ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Blue moon Hunter ศึกจันทรา ผ่ามิติ

    ลำดับตอนที่ #2 : Blue moon Hunter ศึกจันทรา ผ่ามิติ - บทที่ 1 จุดเริ่มต้น

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ย. 53






           ภายในสวนสาธารณะ...ปรากฏร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ใบหน้าที่หวานเกินชายแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างไม่ปกปิด ริมฝีปากพร่ำบ่นอย่างไม่ขาดสาย
    “อะไรวะ แค่เป๊ปซี่กับน้ำแข็ง มันออกมาซื้อกันเองไม่ได้หรือไง นี่ถ้าไม่เห็นว่าพีอยากกินด้วย ฉันจะไม่ออกมาซื้อให้เด็ดขาด ไอ้ไทนะไอ้ไท แกนี่มันจอมขี้เกียจจริงๆเลย เห็นๆอยู่ว่าฉันทำงานก็ยังจะใช้ออกมาอีก อะไรนักหนาวะเนี่ย”
    พัฒน์ หรือ ปิยะพัฒน์ เดินบ่นอยู่คนเดียว ขณะที่กำลังเดินทางกลับหอพัก เพราะถูกเจ้าเพื่อนตัวดีใช้ให้ออกมาซื้อน้ำแข็งหลอดกับเป๊ปซี่
    ในขณะที่กำลังบ่นอยู่นั้น สายตาของพัฒน์ก็เหลือบไปเห็นร่างของใครคนหนึ่ง กำลังหลบอยู่หลังต้นไม้ภายในสวน ไวเท่าความคิด เขารีบเดินเข้าไปทันที
    “เฮ้ คุณน่ะ ทำไมมาอยู่ที่นี่ดึกๆดื่นๆ มันอันตรายนะ รีบๆกลับบ้านไปได้แล้วไป”
    พัฒน์ตะโกนบอกให้เธอคนนั้นกลับบ้านไป เพราะเขารู้ว่าที่นี่อันตรายแค่ไหนในยามค่ำคืน แม้มันจะเป็นสถานที่ที่เขาคุ้นเคยก็ตามที
    “ฉันไม่กลับ!
    “คุณน่ะกลับบ้านไปได้แล้วนะ ผมขอเตือนด้วยความหวังดี”จบประโยค ร่างที่แอบอยู่หลังต้นไม้ก็โผล่พรวดออกมาให้พัฒน์เห็น พัฒน์อึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
    “อ้าว เป็นวิญญาณหรอกเหรอ ผมนึกว่าคุณเป็นคนซะอีก แต่ยังไงก็กลับๆไปดีกว่านะครับ ถ้าคุณไม่กลับไป อาจจะถูกคุณรัตติกาลเก็บเอาได้นะครับ”
    พัฒน์ไม่ได้แสดงท่าทีตกใจเลยแม้แต่น้อย เขาเคยชินกับวิญญาณไปซะแล้ว เพราะตั้งแต่เกิดมา เขากับพีก็พบเจอกับสิ่งเหล่านี้นับไม่ถ้วน ทำให้ความกลัวที่เคยมีค่อยๆหายไปจนเหลือแค่ความเคยชิน
    “คุณปิยะพัฒน์ นี่คุณอีกแล้วงั้นเหรอครับ ผมว่าคุณมาเป็นยมทูตกับผมเลยดีกว่าไหมครับ ทุกครั้งคุณต้องเจอตัวปัญหาก่อนผมทุกที”
    เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านบน พัฒน์เงยหน้าขึ้นไปดูก่อนจะหัวเราะเบาๆ
    “ก็ช่วยไม่ได้นี่ครับ คุณรัตติกาล คุณน่ะอยากมาช้าเอง ผมเองก็ไม่ได้อยากเจอนักหรอก ตัวปัญหาของคุณน่ะ ผมบอกให้เธอกลับไปแล้ว แต่เธอไม่ยอมกลับนี่สิ”
    “ยมทูตงั้นเหรอ!? อย่ามายุ่งกับฉันนะ! ฉันต้องฆ่ามัน เจ้านั่น ฉันต้องฆ่ามัน!!!
    ผีสาวโวยวายดังลั่น พัฒน์มองหน้ารัตติกาลอย่างสงสัย ไม่ช้าเขาก็ได้คำตอบ
    “เธอถูกโจรฆ่าข่มขืนที่นี่น่ะครับ เลยกลายเป็นวิญญาณอาฆาต ตั้งแง่แต่จะฆ่าเจ้าโจรนั่นให้ได้ยังไงล่ะครับ”
    พัฒน์ร้องอ้ออย่างหายสงสัย เขาเองก็เคยชินกับวิญญาณประเภทนี้ เพราะส่วนมาก มนุษย์ที่ตายในสวนแห่งนี้ ไม่โดนฆ่าข่มขืนก็โดนฆ่าชิงทรัพย์
    “อ้อ เป็นอย่างนี้นี่เอง คุณรัตติกาลครับ ผมว่างานยมทูตของคุณนี่ก็ดูสนุกดีเหมือนกันนะ แต่เอาไว้ผมตายก่อนดีกว่าก็แล้วกันนะครับ แต่ตอนนี้ผมรีบ ขอตัวก่อนนะครับคุณรัตติกาล”พูดจบพัฒน์ก็เดินจากไปทันที ทิ้งให้รัตติกาลมองตามอย่างเสียดาย แต่เขาก็ยังไม่ลืมจุดประสงค์ที่มายังสวนแห่งนี้
    “ผมเกือบลืมคุณไปแล้วสิ คุณน่ะไม่มีความผิดอะไรเลยนะครับ แต่ถ้าคุณคงดื้อแบบนี้ ผมคงจะส่งคุณให้ท่านทิวาแบบดีๆไม่ได้แล้ว”
    รัตติกาลมองวิญญาณร้ายตรงหน้าด้วยสายตาสังเวช ก่อนจะเรียกทวนวิญญาณสีน้ำเงินคราม อาวุธประจำตนออกมา สร้างความตื่นตระหนกให้กับผีสาวได้อย่างมากมายเธอรีบอ้อนวอนต่อยมทูตตรงหน้าทันที
    “ไม่เอา ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันแค่ต้องการจะแก้แค้นเท่านั้น”
    “คุณไม่ต้องห่วงหรอกครับ เมื่อคุณไปถึงโลกวิญญาณเมื่อไหร่ คุณจะไม่หลงเหลือความแค้น และชายผู้นั้นก็จะได้รับการลงโทษอย่างสาสม กับการกระทำที่เขาได้ก่อเอาไว้ เพราะฉะนั้นยอมไปกับผมดีๆเถอะนะครับ”
    รัตติกาลพูดเกลี้ยกล่อมจนเธอยอมจะไปด้วยโดยดี เขาจึงใช้ทวนเรียกประตูมิติวิญญาณออกมา แรงดึงดูดมหาศาลจึงดูดเอาร่างวิญญาณของผีสาวเข้าไปอย่างรวดเร็ว
    “อะไรกัน ผมมาไม่ทันอีกแล้วหรือครับ คุณรัตติกาล”
    เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นด้านหลัง ทำให้ยมทูตสีน้ำเงินครามหันไปมองอย่างฉงน ก็ปรากฏร่างของยมทูตอีกตน
    “ครับ คุณสาธิต แต่คุณนี่ก็มาช้าตลอดเลยนะครับ ผมจำได้มาว่าหน่วยข้อมูลได้ส่งข่าวไปบอกตั้งแต่เมื่อสิบนาทีที่แล้วนี่ครับ คุณมัวไปทำอะไรอยู่ที่ไหนหรือครับ”รัตติกาลเอ่ยปากถามก่อนจะมองสาธิตด้วยสายตาจับผิด ก็แหงล่ะ หน่วยข้อมูลน่ะส่งข่าวให้เขารู้เมื่อสิบนาทีที่แล้ว นี่ก็ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง ยมทูตรองหัวหน้าเขตของเขาเพิ่งจะโผล่หัวมาให้เห็น
    สาธิตยิ้มแหยๆ ก่อนจะเกาหัวแกรกๆ
    “ผมก็เพิ่งจะกลับมาจากโลกวิญญาณนี่แหละครับ พอดีว่าถูกท่านทิวาเรียกไปดุเรื่องที่ทำพลาดเกือบจะเกี่ยวเอาวิญญาณที่ยังไม่ถึงฆาตเข้าเมื่อคราวที่แล้ว”
    “งั้นก็แล้วไปครับ แต่ผมว่าผมเองก็มาช้าเหมือนกันนะ เพราะผมมาถึงก็เจอปิยะพัฒน์อยู่ที่นี่อีกแล้ว”
    เมื่อยมทูตสีม่วงได้ยินชื่อของเด็กหนุ่มที่เขาค่อนข้างจะไม่ชอบขี้หน้า ก็หน้าบูดบึ้งขึ้นมาทันที
    “มันอีกแล้วเหรอครับ มันเป็นอะไรกับยมทูตอย่างเรานักหนา ทำไมเจ้าเด็กนั่นต้องเจอวิญญาณก่อนเราทุกที”สาธิตพูดอย่างไม่สบอารมณ์ รัตติกาลรู้ดีกว่ายมทูตสีม่วงไม่ชอบหน้าของเด็กหนุ่มที่เขาหมายตาไว้มากแค่ไหน
    “ใจเย็นๆสิครับคุณสาธิต คุณก็น่าจะรู้ว่าเด็กคนนั้นเป็นผู้มีพลังวิญญาณ แถมยังกล้าแกร่งอีกด้วย ผมว่าเขาน่าสนใจไม่น้อยเลยนะ ถ้าหากเราได้เขามาเป็นยมทูตในเขตเดียวกัน”
    สาธิตมองหน้ารัตติกาลอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะสะบัดหน้าหนีแล้วพูดอย่างเบื่อหน่าย
    “คุณรัตติกาลก็พูดแบบนี้ทุกที ผมว่าหมอนั่นไม่เห็นจะมีอะไรน่าสนใจตรงไหน ไหนๆก็หมดเรื่องแล้ว ผมขอตัวไปก่อนนะครับ ไว้เจอกันนะครับ”สาธิตพูดก่อนจะกางปีกสีดำ แล้วบินหายไปอย่างรวดเร็ว
    ด้านพัฒน์ หลังจากที่ออกมาจากการทำงานของรัตติกาลได้แล้วก็ตรงดิ่งกลับมาที่หอทันที เมื่อเปิดประตูเขามาก็พบบรรดาเพื่อนๆของเขาหลับกันอยู่บนพื้นที่เต็มไปด้วยกองงานคณะกรรมการนักเรียนที่ทำค้างกันอยู่
    “ให้มันได้อย่างนี้สิ ใช้ฉันไปซื้อของ แต่พวกแกกลับมานอนกันเนี่ยนะ เฮ้อ จริงๆเลย”พัฒน์เหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาห้าทุ่มกว่าแล้ว เขาจึงไม่คิดจะปลุกบรรดาเพื่อนๆให้ตื่นขึ้นมาฟังเขาบ่น แต่เลือกที่จะเอาของที่ซื้อมาไปเก็บไว้ในตู้เย็นแล้วนอนลงข้างๆน้องชายฝาแฝดของตัวเอง


    _____________________________________________________________

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×