ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักที่เราไม่เข้าใจ

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่2

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ย. 52


    กาลเวลาผ่านไปได้สักระยะ2ปีตอนนี้นะฉันกลายเป็นคนที่โสดสนิทเพราะทั้งโต๊ยและตั้มก็ไม่มีใครติดต่อมาเลยสักคนแต่ความรู้สึกเหงาๆก็ยังมีอยู่ตอนนี้ฉันเรียนอยู่ม.ต้นปีสุดท้ายอะไรหลายๆอย่างมันก็เลยดูที่จะเยอะไปหมดทั้งเรื่องของงานและก็เรื่องของความรัก

    เย็นวันที่งานไม่ค่อยจะมีฉันเลือกที่จะมาเล่นแชทที่ร้านเกมและตามความคาดหมายพอฉันพิมพ์ชื่อฉันลงไปแล้วไม่ถึงนาทีพวกผู้ชายที่เป็นแค่เพื่อนคุยก็เข้ามาคุยอะไรมากมายรวมถึงเรื่องอย่างนั้นด้วย

    [ฝนวันนี้เราไปมีอะไรกับแฟนเราแล้วล่ะโคตรมันเลย]

    [ฝนเธอไม่อยากบ้างหรอเราช่วยเธอได้นะ]

    [สวัสดีครับชื่อฝนหรอเราชื่ออาร์มนะสะดวกคุยไหม]

    จากหนึ่งในพวกผู้ชาย50คนวันนี้มีคนเข้ามาทักใหม่แค่คนเดียวกับผู้ชายที่ชื่ออาร์มคำพูดที่เข้ามาทักทายที่สุภาพแตกต่างกับคนอื่นๆ

    "(สวัสดีจ๊ะอาร์ม)"

    "(สวัสดีครับนึกว่าจะไม่มาคุยด้วยซะแล้ว)"

    "(ทำไมล่ะ อื้ม...แล้วอาร์มอยู่ที่ไหนหรอ)"

    "(เราอยู่ที่....แล้วบีล่ะ)"
    "(
    เราอยู่กรุงเทพ)"
    "(
    แล้วมีแฟนยังหรอ)"
    "(
    ตอนนี้โสด จะจีบหรอ")

    "(แล้วให้จีบไหมล่ะ)"
    "(
    แล้วแต่สิจะจีบก็จีบเราไม่ได้ว่าอะไร)"
    "(
    เอาเบอร์มาสิเดี๋ยวโทรไปหา)"

    "(08465686...)"

    การให้เบอร์กันในห้องแชทมันก็ไม่เสียหายอะไรหรอกเพราะบางทีให้ไปก็ไม่มีใครโทรมาบางคนโทรมาครั้งเดียวก็ไม่โทรมาอีกเลยและคนที่ชื่ออาร์มนี้ก็เหมือนกันฉันก็ไม่คิดว่าเขาจะโทรมาจริงๆหรอก

    และเย็นวันเดียวกันนั้นเองเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นพร้อมก็โชว์เบอร์แปลกคงจะเป็นคนที่เล่นแชทด้วยนั้นแหละมั่ง

    "สวัสดีคะ"

    "นี่เราอาร์มเองนะจำได้ไหม"

    "จำได้ไม่คิดว่าจะโทรมาจริงๆนะเนี่ย"

    "เราบอกว่าเราจะโทรมาก็ต้องโทรมาจริงๆนะสิเราไม่ใช่คนโกหกนะ"

    "หรอ...แล้วกินข้าวหรือยังอ่ะ"

    "ยังเลยรอฝนมาป้อนนั้นแหละ"

    "หรอเดี๋ยวรอแปบนะเดี๋ยวฝนไปหา"

    "มาวิมาเดี๋ยวอาร์มรอ"

    "บ้าหรอไปได้ก็ดีสิ"
     เย็นวันนั้นจนถึง3ทุ่มกว่าฉันใช้เวลาส่วนใหญ่ในการคุยโทรศัพท์ในเรื่องส่วนตัวของอาร์มและฉันการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันระหว่างฉันกะอาร์มเป็นไปอย่างราบเรียบ

    เช้าวันรุ่งขึ้นการใช้ชีวิตก็เป็นไปเหมือนกันทุกๆวันจะเปลี่ยนไปก็แค่มีอาร์มโทรมาในตอนเช้าเท่านั้นเองอาร์มเองก็เป็นพี่ฉันแค่เพียง1ปีความสนิทสนมของเราสองคนเลยเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว

    ปรั้น!!!

    "น้องฝนครับให้พี่ไปส่งไหม"

    "ไม่เป็นไรค่ะโรงเรียนอยู่แค่นี้เองฝนไปเองได้คะ"

    "อื้ม...เหมือนฝนมันจะตกเลยนะขึ้นรถไปกับพี่เถอะ"

    "ไม่เป็นไรคนอื่นมาเห็นมันจะไม่ดีนะคะ"

    "ไม่เป็นไรครับพี่ไม่แคร์"

    "...อื้ม..."

    "นี่ครับ เก็บไว้ก่อนถึงโรงเรียนแล้วค่อยคืนพี่"

    พี่เจครูรุ่นหนุ่มไปแรงพี่อายุยังน้อยที่สุดในโรงเรียนและเป็นที่หมายปองของเด็กนักเรียนสาวในโรงเรียนหลายๆคน พี่เจยื้นบัตรประชาชนมาให้ฉันพร้องเอ่ยให้เก็บมัยไว้จนกว่าฉันจะถึงโรงเรียน

    "ฝนครับขึ้นรถมาเถอะครับฝนตกแล้วนะ"

    "ก็ได้คะ"

    ภายในรถเราสองคนนั่งเงียบไม่มีใครพูดอะไรจนมาสักระยะหนึ่งพี่เจก็เริ่มพูดถึงเรื่องการเรียนของฉันทั้งเรื่องของที่บ้านและเรื่องทั่วๆไป

    "ฝนอยู่คนเดียวไม่เหงบ้างหรอ"

    "ไม่คะฝนอยู่มาจนชินแล้ว"

    "หรอ...แล้วถ้าพี่จะขออาสามารับส่งฝนทุกวันฝนจะว่าอะไรไหม"

    "ไม่เป็นไรคะ เดี๋ยวสาวๆที่โรงเรียนเห็นเข้า ฝนไม่อยากให้ใครมาอิจฉา"

    "ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยหนิผมเต็มใจที่จะมารับส่งฝนเอง"

    "ก็แล้วแต่ครูแล้วกันคะฝนยังไงก็ได้"

    สายตาของพี่เจที่มองมาทางฉันมันเหมือนสายตาของผู้ชายหลายๆคนที่ยั่วยวนให้ผึ่งไปตอนจิกกินน้ำหวานนั้น สายตาที่บงบอกว่าสนใจถูกเผยออกมาอย่างเห็นได้ชัด พร้อมทั้งมือที่ค่อยๆเลื่อนมาใกล้ๆขาฉันแต่เวลาก็คงจะมีไม่พอที่จะให้มือใหญ่โดนขาขาวๆนี้รถของพี่เจก็เข้าสู่เขตของโรงเรียนและเป็นไปตามที่ฉันคิดผู้หญิงหลายคนหันมามองที่รถแต่ก็ต้องตาโตกันเป็นแถบเมื่อเห็นฉันนั้งมาข้างๆกับพี่เจ

    "อายหรอครับที่นั่งมากับผม"

    "ป่าวนี่คะไม่ได้อายอะไร"

    "ครับ...เดียวผมไปส่งบนห้องนะ"

    "ไม่เป็นไรคะแค่นี้ก็พอแล้ว"

    "ต่อจากนี้ไปถ้านอกห้องเรียนห้ามเรียกผมว่าครูนะเรียกพี่เจนะครับ"

    "คะ"

    "ตั่งใจเรียนนะครับ"
     ครูเจพูดพร้อมรอยยิ้มหวานๆที่ส่งมา พวกเด็กนักเรียนผู้หญิงที่ยื่นดูรอบๆมองมาที่ฉันด้วยสายตาที่อาฆาตเเละอิจฉา เเต่พวกนั้นมันก็ทำอะไรฉันไม่ได้หรอกได้เเค่ยื่นดูอยู่เฉยๆไปเท่านั้นเอง
      เวลาผ่านไปเกือบจะครึ่งวันการเรียนในวันนี้ก็เป็นไปเหมื่อนเดิมมีเพียงที่เเปลกมาก็เเค่มีอาร์มที่โทรเข้ามาเพียงเท่านั้นการที่ได้คุยกับอาร์มก็ยังไม่ได้สร้างความสัมพันธ์ในใจสักเท่าไรเพราะเวลาเราสองคนคุยกันก็จะคุยกันเเค่เรื่องทั่วๆไปยังไม่มีใครเอ่ยพูดถึงเรื่องรักๆใคร่ๆอะไรนักหนา
      เเละเวลาช่วงพักกลางวันเเบบนี้ฉันก็จะใช่เวลาว่างให้หมดไปกับการนั้งเมาอยู่กับบรรดาเพื่อนสนิททั้งหลายที่ทุกๆวันจะต้องมีเรื่องมาเมมากันเเล้วเรื่องที่ครูเจมาส่งฉันวันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการสนทนาด้วยหลายๆคำถามที่เข้ามาถามว่าฉันแอบคบกับครูเจหรอ มาด้วยไงได้ยังไงอ่ะ อะไรหลายๆคำถามที่พวกมันจะสันหามาภาฃถามฉันเเละการที่ตอบส่งๆไปก็ทำให้เรื่องของฉันกับครูเจเบาบางลง
    "ฝนวันเสาร์นี้ไปดูหนังกันมะฉันอยู่บ้านคนเดียวอ่ะ"
    "มะรู้ว่าจะว่างหรือป่าวอ่ะดิ"
    "แกอ่ะไม่ว่างทั้งบีนั้นเเหละเคยไปไหนมาไหนกับเพื่อนบ้างไหมเนี้ย"
    "ก็คนมันไม่ว่างจริงๆนี่หว่าจะให้ทำยังไงเล่าเเก"
    "เออๆๆยังไงก็บอกด้วยเลเวกัยว่าไปได้ไหม"
    "อื้ม"
    "พี่ฝนครับครูเจให้มาตามครับ"
    เด็กผู้ชายรุ่นน้องเข้ามาในห้องพร้อมกวาดสายตาหาฉันเเละพอเจอก็บอกสิ่งที่เขาได้รับมา ครูเจเรียกฉันงันหรอจะเรียกไปทำไมนะ?
    "ได้คะเดียวพี่ไป"
    "เเหมแกไหนบอกว่าไม่คิดอะไรกันไง"
    "โถ่แกเขาอาจจเรียกฉันไปคุยก็ได้"
      อาคารที่พี่เจประจำอยู่อยู่ด้านหลังของอารคารใหม่ บริเวรนั้นไม่ค่อยมีเด็กนักเรียนไปเล่นกันสักเท่าไรบรรยายกาศมันเลยดูจะเงียบๆไปสักนิด
      เเละพอฉันมาหยุดยื่นอยู่หน้าอาคารสายตาก็จักต้องไปเห็นชายร่างโปร่งที่ยื่นรออยู่คนคนนั้นก็คื่อพี่เจที่มายื่นรอฉันอยู่หน้าอาคาร
     “ครูเจเรียกฝนมามีอะไรหรือป่าวคะ”

    ถ้าไม่มีอะไรฝนมาหาผมไม่ได้หรอ”

    ป่าวคะแค่แปลกใจ”

    แปลกใจอะไรหรอครับ”

    ก็ทุกทีไม่เคยเรียกฝนมาพบนี่คะ”

    ก็พี่คิดถึงหนิ”

    พูดแบบนี้เดี๋ยวคนอื่นก็มาได้ยินหรอกคะ”

    คนอื่นเขาไปทานข้าวกันหมดแล้วไม่มีใครมาได้ยินเราสองคนพูดกันหรอก”

    ว่าแต่ครูกินข้าวหรอยังคะ”

    ยังเลยกินในแทนได้ไหมละ”

    สายตาที่ส่งมาพร้อมคำพูดที่สื่ออะไรแบบนั้นถูกส่งมายังสายตาคู่ทั้งสองนี้อาการที่สั่นๆข้างในก็เริ่มรุนแรงขึ้น พร้อมกับการที่พี่เจเดินเข้ามาใกล้ๆจนชิดตัวฉัน การกอดของพี่เจเริ่มแน่นขึ้นการที่พี่เจเอาใบหน้ามาไซ้ตรงซอกคออาการสั่นๆข้างในก็รุนแรงขึ้นไปอีก

    เราสองคนชิดใกล้กันอย่างนั้นนานเท่าไรจนเท่าไรไม่รู้การปล่อยเวลาให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆก็ทำให้ฉันผ่อนคลายไปไม่น้อย

    พี่เจคะพอได้แล้วมั่งคะเดี๋ยวมีใครมาเห็น”

    ไม่มีใครมาเห็นหรอกครับ ฝนกลัวหรอ”

    คะ มันจะเสียทั้งพี่เจแล้วก็ฝนด้วยนะคะ”

    งั้นเราไปต่อกันข้างนอกนะ”

    เอาไว้เป็นหลังเลิกเรียนแล้วกันนะคะ”

    ตอนนี้เลยแล้วกันพี่รอไม่ไหวหรอก”

    แต่ฝนมีเรียนนะคะ”

    เดี๋ยวพี่ไปลงให้นะฝนไปรอพี่ที่รถแล้วกัน”

    ยังไม่ทันที่ฉันจะขัดอะไรพี่เจก็มุ่งตรงไปที่ห้องงานบุคคลเพื่อนขอลาเรียนให้ฉัน ฉันกำลังจะมีสามีเป็นครูสอนหนังสือหรอเนี่ยเหมือนกับมันเป็นความฝันที่เลื่อยลอยที่มันมีอยู่ในชีวิตจริงๆใครหลายๆคนอาจจะไม่เข้าใจและรับมันไม่ได้ที่ครูกับนักเรียนคบกัน แต่มันก็เกิดขึ้นจริงๆกับชีวิตของฉัน

    สักพักพี่เจก็เดินตรงมาที่รถรอยยิ้มหวานๆนั้นยังคงมีในใบหน้าของเขาเสมอมันช่วยทำให้เขาดุดีขึ้นมาอีกเยอะ ตอนนี้เป็นเวลาที่นักเรียนหลายๆคนเข้าเรียนกันแล้วจริงไม่มีใครมาเห็นฉันกับพี่เจออกไปด้วยกัน ส่วนบรรดาเพื่อนของฉันก็รู้แค่ว่าฉันกลับบ้านไปเพราะคุณพ่อมารับ

    พี่เจพาฉันเข้ามาที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่ภายนอกตกแต่งด้วยต้นไม้ที่แลดูสบายตาพอเราสองคนเขามาในห้องเสื้อที่เร้าร้อนอย่างเขาก็กระโจมเข้าใส่แพะตัวน้อยๆอย่างฉันรสชาติการจูบของเขาเร้าร้อนการกริยาการกระทำที่ทำให้ฉันเคลิ้มไปด้วย

    เราสองคนใช้เวลาที่จะมีความสุขกันทั้งวันการที่ฉันขาดเรื่องอย่างนี้มานานพอได้กลับมาใหม่อีกครั้งมันก็สร้างความเสี่ยวให้ฉันไม่น้อยเรามีอะไรกันหลายรอบเสร็จแล้วพักและก็เป็นพี่เจที่ปลุกอารมณ์ฉันขึ้นมาต่อ

    พีเจคะไม่เหนื่อยหรอ”

    ไมหรอกคับ ฝนเหนื่อยหรอ”

    ป่าวคะ”

    งั้นอีกรอบนะ”

    อื้ม พอก่อนดีกว่าคะเดี๋ยวไม่มีแรงกลับบ้านนะ”

    พี่ว่าพี่เจค้างกับฝนนะได้ไหม”

    แล้วที่บ้านพี่ล่ะ”

    พี่อยู่คนเดียว เหงาจะตายฝนอยู่เป็นเพื่อนพี่นะ”

    ได้คะงั้นเรากลับกันดีกว่านะนอนที่นี้ฝนว่ามันดูยังไงไม่รู้”

    จะไปบ้านพี่หรือบ้านฝนดีล่ะ”

    แล้วแต่พี่เจแล้วกันคะ”

    คืนนั้นทั้งคืนเราสองคนมีความสุขกันอยู่ในห้องของพี่เจบ้านพี่เขาอยู่ใจกลางเมืองแสงไปที่ส่องสว่างไปทั่วบริเวรทั้งแสงไฟที่ระริบระรี่อยู่มันก็เหมือนชีวิตของฉันในคืนนี้ คืนนั้นอาร์มก็โทรมาแต่ฉันเองก็ไม่ได้รับสาย เราสองคนนอนกอดกันจนเช้าพี่เจดูจะไม่มีท่าที่ที่เหนื่อยล้ากับเรื่องราวเมื่อคืนเลยมีเพียงฉันที่ปวดตรงต้นขาเล็กน้อย

    เช้าวันนี้พี่เจลงมีเป็นพ่อครัวทำอาหารเช้าให้ฉันทานฝีมือเขาก็ไม่ได้ด้อยอะไรทำอร่อยกว่าฉันอีก

    วันนี้ฝนไปโรงเรียนไหวไหม”

    ไหวคะ ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”

    ไหไนบ่นว่าปวดขาไง”

    เดี๋ยวมันก็หายคะ”

    ไม่ไหวก็พักก็ได้นะเดี๋ยวพี่หยุดเป็นเพื่อน”

    ไม่เป็นอะไรหลอกคะ ฝนเกรงใจนะคะ”

    ไม่เป็นไรเมียทั้งคนพี่ทำได้หมดนั้นแหละ”

    คะ งันก็แล้วแต่พี่เจแล้วกันนะคะ”

    งันเราหยุดแล้วไปเทียวทะเลกัน”

    คะ”

    การที่ฉันจะหยุดไปไหนสักที่ในเวลากลางวันถ้าเป็นแต่ก่อนก็ต้องแอบหนีเรียนไป เวลาไม่นานจากกรุงเทพไปถึงชลบุรีภาพทะแลกว้างใหญ่ที่สุดลูกหูลูกตาพ้อมกันคลื่นที่ซัดกระทบฝั่งเป็นระยะๆแสงแดดที่ร้อนก็ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับการเล่นน้ำของใครหลายๆคน ใครๆที่เขาบอกว่ามาการที่เราเอาความทุกข์มาโยนลงทะเลจะทำให้เราสบายขึ้นผิดกับฉันที่นำความสุขมาฝากไว้กะเทที่กว้างใหญ่พร้อมปลดปล่อยอดีตให้เลยผ่านไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×