ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    This is Fate or Destiny?[Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2 : Night Party

    • อัปเดตล่าสุด 2 มี.ค. 54


    ... ถึงแม้ว่าแม่ของเขาจะเสียชีวิตลงในวันนี้... แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะสามารถหนีความวุ่นวายของวันนี้ไปได้...

    ...เพราะพี่เมจิคนเดียวเลย!...เขาถึงต้องว่าเผชิญกับความวุ่นวายในโรงเรียนต่อ...ทั้งๆที่คิดว่าจะได้พักแล้วซะอีก...เฮ้อ...

     

    ร่างบางทอนหายใจเบาๆพลางค่อยๆเอนกายลงกับพื้นหญ้า ...กว่าเขาจะหนีพวกผู้หญิงที่คอยตามตื้อยังกะปลิงมาได้ เหนื่อยซะแทบแย่...ต้องมาเดือดร้อนรุ่นพี่ช่วยหาที่ซ่อนให้อีก...กว่าจะได้กินข้าวเล่นเอาเกือบตายแหนะ...

    ...ชีวิตนี่มันเหนื่อยจริงๆ...

     

     

    มิเรนสลัดศีรษะเบาๆเพื่อไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปหัว ก่อนจะหลับตาลงช้าๆ ค่อยๆรับรู้บรรยากาศรอบๆกาย...

    .

    .

    ...มันช่าง...เงียบสงบ...  

     

    เสียงของใบไม้กระทบกับสายลมอย่างแผ่วเบา ฟังแล้วให้ความรู้สึกผ่อนคลายได้อย่างน่าประหลาด ราวกับว่ามันกำลังขับขานบทเพลงไปพร้อมๆกัน... ความเหน็ดเหนื่อยถูกปลิดทิ้งไปพร้อมๆกับสายลม คงเหลือไว้เพียงความรู้สึกผ่อนคลายอย่างประหลาด...

    ...คงเป็นเพราะอย่างนี้ละมั้ง...เข้าถึงได้ชอบที่นี่นัก...

    .

    .

    .

    แต่แล้ว...เสียงหนึ่งก็กระชากร่างบางให้หลุดออกมาเผชิญกับความวุ่นวายอีกครั้ง

    “มี้จาง ~ ~ พี่มีข่าวดีมาบอกหละ! ราวกับเสียงฟ้าฝ่าดังเปรี้ยง! นี่ชิวิตอันแสนวุ่ยวายของเขามันยังไม่จบอีกเรอะนี่!

    มิเรนเหลือบมองไปยังต้นเสียงอย่างเหนื่อยหน่าย แต่ก็ต้องสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อวันนี้พี่สาวตัวแสบของเขาไม่ได้มาเพียงคนเดียว ...มีเพื่อนร่วมขบวนการมาอีกรึไงนะ?...

    “ปล่อยนะครับพี่!” เมจิกึ่งลากกึ่งกระชากเด็กหนุ่มคนหนึ่งมา ดูเหมือนว่าเขาคงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเสียเท่าไหร่

    ...ว่าแต่ พี่แกเขาไปลากใครมาอีกเนี่ย...?

     

    เมจิเดินเข้ามาใกล้ๆร่างบางพลาง(แสยะ)ยิ้มอย่างมีเล่ห์นัย เธอค่อยๆนั่งลงช้าๆ ก่อนจะกระชากเด็กหนุ่มในนั่งลงตามมาด้วย

    ร่างบางจับจ้องไปยังเด็กหนุ่มด้วยความสงสัย ก่อนจะอุทานออกมาด้วยความแปลกใจ

    “ร...รุ่นพี่คนที่ช่วยผมเมื่อเช้านี่นา”

    “...” เด็กหนุ่มไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาคงไม่สบอารมณ์เสียเท่าไหร่

    “ อ้าว รู้จักกันแล้วหรอกเหรอจ้ะ?? ดีเลย งั้นพี่จะได้คุยง่ายๆหน่อย ฮิๆๆ” หญิงสาวแสยะยิ้มกว้าง พลางหัวเราะอย่างร่าเริง ...ร่างที่นั่งฟังอยู่ทั้งสองทำได้เพียงแค่ยิ้มฝืดๆให้...

     

    ...พอพี่แกหัวเราะแบบนี้ที่ไร... งานเข้าทุกทีละน้า...

    **************************

     

          

          ...นิทาน...มันก็แค่เรื่องหลอกเด็กที่ผู้ใหญ่แต่งขึ้นมา...เล่าเรื่องหลอกลวงให้ฟังแล้วก็เบาหูเด็กๆว่า... โลกนี้มันช่างเต็มไปด้วยความสมบูรณ์แบบ ความสุขสบายและสมหวัง...

     ...พอเอาแต่เล่นซนไม่ยอมเชื่อฟังก็ชอบพูดว่า ถ้าไม่อยากถูกปีศาจใจร้ายจับกิน จะต้องทำตัวเป็นเด็กดีนะ...

    ...ก่อนจะถึงเวลาเข้านอนก็จะอ่านนิทานให้ฟัง และทุกๆเรื่องก็จะจบลงด้วยประโยคที่ว่า แล้วเจ้าหญิงกับเจ้าชายก็แต่งงานกันและใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขชั่วนิรนดร

     

    ...เรื่องโกหกทั้งเพ...ความรักมันงี่เง่า...ความจริงแล้ว...เจ้าหญิงกับเจ้าชายแค่แต่งงานเพียงเพราะหวังผลประโยชน์มันก็เท่านั้น...ความรักมันเรื่องไร้สาระทั้งเพ พอรักแล้วมันจะได้อะไรขึ้นมากัน?...ทรัพย์? สมบัติ? เงินทอง? ชื่อเสียงหรือความสุขสบาย?...พอเขาทิ้งก็มานั่งร้องไห้ฟูมฟาย แล้วมันได้อะไรขึ้นมา?

    ...หึ! ความรักน่ะเหรอ?...

     

      . . . มั น ไ ร้ ส า ร ะ สิ้ น ดี. . .

    .

    .

    .

    .
    .

    “เฮ้ย! ซาคุไร!” น้ำเสียงระรื่นของชายหนุ่มทางด้านหลังทำให้ร่างสูงหลุดจากภวังค์ความคิด ...ดูเหมือนว่าวาเลนไทน์งี่เง่าปีนี่มันคงจะไม่จบลงง่ายๆเหมือนปีที่ผ่านมาซะแล้ว...เพราะไอ้เพื่อนเวรนี่แท้ๆ เขาบอกว่าไม่มาๆ มันก็ยังตามตื้ออยู่นั่นแหละ จนเขารำคาญก็เลยตอบส่งๆไป...ที่แท้ไอ้ไนท์ปาร์ตี้เล็กที่มันว่านี่ก็ งานเลี้ยงวาเลนไทน์ที่เขาสุดแสนจะเกลียดนี่เอง...พอเห็นหน้ามันแล้วอยากจะเขาไปอัดตรงๆซักหมัดจริงๆ ถ้าไม่ติดที่ว่ามีแขกมารวมงานเยอะขนาดนี้...

     

     ร่างสูงในชุดสุทสีดำสนิทกำลังพยายามสงบสติอารมณ์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในขนาดนี้ ก่อนจะเอ่ยคำถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆตามแบบฉบับของเขา

    “มีอะไร?”

    “ฮ่าๆๆ ไม่เห็นต้องเครียดขนาดนั้นเลยนี่นา อุส่ามาทันทีก็หัดทำหน้าตายิ้มแย้มกับเขาหน่อยดิว้า~” ชายหนุ่มยังคงว่าด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาทตามเคย พลางทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาข้างๆอีกตัว

    “ฉันไม่ว่างมาทำอะไรไร้สาระเหมือนแกหรอกนะ อากิโตะ”

    “เอาน่าๆ นานๆทีแกก็มาเปิดหูเปิดตาซะบ้างดิวะ เดี๋ยวก็เก็บกดจนเป็นบ้าตายหรอก”

    “หึ! ฉันมันไม่กะล่อนเหมือนอย่างแกหรอก!

    “ฮ่าๆๆ คร๊าบๆ เข้าใจแล้วคร๊าบ”

    .

    .

    ...และแล้ว..บทสนทนาอันแสนจะไร้สาระก็เริ่มขึ้นและดูท่าว่ามันคงจะไม่จบลงง่ายๆ คำถามแต่ละคำถามเห็นทีจะมีแต่เรื่องไร้สาระทั้งนั้น  เรื่องผู้หญิง(?)เอย เหล้าเอย งานเลี้ยงเอย น่าเบื่อจริงๆ ทำไมเขาถึงต้องมามีเพื่อนเป็นคนกะล่อน เสเพล อย่างนี้วะ! คิดแล้วก็ปวดหัวจริงๆโว้ยย!

     

    แต่แล้วเสียงหนึ่งก็เรียกความสนใจจากเขาและผู้ร่วมโต๊ะ ทั้งคู่หันไปมองต้นเสียงพร้อมๆกัน ก่อนอากิ

    โตะจะส่งยิ้มให้ผู้เรียกบางๆ

     

    “อากิจาง~ มาตรงนี้หน่อยสิคร้าบ!” เสียงของเด็กหนุ่มอายุน้อยกว่าเขาราวๆ 3-4 ปี ร่างบ่างๆนั้นกำลังโบกมือเรียกอย่างร่าเริง

     “คร้าบ จะไปเดี๋ยวนี้คร้าบ ฮันนี่~” ร่างสูงหันมายิ้มให้เขาเชิงประมานว่า ง ตามสบายละกัน ก่อนจะเดินจากไป

     

    ...เพื่อนเขานี่มันถึงกะล่อนอย่างนี้น้า! คบได้วันนึงไม้ซ้ำหน้าจริงๆเลย...

    ร่างสูงถอนหายใจหนักครั้งหนึ่งพลางค่อยๆเบนสายตาจากเพื่อนของเขาไปยังระเบียงแทน แต่ก็ต้องชะงักเมื่อนัยน์ตาอันเฉียบคมสะดุดเข้ากับร่างอันบอบบางร่างหนึ่งข้างระเบียงท่ามกลางแสงจันทร์ เลือนผมสีดำประบ่าเป็นประกายงดงามยิ่งนัก นัยน์ตาคู่สวยยังคงเหม่อมองดวงจันทร์อย่างเลื่อนลอย...

     

    ...ดูเหมือนร่างนั้นจะไม่รู้ตัว ว่าตนเองกำลังถูกจับจ้องอยู่... ช่างไม่ระวังตัวเอาเสียเลยจริงๆ...

    .

    .

    .

    TBC

    อ้าย~ เสร็จซะที นิยายเน่าๆของเรา(อาจจะสั้นนิดนึงนะคะ) ขอบคุณ คุณStraWBerry_ImIn มากนะคะที่เป็นกำลังใจให้ ตอนนี้สอบปลายภาคเสร็จแล้วค่ะ แต่สงสัยคะแนนจะตกซะแล้วว TT[ ]TT หวังว่าตัวเองคงมีเวลาว่างมาอัพนิยายเน่าๆ(ไว้อ่านเอง = =;;; ) นะคะ ตอนที่สามคงจะมาเร็วๆนี้ค่า~

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×