ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Po Ye Po Lo Ye จิ้งจอกฟ้าจอมใจจักรพรรดิ์ (Wonkyu)

    ลำดับตอนที่ #2 : โิปเยโปโลเย จิ้งจอกฟ้า

    • อัปเดตล่าสุด 3 ต.ค. 54





    “เจ้ามาแล้วรึ มินโฮน้องข้า” 





    เสียงแว่วหวานหูเล็ดรอดลอยผ่านฉากผ้าม่านสีขาวผืนบางๆ บุรุษหนุ่มเจ้าของเสียงหวานนั่งเกยกายบางอิงขอบสระหยกสีขาว  คิ้วโก่งโค้งยาวเรียวดำสนิท ตากลมโตสุกสะกาวแวววาวสดใส จมูกโด่งเชิ่ดได้รูปรับกับใบหน้าเรียวรีแต้มริมปากอิ่มชมพูแดงแสยะยิ้มเริงร่า เส้นผมสีขาวดุจเส้นไหมเหยียดยาวตรงละพื้น มือบางยาวขาวนวลหยอกเย้ากับจิ้งจอกตัวน้อยหลายตัวที่ห้อมล้อมหน้าสะหร่อนอยู่ไม่ห่างอย่างสุขสำราญ

    “ขอรับ จิ้งจอกฟ้าพี่ข้า” ทันทีที่จิ้งจอกแดงขานรับ ม่านสีขาวผืนบางก็พัดโบกพลิ้วไหวรุนแรงจากด้านออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเข้าปะทะร่างของ...

    “ฮึก!!  อ๊ะ!!” ปีศาจดอกไม้ร้องออกมาด้วยความตกใจ รู้สึกได้ถึงแรงบีบรัดที่ลำคอของตัวเอง แล้วตามด้วย 

    “จิ้งจอกแดง!!.....ใยเจ้าจึงกล้าพาไอ้ปีศาจชั้นต่ำตนนี้ เข้ามาในวังจิ้งจอกของข้าเล่า!!” ตากวางกลมโตสีดำสนิทกลายเป็นสีแดงอำมหิตวาวโรจน์ จ้องเขม็งมองมาที่ปีศาจชั้นต่ำต้อยอย่างไม่ละสายตา แผดเสียงนุ่มบ่งบอกว่าอารมณ์เดือดปุดๆ ร่างเปลือยโป๊ไร้อาภรณ์ผลุดลุกขึ้นยืนเต็มความสูง  จิ้งจอกตัวน้อยทั้งหลายต่างตื่นกลัวกรูกันกระโจนเข้าใส่ร่างระหงษ์กลายเป็นผ้าสีขาวผืนบางปกปิดกายเนื้อล่อนจ้อนไว้เพียงชั่วพลิบตา  ผมขาวตรงยาวปลิวสยายโบกไปมาสลับกับพุ่มหางสีขาวสะอาดทั้งเก้าพลิ้วไหวลู่ลมดูสวยสง่า  ขาเรียวสวยขาวเนียนก้าวย่างลอยอยู่เหนือพื้น 1 ศอก เยื้องย่างกรีดกรายนวยนาดเชื่องช้ากข้าหาปีศาจทั้งสอง แล้วจรดปลายเท้าเรียวสู่พื้นเบื้องล่างตรงหน้าของผู้มาถึงพร้อมกับแขกแปลกหน้าที่ไม่ได้รับเชิญ

    “คือ..ว่าข้า” 

    “ทะ.... ท่านๆ มินโฮ ช่วยข....ข้า ฮึก!! อ๊ะ!!”  ร่างที่แสนจะสะบักสะบอมของปีศาจดอกไม้จินกีลอยขึ้นสูงด้วยฤทธิ์จิ้งจอกฟันปี แรงบีบรัดที่ลำคอยังคงแนบแน่นและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มือทั้งสองข้างพยายามรั้งแรงบีบแต่เหมือนมันไม่ได้ช่วยอะไรเลยซักนิดเดียว ปีศาจดอกไม้โอดครวญเอ่ยขอความช่วยเหลือจากจิ้งจอกแดง ที่ยังคงนั่งก้มหน้านิ่งไม่ไหวติงอยู่เบื้องล่าง

    “ข้าถามเจ้าอยู่นะมินโฮ ใยเจ้าจึงไม่ตอบข้าเล่า” คยูฮยอนเสหน้าขาวตาแดงจิกมอง จิ้งจอกผู้น้อง และ

    “อั๊กกกกกกกกก อ......”  ร่างของของปีศาจผู้ต้ำต้อยถึงกับสำลักอากาศ และแรงบีบรัดอันมหาศาลที่เพิ่มทวี

    “จิ้งจอกฟ้าพี่ข้าโปรดยั้งมือก่อน  ข้าๆ ขอร้อง อั๊ก!!” มินโฮจิ้งจอกแดง1,000ปี ก้มหน้าคมมอบกราบเอ่ยเว้าวอนขอความเมตตาจากจิ้งจอกฟ้า1,013 ปีผู้เป็นพี่ เพียงเสี้ยววินาทีกายแกร่งฉาบด้งยสีแดงเพลิงก็ลอยกระเด็นไปกระแทรกกับผนังหยกสีขาว ก่อนที่จะล่วงผล๊อยกระแทรกสู่พื้นเบื้องล่างอย่างแรง มินโฮชันกายขึ้น ผ่ามือแกร่งทั้งสองยันพื้นหยกอยู่ในท่ามอบคลานเหมือนเมื่อสักครู่ไม่มีเพี้ยนด้วยความทุลักทุเล

    “เจ้าว่ายังไงน่ะ!!  จิ้งจอกแดงมินโฮ” จิ้งจอกฟ้าตวาดเสียงดังลั่นวังจิ้งจอกด้วยความไม่พอใจเป็นที่สุด สายตายังคงจิกขาดโทษจิ้งจอกแดงอยู่เนืองๆ   

    “จะ.....จินกีเป็นสหายของ.....ข้า” มินโฮก้มหน้าเอ่ยตอบ ก่อนที่ของเหลวสีแดงจะไหลทะลักออกมาให้เห็นเล็กน้อย

    “เจ้า.....เป็นสหายรักของจิ้งจอกแดงน้องข้าอย่างนั้นรึ!!  เจ้าปีศาจน้อย” คยูฮยอนเสหน้ามองปีศาจน้อย แสยะยิ้มเย็นยะเยือกถามอย่างเอาความ

    “ ข้าๆ ข้าน้อยเป็นสหายของท่านมินโฮข...ขอรับ ได้โปรดเมตตาข้าด้วยเถิด” ตาคู่โตของจินกีคลอไปด้วยของเหลวที่ไหลพรากอาบสองข้างแก้มใส หน้าแดงกล่ำรอความตายที่ใหล้จะมาเยือนอยู่เบื้องหน้า

    “หึหึ...ดีหละ งั้นเจ้าจง.....”  ริมฝีปากเรียวชมพู แสยะยิ้ม  ตากลมโตสีแดงพลันเปลี่ยนเป็นสีขาวเพียงชั่วพลิบตา

    “ฮึก!! อ้าาาาาาาาาาาาาาาาา” ปีศาจดอกไม้ตาเหลือกแทบจะทะลุออกมานอกเบ้า ส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนออกมาอย่างเหลือทน สุดจะอดกลั้นเอาไว้ได้






    “จิ้งจอกฟ้า!!”











    พระราชวังวอนซี

    ตำหนักพระพันปี

    “พระพันปีเพห๊าๆ พระพันปี หม่อมฉันมีเรื่องจะมากราบทูลเพห๊าๆ” เสียงเรียกร้องระคนด้วยความตื่นตระหนกตกใจของขันทีต้นห้องคนสนิทดังไปทั่ววังหลังในยามวิกาลดึกดื่นขณะนี้

    “เข้ามา” เสียงอนุญาติของนายหญิงเหนือหัวฝ่ายในดังออกมา

    “ขอบพระทัยเพห๊าๆ พระพันปี” ขันทีคนสนิทรับคำ แล้วเปิดประตูเข้าไปสู่ด้านใน 

    “อะไรกันเยซอง เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นรึ ส่งเสียงดังโวยวายเชียวเจ้านิ ทำตัวเป็นขันทีสาวๆ ไปได้” ผู้เป็นนายถึงจะมีพระชนมายุมากแล้วแต่ในใต้หล้าก็ไม่สามารถหาคนที่งามได้เท่านายหญิงเหนือหัวของขันทีเยซองผู้นี้ได้อีกแล้ว

    “พระสนมเพห๊าๆ พระสนม!!” เยซองแจ้งข่าวหน้าตื่น แต่เป็นเรื่องปกติมากกกกกสำหรับแม่ผัวอย่างพระพันปีฮีซอล

    “ฮยอกแจทำอะไรให้ซังมินไม่พอใจอย่างนั้นรึ” ปากเรียวเอ่ยถาม มือเรียวก็หวีที่ผมดกดำของตัวเองไปพลางๆ

    “ไม่ใช่พระสนมฮยอกแจเพห๊าๆ พระพันปี” ” มือเรียวที่กำลังหวีผมของตัวเองอยู่นั้นถึงกับต้องหยุดชะงัก หันพระพักตร์เสมามองขันทีต้นห้องของตัวเอง

    “งั้นก็คงจะเป็นซอนยอง ซูจอง รึธนภรณ์ล่ะสิ่ เฮ้อ” พระสนมธนภรณ์เป็นพระสนมจากแดนไกลคราวที่พระจ้าวซีวอนสะเด็ดประพาสอโยธยาแล้วได้มาเป็นสนมคนที่ 1,011 ได้ถวายตัวเพียงแค่ราตรีเดียวเท่านั้น ฮึฮึ

    “ก็ไม่ใช่อีกเหมือนกันเพห๊าๆ” ขันทีคนสนิทส่ายหน้าไปมา ประมาณว่าไม่ใช่บรรดาพระสนมที่เอ่ยมาเมื่อสักครู่

    “เยซอง!! เจ้าอย่าบอกข้าน่ะว่า”

    “เพห๊าๆ พระพันปี พะ...พระสนม เออ” เยซองเอานิ้วสั่นๆ ปิดเรียวปากอิ่มที่แต้มด้วยสีชมพูหวานแหววของตัวเองเอาไว้

    “จินลี่!!” พระพันปีสบถออกมาเสียงดังจนเกินงาม เพราะว่าทารกในครรภ์ของพระสนมจินลี่จะเป็นอนาคตของชอลลาคนต่อไป

    “เพห๊าๆ พระพันปี พระสนมจินลี่ ทะ.....แท้งแล้วเพฮ้าาา พระพันปี” เยซองแจ้งความแก่นายหญิงผู้สูงศักดิ์ด้วยการตกอกตกใจกับเรื่องที่ตนเพิ่งจะได้ทราบก่อนหน้านี้ไม่นาน

    “ห๊ะ!! เยซองเจ้าว่ายังไงน่ะ จินลี่แท้งอย่างนั้นรึ” ฮีชอลถามความแก่ข้าผู้รับใช้อีกครั้งนึง

    “พะ เพห๊าาาๆ”

    “ซองมิน ชั่งร้ายกาจนัก เสียแรงที่ข้าทั้งรักและเอ็นดู” ชื่อของลูกสะใภ้ใหญ่ถูกเอ่ยขึ้นมาเป็นประเด็น

    “พระอัครมเหสีจะทรงกล้าทำถึงขนาดนั้นเลยรึเพห๊าพระพันปี”

    “หึ น้อยไปซิ ตราบใดที่องค์ชายแทมินยังไม่ได้สถาปนาเป็นรัชทายาท โถๆ ซอลลาจบสิ้นแล้วเป็นแน่แท้”

    “โถ พระพันปีอย่างทรงพระกรรแสงเลยน่ะ เพห๊าๆ” เยซองพยายามปลอบประโลม ด้วยเสียหน้าเศร้าสร้อยที่เห็นเจ้าหน้าของตัวเองต้องเป็นทุกข์

    “ข้าไม่เป็นไร”

    “เพห๊าๆ พระพันปี”

    “แล้วฝ่าบาทเล่าเยซอง ฝ่าบาททรงทราบเรื่องแล้วรึ”

    “ท่านจองซูคงนำความขึ้นกราบทูลที่ตำหนักของพระสนมฮยอกแจให้ทรงทราบแล้วล่ะเพห๊าๆ พระพันปีรีบเสด็จเถอะเพห๊าๆ”

    “อืม....งั้นเราไปกันเถอะ”

    “เพห๊าๆ ”



    ณ. ตำหนักพระสนมฮยอกแจ

       


    หลังจากที่ฝ่าบาทซีวอนสะเด็ดออกไปจากตำหนักของพระสนมฮยอกแจได้เพียงครู่เดียว ร่างบางยังคงน้อยกระสับกระส่ายระงับสติอารมณ์ที่พวยพุ่งอยู่บนเตียงใหญ่ที่ยับยู้ยี่ จากเพลิงราคะเมื่อสักครู่ 

    “น่าเจ็บใจนักไอ้ขันทีตำหนักใหญ่จองซู สงสัยจะไม่อยากแก่ตายนะไอ้แก่” สนมฮยอกแจสบทออกมาอย่างเสียอารมณ์ที่จอมราชันย์ซีวอนทิ้งให้ตนเองค้างคาอยู่อย่างนี้

    “ฺฮึฺๆ เสร็จไปก็เท่านั้นแหละเพค่ะฝ่าบาท นังสนมจินลี่ก็คงไม่รอดหร๊อกเพค่ะ” ริมฝีปากเรียวแสยะยิ้มเห็นฟันขาวอย่างสาแก่ใจ 

    “คิกๆ ฮ่าๆ” เสียงหัวเราะที่ดังออกมาจากมุมใดมุมนึงของพระตำหนัก
      
    “มันไม่ใช่เรื่องน่าขำสักนิดเลยนะผีผา” หน้าขาวเชิ่ดหน้า จิกสายตาขึ้นไปมองบนเพดาน มันออกจะเป็นเรื่องที่น่าอับอายเสียมากกว่าแล้วชันร่างบางลุกขี้นกระัทดกายขาวที่ตอนนี้เต็มไปด้วยรอยรักมามายที่ฝากเอาไว้ลงจากเตียง แล้วย่างกายไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง 

    “พี่ใหญ่....พี่ใหญ่ต้องการให้พระสนมจินลี่ตาย ทำไมไม่พี่ใหญ่ไม่บอกข้าเล่า” เรียวอุคที่นังอยู่บนคานร้องทักด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มแล้วกระโดดลงมาหาร่างเปือยข้างล่างเพื่อช่วยพี่ใหญ่ของตัวเองแต่งตัวให้เรียบร้อย

    “ถ้านังจินลี่มันตายฝ่าบาทของข้าก็เสียพระทัยแย่น่ะสิ่  ข้ายังไม่อยากให้ยังไม่อยากให้มันตายตอนนี้” ฮยอกเสหน้าหันมามองน้องรักของตัวเองแล้วให้ไปให้ความสำคัญกับความงามของตนเองต่อเหมือนเดิม 

    “คึคึ พี่ใหญ่อยากให้มันตายเมื่อไหร่ พี่ใหญ่อย่าลืมบอกข้าก็แล้วกันนะ” 

    “ไม่จำเป็นหร๊อก แค่นี้มันก็ไม่สามารถปรนนิบัติฝ่าบาทของข้าได้อีกต่อไปแล้วละ ฮ่าๆ" พระสนมคนโปรดยกยิ้มเยาะเย้ยหยันเมื่อนึกถึงคนต้นเรื่อง

    "จริงด้วยซิ่พี่ใหญ่ เพราะว่าฝ่าบาทของพี่ใหญ่คงไม่ปลื้มที่มีพระสนมตาบอดฮ่าๆๆ"

    "อ๋อ...เรียวอุคเจ้ามาก็ดีแล้ว” มือบางละออกจากเครื่องประทินโฉมแล้วหยิบกล้องสีดำที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งแล้วหยิบเอาสิ่งๆ นึงที่อยู่ข้างในออกมาก

    “เอ๊ะ!!  ว่านดอก..ทองรึพี่ใหญ่” เรียวอุคน้องร่วมสาบานชักมือป้องปากอย่างดัดจริต (ว่านดอก..ทองรึรากราคะอะคะ)

    “ใช่”

    “แต่ว่า.....พระจ้าวชีวอนก็ออกจะโปรดปรานพี่ใหญ่ของข้ามากๆ นินา ทำไมต้อง...” เรียวอุคถามอย่างอยากรู้เพระว่าปกติพระจ้าวซีวอนก็เสด็จมาตำหนักของสนมฮยอกแจแทบจะทุกราตรีอยู่แล้วนินา แล้วทำไมกัน

    “แล้วเมื่อกี้เจ้าไม่เห็นรึ ข้าไม่ต้องการให้มันเกิดขี้นมาอีก"

    "ได้เลยพี่้ใหญ่เด๋วข้าจะจัดการมาให้ก็แล้วกัน" ปากก็บอกรับ มือก็ช่วยไปด้วย

    "วันนี้เจ้าทำงานได้ดีมาก อ๋็อเด๋วข้าจะไปพระตำหนักนังซองมินซะหน่อย ไม่มีอะัไรแล้วเจ้าก็กลับไปได้แล้วละ ขอบใจนะ เรียววุคน้องรักของข้า” 

    “งั้นให้ข้าช่วยทำผมให้พี่ใหญ่ใน่ะ”

    “อ๋อนังพวกนั้นเป็นยังไงบ้าง ทำงานกันไปถึงไหนแล้ว" พี่ใหญ่เอ่ยถึงเล่าคณิกาทั้ง 7 ของหอนางโรมจันทร์ส่องฟ้า ที่มีน้องผีผาเป็นผู้ดูแลแทน

    “ก็ดีันะ พี่ใหญ่ ได้พลังชีวิตมาเยอะแล้วละ”

    “ขอบใจเจ้ามากผีผาน้องรักของข้า ถ้าไม่ได้เจ้าคอยช่วยข้าแก่ไปมากว่านี้” 

    “คิคิ... ขอเพียงพี่ใหญ่สั่งข้าทำได้หมดแหละพี่ใหญ่” เสียงใสของน้องรักเอ่ยอย่างเอาอกเอาใจ

    “อืม”

    ณ. ตำหนักพระมเหสีซองมิน





    “ฮ่าๆๆๆๆๆ..สาแก่ใจข้านัก ที่หักหน้าอีแก่นั้นได้ ฮ่าๆๆๆๆๆ” 









    ย้ะห์ !! ย้ะห์!!

    ฉึก!! ฉึก!! เสียงของเกาทัณฑ์แหวกอากาศเข้าพุ่งสู่เป้าได้แม่นยำเหมือนจับว่าง เรียวปากบางสีแสดอมชมพูสดยิ้มอย่างเปรมปรีด์ ขนตายาวรับโค้งคิ้วบางเรียว ตากลมสุขสะกาวแสงสดใสรับไปหน้าเนียนนวล ผมเส้นดำฟิ้วไหวบนหลังม้าสีขาวสวยสง่าคู่ใจ เป็นภาพที่งดงามยิ่งนัก

    กุบกับ.......กุบกับ......กุบกับ......กุบกับ

    ฮี๊ๆๆๆๆๆๆๆๆ!!! 

    ฉึก!! ฉึก

    ย้ะห์ !! ย้ะห์!!

    กุบกับ กุบกับ กุบกับ กุบกับ กุบกับ กุบกับ

    ฉึก!!  ฉึก!!

    ย้ะห์ !! ย้ะห์!!

    กุบกับ กุบกับ กุบกับ กุบกับ กุบกับ   พรื่ดดดดดดดดดดด ฮี๊ๆๆๆๆๆ

    “ฝีมือการยิงธนูของเจ้าหาใครในซอลลาเปรียบได้แล้ว” ร่างโปร่งที่ยื่นเทียมม้า ปากอิ่มเอ่ยคำหวานชมชายหนุ่มบนหลังม้า มือแกร่งพลางลูบไล้ไปตามขนอาชาสีขาวราวกับว่าได้ลูบไล้ผิวกายของเจ้านายหนุ่ม

    “ท่านแม่ทัพคิมชั่งปากหวานนัก ใยท่านจึงแกล้งกล่าวชมข้าเยี่ยงนี้เล่า” ชายหนุ่มหน้าหวานเขินอาย ม้วนต้วนอยู่บนหลังม้า มือเรียวยังคงกำธนูคู่ใจเอาไว้มั่น

    “ข้าพูดจากใจจริงของข้า ใยเจ้าจึงคิดว่าข้าปดเจ้าด้วยเล่าดงเฮของข้า” ท่านแม่ทัพหนุ่มเอ่ยพร้อมประครองคนที่เฝ้ารักเฝ้าทะนุถนอมลงจากหลังม้า

    “คุณชายขอรับ คุณชาย ใต้เท้าคังเรียกหานะขอรับ”

    “ท่านพ่อเรียกข้าอย่างนั้นรึ ซองกยู”

    “ขอรับคุณชาย เห็นบอกว่ามีเรื่องสำคัญมาก ให้คุณชายรีบไปด้วยนี้”

    “ท่านแม่ทัพ...คือข้าจำต้อง” หน้าข่าวติดจะเศร้า จนท่านแม่ทัพคิม อ่านออกได้

    “ดงเฮข้ารักเจ้า รักเจ้าเหนือสิ่งอื่นใดในชีวิตของข้าแต่ว่า..ข้า” นิ้วเรียวแตะที่ปากหยักของชายคนรักเอาไว้

    “ข้ารู้...ความรักของท่านแม่ทัพที่มี่ต่อข้านั้นยิ่งใหญ่ แต่คงไม่เท่าแผ่นดินของซอลลาหรอกท่านแม่ทัพ...”น้ำเสียงหวานระคนตัดพ้อในความรักของเขาทั้งสองท่ามกลางศึกสงคราม

    “ข้าขอโทษ..เสร็จศึกครานี้ข้าจะให้ท่านพ่อขอมาสู่ขอเจ้า ข้าคิม คิบอมขอให้คำมั่น”

    “ข้าจะเฝ้ารอวันที่ข้าได้เคียงคู่กับท่าน..ข้าลี ดงเฮขอสัญญา”

    “เจ้ารีบไปเถอะ เดี๋ยวท่านใต้ท้าวคังจะว่าเอาได้”

    “ข้ารักท่าน คิม คิบอมยอดขุนศึกของข้า”




    ย้ะห์ !! ย้ะห์!!

    “ข้าก็รักเจ้า ลี ดงเฮยอดดวงใจของข้า”



    ยังไม่จบนะ




    ****-************--***************---***************
    ขอบคุณคะ
    ตอบคำถาม คุณปักษาราตรี

    1. 5 เทพที่อยู่บนสวรรค์ คือ จุนซู ยูชอน และ ชางมิน โดนแจจุง สาปส่งลงมาเพราว่าทำผิดกฎสวรรค์บลาๆๆ ตามเนื้อเรื่อง ส่วนเอ็นซีมงกุฏดอกท้่อ กับ ซีวอนกินไก่ เด๋วส่งไปให้ตามเมล์ที่ให้ไว้นะคะ...

    2. กี้ไม่ได้เป็นคน แต่ก็เหมือนคนที่สุดคะ เหมือนกว่าฮยอกแจ และเรียววุค เพราะว่ากี้เป็นนางเอก แล้วตอนนี้ที่อยู่ในวังวอนซีเมียของพระเจ้าซีวอนตอนนี้ก็มี ซองมิน ฮยอกแจ  ดงเฮยังไม่ได้เป็นคะ ยังไม่ได้เข้าวังเธอยังไม่รู้เลยว่าจะได้ผัวเป็นเจ้า ดงเฮตอนนี้เป็นคนรักของท่านแม่ทัพคิม  ส่วนกี้เป็นเมียวอนก่อนดงเฮ ดงเฮเป็นเมียคนสุดท้ายของซีวอนคะ  เพราะว่าซีวอนจะหยุดแค่ดงเฮ แต่ว่ารักกี้คนเดียว.. งงป่าว อย่างงกันน้า..

    เด๋วมาต่อ...แต่รอก่อนน้าาาาาา...
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×