ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตำนานแห่งฟูดแลนด์ ภาค ซุปกระดูกหมูกับราชอาณาจักรกึ่งสำเร็จรู

    ลำดับตอนที่ #2 : ดิเมดอส

    • อัปเดตล่าสุด 3 ต.ค. 52


    บทที่ 1 ดิเมดอส

    ท่านแม่ ท่านพ่อหายไปไหน เมื่อไหร่ท่านจะกลับมา ท่านแม่...เสียงของบุตรชายที่เฝ้าถามไถ่ถึงบิดาผู้ไม่มีวันได้กลับคืนมาหาผู้เป็นที่รัก นางได้แต่ปลอบบุตรและร้องไห้ ผลันนึกถึงวันที่เขาต้องจากไป ทำสงครามกับเหล่าผู้รุกราน

                    นิ่งซะลูก ประเดี๋ยวพ่อเจ้าก็กลับมา เธอปลอบใจพลางโศกา น้ำตาเธอไหลร่วงริน

                    แม่จ๋า แม่ร้องไห้ทำไม ใครเป็นคนทำแม่ให้ร้องไห้ หนูจะไปจัดการมันเด็กน้อยกล่าวด้วยไร้เดียงสา และทำท่าทางขึงขังเอาการ

                     ไม่มีหรอกจ๋ะ ตอนนี้หนูจงไปโรงเรียนเสียเถิด ฝึกฝนวิชาความรู้ และหม่ำเคียวกร่ำฝีมือ ในยามที่เจ้าเข้าสู่พิธีกรรมปรุงอาหาร เจ้าจะได้เก่งกาจเหนือผู้ใดเมื่อฟังเช่นนั้น เด็กน้อยจึงอ่อนใจ และขอตัวจากมารดาไปเรียนหนังสือ เมื่อบุตรของนางไปแล้ว น่าจึงเอ๋ยว่า

                    จงสู้เข้าเถิด กุลิกุล ฝึกฝนฝีมือของเจ้า สักวันชะตาแห่งตระกูลเราจะอยู่ในมือของลูก หมูน้อย

    ……..

    15 ปีต่อมา

     

                    หลังจากการอพยพของพวกเราเข้าสู่ดินแดนห้องครัวศักดิ์สิทธิ์ พวกที่ติดเชื้อของผงแห่งอำนาจ ได้ออกไล่ล่า พวกเจ้ารู้ไหมว่าทำไมพวกเรายังรอดมาได้ กระเทียมเฒ่าผู้ผ่านโลกมายาวนาน ได้ตั้งคำถามต่อศิษย์ ในคาบเรียนวิชาประวัติศาสตร์ฟูดแลน

                    เป็นเพราะ กองกำลัง อาหารพื้นบ้าน ที่อยู่บริเวณชายแดน กับกองกำลังอาหารสด ใช่ไหมครับ ท่านอาจารย์ ทุกคนในห้องเรียนหันไปมอง โค แห่งตระกูลเนื้อย่าง ผู้ลุกขึ้นตอบคำถามของท่านผู้เฒ่า อิกิ กระเทียมเฒ่าผู้สูงวัน

                    งืม.... ดีมาก มีใครจะเสริมอะไรไหม อิกิ กล่าว

                    ข้าว่า นอกจากกองกำลังเหล่านี้แล้ว ยังมีอิทธิพลของเตาไฟ ทำให้เส้นทางเข้าสู่ห้องครัวยากลำบาก นางต้นหอมแห่งตระกูลเครื่องแกงลุกขึ้นเสริม นางเป็นนักเรียนใหม่ที่ย้ายมาจาก เขต อิมองซาดี ซึ่งเป็นอีกฝากหนึ่งของดินแดนห้องครัวศักดิ์สิทธิ์

                    ใช่แล้ว ทั้งสององค์ประกอบนี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราอยู่รอดปลอดภัย อิกิ กล่าวด้วยความเศร้าสร้อย

                    เอาละ วันนี้เลิกเรียนได้.... กุลิกุล โค นางต้นหอม อยู่ก่อน ที่เหลือไปได้ เมื่อนักเรียนออกจากห้องเรียน ทั้งสามจึงเดินมาหา อิกิ ที่หน้าห้องเรียน

                    พวกเจ้าจงรู้จักกันไว้ นี่คือ ท่านหญิงอิเวลจากนี้นางจะย้ายมาอยู่ที่นี้่หวังว่าพวกเจ้าจะดูแลนางอย่างดี... นางย้ายมาจากเขต อิมองซาดี ที่นั้นกำลังเกิดสงคราม นางเป็นเลือดเนื้อแห่งท่านอิเดเต้ อุปราชแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ บิดานางไม่ต้องการให้นางยุ่งเกี่ยวกับการเมือง จึงส่งนางให้อยู่ห่างไกลจาก นครหลวง อิกิร่ายยาวถึงประวัติและความสำคัญของนางต้นหอม เพื่อนใหม่ของพวกเขา

                    ได้เลย ท่านอาจารย์ ข้ากับเพื่อนจะดูแลนางอย่างดี โครับปากกับ อิกิ ทันทีที่อิกิพูดจบ

                    นั่น ข้าก็ดีใจ พวกเจ้าสองคน ล้วนมาปัญญา ความสามารถ ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าทำได้ เมื่อพูดจบ อิกิ ก็เดินออกไปจากห้องเรียน

                    ข้าชื่อ โค แห่งตระกูลเนื้อย่าง อีก 15 วันจากนี้ ข้าจะกลายเป็นเนื้อยย่างจริงๆแล้ว โคแนะนำตัว

                    งั้นก็หมายความว่า ท่านจะครบ 20 ปีในวันที่ 28 เซปป้า นี้แล้วละสิ อิเวล แสดงออกด้วยความตื่นเต้น แล้วท่านละ นางหันหน้าไปหากุลิกุล

                    เจ้านี่ ชื่อ กุลิกุล เป็นสหายข้าเอง เมื่อวานพนันกับมันไว้ว่า หากใครเล่นหมากรุกแพ้ ห้ามพูดใดๆ 1 วันเต็ม แล้วมันก็แพ้ 55 โคกล่าวแทนกุลิกุล ส่วนหมูหนุ่มก็ได้แต่ยิ้ม

                    งั้นหรอ น่าเสียดายจังนะ อิเวลยิ้มให้ แล้วทั้งสามจึงเดินออกจากห้องเรียน

                    ว่าแต่ เราจะไปไหนกันดีละ ข้าพึ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก ไม่รู้จะไปไหนดีอิเวลกล่าว

                    งั้น เราไปสมาคมยุทธศาสตร์กันดีไหม ที่นั่น มีนักวางแผนชั้นดีมากมาย หวังว่าท่านคงจะชอบ โคแนะนำ กุลิกุลเดินตามทั้งสองไปอย่างเงียบเชียบ เหมือนโลกไม่มีเขาอยู่

                    อีกไม่กี่วันแล้วสินะ ที่เจ้าจะสามารถเป็นทหารได้ เพื่อนข้า กุลิกุลนึกในใจระหว่างเดินตาม ความหวังของกุลิกุล และโค เป็นเช่นเดียวกันคือ ปกป้องชาวอาหารบริสุทธิ์ที่เหลือรอด กอบกู้เอกราชให้ชาวอาหารบริสุทธิ์

                    เมื่อมาถึง สมาคมยุทธศาสตร์ กุลิกุล ก็ให้สัญญาขอแยกตัวกับโคและอิเวล เพื่อไปศึกษาแนวทางโจมตีนครเปรุส แห่งราชอาณาจักรกึ่งสำเร็จรูป เมืองที่ใกล้ที่สุดจากเขต ดิเมดอส ซึ่งต่างจากโค ที่ชอบฟังการสนทนาของเหล่าขุนพลทั้งหลายที่ผ่านสนามรบมาจริง

                    โคไม่ต้องการที่จะเข้าไปฟังคำโม้ของเหล่านักรบเหล่านั้น เพราะเขารู้ดีถึงรสแห่งสงคราม เมื่อเขาอายุได้ 7 ขวบ พวกชาวกึ่งสำเร็จรูปได้เข้าบุกโจมตี อินอร์ หมู่บ้านชายแดนที่เขาอาศัยอยู่กับมารดาก่อนที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรกึ่งสำเร็จรูป

    เขารอดมาได้อย่างไร นี่เป็นคำถามแรกของเหล่านักปราชญ์แห่งเขต ดิเมดอส เมื่อทราบข่าวการรอดชีวิตของกุลิกุลในครั้งนั้น ท่านลอร์ด กุโลมัส เป็นคนแรกที่ได้พบกับกุลิกุล เมื่อเขานำกำลังทหารไปเพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน อินอร์ แต่เมื่อไปถึง เขาพบกับพียงซากของพวกกึ่งสำเร็จรูปที่กองรวมกันอยู่นับร้อย หลุมฝังศพอีกมากมายของผู้ที่ถูกฆ่าตาย และกุลิกุล ผู้กำลังนั่งซึมอยู่บนกองซากศพของพวกกึ่งสำเร็จรูปที่แสนโหดร้าย ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น และไม่คิดว่า กุลิกุล อาจเป็นผู้สังหารเหล่าศัตรูของพวกเขาได้ มันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อจริงๆ

    .........

                    แผนการต่อไปของเรา คือการจัดกองกำลังผสมเข้ารักษาบริเวณบางทางเข้าอินอร์ และส่งกำลังหมูแฮมอีกกองเข้ายึดหมู่บ้านนั้นกลับคืน เพราะที่นั่นเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ เมื่อก่อน20 ปีก่อนมีท่านกุโลธอรัส ได้เดินทางไปรักษาดินแดนแถบนั้น แต่เพียง 5 ปีจากนั่นท่านกลับสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย จากนั้นอีก 2 ปีต่อมา พื้นที่แถบนั้นก็โดนยึดครองโดยพวกกึ่งสำเร็จรูป น่าเสียดายยิ่งนัก เมื่อมองดูจึงรู้ว่าเป็นเสนาธิการ คอน แห่งตระกูลเนื้อย่าง ผู้เป็นน้าของโค นั่นเอง

                    ท่านเสนาธิการ จะมาเล่าเรื่องเก่าทำไม หลังจากยึดหมู่บ้านกลับคืนแล้ว ข้าว่า เราควรตั้งค่ายทหารที่นั่น ท่านว่าดีหรือไม่ ก่อนหน้านี้ มีชาวบ้านอาศัยอยู่ จึงไม่สะดวกจะตั้งค่าย แต่เมื่อขับไล่พวกกึ่งสำเร็จรูปแล้ว ควรรักษาพื้นที่ให้มั่นคง ป้องกันการบุกรุกของพวกกึ่งสำเร็จรูปอีก นายพลเลโก้ แสดงความคิดเห็น แต่ที่ข้ายังคงสงสัยไม่หาย คือ ทำไมถึงปล่อยเวลาให้ผ่านมาถึง 13 ปีแล้ว เราจึงคิดแย่งชิงพื้นที่แถบนั้นคืน

                    ท่านคงยังไม่ทราบ หลังจากท่านลอร์ดกุโลมัส เดินทางกลับมาจากดินแดนแถบนั้น พวกกึ่งสำเร็จรูปได้นำเอา บอแร็ก เข้าไปยังอินอร์ ทำให้ประชาชนที่เดินทางไปโดยหวังจะสร้างหมู่บ้านที่นั่นใหม่กลายพันธุ์ และมันยังส่งเจ้าชาย ควิก มาคอยป้องกันรักษาเมืองนครเปรุส ถ้าหากเราบุกไปตอนนั้น ผู้คนของเจ้าชายควิกต้องยกทัพออกมาช่วย ด้วยความสามารถของเขา คงทำให้เราต้องเสียกำลังโดยเปล่าประโยชน์ หากแพ้สงคราม นั่นหมายถึงว่าเป็นการเพิ่มจำนวนประชากรให้กับพวกมัน และถ้าเป็นอย่างนั้นจริง มันต้องถือโอกาสบุกมายังดิเมดอสเป็นแน่ แต่เมื่อ 3 ปีก่อน เราค้นพบวิธีป้องกันบอแรกได้แล้ว ขาดแต่กำลังทหาร

                    มิน่าละ เมื่อวานข้าได้รับรายงานว่า เจ้าชายควิก ได้เดินทางออกจากเปรุสแล้ว หากทำตามแผนการของท่านเสนาธิการ และท่านนายพลเลโก้ ต้องยึดอินอกลับคืนได้แน่นอน แล้วจากนั่นข้าคิดว่า... เมื่อพูดถึงตรงนี้ กุลิกุลก็เดินออกมาจากการสนทนา เขาได้สะกิดเรียกเพื่อนรัก และกลับบ้านพักของลอร์ดกุโลมัส ชายผู้รับเขามาเลี้ยงดู

                    ลอร์ดกุโลมัส เป็นสหายของกุโลธอรัสบิดากุลิกุล พวกเขาเคยร่วมกรำศึกมาด้วยกันก่อนที่ พ่อของกุลิกุลจะมาประจำการที่ อินอ ลอร์ดกุโลมัสเกิดในเผ่าขาหมูเช่นเดียวกับกุโลธอรัส ภายหลังจากการอพยพ เผ่าขาหมูก็ขึ้นเป็นใหญ่ ปกครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และถูกประจำการอยู่ทั่วไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เพื่อเฝ้าระวังภัย กุโลมัสเลี้ยงกุลิกุลประดุจดังบุตรชายของตน เขาเฝ้าสั่งสอนศิลปะวิทยาต่างๆที่เขาเรียนรู้

                    กุลิกุล กลับมาแล้วหรือ กุโลมัสกล่าวเมื่อเห็นกุลิกุลเดินผ่านหน้าห้องหนังสือ

                    เขาเดินเข้าไปยังห้องหนังสือ พลางหยิบกระดาษและปากกาเขียนตัวหนังสือลงแล้วยื่นให้ท่านลอร์ด โดยมีความว่า ครับ ท่านลอร์ด ผมกลับมาแล้ว วันนี้ผมไปสมาคมมา ได้ข่าวว่าเขาจะทำการบุกอินอร์ แต่ผมก็รู้ว่ามันยังไม่ถึงเวลา

                    ดี เข้าใจอย่างนี้ก็ดี ข้ามีของดีมาให้ นี่เป็นสมบัติประจำตระกูลของเจ้าเขาหยิบหนังสือปกดำ ที่ไม่มีอะไรเขียนอยู่ภายในยื่นให้แก่กุลิกุล ข้างในนี้มีเพียงคนตระกูลซุปกระดูกหมูเท่านั้นที่เข้าใจ นี่ถือเป็นของขวัญล่วงหน้าสำหรับวันเกิดของเจ้า จงศึกษามัน และใช้มันในวันประกอบพิธีเถิด

                    กุลิกุลพยักหน้า แล้วโค้งคำนับก่อนจะเดินออกจากห้องหนังสือเข้าสู่ห้องนอนของตนและจ้องมองไปยังหนังสือเล่มนั้น ก่อนจะเริ่มไขปริษนาของสมุดเล่มดำ

    ...............

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×