม...เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงเลยนะ จัตุรัสนาวา...”

    “อเลน? นายพูดอะไรน่ะ?”

    “เอ๋? ผมไม่ได้พูดอะไรนี่ครับ”

    “อ้าวเหรอ?...หูฝาดไงฟระ ยังไงก็เหอะ เปิดประตูที”

    ...

     

     

    ห้องลับ...ห้องลับของลำดับที่สิบสี่ ขนาดถึงท่านเคานท์พันปียังไม่ทราบที่อยู่ของมัน นอกจากลำดับที่สิบสี่เอง...

    “ยังคงสีขาวน่ะนะ” อเลนหรี่ตาลงสังเกตรอบ ๆ ห้องที่เขาได้เข้าไป

    “เปียโนนั่น...เล่นทีสิอเลน”

    “ทำไมล่ะครับ?”

    “แค่เช็คความแน่ใจเท่านั้นแหละ”

    ความสงสัย...

    “..เข้าใจแล้วล่ะครับ”

    อเลนเดินตรงไปที่เปียโนสีขาวสะท้อนกับแสงจนเกิดเงาทอดเป็นประกาย นิ้วสัมผัสลงกีบคีย์ของเปียโนเบา ๆ เกิดเสียงเล็กน้อย ถอนหายใจเบา ๆ แล้วนึกภาพถึงเนื้อเพลงที่เขากับมาน่าได้คิดด้วยกัน...

    So the little infant fell into a deep sleep.
    Soshite bouya wa nemuri ni tsuita

    และแล้วเด็กน้อย...ก็ผลอยหลับไป...

    ได้เกิดขึ้นระหว่างเพื่อนพ้องด้วยกัน...

    เสียงเพลงอันไพเราะดังขึ้นก้องไปทั่วจัตุรัสนาวา ความรู้สึกแห่งความสัมพันธ์ระหว่างมาน่ากับเขาได้ผุดขึ้นมาบนหัว ความรู้สึกนั้น ๆ เป็นความรู้สึกที่ตัวเขาเองลบไปไม่ได้ เป็นความรู้สึกที่จะอยู่กับเขาตลอดไป...แม้จะมีเรื่องของลำดับที่สิบสี่ขึ้นมาด้วยก็ตาม...

    Among the grey ashes in the flames shining...First one,then two ...
    ikizuku hai no naka no honoo, hitotsu, futatsu to ukabu fukurami itoshii yokogao

    การถอนหายใจทำให้พระเพลิงในเถ้าถ่าน...เพิ่มขึ้นทีละเล็กละน้อย...

    หึหึ

    ความเชื่อใจ...เริ่มจางและหายไป...

    นิ้วมือทั้งสองข้างเริ่มขยับเร็วขึ้นและเร็วขึ้น อเลนหลับตาลงเมื่อเข้าจังหวะ ฝีปากขยับเล็กน้อยคล้ายคลึงกับร้องเพลงคล้อยประกอบตาม ๆ กันไป

    Surfaces numerous of your faces
    daichi ni taruru ikusen no yume, yume

    ใบหน้าของผู้เป็นที่รักผุดขึ้นมา...ในความมืดมิด...

    หึหึหึ

    ความสัมพันธ์...ค่อย ๆ ร้าวและแตกกลายเป็นฝุ่นธุลี...

    ราวี่ยังคงจ้องที่อเลน ไม่ใช่เพราะว่าเขาต้องการจะเช็คเรื่องเนื้อเพลงที่อเลนบรรเลงผ่านทางเปียโนอยู่ แต่ต้องการทราบเกี่ยวกับลำดับที่สิบสี่ต่างหาก

    A thousand dreams trickle back to the earth
    Gin no hitomi no yuragu yoru ni

    นิมิตหลายพันประกอบกันเป็นผืนดิน...

    ไม่มีวัน

    โดยมีเงาเบื้องหลังกำลังกอบกุมเขา...

    ความรู้สึกบีบรัดอันแปลกประหลาดทำให้ของเหลวอุ่น ๆ เริ่มไหลไปตามร่างกายของอเลน...อาจเรียกว่าความกดดัน...ความเครียด...ความไม่แน่ใจ...หรือความกลัว...

    On the night when the silver eyes were trembling

    umare ochita kagayaku omae

    ดวงตาสีเงินแห่งค่ำคืนที่หวั่นไหว...

    ...ที่จะปล่อย...

    จนมองไม่เห็นแสงสว่าง...

    ผีเสื้อสีขาวครีมค่อย ๆ บินเข้ามาในห้องเนื่องจากประตูไม่ได้ปิด พร้อมกับผีเสื้ออีกตัวที่ปีกไม่ค่อยสมบูรณ์แต่มีสีครามฟ้าที่สวยงามตาม ๆ กันมาบินรอบ ๆ ห้อง ราวี่ตัดสายตาจากอเลนเงยหน้าขึ้นไปมองกิริยาของผีเสื้อพวกนั้นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคิด

    the shining you was born

    ikuoku no toshitsuki ga

    ได้ก่อกำเนิดและร่วงหล่นประกายสู้ตัวเจ้า...

    ให้นาย...

    นอกจากความมืดอันแสนทรมาน...

    ผีเสื้อสีครามค่อย ๆ หยุดชะงักและร่วงหล่นกองอยู่กับพื้น เนื่องจากผีเสื้อตัวแรกนันเผลอบินไปชนมัน อเลนลืมตาเหล่มองซากผีเสื้อปีกหักตนนั้นด้วยความอนาถใจ...

    Across millions of years

    ikutsu inori wo

    แม้นเป็นเวลาหลายร้อยล้านเดือนปี...

    มาแทนฉัน...

    แต่แล้วก็มีมือเอื้อมมาจากข้างบน...

    แปลกที่ผีเสื้อสีครามนั้นยังคงไม่ตาย และอีกตัวก็บินลงมาเกาะพื้นสักครู่ พร้อมดันให้อีกตัวค่อย ๆ บินขึ้นไปเรื่อย...จนสามารถบินออกจากประตูได้ทั้งสองตัว...

    the prayers have already returned back to the earth

    tsuchi e kaesshitemo

    ที่คำอธิษฐานมากมายจะกลับคืนสู่ดิน...

    นอกจากนาย...

    พร้อมกับแสงสว่างอีกครั้ง...

    อเลนขยับยิ้มเล็กน้อยแล้วหลับตาลงอีกครั้ง ราวี่ก็กลับมามองอเลนเช่นเดิม ฟังเสียงบรรเลงอันไพเราะที่อเลนเป็นคนเล่นต่อไป ถ้าว่างจัดก็จะคอยตีความเนื้อต่อไปด้วย

    I will still continue to pray
    Watashi wa inori tsuzukeru

    ฉันก็ยัง...จะเฝ้าอธิษฐานต่อไป...

    จะมีความหวัง

    เขาจึงเอื้อมมือขึ้นไป...

    อเลนเริ่มเพิ่มน้ำหนักของปลายนิ้วเพื่อจะเพิ่มจังหวะท่อนสุดท้ายของเพลงนี้ เขาเงยหน้าขึ้นมาสูดลมหายใจให้เข้าปอดเต็มที่ แล้วก็บรรเลงเพลง

    Please bestow upon this child your love
    douka konoko ni ai wo

    ขอได้โปรดจุมพิตที่มือ

    พอทีจะ...

    คว้ามือที่เอื้อมลงมา...

    ท่อนสุดท้ายที่อเลนจำความได้...ภายในความคิดของเขา เขาได้พบกับมาน่าอีกครั้ง แม้จะเป็นแค่ความคิด แต่เท่าที่เขาเห็น มีมาน่า...กับชายอีกคนข้าง ๆ เขาด้วย...นั่นมันใครกัน...?

    Upon our joined hands, leave a gentle kiss
    tsunaida te ni kisu wo

    เพื่อเชื่อมสัมพันธ์รัก...กับเด็กคนนี้...

    โค่นความมืดภายในใจอย่างฉัน...ลงได้...

    และแล้วทุกอย่าง...ก็ได้ประกอบเข้าที่จนเป็นเช่นเดิมที่เคยเป็น...แสงสว่างนี่....อบอุ่นเหลือเกิน...

    เสียงเพลงจากคีย์ตัวสุดท้ายได้ค่อย ๆ หยุดลง อเลนเงยหน้าลืมตาขึ้นมามองราวี่ด้วยสีหน้าพึงพอใจ กล่าวถามราวี่ด้วยคำถามที่ฝืนเล็กน้อย

    “เท่านี้พอแล้วสินะครับ มีอะไรต่ออีกไหมครับ?”

    เหมือนจะถามให้หมดเปลือก แต่เท่านี้ก็คงจะเพียงพอแล้ว...

    “ไม่มีอะไรหรอก กลับกันเถอะ”

    “...ครับ นั่นสินะครับ”

     

     

    “อเลนคุง~ ข่าวดีล่ะข่าวดีจ้า~!

    รินารี่วิ่งพรวดเข้ามาทันทีที่อเลนกับราวี่ออกมาจากประตู

    “มีอะไรงั้นเหรอครับ?”

    “เราได้ภารกิจล่ะ แถมยังเป็นลอนดอนตรงนี้เอง ไม่ต้องเดินทางให้ลำบากล่ะ”

    “งั้นก็ดีสิครับ แล้วภารกิจนี่...”

    “ไม่มีอะไรมากจ่ะ เดี๋ยวระหว่างทางจะบอกรายละเอียดให้แล้วกันนะ”

     

     

    “โห~ เดินมาใกล้ ๆ ก็ใหญ่จังแฮะ”

    “บิกเบนเหรอครับ?”

    “อื้อ”

    แล้วจู่ ๆ ก็มีเด็กสาวคนหนึ่งในสภาพโทรม ๆ ที่คล้ายคลึงกับขอทานเดินเข้ามากระตุกแขนเสื้อของอเลน

    “พี่ชายคะ พี่ชาย มีคนเรียกน่ะค่ะ”

    “เอ๋?”

    “ไปเถอะจ่ะอเลน เค้าเรียกนี่นา”

    “เอ่อ...ครับ”

     

     

    อเลนเดินตามที่เด็กสาวคนนั้นพูด แล้วเดินเข้าไปในซอยเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง อเลนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนักแต่ก็ยังคงเดินตามไปเพราะคำพูดของรินารี่

    *ตุบ...*

    “อ้าว...ไหนล่ะครับ?” อเลนชะงัก

    “ก็นี่ไงคะ...ฉันเองล่ะค่ะ...”

    และแล้วทุกสิ่งทุกอย่างบริเวณนั้นก็ครอบคลุมไปด้วยโลกในอีกมิติหนึ่ง เป็นความฝันที่หนึ่งในโนอาสามารถใช้ได้ ชื่อของโนอาคนคนนั้นก็คือ...

    “เธอ...โร้ด?”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×