คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [SF] OMG! ไม่จริงน่า ผมท้องกับแวมไพร์ (2/2)
1 เดือนผ่านไป
“โอ๊ยยยยย! ยะเยซอง ฉันเจ็บท้อง” หลังจากที่กินอิ่มและกำลังจะล้มตัวลงนอนความเจ็บปวดและตึงบริเวณหน้าท้องทำเอาคุณแม่ร้องลั่นบ้านจนร้อนถึงคุณพ่อต้องรีบขึ้นมาดู
“คุณ คะคุณเป็นอะไรมากมั้ย นะ นอนก่อนมั้ย” เหมือนกับความมั่นใจที่ตัวเองเคยมีจะหายไปหมดเมื่อร่างบางที่นอนอยู่ใช้มือกุมท้องตัวเองด้วยสีหน้าเจ็บปวด
“อะโอ๊ย! เยซองอึก ฉันกลัวอึก โอ๊ยยยยยยยย” เยซองถึงกับลนลานทำอะไรไม่ถูกต้องรีบออกไปตามคุณนายปาร์คมาดูอาการ
“ไอ่ลูกเวร! เมียแกจะคลอดลูกอยู่รอมร่อยังไม่รู้อีกหรอน้ำคร่ำแตกแล้วเนี่ย” อย่าตกใจไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคุณนายปาร์คเรียกลูกชายสุดที่รักว่าไอ่เวร เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมานานแล้วเมื่อเรียวอุคตั้งท้องเยซองก็กลายเป็นหมาหัวเน่าโดยปริยาย
“ละ ...แล้วให้ผมทำยังไงล่ะครับท่านแม่”
“ให้แกมาทำคลอดมั่ง! ทำไมลูกฉันมันโง่แบบนี้นะ เปิดรถสิจะได้พาเรียวอุคไปหาหมอชิม”
“คะครับๆ” แขนแกร่งยกร่างบางขึ้นมุ่งหน้าไปยังรถหรูทันที
“หมอชิมค่ะ คือว่าเขาไม่ใช่แบบพวกเรานะโปรดดูแลด้วยนะค่ะ” คุณนายปาร์คที่มาถึงแล้ว เดินเข้าไปใกล้คุณหมอมากความสามารถแต่อายุยังน้อย
“ครับแล้วผมจะดูแลอย่างดีไม่ต้องเป็นห่วงครับคุณน้า” หมอชิมรับคำก่อนจะเดินเข้าห้องผ่าตัดไป
“เรียวอุคจะเป็นยังไงมั่งครับแม่ ละ แล้วเค้าจะออกมาเมื่อไหร่ละ...แล้ว แล้วเค้าจะ....”
“เลิกพูดมากได้แล้วไอ่หน้าแป้น เมียแกถึงมือหมอแล้วนะ” ถึงแม้ว่าจะมีผู้เป็นแม่คอยปลอบใจแต่เขาก็ยังอดห่วงไม่ได้อยู่ดีก็เรียวอุคเป็นผู้ชายนะมันจะคลอดง่ายๆ แบบผู้หญิงได้ยังไง
“คุณน้าครับ เด็กและคุณแม่ฮ่ะๆ ผมพูดแบบนี้ถูกมั้ยปลอดภัยแล้วนะครับ” คุณหมอชิมเดินมุ่งหน้ามายังสองแม่ลูกตระกูลปาร์คที่ทำหน้าเครียดกันอยู่
“ขอบคุณมากนะชางมิน แล้วพี่เค้าไปได้รึยังแล้วเรียวอุคฟื้นรึยัง” เยซองที่เหลือบไปเห็นหมอชิมเดินออกมาก็เข้าไปถามทันที พอชางมินพยักหน้าอนุญาตให้เข้าไปเยี่ยมได้ร่างหนาก็แทบจะใส่เกียร์วิ่งไปทันที
“เมียคนแรกน่ะหมอชิม คงจะตื่นเต้นไม่น้อย” คุณนายปาร์คหัวเราะน้อยๆ กับท่าทางตื่นๆ ของลูกชาย
“เรียวอุค คุณตื่นรึยังน่ะ” ร่างหนาทิ้งตัวนั่งลงตรงเก้าอี้ข้างเตียงมือหนากุมมือบางเอาไว้อย่างหลวมๆ
“แอ้~ อะอ้อ” เสียงใสๆ ของเด็กน้อยที่อยู่อีกเตียงหนึ่งดังขึ้นเรียกความสนใจจากเยซอง
“ว่าไงครับเจ้าตัวเล็ก” มือหนาช้อนตัวเด็กทารกจ้ำม่ำขึ้นมาอยู่ในวงแขนแล้วโยกเบาๆ จนเด็กน้อยหัวเราะคิกคัก
“แอ้ อะอ่ะ” สองมืออวบๆ ยกขึ้นแหย่เล่นกับนิ้วของผู้เป็นพ่อที่ยื่นเข้ามา
“ดูดนิ้วพ่อทำไมครับ หิวนมหรอครับลูกคุณแม่ยังไม่ตื่นเลยนะ” เยซองเสมองร่างบงที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงสีขาว
“อ้ะ อ่าแงงงงงงงงง้! ~ แง้” เหมือนจะหิวนมจริงๆ ตามที่เยซองพูด เมื่อสิงมืออวบเล่นนิ้วพ่อได้ไม่นานก็แบะปากออกร้องจ้าลั่นห้อง
“ชู่ว~ ไม่เอาสิครับคนเก่งโอ๋ๆๆ โอ๋ ไม่ร้องน้า” ร่างหนาที่ไม่เคยเป็นพ่อคนไม่รู้จะทำยังไงดีจึงได้แต่โยกตัวไปอยู่อย่างนั้นหามือทำไม้ไปต่างๆ นานๆ
“แกทำลูกร้องหรอเยซอง เป็นพ่อประสาอะไรเนี่ย” พอเข้ามาถึงท่านชายปาร์คก็แขวะลูกชายทันที
“คุณก็! ก็เหมือนคุณตอนนั้นนั่นแหละ โอ๋ๆๆ หลานย่ามาให้ย่าดูหน้าหน่อยสิ” คุณหญิงปาร์คหันไปดุคุณสามีทันทีก่อนจะรีบเดินเข้าไปโอ๋หลานตัวน้อยๆ
“เอ๋ ...อ่าอิค อ่า” เสียงหัวเราะน้อยๆ ที่ออกมาจากลูกชายคนแรกของเค้าที่เพิ่งเกิดได้ไม่นานทำให้ผู้เป็นพ่อหันไปมองทันที
ทำไมทีอยู่กับพ่อไม่หัวเราะแบบนี้มั่งล่ะคุณลูก T^T
“ไม่ต้องหันมามองเลยๆๆ คนนู่นน่ะจะฟื้นแล้วไปดูสิ” เยซองหันไปมองตามนิ้วชี้ของผู้เป็นแม่ก็เห็นร่างบางทำท่าทีจะลุกขึ้นมานั่งร่างหนาก็ปรี่เข้าไปพยุงให้นอนต่อ
“คุณอย่าเพิ่งลุกสิ ไม่เจ็บแผลแล้วหรอไง” พอคุณพ่อพาคุณแม่ล้มตัวนอนได้อีกครั้งก็เทศนาไปหนึ่งจบ
“แล้วลูกล่ะไอ่หน้าแป้น” เรียวอุคชะเง้อคอมองหาเด็กน้อยผู้เป็นลูกก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อเห็นกำลังเล่นอยู่กับแม่ของเยซอง เรียวอุคกางแกนออกรับเด็กน้อยที่ทำท่าจะดิ้นมาอยู่กับตัว
“แก้มยุ้ยเหมือนใครครับลูก” นิ้วชี้เรียวจิ้มไปที่แก้มของเด็กน้อยเบาๆ เด็กตัวน้อยก็หับเราะเอิ้กอ้ากด้วยความจั้กจี้
“ก็เหมือนพ่อนะสิเนอะครับ แล้วเป็นแม่ภาษาอะไรพูดครับกับลูกล่ะคุณ” เยซองหันไปแขวะคุณแม่มือใหม่เล็กน้อยกับอาการที่ไม่ยอมรับตัวเองสักทีว่าเป็นเคะ
“แต่ฉันเป็นผู้ชายนะเยซอง”
“แล้วตอนนั้นคุณอยู่ข้างล่างไหมล่ะ” พูดจบประโยคทุกอย่างเงียบสงบขึ้นทันทีก็มีแต่เพียงเสียงร้องเบาๆ จากเด็กน้อยเท่านั้นเอง เรียวอุคทำท่าทีไม่สนใจกับคำพูดของเยซองที่ทำตัวเองหน้าแดงไปไหนต่อไหนหันมาเล่นกับลูกชายต่อ
“อ่า ~ อื้อง่ะ ฟี้~” เด็กน้อยส่งเสียงร้องในลำคอเบาๆ ก่อนจะพริ้มตาหลับลงพร้อมกับผู้เป็นแม่ที่นอนอยู่เตียงข้างๆ นัยน์ตาคมอดไม่ได้ที่จะพินิจใบหน้าของสองแม่ลูกที่ช่างเหมือนกันซะจริงๆ ถ้าไม่ติดว่ามีแก้มและหน้ากลมๆ เหมือนกับเค้า
2 สัปดาห์ผ่านไป
“แอออออออออออ้ !! ~ แง้ ฮึก แอ้”
“เยซองลูกร้องแล้วได้ยินไหมมมมมมมมมมมม!!”
“จ้ะเมียจ๋า T^T”
1 เดือนผ่านไป
“เยซอง! มาเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกเร็วๆ หน่อยสิ”
“ครับๆๆ ผมจะไปเปลี่ยนแล้วครับคุณนายปาร์ค”
“เลิกพูดมากได้แล้วไอ่หน้าแป้น! มาเปลี่ยนเร็วๆ สิว่ะ”
ทำไมกันนะแวมไพร์ผู้สูงศักดิ์ต้องเชื่อและตามใจเมียกับลูกขนาดนี้น่ะหรอ? ไม่น่ายาก เชื่อเมียตามใจเมียแล้วจะเจริญบัญญัติของคุณนายปาร์คเลยนะเนี่ย ตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งหลังคลอดและก่อนคลอดรู้สึกเหมือนผมจะเป็นทาสเค้ายังไงก็ไม่รู้แต่...รอก่อนเถอะ! สักวันที่เมะจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
2 ปีผ่านไป
“มะมิ๊ หม่าหม่ำ” ลูกชายตัวน้อยจ้ำม่ำที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทานอาหารสำหรับเด็กอ่อนส่งเสียงร้องเรียกมารดาที่กำลังเตรียมอาหารอยู่ตรงหน้า
“ซุปเห็ดมาแล้วครับคนเก่ง”เรียวอุคที่อยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนสีชมพูหวานวางถ้วยอาหารจานโปรดของปาร์คอินซอกลูกชายจอมแสบที่นั่งรอตาแป้ว
“อ่าอ่ำๆ ฮ่ะๆ” เมื่ออาหารมาอยู่ตรงหน้าเป็นที่เรียบร้อยสองมืออวบก็ยกช้อนขึ้นตักอาหารเข้าปากทันที
“เอ้าๆ รีบกินไปไหนน่ะอินซอก มันร้อนไม่ใช่หรอครับลูก” เยซองที่กำลังจะเตรียมตัวพาอินซอกไปส่งโรงเรียนก็หยุดมาเล่นกับเด็กน้อยเอาซะก่อน
“อิ๋ว ร่อยๆ มิ๊ทาร่อย คิกๆ” กินไปก็ชมไปหันมามองหน้าแม่แล้วยิ้มให้จนตาที่ตี่อยู่แล้วยิ่งตี่เข้าไปใหญ่เหมือนกันใครกันนะ?
“นี่คุณคิดถึงบ้านมั้ย” เยซองที่เดินตามหลังเรียวอุคเข้ามาในครัวพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
“หื้อ...ก็คิดถึงสิถามแปลกไม่ได้กลับไปตั้ง 5 ปีแล้วนะ” ร่างบางตอบด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ แต่ก็ยังคงยิ้มให้กับเยซองแล้วหันไปจัดการอาหารตอนเช้าต่อ
“ลองกลับไปที่นั่นกันไหม ไปด้วยกัน” ร่างหนาเดินเข้ามาเอาคางสากเกยกับไหล่เล็กพร้อมกับอ้อมกอดที่อบอุ่นเบาๆ
“มีอะไรรึเปล่าเยซอง” มือบางกุมมือของเยซองที่อยู่หน้าท้องให้กระชับแน่นขึ้น น้ำเสียงทุ้มๆ ที่พูดออกมาเหมือนมีความรู้สึกกังวลอะไรบางอย่างมันทำให้เขาไม่สบายใจ
“ลองกลับไปดูกันไงเผื่อเจออะไรใหม่ๆ พาอินซอกไปเปิดหูเปิดตาด้วย” เยซองพยายามปรับน้ำเสียงให้ดูดีขึ้นกว่าเมื่อกี้
“พรุ่งนี้ร.ร.ลูกก็หยุดแล้วสินะ ไปพรุ่งนี้กันนะคุณ” จมูกโด่งกดลงบนแก้มเนียนอย่างออดอ้อนคลอเคลียอยู่กับแก้มเนียนสักพักก่อนจะละออกมา
“ก็ดีสิ ปล่อยได้แล้วน่าแกะกะจริงๆ ไอ่หน้าแป้น” เยซองยิ้มออกมานิดๆ กับท่าทีเขินอายของเรียวอุคถึงแม้จะอยู่ด้วยกันมาตั้งนานแล้วและเขาก็ทำแบบนี้กับเรียวอุคบ่อยๆ แต่เรียวอุคก็ยังไม่ชินสักที
“มะมิ๊ ป่าไป่ๆ พาไป” เยซองยอมออกมาจากตัวเรียวอุคทันทีก็เพราะเสียงเจ้าลูกชายตัวดีเรียกให้ไปส่งที่ร.ร.แล้วล่ะสิ
“อิ่มแล้วหรอครับ งั้นเดี๋ยวพ่ออุ้มนะ” เด็กน้อยชูสองมือขึ้นอย่างรู้งานก่อนจะโอบรัดคอแกร่งของผู้เป็นพ่อไว้อย่างดี
“มิ๊ อ่า...ป่าหม ป๊าหอมด๊มมมมม” อินซอกซุกหน้าลงกับช่วงไหล่ของเยซองได้สักพักก็เงยหน้าเรียกเรียวอุคที่อยู่ไม่ไกลคะยั้นคะยอให้แม่มาดมกลิ่นตัวหอมๆ ของพ่อ เรียวอุคจรดจมูกลงตามที่ลูกชายบอกอย่างว่าง่ายแล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มสวยให้กับอินซอกอีกครั้ง
“จมูกดีนะเรา ตั้งใจเรียนละครับวันนี้เดี๋ยวแม่ทำบราวนี่ไว้ให้นะ” เด็กน้อยตาเป็นประกายทันทีกับคำพูดของเรียวอุคที่บอกจะทำของโปรดให้พลางตบมืออย่างชอบใจ
“วันนี้เดี๋ยวผมไปรับลูกเองนะคุณ คุณห้ามออกจากบ้านนะห้ามนะ” หลังจากที่จับเจ้าตัวเล็กเข้าไปนั่งในเบาะนั่งในท่าดีๆ ได้แล้วร่างหนาก็เดินอ้อมมาทางหน้าบ้านตรงเรียวอุคยืนอยู่
“จะให้ฉันออกไปไหนได้ล่ะ ฉันไม่ออกไปไหนหรอกน่า”
“วันนี้ท่านพ่อกับท่านแม่ไม่อยู่ผมห่วงคุณจัง คุณจะไปกับผมด้วยเลยมั้ยล่ะไปไหมๆๆ” เรียวอุคส่ายหน้าให้กับเยซองน้อยๆ กับท่าทางที่เป็นห่วงเหมือนเด็กๆ
“ฉันไม่เป็นอะไรหรอกน่า ลูกมองตาแป้วแล้วเดี๋ยวก็ไปสายกันพอดี” มือบางดันไหล่หนาให้เข้าไปในตำแหน่งของคนขับได้พักหนึ่งแต่เยซองก็ไม่ยอมปิดประตูสักที
“คุณดูแลตัวเองด้วยนะ” พูดจบเยซองก็จรดปลายจมูกลงกับแก้วเนียนอีกครั้งสูดดมให้ชื่นใจแล้วก็ผละออกมา เรียกเลือดสีแดงให้ไหลมากองกันอยู่ตรงใบหน้าเรียวได้ดี
“คิกๆ ป่ามิ๊ จุ๊บ ...จุ๊บอิอิ” อินซอกที่อยู่ในรถเห็นพ่อกับแม่หอมแก้มกันก็หัวเราะเสียงดังอย่างชอบใจ หลังจากที่รถออดี้คันหรูขับออกไปเพียงไม่นานมือบางก็ถูกยกขึ้นมาปิดหน้าที่เขินอายของตัวเอง
“มีความสุขกันจังนะคิมเรียวอุค” ร่างบางสะดุ้งกับการเรียกชื่อนามสกุลของตัวเองจากเสียงผู้หญิง พอหันไปก็เจอกับหญิงสาว ไม่ใช่สิต้องเรียกว่าแวมไพร์สาวที่ยืนพิงประตูบ้านมองทางเขาอย่างเหยียดหยาม
“ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าคุณคือใคร” ร่างบางเดินก้ามถอยหลังออกมาทีละก้าวยิ่งห่างจากผู้หญิงคนนั้นมากเท่าไหร่ยิ่งดี
“ยมบาลที่จะมาลากแกไปมั่ง หึ” ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นทันทีที่จบประโยคก่อนจะรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมีจี้อยู่ตรงท้ายทอยก่อนทุกอย่างจะวูบไป
“มิ๊ ...มิ๊มะ มิ๊ปา ป่า มิ๊หา..หาย” อินซอกที่พอลงมาจากรถปุ๊ปก็วิ่งเข้ามาในบ้านทันทีเพื่อมารอกินบราวนี่สุดโปรดที่ผู้เป็นแม่ได้บอกไว้ตอนเช้า
“คุณแม่จะหายไปไหนล่ะคะ ...เรียวอุค เรียวอุคคุณอยู่ไหนน่ะ” ร่างหนาทิ้งของที่ถือไว้ในมือลงพื้นทันทีเมื่อเห็นไฟในบ้านที่ควรจะเปิดกับมืดสนิทเหมือนไม่มีคนอยู่ เยซองวิ่งหาไปทั่วทั้งข้างบนและข้างล่างแต่ก็ไม่พบ
“อึก! มะมิ๊...ฮือออออออออ ป่าป๊ามิ๊” อินซอกมองไปรอบๆ บ้านก็ไม่เห็นแม่ของตนก็เริ่มแบะปากร้องไห้ทันที
“อินซอกครับเดี๋ยวคุณป๊าจะพาไปอยู่กับคุณอาสักพักนะ อินซอกต้องเป็นเด็กดีรู้มั้ยครับ” เยซองที่เริ่มออกอาการหงุดหงิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วยิ่งมาเห็นลูกชายสุดที่รักร้องไห้ตามหาแม่แบบนี้เขาก็ยิ่งทำอะไรไม่สะดวก
“ตะแต่มิ๊...มิ๊หา ย ฮึก~ ป๊า” ดวงตากลมโตสีนิลคที่ถอดแบบออกมาจากเรียวอุคเต็มไปด้วยน้ำตาจ้องมองเยซองอย่างน่าสงสาร ร่างหนาจูบลงเบาๆ ที่หน้าผากของอินซอกก่อนจะอุ้มขึ้นมาไว้ในช่วงอกแล้วพาขึ้นรถไป
“ผมฝากด้วยนะครับพี่เกิง ตอนนี้อินซอกยังหลับอยู่อาจจะง่ายสักหน่อยแต่ถ้าตื่นมาคงจะปวดหัวน่าดู” เยซองก้มหัวขอบคุณฮันเกิงที่มีศักดิ์เป็นพี่ชายของตนที่อาสาดูแลอินซอกให้ระหว่างที่เขาไปตามหาเรียวอุค
“อย่าห่วงเลยยังไงอินซอกก็หลานพี่ แล้วส่วนเรื่องเรียวอุคใช่ฝีมือของ....”
“ครับ เธอเป็นคนพาเรียวอุคไปเอง” หนุ่มตี๋พยักหน้าน้อยๆ อย่างเข้าใจและเอาใจช่วย
.... อดีตคู่หมั้นของเยซอง ลีมินนา ...
เพียะ!
“ก็แค่ผู้ชายแต่ทำไมเยซองถึงหลงแกขนาดนั้นห๊ะ!!”
เพียะ!
“เขาทิ้งงานหมั้นของฉันเพื่อไปอยู่กินกับแกเพราะอะไร”
เพียะ!
“ทั้งๆ ที่แกมันก็แค่มนุษย์ที่อีกหน่อยก็ต้องตายกับฉันที่จะอยู่กับเขาตลอดไปทำไมเขาถึงไม่เลือกฉัน!!”
เสียงการทำร้ายรายกายต่างๆ นาๆ ดังไปทั่วพื้นที่บริเวณกว้าง แวมไพร์สาวที่แต่งตัวดูโฉบเฉี่ยวผมสีบอร์นทองยืนคร่อมร่างบางที่นั่งอยู่บนเก้ากี้รัวฝ่ามือทั้งด้านหน้าและด้านหลังสลับกันไป
“ถุยย! เพราะเธอมันต่ำน่ะสิ ไม่น่าถาม” ปากบางอิ่มถุยน้ำลายที่ติดเลือดออกมาตรงพื้นพยายามเงยหน้ามองคนที่ทำร้ายเขาทั้งๆ ที่ตาแทบจะปิด
“ปากดีนักนะ! กลิ่นเลือดนายนี้มันหอมใช้ได้เลยทีเดียว หึ! ถ้าไม่มีนายอะไรก็คงดีขึ้นใช่ไหมเรียวอุค”
มินนาก้มลงอ้าปากงับเข้าที่คอขาวของเรียวอุคอย่างจังฝังเขี้ยวแหลมของเธอเอาไว้ในนั้นก่อนจะดูดเลือดที่อยู่ในตัวเรียวอุคออกมา ภาพความทรงจำต่างๆ มากมายในอดีตต่างไหลรวมเข้ามาในสมองของเรียวอุคอย่างฉับพลัน ภาพต่างๆ ทั้งน่าดีใจและไม่ดีใจรวมถึงภาพครอบครัวของเขา น้ำตาใสไหลออกมาจากหางตาสวยทันทีร่างกายเกร็งและกระตุกไปครั้งหนึ่งก่อนจะแน่นิ่ง...ไปพร้อมกับลมหายใจ
“ลีมินนา!!!!!” เสียงทุ้มที่ทรงพลังตะโกนดังลั่นกับภาพที่เห็นมินนาแวมไพร์ตนหนึ่งกำลังเอร็ดอร่อยกับเลือดรสหวานจากคนที่เขารัก...จากเรียวอุค
“มาพอดีเลยนะที่รัก” ลิ้นสีแดงสดแลบเลียตาเขี้ยวสวยที่โผล่ออกมาและปากสีแดงช้านของเธอช้าๆ เหมือนยั่วอารมณ์คนที่เพิ่งมาใหม่
“รสเลือดของเจ้ามนุษย์คนนี้มันหวานจริงๆ เลยนะถึงว่าล่ะนายถึงหลงใหลมันขนาดนั้น” มินนาเดินพาตัวเองมาใกล้เยซองที่ยืนนิ่งอยู่กับที่ มือเรียวลูบไล้ไปมาตามไหล่กว้างของผู้ชายที่เธอรัก
“ฉัน จะ ฆ่า เธอ!!!” สิ้นเสียงมือหนาก็จัดการรวบเข้าที่คอเรียวของมินนาหักมันเป็นชิ้นๆ จนดังกรุบกรับฝังเขี้ยวลงไปที่หัวไหล่บางนั่นแล้วออกแรงดึงกระชากจนมันขาดออกจากกันเป็นสองส่วน แต่มันเหมือนจะยังไม่พอใจกับสิ่งที่เรียวอุคได้รับ เยซองเดินพาร่างของมินนาไปที่ไม้แหลมยาวแล้วปักมันลงที่อกด้านซ้ายของเธออย่างรุนแรง
“ระ เรียวอุค” มือหนาตบเบาๆ ที่แก้มเนียนที่ตอนนี้มีแต่รอยบาดแผล จากแก้มที่มีสีระเรื่อเล็กน้อยแต่ตอนนี้มันกับซีดเซียว
“คุณ...คุณอย่าเป็นอะไรสิ” เยซองแก้มมัดที่มัดแขนและขาของเรียวอุคออกอย่างเบาๆ ทันทีที่แขนข้างหนึ่งหลุดออกมาก็ตกลงที่พื้นทันที เยซองรวบตัวของเรียวอุคที่ไร้ซึ่งลมหายใจมาไว้ในอ้อมอกแล้วเดินจากไปอย่างเงียบๆ
“พี่เยซองครับ พี่เรียวอุคตายแล้วครับผมเสียใจด้วย” หมอชิมโค้งคำนับให้เยซองหนึ่งครั้งก่อนจะเดินออกไปจากห้องทิ้งไว้เพียงร่างที่ไร้วิญญาณของเรียวอุคและเยซอง คุณนายปาร์ควิ่งเข้ามาภายในห้องทันทีเมื่อรู้ข่าวก็เห็นลูกชายของเธอนั่งกุมมือของคนรักเอาไว้อย่างเหนียวแน่นถึงแม้ว่าร่างกายที่อยู่บนเตียงจะเย็นชืดขนาดไหน
“ยะ เยซองเรียวอุคเค้าไปสบายแล้วนะ” คนเป็นแม่ที่ทนเห็นลูกชายเธอเงียบไม่ได้ตัดสินใจพูดขึ้นมา
“เพราะผมที่ดูแลเค้าไม่ดีเองครับท่านแม่ ผมรู้สึกอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเค้า” คุณนายปาร์คโผซบใบหน้าเข้ากับอกสามีทันที เธอยกมือขึ้นปิดปากและร้องไห้เงียบๆ โดยมีสามีกอดปลอบ
“มันคงต้องใช้เวลานะ...เยซอง” พ่อของเยซองมองใบหน้าหวานที่ตอนนี้ถึงไม่มีโอกาสตื่นขึ้นมาอีกแล้วเลื่อนสายตาไปมองหน้าลูกชายของตัวเอง เขารู้ดีว่าเยซองรักเรียวอุคมากแค่ไหนตลอดเวลาที่ผ่านมาที่เขาคอยเฝ้ามองมาตลอดมันทำให้เค้ามั่นใจว่าเด็กผู้ชายคนนี้คือหัวใจของเยซอง แต่ตอนนี้เมื่อหัวใจตายจากไปเป็นเขาก็คงอยู่ไม่ได้เช่นกัน
“แกต้องดูแลอินซอกอีกนะ” เจ้าบ้านปาร์คพูดดักคอเยซองขึ้นทันทีเหมือนกับรู้ใจลูกของตนว่ากำลังคิดจะทำอะไร
“ครับท่านพ่อ”
“แล้วเรื่องที่แกไปฆ่าลูกสาวลีคังนาล่ะจะเอายังไง” เหมือนจะเพิ่งนึกออกว่าลูกชายก่อวีรกรรมเอาไว้
“ผมจะจัดการเองครับ” ผู้เป็นพ่อถอนใจไว้อาลัยกับครอบครัวลีไว้ร่วงหน้ากับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้
“คดีปริศนา ...คฤหาสน์ตระกูลลีที่ปกครองโดยลีคังนาทุกคนต่างหายตัวไปกันหมดไร้วี่แววข่าวสารมายังโลกภายนอกปล่อยให้คฤหาสน์หรูเก่าแก่และรกร้าง จากสายที่เราได้ยินมามันคือการฆาตกรรมจากบุรุษผู้หนึ่งที่มีอิทธิพลกว้างขว้างแต่ก็ไร้ซึ่งหลักฐาน ทางผู้คุมกฎเองก็มิได้หาข้อเท็จจริงแต่อย่างไร...อ่านต่อหน้า12”
“ผมชดใช้ให้คุณแล้วนะเรียวอุค” ร่างหนาวางหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะอย่างใจเย็นแล้วเดินออกจากบ้านไป
โหลดได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างนะค่ะ
http://www.mediafire.com/?wzwayg5zhjk
“หม่ามิ๊คร้าบบ เสียงอะไรน่ะ?”
“ยะ เยซองอ๊าาา”
“คุณอื้มม มม มันรัดมากเลย”
“มายืนทำอะไรตรงนี้ครับอินซอก” อินซอกหันไปมองหน้าผู้เป็นย่าตามเสียงเรียก
“ผมนอนไม่หลับครับก็เลยจะมานอนกับหม่ามิ๊ แต่หม่ามิ๊ร้องเสียงอะไรก็ไม่รู้”
“เอ๋? คุณป๊ากับคุณมิ๊คงยังไม่ว่างมั่งครับอินซอก”
“แต่หม่ามิ๊ร้องอ๊าๆๆ อ้ะอ่า มันต้องมีอะไรแน่ๆ เลยครับคุณย่า”
“อินซอกอยากรู้มั้ยครับว่าคุณป๊าทำอะไรอยู่”
“อยากรู้สิครับหม่ามิ๊ร้องลั่นเลย”
“คุณป๊าของอินซอกกำลังทำน้องให้อยู่ไงครับ”
Special Part: อยากได้ยินว่ารักกัน (ไม่รวมกับ Special Part ที่ใหม่เตรียมเอาไว้นะค่ะ)
“ไหรบอกว่ารอบเดียวไง!” หลังจากที่เสร็จสิ้นภารกิจออกกำลังกายยามดึกร่วงเลยมายันเกือบเช้าเรียวอุคที่นอนพักเหนื่อยก็ถามขึ้นมาเสียงดัง
“โธ่! คุณก็ ก็รอบเดียวไงยังไม่ถอดออกมาเลยนะแช่ไว้” มือหนาคว้าเอวบางของร่างบางที่อยู่ใต้ผ้าห่มมากอดไว้แนบชิดกับแผ่นอก
“ไอ่บ้า! อะ ไอ่...” เรียวอุคก้มหน้ามุดลงหนีเข้าไปแทบจะกลืนกับหมอนด้วยความเขินอาย
“คุณผมขอถามอะไรอย่างสิ” หลังจากที่เงียบกันไปได้สักพักเสียงทุ้มก็เริ่มเปิดประเด็นกับสิ่งที่ค้างคาใจมาหลายปี
“รีบๆ พูดมาสิ จะถามอะไรล่ะ”
“ที่อยู่ด้วยกันมา ...รักผมมั่งมั้ย”
“......”
“ฮ่ะๆ ผมคงคิดว่าคุณจะชอบผมเหมือนกันล่ะมั่ง” เยซองหัวเราะออกมากับความสมเพชให้กับตัวเองก่อนจะปล่อยมือที่กอดเรียวอุคออก
“คุณรู้มั้ยผมรัก ผมหวงคุณจนแทบบ้า ผมรักคุณมากจริงๆ นะ”
“แต่คุณก็ไม่เคยรักผมเลยสินะ หึ”
“.....”
“.....”
“ทะ ทำไมถามแบบนั้นล่ะ”
“ทำไมนายไม่ลองคิดดูมั่งล่ะ ว่าที่ฉันทำไปทุกอย่างมันเพราะอะไร”
“กี่ปีมาแล้วที่เราอยู่ด้วยกันเยซอง กี่ปีมาแล้วที่ฉันยอมนาย”
“นะ นายไม่รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่มันร้องออกมาจากหัวใจฉันรึไง”
“ฉันรักนายไงไอ่หน้าแป้น!” ร่างบางพลิกตัวเข้าหาหลังแกร่งของเยซองสอดแขนเพรียวโอบกอดแผ่นหลังนั้นไว้แน่น
“ผมก็รักคุณเรียวอุค” เยซองพลิกตัวกลับเข้าหาเรียวอุคพรมจูบเบาๆ ที่หน้าผากเนียนก่อนจะไล้มาหยุดลงที่ปากบางอิ่ม ...จูบที่สื่อความหายว่ารักมากกว่าใคร จูบที่อ่อนโยนละมุนหวานเต็มไปด้วยรักจากใจ จูบที่หาไม่ได้จากที่ไหน จูบที่ในโลกนี้ไม่คิดจะให้ใครอีกแล้วนอกจากคนๆ นี้ คนที่รักมากที่สุด...คิมเรียวอุค
THE END……..
------------------------------------------------------------------ =)
ลง 24.02.10 ก็แบนปั๊ปทันทีเลย = =; อะไรมันจะเร็วปานนี้
ความคิดเห็น