คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : รักตามหนัง2
ฉันตะโกนเรียกแอปที่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือในมืออย่างขมักเขม้น ก่อนจะก้มหน้าเข้าไปหาเธอใกล้ๆ
บทเรียนข้อที่สอง : ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆให้ลมหายใจเราสัมผัสกัน เขาจะได้รู้สึกหวั่นไหว
“มีไรเหรอพี่นท”
แอปเปิ้ลเบนหน้าหันมามองฉันเล็กน้อย ก่อนจะผงะไปเมื่อเธอพบว่าหน้าของเราอยู่ใกล้กันอย่างที่ไม่เคยเป็น
“วันนี้ เราไปกินไอติมกันอีกน่ะ”
ฉันส่งยิ้มกว้างที่คิดว่าหวานที่สุดไปให้ สายตาของเราสบกันอยู่ชั่วครู่ ใบหน้าของเราแทบจะแนบชิดกัน จนฉันคิดว่าตอนนี้แววตาของอีกคนนั้นกำลังสั่นไหวระริก
หรือว่าคิดไปเองน้ะ?
“ก็เอาซิ”
แอปเปิ้ลพลิกหนังสือในมือปิดลงพลางลุกขึ้นเดินนำออกจากโรงเรียนไป น้ำเสียงเฉยชากับอาการเชยเมยทำให้ฉันใจแป่วลงเล็กน้อย
เฮ้อ หรือว่าจะหวังมากไปน่ะเรา
ณ ถนนระหว่างกลับบ้าน
เราสองคนกำลังมุ่งหน้าเดินย่ำต๊อกกลับบ้าน ในมือของเราทั้งคู่มีไอติมโคนเล็กๆถืออยู่
“อ๊า ไม่มีอะไรดีเท่าไอติมรสวนิลาอีกแล้วล่ะ”
ฉันตะโกนดังลั่นไปทั่วท้องถนน โชคดีที่เวลาเย็นย่ำแบบนี้ไม่ค่อยมีคนมากนัก
แอปเปิ้ลหัวเราะคิกคักพลางเอื้อมมือมากอดคอฉันเอาไว้แน่น อย่างกับหมั่นเขี้ยวกันมาหลายชาติ
ฉันส่งยิ้มร่าไปให้อีกคนพร้อมกับชูไอติมในมือขึ้นเพื่อให้ร่างสูงลองชิม
“แหวะ ไม่กินหรอก ไอติมรสสตอเบอร์รี่ของแอปอ้ะอร่อยกว่าเยอะ”
แอปเปิ้ลเบี่ยงตัวหนีออกไปเพียงเล็กน้อยก่อนจะแลบลิ้นปริ้นตาแล้ววิ่งหายไป
“หนอย มาว่าไอติมรสวนิลาสุดที่รักของพี่เหรอ แอป ตายซะเถอะ!!!”
“เฮ้ออออ เหนื่อยชะมัด”
ฉันเอนตัวลงนอนกับพื้นหญ้าแถวนั้นหลังจากวิ่งไล่จับอีกคนจนหอบแฮ่ก
“นั้นซิ”
แอปเปิ้ลทรุดตัวลงนั่งข้างๆ มือทั้งสองยันตัวเองไว้กับพื้นพลางเงยหน้ามองฟ้า
สองแขนของฉันค่อยๆประสานกันอยู่ใต้ลำคอเพื่อใช้หนุนแทนหมอนชั่วคราว สายตาเราทั้งคู่กำลังจับจ้องท้องฟ้าเบื้องหน้าที่ปกคลุมไปด้วยแสงแดดสีส้มอ่อนๆในยามพระอาทิตย์ตกดิน
“นานแล้วเน๊าะ ที่ไม่ได้เล่นแบบเด็กๆแบบนี้น่ะ”
ฉันพูดเมื่อคิดว่าบรรยากาศระหว่างเรามันชักจะเงียบเกินไปซักหน่อย
“โห้ พี่นท พูดยังกับว่าตัวเองแก่ตายแหละ”
แอปเปิ้ลหัวเราะคิกคักพลางค่อยๆเอนตัวลงนอนข้างๆจนบังเอิญเบียดใกล้เข้าหาฉันมากขึ้นไปอีก
ถ้าหยุดเวลาไว้ตรงนี้ได้คงดี
ฉันเหลือบมองใบหน้าของคนข้างตัวที่ตอนนี้สายตาจับจ้องไปอยู่แห่งหนอื่น รอยยิ้มอ่อนๆที่ทอถักบนหน้าเรียวเล็กนั้นดูสวยงามรับกับบรรยากาศตอนนี้ซะจริงๆ
แอปเปิ้ลค่อยๆกระพริบตาช้าๆก่อนจะปิดตาหลับลงไปในที่สุด
ฉันขยับตัวเข้าไปใกล้ สัมผัสลมหายใจแผ่วเบาของอีกคนที่กำลังเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ มื่อเรียวเล็กของตัวเองไล้ไปตามโครงหน้าบางนั้นอย่างหลงใหล ก่อนจะถอดถอนหายใจยันตัวขึ้นนั่งพลางกอดเข่าตัวเอง
ก็ทำได้แค่นี้แหละ ทำได้แค่เฝ้ามอง ทำได้แค่แอบรัก ทำได้แค่...
เก็บความรู้สึกตัวเองเอาไว้
ฉันพลักประตูเข้ามานอนในบ้านอย่างทุลักทุเล ก่อนจะเดินขึ้นบันไดช้าๆอย่างระมัดระวังเพราะกลัวว่าคนที่นอนหลับสนิทบนหลังฉันในตอนนี้จะสะดุ้งตื่นขึ้นมาซะก่อน
ฉันวางร่างอีกคนลงบนเตียงอย่างช้าๆปิดไฟพร้อมกับห่มผ้าให้
ส่วนตัวเอง หลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้วก็เดินมาจัดแจงปูฟูกที่นอนอันเล็กๆไว้ข้างเตียง ก่อนจะเอนตัวลงนอนและหลับลงไปในที่สุด
แสงแดดยามเช้าทอดตัวผ่านผ้าม่านผืนบางเข้ามาในห้องนอนอันเงียบสงัด
ฉันรี่ตาตัวเองขึ้นน้อยๆกระพริบตาถี่ๆเพื่อปรับสายตาให้คุ้นชิน
O__O
ทำไมรู้สึกว่าตัวขยับไม่ได้น้ะ?
ระ..หรือว่า...
ไม่น้ะ!
ไม่จริงน้ะ!
ผะ...ผีอำ O[ ]O
“กะ...”
เกือบจะกรี๊ดไปแล้วถ้าไม่ทันเห็นคนที่นอนทับอยู่ข้างตัวซะก่อน
แขนเรียวยาวกับขาของแอปเปิ้ลทาบทับอยู่บนลำตัวฉันเกือบจะเศษสามส่วนสี่ของร่างกาย ฉันกระพริบตาปริบๆเล็กน้อยสายตาจับจ้องไปที่ใบหน้าของร่างสูง จมูกของเราสัมผัสโดนกันเพียงแผ่วเบาเมื่อแอปเปิ้ลค่อยๆเบียดตัวเข้ามาใกล้ขึ้นไปอีกทำให้ฉันหยุดนิ่งค้างเติ่งอยู่ท่านั้นไปหลายวินาที
เสียงกรี๊ดที่เกือบจะร้องลั่นออกมาด้วยความตกใจเมื่อกี้ผลุบหายไปในพริบตาแทนที่ด้วยอาการใจเต้นระส่ำในตอนนี้แทน
ยัยบ้า ใครใช้ให้เธอมานอนกอดฉันกันฮ๊ะ?
รอยยิ้มกว้างประทับอยู่ทั่วทั้งใบหน้าความรู้สึกอบอุ่นมันอิ่มเอิบในหัวใจ
ใครใช้ให้เธอน่ารักได้ขนาดนี้กันน่ะ แอปเปิ้ล
.....................................
น้ำตาลหนึ่งช้อน กาแฟสองช้้อน คอฟฟี่เมด เอ๊ะ กี่ช้อนน่ะ?
บทเรียนข้อที่สาม : กาแฟสื่อความนัย
ฉันนั่งขมักเขม้นกับถ้วยกาแฟตรงหน้า สองคิ้ววิ่งขมวดชนกันจนพันเป็นเกลียว ปากเรียวเล็กเม้มขบกันแน่นราวกับคนที่กำลังใช้สมาธิสูง
ฟู่ว เสร็จซะที
ฉันปาดเหงื่อที่ไหล่ย้อยมาตามหน้าผาก พลางยืนมองผลงานตัวเองอย่างพึงพอใจ
นานๆทีจะได้สวมบทเป็น ‘บาริสต้า’ นักชงกาแฟที่มีความชำนาญ ก็เหนื่อยเหมือนกันน่ะเนี่ย
ฉันนั่งมองถ้วยกาแฟใบน้อยนั้นอีกครั้งก่อนจะนึกถึงคำพูดคำหนึ่งในหนังรักโรแมนติกที่พี่กวางเอามาให้ดูเมื่อไม่กี่วันมานี้
‘เขาว่ากันว่า ถ้าชงกาแฟให้กับคนรักในตอนเช้าจะช่วยเพิ่มความหวานให้แก่กันมากขึ้นน้ะ’
กาแฟใบเล็กที่ถูกประดับประดาไปด้วยรูปหัวใจน่ารักๆบนฟองนมนุ่มๆในแก้วกำลังส่งกลิ่นหอมกรุ่นโชยออกมาเบื้องหน้า ฉันถือแก้วใบนั้นอย่างระมัดระวังพลางเดินขึ้นไปบนห้องของตัวเองเพื่อเอาไปให้ใครอีกคนทันที
“แอป” ฉันเคาะประตูเล็กน้อย สายตายังจับจ้องอยู่ที่แก้วกาแฟอีกครั้งพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
โรแมนติกเหมือนกันน่ะเราเนี่ย
“มีไรเหรอพี่นท”
O______________________________________O
เพล้ง!
แก้วกาแฟในมือถูกสะบัดหลุดออกจากการกอบกุมทันทีที่ใครอีกคนรีบผลุนพลันเปิดประตูออกมาชนเข้ากับฉันอย่างจัง
“โอ้ยยยยยยยยย”
ฉันล้มกลิ้งนอนกับพื้น แก้วกาแฟในมือแตกกระจายอยู่ข้างตัว
“พี่นท!!!”
แอปเปิ้ลถลาเข้ามาหาฉันอย่างรวดเร็ว พลางกุมมือที่เปียกโฉกไปด้วยเลือดขึ้นมาดู ใบหน้าเหยเกราวกับเจ็บปวดแทนฉันปรากฎขึ้นเด่นชัด
อ้าว แก้วบาดมือตอนไหนว่ะ?
ฉันนั่งมองอีกคนที่ดูจะตกใจกับแผลในมือฉันอย่างกับไฟไหม้บ้าน ก่อนจะเบนสายตาไปมองแก้วที่แตกละเอียดยิบ
ฮือ T_________________T อุตส่าห์ตั้งใจทำ แตกซะแล้ว
เพราะว่าใช้เวลาเกือบจะตลอดช่วงเช้าในการชงแก้วกาแฟใบนี้ให้ออกมาสมบูรณ์แบบแต่อยู่ดีๆฟ้าก็เล่นตลกทำให้มันตกหล่นแตกไปซะได้ น้ำตาก็เลยวิ่งขึ้นมาเอ่อล้นที่ขอบตาก่อนจะค่อยๆไหลร่วงลงมาเปรอะเปื้อนใบหน้าในที่สุด
“แง้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
.....................................
หลังจากที่หายเศร้าเสียใจกับแก้วกาแฟที่แตกยิบไม่เหลือชิ้นดีไปแล้ว T^T
และมือก็ได้รับการรักษาจากร่างสูงเป็นที่เรียบร้อย
ฉันก็เกิดกำลังใจหาเรื่องโรแมนติกๆมาชักชวนให้ร่างสูงทำอีกระลอก
“แอป ออกไปกินข้าวนอกบ้านกัน”
ณ ร้านอาหาร
อีกไม่กี่ซอยข้างหน้า เราก็จะเดินไปถึงร้านอาหารเจ้าประจำที่ชอบไปกินกันบ่อยๆแล้ว
>////<
ชายสี่หมี่เกี้ยว
เนี่ยร้านโปรดเลยน้ะ
“เฮียๆ บะหมี่สองชาม ไม่ผัก ไม่หมู และไม่เอาเส้น”
ฉันตะโกนสั่งเฮียเจ้าของร้านที่ยืนหน้าดำคร่ำเคร่งกับการทำบะหมี่ตรงหน้าราวกับหมาพันบลูด็อกก่อนจะยิ้มกว้างให้อีกคน O3O
โป้ก!
“จะบ้าเหรอพี่นท แล้วจะกินบะหมี่ทำไมกัน ไม่ผัก ไม่หมู ไม่เอาเส้น อย่ากินเลยดีกว่า”
ฮึ.. ฮืออ
ก็คนมันจะกินลูกชิ้นอย่างเดียวอ้ะ ทำไมต้องตบหัวกันด้วย TOT
“แอปตบหัวพี่เรอะ!”
“ใช่!”
“แง้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
“ไม่มีไรค่ะ ทุกคน ไม่มีอะไร”
แอปลุกขึ้นยื่นก้มหัวขอโทษทุกคนในที่นั้นก่อนจะทรุดตัวนั่งลงกับเก้าอี้อีกครั้ง
ฉันยิ้มร่า พลางหัวเราะคิกคักทันทีที่อีกคนถลึงตาให้
บทเรียนข้อที่สี่ : แกล้งงอนให้เขาง้อ
หลังจากเราทานบะหมี่กันเสร็จเรียบร้อย ฉันก็เดินปั้นปึงออกจากตรงนั้นทันทีอย่างวางฟอร์ม
“พี่นท...”
เชิ่ดเอาไว้ เชิ่ดเอาไว้
“แอปขอโทษ...”
อันแหนะ ดีมาก ง้อต่อไปง้อต่อไป
“แอปจะไม่ตบหัวพี่อีกแล้ว”
>_<
ยังงี้แหละ ง้ออีกง้ออีก ชอบบบบบ!
“พี่นท!”
“ระวัง!”
โครมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
“แง้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
.....................................
“ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
แอปเปิ้ลนอนหัวเราะท้องแข็งอยู่บนเตียงนอนพลางเช็ดน้ำตาที่เล็ดออกมา
“เออ ขำเข้าไป ขำเข้าไป”
ฉันประชดประชันเธอไปเล็กน้อยก่อนจะขยี้หัวตัวเองแรงสุดเหวี่ยง
> <
โอ้ยยยย ให้มันได้ยังงี้ซิ
“เอ้า! ก็บอกใ้ห้ระวังแล้วไม่เชื่อเป็นไงล้ะ ตกท่อเลย”
และเสียงหัวเราะก็ตามมาอีกระลอก
-__________________________-
อ๊ากกกก ไอ้บ้าที่ไหนมันมาขุดท่อตรงนั้นว่ะ!
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
แอปเปิ้ลยังคงหัวเราะกับเรื่องเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา
“เอา่น่าพี่นท ไว้คราวหลังแอปจะพาไปตกท่ออีกน่ะ”
-_______-
“พอเลยแอป เลิกล้อพี่ได้แล้ว >O<”
ฉันเบะปากเพียงเล็กน้อยก่อนจะเดินขึ้นห้องไป
แอปเปิ้ลค่อยๆวิ่งตามมาจนเราสองคนมาหยุดยืนอยู่ริมระเบียงห้องนอน
ท้องฟ้าเบื้องหน้าเต็มไปด้วยแสงดาวพราวระยับจนทำให้เราทั้งคู่หยุดยืนตะลึงมอง
แรงโอบกอดจากด้านหลังทำให้ฉันเหลือบมองแขนเรียวเล็กๆรอบลำตัวเพียงเล็กน้อย ริมฝีปากค่อยๆยกยิ้มขึ้น
อ้อมกอดนี้จะกี่ครั้งก็....
อบอุ่นจัง
แอปเปิ้ลกระชับอ้อมกอดแน่นพลางแนบหัวเราสองคนพิงกัน
“ยังไงก็ขอบคุณน่ะ วันนี้สนุกมากเลย”
เธอเอ่ยพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเบนสายตาออกไปมองท้องฟ้าเช่นเดิม
.....................................
บทเรียนข้อที่ห้า : Post-it สำหรับเธอ
ฉันเลียริมฝีปากพลางค่อยๆบรรจงขีดเขียนถ้อยคำน่ารักๆลงบน post it.ก่อนจะนำไปแปะไว้บนตู้เย็น
‘แอป พี่ออกไปซื้อโจ๊กน้ะ’
ความคิดเห็น