ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Xx. Severe 'Plus+ _,แรงยกกำลัง 2 ! .xX ( Teguila & Zens )

    ลำดับตอนที่ #2 : Xx. 'Plus! + Prologue ’

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 54






    SEVERE PLUS+

    Prologue ’

     

                ~¯

                เสียงอึกทึกของดนตรีบวกกับเสียงจอกแจกจอแจของผู้คนดูจะเข้ากันได้ดียิ่งนักในสถานที่แบบนี้ สถานที่ยามราตรีที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก ยิ่งในเหล่านักท่องราตรีมีสกุลรุนชาติก็ย่อมต้องคุ้นเคยกับสถานที่แบบนี้ Blue Canyon หนึ่งในบรรดาคลับไฮโซมีชื่อทั้ง 5 เป็นอย่างดี

                เสียงเพลงยังคนเปิดดังสนั่นในสถานที่ที่ถูกปกคลุมด้วยความมืด มีเพียงแสงไฟสลัวๆและไฟที่มีสีสันต่างๆเปิดเพื่อให้บรรยากาศเท่านั้น คนกลุ่มหนึ่งเต้นกันไปตามจังหวะเพลงบนฟลอร์ด้านหน้าอย่างเมามัน บ้างก็นั่งชนแก้วจิบไวน์ราคาแพงกันตามเคาน์เตอร์บาร์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้ที่จะยอมลงทุนจ่ายเงินมากมายเพื่อมายังสถานที่แห่งนี้ก็ย่อมมีจุดประสงค์เดียวกัน นั่นก็เพื่อมาแสวงหาสุขก็เท่านั้น

    ซึ่งฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่มายังสถานที่แห่งนี้เพื่อแสวงหาความสุขเช่นเดียวกัน

    ใช่...ที่นี่คือ Blue Canyon ผับสุดหรูชื่อดังใจกลางเมือง ที่นี่จะเป็นสถานที่แรกที่ฉันนึกถึงทุกครั้งที่รู้สึกหงุดหงิด อ๋อ! ฉันลืมไป ฉันชื่อ เตกิล่า หรือว่า เตลล่า เรียนจบมาตอนนี้อายุก็ปาเข้าไป 23 แล้ว แต่ฉันเองก็ยังไม่มีงานทำที่เป็นหลักเป็นแหล่งหรอก แล้วก็ไม่ได้เห็นความจำเป็นที่จะต้องออกไปทำงานให้เหนื่อยหรือเสียเวลาเปล่าด้วย เพราะโดยลำพังฉันผลาญเงินของคุณป๋าไปวันๆแบบนี้ถึงตายเงินก็คงจะไม่หมดลงง่ายๆหรอกมั้ง คุณป๋าของฉันเป็นอธิการบดีกรมตำรวจคนปัจจุบัน ส่วนคุณม๊านั้นเป็นเจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ (หรือนายหน้าขายที่ดินนั่นแหละ เพียงแต่พูดให้มันดูไฮโซขึ้นก็เท่านั้น - -) แต่ว่าท่านเสียไปตั้งแต่ฉันยังเด็ก เหลือทิ้งไว้ก็เพียงแค่ความทรงจำกับ สมบัติ เท่านั้น -3-

    “นี่แก! ดูนั่นสิ นั่นมันเตกิล่านี่นา”

    - -!! แต่แล้วอารมณ์สงบๆเหมือนน้ำในบึงที่ปราศจากลมฝนของฉันก็ต้องถูกสั่นคลอนลงโดยง่าย หลังจากที่เสียงกระแทกแดกดันของหญิงสาวกลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่ห่างไปไม่มากนักลอยมากระทบหูอย่างห้ามไม่ได้

    “หึ! คิดว่าตัวจริงจะสวยซักแค่ไหน ที่แท้ก็งั้นๆอ่ะนะ”

    “ได้ข่าวว่าเป็นดาวมหาลัยด้วยนี่ ตอนสมัยยัยนี่เรียนอยู่ ไอเราก็คิดว่าจะแน่”

    “ฉันว่าพี่โจของแกเขาคิดถูกแล้วล่ะ ที่ทิ้งยัยนี่มาคบกับแกแทน คิกๆๆ”

    ฉันใช้ปลายนิ้วไล้ไปบนปากแก้ววิสกี้เบาๆ บอกตามตรงว่าพวกผู้หญิงหน้าตาบ้านนอกพวกนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาฉันเลยแม้แต่นิดเดียว อันที่จริงฉันเองก็ยังสงสัยอยู่เลยว่าระบบรักษาความปลอดภัยที่นี่คงจะหละหลวมเกินไปหรือเปล่า ถึงได้ปล่อยให้พวก สวะ! ชั้นต่ำ! พวกนี้เล็ดรอดเข้ามาอยู่ในสถานที่ไฮโซแบบนี้ได้

    แต่เดี๋ยวนะ...พี่โจงั้นเหรอ? ถ้าฉันจำไม่ผิด หมอนั่นเพิ่งจะโดนฉันบอกเลิกไปหยกๆเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ที่แล้ว ซึ่งหมอนั่นเองก็ถึงกับต้องร้องไห้ฟูมฟายขอร้องฉันต่างๆนานา แต่ฉันเองก็คิดไม่ถึงหรอกนะว่าหมอนั่นจะตาต่ำ!! มาพบพวกผู้หญิงไพร่!! พวกนี้ลงได้ยังไง? -*-

    “ว่าไงครับ ที่รัก!

    “พี่โจขา น้องมิ้ลตี้คิดถึงพี่โจจังเลยคะ มามะ ขอหอมหน่อยนะคะที่รัก >__<

    ฉันเหลือบหางตาไปมองตามต้นเสียงเพียงนิดหน่อย ก่อนจะหันกลับมาแล้วทำท่าเบ้ปากอย่างหมั่นไส้ ความจริงแล้วนายโจนี่ก็หน้าตาดีไม่น้อย เพราะไม่อย่างนั้นฉันคงจะไม่หลวมตัวไปคบด้วยถึงแม้จะเป็นเวลาแค่ 3 วันก็เถอะ -____-

    “เตลล่า”

    ฉันยกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยหลังจากได้ยินหมอนั่นอุทานชื่อของฉันออกมาเบาๆ คิ้วหนาขอเขาเลิกขึ้นด้วยความตกใจ ฉันรู้สึกว่าตัวเองคิดอะไรดีๆออกแล้วสิ!!

    ฉันค่อยๆลุกขึ้นจากบาร์ช้าๆ ก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของพี่โจ ฉันหันไปส่งรอยยิ้มเยิ้ยหยันให้กับเหล่าชะนีปากโสมมพวกนั้นเต็มที่พร้อมกับไล้สายตามองพวกหล่อนตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตารังเกียจเดียดฉันสุดๆ ก่อนจะหันมากระชากคอเสื้อของพี่โจแล้วประกบจูบทันที!

    ฉันใช้มือโอบรั้งต้นคอของเขาเอาไว้ ซึ่งหมอนั่นเองก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะปฏิเสธแต่อย่างใด ซ้ำยังจูบตอบฉันเสียอีก เขาจูบฉันหนักขึ้นเรื่อยๆพลางเลื่อนมือมาลูบไล้บริเวณส่วนเว้าส่วนโค้งบนตัวฉัน >__<

    แต่ทว่า...ฉันผลักหมอนั่นออกห่างอย่างแรง จนทำให้รู้สึกได้ว่าเขามีแววตาประหลาดใจอยู่ไม่น้อย

    “เนี่ยหน่ะเหรอ? พี่โจของเธอ? ก็งั้นๆอ่ะนะ ฉันเคยจูบมาแล้ว!

    “กะ...แก >__<

    “อ้อ! รู้สึกว่าเมื่อกี้เขาจูบฉันตอบด้วยสิ หรือว่า...ยังลืมกันไม่ได้อีกเหรอคะ โจ?”

    “เตล!

    นายโจนั่นเอ่ยขึ้นพร้อมด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม ฉันกระตุกรอยยิ้มอย่างผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่า

    “อินังนี่ ขอตบซักทีเถอะ”

    ฉันโยกตัวหลบมืออันโสโครกของผู้หญิงคนนั้น อันที่จริงฉันเองก็ไม่อยากจะลดตัวไปเกลือกกลั้วกับไอ้พวกเศษสวะชั้นต่ำแบบนี้สักเท่าไหร่ เห็นทีตอนนี้จะไม่ได้เสียแล้ว เพราะดูเหมือนพวกของมันอีกสองคนจะพร้อมใจกันเข้ามาผสมโรงด้วย

    เพี๊ยะ!!!

    เสียงฝ่ามือของใครสักคนกระทบโดนแก้มขาวๆของฉันอย่างแรง อาการชาเริ่มแผดซ่านไปทั่วทั้งใบหน้า ก่อนที่ฉันจะยกมือขึ้นมาปาดเลือดที่ไหลซิบอยู่บริเวณมุมปาก

     

    ฉันตวัดหางตาหงุดหงิดไปทางผู้หญิงหน้าตาละม้ายคล้ายตุ๊กแกเกาะฝาห้องน้ำสังกะสี ที่บังอาจเอามืออันสุดแสนจะสกปรกมาแตะเนื้อต้องตัวฉัน

    “ฉันไม่สนหรอกนะว่าเธอจะดีมาจากไหน? แต่ถ้าคิดจะมายุ่งกับพี่โจของฉัน มันก็ต้องเจอแบบนี้”

    - -!!

    แล้วอย่ามาหาว่าฉันแรงก็แล้วกัน!! ฉันย่างสามขุมเข้าไปประชิดตัวผู้หญิงคนนั้นก่อนจะใช้ปลายเล็บจิกหัวของหล่อนอย่างแรง แล้วกระชากมากดลงในอ่างคอกเทลที่อยู่บริเวณใกล้ๆ

    อึกๆๆๆ

    ซ่า!!!

    “แค่กๆๆ ธะ..เธอ แฮกๆ”

    เสียงหอบหายอย่างแรงที่ผสมปนเปไปกับเสียงไอที่เกิดจากการสำลักน้ำทำให้หล่อนดูน่าสมเพศไม่น้อย ฉันควรจะสงสารหล่อนไหมนะ?

    “ฉันเองก็ไม่ได้อยากจะลดตัวลงไปเกลือกกลั้วกับชนชั้นต่ำ! อย่างพวกหล่อนให้มันเสียเวลานักหรอกนะ หึ”

                ฉันก้มลงไปกระซิบข้างหูของยัยนั่นเบาๆ ในขณะที่มือก็ยังคงจิกหนังหัวของหล่อนแน่นตามเดิม

    “โอ๊ยยยยยย!!

    แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ลงมือยัยนั่นเป็นครั้งที่สอง เพื่อนของมันก็เข้ามาล็อคตัวฉันเอาไว้อย่างพร้อมเพรียง หึ! 3รุม1งั้นเหรอ? หมาหมู่ชัดๆนี่หว่า...

    “จัดการมันเลย มิ้ล”

    “แน่นอนอยู่แล้ว!!

    ผู้หญิงคนที่เพิ่งจะโดนฉันจับกดน้ำ (ความจริงมันเป็นคอกเทลอ่ะนะ - -) ราคาแพงลุกขึ้นมายืนอีกครั้ง หล่อนใช้มือปาดน้ำมูกน้ำตาที่ไหลออกมาเพราะอาการสำลักน้ำ ใบหน้าของหล่อนดูโทรมลงถนัดตาเพราะอายส์ไลเนอร์ (ราคาถูก) ที่โดนน้ำจนทำให้ไหลย้อยเป็นทางเลอะเทอะไปทั่วไปหน้า

    “กลัวสามีเขาจะทิ้งเธอมาหาฉันงั้นสิ ถึงต้องหวงซะขนาดนั้น”

    ฉันว่าด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน ก่อนจะอาศัยจังหวะที่หล่อนกำลังเดือดปุดๆเหมือนน้ำที่ถูกต้มด้วยไฟแรงสูง กระโดดถีบหน้าของหล่อนไปทันที สร้างรอยรองเท้าส้นสูงชาเนลรุ่นใหม่ล่าสุดบนใบหน้าของหล่อนเพื่อเป็นที่ระลึก

    “มิ้ล!!! เป็นยังไงบ้าง?!!

    ดูท่าทางจะตกใจมากสินะ! ตกใจจนปล่อยมือออกจากแขนฉันได้อย่างง่ายดาย ฉันศอกหน้าท้องของผู้หญิงคนหนึ่งจนตัวงอ ก่อนที่จะหมุนตัวไปฟาดหน้าเพื่อนมันอีกคนอย่างแรง ซึ่งฟังจากเสียงแล้วคงไม่ได้แผลแค่ฟกช้ำดำเขียวแน่นอน อาจจะถึงกับกรามหักเลยด้วยซ้ำ

    ฉันใช้มือจิกหัวยัยนั่นทั้งคู่แล้วกระชากไปกดลงในอ่างคอกเทลแบบเดียวกับที่ทำกับเพื่อนของมัน มือของพวกหล่อนพยายามตะเกียดตะกายเอาตัวรอดด้วยการกวัดแกว่งไปรอบตัว ซึ่งดูแล้วก็ตลกดีนะ

    ซ่า!!!

    “โคล่กๆๆ แฮกๆ แค่กๆๆๆๆ”

    ฉันกระชากหัวทั้งคู่ขึ้นมาจากอ่างคอกเทล ก่อนจะออกแรงผลักให้ไปนอนกองรวมกับเพื่อนมันอีกคนที่ดูท่าทางจะมีปัญหากับตาจนทำให้ต้องเอามือกุมไว้ตลอด เสียงหอบหายใจดังออกมาผสมกับเสียงสะอื้นเป็นระยะๆ คิดจะเล่นกับคนอย่างเตกิล่า มันก็ต้องเจอแบบนี้แหละนะ >___<

    “แล้วไม่ต้องคิดจะไปแจ้งตำรวจล่ะ ข้อหาทำร้ายร่างกาย ทะเลาะวิวาท หรืออะไรมันก็ไม่มีผลบังคับใช้สำหรับฉันทั้งนั้น เพราะพ่อฉัน เป็นอธิการบดีกรมตำรวจ หึหึ แล้วก็จะบอกให้เอาบุญไว้นะ ไอ้กระเป๋า หลุยวิตตอง ของปลอมที่ถือเดินเฉิดฉายอยู่นั่นน่ะ กลัวคนอื่นเขาจะไม่รู้หรือไง?”

    ว่าจบฉันก็คว้ากระเป๋าแอร์เมสใบโปรด ไอโฟน รวมถึงกุญแจเปอร์เช่มาถือไว้ แล้วเดินกระแทกส้นรองเท้าออกไปจากตรงนั้นทันที ซึ่งไล้หลังมาด้วยเสียงกรีดร้องด้วยความเคียดแค้นของพวกผู้หญิงพวกนั้น ฉันใช้มือเสยผมยุ่งๆของตัวเอง ก่อนจะเลื่อนมาจัดชุดเดรสดอลเช่แอนด์แก๊บบาน่าสีดำให้เข้าที่เข้าทาง ให้ตายสิ! หลังจากตรวจสอบตัวเองสักพักฉันก็พบว่า สร้อยข้อมือบลูแกรี่ของฉันหายไป คาดว่าคงทำขาดตอนกำลังมีเรื่องอยู่กับพวกนั้น โอ๊ยย! พวกนั้นจะรู้ไหมว่าสร้อยข้อมือเส้นนั้นมันแพงแค่ไหน T^T

     

    ปึก!!

    เสียงประตูรถถูกกระแทกอย่างแรง ซึ่งบ่งบอกได้ถึงอารมณ์ของผู้เป็นเจ้าของ ฉันโยนแอร์เมสใบเก่งไปไว้ที่เบาะข้างคนขับ ก่อนจะหยิบไอโฟนขึ้นมากดเบอร์เพื่อโทรออกหาใครสักคน

    Calling … ‘Lee’

    “ครับ! คุณหนู?”

    “ลี~ T^T

    “มีอะไรหรือเปล่าครับ?”

    “ฉันมีเรื่องอีกแล้วน่ะสิ เดี๋ยวมาเคลียร์เรื่องค่าใช้จ่ายที่บลูแคนยอนให้ด้วยนะ -3-

    “อีกแล้วเหรอครับ? คุณหนูรู้ไหมครับว่าคุณท่าน...”

    “เออๆ ฉันรู้แล้วว่าคุณป๋าเป็นห่วง เลิกบ่นมากสักทีจะได้ไหม? รำคาญ!

    “คุณหนู!

    “ฉันสั่งให้ทำอะไรก็ทำๆไปเถอะ แค่นี้นะฉันมีธุระ”

    ฉันกดตัดสายทันทีอย่างไม่คิดจะเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายเอ่ยคัดค้าน ก่อนจะโยนไอโฟนไปรวมไว้กับกระเป๋าที่เบาะข้าง ลีเป็นพ่อบ้านของบ้านฉันเองล่ะ ใครๆก็มักจะเรียกเขาว่าพ่อบ้านลีบ้างล่ะ คุณลุงบ้างล่ะ แต่อันที่จริงแล้วฉันก็ไม่เห็นว่าเขาจะแก่ขนาดเป็นลุงตรงไหน เพราะดูจากหน้าตาก็น่าจะอายุสักประมาณ 40กว่าๆ หรือไม่อย่างมากก็ 50 แต่ผิดกับฉันที่มักจะเรียกลีเฉยๆ เพราะฉันไม่ค่อยถนัดเรียกคำหน้าชื่อใครสักเท่าไหร่ อันที่จริงแล้วลีก็เป็นคนใจดีนะ เพียงแต่ชอบบ่นมาก แถมยังมากขึ้นเรื่อยๆราวกับจะแปรผันตามอายุที่มากขึ้นทุกวันๆเช่นกัน ซึ่งมันก็ช่วยไม่ได้นะที่ฉันจะรำคาญ

    ฉันเหยียบคันเร่งก่อนจะที่รถจะพุ่งทะยานไปบนท้องถนนด้วยความเร็วสูง แต่วันนี้ฉันเลือกที่จะกลับไปที่บ้านแทนที่กลับไปคอนโดของตัวเองเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา ก็รู้นะว่าสภาพแบบนี้กลับไปต้องโดนด่าแน่นอน แต่จะให้ทำไงได้? ก็บัตรเครดิตฉันมันรูดจนครบวงเงินหมดแล้วนี่! T^T

    ไม่ถึง 20 นาที เปอร์เช่สีเหลืองอร่ามก็ถูกจอดเทียบลงหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ ที่แสนจะคุ้นตา ถึงแม้จะไม่ได้มาสักพักใหญ่ๆแต่ก็ไม่รู้สึกว่าที่นี่จะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะคนที่นี่ ก็ยังคงหน้าเบื่อเหมือนเดิมไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยสักนิด

    “สวัสดีครับคุณหนู วันนี้จะมาค้างที่บ้านเหรอครับ?”

    “อือ!

    ฉันตอบสั้นๆพร้อมกับโยนกระเป๋าและกุญแจรถให้ลูกน้องคนหนึ่งของคุณป๋า ก่อนจะเดินเฉิดฉายเข้าไปด้านในอย่างไม่คิดที่จะสนใจอะไรทั้งนั้น ฉันเดินกระแทกส้นรองเท้าแรงๆขึ้นบันไดอย่างคนอารมณ์ไม่ปรกติ ก่อนที่จะต้องตวัดหน้ากลับมาอีกครั้งหลังจากที่เสียงหนึ่งทักขึ้น

    “เตกิล่า”

    “คุณป๋า!! =[]=

    “ไง? คราวนี้อะไรอีกล่ะ?”

    “...”

    “มีเรื่องขึ้นโรงพัก หรือว่าเงินไม่พอใช้? ถึงได้แจ้นกลับบ้านมาได้แบบนี้”

    คุณป๋าพูดด้วยน้ำเสียงเนิบๆ เรื่อยๆ พร้อมกับถอดสูทตัวนอกออกแล้วส่งให้ลูกน้องที่รอรับอยู่ด้านข้าง ก่อนจะหันไปพยักพเยิดกับหมอนั่นเชิงว่าให้ไปรอที่ห้องรับแขกเดี๋ยวจะตามไปคุย

     “คุณป๋าบัตรเครดิตเตลมันครบวงเงิน แล้วทำไมคุณป๋าไม่โอนเงินเข้าบันชีให้เตล?”

    “แกใช้เงินมากเกินไป ฉันก็เลยต้องควบคุมการใช้เงินของแกหน่อย”

    “คุณป๋า!!

    “ฉันผิดหวังในตัวแกมากนะเตกิล่า เมื่อไหร่แกจะโตเป็นผู้ใหญ่ จะคิดได้สักที เห็นทีฉันคงต้องใช้มาตรการเข้มงวดดัดนิสัยแกเสียหน่อยแล้วเตกิล่า แกคิดหรือว่าต่อไปฉันตายไปแล้วแกจะอยู่ยังไง?”

    “โอ๊ยย น่าเบื่อๆๆจริงๆ ทำไมที่นี่มีแต่คนน่าเบื่อแบบนี้นะ!!

    “แม่แกที่อยู่บนสวรรค์เขาคงเสียใจมากที่แกทำตัวแบบนี้”

    คุณป๋าพูดจบก็เดินเข้าไปในห้องรับรองแขกทันที คิดว่าคงเข้าไปคุยธุระกับลูกน้องคนนั้น ทิ้งฉันให้กระทืบเท้าอยู่คนเดียวอย่างหัวเสีย ทำไมมันถึงน่าเบื่อแบบนี้นะ? แม้แต่คุณป๋าก็ยังไม่เข้าใจฉันเลย

    “นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย!!

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!

    ฉันใช้หางตามองไปยังประตู ซึ่งมีคนใช้คนหนึ่งถืออะไรสักอย่างเข้ามาด้านใน

    “มีอะไร?”

    “คือ...คุณท่านให้หนูเอายาพวกนี้มาทำแผลให้คุณหนูหน่ะค่ะ”

    “ไม่ต้อง!

    “แต่ว่าคุณท่าน...”

    “ฉันบอกว่าไม่ต้องก็ไม่ต้องไง พูดภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง? ห๊ะ”

    “...”

    “ยืนเซ่ออยู่ได้ ออกไปเซ่ ไป๊!!

    “ถ้าอยากจะอาละวาดนักก็ออกไปอาละวาดข้างนอก เตกิล่า บ้านฉันไม่ใช่ที่ที่แกจะมาทำอะไรตามใจชอบได้แบบนี้”

    “คุณป๋า!! ไล่เตลงั้นเหรอ?”

    “แล้วแต่แกจะคิด”

    สิ้นเสียงคุณป๋าฉันก็รู้สึกว่าดวงตาของตัวเองกำลังร้อนผ่าว เหมือนมีก้อนอะไรสักอย่างจุกอยู่ในลำคอ ฉันกลืนน้ำลายลงคอด้วยหวังจะกลืนความรู้สึกเหล่านั้นลงไปด้วยเช่นกัน ก่อนจะเดินไปคว้าเอากระเป๋ากับกุญแจรถแล้วเดินออกไปจากบ้านทันที

    “พรุ่งนี้บ่ายสองมาเจอฉันด้วย ฉันมีเรื่องอยากจะบอกแก”


      

    Let's talk about 'SEVERE'
    สวัสดีค้ะ -A- พินอท นอร์ ขอรายงานตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง!
    อยากบอกว่าพึ่งกลับจากเข้าค่าย กลับมาก็เปิดคอมแล้วปั่นนิยายเลย :')
    หลังจากวางโปรแกรมมานานแสนนาน ได้อัพสักที ><" แอ๊ๆ

    อิมเมจ เตลล่า น่ารักป่าววว? วิ้วววว -OO-"
    ใครรู้จักชื่อเธอผู้นี้ พลีส เทลมี ด้วยนะคะ กระซิกก T3T
    คือเจอรูปมาโดยบังเอิญ แล้วก็มีรูปเดียวด้วย แงๆ
    ใครรู้ก็ช่วยบอกติ๊ดตี่ด้วยเน้อ จะได้ไปหารูปมาลงให้ดูกัน ><


    Talk .
    เพลงตอนนี้แบบว่าชอบมากค่ะ ! >__<"
    คือชอบเพลงของวงนี้เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว แบบว่ากรี๊ดมาก

    เตกิล่าจะแรงไปไหนน๊าา ? อิอิ ^^
    อย่าพึ่งเบื่อ อย่าพึ่งเอือมผู้หญิงนิสัยแย่ๆคนนี้ก่อนเน้อ !
    เพราะมันแค่ เริ่มต้น ก๊าซซซซซ >[]<

    รักรีดเดอร์ทุรคนค้าา ม๊วฟฟฟฟฟ >3<

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×