คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : "Second"
“Second”
“ทรยศ...พระเจ้า?”
เสียงของโคมุอิเกิดผิดปกติขึ้นมากระทันหัน ความรู้สึกจากน้ำเสียงของการพูด ความตกใจที่ไม่เคยเจอมาก่อน โคมุอิตัดสายตาลงไปมองหน้าอเลน แต่อเลนดันไม่สบตาด้วย
“...คุณเฮพลัสก้าปล่อยผมลงทีเถอะครับ”
อเลนพูดเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงค่อย เฮพลัสก้าวางเขาลงอย่างถนอมมากที่สุด อเลนก้าวเท้าเดินลงทันที แล้วเดินตัดหน้าโคมุอิอย่างไม่สบตาด้วย
“อเลน รึว่าที่เธอขอฉันมาตรวจร่างกายก็เพราะ-“
“ช่วยกรุณาขึ้นไปชั้นบนกันเถอะครับ”
“อเลน เธอ-“
“ได้โปรด...”
จากนั้นโคมุอิก็พาอเลนขึ้นไปโดยไม่ปริปากพูดซักคำ อเลนเดินออกมาอย่างรวดเร็วที่สุด ขาทั้งสองข้างเดินสลับกันไปมาอย่างเร็วฉันพลัน คิดว่าเขาจะไปที่ไหนกัน?
“โอ้ อเลนอาหารเสร็จพอดีเลยล่ะฮ้า~”
โรงอาหาร ขอย้ำว่า โรงอาหาร ยิ่งน้ำเสียง ดัด-จะ-หริด แบบนี้ไม่มีใครนอกจากเจรี่ เชื่อเลยว่าแค่อเลนเดินออกไปตรวจเพียงแค่แปปเดียวก็เสร็จทันเวลาพอดี
“งั้นเหรอครับ พอดีเลยนะครับ บังเอิญจัง” อเลนฝืนยิ้มเต็มที่
“...เป็นอะไรล่ะฮ้า?” เจรี่จิ้มหน้าผากอเลน
“เอ๋?”
“เมื่อตะกี้เธอยังร่าเริงอยู่เลย เป็นอะไรไปงั้นเหรอ?”
“อ่อ...ผมแค่ไปไว้อาลัยแก่เหล่าหน่วยค้นหาที่เสียชีวิตน่ะครับ”
อเลนกล่าว การแสดงของเขาช่างยอดเยี่ยมขนาดเจรี่ยังเชื่อได้ แต่ก็ยังมีบางคนที่เป็นกลางอาจจับไต๋อเลนได้ นั่นก็คือ
“ไง กินจุเหมือนเดิมเลยนะนาย”
“ราวี่?”
“ไปทางโน้นกันหน่อยสิ เดี๋ยวระหว่างนายกินฉันจะถามอะไรนายหน่อย”
ราวี่จ้องอเลนแปลก ๆ ซึ่งทำให้อเลนเผลอเหงื่อไหลออกมาเป็นสาย ราวี่สังเกตได้แต่ไม่พูดจาใด ๆ ทั้งสิ้น ขณะนี้วิญญาณบุ๊คแมนทำหน้าที่แล้ว อเลนจะเผลอไม่ได้อีก
*แกร๊ง*
เสียงวางของถาดที่เต็มไปด้วยอาหารหลากหลายจากมุมโลกดังขึ้น ราวี่แอบขนลุกนิด ๆ กับอาหารเหล่านั้น
“มีอะไรรึเปล่าครับราวี่?” อเลนรุกถาม
“อ่อนั่นสิ เดี๋ยวฉันจะสรุปอะไรให้นายฟังหน่อย”
“สรุป? สรุปเรื่องอะไรกันครับรา-”
“นานมาแล้ว”
“*อึ่ก...*”
ท่านเคานท์พันปี [ The Millennium Earl ] หรือใบนามปีศาจที่พวกเรามองกันนั้น เป็นอดัมแห่งเหล่าสาวกพี่น้องโนอาทั้งสิบสี่คน
สิบสี่ ใช่ สิบสามคนนั้นแหละ หนึ่งในนั้นซึ่งเป็นน้องชายสุดท้องนามว่า ‘เนีย’ [ Neah ] ได้มีความเห็นแตกต่างจากเหล่าพี่น้องโนอาและได้เกิดทรยศหักหลัง ต่อสู้คัดค้านกับท่านเคานท์พันปี
ซึ่งในช่วงนั้น เนียก็ได้ทราบอยู่แก่ใจ เขาจึงมอบพลังของโนอา ‘คุณสมบัติแห่งนักดนตรี’ หรือ ‘การทำลายล้าง’ ให้แก่บุคคลหนึ่งที่ไม่ทราบ จากนั้นเนียก็ได้สิ้นชีวิตเพราะต่อสู้กับท่านเคานท์ไม่สำเร็จ
เพราะอะไร? ตามข้อมูลข่าวสารที่พวกเราเหล่าบุ๊คแมนได้ทราบข่าวมาล่าสุดนั้นไม่มีบันทึกเอาไว้ นอกจากจัตุรัสนาวาที่เนียได้สถิตอยู่ เขามีห้องลับแห่งหนึ่ง ห้องลับแห่งนั้นที่แม้นแต่ท่านเคานท์ยังไม่รู้ว่าอยู่หนใด
“นอกจากนายอเลน นายสามารถเปิดประตูเข้าไปได้ แถมยังบังคับจัตุรัสนาวาได้อีก นายมีความสัมพันธ์อะไรกับเนีย นายรู้เรื่องอะไรบ้าง หรือว่านายจะเป็นบุคคลที่เนียมอบความสามารถให้กันแน่? ตอบมาสิอเลน!”
“ผม!...ไม่เข้าใจว่า คุณพูดเรื่องอะไรนะรา-“
*ตึก ตึก!!*
“อั่ก!”
กลับมาอีกครั้งกับความรู้สึกเดิม ราวกันหัวใจหยุดเต้นไปชั่ววูบ ร่างกายร้อนผ่าว เลือดเย็นไปทั่วร่ายกายเพียงชั่วขณะ ร่างกายสั่นเครือ ความรู้สึกเจ็บปวดแปลบเล็กน้อยแผ่ทั่วร่างกาย ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป จะเป็นใครห็คงยอมตายจะดีกว่า
“เฮ่ย อเลน! นายเป็นอะไรไป?!”ราวี่ตะโกนพลางเขย่าอเลน
“ปะ...เปล่าครับ ไม่มีอะไร...”อเลนตอบเสียงค่อย
“...งั้นรีบ ๆ กินให้เสร็จเดี๋ยวจะได้ไปที่นั่นกัน”
“เสร็จเป็นชาติแล้วครับ”
“...ห๊ะ?!!”
สถานที่ที่อเลนกับราวี่เดินทางไปนั้น อยู่ข้างล่างอีกฝั่งของมุมวิยาศาสตร์ เป็นสถานที่ที่ใช้เปิดประตูเพื่อเข้าไปในจัตุรัสนาวา โดยจะมีเรือโนอาหรือประตูในรูปร่างที่แปลกตาสีขาวส่องแสงขนาดใหญ่
พวกเขาทั้งสองคนเข้าไปข้างในโดยราวี่เป็นคนเดินนำ จากนั้นสถานที่ก็ได้เปลี่ยนไป ในที่ที่พวกเขาอยู่นั้นคือสถานที่ที่เหล่าโนอาได้ถือกำเนิดขึ้นมา โดยปัจจุบันไร้นักดนตรีมาควบคุม หรือภายในของจัตรุรัสนาวานี่เอง
“เหมือนเดิม...เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงเลยนะ จัตุรัสนาวา...”
“อเลน? นายพูดอะไรน่ะ?”
“เอ๋? ผมไม่ได้พูดอะไรนี่ครับ”
“อ้าวเหรอ?...หูฝาดไงฟระ ยังไงก็เหอะ เปิดประตูที”
...
ห้องลับ...ห้องลับของลำดับที่สิบสี่ ขนาดถึงท่านเคานท์พันปียังไม่ทราบที่อยู่ของมัน นอกจากลำดับที่สิบสี่เอง...
“ยังคงสีขาวน่ะนะ” อเลนหรี่ตาลงสังเกตรอบ ๆ ห้องที่เขาได้เข้าไป
“เปียโนนั่น...เล่นทีสิอเลน”
“ทำไมล่ะครับ?”
“แค่เช็คความแน่ใจเท่านั้นแหละ”
ความสงสัย...
“..เข้าใจแล้วล่ะครับ”
อเลนเดินตรงไปที่เปียโนสีขาวสะท้อนกับแสงจนเกิดเงาทอดเป็นประกาย นิ้วสัมผัสลงกีบคีย์ของเปียโนเบา ๆ เกิดเสียงเล็กน้อย ถอนหายใจเบา ๆ แล้วนึกภาพถึงเนื้อเพลงที่เขากับมาน่าได้คิดด้วยกัน...
So the little infant fell into a deep sleep.
Soshite bouya wa nemuri ni tsuita
‘และแล้วเด็กน้อย...ก็ผลอยหลับไป...’
ได้เกิดขึ้นระหว่างเพื่อนพ้องด้วยกัน...
เสียงเพลงอันไพเราะดังขึ้นก้องไปทั่วจัตุรัสนาวา ความรู้สึกแห่งความสัมพันธ์ระหว่างมาน่ากับเขาได้ผุดขึ้นมาบนหัว ความรู้สึกนั้น ๆ เป็นความรู้สึกที่ตัวเขาเองลบไปไม่ได้ เป็นความรู้สึกที่จะอยู่กับเขาตลอดไป...แม้จะมีเรื่องของลำดับที่สิบสี่ขึ้นมาด้วยก็ตาม...
Among the grey ashes in the flames shining...First one,then two ...
ikizuku hai no naka no honoo, hitotsu, futatsu to ukabu fukurami itoshii yokogao
‘การถอนหายใจทำให้พระเพลิงในเถ้าถ่าน...เพิ่มขึ้นทีละเล็กละน้อย...’
หึหึ
ความเชื่อใจ...เริ่มจางและหายไป...
นิ้วมือทั้งสองข้างเริ่มขยับเร็วขึ้นและเร็วขึ้น อเลนหลับตาลงเมื่อเข้าจังหวะ ฝีปากขยับเล็กน้อยคล้ายคลึงกับร้องเพลงคล้อยประกอบตาม ๆ กันไป
Surfaces numerous of your faces
daichi ni taruru ikusen no yume, yume
‘ใบหน้าของผู้เป็นที่รักผุดขึ้นมา...ในความมืดมิด...’
หึหึหึ
ความสัมพันธ์...ค่อย ๆ ร้าวและแตกกลายเป็นฝุ่นธุลี...
ราวี่ยังคงจ้องที่อเลน ไม่ใช่เพราะว่าเขาต้องการจะเช็คเรื่องเนื้อเพลงที่อเลนบรรเลงผ่านทางเปียโนอยู่ แต่ต้องการทราบเกี่ยวกับลำดับที่สิบสี่ต่างหาก
A thousand dreams trickle back to the earth
Gin no hitomi no yuragu yoru ni
‘นิมิตหลายพันประกอบกันเป็นผืนดิน...’
ไม่มีวัน
โดยมีเงาเบื้องหลังกำลังกอบกุมเขา...
ความรู้สึกบีบรัดอันแปลกประหลาดทำให้ของเหลวอุ่น ๆ เริ่มไหลไปตามร่างกายของอเลน...อาจเรียกว่าความกดดัน...ความเครียด...ความไม่แน่ใจ...หรือความกลัว...
On the night when the silver eyes were trembling
umare ochita kagayaku omae
‘ดวงตาสีเงินแห่งค่ำคืนที่หวั่นไหว...’
...ที่จะปล่อย...
จนมองไม่เห็นแสงสว่าง...
ผีเสื้อสีขาวครีมค่อย ๆ บินเข้ามาในห้องเนื่องจากประตูไม่ได้ปิด พร้อมกับผีเสื้ออีกตัวที่ปีกไม่ค่อยสมบูรณ์แต่มีสีครามฟ้าที่สวยงามตาม ๆ กันมาบินรอบ ๆ ห้อง ราวี่ตัดสายตาจากอเลนเงยหน้าขึ้นไปมองกิริยาของผีเสื้อพวกนั้นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคิด
the shining you was born
ikuoku no toshitsuki ga
‘ได้ก่อกำเนิดและร่วงหล่นประกายสู้ตัวเจ้า...’
ให้นาย...
นอกจากความมืดอันแสนทรมาน...
ผีเสื้อสีครามค่อย ๆ หยุดชะงักและร่วงหล่นกองอยู่กับพื้น เนื่องจากผีเสื้อตัวแรกนันเผลอบินไปชนมัน อเลนลืมตาเหล่มองซากผีเสื้อปีกหักตนนั้นด้วยความอนาถใจ...
Across millions of years
ikutsu inori wo
‘แม้นเป็นเวลาหลายร้อยล้านเดือนปี...’
มาแทนฉัน...
แต่แล้วก็มีมือเอื้อมมาจากข้างบน...
แปลกที่ผีเสื้อสีครามนั้นยังคงไม่ตาย และอีกตัวก็บินลงมาเกาะพื้นสักครู่ พร้อมดันให้อีกตัวค่อย ๆ บินขึ้นไปเรื่อย...จนสามารถบินออกจากประตูได้ทั้งสองตัว...
the prayers have already returned back to the earth
tsuchi e kaesshitemo
‘ที่คำอธิษฐานมากมายจะกลับคืนสู่ดิน...’
นอกจากนาย...
พร้อมกับแสงสว่างอีกครั้ง...
อเลนขยับยิ้มเล็กน้อยแล้วหลับตาลงอีกครั้ง ราวี่ก็กลับมามองอเลนเช่นเดิม ฟังเสียงบรรเลงอันไพเราะที่อเลนเป็นคนเล่นต่อไป ถ้าว่างจัดก็จะคอยตีความเนื้อต่อไปด้วย
I will still continue to pray
Watashi wa inori tsuzukeru
‘ฉันก็ยัง...จะเฝ้าอธิษฐานต่อไป...’
จะมีความหวัง
เขาจึงเอื้อมมือขึ้นไป...
อเลนเริ่มเพิ่มน้ำหนักของปลายนิ้วเพื่อจะเพิ่มจังหวะท่อนสุดท้ายของเพลงนี้ เขาเงยหน้าขึ้นมาสูดลมหายใจให้เข้าปอดเต็มที่ แล้วก็บรรเลงเพลง
Please bestow upon this child your love
douka konoko ni ai wo
‘ขอได้โปรดจุมพิตที่มือ’
พอทีจะ...
คว้ามือที่เอื้อมลงมา...
ท่อนสุดท้ายที่อเลนจำความได้...ภายในความคิดของเขา เขาได้พบกับมาน่าอีกครั้ง แม้จะเป็นแค่ความคิด แต่เท่าที่เขาเห็น มีมาน่า...กับชายอีกคนข้าง ๆ เขาด้วย...นั่นมันใครกัน...?
Upon our joined hands, leave a gentle kiss
tsunaida te ni kisu wo
‘เพื่อเชื่อมสัมพันธ์รัก...กับเด็กคนนี้...’
โค่นความมืดภายในใจอย่างฉัน...ลงได้...
และแล้วทุกอย่าง...ก็ได้ประกอบเข้าที่จนเป็นเช่นเดิมที่เคยเป็น...แสงสว่างนี่....อบอุ่นเหลือเกิน...
เสียงเพลงจากคีย์ตัวสุดท้ายได้ค่อย ๆ หยุดลง อเลนเงยหน้าลืมตาขึ้นมามองราวี่ด้วยสีหน้าพึงพอใจ กล่าวถามราวี่ด้วยคำถามที่ฝืนเล็กน้อย
“เท่านี้พอแล้วสินะครับ มีอะไรต่ออีกไหมครับ?”
เหมือนจะถามให้หมดเปลือก แต่เท่านี้ก็คงจะเพียงพอแล้ว...
“ไม่มีอะไรหรอก กลับกันเถอะ”
“...ครับ นั่นสินะครับ”
“อเลนคุง~ ข่าวดีล่ะข่าวดีจ้า~!”
รินารี่วิ่งพรวดเข้ามาทันทีที่อเลนกับราวี่ออกมาจากประตู
“มีอะไรงั้นเหรอครับ?”
“เราได้ภารกิจล่ะ แถมยังเป็นลอนดอนตรงนี้เอง ไม่ต้องเดินทางให้ลำบากล่ะ”
“งั้นก็ดีสิครับ แล้วภารกิจนี่...”
“ไม่มีอะไรมากจ่ะ เดี๋ยวระหว่างทางจะบอกรายละเอียดให้แล้วกันนะ”
“โห~ เดินมาใกล้ ๆ ก็ใหญ่จังแฮะ”
“บิกเบนเหรอครับ?”
“อื้อ”
แล้วจู่ ๆ ก็มีเด็กสาวคนหนึ่งในสภาพโทรม ๆ ที่คล้ายคลึงกับขอทานเดินเข้ามากระตุกแขนเสื้อของอเลน
“พี่ชายคะ พี่ชาย มีคนเรียกน่ะค่ะ”
“เอ๋?”
“ไปเถอะจ่ะอเลน เค้าเรียกนี่นา”
“เอ่อ...ครับ”
อเลนเดินตามที่เด็กสาวคนนั้นพูด แล้วเดินเข้าไปในซอยเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง อเลนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนักแต่ก็ยังคงเดินตามไปเพราะคำพูดของรินารี่
*ตุบ...*
“อ้าว...ไหนล่ะครับ?” อเลนชะงัก
“ก็นี่ไงคะ...ฉันเองล่ะค่ะ...”
และแล้วทุกสิ่งทุกอย่างบริเวณนั้นก็ครอบคลุมไปด้วยโลกในอีกมิติหนึ่ง เป็นความฝันที่หนึ่งในโนอาสามารถใช้ได้ ชื่อของโนอาคนคนนั้นก็คือ...
“เธอ...โร้ด?”
ความคิดเห็น