คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เฮิร์ต๑
เฮิร์ต...
เจ็บ...
ฟันคมขบมาไม่เบาเลยที่ยอดอกเปลือยเปล่า ไร้สิ้นเรี่ยวแรงจะขัดขืนเมื่อคนใจร้ายตรึงแขนทั้งสองไว้เหนือหัว ขายาวกดทับสองขาไม่ให้ขยับเขยื้อน คยูฮยอนไร้หนทางต่อสู้ ไร้หนทางปิดกั้น ทำได้เพียงมองดูผ่านม่านน้ำตา...มองดูใบหน้าพี่ชายพี่เคยแสนดี
“พี่เหมือนพ่อผมจังพี่ยองอุน”คำที่จู่ๆเพื่อนของน้องเอ่ยมาทำให้ต้องเลิกคิ้ว รู้จักกับคยูฮยอนมาตั้งแต่รยออุกยังอยู่มัธยมต้น คยูฮยอนมักชื่นชมเขาอยู่เรื่อย ยอนู่นยอนี่สารพัดจนคิมยองอุนจะกลายเป็นคนหลงตัวเองเข้าไปทุกวัน แต่วันนี้มาแปลก!
“พี่จะไปเหมือนพ่อนายได้ยังไงไอ้เด็กดื้อ”ยกมือใหญ่ผลักหัวทุยไปทีพร้อมรอยยิ้ม พลันรยออุกที่วิ่งลงมาจากอาคารเรียนก็ส่งเสียงทักมาแต่ชั้นสองทำให้สองพี่น้องต้องผละออกจากกัน ยองอุนรี่เข้าไปรับกระเป๋าใบแฟ่บของน้องชายมาถือไว้ ก็อย่างว่า...ถ้ารยออุกเรียนเก่งเท่าคยูฮยอน กระเป๋าของรยออุกคงใบโตกว่านี้
เสื้อผ้าบนร่างกายถูกปลดเปลื้องออกด้วยมือร้อนผ่าวปะป่ายไปทั่ว ดึงรั้งกระชากทึ้งผืนผ้าไม่ปราณีจนขาดวิ่น คยูฮยอนกระตุกร่างซ้ำแล้วซ้ำอีกด้วยแรงดึง น้ำตายังคงไหลมาไม่ขาด
ใช่ว่าเพราะเจ็บ...แต่เพราะเสียใจ
อยากจะถามเหตุผลที่ต้องทำร้ายกันขนาดนี้ก็กลัวเหลือเกินว่าพี่ชายจะตอกหน้ากลับมาว่ารู้ดีอยู่แก่ใจ
คยูฮยอนหรือรู้...คยูฮยอนไม่รู้สักนิด
ไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมห้องอย่างเยซองทำอะไรลงไป
ไม่รู้ว่ารยออุกเจ็บขนาดไหนที่ต้องโดนขืนใจ
ไม่รู้ว่าตนเองเป็นสาเหตุที่รยออุกต้องถูกทรมาณ...
คยูฮยอนไม่รู้...
ร่างทั้งร่างปราศจากอาภร หากมีห่มคงเป็นรอยแดงจากการบีบเค้นเนื้อหนัง กดแรงเต็มหนักยังให้เนื้อนุ่มขาวนวลชอกช้ำ
ยองอุนกระชากไทออกพาดเข้ากับสองข้อมือที่ตรึงไว้ ผูกแน่นเข้ากับร่องบนหัวเตียง ได้ยินเสียงอึก หลุดจากลำคอขาวเวลาดึงแรงๆ ข้อมือขาวชอกช้ำแดงก่ำน่ากลัว...แต่ก็ดูยังไม่สมกับที่น้องชายของเขาได้รับมาก่อนหน้า
...ยังไม่เท่ารยออุกสักนิด...
วาดนิ้วทั้งห้ากำรอบลำคอขาว กดน้ำหนักลงกับหลอดลมให้อีกคนต้องดีดดิ้นด้วยความทรมานกับการไร้ลมหายใจ
Rrrrrrrr
เสียงสบถด้วยความไม่พอใจเมื่อสายเรียกเข้าเป็นของเลขาส่วนตัว เสียงดังด้วยจริตของหล่อนดูตื่นและรน พลันเสียงกรีดร้องของน้องชายกลับแทรกเข้ามา คิมยองอุนกดปิดโทรศัพท์แล้วปล่อยร่างชอกช้ำให้เป็นอิสระจากการกดทับ แม้สองมือจะยังถูกพันธนาการอยู่ ทั้งที่ร่างกายยังคงเปลือยเปล่า
“แล้วฉันจะกลับมาลงโทษนายทีหลัง...นอนหนาวให้สบายใจไปก่อนนะ...น้องคยูฮยอน”กดรีโมทคอนโทรลปรับระดับเครื่องปรับอากาศให้ต่ำลงจนเกือบจะเป็นศูนย์องศา ก่อนจะเดินออกจากห้องนอนไป ยังไม่วายสั่งผ่านสายตาว่าอย่าคิดหนี
คยูฮยอนได้แต่ตัดพ้อเพียงในใจ...หากเขาคิดหนี แล้วจะหนีพ้นอย่างนั้นหรือ
มือใหญ่ผลักบานประตูไม้เข้าไป ใช้เวลาลงจากชั้นเมื่อครู่แค่ห้านาทีก็ทำให้อีกคนที่จะมาหาอาละวาดพังข้าวของยับไปหลายชิ้น มองดูเศษแจกันใบสวยกับตู้ปลาทองขนาดเล็กแตกกระจายบนพื้นพรม ร่างเล็กคุดคู้อยู่ไม่ห่างกัน สายตาไร้ความหมายจับจ้องปลาตัวเล็กกระเสือกกระสนอยากมีชีวิต ไม่มีความเมตตาที่เหลือในสายตา มองดูมันขาดใจตายด้วยสายตาว่างเปล่า...
“รยออุก”เหมือนจะรู้สึกตัวจากภวังค์ เด็กหนุ่มลุกขึ้นนั่งจ้องบุคคลมาใหม่แล้วถลาเข้าไปกอดไว้แน่น
“พี่...พี่ชาย”ยองอุนสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่หน้าอก ตรงที่น้องซุกหน้าเข้าหา มือหนาจับไหล่น้องออกมาห่าง มองใบหน้าน่ารักเปื้อนคราบน้ำตา ฟันซี่โตบดขยี้กันด้วยความคับแค้นใจ
โกรธมาก...ใครก็ตามที่ทำให้น้องของเขาเป็นแบบนี้ อยากจะฆ่าให้ตาย อยากจะบีบคอคนระยำพรรค์นั้นให้ไร้ลมหายใจไปในกำมือ
...อยากจะมองมันอ้อนวอนขอร้องทั้งที่เจ็บปวดทรมาน
ให้เหมือนกับที่รยออุกร้องขอขณะที่ไอ้คนหยาบยังกระแทกกายใส่ไม่เหลียวแล
“พี่อยู่ตรงนี้นะ”กดจูบกับหน้าผากเนียน บางเบาทว่าอบอุ่น หวังว่าไออุ่นจากพี่จะถูกส่งไปให้ถึงน้อง ให้น้องรู้ว่ามีพี่ที่อยู่ตรงนี้ มีพี่ที่จะเอาคืนแทนน้องให้สาสม
ยังมีพี่อยู่...
“พี่...อยู่กับผมที”เสียงพร่าสั่นด้วยความหวาดกลัว ความเจ็บปวดทางร่างกายดูดีขึ้นจนจะเป็นปรกติ ทว่าจิตใจที่บอบสลายยังคงแหลกลาน ไม่สามารถสานประกอบขึ้นเป็นรูปร่างได้ดังเดิม
“ผมเจ็บ!!”ยองอุนรู้...รู้ว่าน้องเจ็บ หากเลือกกำหนดชีวิตได้ อยากที่จะเอาความเจ็บของรยออุกมาลงที่ตัวเอง
เจ็บกว่าที่เห็นน้องเจ็บ...เจ็บมากกว่า
“พี่รู้...พี่กำลังทำให้มันรู้เช่นกัน รู้ว่าน้องเจ็บแค่ไหน อดทนนะคนดีของพี่ รอดู...อีกไม่นาน...คนที่มันทำรยออุกของพี่เจ็บ มันต้องเจ็บยิ่งกว่า”เสียงทุ้มหนักแน่น ยกยิ้มมุมปากเมื่อนึกถึงคนที่คงจะนอนหนาวสั่นอยู่บนเตียง
“ผมไปคุยกับพ่อว่าพี่เหมือนเขาเปี๊ยบเลย”เด็กหนุ่มบอก ยิ้มกว้างโชว์ฟันซี่สวยเรียงเป็นระเบียบ ยองอุนยกตะเกียบเคาะหัวน้องไปทีอย่างหมั่นไส้
“บอกด้วยหรือเปล่าล่ะว่าพี่อ้วนเหมือนหมีน่ะ หือม์”ล้อด้วยใบหน้าทะเล้นแต่คำพูดของพี่เพื่อนทำให้คยูฮยอนต้อนขว้างค้นขวับไปที่รยออุกซึ่งกำลังกินข้าวของตัวเองอยู่โดยไม่สนใจใครทั้งสิ้น ทว่าเหมือนจะรับรู้ถึงรังสีอำมหิตของเพื่อนรัก ใบหน้าน่ารักจึงเงยจากชามข้าวมาส่งยิ้มแหยให้อีกคน
“ฉันเปล่าบอกพี่เขาน้า”เชื่อก็บ้าแล้วคิมรยออุกเอ้ย!
“ก็เปล่าว่าอะไรเสียหน่อย”เสียงหัวเราะหลุดจากริมฝีปากของเพื่อนรัก รยออุกหัวเราะทำให้ยองอุนหัวเราะตาม แล้วก็เป็นคยูฮยอนที่หัวเราะตามยองอุนอีกคน
ทั้งที่เรื่องมันไม่ได้น่าขำสักนิด...เพียงเห็นรอยยิ้มแล้วเสียงหัวเราะของพี่ชายเพื่อนก็พาเอามีความสุข
เห็นยองอุนหัวเราะ...คยูฮยอนก็แต่อยากจะหัวเราะตาม
ก็เท่านั้น...
คนที่นอนอยูบนเตียงกว้างเบียดกายเข้าหากันเพราะความหนาวจับใจ เครื่องปรับอากาศยังคงทำหน้าที่ของมันเป็นอย่างดี ดีเสียจนคยูฮยอนอยากจะให้มันพังไปเสียตอนนี้ ถ้ามันจะช่วยให้เขาอุ่นร่างกายขึ้นได้บ้าง มองเลยไปเห็นรูปถ่ายคู่ของคนที่ออกไปไม่นานกับน้องชายในสายเลือดแล้วจึงรู้ว่าเป็นห้องส่วนตัวของพี่เขา ในรูปพี่ชายคนเก่ายังส่งยิ้มหวานให้กับกล้อง ข้างกันยังเป็นรยออุกยิ้มกว้างโชว์ฟันขาว มือของพี่ยังโอบที่ไหล่บอบบางของน้อง เพื่อปกป้องจากทุกสิ่งที่จะทำร้ายน้อง...
เช่นเดียวกับตอนนี้ที่คิมยองอุนยังคงปกป้องน้องอยู่...งั้นหรือ
สิ่งที่เรียกมันไม่ใช่ปกป้องหากแต่เป็นแก้แค้นต่างหาก!!!
ข้อมือกระตุกแรงๆหวังว่าจะหลุดจากพันธนาการหนาแน่นซึ่งคังอินเป็นคนก่อ หากยิ่งดิ้นรนก็ยิ้งรั้งปมให้แน่นขึ้น กลับเป็นข้อมือตนเองที่แดงก่ำช้ำเลือด น้ำตายังไม่หยุดไหลแต่กลับเพิ่มขึ้น ไหลมากขึ้นเรื่อยๆ
ทำไมต้องทำแบบนี้ ทำไมต้องทำร้ายกันขนาดนี้...
คยูฮยอนผิดมากหรือไง ที่รยออุกเป็นแบบนั้นเพราะความผิดของคยูฮยอนงั้นหรือ
...คยูฮยอนเป็นคนสั่งให้คิมจองอุนข่มขืนรยออุกงั้นหรือ...
เปล่า!!!
แล้วคยูฮยอน...ผิดอะไร
คิมยองอุนสาวเท้าเร็วๆออกจากลิฟต์ผู้บริหาร แทบจะรอคอยการแก้แค้นแทนน้องชายไม่ไหว อยากจะรีบไปดูคนที่นอนหนาวว่าตายหรือยัง
ห่วงหรือ?...เปล่า!
ก็แค่ความใคร่จะรู้เพียงเท่านั้น...จริงๆ
มือหนาผลักบานประตูห้องนอนเข้าไป ร่างเปลือยเปล่ายังคงอยู่บนเตียงในสภาพเดิมก่อนเขาจะออกไป ติดที่ว่าเปลือกตาบางคลุมสนิทดวงตาคู่สวยสีนิล ยองอุนก้มหน้าลงให้ประชิดกับใบหน้าติดหวาน มองแพขนตาชุ่มด้วยน้ำ พลันภาพเก่าวันที่เคยมีเวลาดีๆร่วมกันกลับวาบเข้ามาในความคิด
รอยยิ้มอย่างจริงใจที่น้องมีให้เสมอมาตั้งแต่รู้จักกัน คล้ายกับว่ามันหายไปเมื่อเกิดเหตุการณ์ของรยออุกขึ้น
หึ!ก็ดีแล้วที่มันหายไป เพราะรอยยิ้มมันหมายถึงความสุข...คนอย่างโจคยูฮยอนสะกดคำว่าความสุขไม่เป็นนับจากนี้ไปอยู่แล้ว แต่ยังไงรอยยิ้มนั้นก็ยังวนเวียนอยู่ในหัว สลัดไปไม่ออก แม้ว่าภาพตรงหน้าจะเป็นน้ำตา ทว่าภาพที่แย้งในหัวกลับเป็นรอยยิ้ม
ชายหนุ่มสะบัดหัวไล่ความคิดที่ตีพันกันยุ่ง หลับตาลบภาพรอยยิ้มให้หายไปก่อนลืมตามาพบกับใบหน้าเปื้อนน้ำตา...นี่ต่างหากคือสิ่งที่เขาต้องการ...น้ำตาของโจคยูฮยอน
เพราะถ้าหากรอยยิ้มคือความสุข...น้ำตาคงเป็นความทุกข์ความเจ็บปวด
“ร้องไห้ทำไมกัน หือม์”ถามคนที่ร้องไห้เงียบเชียบ มือใหญ่ลูบเส้นผมละเอียดนิ่มแผ่วเบาเป็นการปลอบอีกทาง
คยูฮยอนหลบมาร้องไห้คนเดียวที่หลังโรงเรียน นี่ถ้ารยออุกไม่บอกว่าทั้งวันคยูฮยอนหลบหน้าตัวเองเขาก็คงไม่ตะขิดตะขวงใจ ถามเพื่อนร่วมห้องก็ได้รู้ว่าเทอมนี้เกรดของคยูฮยอนตกมาถึงหนึ่งจุด เหตุนี้คงทำให้น้องเสียใจและแอบมาร้องไห้คนเดียว
มือใหญ่อบอุ่นที่วางบนหัวแล้วลูบปลอบทำให้ความอ่อนไหวในจิตใจล้นทะลัก คยูฮยอนยิ่งร้องหนักมากขึ้นอีก
“ก็แค่เกรดตกเท่านั้นเอง”เสียงทุ้มเอ่ย หวังจะคลายความคิดมากและเสียใจให้กับน้อง
คยูฮยอนหันกลับมามองพี่ชายตัวโต เอ่ยเสียงพร่า
“แม่ผมเขาหวังกับผมมาก...แต่ผมก็ทำให้เขาผิดหวัง”ตาสวยหลุบมองพื้นหญ้า ปล่อยให้น้ำตาไหล ยองอุนดึงตัวน้องเข้าอ้อมกอด โยกเด็กตัวโตเบาๆเหมือนปลอบเด็กน้อยที่ร้องไห้ ทว่าไซส์ต่างกันมากในความจริง
“หยุดร้องเถอะคนดี...แม่ของคยูต้องเข้าใจอยู่แล้ว บทเรียนเทอมนี้ยากจะตาย”
“...”
“ถ้าอยากให้แม่ภูมิใจ...คยูล้มแล้ว ก็ต้องลุกขึ้นมาสู้ใหม่สิ พยายามให้มากกว่าเดิมให้แม่รู้ว่าคยูฮยอนอยากให้ท่านภูมิใจ”
“...”
“อย่าร้องเลยนะ...พี่ไม่อยากเห็นน้ำตาของนายเลย”
Rrrrrrr
เสียงเรียกเข้าที่ดังฉุดสติของยองอุนกลับมา มือที่จะเอื้อเกลี่ยปอยผมสีดำสนิทชะงักงัน สบถในลำคอจ้องเบอร์แปลกด้วยความชั่งใจ
สุดท้ายปลายนิ้วก็กดรับสาย เสียงหอบหายใจดังมาตามสาย ไม่มีเสียงพูดใดๆหากแต่เสียงลมหายใจยังต่อเนื่อง ร่างสูงยกยิ้มเล็กน้อยเมื่อคาดเดาเอาเองได้ว่าปลายสายเป็นใคร เสียงหัวเราะเบาๆดังลอดลำคอออกมา หัวเราะราวเย้ยหยันเต็มที่
“ว่ายังวะ คิมจองอุน”เอ่ยทักเสียงยินดีต่างกับปลายสายที่คงเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันน่าดู ไม่นานนักเสียงแหบพร่าตะกุกตะกักจึงตอบกลับมา
“ย...อย่าทำ...คยูฮยอน”ชายหนุ่มหัวเราะเหอะ นึกสภาพคนที่คงสะบักสบอมไปทั้งตัว
“ยังมีหน้ามาขอร้องอีกหรือไงวะ...ทีมึงทำน้องกู น้องกูขอร้อง...มีฟังเขาไหมไอ้ห่าราก!!!”คำหยาบตวาดใส่ปลายสาย ได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆตามมาทำให้ยองอุนยกยิ้มหยัน สะใจเล็กน้อยกับความคิดที่ว่าน้ำตาคงจะอาบแก้มไอ้ชาติชั่วที่มันข่มขืนน้องเขา
หากถามว่าทำไมคิมจองอุนถึงมีสภาพเป็นอย่างนั้น...
คิดหรือว่าเขาลงโทษเพียงคยูฮยอน...
หากคยูฮยอนเป็นต้นเหตุ...ปลายเหตุก็คือคิมจองอุน...แล้วจะปล่อยให้มันอยู่ดีสบายใจทั้งที่ทำให้ชีวิตของคนๆหนึ่งต้องเหลวแหลกไม่มีชิ้นดีงั้นหรือ...
ใจดีเกินไปสำหรับความแค้นใจของคิมยองอุนกระมัง
“จะทำอะไรฉันก็ได้...คยูฮยอนไม่เกี่ยว”เสียงแหบพร่าดังมาอีกครั้ง คราวนี้ยองอุนกดสายทิ้ง โยนเครื่องมือสื่อสารทิ้งไว้ที่ที่นอน มองดูคนที่หลับตาพริ้มอยู่ในห้วงฝัน
หากตอนนี้เป็นฝันที่ดีของคนตัวเล็ก...เขาก็อยากจะมีน้ำใจปล่อยให้ฝันต่อ
แต่ก็แค่อยาก...
ซ่า...
แทบจะทันทีที่คยูฮยอนลืมตาโพลงเมื่อน้ำเย็นจัดถูกสาดลงบนร่างกาย อุณหภูมิจากเครื่องปรับอากาศยังเท่าเดิมกับที่ยังไม่ผล็อยหลับไปทำให้ต้องห่อไหล่เล็กเข้าหากัน แล้วยิ่งร่างกายเปียงโชกด้วยน้ำเย็นก็ยิ่งแล้วใหญ่ ส่งผลให้ร่างกายชาดิกจนขยับแทบไม่ได้
นัยน์ตากลมช้อนมองคนที่ยังถือถังน้ำคามือเป็นหลักฐาน แววตาตัดพ้อต่อว่าถุกส่งไปให้แต่คนตัวโตก็ยังไม่สะทกสะท้าน
“ให้มาใช้กรรมไม่ใช่มานอนสบายนะครับคุณน้อง”เขาว่าเย้า เดินเอาถังน้ำไปเก็บในห้องน้ำส่วนตัวภายในห้อง แต่ก็ไม่ลืมหยิบผ้าเช็ดตัวที่แขวนในนั้นออกมาโยนใส่หน้าคยูฮยอน
“เช็ดซะสิ”เขาพูด คยูฮยอนมองผ้าที่ถูกโยนมา ส่งสายตากลับไปว่าข้อมือถูกตรึงไว้กับหัวเตียงเช่นนี้จะเช็ดได้อย่างไร ชายหนุ่มยกยิ้มเย็นพยักหน้าด้วยความเข้าใจ
“เช็ดเองไม่ได้งั้นสิ...อาฮะ ฉันจะยอมลดตัวลงไปเช็ดหน้าตาเนื้อตัวให้คนอย่างนายสักครั้งก็ได้นะโจวคยูฮยอน...ถือเป็นการลดตัวเพื่อทดลองแล้วกัน...”ชายหนุ่มเว้นวรรค ก่อนจะเอ่ยคำพูดที่ทำให้คยูฮยอนตัวชากว่าเก่า
“ก่อนที่จะลงสนามจริง ใช้ร่างกายสัมผัสนายอย่างลึกซึ้ง”
มือหนาคว้าผ้านุ่มกดแรงๆไปตามเนื้อตัวเปียกชื้น เสียดสีเนื้อหนังจนแสบแดงเป็นรอยปื้นใหญ่ เมื่อด้านหน้าแห้งดีแล้วจึงจับพลิกคว่ำไม่เบามือส่งผลให้คางเล็กกระแทกพื้นเตียงแข็งจังๆ แรงเช็ดยังไม่เบาไปกว่าเดิมซ้ำยังแรงมากขึ้น
คยูฮยอนพยายามเงยหน้ามองสิ่งที่เกิดขึ้นพลันทั้งตัวก็ถูกพลิกหงายอีกครั้งก่อนที่ผ้าชื้นๆจะถูกโยนใส่หน้าเหมือนเดิม
“มันก็รู้สึกขยะแขยงนะ แต่ว่าถ้าถึงตอนนั้นจริงๆ...”เขาหยุดคำพูด นิ้วเรียวยาวไล้ไปตามโครงหน้าได้รูปแล้วเชิดหน้าของคยูฮยอนให้หงายขึ้น
“มันคงไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่นอกจากอาการ อยาก”คยูฮยอนสะบัดหน้าออก จ้องปี่ใบหน้าคม ในดวงตาเอ่อล้นด้วยความไม่เข้าใจ ให้ถามตัวเองกี่ครั้งว่าตัวเองทำผิดอะไรก็ยังหาคำตอบไม่ได้เสียที...
หรือผิดมากที่เขาเป็นเหตุให้จองอุนทำร้ายรยออุค...
คงผิดมากเลยที่คนไม่รู้อะไรอย่างเขาต้องมาใช้กรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อ...
คยูฮยอนไม่ได้สั่งให้จองอุนทำ
คยูฮยอนไม่ได้สั่ง...ไม่เกี่ยวข้อง...แล้วทำไม...
ทำไมต้องทำร้ายคยูฮยอน...
50 percent------------------------------------------------
“มองหน้าฉันเหมือนจะถามอะไรเลยนะ”เขาเยาะ เห็นสายตาวาบวาวถูกส่งมาให้ ไม่ใช่สายตาอาฆาตแค้นแต่มันผสมปนเปไปด้วยความไม่เข้าใจ คำถาม...และความน้อยใจ
หึ!ก็แน่อยู่แล้ว คิมยองอุนต้องการให้โจวคยูฮยอนรู้สึกอย่างนั้น อยากให้ข้องใจจนคับอกตายกับคำถามว่า ‘ทำไม’
“ทำไม...ต้องทำอย่างนี้”เสียงหวานทว่าแหบแห้งถามมา สายตาคู่นั้นยังวาบวาวเช่นเดิม ลุกแก้วสีดำสนิทกลิ้งกรอกในน้ำหล่อเลี้ยงส่งประกายวับวาย ดูน่าสงสารและอยากจะทะนุถนอมไว้
สายตามองจับจ้องที่ลูกตาใส มือหนาที่อยู่ภายใต้คำสั่งของจิตใจเลื่อนไปคล้ายจะจับกลุ่มผมนิ่มนั้นลุบเบาๆ ปลอบน้องเมื่อน้องร้องไห้เหมือนวันวาน ฉับพลันความรู้สึกที่แท้จริงก็กลับมา ชายหนุ่มกระชากศรีษะเล็กแรงๆจนใบหน้าหวานเหเบ้ด้วยความเจ็บปวด มือทั้งสองข้างกระตุกอย่างแรงแต่ก็ทำได้แค่ขยับยุกยิกใต้พันธนาการแน่นหนา
สีหน้าเหี้ยมเกรียมปรากฏบนใบหน้าที่เคยอบอุ่นเหมือนคนที่เรียกว่าบิดา เสียงหัวเราะต่ำลอดออกจากลำคอยองอุน
“หึ! คิดจะปั่นหัวฉันหรือไงคยูฮยอน...นายจะเอาน้ำตามาล่อฉันหรือไง คิดว่าฉันเห็นนายร้องไห้แล้วจะอ่อนให้งั้นหรือ”เขากระชากแรงขึ้นอีก คยูฮยอนหวีดเสียงเบาๆเมื่อรู้สึกเจ็บจนทนจะไม่ไหว รากผมของเขาคงจะขาดในไม่ช้าถ้าผู้ชายตรงหน้ายังดึงผมของเขาแบบนี้
“หึ!”ชายหนุ่มสบถในลำคอ ทิ้งศรีษะคนเคยเป้นน้องลงแรงๆจะกระแทกเข้ากับหมอนนุ่ม
“ถ้าอยากรู้ว่าทำไมก็ทบทวนการกระทำของนายที่เคยทำไว้กับรยออุก...น้องของฉันดูสิ”คยูฮยอนนิ่ง ชายหนุ่มยกเรื่องนี้มาอีกแล้ว...ต้องบอกกี่ครั้งกี่หนว่าเขาไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น
“อย่ามาปฎิเสธ...นายเองก้รู้แก่ใจว่าทำไมน้องฉันถึงต้องโดนแบบนั้น”
วันนั้นเขายังจำได้ว่าพี่ยองอุนพูดอย่างนี้ใส่หน้า ต่อให้จะปฎิเสธเท่าไหร่ก็ตาม ร่างสูงไม่ฟังคำอธิบายใดๆ...คงคิดแต่เพียงว่าเขาเป็นตัวต้นเหตุให้รยออุกถูกข่มขืน
...ก็เพราะว่ายังไงก็เชื่อว่าคยูฮยอนผิดงั้นสิ...นี่น่ะเหรอ คำตอบของคำถามที่ว่า’ทำไม’ที่ถามตัวเองทุกวัน
“ทบทวนให้ดีล่ะคยูฮยอน การกระทำชั่วๆของนายกับไอ้สารเลวจองอุนที่ทำไว้กับน้องชายฉันน่ะ...นึกได้เมื่อไหร่ โทษของนายอาจจะลดลงก็ได้”
ปัง!!
เสียงผิดประตูตามเสียงของร่างสูง ยองอุนออกไปแล้ว ทิ้งให้คยูฮยอนจมปลักกับความคิด
เขา...กับจองอุนงั้นเหรอ
เขากับจองอุนเป็นเพื่อนกันก็จริง จองอุนทำท่าทีว่าสนใจเขามากก็จริง...แต่เราสองคนไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ไม่ได้สนิทกันจนจะสมรู้ร่วมคิดมาทำร้ายเพื่อนรักที่รักกันมานาน
...จะอธิบายงั้นเหรอ...แล้วพี่เขาจะฟังหรือเปล่า ฟังทีสิครับว่าผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย...
นึกเพลินๆ พลันเสียงเพลงเศร้ากลับดังขึ้น คยูฮยอนเบิกตากว้างมองหาที่มาของเสียงั้นก่อนพบกับโทรศัพท์เครื่องบางที่ยองอุนโยนทิ้งไว้บนเตียง หน้าจดแสดงไฟกะพริบบอกว่ามีคนโทรเข้ามา ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอไม่อาจรู้ได้ว่าเป็นใคร มาจากไหน รู้จักกับยองอุนสนิทไหม...แต่ชื่อนี้เป็นทางเลือกเดียวที่คยูฮยอนมี
‘ชเวซีวอน’
60 percent----------------------------------------------------------------------------------------------
ร่างสูงที่ปิดประตูโครมแล้วเดินฉับไปนั่งตรงโซฟายกมือกุมขมับแน่น เห็นใบหน้าขาวใสเอ่อคลอด้วยน้ำตาเมื่อครู่ทำให้เขวไปมาก มากจนเกือบจะยกมือปลอบไป เกือบจะแสดงออกว่าในบางส่วนของจิตใจก็ยังนึกเป็นห่วงอยู่ลึกๆ แต่พอสติกลับมา มือก็กลับกระชากผมดำสนิทนั่นเสียมั่นมือ ปากขยับพูดเสียดสีไปทั้งที่ใจยังสั่นไหวกับการเผลอไผลของตัวเอง
ถ้าหากว่าเป็นอย่างนี้อีก...เขาคงใจอ่อนกับคยูฮยอน
ไม่ได้!!! คนที่ทำให้น้องของเขาต้องกลายเป็นแบบนั้น มันสมควรกับโทษหนักๆ หนักจนเจ็บ แล้วเจ็บนั้น...ต้องเจ็บจนร้องไม่ออก
ต้องอยากตายแต่ตายไม่ได้!!
ร่างสูงลุกพรวดจากโซฟา ตรงดิ่งไปยังประตูห้องนอนของตนเอง มือหนาผลักบานประตูที่ปิดไม่สนิทเพราะกระเด้งกลับจากแรงกระแทก พลันเสียงพูดคุยกลับแว่วเข้ามาในประสาทการได้ยิน
“ช่วยผมด้วย...ฮึก! ช่วยผมที คุณเป็นใครก็ตาม...ช่วยผม”
เส้นความโกรธถูกกระชากโดยมือที่มองไม่เห็นจนขาดผึง ผลักบานประตูกระแทกผนังเต็มแรง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำเอามือสั่นระริก
เขาผิดเองที่ลืมโทรศัพท์ไว้ที่ที่นอน
แววตาตื่นตระหนกของคนที่ยังถูกมัดมือไว้ที่เหนือหัว คยูฮยอนกดรับโทรศัพท์ได้อย่างไรตอนนี้ยองอุนไม่สนใจ สนเพียงปลายสายที่คุยด้วยเพียงเท่านั้น ร่างหนากัดฟันกรอด มือกำแน่นจนเจ็บ ก้าวขาไวๆไปคว้าเอาเครื่องมือสื่อสารเครื่องเล็กมาไว้ในมือ
ร่างโปร่งบางเขยิบหนีทันทีที่ยองอุนฉวยเอาโทรศัพท์ไป ริมฝีปากสั่นระริกเมื่อมองเข้าไปในดวงตาคู่ที่เคยอ่อนโยนกำลังลุกท่วมด้วยไฟโมหะ
“ไอ้ซีวอนเหรอ”เสียงทุ้มเอ่ยออกมา คยูฮยอนกลืนน้ำลายที่เอ่อขังในโพรงปากลงคอไป ดวงตาคลอน้ำอุ่นๆตลอดเพราะความหวาดกลัว
“ผ...ผม...ผม อ๊ะ”ยังไม่ทันจะแก้ตัวว่าอะไร มือที่ถือโทรศัพท์ข้างนั้นก็ตบมาเต็มแรงที่ซีกหน้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จึงกระแทกเอาจังๆที่โหนกแก้มสวย คยูฮยอนรู้สึกปวดหน่วงที่แก้ม ใบหน้าหันไปตามแรงปะทะ รสเค็มปร่าของเลือดซึมในโพรงปาก
“สำหรับที่นายมายุ่งกับของของฉัน”น้ำเสียงทุ้มนุ่มทว่าเหี้ยมเกรียมนัก คยูฮยอนหัวเราะเล็กน้อย แค่นหัวเราะสมเพชออกมา สมเพชตัวเองนักที่ทำอะไรไม่ได้
ความผิดที่ไม่ได้ก่อแต่กลับต้องมารับผลที่แสนจะน่าเจ็บปวด ซ้ำยังไม่สามารถปกป้องตัวเองได้เลย
น่าสมเพชจริงๆโจคยูฮยอน
ยองอุนจ้องไปที่ใบหน้าที่ยังไม่หันกลับมา มองแก้มนุ่มนิ่มที่ช้ำเป็นปื้นแดง หึ! ก็ไม่เท่าไหร่ ไม่ได้เจ็บไปกว่ารยออุกเลยสักนิดเดียว
“อย่ามาทำเป็นสำออยหน่อยเลย แค่โดนตบน่ะ”คำถากถางถูกเปล่งเปรย เมื่อเห็นว่าอีกคนไม่สนใจจะหันมาจริงๆคนตัวโตจริงกระชากผมนิ่มกลับมาในที่สุด
น้ำตาไหลนองทั่วทั้งใบหน้า แต่กลับไร้เสียงสะอื้น ริมฝีปากกัดเม้มเอาไว้กลั้นมันอย่างสุดความสามารถ ไม่อยากให้ยองอุนได้ยินเสียงร้องไห้ของตัวเอง เพราะถ้ายองอุนได้ยินมันเขาจะโกรธ เขาคงคิดว่าน้ำตาที่ไหลออกมามันเทียบไม่ได้กลับน้ำตาของรยออุก
“อย่ามาบีบน้ำตา น้ำตาของนาย เสียงสะอื้นร่ำไห้ ต่อให้มันดังแค่ไหน...ฉันก็ไม่สงสารหรอก จำใส่หัวเอาไว้”นิ้วเรียวจิ้มเข้าไปที่หน้าผากสวย ย้ำกับคยูฮยอน คยูฮยอนส่ายหน้า เขาไม่ได้อยากให้ยองอุนมาสงสาร...
แต่ขอเพียงฟังกันบ้างเท่านั้น อย่ามองเพียงคยูฮยอนเป็นคนผิด...อย่าปรักปรำคยูฮยอน
ให้คยูฮยอนได้ถาม...ว่าคยูฮยอน...ผิดอะไร
ชเวซีวอนกดกริ่งหน้าห้องของเพื่อนสนิทรัวๆ ใบหน้ามีแต่ความกังวล ครู่ใหญ่บานประตูจึงเปิดออก ร่างสูงแทรกตัวเข้าไปรวดเร็วโดยไม่รอให้เจ้าของเชื้อเชิญ ยองอุนมองไอ้เพื่อนสนิทที่มองหน้าเขาอย่างหาคำตอบแล้วถอนหายใจ
“มึงเลวไปนะกูว่า...อย่างน้อยก็ควรให้อิสระเขาบ้าง”คำพูดต่อว่าออกมาจากปากคนที่เป็นเพื่อนสนิท ยองอุนเพียงพยักหน้าส่งๆ เบื่อไอ้คนเคร่งศาสนามันเทศน์นัก ร่างหนาพาตัวเองไปนั่งตรงโซฟา ปล่อยให้ซีวอนแพล่มบ่นไปคนเดียว
“ตกลงมึงจะขังเขาไว้อย่างนี้จริงๆหรือไง เขาเป็นคนนะ”ซีวอนถาม สายตาจับจ้องไปที่บานประตูห้องนอนที่เปิดแง้มไว้ ได้ยินแว่วเสียงสะอื้นดังออกมา มองหน้าเพื่อนตัวดีมันยังเรียบเฉยแล้วหงุดหงิดใจเป็นบ้า ยกมือขึ้นทาบหน้าอก นึกถึงพระเจ้าให้ละเว้นคนบาปอย่างมันด้วย
เมื่อเห็นว่าเพื่อนตัวดียังไม่พูดอะไร ขาเรียวยาวระดับนายแบบจึงตรึงดิ่งไปยังห้องนั้น มือใหญ่ผลักบานประตูเข้าไปก่อนจะอ้าปากค้างกับสภาพของคนที่อยู่บนเตียงนอน
ดวงตาปิดสนิทยังคงมีคราบน้ำตา ร่างกายปราศจากเสื้อผ้า มือทั้งสองข้างถูกตรึงมัดอยู่บนหัว เนื้อตัวที่เคยเป็นสีขาวจัดอย่างลูกผู้ดีแดงเถือกไปหมดเพราะอากาศเย็นๆจากเครื่องปรับอากาศชั้นดียังไม่หยุดทำงาน
ริมฝีปากของชเวซีวอนเม้มเข้าหากระ กระหวัดสายตาทิ่มแทงผ่านผนังห้องไปให้คนที่ยังตีหน้าเรียบอยู่ที่โซฟา
ซีวอนแกะไทเส้นเล็กที่รัดข้อมือกับร่องระหว่างหัวเตียงออก มือไร้เรี่ยวแรงของคนที่หลับอยู่ตกลงทันที รอบข้อมือเล็กปรากฏแต่รอยช้ำของการเสียดสี กระชากรั้ง ชายหนุ่มคลุมผ้าห่มทับให้บนร่างกายเปลือยเปล่า กดเพิ่มอุณหภูมิให้เป็นอุ่นสบายตัว มองใบหน้าที่มีรอยช้ำจ้ำจากการกระแทกแล้วลูบเบาๆที่แก้มขาว
ใจคนเคร่งศาสนาร้องว่าสงสารคนๆนี้เหลือเกิน...แต่จะทำอย่างไรเมื่อคนๆนี้เป็นต้นเหตุให้น้องชายของยองอุนโดนข่มขืน
“จะลูบให้เลขขึ้นหรือไง หรืออยากได้? จะได้แบ่ง”เสียงทุ้มของเพื่อนรักลอยมากระแทกโสตประสาท ซีวอนหันกลับไปที่บานประตู เห็นหนุ่มนักธุรกิจเจ้าของเครือคิมผู้เป็นเจ้าของโรงแรมกว่าสิบแห่งกำลังเท้ากรอบประตูด้วยแขน จ้องเขาที่ลูบแก้มคนหลับอยู่ตาเขม็ง
ได้ยินวาจาร้ายกาจของเพื่อนแล้วต้องนึกให้พระเจ้าอภัยบาปให้มันอีกครั้ง
“เริ่มปากหมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะไอ้คังอิน”เขาถาม ชื่อที่ใช้เรียกอีกฝ่ายเป็นชื่อเฉพาะที่ใช้เรียกกันในหมู่เพื่อนเท่านั้น
“ก็เป็นมาตั้งนานแล้ว”ซีวอนเบะปาก ถอนหายใจเหอะ! ถ้าอย่างไอ้คุณคิมยองอุนมันปากหมามานานแล้ว คนอื่นคงไม่รู้จะอธิบายยังไง
ก่อนเกิดเรื่องรยออุก คิมยองอุนก็เป็นคนธรรมดาที่มีพูดจาดไม่สุภาพบ้าง แต่เรื่องแดกดัน กระแทกกระทั้น เสียดสีนี่ไม่เคยเจอะเจอ
“คุยกับมึงเหมือนคุยกะหมี”ชายหนุ่มถอนหายใจอีกรอบ เดินเบียดคนที่ยืนขวางประตูหายไปในห้องครัวเตรียมน้ำอุ่นๆมาเช็ดตัวอีกคนที่ยังหลับอยู่
เห็นเพื่อนออกไปแล้ว ยองอุนลดมือที่เท้ากรอบประตูลงมาแนบลำตัว สายตายังจับจ้องที่แก้มขาวที่มีรอยช้ำจากที่เขาตบ
เหมือนมีแรงดึงดูดให้ต้องสาวเท้าเข้าหาคยูฮยอน และคล้ายกับว่ามีเสียงในหัวสั่งให้ยกมือข้างที่ทำร้ายขึ้นลูบแก้มนิ่ม ลูบอย่างเบามือ ผะแผ่วสัมผัสกับความอุ่นร้อนของผิวเนื้อนุ่มนิ่มราวเด็กผู้หญิง เขายังจำได้ว่าเมื่อก่อนก็เคยลูบแก้มใสของคนเป็นน้องเล่นเช่นกัน แก้มคยูฮยอนนิ่ม นิ่มเหมือนก้นเด็ก ลูบเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อเลย...
งั้นสิ!!! เพราะมันนิ่ม ไอ้ซีวอนมันถึงลูบ!
จากที่ลูบผะแผ่ว มือหนากลับจับคางเล็กแล้วบีบแน่นแทน ลงน้ำหนักมือหน่วงเน้น กดจนสุดแรง
คยูฮยอนสะดุ้งเฮือกจากความเจ็บที่แล่นจากปลายคางสูงสองพวงแก้ม บดเปลือกตาแน่นเพราะแรงกดแน่นจนคิดว่าคนกระทำอยากให้กระชากกรามของเขาออกมาเป็นเสี่ยงๆ ยกมือปัดป้องคนที่ทำร้ายตัวเองเป็นพัลวันโดนที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าสองแขนถูกปล่อยเป็นอิสระแล้ว
“ปล่อย...ปล่อยผม”ดิ้นรนจะให้อีกคนปล่อยให้ได้ ไม่ต้องบอกก็ร้ว่าใครที่กำลังทำร้ายเขาแบบนี้ ถ้าไม่ใช่คิมยองอุน
เสียงหัวเราะหึ ก่อนที่มือใหญ่จะคลายจากใบหน้าคนตัวเล็กกว่า คยูฮยอนลืมตาขึ้นมองคนใจร้ายที่ยืนจังก้าอยู่ตรงหน้า แววตาของร่างสูงกว่าไม่มีคำว่าเมตตาหรือปราณีเลย ซ้ำยังดูถากถางและเย้ยเยาะเสียด้วยซ้ำ
“แก้มนายมันนุ่มเกินไปนะ ยังกับผู้หญิง...จับแล้วรู้สึกเป็นเสนียดที่มือจริง”เช็ดมือกับผ้าปูเตียงลวกๆ
“เสนียดแล้วยังคิดจะจับอีกทำไม ถ้ารู้ว่ามันเป็นเสนียดก็อย่าจับ...เพราะมันทำให้ผมคิดว่าเป็นพี่นั่นล่ะที่ต้องการเข้าหาเสนียดอย่างผม”แววตาตัดพ้อถูกส่งไปให้ ยองอุนมองคนที่ต่อล้อต่อเถียงสายตาไม่พอใจ
คยูฮยอนไม่เคยเถียงเขากลับแบบนี้มาก่อน
“ฉันไม่ได้อยากเข้าหานาย!!”เสียงทุ้มตวาดพร้อมจับแขนเล็กกระชากจนอีกคนตกลงมากองที่พื้นข้างเตียง ยองอุนย่อตัวลงนั่งให้พอดีกับอีกคนที่ยังกองรวมกับผ้าห่ม
“อย่าสำคัญตัวให้ผิด โจวคยูฮยอน”สะบัดแขนที่จับออกอย่างไม่ไยดี แรงส่งทำให้คยูฮยอนตัวเซไปกระแทกขอบเตียงอย่างจัง ร่างโปร่งบางทรุดกายลงนอนกับพื้นเย็นเฉียบ สายตามองเห็นคนเป็นพี่ลุกขึ้นแล้วหายออกจากห้องไป
น้ำตาที่หยุดไหลกับร่วงรินอีกครั้งหนึ่ง
ปวดใจกับสภาพของตนเองที่ถูกกีดเส้นให้เป็นเสนียดของพี่เขา เป็นบุคคลที่พี่เขาลดชั้นให้ต่ำค่า
“เฮ้ย นาย!”เสียงอุทานด้วยความตกใจดังขึ้น ซีวอนตรงเข้าประคองคนที่นอนอยู่ที่พื้นข้างเตียงให้ลุกขึ้น
“ไอ้เหี้ยคังอิน จะใจร้ายไปไหนวะ”เขาประคองให้อีกคนนอนราบที่เตียง เห็นหัวเข่าเป็นรอยถลอกเล็กน้อยก็พอเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น มันคงกระแทกพื้นตอนที่ยองอุนดึงร่างนี้ลงมาจากเตียง
น้ำตายังไหลจากดวงตาคู่โตเรื่อยๆ คยูฮยอนมองเห็นใบหน้าหล่อเหลาของร่างสูงจัด ใบหน้าที่ดูสงสารเขาเสียเหลือเกิน
“อย่าร้องเลย ต่อให้นายร้องไปไอ้ห่านั่นมันก็ไม่สนใจ มันคงบ้าเป็นแล้ว”เขาว่า ยกมือขึ้นเกลี่ยน้ำตาที่สองข้างแก้ม
“คุณเป็นใคร?”ถามเสียงกระท่อนกระแท่นขึ้นจมูกเพราะยังไม่หยุดร้องไห้ ซีวอนยิ้มให้ ก่อนจะตอบ
“ฉันชื่อชเวซีอนที่นายรับโทรศัพท์ไง...ฉันมาช่วยนายแล้ว”
ทีบีซี...
ทอล์กทูมี...งงกันมั๊ย คนแต่งงงๆ - -* เรื่องนี้ต้องแต่งให้คังอินดูเป็นคนสองบุคลิก บางครั้งก็แค้นจะตายห่ะ บางครั้งก็ดูอ่อนโยนเลยงงๆ จับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่ได้เขียนมาเป็นเดือนแล้วด้วย
จะแต่งใหม่ดีไหมหนอ เหตุผลที่แค้นไม่ค่อยจะมีหลักการ ฮ่าๆๆๆ
สุดท้ายแล้ว...คุณคิดหรือว่าชเวซีวอนจะเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาว ฮ่าๆๆๆๆ
ความคิดเห็น