ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Reborn] Bloody Love [1827 10069]

    ลำดับตอนที่ #2 : .:Blood:.I จุดเริ่มต้น ~Rewrite~ 100%

    • อัปเดตล่าสุด 2 ธ.ค. 54


    love em


    Blood  I



    จุดเริ่มต้น






    ชานเมืองกรุงโรม,อิตาลี


    
     
     

    ในเขตชานเมืองของกรุงโรมแห่งนี้ หากใครที่สัญจรไปมาแล้วมองข้างทางดีๆ จะพบว่า ไกลจากตัวเมืองนี้ มีคฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งอยู่เป็นคฤหาสน์ที่ก่อสร้างอย่างวิจิตรตระการตา ด้วยการผสมผสานกันระหว่าง สไตล์ตะวันตกแบบโมเดิร์น และสไตล์ตะวันออก แบบญี่ปุ่น  คฤหาสน์แห่งนี้กินพื้นที่กว่า 600 ไร่ ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงและระบบรักษาความปลอดภัยอย่างดีเยี่ยม โดยจะเป็นที่รู้กันว่า คฤหาสน์แห่งนี้ เป็นของ วองโกเล่แฟมิลี่ แฟมิลี่ที่มีอิทธิพลมากที่สุดนั่นเอง


.

.

.


ณ คฤหาสน์วองโกเล่ 



ยามนี้เป็นยามเช้าตรู่ แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาทางกระจก ส่งผลให้หลายชีวิตที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้ ตื่นขึ้นมารับแสงของวันใหม่

.

.

ยามเช้าที่ควรจะเงียบสงบและร่มรื่น หากแต่...กลับไม่เป็นเช่นนั้น
.

.


     ตึก ตึก ตึก ตึก....

     

     

     

     

     

    เสียงฝีเท้าก้าวอย่างรวดเร็วเดินมาตามระเบียงคฤหาสน์ไปยังโซนที่อยู่ลึกที่สุดของคฤหาสน์ ซึ่งเป็นที่พักของเหล่าผู้พิทักษ์และบอสของวองโกเล่แฟมิลี่ พร้อมกับเสียงเรียกหาคนที่เป็นเจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้ที่ดังไปตลอดทาง

     

     

     

     

     

      เจ้าของเสียงเรียกนี้ เป็นชายหนุ่มร่างบาง แต่ไม่ถึงกับอ่อนแอ เจ้าของเรือนผมสีเทาที่ดูลื่นมือ น่าจับต้อง กับดวงตาสีมรกตคู่งาม ชายผู้มีตำแหน่งเป็นมือขวาของบอสแห่งวองโกเล่แฟมิลี่ เจ้าของฉายา 'Smoking Bomb'

     

     

     

     

    "รุ่นที่สิบครับ รุ่นที่สิบ!! รุ่นที่สิบอยู่ที่ไหนครับ!" เจ้าของเสียงเอ่ยหาไปตลอดทาง ก่อนที่จะมีเสียงๆนึง ดังขึ้นขัดการเรียกนั้น 

     

     

     "มีอะไรหรอ โกคุเทระ" เสียงใสๆดังขึ้นขานรับเสียงเรียกนั้น ก่อนที่ชายหนุ่มเจ้าของเสียงเรียก นาม 'โกคุเทระ'จะหันหน้าไปตามเสียงนั้น 

     

     

     

    วองโกเล่รุ่นที่ 10 เป็นชายหนุ่มร่างบางดูน่าถนุถนอน เรือนผมยาวสีน้ำตาลเปลือกไม้ชอยเป็นทรงรากไทร ดูนุ่มราวกับเส้นไหม ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตตู่งามล้อมกรอบด้วยแผขนตาหนา ใบหน้าหวานเรียวรูปไข่ กับริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อ ทุกสิ่งทุกอย่างราวกับว่าพระเจ้าสร้างเขาขึ้นมาเป็นผู้หญิงก็ไม่ปาน

     

     

     

     

    ชายหนุ่มเจ้าของตำแหน่งมือขวารีบวิ่งตรงมายังที่ๆร่างบางยืนอยู่อย่างรวดเร็ว 
ก่อนจะตอบด้วยเสียงที่สั่นนิดๆด้วยความเหนื่อยว่า


    “มี…คนมาขอพบ…บะ…บอสครับ"

ซึ่งประโยคนั้นเรียกความสงสัยจากร่างบางได้เป็นอย่างดี

ก่อนจะถามต่อว่า

"ใครหรอ โกคุเทระคุง”

     

     

     

     

    “เบียคุรันครับ เขาบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับรุ่นที่ 10”

     

     

     

    “เอ๋….คุณเบียคุรันมีเรื่องอะไรกัน…

    แล้วตอนนี้คุณเบียคุรันรออยู่ที่ไหนหรอ”

     

     

    สึนะถามพลางใช้ความคิดว่าบอสของมิลฟีโอเล่อย่างเบียคุรันมีเรื่องอะไรถึงได้มาหาเขา 

    แม้ว่าหลังจากจบศึกภาคอนาคตไปแล้ว ทางมีลฟีโอเล่กับวองโกเล่จะจับมือเป็นพันธมิตรกัน และเขากับคุณเบียคุรันก็สนิทกันมากขึ้น แต่ก็ไม่เห็นจะมีเรื่องอะไรที่คุณเบียคุรันจะต้องมาหาเขาเลย จะว่ามาชวนจิบน้ำชายามบ่ายก็คงไม่ใช่

     

     

     .

.

.

     

     

     

     

    
"ห้องรับรองเล็กครับ" โกคุเทระตอบ ก่อนที่สึนะจะเดินไปยังสถานที่นั้นทันที

     

     

     .

.

.

.

     

     

     

     

     

     

    ณ ห้องรับรองเล็ก

     

     

     

     

    “แอ๊ด…”

     

     

     

     

    สึนะเปิดประตูเข้าไปยังห้องรับรองเล็กก่อนจะพบร่างสูงเข้าของเรือนผมสีขาวและรอยสักใต้ตา
ที่นั่งกินมาร์ชเมลโล่อยู่บนโซฟาตัวยาวสีครีมส่งยิ้มมาให้เขา 

     

    "ขอโทษที่ให้รอนานครับ คุณ เบียคุรัน" สึนะกล่าวขอโทษที่ตนเองปล่อยให้ชายหนุ่มตรงหน้าต้องมานั่งคอยเขา 


แต่อีกฝ่ายกลับไม่มีสีหน้าโกรธหรือหงุดหงิดเลยแม้แต่น้อย หากแต่กลับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ย้ิมแย้ม 

     

     

    “ไง….สึนะคุง นั่งก่อนสิๆ" เบียคุรันพูด พลางหยิบมาร์ชเมลโล่ที่ตนนำมาด้วยขึ้นมากินต่อ


สึนะเห็นดังนั้น จึงเดินไปนั่งที่โซฟาตรงข้ามชายหนุ่มก่อนจะเอ่ยถามถึงสาเหตุที่ชายหนุ่มตรงหน้านี้มาหาตนถึงที่คฤหาสน์



"คุณเบียคุรันมีธุระอะไรหรอครับ ถึงมาหาผมถึงที่นี่ได้"



หากแต่สิ่งทีชายหนุ่มตอบกลับมากลับเป็น

.

.


"มาร์ชเมลโลนี่อร่อยมากเลยน่ะ พอดีฉันแวะไปเที่ยวมาเลยซื้อมาฝาก” ร่างสูงบอก
พลางยื่นถุงมาร์ชเมลโล่มาให้กับสึนะ

     

     

     

    “อ่า…คุณเบียคุรันคงไม่ได้มาหาผม เพราะแค่จะเอามาร์ชเมลโล่มาให้หรอกน่ะครับ”สึนะรับ
ถุงมาร์ชเมลโล่มา ก่อนจะเริ่มเปิดประเด็น เพราะเขาไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะมาเพื่อแค่เอา
มาร์ชเมลโล่มาให้เขาอยู่แล้ว

     

     

    “ฮะๆ สึนะคุงนี่รู้ทันฉันจนได้”ร่างสูงพูดยิ้มๆ พลางเริ่มพูดคุยธุระที่ทำให้ตนต้องเดินทางมาที่นี่
ในวันนี้

     

    “พอดีว่า มะรืนนี้ที่แฟมิลี่จะมีงานเลี้ยงฉลองเปิดธุรกิจใหม่น่ะฉันเลยเอาบัตรเชิญมาให้” เบียคุรันว่า พลางหยิบบัตรเชิญที่ใส่ไว้ในเสื้อสูทออกมายื่นให้คนตรงหน้า

     

     

    “แค่นี้หรอครับ…จริงๆเรื่องแค่นี้คุณเบียคุรันไม่ต้องมาเองก็ได้นี่ครับ แค่ส่งบัตรเชิญมาก็ได้” สึนะถามอย่างงงๆ เพราะตามปกติเวลามีงานเลี้ยง แฟมิลี่ต่างๆก็มักจะส่งบัตรเชิญมาไม่ได้เอามาให้ด้วยตนเองแบบนี้

     

     

    “ฮะๆ ก็ถ้าฉันไม่มาเอง ก็รับรองได้เลยว่าในงานนี้วองโกเล่แฟมิลี่จะต้องมาไม่ครบแน่นอน งานครั้งนี้น่ะ ฉันอยากให้ผู้พิทักษ์ของนายมาให้ครบทุกคนน่ะ  ซึ่งฉันคงเสียใจแย่ถ้ามากันไม่ครบน่ะ"

เบียคุรันตอบพลางทำหน้าเสียใจที่ดูยังไงก็เหมือนเสแสร้งทำมากกว่า แต่สึนะก็ชิบซะแล้วกับท่าทางแบบนี้ของคนคนนี้
จึงไม่ได้ใส่ใจนัก ก่อนที่สึนะจะก้มลงไปอ่านบัตรเชิญที่ตนเพิ่งได้รับมา 


.

.


แต่ประโยคที่อยู่ในนั้น กลับทำให้ร่างบางขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

     

     

     

    “ธีมหญิงชาย?” สึนะถามอย่างสงสัยกับธีมงานที่เขียนไว้ในบัตรเชิญใบนี้

     

    “ใช่แล้ว ^^ ธีมงานครั้งนี้คือ ธีมหญิงชาย แต่เนื่องจากส่วนใหญ่ในวงการมาเฟียมักจะมีแต่ผู้ชาย ถ้าจะหาคู่ควงเป็นผู้หญิงมาก็ได้น่ะ แต่งานนี้เป็นงานเฉพาะในวงการมาเฟีย เรียกง่ายๆคือเป็นงานที่จัดขึ้นเงียบๆ ไม่เอิกเกริก เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นไปได้ก็ให้จับคู่กันเองในแฟมิลี่เดียวกัน หรือแฟมิลี่พันธมิตร ถ้าเป็นผู้ชายทั้งคู่ก็ให้ใครคนใดคนนึงแต่งตัวเป็นผู้หญิงไงล่ะ 

(เปลี่ยนแปลงใหม่นิดหน่อยน่ะค่ะ)

    น่าสนุกใช่มั้ยล่ะ ธีมนี้น่ะ บลูเบลจังเป็นคนคิดเองเลยน่ะ ^^ อ้อ ส่วนวองโกเล่น่ะ ที่ฉันเชฺิญไปมี 7 คนใช่มั้ยล่ะ 
อืม...งั้นฉันจะหาคู่ไว้ให้คนนึงล่ะกัน จะได้จับคู่กันได้ลงตัวพอดี เพราะงั้นเอาเป็น...มุคุโร่คุงล่ะกัน ^^"  




เบียคุรันตอบ ก่อนจะนั่งกินมาร์ชเมลโล่ต่ออย่างสบายอารมณ์ ต่างจากสึนะที่ดูจะกังวลมากกว่าเดิมเสียอีก

     

     

    'จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย...ไหนจะต้องพาผู้พิทักษ์ไปให้ครบทุกคน แล้วยังจะเรื่องการจับคู่นั้นอีก....เฮ้อออ....ก่อนอื่นไปปรึกษาโกคุเทระคุงกับยามาโมโตะก่อนล่ะกัน ว่าจะทำยังไงดี แล้วค่อยว่ากันทีหลังว่าจะเชิญ...ไปให้ครบยังไง' 




สึนะคิดพลางขอตัวเดินออกจากห้องไป เพื่อจะไปหาเพื่อนสนิททั้งสองของตนและปรึกษาเรื่องนี้



.

.

.

.

.




     

     

    


‘อืม…ว่าแต่ จะไปหาทั้งคู่ที่ไหนดีล่ะเนี่ย’ สึนะคิดพลางเดินไปเรื่อยๆตามระเบียงเพื่อตามหาตัวเพื่อนทั้งสองของตน ก่อนที่ดวงตาคูกลม่โตจะไปสะดุดอยู่ที่สวนย่อมกลางของคฤหาสน์ ซึ่งเป็นสวนหย่อมที่สร้างขึ้นไว้สำหรับให้ผู้พิทักษ์ไว้เป็นสถานที่พักผ่อนยามว่าง ซึ่งบัดนี้ ก็มีผู้พิทักษ์ที่มาใช้พื้นที่อยู่เสียด้วย

     

    ภายในสวนหย่อม มีชายหนุ่ม 2 คนกำลังนั่งเล่นอยู่ที่โต๊ะกลางสีขาวทรงสูงที่ตั้งอยู่ข้างๆน้ำพุขนาดย่อม ที่มีหัวพ่นน้ำลายปลาโลมา

     

    ชายหนุ่มคนแรกที่นั่งหน้าหงิกอยู่นั้น เป็นชายหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีเงิน และดวงตาสีมรกต คนที่วิ่งมาบอกเขาเรื่องที่คุณเบียคุรันมาหาเมื่อตอนเช้า ‘โกคุเทระ ฮายาโตะ’

     

    ส่วนชายหนุ่มอีกคน เป็นชายหนุ่มที่มักจะมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา เจ้าของเรือนผมและดวงตาสีดำสนิท รอยยิ้มขี้เล่นในยามนี้กลับดูแปลกๆ ราวกับกำลังหวาดกลัวกับอะไรบางอย่าง ซึ่งสึนะเดาได้เลยว่า คนตรงหน้ากำลังง้อมือขวาของเขาอยู่เป็นแน่แท้

     

    ใช่แล้ว ทั้งคู่เป็นแฟนกันมาได้กว่า 4 เดือนแล้ว แต่ก็มักจะมีเรื่องทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้ง และเกือบทุกครั้ง ยามาโมโตะก็จะต้องเป็นฝ่ายมาง้ออยู่ร่ำไป แต่สึนะรู้ดีว่าที่ทั้งคู่ทะเลาะกัน ไม่ได้ทะเลาะกันจริงจังเลย ก็แค่ว่า โกคุเทระคุง มักจะเป็นฝ่ายโวยวาย และงอนไปเวลาที่ตนเองเขิน ก็เท่านั้น และคราวนี้ก็ดูท่าว่าจะเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน

     

    สึนะเดินเข้าไปหาทั้งคู่ ก่อนจะเอ่ยทักทาย

     

    “ยามาโมโตะคุง โกคุเทระงอนอะไรอีกหรอ”  เสียงเรียกนั้น ดึงความสนใจของทั้งคู่ให้หันมามอง ก่อนที่โกคุเทระจะรีบลุกขึ้นแล้วพูดอย่างรวดเร็ว

     

    “รุ่นที่สิบ!!  ตกลงว่าเจ้านั้นมันมาทำไมกันครับ” โกคุเทระถามโดยที่แกล้งทำเป็นเมินชายหนุ่มอีกคน ส่วนอีกฝ่าย เมื่อเห็นเพื่อนสนิทอีกคนของตนมา จึงเอ่ยทักทายอย่างร่าเริงตามวิสัยของตน

     

    “ไง สึนะ ได้ยินว่าเบียคุรันมา มีเรื่องอะไรหรอ”

     

    เมื่อได้ยินคำถามที่เหมือนกันจากทั้งคู่ สึนะจึงเล่าธุระที่ทำให้ตนต้องมาปรึกษาทั้งสองฝ่ายให้ฟังทันที ก่อนจะถามสิ่งที่ตนกังวลออกมา

     

    “คือ…ฉันไม่รู้้น่ะว่าจะไปชวนคุณฮิบาริยังไง คนอื่นยังพอจะชวนได้อยู่ แต่คุณฮิบาริเนี่ยสิ เฮ้อ…” สึนะพูด ก่อนจะถอนหายใจอย่างกังวล เพราะถ้าไปไม่ครบ ก็จะถือว่าไม่ให้เกียรติแก่เจ้าภาพ ซึ่งสึนะยังไม่อยากให้เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น

     

    “นายก็ไปลองชวนดูก่อนสิ” ยามาโมโตะพูดขึ้น ตามแบบของคนที่มองโลกในแง่ดี

     

    “จะบ้าเรอะ เจ้าบ้าเบสบอล นายก็รู้นี่ว่าเจ้านั้นมีนิสัยยังไง คนอย่างนั้นน่ะหรอจะยอมไปงานเลี้ยงแบบนี้ ขนาดงานทางการของแฟมิลี่ยังไม่ยอมมาเลย แล้วใครจะไปรู้ล่ะ ถ้าหมอนั้นเกิดอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา แล้วไม่พอใจ อัดรุ่นที่ 10 จะทำยังไง”

     

    โกคุเทระพูดขัดขึ้นอย่างโกรธๆ เขาไม่มีวันยอมให้รุ่นที่สิบต้องไปเจออันตรายอย่างนั้นแน่

     



    “แต่ก็ไม่แน่ไม่ใช่หรอ สึนะ นายก็ลองไปชวนดูก่อนก็ไม่เห็นจะเสียหายนี่ หมอนั้นคงไม่ทำอะไรหรอกน่า"

    .

     

    .

     

    .

    .

    .


    .


    .


    .


    TBC




    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++









    ClouDy'sTalk:
    เอามาลงพร้อมบทนำ ^^ แต่งเสร็จพอดี  วันนี่คลาวด์เอาสถานะของตัเองมาฝาก 555




    ClouDy's Status>>

    ~Rewrite Fic~

     Fin.บทนำ+บท 1 
    On Going.บท 2-4

    ~Fic~

    ปล.ในช่วงที่คลาวด์นอยน์ บางครั้งว่างๆเลยมานั่งแต่งบ้าง ซึ่งยังไม่เคยเอาไปลงที่ไหนเลย

    Stat ประมาณ 4 หน้าครึ่ง

    ~Enter Project~
    คิดพล็อต+แต่งบทแรกจบแล้ว เหลือปรับแต่งรายละเอียด

    ~Short Fic~

    เนื่องจาก ฟิคสั้นของ POT ที่คลาวด์เคยบอกว่าหายไป มีบางส่วนที่คลาวด์แต่งไว้ในสมุด แต่ก็แค่...นิดเดียว น้อยมากๆ แต่ถ้าว่างจะพยายามมาแต่ง แต่อีกเรื่อง พอดีตอนนั้นแต่งกะจะลงวันปีใหม่ พิมพ์สดๆหน้าคอม เลยหายไป ไม่เหลือ ถ้าจะแต่งใหม่คงเป็นพล็อตใหม่ ^^




    PS.คลาวด์รีไรท์ใหม่แล้ว เพราะงั้น ก็ถือเป็นการเริ่มต้นใหม่ นักอ่านเงาก็ออกมาเม้นน่ะค่ะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×