ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic The prince of tennis : The Curse Mansion

    ลำดับตอนที่ #2 : The curse mansion 1 : เรื่องเล่าและข่าวลือ

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 54










    The curse mansion 1

    เรื่องเล่าและข่าวลือ





     

    “โห....ใหญ่เป็นบ้าเลย”     เอจิลากเสียงยาวอย่างอึ้งทึ่ง      เรียวมะทิ้งตัวนั่งบนโซฟากำมะหยี่สีแดง   โมโมะเดินเข้าไปในครัว เอาอาหารและขนมที่ซื้อกักตุนมาใส่ตู้

    “เสียดายแฮะ ไม่มีตู้เย็น”

    “อ้อ...ฉันเอากระเป๋าเก็บความเย็นมาด้วยน่ะ”

    โออิชิบอก

    “ขอบคุณครับ พอดีผมซื้อของสดมาด้วย ยังคิดอยู่เลยถ้าเกิดไม่มีตู้เย็นขึ้นมา...”

    โมโมะยิ้มเผล่ แล้วรับกระเป๋าใบใหญ่มาจากโออิชิ  จัดการเทน้ำแข็งและเกลือลงไป แล้วก็เอาของสดแช่ไว้

    “ผมไปสำรวจข้างบนนะ”

    เรียวมะโผล่หน้าเข้ามาในครัว 

    “ฉันไปด้วยยยยยย!

    เอจิล็อคคอเรียวมะจากด้านหลัง แล้วพาขึ้นบันไดไป  เมื่อถึงที่หมาย เรียวมะพยามแงะแขนออกจากรอบคอตัวเอง   ชั้นสองมีอยู่ หกห้อง  เรียวมะชะโงกหน้าเข้าไปห้องแรก  ซึ่งกว้างพอสมควรและมีเตียงตรงกลางห้อง  ทั้งห้องตกแต่งด้วยสีฟ้า 

     

    “ฉันนอนห้องนี้นะ”

     

    เสียงเอจิดังก้องออกมาจากห้องถัดไป   เรียวมะเดินตามเข้าไปดู   ห้องเอจิกว้างเท่ากับห้องเมื่อกี้ และถูกตกแต่งด้วยโทนสีส้มน่ารัก   ห้องถัดไปมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย  มีทุกสิ่งเป็นสีเขียวเกือบหมด และห้องขนาดใหญ่สุดมีสีชมพูหวานแหวว ซึ่งคาดว่าเจ้าของเก่าน่าจะเป็นผู้หญิง ห้องนี้เป็นห้องเดียวที่มีระเบียง   ห้องสุดท้ายเป็นห้องนั่งเล่นรวม  มีเปียโนหลังใหญ่  พื้นถูกปูด้วยพรมแดง  มีโซฟาและโต๊ะเล็กๆ

    “งั้นผมนอนห้องสีฟ้า”

    เรียวมะเลือกห้องแรกที่ติดกับหัวบันได    โออิชิเดินตามมาเป็นคนที่สามเลือกห้องสีเขียว โมโมะที่ได้ห้องสีชมพูก็อดที่จะโวยเล็กๆไม่ได้

    “นอนหลับตายล่ะ ชมพูแหววซะขนาดนั้น”

    “อย่างน้อยห้องนายก็ใหญ่ที่สุดนะ  มีระเบียงด้วย”

    เอจิบอกแล้วหัวเราะคิกคัก   ในแต่ละห้องจะมีห้องน้ำในตัว

    “แน่ใจนะฮะว่านี่คฤหาสถ์ร้อยปี ตกแต่งซะดีเลย มีเตียงด้วย”

    เรียวมะกล่าวอย่างสงสัย  

    “ก็ก่อนที่พี่ทาชิ อ่อ...เป็นพี่ชายญาติห่างๆฉันน่ะ  จะซื้อต่อ...ไม่สิประมูลมาจากเจ้าของเก่า เจ้าของเก่าที่เป็นทายาทคฤหาสถ์นี้ก็ดูแลดีอยู่แล้ว  พอพี่ฉันได้มาเลยแทบไม่ต้องทำอะไรเลยน่ะ  ก่อนจะมาทำเป็นที่พัก ก็ทดลองให้พวกเรามาพักก่อนเนี่ย”

    โออิชิตอบแก้ข้อสงสัย   “ความจริงก็มีข่าวลือแปลกๆเกี่ยวกับคฤหาสถ์นี้นะ”

    “ข่าวลือ?

    เรียวมะทวนคำ  โออิชิยิ้มแหย “มันน่ากลัวนะ แต่ไม่ใช่ความจริงหรอก อย่าไปรู้เลย”

    ความจริงเขาก็ทำใจนานมากกว่าจะตัดสินใจพาเพื่อนมาที่นี่   แต่หลังจากโออิชิได้ฟังคำอธิบายประกอบเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ของพี่ชายที่เป็นญาติกันแล้ว ก็เลยคิดว่ามาก็ไม่เสียหาย   แค่นั้นเอง

    “ฉันอยากรู้อ่ะ ข่าวลืออะไรหรอ”

    เอจิถาม  โมโมะพยักหน้าเห็นด้วย   โออิชิถอนหายใจเล็กน้อย

    “อย่ากลัวก็แล้วกัน  .....พี่เขาเล่ามาว่า คฤหาสถ์นี้ต้องสาป...”

    “งั้นกลับกันเถอะ!

    เมื่อได้ฟังประโยคแรก เอจิก็เตรียมชิ่งทันที  โมโมะล็อคตัวรุ่นพี่เอาไว้

    “รุ่นพี่โออิชิเพิ่งเล่าเองนะครับ”

    “ทำตัวเป็นแมวตื่นตูมไปได้...”

    เรียวมะจิกกัดลอยๆ เอจิเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่สักพักก็นั่งลงบนโซฟาเช่นเดิม

    “เมื่อร้อยปีก่อน ฝรั่งที่เข้ามาค้าขายในญี่ปุ่นได้สร้างคฤหาสถ์หลังนี้แล้วแต่งงานกับภรรยาชาวญี่ปุ่น มีลูกหลานมากมาย  ต่อมา...เล่ากันว่านะ ถูกฆ่ายกตระกูล”

    “ผมว่าเราสมควรกลับแล้วแหละ”

    โมโมะเตรียมลุกหนี แต่เอจิฉุดให้นั่งลงที่เดิม 

    “เมื่อกี้นายบอกไม่ให้ฉันไปเองนะ...โมโมะ”

    โออิชิเงียบดูสถานการณพักหนึ่งก็เล่าต่อ

    “หลายปีต่อมามีผู้เข้ามาขอซื้อต่อ แล้วก็ต้องจบชีวิตลงต่อไปเรื่อยๆ ใครที่เข้ามาในที่แห่งนี้ไม่มีวันได้กลับออกไป   คฤหาสถ์นี้ถูกเปลี่ยนมือมานับไม่ถ้วน   เรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหละ... แต่พี่ทาชิเขาไม่สนข่าวลือ ไปประมูลคฤหาสถ์นี้มาจนได้  แล้วตัวเขาเองก็มาอยู่บ้าง เข้าๆออกๆ ปรับปรุงโน่นนี่  ก็ไม่เห็นเป็นอะไร  แถมเจ้าของเก่าที่นำมาประมูลก็ไม่เห็นเป็นอะไร ยังไม่ตายด้วย    สรุปก็คือมันเป็นแค่ข่าวลือ!

     

    “แต่มันน่ากลัวนะเนี่ย...”

    เอจิพูดเสียงอ่อย    เหล่ตาไปทางโมโมะซึ่งตอนนี้ดูเหมือนจะไม่กลัวอะไรแล้ว

    “ไม่น่าจะมีอะไรหรอกครับ”

    “ก็รุ่นพี่เขาบอกอยู่ว่าข่าวลือ  ทำเป็นป๊อดไปได้!

    เรียวมะพูดกวนประสาทเอจิ   ทำให้เอจิลืมความกลัวทั้งหมด  พร้อมกับโถมตัวไปที่เรียวมะ เอามือจั๊กจี้เอวรุ่นน้อง

    “ไอ้เด็กบ้า! นี่ๆๆๆๆ”

    “5555+++ -*- หยะ...หยุด 55555+++ รุ่..น.พี่บ้า 55+”

    “ในเมื่อไม่มีอะไร พวกเราก็พักได้อย่างสบายใจ  อ่า...นี่กี่โมงแล้วโมโมะ”

    “หกโมงเย็นครับ”

    “อืม...จริงๆน่าจะมาถึงเร็วกว่านี้นะ   สงสัยไปเสียเวลาตอนเลี้ยวผิดทาง  ไม่ก็ตอนเดินเท้าน่ะ”

    “ผมว่าน่าจะรวมตอนที่พวกเรามัวแต่เที่ยวตลาดจนเพลินน่ะครับ  ผมซื้อของซะเยอะเลย อิอิ”

    “ก็ดีแล้วที่ซื้อเยอะ   เราพักที่นี่ห้าวัน มีตุนไว้ดีกว่าขาด  ฉันเอาของไปเก็บที่ห้องก่อนนะ”

    โออิชิบอกก่อนจะลากกระเป๋าเข้าห้องตัวเอง   โมโมะก็แบกกระเป๋าใบเขื่องเลี้ยวเข้าห้องสีชมพูหวานแหววที่เขาไม่ชอบใจนัก   ทิ้งให้คู่แมวเหมียวกัดกันต่อไป

    “นี่แน่ะๆๆๆ”

    555+++*-*

    ..............................................................................

    ห้องทานข้าวข้างล่าง บรรยากาศโรแมนติกดั่งที่ฮันนีมูนของคู่รักใหม่  เพียงแต่ตอนนี้มีแค่เด็กผู้ชายสี่คน นั่งล้อมโต๊ะ  โออิชินั่งอยู่หัวโต๊ะเปรียบเสมือนหัวหน้าครอบครัว  โมโมะกับเรียวมะช่วยยกอาหารมาเสิร์ฟ ส่วนเอจิเดินไปปิดไฟ  โออิชิจุดเทียนที่วางอยู่ตรงกลางตามแนวความยาวของโต๊ะหกเล่ม

    “โรแมนติกสุดๆ”

    เอจิทำหน้าเพ้อ  โมโมะที่นั่งอยู่ฟากตรงข้ามทำหน้าแหย

    “มันจะดีกว่านี้นะครับถ้าตรงหน้าผมเป็นสาวสวย ไม่ใช่รุ่นพี่น่ะ”

    “ไข่นี่อร่อยดีนะฮะ”

    เรียวมะเอ่ยขัดก่อนที่เอจิจะอ้าปากเถียงโมโมะ   เอจิเปลี่ยนสีหน้ากลับไปยิ้มแทน

    “ฉันน่ะ เจ้าแห่งเมณูไข่เชียวนะ”

    เรียวมะกรอกตาประมาณว่า ไม่น่าชมเลยเรา

    “ข้าวผัดเนยนายก็ใช้ได้นะโมโมะ”

    โออิชิเอ่ยชม  โมโมะยิ้มรับ  “ทำให้น้องกินบ่อยๆน่ะครับ”

    เอจิคีบหมี่ผัดของโออิชิมากิน  “ของนายก็อร่อย...ว่าแต่นายล่ะเจ้าเปี้ยก”

    “ไข่ตุ๋นฮะ”

    เอจิกินเข้าไป ใบหน้าไม่ได้บ่งบอกความรู้สึกอะไร

    “เป็นไงบ้างฮะ”

    “จืดไปหน่อย แต่ก็ใช้ได้...อะไรกรอบๆเนี่ย!?

    “ผมอยากให้มันอร่อยขึ้น ก็เลยใส่เปลือกไข่ลงไปด้วย มันจะได้เคี้ยวกรอบๆ”

    “เจ้าเปี้ยกกกกกกกกก! ใครเขากินเปลือกไข่กัน!

    โออิชิหัวเราะเล็กน้อย  ดีแล้วที่เขายังไม่ได้กินไข่ตุ๋น โออิชิเอื้อมมือจะเติมข้าวผัดแต่มือดันไปปัดแก้วน้ำล้ม

    “โอ๊ะ! โทษที”

    ทำให้เทียนดับไปหนึ่งเล่ม  และน้ำก็เต็มจานข้าวโมโมะ

    “ไม่เป็นไรครับ”   โมโมะยิ้มแหย...  มือก็หยิบทั้งเทียนทั้งแก้วน้ำออกจากจานข้าวตัวเอง 

    ...พอกินข้าวเสร็จก็ช่วยกันล้างจาน  เอจิกับเรียวมะที่อาบน้ำเสร็จแล้วก็มานั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นชั้นสอง

    “ไม่มีทีวีอ่ะ”

    เอจิบ่นเบาๆ 

    “ผมก็ไม่ได้เอาเอ็มพีสามมา”

    “งั้นฉันร้องเพลงให้ฟัง”

    “ไม่ต้อง!

     

    “เถียงกันอีกแล้ว ยังกะคู่ไคโดโมโมะสองเลยแฮะ...”

    โออิชิบ่นเล็กน้อย  แล้วพาตัวเองมานั่งข้างๆเอจิ  โมโมะตามเข้ามา พร้อมหนังสือหนึ่งเล่ม

    “นั่นอะไรหรอ”

    เอจิถาม โมโมะพลิกหนังสือไปมา

    “น่าจะเป็นนิทานฮะ  ผมเจอในห้องน่ะ”

    แล้วก็นั่งอ่านเงียบๆตรงมุมห้อง  พวกเขาขลุกอยู่ด้วยกันสักพัก  ก็แยกย้ายกันไปนอน

    โออิชิออกจากห้องเป็นคนสุดท้าย  ก่อนปิดประตูเขาเหลือบไปเห็นเปียโนที่อยู่ตรงกลางห้อง

    พอประตูปิดลง  ทั้งบ้านตกอยู่ในความเงียบงัน   เป็นเวลากว่าชั่วโมง 

    ในห้องนั่งเล่น...เปียโนหลังใหญ่เริ่มบรรเลงตัวของมันเอง

    ........

     







    .........................................................................................................................................................

    ประเดิมตอนแรก....เม้นเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ  ขอบคุณที่ติดตามค่ะ






     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×