คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : วันที่แสนยาวนาน
.......
กริ๊งงงงงงง ....
ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก มือยาวของผมรีบตะครุบนาฬิกาทันทีเพื่อหยุดเสียงรบกวนนั่น
เพราะความกลัวที่จะว่าเสียงของนาฬิกานั่นจะไปรบกวนคนที่กำลังนอนอยู่ในห้องข้างๆ
ตอนนี้ไม่ว่าผมจะทำอะไร มันก็ผิดไปหมดซะทุกอย่างในสายตาของเขาอยู่แล้ว..
แต่ถึงรู้อย่างนั้น ผมก็ยังรีบตื่นเพื่อที่จะไปเตรียมอาหารเช้าให้เขาอยู่ดี
นี่ก็เพิ่งจะ 6 โมงกว่าเอง ยังเหลือเวลาอีกชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาานัดที่ผู้จัดการจะเข้ามารับเข้าบริษัท
ผมเดินเข้าไปในครัวในหัวก็คิดถึงเมนูอาหารเช้าอยางง่ายๆ ในแบบที่แจจุงเคยทำให้พวกเรากิน ..
นึกถึงตอนนั้น แจจุง คงลำบากไม่ใช่น้อยเลยทีเดียวที่ต้องมาทำอาหารให้กับพวกเราถึง 5 คน
และผมเองก็แทบจะไม่ได้ช่วยงานในครัวหรือแม้กระทั่งงานบ้านเลยด้วยซ้ำ
จะมีก็แต่จุนซู และ อีกคนที่กำลังนอนอยู่ตอนนี้ ที่คอยเป็นลูกมือให้แจจุง
ส่วนตัวผม รับแต่งานนอกบ้านเพื่อหารายได้ให้ครอบครัว ...
ใครจะรู้บ้างไม๊ว่า ..เห็นผมออกรายการนู้นรายการนี้อยู่คนเดียวบ่อยๆ
โดยในบางครั้งผมแทบจะไม่มีเวลาได้หยุดพักก็ต้องไปอัดรายการอื่นต่อๆไปเรื่อยๆ
แต่รายรับที่ได้จะถูกแบ่งให้ทั้งห้าคนเท่าๆกัน
ดังนั้นผมจึงยอมเหนื่อยคนเดียว...
ฮึ ..แต่หลายคนก็มองว่าผมพยายามที่จะดังคนเดียว
ผมเคยทำงานโดยไม่ได้หลับได้นอนถึงสาม วันติดต่อกัน
จนหมดสติทันทีหลังจากถ่ายทำรายการเสร็จ แล้วผมก็เข้าโรงพยาบาล
ผมเป็นคนที่เข้าโรงพยาบาลบ่อยมากเมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมวงคนอื่นๆ
จนผมถูกมองเป็นการสร้างข่าวบ้าง สร้างเรื่องบ้าง
แต่ก็ช่างมันเถอะ ... ผมชิดซะแล้ว กับเรื่องข่าวในทางลบ
ยิ่งในตอนนี้ ผมกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาของคนหลายๆ คน
ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงคนที่ผมยอมให้ทุกอย่างคนที่กำลังนอนหลับสบายอยู่ในห้องข้างๆนี่เอง
...........
ยุนโฮเตรียมอาหารเช้าเสร็จแล้ว ..กว่าจะออกมาหน้าตาพอกินได้ก็ใช้เวลาไปเกือบชั่วโมง
ขายาวเดินไปหยุดยืนที่หน้าห้องของชางมินก่อนจะตัดสินใจเค๊าะห้องดังๆ สองสามครั้ง
ชางมินเปิดประตูออกมาหลังจากที่เงียบไปซักพัก
ร่างสูงที่ตอนนี้ยังอยู่ในชุดนอน ยืนมองออกมาอย่างหาเรื่อง ...
"มีอะไรอีก!" น้ำเสียงขุ่นที่บอกได้ว่าเจ้าตัวหงุดหงิดขนาดไหนที่ถูกกวนเวลานอน
"ฉัน..เออ ..พี่..ทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว..นายมากินก่อนซิแล้วเดี๋ยวค่อยไปอาบน้ำ" ยุนโฮตอบเสียงเบาๆ
ชางมินเดินออกมาด้วยท่าทางที่ยังงัวเงีย... แล้วนั่งลงที่โต๊ะอาหารแบบอัตโนมัติ
มือหนากำลังจะตักอาหารเข้าปาก แต่ก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ .. ช้อนที่ถืออยู่ถูกวางกลับลงไปอย่างแรง
"ชางมิน ..ทำไม ..นายไม่ชอบเหรอ" ผมถามออกไปหลังจากที่เห็นท่าทางนั่น
"ใช่ .. ไม่ชอบ .."
"แล้วนายอยากกินอะไร พี่ไปทำให้ใหม่เอาไม๊"
"ไม่เอา ไม่กิน .." ร่างสูงทำท่าจะลุกขึ้น
"ชางมิน กินเถอะนะ นายยิ่งชอบปวดท้องอยู่ ..นายจะกินอะไรเดี๋ยวพี่ทำให้ใหม่ ก็ได้"
ชางมินหันมามองหน้าผมเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่
"ได้..ถ้าพี่ทำได้ ผมจะกิน ..ผมขอข้าวต้มปลาหมึก ให้เสร็จภายในห้านาที"
"เออ คือว่าไม่มีปลาหมึก หน่ะ"
"ฮึ! ..ถ้าไม่มีก็ไม่กิน ..แล้วคราวหลังไม่ต้องมาบอกว่าจะทำอะไรให้อีก" ร่างสูงหมุนตัวเดินกลับเข้าห้อง
"ได้..เดี๋ยวพี่ออกไปซื้อปลาหมึกนะ นายรอก่อนแป๊ปเดียว เดี๋ยวมา" ผมรีบลุกขึ้นก่อนที่ชางมินจะกลับเข้าห้องไป
"ภายในห้านาที .. เท่านั้นนะ" ชางมินพูดตอบมาแล้วเดินกลับเข้าห้องไป
........................
"พี่แจ ครับ...ผมคิดถึงพี่จังเลย..เมื่อไหร่ผมถึงจะมีโอกาสได้กินอาหารเช้าฝีมือพี่"
ชางมินเดินกลับเข้ามาในห้องแล้วพิมพ์ข้อความผ่าน ทวิตเตอร์ไปให้แจจุง
เฮ้อ..ร่างสูงถอนหายใจหนัก ...ไม่รู้ว่าป่านนี้ พี่ๆ ทั้งสามของเขาจะเป็นยังไงกันมั่ง
ตอนนี้ทั้งสามคนกำลังออกอัลบั้มแรก ในนาม เจวายเจ
และกำลังเดินทางออกแสดงทั่วโลกตามความตั้งใจของทั้งสามคน
ไม่ใช่ซิ ที่จริงมันคือความฝันและความตั้งใจของพวกเราทั้ง ห้า คนต่างหาก
ชางมิน ทวิต ข้อความอีกครั้ง
"พี่แจ ครับ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ ..กินอาหารให้ตรงเวลา ใส่เสื้อผ้าหนาๆ
และอย่าดื่มเยอะนะครับ..ผมเป็นห่วง"
ในระหว่างที่ชางมินกำลังนั่งส่งข้อความให้แจจุง
ยุนโฮก็กำลังวิ่งออกไปที่ร้านสะดวกซื้อข้างๆ ที่พักเพื่อหาซื้อปลาหมึกสดมาทำข้าวต้ม
ร่างบางคว้าถุงปลาหมึกแช่แข็งที่มีเหลืออยู่ถุงสุดท้ายในตู้แช่
เพราะถ้าชักช้าเขาอาจจะต้องไปหาซื้อที่ไกลกว่านี้ และก็คงจะไม่ทันเวลา ห้านาทีแน่นอน
ยุนโฮรีบวิ่งกลับเข้าคอนโด เพราะความรีบร้อนเขาจึงไม่ได้ติดเสื้อกันฝนลงมาด้วย
และตอนนี้ข้างนอกฝนก็กำลังตกลงมาอย่างหนัก ซึ่งตอนที่ออกมาจากคอนโดก็มีฝนปรอยๆอยู่แล้ว ...
ร่างบางที่เปียกโชกกำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับเข้ามาในห้อง
แล้วตรงดิ่งเข้าครัวก้มหน้าก้มตาทำข้าวต้มปลาหมึกให้อีกคน
โดยไม่ได้สนใจที่จะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหรือเช็ดตัวให้แห้งซะก่อน
.........................
ยุนโฮลงมือทำข้าวต้มตามที่เคยเห็นแจจุงทำ
แต่ก็ไม่ค่อยแน่ใจนักหรอกว่าที่ทำหน่ะมันตรงตามสูตรของแจจุงหรือเปล่า
แต่ก็พยายามอย่างสุดความสามารถ กว่าข้าวต้มจะเสร็จก็กินเวลาไปเกือบสิบนาที
ทั้งๆที่ร่างบางไม่ได้หยุดพักเลยสักวินาทีเดียว
ตัวที่เปียกโชกเริ่มแห้งบ้างแล้วแต่ก็ยังคงเปียกอยู่ ...
มือเรียวขาวซีดเพราะความหนาวเย็นแต่ก็ยังคงทำหน้าที่ต่อไป
"เฮ้อ ..เสร็จซักที .." ผมถอนหายใจ พลางถูมือไปมาเพื่อเพิ่มความอบอุ่น
"ก๊อก ๆ ๆ ๆ ..ชางมิน . . ชางมิน..หืม .." ยุนโฮกระแอมเบาๆ เพราะรู้สึกว่าเสียงจะหายไป
"ชางมิน ..." ผมเรียกอีกครั้งและคราวนี้ผมรู้สึกเจ็บคอขึ้นมาจริงๆ
คงเป็เพราะว่าตัวที่เปียกชื้นเป็นเวลานานเลยส่งผลให้เกิดอาการคออักเสบที่
เป็นโรคประจำตัวเรื้อรังของผมมานาน...
และนั่นก็ทำให้ผมเดาต่อไปได้เลยว่าอีกไม่นานผมจะต้องมีไข้สูงตามมาแล้วก็คงจะเป็นเรื้อรังไปเรื่อยๆ อีกนาน
ชางมินเดินออกประตูห้องนอนมาในสภาพที่เตรียมพร้อมจะออกไปทำงาน ..
ร่างสูงเดินผ่านคนที่ยืนหน้าซีดปากสั่นอยู่ตรงหน้า ก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาโดยไม่ได้สนใจมองเลย
"ชางมิน .." ผมพยายามเรียกอีกครั้งทั้งๆที่ตอนนี้เริ่มจะเจ็บคอมากขึ้น
"พี่ทำข้าวต้มเสร็จแล้วนะ ..นายมากินซิ กำลังร้อนๆ เลย "
---เงียบ---
"อืม.. พี่ยกมาให้นายนะ ..นี่ไง ปลาหมึกตัวโตๆ ที่นายอยากกิน "
"หมดเวลา .. ผมจะไปทำงาน"
"แต่ ชาง มิน..นาย แค๊กๆๆ นายยังไม่กิน ฮัดชิ้วววว! พรืดดดด.. "
ผมพยายามจะพูดต่อแต่อาการหวัดเริ่มจะเป็นมากขึ้น ผมเลยทั้งไอ ทั้งจามติดๆ กันเป็นชุด
และยังไม่ทันที่จะมีใครพูดอะไรต่อ ..เสียงกริ่งหน้าห้องก็ดัง ขึ้น ผมจึงรีบวิ่งไปเปิดประตู เพราะรู้ดีว่าใครมา
"ยุนโฮ ..เฮ้ย ..ทำไมตัวเปียกแบบนี้ละ ...โอ๊ย ตายตายเลย เดี๋ยวก็ได้เป็นหวัดเจ็บคอแล้วก็เป็นไข้อีกหรอก
ไปเลย รีบๆ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า..อ้าวชางมิน" ผู้จัดการก้าวเข้ามาในห้องแล้วก็ใส่ยุนโฮเป็นชุด
เลยเพิ่งจะเห็นชางมินที่นั่งรอเรียบร้อยอยู่ที่ห้องรับแขก ก่อนจะหันมาเล่นงานยุนโฮตามหลังต่ออีกชุดใหญ่
"นายนี่ชอบทำตัวให้ห่วงอยู่เรื่อยเลยนะ ยุนโฮ .
.ก็รู้ๆอยู่ว่ากำลังจะออกอัลบั้มใหม่แล้วถ้าเกิดไม่สบายขึ้นมาจะทำยังไง
ไม่ดูแลตัวเองเลย แล้วนี่ปล่อยให้ตัวเปียกอยู่ได้ไม่รีบไปอาบน้ำ ...
ถ้าเกิดไม่สบายขึ้นมาแล้วไม่ได้หยุดพักจะหาว่าฉันโหดไม่ได้นะ"
เสียงตะโกนสวดยังดังตามเข้ามาในห้องพัก
"อ้าว นี่ข้าวต้มใครเนี่ย .. น่าตาน่ากินดีนี่"
"อ้อ ..ผู้จัดการกินเลยครับ ..ไม่มีของใคร " เสียงชางมินตอบดังชัดเจนเข้ามาในห้องเหมือนจงใจจะให้ยุนโฮได้ยิน
........................
สิบนาทีต่อมา บนรถตู้เข้าบริษัท
"แค๊ก ๆๆ ..แค๊กๆๆ ..." ผมพยายามที่จะเอาผ้าปิดปากเพื่อให้เสียงไอเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้
"ยุนโฮ .. นี่นายกินยาอะไรมาหรือยัง ..ท่าจะเป็นหวัดจริงๆ "ผู้จัดการถามด้วยความกังวล
"กินแล้ว ..แค๊ก ..ครับ" ..
"กินตอนไหน ...โกหก ชัดๆ ชัดยังไม่เห็นนายหยิบอะไรกินเลย" ผู้จัดการถามกลับ
"ก็ ..ตอน.. ตอนที่ผมเข้าในห้องนอนหน่ะ ..แค๊ก ๆๆ " ยุนโฮหาทางออกได้ในที่สุด
"นี่แล้วตอนคุยกับท่านประธานละก็ พยายามอย่าไอ นะ ไม่งั้นฉันจะโดนด่าไปด้วย
แล้วคราวหน้าคราวหลังก็ระวังตัวให้มากกว่านี้ อย่าป่วยบ่อย เข้าใจไม๊ ..
ตอนเราไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะต่อรองอะไรได้เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
ไม่ว่านายจะป่วยให้ตายเค๊าก็ไม่ยอมหยุดงานที่ได้วางแผนเอาไว้หรอก ..
นายสองคนหน่ะ เตรียมรับงานหนักเอาไว้เลย
อย่างน้อยๆ ตอนนี้ บริษัทก็ต้องให้นายแข่งกับ เออ...แข่งกับอีกสามคนนั่นให้ได้..
ว่าแต่ตอนนี้ ไม่รู้ทั้งสามคนจะเป็นยังไงกันมั่ง ..
บอกตามตรงว่าฉันล่ะ คิดถึงพวกนั้นมากๆ
..แต่ก็ทำไงได้ ฉันมาครอบครัวที่ต้องดูแลอีกหลายชีวิต
จะออกไปต่อสู้โกลภายนอกเหมือนชายหนุ่มก็คงเป็นไปไม่ได้
...อ๊ะ..ถึงแล้ว ..ไปๆๆ ..ลงรถเร็ว" ผู้จัดการบ่นยาวจนถึงบริษัท"
.......................
ห้องประชุมบริษัท ...
การประชุมของทีมงานเพื่อผลงานชุดใหม่ของ TVXQ ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
จากแปดโมงเช้า
...ที่เริ่มจากผู้บริหาร
แล้วต่อด้วยทีมของproducer
ตามด้วยทีมงาน creative
ต่อด้วยทีม production
แล้วก็ทีมประชาสัมพันธ์ ทีมซ้อมเต้น ..
เรื่อยมาจนตอนนี้เป็นเวลาเกือบสี่โมงเย็น ...
ทั้งยุนโฮ ชางมิน และ ผู้จัดการ ไม่ได้ลุกออกไปข้างนอกเลย
มีแต่ทีมงานที่พลัดเปลี่ยนกันเดินเข้ามาคุยแต่ละทีมก็กินเวลาไปร่วมสองชั่วโมง
ยังโชคดีที่ในระหว่างคุยงานแม่บ้านของบริษัท ยังนำขนมและน้ำเข้าให้บ้าง
และสำหรับ ชางมินน้องเล็กผู้น่ารัก ขวัญใจชนทุกชั้น นั้นก็ได้ขนมพิเศษ
เป็นแซนวิชจานใหญ่ที่เจ้าตัวกินหมดภายในไม่กี่นาที..
.............
ระหว่างการประชุม ..ผมเห็นผู้จัดการมองมาที่ผมเป็นระยะๆ เพราะคงสังเกตุว่าผมจะมีอาการแย่ลงหรือเปล่า
ฮึ ..แต่คนอย่างผม ..ไม่แสดงอาการป่วยออกมาให้ใครจับสังเกตุเห็นได้ง่ายๆ หรอก
ทั้งๆ ที่ตอนนี้ในหัวเหมือนกับมีใครกำลังเอาค้อนมาทุบตุบๆๆๆ อยู่ตลอดเวลา
ขนมที่แม่บ้านเอามาเสริฟก็ยังคงวางอยู่ที่เดิม ไม่ใช่ผมไม่หิวนะ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกเจ็บคอมาก
เจ็บจนแทบจะกลืนน้ำลายไม่ได้แล้ว ..
และตัวผมก็เหมือนกับเป็นฮีทเตอร์ เพราะผมรู้สึกถึงไอร้อนที่กระจายตัวออกโดยรอบ
และชางมิน ที่นั่งใกล้ๆ ก็คงจะรู้สึกถึงไอร้อนจากตัวผม
แต่ร่างสูงก็ยังคงนั่งนิ่งเฉย พูดคุยกับทีมงานแต่ละทีมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
....
และในที่สุดการประชุมที่แสนยาวนานก็สิ้นสุดลงในเวลา หนึ่งทุ่มตรงพอดี ...
"เฮ้อ ..! ..เหนื่อย! "
ผู้จัดการของผมเป็นคนแรกที่ตะโกนออกมาด้วยความโลงอกหลังจากการประชุมที่แสนยาวนานสิ้นสุดลง
ชางมิน ลุกขึ้นยืน บิดขี้เกียจ สองสาม ครั้ง ก่อนจะหันไปพูดกับผู้จัดการ
"พี่ครับ ..ผมหิวข้าวแล้ว .. เราไปหาอะไรกินกันก่อนเถอะ ..ผมอยากกินอะไรเผ็ดๆ ซักหน่อยคลายเครียด"
"เอาซิ ..แต่ว่า " ผู้จัดการหันหน้ามาที่ผม
"ฉันว่าเราน่สจะพายุนโฮไปหาหมอก่อนดีว่านะ ดูท่าทางจะไข้ขึ้นหนัก .
.แต่ก็ขอบใจนะ ที่ช่วยกลั้นไอเอาไว้ตอนที่ท่านประธานมาหน่ะ"
"ไม่เป็นไร ครับพี่ ..ผมยังไหว เราไปกินอะไรกันก่อนก็ได้ครับ" ผมพูดออกไปด้วยเสียงที่เริ่มแหบพร่าเต็มที
"แต่ผม ไม่ชอบให้มีคนป่วยร่วมโต๊ะอาหาร" ชางมินพูดขึ้นมาลอยๆ ..
ผู้จัดการหันมามองหน้าผมอีกที
"เออ ..ผมคิดว่า ..ผมไม่ไปกินด้วยดีกว่าครับ ..เดี่ยวผมจะแวะไปหาหมอก่อนกลับบ้านพอดี"
"แน่ใจนะ.. นายไปหาหมอคนเดียวได้เหรอ ..ฉันไปเป็นเพื่อนนายดีกว่า" ผู้จัดการลุกขึ้นเดินเข้ามาใกล้ๆผม
"แต่ผมก็ไม่อยากกินข้าวคนเดียว" ชางมินพูดขึ้นมาอีกครั้ง
"อะไรว่ะ ..ชางมิน ..ฉันชักเริ่มงงแล้วนะเนี่ย "
"พี่ไปกินข้าวกับชางมินเถอะครับ ผมไปหาหมอเองได้ แล้วเจอกันพรุ่งนี้เช้านะครับ "
ผมพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นเดินออกไปจากที่ตรงนั้นแต่ยัง
ไม่ทันที่จะก้าวขาออกนอกห้อง ร่างสูงของชางมินก็เดินแทรกตัวออกประตูไปก่อน
ทำเอาผมถึงกับเซไปชนขอบประตูเข้าอย่างจัง
"ยุนโฮ ..นายไหวแน่นะ " ผู้จัดการเข้ามาพยุงผมเอาไว้
"นี่นายตัวร้อนมากๆเลย รีบๆไปหาหมอซะ
แล้วพรุ่งนี้นายแน่ใจนะว่าจะไปถ่ายโฆษณาโปรโมทการท่องเที่ยวไหว"
"ครับ ..ไม่ต้องห่วง.." ผมตอบออกไปเบาๆ ทั้งที่ตอนนี้แค่จะเดินให้ตรงทางยังลำบากเลย
ผมมองตามแผ่นหลังกว้างของชางมินออกไป .. ทำไมนะ นายรังเกียจพี่ถึงขนาดนี้เลยเหรอ ..
เมื่อไหร่ นายจะหันมาพูดกับพี่ ดีๆ บ้าง ..ไม่ต้องให้เหมือนกับที่นายพูดกับแจจุงก็ได้
ขอเพียงให้มีพี่อยู่ในสายตาของนายบ้างก็เพียงพอ ...
ความคิดเห็น