ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love at Taiwan เติมรักใส่ฝัน ให้ใจเธอกับฉันเป็นสีชมพู

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 27 มิ.ย. 54


     “ไต้หวัน ไต้หวัน ไต้หวาน.นนน นี่ๆ จองมิน เรามาสูดอากาศพร้อมกันนะ”

    ทันที่ทีลงจากเครื่องบิน ฉันก็รีบวิ่งออกมาจากสนามบินซงซานทันที กรี๊ด...ดดดด ในที่สุด ฉันก็เดินทางมถึงประเทศในฝันจนได้ อิอิ ขอสูดกลิ่นอายความเป็นไต้หวันให้เต็มปอดที่เถอะ อึบ  ฮ่าห์~ โสดชื่นนนนนน

    “ฮะฮะฮ่า เธอนี่บ้าชะมัดเลย ทำเหมือนบ้านนอกเข้ากรุงไม่มีผิด” นายจองมินหัวเราะคิกคักกับท่าทีของฉัน ที่ฉันเคยบอกว่านัยย์ตาของหมอนี้แฝงด้วยความเย็นชา มันเป็นเพียงลุคนอกของหมอนี้เท่านั้น  ตัวจริงทั้งพูดมาก เจ้าเล่ห์และไร้สาระมากถึงมากที่ซู๊ดเลย><

    “แล้วนายเคยมารึไง ไหนบอกว่าเคยไปแต่ประเทศแถบตะวันตกไม่ใช่เรอะ”ฉันพ่นน้ำลายและขี้ฟันโต้เขากลับ จ้องมินหุบยิ้มและจ้องหน้าฉันก่อนจะหัวเราะออกมา ฉันจึงแกล้งตีหน้านิ่งทำให้จองมินทำหน้าหมาหงอยในทันที ฮะฮะฮ่า ตลกชะมัดเลย>_<

    “ฮะฮะฮ่า อุ๊บ!

    “นี่! เธอแกล้งฉันเหรอ” จองมินทำหน้าขรึม แต่พอเห็นฉันหัวเราะไม่หยุดนานๆเข้า เขาก็เลยหัวเราะออกมาบ้าง เสียงหัวเราะของฉันและจองมินประสานกันทำให้เกิดเสียงดังพอสมควร  ผู้คนที่เดินผ่านไปมาเริ่มหันมามองพวกเราด้วยสายตาประมาณว่า บ้า หรือไม่ก็หัวเราะอะไรกันนะ

     

    “เธอแน่ใจเหรอว่าเราจะพักกันที่นี่ มันเก่าแก่ซอมซ่อมากเลยนะ” จองมินถามย้ำอีกรอบเมื่อเดินมาถึงประตูหน้าห้องพัก อันที่จริงเขาถามซ้ำไปซ้ำมาจนนี่เป็นรอบที่หนึ่งร้อยได้แล้วมั้งนับตั้งแต่เห็นโรงแรมมาจนถึงห้องพักที่เต็มไปด้วยอารยธรรมโบราณ(เก่า)แห่งนี้ ฉันทำเป็นไม่สนใจและไขกุญแจเข้าไปในห้อง

    ภายในห้องที่เคยเป็นสีขาวประกอบด้วย เตียงขนาดกลางที่คาดว่าน่าจะผ่านการใช้งานมาแล้วไม่ต่ำกว่าสามสิบปีหนึ่งเตียง ผ้าม่านที่เก่าจนราขึ้นเป็นย่อมๆมีรูพรุน อยู่ประปราย ปิดบังหน้าต่างไม้ที่ไม่มีบานพับแถมไม้ที่ใช้ทำหน้าต่างยังมีรอยหักและรอยพุอยู่ด้วย ตู้เสื้อผ้าที่อยู่ในสภาพที่ไม่สามารถใช่เสื้อผ้าได้เกินสิบชิ้นเพราะเกรงว่ามันจะพังลงมาเสียก่อน  หน้ำซ้ำยังมีหยักใยจำนวนไม่น้อยซึ่งเราสามารถพบเห็นได้ตลอดเวลา อะจึ๋ย เลวร้ายกว่าที่คิดแหะ^^;;

    จองมินหันมาจ้องหน้าฉันและทำท่าเหมือนจะถามคำถามเดิม ฉันจึงพูดดักคอก่อนที่เขาจะพ่นประโยคซ้ำซากออกมา

    “เราจะพักกันที่นี้แหละ ฉันว่ามันก็ไม่ได้เก่า...สักเท่าไร แถมยังราคาถูก ช่วยเราประหยัดเงินในการท่องเที่ยวไปตั้งเยอะ ดีกว่าไปเปิดโรงแรมหรูๆให้เปลืองตังค์เล่น เนอะๆ ว่าไหม?^^

    “แต่....เอาอย่างนั้นก็ได้^^; แล้วเธอจะพักห้องเดียวกับฉันเหรอ?” จ้องมินถามฉันด้วยสีหน้าที่แปลกใจเล็กน้อย ฉันพยักหน้าและยิ้มกว้างก่อนที่จะล้มตัวลงนอนบนเตียง

    “แต่มันเป็นเตียงเดี่ยวนะ ทำไมเธอไม่ไปเปิดห้องอยู่ใหม่ล่ะ”                      

    “นายลองคิดดูนะจองมิน” ฉันสปริงตัวลุกขึ้นนั่งและดึงแขนจองมินให้นั่งลงข้างๆ”ถ้าฉันไปเปิดห้องอยู่ใหม่ ก็เท่ากับว่า เราจะเสียเงินอีกเท่าตัวหนึ่งกับค่าที่พักในหนึ่งคืน แทนที่เราจะเอาเงินจำนวนนั้นไปใช่ประโยชน์ในด้านอื่น และอีกอย่างหนึ่งนะ ถ้าเราเอาเงินสองจำนวนนั้นมาบวกลบคูณหารกัน มันก็จะเท่ากับราคาห้องพักในโรงแรมหรูๆเชียวนะ ถ้าต้องเปิดห้องใหม่ ฉันว่าเราไปเปิดโรงแรมดีๆอยู่ไม่ดีกว่าหรือไง” ฉันล็อกคอจองมินและกดเขาลงนอนข้างๆอย่างรวดเร็ว ทำให้ใบหน้าของฉันและเขาอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ

    ตึกตัก ตึกตัก

    กรี๊ด...ดดด ไอ้หัวใจบ้า จะมาเต้นเร็วอะไรตอนนี้ก็ไม่รู้><

    จองมินจ้องหน้าฉันก่อนจะสปริงตัวลุกขึ้นและตีหน้าขรึม”นอนห้องเดียวกันก็ได้ แต่ฉันจะไม่นอนเตียงเดียวกับเธอ-///-

    “นายกลัวฉันปล้ำนายรึไง-_-+++

    “มันก็ไม่แน่นะ ฉันยิ่งหล่อๆอยู่ด้วย เธออาจห้ามใจตัวเองไม่อยู่ก็ได้ อิอิ^^

    “นายไม่ต้องกลัวจองมิน ฉันปล้ำนายอยู่แล้วที่รัก J

    ธะ.. เธอคงไม่กล้าปล้ำฉันหรอกใช่ไหม^^;;” จองมินเริ่มเหงื่อตกกับคำพูดของฉัน ฮะฮะฮ่า แกล้งหมอนี่สนุกจริงๆ

    “อะไรทำให้นายคิดแบบนั้นล่ะจองมิน ถึงฉันจะหน้าตาสวยใสแลแอ๊บแบ่วอย่างนี้ ฉันยังเคยจูบนายก่อนเลย^^

    แปร๊ด -///-

    อยู่ๆ จองมินก็หน้าแดงเถือกยิ่งกว่ามะละกอสุกตำรวมกับมะเขือเทศและใส่พริกป่นไปสักครึ่งกิโลรวมกันซะอีก ฉันฉีกยิ้มอย่างผู้ชนะให้เขา หมอนั้นเดินมามุ่ยขึ้นมานอนบนเตียงข้างๆฉันและหันหลังให้ไม่พูดอะไรเลยสักคำ ฮะฮะฮ่า เขินอ่ะดิๆ อย่าว่าแต่หมอนั้นเลยที่เขิน ขนาดฉันเป็นคนพูดเองยังเขินเองเลย กล้ามากเลยฉัน >////< เอ่อ แต่ว่าฉันไม่ได้หน้าหนานะคะท่านผู้ชม :’)

     

     

    “นี่เธอ ออกมาเดินเผล้นพล่านอย่างนี้ มันเป็นการลักพาตัวรูปแบบใหม่ของเธอเหรอ”

    “เปล่าหรอก แต่จะให้ฉันอุดอู้อยู่แต่ในห้องมันก็หน้าเบื่อแย่หน่ะดิ สู้ออกมาสูดอากาศ ออกมาเปิดหูเปิดตาข้างนอกไม่ดีกว่าหรือไง หรือว่านายอยากอุดอู้อยู่แต่ในห้องก็ตามใจ^^” ฉันพูดพลางกินข้าวโพดปิ้งในมือ ท่ามกลางผู้คนที่เดินสวนทางไปมามากมาย อ๋อ! ลืมบอกไป ตอนนี้ฉันกับจองมินอยู่ที่ตลาดซื่อหลิน ตลาดยามค่ำคืนแหล่งช็อป  ของใช้ ของฝากและที่ขาดไม่ได้คือ อาหาร...เพียบ! ไอ้โน่นก็น่ากิน ไอ้นี่ก็น่ากิน กรี๊ด....ดดด เลือกกินไม่ถูกกันเลยที่เดียวเชียว เธอเอ๊ย!

    “นี่เธอคิดอะไรอยู่น่ะ ยิ้มซะจนปากจะฉีกถึงติ่งหูอยู่แล้ว อันที่จริง ฉันก็รู้อยู่หรอกนะว่าปากเธอมันกว้างงง~ แต่พอเธอยิ้มอย่างนี้แล้วทำให้ฉันนึกถึง เอ่อ อะไรนะ ที่เราเห็นที่วัดหลงซานอ่ะ”

    “ฉันจะไปรู้นายเรอะ ง่ำๆ แจ่บๆ )O(“  ก่อนที่ฉันจะมาที่ตลาดซื่อหลิน ฉันกับจองมินได้ไปสักการะสิ่งศักสิทิ์พร้อมเดินเที่ยวภายในวัดหลงซานมา

    ไม่อยากจะเซดเลยเธอเอ๊ย! มันเป็นอะไรที่ เวรี่ๆ อะเมซิ่ง มั๊กมาก แบบว่า สวยงามเกินจะบรรยายเลยแหละ มีมังกรพันเสาโน่นเสานี่เต็มไปหมด แล้วมังกรแต่ละตัวนะ มันเหมือนจริงมากกก....

    “นี่! เธอจะเดินกินไปถึงไหนเนี่ย คนยิ่งเยอะๆอยู่ เดี๋ยวเดินชนไม้นี่ต่ำคอไปจะว่ายังไง -_-

    “ปากเสีย! ฉันไม่ซุ่มซ่ามขนาดเดินให้คนอื่นชนหรอกย่ะ=_=

    “แต่มันก็ไม่แน่หรอกน่ะ มานี่” จองมินคว้าข้อมือของฉันเดินเบียดผู้คนที่เดินผ่านไปมา

    ตึกตัก~ตึกตัก~

    ไออุ่นจากมือของเขาทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ทั้งๆที่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น บ้าชะมัด>////< ทำไมใจของฉันต้องเต้นเร็วผิดปกติด้วยนะ แล้วทำไม....ฉันต้องชอบความรู้สึกแบบนี้ด้วย กรี๊ดกร๊าดด...นังเรนะอยากบ้าตายค่ะ

    “นี่! ยัยบ๊อง เธอเป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย น่าแดงเชียว หรือว่า ฮั่นแน่!^^ เธอเขินที่ฉันจับมือเธออ่ะดิ กิ้วๆ”

    “จะ...จะบ้าเรอะ  ทำไมฉันต้องเขินนายด้วย ไอ้นี่มันเผ็ดต่างหากล่ะ” ฉันชูข้างโพดปิ้งในมือให้เขาดุ ตายแล๋น ฉันใช้ไส้ติ่งส่วนไหนคิดเนี่ย ข้าวโพดปิ้งเผ็ด? ให้ตายเถอะซ่าร่า ไปเชื่อโพรโทซัวยังดีกว่าเชื่อคำพูดของฉันเสียอีก -_- จองมินจ้องฉันอย่างจับผิด ก่อนจะพ่นลมหายใจออก มองฉันด้วยหางตาและทำปากขมุบขมิบพึมพำอะไรในลำคอ ตะ...ตายแล้ว นายกล้าเล่นของเรอะ -_-++

     ฉันเอาฝักข้าวโพดที่กินหมดแล้วไปตีหัวไหล่ของเขาแรงๆอย่างหมั่นไส้ หมอนั้นทำหน้าขยักแขยงแบบสุดๆ ก่อนจะแย่งไอ้ฝักข้าวโพดนั่นมาเคาะหัวฉัน คืน

    “โอ๊ย! เจ็ยนะ” ฉันโวยวายเสียงดังลั่นแต่หมอนั้นกลับหัวเราะคิกคัก มีความสุขจริงๆเลยนะ รอถึงตาฉันก่อนเถอะ ฮึ่ม~

     

    หลังจากที่ฉันกับจองมินเดินเตร็ดเตร่ไปรอบๆ ตลาดซื่อหลิน แวะร้านโน่นเข้าร้านนี้ ดูโน่นกินนี่จนอิ่มแปล้ ก็ได้ฤกษ์มาพักให้อาหารย่อยที่ตึก 101  เอาแบบตรงๆเลยนะ วิวยามค่ำคืนของที่นี่ มหา โ-ค-ต-ร ของความงาม งดงามเกินจะสรรหาคำใดๆมาอธิบาย แบบว่าจะงามไปไหนน่ะเธอ

    แชะ แชะ

     แสงแฟลตพร้อมกับแสงของกล้อง ปลุกฉันให้ตื่นจากมนตร์เสน่ห์อันแสนงดงามยามค่ำคืนของไต้หวัน ฉันหันไปมองทางที่มาของเสียงและพบกับจองมินที่กำลังเก็บภาพที่สุดแสนประทับใจด้วยกล้องดิจิตอลในโทรศัพท์ อุว้าว หมอนี่ใช้โทรศัพท์รุ่นเดียวกับฉันด้วย แต่แค่คนละสี คิกๆ งดงามจริงเลยรุ่นเนี่ย ก๊ากก ดูดีทั้งคนใช่ทั้งโทรศัพท์^^

    ฉันละสายตาจากอาการบ้าของจองมินมาส่องกล้องดูดาวแทน ก๊ากก คิดอะไรสนุกๆ ออกแล้ว

    “นี่ๆจองมิน ทายซิว่าฉันเจออะไรเข้า!” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่สุดแสนจะตื่นเต้น จองมินละสายตาจากโทรศัพท์มาจ้องหน้าฉันก่อนจะพูดว่า...

    “เธอเห็น ยูเอฟโอหรือไง - -++”

    “ไม่ใช่ๆ ฉันมองเห้นโซลเทาเวอร์ด้วยแหละ”

    “จริงอ่ะเรนะ ไหนๆ มาดูหน่อยเซ่ะ” จ้องมินแย้งกล้องไปจากมือฉันและส่องหาโซลเทาเวอร์ใหญ่เลย ก๊าก ขำว่ะ “ไหนอ่ะเรนะ ไม่เห็นมีเลย”

    “นายนี่โง๊ โง่เนอะ จองมิน ไต้หวันอยู่ห่างจากเกาหลีตั้งเยอะจะมองเห็นโซลเทาเวอร์ได้ไง ว๊ากก ขำกลิ้งลิงกะหมา^^

    โป๊ก!

    “โอ๊ย เจ็บนะ นายทำบ้าอะไรของนายฮะ จองมิน” ฉันร้องเสียงหลงทำให้คนข้างๆหันมามอง ฉันยิ้มแห้งๆให้กับเขาก่อนจะหันมาโวยใส่จองมินต่อ...นายจองมิน กล้าดียังไงเอาที่ดูดาวมาเคาะหัวฉันแต่ยังไม่ทันทีฉันจะพูดอะไร จองมินก็เดินหัวเราะตัวปลิวไปหน้าลิฟต์ซะแล้ว

    หน็อย! ฝากไว้ก่อนเถอะ ฮึ่ม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×