คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Xx. 'Plus! + Prologue
SEVERE PLUS+
Prologue ’
เสียงอึกทึกของดนตรีบวกกับเสียงจอกแจกจอแจของผู้คนดูจะเข้ากันได้ดียิ่งนักในสถานที่แบบนี้ สถานที่ยามราตรีที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก ยิ่งในเหล่านักท่องราตรีมีสกุลรุนชาติก็ย่อมต้องคุ้นเคยกับสถานที่แบบนี้ Blue Canyon หนึ่งในบรรดาคลับไฮโซมีชื่อทั้ง 5 เป็นอย่างดี
เสียงเพลงยังคนเปิดดังสนั่นในสถานที่ที่ถูกปกคลุมด้วยความมืด มีเพียงแสงไฟสลัวๆและไฟที่มีสีสันต่างๆเปิดเพื่อให้บรรยากาศเท่านั้น คนกลุ่มหนึ่งเต้นกันไปตามจังหวะเพลงบนฟลอร์ด้านหน้าอย่างเมามัน บ้างก็นั่งชนแก้วจิบไวน์ราคาแพงกันตามเคาน์เตอร์บาร์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้ที่จะยอมลงทุนจ่ายเงินมากมายเพื่อมายังสถานที่แห่งนี้ก็ย่อมมีจุดประสงค์เดียวกัน นั่นก็เพื่อมาแสวงหาสุขก็เท่านั้น
ซึ่งฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่มายังสถานที่แห่งนี้เพื่อแสวงหาความสุขเช่นเดียวกัน
ใช่...ที่นี่คือ Blue Canyon ผับสุดหรูชื่อดังใจกลางเมือง ที่นี่จะเป็นสถานที่แรกที่ฉันนึกถึงทุกครั้งที่รู้สึกหงุดหงิด อ๋อ! ฉันลืมไป ฉันชื่อ เตกิล่า หรือว่า เตลล่า เรียนจบมาตอนนี้อายุก็ปาเข้าไป 23 แล้ว แต่ฉันเองก็ยังไม่มีงานทำที่เป็นหลักเป็นแหล่งหรอก แล้วก็ไม่ได้เห็นความจำเป็นที่จะต้องออกไปทำงานให้เหนื่อยหรือเสียเวลาเปล่าด้วย เพราะโดยลำพังฉันผลาญเงินของคุณป๋าไปวันๆแบบนี้ถึงตายเงินก็คงจะไม่หมดลงง่ายๆหรอกมั้ง คุณป๋าของฉันเป็นอธิการบดีกรมตำรวจคนปัจจุบัน ส่วนคุณม๊านั้นเป็นเจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ (หรือนายหน้าขายที่ดินนั่นแหละ เพียงแต่พูดให้มันดูไฮโซขึ้นก็เท่านั้น - -) แต่ว่าท่านเสียไปตั้งแต่ฉันยังเด็ก เหลือทิ้งไว้ก็เพียงแค่ความทรงจำกับ สมบัติ เท่านั้น -3-
“นี่แก! ดูนั่นสิ นั่นมันเตกิล่านี่นา”
- -!! แต่แล้วอารมณ์สงบๆเหมือนน้ำในบึงที่ปราศจากลมฝนของฉันก็ต้องถูกสั่นคลอนลงโดยง่าย หลังจากที่เสียงกระแทกแดกดันของหญิงสาวกลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่ห่างไปไม่มากนักลอยมากระทบหูอย่างห้ามไม่ได้
“หึ! คิดว่าตัวจริงจะสวยซักแค่ไหน ที่แท้ก็งั้นๆอ่ะนะ”
“ได้ข่าวว่าเป็นดาวมหาลัย’ ด้วยนี่ ตอนสมัยยัยนี่เรียนอยู่ ไอเราก็คิดว่าจะแน่”
“ฉันว่าพี่โจของแกเขาคิดถูกแล้วล่ะ ที่ทิ้งยัยนี่มาคบกับแกแทน คิกๆๆ”
ฉันใช้ปลายนิ้วไล้ไปบนปากแก้ววิสกี้เบาๆ บอกตามตรงว่าพวกผู้หญิงหน้าตาบ้านนอกพวกนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาฉันเลยแม้แต่นิดเดียว อันที่จริงฉันเองก็ยังสงสัยอยู่เลยว่าระบบรักษาความปลอดภัยที่นี่คงจะหละหลวมเกินไปหรือเปล่า ถึงได้ปล่อยให้พวก สวะ! ชั้นต่ำ! พวกนี้เล็ดรอดเข้ามาอยู่ในสถานที่ไฮโซแบบนี้ได้
แต่เดี๋ยวนะ...พี่โจงั้นเหรอ? ถ้าฉันจำไม่ผิด หมอนั่นเพิ่งจะโดนฉันบอกเลิกไปหยกๆเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ที่แล้ว ซึ่งหมอนั่นเองก็ถึงกับต้องร้องไห้ฟูมฟายขอร้องฉันต่างๆนานา แต่ฉันเองก็คิดไม่ถึงหรอกนะว่าหมอนั่นจะตาต่ำ!! มาพบพวกผู้หญิงไพร่!! พวกนี้ลงได้ยังไง? -*-
“ว่าไงครับ ที่รัก!”
“พี่โจขา น้องมิ้ลตี้คิดถึงพี่โจจังเลยคะ มามะ ขอหอมหน่อยนะคะที่รัก >__<”
ฉันเหลือบหางตาไปมองตามต้นเสียงเพียงนิดหน่อย ก่อนจะหันกลับมาแล้วทำท่าเบ้ปากอย่างหมั่นไส้ ความจริงแล้วนายโจนี่ก็หน้าตาดีไม่น้อย เพราะไม่อย่างนั้นฉันคงจะไม่หลวมตัวไปคบด้วยถึงแม้จะเป็นเวลาแค่ 3 วันก็เถอะ -____-
“เตลล่า”
ฉันยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยหลังจากได้ยินหมอนั่นอุทานชื่อของฉันออกมาเบาๆ คิ้วหนาขอเขาเลิกขึ้นด้วยความตกใจ ฉันรู้สึกว่าตัวเองคิดอะไรดีๆออกแล้วสิ!!
ฉันค่อยๆลุกขึ้นจากบาร์ช้าๆ ก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของพี่โจ ฉันหันไปส่งรอยยิ้มเยิ้ยหยันให้กับเหล่าชะนีปากโสมมพวกนั้นเต็มที่พร้อมกับไล้สายตามองพวกหล่อนตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตารังเกียจเดียดฉันสุดๆ ก่อนจะหันมากระชากคอเสื้อของพี่โจแล้วประกบจูบทันที!
ฉันใช้มือโอบรั้งต้นคอของเขาเอาไว้ ซึ่งหมอนั่นเองก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะปฏิเสธแต่อย่างใด ซ้ำยังจูบตอบฉันเสียอีก เขาจูบฉันหนักขึ้นเรื่อยๆพลางเลื่อนมือมาลูบไล้บริเวณส่วนเว้าส่วนโค้งบนตัวฉัน >__<
แต่ทว่า...ฉันผลักหมอนั่นออกห่างอย่างแรง จนทำให้รู้สึกได้ว่าเขามีแววตาประหลาดใจอยู่ไม่น้อย
“เนี่ยหน่ะเหรอ? พี่โจของเธอ? ก็งั้นๆอ่ะนะ ฉันเคยจูบมาแล้ว!”
“กะ...แก >__<”
“อ้อ! รู้สึกว่าเมื่อกี้เขาจูบฉันตอบด้วยสิ หรือว่า...ยังลืมกันไม่ได้อีกเหรอคะ โจ?”
“เตล!”
นายโจนั่นเอ่ยขึ้นพร้อมด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม ฉันกระตุกรอยยิ้มอย่างผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่า
“อินังนี่ ขอตบซักทีเถอะ”
ฉันโยกตัวหลบมืออันโสโครกของผู้หญิงคนนั้น อันที่จริงฉันเองก็ไม่อยากจะลดตัวไปเกลือกกลั้วกับไอ้พวกเศษสวะชั้นต่ำแบบนี้สักเท่าไหร่ เห็นทีตอนนี้จะไม่ได้เสียแล้ว เพราะดูเหมือนพวกของมันอีกสองคนจะพร้อมใจกันเข้ามาผสมโรงด้วย
เพี๊ยะ!!!
เสียงฝ่ามือของใครสักคนกระทบโดนแก้มขาวๆของฉันอย่างแรง อาการชาเริ่มแผดซ่านไปทั่วทั้งใบหน้า ก่อนที่ฉันจะยกมือขึ้นมาปาดเลือดที่ไหลซิบอยู่บริเวณมุมปาก
“ฉันไม่สนหรอกนะว่าเธอจะดีมาจากไหน? แต่ถ้าคิดจะมายุ่งกับพี่โจของฉัน มันก็ต้องเจอแบบนี้”
“- -!!”
แล้วอย่ามาหาว่าฉันแรงก็แล้วกัน!! ฉันย่างสามขุมเข้าไปประชิดตัวผู้หญิงคนนั้นก่อนจะใช้ปลายเล็บจิกหัวของหล่อนอย่างแรง แล้วกระชากมากดลงในอ่างคอกเทลที่อยู่บริเวณใกล้ๆ
อึกๆๆๆ
ซ่า!!!
“แค่กๆๆ ธะ..เธอ แฮกๆ”
เสียงหอบหายอย่างแรงที่ผสมปนเปไปกับเสียงไอที่เกิดจากการสำลักน้ำทำให้หล่อนดูน่าสมเพศไม่น้อย ฉันควรจะสงสารหล่อนไหมนะ?
“ฉันเองก็ไม่ได้อยากจะลดตัวลงไปเกลือกกลั้วกับชนชั้นต่ำ! อย่างพวกหล่อนให้มันเสียเวลานักหรอกนะ หึ”
ฉันก้มลงไปกระซิบข้างหูของยัยนั่นเบาๆ ในขณะที่มือก็ยังคงจิกหนังหัวของหล่อนแน่นตามเดิม
“โอ๊ยยยยยย!!”
แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ลงมือยัยนั่นเป็นครั้งที่สอง เพื่อนของมันก็เข้ามาล็อคตัวฉันเอาไว้อย่างพร้อมเพรียง หึ! 3รุม1งั้นเหรอ? หมาหมู่ชัดๆนี่หว่า...
“จัดการมันเลย มิ้ล”
“แน่นอนอยู่แล้ว!!”
ผู้หญิงคนที่เพิ่งจะโดนฉันจับกดน้ำ (ความจริงมันเป็นคอกเทลอ่ะนะ - -) ราคาแพงลุกขึ้นมายืนอีกครั้ง หล่อนใช้มือปาดน้ำมูกน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะอาการสำลักน้ำ ใบหน้าของหล่อนดูโทรมลงถนัดตาเพราะอายส์ไลเนอร์ (ราคาถูก) ที่โดนน้ำจนทำให้ไหลย้อยเป็นทางเลอะเทอะไปทั่วไปหน้า
“กลัวสามีเขาจะทิ้งเธอมาหาฉันงั้นสิ ถึงต้องหวงซะขนาดนั้น”
ฉันว่าด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน ก่อนจะอาศัยจังหวะที่หล่อนกำลังเดือดปุดๆเหมือนน้ำที่ถูกต้มด้วยไฟแรงสูง กระโดดถีบหน้าของหล่อนไปทันที สร้างรอยรองเท้าส้นสูงชาเนลรุ่นใหม่ล่าสุดบนใบหน้าของหล่อนเพื่อเป็นที่ระลึก
“มิ้ล!!! เป็นยังไงบ้าง?!!”
ดูท่าทางจะตกใจมากสินะ! ตกใจจนปล่อยมือออกจากแขนฉันได้อย่างง่ายดาย ฉันศอกหน้าท้องของผู้หญิงคนหนึ่งจนตัวงอ ก่อนที่จะหมุนตัวไปฟาดหน้าเพื่อนมันอีกคนอย่างแรง ซึ่งฟังจากเสียงแล้วคงไม่ได้แผลแค่ฟกช้ำดำเขียวแน่นอน อาจจะถึงกับกรามหักเลยด้วยซ้ำ
ฉันใช้มือจิกหัวยัยนั่นทั้งคู่แล้วกระชากไปกดลงในอ่างคอกเทลแบบเดียวกับที่ทำกับเพื่อนของมัน มือของพวกหล่อนพยายามตะเกียดตะกายเอาตัวรอดด้วยการกวัดแกว่งไปรอบตัว ซึ่งดูแล้วก็ตลกดีนะ
ซ่า!!!
“โคล่กๆๆ แฮกๆ แค่กๆๆๆๆ”
ฉันกระชากหัวทั้งคู่ขึ้นมาจากอ่างคอกเทล ก่อนจะออกแรงผลักให้ไปนอนกองรวมกับเพื่อนมันอีกคนที่ดูท่าทางจะมีปัญหากับตาจนทำให้ต้องเอามือกุมไว้ตลอด เสียงหอบหายใจดังออกมาผสมกับเสียงสะอื้นเป็นระยะๆ คิดจะเล่นกับคนอย่างเตกิล่า มันก็ต้องเจอแบบนี้แหละนะ >___<
“แล้วไม่ต้องคิดจะไปแจ้งตำรวจล่ะ ข้อหาทำร้ายร่างกาย ทะเลาะวิวาท หรืออะไรมันก็ไม่มีผลบังคับใช้สำหรับฉันทั้งนั้น เพราะพ่อฉัน เป็นอธิการบดีกรมตำรวจ หึหึ แล้วก็จะบอกให้เอาบุญไว้นะ ไอ้กระเป๋า หลุยวิตตอง ของปลอมที่ถือเดินเฉิดฉายอยู่นั่นน่ะ กลัวคนอื่นเขาจะไม่รู้หรือไง?”
ว่าจบฉันก็คว้ากระเป๋าแอร์เมสใบโปรด ไอโฟน รวมถึงกุญแจเปอร์เช่มาถือไว้ แล้วเดินกระแทกส้นรองเท้าออกไปจากตรงนั้นทันที ซึ่งไล้หลังมาด้วยเสียงกรีดร้องด้วยความเคียดแค้นของพวกผู้หญิงพวกนั้น ฉันใช้มือเสยผมยุ่งๆของตัวเอง ก่อนจะเลื่อนมาจัดชุดเดรสดอลเช่แอนด์แก๊บบาน่าสีดำให้เข้าที่เข้าทาง ให้ตายสิ! หลังจากตรวจสอบตัวเองสักพักฉันก็พบว่า สร้อยข้อมือบลูแกรี่ของฉันหายไป คาดว่าคงทำขาดตอนกำลังมีเรื่องอยู่กับพวกนั้น โอ๊ยย! พวกนั้นจะรู้ไหมว่าสร้อยข้อมือเส้นนั้นมันแพงแค่ไหน T^T
ปึก!!
เสียงประตูรถถูกกระแทกอย่างแรง ซึ่งบ่งบอกได้ถึงอารมณ์ของผู้เป็นเจ้าของ ฉันโยนแอร์เมสใบเก่งไปไว้ที่เบาะข้างคนขับ ก่อนจะหยิบไอโฟนขึ้นมากดเบอร์เพื่อโทรออกหาใครสักคน
Calling
‘Lee’
“ครับ! คุณหนู?”
“ลี~ T^T”
“มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“ฉันมีเรื่องอีกแล้วน่ะสิ เดี๋ยวมาเคลียร์เรื่องค่าใช้จ่ายที่บลูแคนยอนให้ด้วยนะ -3-”
“อีกแล้วเหรอครับ? คุณหนูรู้ไหมครับว่าคุณท่าน...”
“เออๆ ฉันรู้แล้วว่าคุณป๋าเป็นห่วง เลิกบ่นมากสักทีจะได้ไหม? รำคาญ!”
“คุณหนู!”
“ฉันสั่งให้ทำอะไรก็ทำๆไปเถอะ แค่นี้นะฉันมีธุระ”
ฉันกดตัดสายทันทีอย่างไม่คิดจะเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายเอ่ยคัดค้าน ก่อนจะโยนไอโฟนไปรวมไว้กับกระเป๋าที่เบาะข้าง ลีเป็นพ่อบ้านของบ้านฉันเองล่ะ ใครๆก็มักจะเรียกเขาว่าพ่อบ้านลีบ้างล่ะ คุณลุงบ้างล่ะ แต่อันที่จริงแล้วฉันก็ไม่เห็นว่าเขาจะแก่ขนาดเป็นลุงตรงไหน เพราะดูจากหน้าตาก็น่าจะอายุสักประมาณ 40กว่าๆ หรือไม่อย่างมากก็ 50 แต่ผิดกับฉันที่มักจะเรียกลีเฉยๆ เพราะฉันไม่ค่อยถนัดเรียกคำหน้าชื่อใครสักเท่าไหร่ อันที่จริงแล้วลีก็เป็นคนใจดีนะ เพียงแต่ชอบบ่นมาก แถมยังมากขึ้นเรื่อยๆราวกับจะแปรผันตามอายุที่มากขึ้นทุกวันๆเช่นกัน ซึ่งมันก็ช่วยไม่ได้นะที่ฉันจะรำคาญ
ฉันเหยียบคันเร่งก่อนจะที่รถจะพุ่งทะยานไปบนท้องถนนด้วยความเร็วสูง แต่วันนี้ฉันเลือกที่จะกลับไปที่บ้านแทนที่กลับไปคอนโดของตัวเองเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา ก็รู้นะว่าสภาพแบบนี้กลับไปต้องโดนด่าแน่นอน แต่จะให้ทำไงได้? ก็บัตรเครดิตฉันมันรูดจนครบวงเงินหมดแล้วนี่! T^T
ไม่ถึง 20 นาที เปอร์เช่สีเหลืองอร่ามก็ถูกจอดเทียบลงหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ ที่แสนจะคุ้นตา ถึงแม้จะไม่ได้มาสักพักใหญ่ๆแต่ก็ไม่รู้สึกว่าที่นี่จะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะคนที่นี่ ก็ยังคงหน้าเบื่อเหมือนเดิมไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยสักนิด
“สวัสดีครับคุณหนู วันนี้จะมาค้างที่บ้านเหรอครับ?”
“อือ!”
ฉันตอบสั้นๆพร้อมกับโยนกระเป๋าและกุญแจรถให้ลูกน้องคนหนึ่งของคุณป๋า ก่อนจะเดินเฉิดฉายเข้าไปด้านในอย่างไม่คิดที่จะสนใจอะไรทั้งนั้น ฉันเดินกระแทกส้นรองเท้าแรงๆขึ้นบันไดอย่างคนอารมณ์ไม่ปรกติ ก่อนที่จะต้องตวัดหน้ากลับมาอีกครั้งหลังจากที่เสียงหนึ่งทักขึ้น
“เตกิล่า”
“คุณป๋า!! =[]=”
“ไง? คราวนี้อะไรอีกล่ะ?”
“...”
“มีเรื่องขึ้นโรงพัก หรือว่าเงินไม่พอใช้? ถึงได้แจ้นกลับบ้านมาได้แบบนี้”
คุณป๋าพูดด้วยน้ำเสียงเนิบๆ เรื่อยๆ พร้อมกับถอดสูทตัวนอกออกแล้วส่งให้ลูกน้องที่รอรับอยู่ด้านข้าง ก่อนจะหันไปพยักพเยิดกับหมอนั่นเชิงว่าให้ไปรอที่ห้องรับแขกเดี๋ยวจะตามไปคุย
“คุณป๋าบัตรเครดิตเตลมันครบวงเงิน แล้วทำไมคุณป๋าไม่โอนเงินเข้าบันชีให้เตล?”
“แกใช้เงินมากเกินไป ฉันก็เลยต้องควบคุมการใช้เงินของแกหน่อย”
“คุณป๋า!!”
“ฉันผิดหวังในตัวแกมากนะเตกิล่า เมื่อไหร่แกจะโตเป็นผู้ใหญ่ จะคิดได้สักที เห็นทีฉันคงต้องใช้มาตรการเข้มงวดดัดนิสัยแกเสียหน่อยแล้วเตกิล่า แกคิดหรือว่าต่อไปฉันตายไปแล้วแกจะอยู่ยังไง?”
“โอ๊ยย น่าเบื่อๆๆจริงๆ ทำไมที่นี่มีแต่คนน่าเบื่อแบบนี้นะ!!”
“แม่แกที่อยู่บนสวรรค์เขาคงเสียใจมากที่แกทำตัวแบบนี้”
คุณป๋าพูดจบก็เดินเข้าไปในห้องรับรองแขกทันที คิดว่าคงเข้าไปคุยธุระกับลูกน้องคนนั้น ทิ้งฉันให้กระทืบเท้าอยู่คนเดียวอย่างหัวเสีย ทำไมมันถึงน่าเบื่อแบบนี้นะ? แม้แต่คุณป๋าก็ยังไม่เข้าใจฉันเลย
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย!!”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!
ฉันใช้หางตามองไปยังประตู ซึ่งมีคนใช้คนหนึ่งถืออะไรสักอย่างเข้ามาด้านใน
“มีอะไร?”
“คือ...คุณท่านให้หนูเอายาพวกนี้มาทำแผลให้คุณหนูหน่ะค่ะ”
“ไม่ต้อง!”
“แต่ว่าคุณท่าน...”
“ฉันบอกว่าไม่ต้องก็ไม่ต้องไง พูดภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง? ห๊ะ”
“...”
“ยืนเซ่ออยู่ได้ ออกไปเซ่ ไป๊!!”
“ถ้าอยากจะอาละวาดนักก็ออกไปอาละวาดข้างนอก เตกิล่า บ้านฉันไม่ใช่ที่ที่แกจะมาทำอะไรตามใจชอบได้แบบนี้”
“คุณป๋า!! ไล่เตลงั้นเหรอ?”
“แล้วแต่แกจะคิด”
สิ้นเสียงคุณป๋าฉันก็รู้สึกว่าดวงตาของตัวเองกำลังร้อนผ่าว เหมือนมีก้อนอะไรสักอย่างจุกอยู่ในลำคอ ฉันกลืนน้ำลายลงคอด้วยหวังจะกลืนความรู้สึกเหล่านั้นลงไปด้วยเช่นกัน ก่อนจะเดินไปคว้าเอากระเป๋ากับกุญแจรถแล้วเดินออกไปจากบ้านทันที
“พรุ่งนี้บ่ายสองมาเจอฉันด้วย ฉันมีเรื่องอยากจะบอกแก”
Let's talk about 'SEVERE'
สวัสดีค้ะ -A- พินอท นอร์ ขอรายงานตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง!
อยากบอกว่าพึ่งกลับจากเข้าค่าย กลับมาก็เปิดคอมแล้วปั่นนิยายเลย :')
หลังจากวางโปรแกรมมานานแสนนาน ได้อัพสักที ><" แอ๊ๆ
อิมเมจ เตลล่า น่ารักป่าววว? วิ้วววว -OO-"
ใครรู้จักชื่อเธอผู้นี้ พลีส เทลมี ด้วยนะคะ กระซิกก T3T
คือเจอรูปมาโดยบังเอิญ แล้วก็มีรูปเดียวด้วย แงๆ
ใครรู้ก็ช่วยบอกติ๊ดตี่ด้วยเน้อ จะได้ไปหารูปมาลงให้ดูกัน ><
Talk .
เพลงตอนนี้แบบว่าชอบมากค่ะ ! >__<"
คือชอบเพลงของวงนี้เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว แบบว่ากรี๊ดมาก
เตกิล่าจะแรงไปไหนน๊าา ? อิอิ ^^
อย่าพึ่งเบื่อ อย่าพึ่งเอือมผู้หญิงนิสัยแย่ๆคนนี้ก่อนเน้อ !
เพราะมันแค่ เริ่มต้น ก๊าซซซซซ >[]<
รักรีดเดอร์ทุรคนค้าา ม๊วฟฟฟฟฟ >3<
ความคิดเห็น