ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ขอที่ตรงนั้น...ให้ฉันได้ไหม? [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 : ต้นเหตุของเรื่องราว 100%

    • อัปเดตล่าสุด 15 ก.ย. 52


     

     

    Chapter 1 : ต้นเหตุของเรื่องราว

    กลิ่นกาแฟ หอมอบอวลไปทั่ว ตั้งแต่เริ่มย่างก้าวผ่านประตูบานกระจกเข้ามา  กลิ่นหอมอ่อนๆ ชวนเสน่ห์ให้น่าหลงใหล  ทันทีที่มีแขกเข้ามาภายใน  พนักงานเสิร์ฟต้อนรับ  ยื่นเมนู ต่างให้ได้เลือกสรร

                หอมกรุ่นกาแฟหลายชนิดมีให้เลือก ทั้งอุ่นร้อนพอให้หอม   หรือหวานลิ้มของกาแฟเย็น เมนูข้างเคียง ด้วยชิ้นเค้กก้อนขนาดย่อม หลากรส   

    แผ่วเสียงเพลงนุ่มในบรรยากาศ ที่เป็นส่วนตัว  ทั้งเงียบและสงบนิ่ง

                ผมเลือกที่จะนั่งข้างๆบ้านกระจก ที่สามารถมองผ่านออกไปเห็นผู้คนกำลังเดินซื้อของภายในห้าง  บางคนมาคนเดียวกับความโฉบเฉี่ยว บางคนมาเป็นคู่ กับเพื่อน กับคนรัก  หรือมาเป็นกลุ่มๆ   ทุกๆอย่างที่มองผ่านออกไปจากในนี้ให้แง่มุมและแง่คิดให้ได้เพลิดเพลิน 

                หญิงสาวในชุดแสกเดรสสั้น สีชมพูหวาน  รูปหน้าเรียวไข่ แต่งแต้มด้วยสีที่อ่อนหวาน กับผมลอนยาวสีน้ำตาลอ่อน  ขับความอ่อนหวาน สะกดตาให้ผมต้องมองตาม  นับตั้งแต่ที่เธอก้าวขาขึ้นผ่านบันไดเลื่อน ขึ้นมายังชั้นที่ผม ได้นั่งอยู่นี้  

     

                ไม่นานนัก

     

     

    รอนานไหม?  เสียงหวานของใครคนหนึ่ง เดินเข้ามาหาผมด้วยรอยยิ้ม

     

    ไม่หรอก ... ที่นี่บรรยากาศดีนะ ผมตอบกลับไปตามความรู้สึก กาแฟที่สั่ง ถูกนำมาวางไว้ กรุ่นหอมกลิ่นอบอวลของความหอมหวาน  

     

    อื้ม....คิดไว้แล้ว  ว่าต้องชอบเธอบอกกับผม แล้วนั่งลงที่เก้าอี้สีขาว ที่อยู่ตรงข้าม  เธอ คือคนเดียวกับที่สะกดสายตาการมองเห็นของผม  ให้จับจ้องไว้ที่เธอ นับตั้งแต่เริ่มมองเห็นตั้งแต่ไกลๆ

     

     

    เธอที่เป็นเสมือนคนจับจองหัวใจของผมไว้มาโดยตลอด  

    โดยที่เธอเองไม่เคยรู้ตัวเลยสักครั้ง....

    สั่งอะไรหน่อยไหม?  ทานอะไรมาหรือยัง ผมจ้องมองเธอด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม  รอยยิ้มที่ส่งไปจากใจ

    ไม่หล่ะ เราแค่ อยากจะมาบอกข่าวให้รู้อ่ะ  เราคงอยู่ที่นี่ไม่นานหรอก เธอบอก ส่งยิ้มกลับมา   แต่ดูเหมือนว่าสายตาของเธอ ดูเหมือนไม่ยิ้มด้วยเลย

     

    ข่าว..... ข่าวอะไร...อื้ม  น้องน้ำส้มแก้วหนึ่งนะ ผมหันหน้าไปจ้องมองเธออีกครั้ง หลังจากที่ยกกาแฟเย็นขึ้นมาดูด 

     

    เรากำลังจะหมั้น  แล้วก็จะบินไปเรียนต่อที่อังกฤษ

     

    หมั้น?....หมายความว่าไง?

     

    เรารู้  ว่าเธอคงจะตกใจ  แต่  เป็นความจริงเรากำลังจะหมั้น 

    เราคบกับพี่เนตรมา ได้ 3 ปีกว่าแล้ว  คงถึงเวลาที่เราจะ....

     

    จีน่าเอาเราไปไว้ที่ไหน.....ตลอดเวลาจีก็น่าจะรู้ ว่าเราคิดยังไง?

    แล้วทำไม.....????

     

    ปั้น   จีน่าขอโทษนะ   จีน่ารู้ว่าปั้นคิดไงกับเรา...แต่   เรื่องระหว่างเรา...

     

    จีน่ามีคนอื่น?   หรือ  เราเป็นเพียงแค่..คนที่ผ่านมา..

     

    มันไม่ใช่แบบนั้น   ปั้นคือคนที่จีน่ารู้สึกดีด้วยมากที่สุด 

    แต่การหมั้นครั้งนี้  จีน่าเลี่ยงไม่ได้... ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่.....

    จีน่านั่งหน้าเศร้า  ทุกอย่างเราคาดหวังไม่ได้จริง   ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา  ผมคบกับจีน่ามาตั้งแต่ ม.5 จนมาตอนนี้ นับเป็นปีที่ 7 แล้ว 

     

    แต่ดูเหมือนว่า ความรักของเรา คง..... คงมาถึงทางตันแล้วจริงๆ

     

     

    ปั้น  เราแยกกันที่ตรงนี้น่ะ   สำหรับเราสองคน  มันไม่มีอะไรแล้วตั้งแต่เริ่มต้น 

    ที่ผ่านมา เราก็แค่สนุกๆกัน   แต่กับพี่เนต  เรารักเขา  เรารักเขามาก 

    ปั้นเข้าใจเราน่ะ

     

    นี่คือคำพูดสุดท้ายที่เธอบอกกับผม   ยังไม่ทันที่น้ำส้มที่สั่งไปจะได้มาด้วยซ้ำ  เธอก็เดินจากผมไปแล้ว 

     

    7 ปีกับที่รู้จักกันมา ในฐานะเพื่อน คบกันมาจนพัฒนาไปเป็นคนทู้ใจ

    มีอะไรที่มากกว่าคำว่าเพื่อน  แต่สำหรับเธอ..... ผมไม่เคยอยู่ในหัวใจเธอเลยด้วยซ้ำ...

     

    ถึงแม้จะเป็นผู้ชาย  แต่ความเจ็บปวด ที่ตรงหน้าอกข้างซ้ายนี้ ไม่อาจฉุดรั้งน้ำตาที่ไหลย้อนภายในได้  ทันทีที่เธอจากไป  เหมือนกับว่าร่างกายนี้ ได้หมดกำลังไปแล้ว   หัวใจที่เคยมีได้แตกสลายไปแล้ว   

     

    ครั้งหนึ่งก่อนที่จะมีเธอเขามา  ผมก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่มีโลกส่วนตัวช่างสูงเหลือเกิน  ชีวิตที่อยู่ไปวันๆ  นับตั้งแต่ย้ายออกมาอยู่เพียงคนเดียว  ความเหงาก็เข้าปกคลุมและเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต 

    เธอ คือคนที่เข้ามาทำให้ชีวิตของผมมีสีสัน 

    เธอเข้ามาทำให้ความรู้สึกของคน ที่เคยไร้หัวใจ และสิ่งที่เรียกว่า รัก ได้เปิดหัวใจขึ้น  ได้รับความอบอุ่น 

     

    ระหว่างเรา  ต่างก็รู้ตัวดี ว่าสิ่งที่ทำตามข้อตกลง  เราก็แค่สนุกกัน  ในคืนหนึ่งของความผิดพลาด แต่ฉุดรั้งให้เรา ต้องเข้าใกล้กันเรื่อยๆ และในระหว่างนั้นต่างรู้ดี ว่ามันเป็นแค่เพียงสัมผัสทางกาย  ที่ไร้หัวใจ และรู้ดี  เธอเองไม่เคยคิดกับผมไปมากกว่าคำว่าเพื่อนที่สนิทที่สุดเลย รู้ดี ว่ามีเพียงแค่ผมเท่านั้น ...ที่คิดไปคนเดียวต่ฉุดรั้งให้เรา ต้องเข้าใกล้กันเรื่อยๆ

     

    ้าปกคลุมและเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต 

    ก็ยังคงเหมือนเดิม

     

    ต่อไปนี้ ความรู้สึก  ที่เรียกว่าความเหงากำลังจะกลับเข้าจู่โจมอีกครั้ง 

    ต่อแต่นี้  ...คงไม่เหลือใครอีกต่อไปแล้ว  .......

     

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

                เสียงเชียร์กำลังดังก้องอยู่ที่ข้างสนามบาสเก็ตบอล เสียงกรี๊ดดังกระหึ่มขึ้น เมื่อใครคนหนึ่งกำลังนำลูกกระทบแป้นตาข่าย ก่อนหล่นลงเข้าไปอย่างสวยงาม 
     
    ปี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด
     
    เสียงเป่านกหวี๊ด ดังขึ้น บอกว่าเวลาได้หมดลงไปแล้ว 
    รอยยิ้ม เพียงเล็กน้อยเผยให้เห็นที่มุมข้างแก้ม ของผู้ที่นำชัยชนะมาสู่ทีม ชายหนุ่มร่างสูง ผิวสุขภาพดี กำลังชุ่มไปด้วยเหงื่อ หลังจากผ่านแข่งขันมาอย่างหนัก ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
     
    น้ำ กับผ้า  เช็ดซ่ะ
    น้ำเย็นถูกส่งมาให้จาก หญิงสาวผมสอยสั้นประบ่า พร้อมกับผ้าขนหนูเช็ดหน้าสีสวย 
    ขอบใจนะ
    เชปตอบกลับไป ทั้งที่ยังหันหลังให้อยู่   ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นคนยื่นของพวกนี้มาให้
     
    เสร็จแล้วออกไปเจอข้างนอกหน่อยนะ   ที่เดิม
    คำพูดเสียงเรียบออกมาจาก คนใบหน้าสวย ยังไม่ทันที่จะได้หันไปมอง เธอก็เดินหันหลังออกไปแล้ว ที่เดิมที่เธอพูดถึง หมายถึง ที่ ที่เรามักจะพบกันบ่อยๆ เป็นม้านั่งหินอ่อน ใต้ต้นไม้ใหญ่ ริมสระน้ำข้างๆกับตึกเรียนหลังเก่า
     
    ไม่นาน หลังจากที่แยกตัวกับเพื่อนในทีมแล้วก็มุ่งตรงไปยังที่ ที่นัดกันไว้
     
    มีอะไร? เสียงคำถามสั้นๆห้วนๆออกมาจากริมฝีปากหนา ของหนุ่มตาคม
     
    ไม่มีอะไร แล้วจะเรียกมาไหมหล่ะ หญิงสาว นั่งดูดน้ำปั่นในมือ พูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย
     
     
    มีอะไรก็พูดมา อย่ามาทำอ้ำอึ้ง
     
    เราเลิกกันเถอะ น้ำเสียงราบเรียบยังคงไม่ยีระกับคำพูดที่พูดออกมา เรียบเฉย นิ่ง ราวกับว่า มันเป็นเรื่องไม่ยากนักที่จะพูดกับนี้ออกมา
     
    หมายความว่าไง? เสียงกร้าวดังขึ้น ลำแขนแข็งแกร่งคว้าไปที่ข้อมือเล็ก
     
    ปล่อย!”
     
    ไม่ จนกว่าจะพูดให้รู้เรื่อง   ทำไม ...
     
    ฉันเบื่อ   เบื่อที่จะต้องเป็นแบบนี้ เบื่อที่จะต้องตามเคลียร์
    เบื่อที่จะต้องทำอะไรตามใจนาย เบื่อ....
    สีหน้าเอือมระอา บ่งบอกออกมาจากใบหน้าขาวที่ตอนนี้ขึ้นสีระเรื่อไปด้วยความเจ็บที่ข้อมือของตนเอง จากการถูกบีบรัดอย่างรุนแรงของคนที่กำลังจะได้ชื่อว่าเป็น อดีตคนรัก
    เบื่อ...ที่จะรักฉัน ด้วยใช่ไหม? สีหน้าเจ็บปวดเผยขึ้นมาบนดวงตาที่แข็งกร้าวใบหน้า เรียบเฉย กัดที่กรามจนกลายเป็นสันนูน 
     
    ความรู้สึกที่มีอยู่ตอนนี้มันเหมือนกับว่ากำลังถูกหักหลัง ตลอดเวลาที่คบกันมา พยายามแล้ว พยายามว่าจะไม่รัก แต่แล้วผู้หญิง ที่ดีพร้อมไปทุกอย่างก็ไม่เคยแยกจากไป เพราะอะไร ไม่ว่าจะทำอะไรเลวร้ายแค่ไหน เธอก็จะคอยอยู่เคียงข้าง ให้กำลังใจเสมอมา
    แต่.... วันนี้ ทำไมกลับเปลี่ยนไป....
     
            “มันก็ไม่เชิงหรอกน่ะ เพียงแต่ มันไม่มีอะไรให้ต้องได้ลุ้น ให้สนุกอีกแล้วสิ
    อย่างกับว่า เกมส์รักครั้งนี้ ของฉัน มันได้จบไปแล้ว   แล้วก็จบอย่างสวยงามซ่ะด้วยสิ
    รอยยิ้มอาบยาพิษเริ่มเผยออกมาให้เห็น   ก่อนหน้านี้ เธอคือหญิงสาวที่น่าทะนุถนอม แต่ หำไมสิ่งที่เห็นในตอนนี้กลับ เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน
                หมายความว่ายังไง?
     
                ก็หมายความว่า...... เธอพูดพร้อมกับเริ่มบิดข้อมือเล็กนั่นให้ออกจากการบีบรัดของมือแกร่ง   อาจเป็นเพราะตอนนี้กำลังได้รับความเจ็บปวด ทำให้แรงที่เคยมีเริ่มลดน้อยลง  เธอเดิน อ้อมมาข้างหน้าผม พร้อมกับนั่งลงบนตัก ใบหน้าเนียนใส ฉายแววตาเย้ยหยัน  
                มันหมดสนุกแล้วยังไงล่ะ ... ไม่มีอะไรที่ฉันต้องการแล้วจะไม่ได้ ไม่มีเกมส์ไหนที่ฉันยื่นมือเข้าไปร่วมแล้วจะไม่ชนะ   เกมส์ครั้งนี้ มันจบลงไป โดยมีหัวใจของนาย.....มาอยู่ในกำมือ....ฮึ...คิดว่าฉันจะจริงจังกำคนอย่างนายหรือไง    ไม่หรอกน่ะ 
    อย่างนาย ก็เป็นได้แค่คู่ควงที่เพิ่มเสน่ห์ให้กับฉัน   การที่ได้ควงนาย มันทำให้ฉันเหมือนอยู่เหนือคนอื่น   และนี่ มันก็จบแล้ว สำหรับบทเรียนที่นี่.... นี่เราก็จบกันแล้วน่ะ
    ถ้าจะให้ต้องมาจมอยู่กับความรัก โง่ๆ แบบนี้ ฉันไม่ต้องการ... ประทับรอยจูบไว้เป็นที่ระลึกของความเจ็บปวด   หัวใจตอนนี้แตกเป็นเสี่ยงๆ ความเชื่อใจที่เคยมี ศรัทธาของความรัก ถูกเธอทำให้มันละลายเป็นผุยผง
     
            “ตลอดเวลาที่ผ่านมา   มันก็แค่เกมส์สินะ
                ตอนนี้สิ่งที่ผมจะทำได้ ก็แค่การข่มใจไว้เท่านั้น เจ็บปวดเกินกว่าจะทำอะไรได้ อยากจะทำลายคนตรงหน้าให้แตกเป็นเสี่ยงๆ ให้หายไปจากโลกนี้ไปซ่ะ
    แต่ก็ทำไม่ได้.....   นั่นเพราะ เธอ เคยเป็นเสมือนหัวใจของตน   
                คนที่รักที่สุด  
            คนที่เคยคิดว่าชีวิตนี้ จะมอบให้ทุกอย่าง
                คนที่ไม่เคยเอะใจเลยว่าจะทรยศ ได้....เจ็บปวดขนาดนี้
     
                มันก็ไม่เชิงเท่าไหร่ เพียงแต่ว่า สำหรับนาย มันนานกว่าทุกๆคนที่ผ่านมา
    อ้อ และอีกอย่าง....
                เธอก็มีเป้าหมายใหม่....แล้วสินะ
     
                “ >_______< ”
                                                                                         
            “ไปแล้วนะ เขารออยู่ บายๆ เธอเดินจากไปแล้ว ไปพร้อมหัวใจที่แตกสลายของผม ไปพร้อมกับศรัทธาทุกอย่างของความรัก
     
                ถ้าเป็นคนอื่น ใครคนนั้นคงไม่มีวันได้เดินออกไปแบบนี้แน่ แต่เธอคนนี้.... 
     
    ถูกทรยศ
     
    หักหลัง
     
    ไม่เคยรัก
     
    และเป็นแค่เกมส์
     
     
     
                การตัดสินใจเขามาเรียนต่อที่ เมืองหลวงของไทย หลังจากที่เกิดเรื่องที่ภูเก็ต ทำให้ผมได้พบกับเธอ คนที่สอนให้หัวใจของคนแข็งกระด้างได้เรียนรู้ว่ารัก คนที่แข็งกร้าวได้เรียนรู้ที่จะสนใจคนรอบข้าง   .....และคนที่ทำให้เจ็บปวด เจียนตาย....
     
    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
     

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

    เสียงเพลงยังคงไหลเรื่อยไปตามเสียงที่ดังกระหึ่มจากลำโพงที่ถูกติดอยู่ทั่วทั้งบริเวณ ชายหนุ่มหญิงสาวนักท่องราตรีต่าง โยกย้ายส่ายสะโพกไปตามจังหวะ ผีเสื้อราตรี ส่องประกายแวววามระยับในยามค่ำคืน  โลกของกลางคืนไม่เคยขาดสีสัน

    เสียงพูดคุยที่ดูเหมือนตะโกนแต่กลับได้ยินเสียงเพียงน้อยนิด  การโน้มตัวเพื่อเข้าไปพูดคุยที่ข้างหู ดูจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด...และบางทีการเข้าใกล้ได้ขนาดนี้ อาจจะมีการที่ต้องเสียแก้มเนียนไปให้กับคนที่โน้มลงมาก็เป็นได้ ...ซึ่งมันก็ให้เห็นในแทบจะทุกซอก ที่ๆ มืดสลัวแบบนี้

     

    อะไรน่ะ   มาไม่ได้   ...  เออไม่เป็นไร กุอยู่คนเดียวได้    อืมๆ   ไม่เป็นไรๆ  กุไม่เป็นไร  น้ำเสียงที่ดังเกือบเหมือนตะโกนในตอนแรกของหนุ่มผมสั้นที่ถูกตัดให้เข้าทรง เจ้าของเรียวตาคม ใบหน้าติดไปทางลูกครึ่งอยู่บ้าง  แต่ก็มีส่วนที่มีความเป็นไทยผสมอยู่อย่างลงตัว ค่อยๆผ่อนเสียงลงเมื่อปลายสายบอกความจำเป็นที่มานั่งดื่มเป็นเพื่อนไม่ได้

     

    สุดท้ายคืนนี้ ก็ต้องมานั่งอยู่คนเดียวสินะ ทาคาริยะ เชอิจิ ได้แต่นั่งบอกตัวเอง ที่เค้าเตอร์ ของบาร์ ยามคำคืน 

    นิ้วเรียวยาวคล้องนิ้วเข้ากับส่วนหว้าของแก้วน้ำทรงมน  ภายในมีน้ำสีเหลืองอำพัน กำลังหมุนวนไปตามแรงโคลงน้อยๆของเจ้าขอมือ ปล่อยอารมณ์ความคิดให้ไหลไปเรื่อยๆ

     

     

    อีกฝั่งหนึ่งของสถานที่ปลดปล่อยความเจ็บปวด  และเพื่อทำลายการเข้ามาของความเหงา  ในมุมมืดของโซฟาตัวยาวสีแดงสด มีร่างโปร่งบางของใครคนหนึ่งกำลังจรดแก้วใบใสกับสีแดงสดรสชาติฝาดคอลงไป แก้วแล้วแก้วเล่ายังคงถูกมือเรียวสวยกระดกแก้วขึ้น ราวกับน้ำนั่นเป็นเพียงแค่น้ำหวานธรรมดา  

    ข้างๆกายมีชายหนุ่มในชุดสูทสีดำนั่งชงเครื่องดื่มให้   และไม่ว่าครั้งไหนที่ยื่นให้คนร่างโปร่งบางเล็ก   ไม่ว่าจะมากน้อยสักเท่าไหร่  คนตรงหน้าก็จะยกทีเดียวแล้วหมดไปในทันที

    เฮ้ย....ปั้นน้อยๆหน่อย  เสียงของเจ้าของชายหนุ่มในชุดดำเอ่ยขึ้นห้ามปรามเพื่อนของตน

     

    นาฟ วันนี้ขอสักวันเหอะ กุอยากจะลืม  ลืม...

    น้ำเสียงขาดหายไปพร้อมกับน้ำใสๆ ที่เริ่มหยดไหลรินออกมา   น้ำตาของลูกผู้ชาย ที่ไม่เคยคิดจะมีมันให้กับใคร  แต่ในที่สุดมันก็ไหลออกมา... เพียงแต่แค่เสี้ยววินาทีที่เพื่อนจะหันมาเจอ  นิ้วมือสวยก็ปาดมันออก   ราวกับจะลบความทรงจำที่เคยมีให้หายไปพร้อมๆกัน  

    กับคนที่คิดจะจริงจัง แต่แล้วทำไมฟ้าต้องคอยทำร้ายด้วย  แม้จะพอรู้ตัวมาโดยตลอดว่าอาจเป็นได้แค่เพียง ความสนุกชั่วคราว   แต่หัวใจยังคงอดร่ำร้องอยากจะเป็นตัวจริงของเธอ   ...  แม้จะรู้ว่าไม่มีสิทธิ์  แต่สิ่งหนึ่งที่รับรู้อยู่ตอนนี้คือ ความเจ็บปวดกำลังทำร้าย  ความเหงากำลังคืบคลานเข้ามาใกล้อีกครั้ง

     

            ภูดินันท์  อันน์คฤงทีป์  ยังคงนั่งนิ่งปล่อยอารมณ์ให้ล่องลอยออกไปไกล และเทน้ำที่ถูกนำมาวางตรงหน้าจากคนที่เคยนั่งด้วยกันที่ตอนนี้ต้องลุกออกไปคุมงานในร้าน  

    ไม่ผิดหรอกถ้าจะบอกว่า ร้านที่นายภูดินันท์มานั่งดื่มอยู่ในตอนนี้ก็คือร้านในกิจการครอบครัวของเพื่อน  

     

                ความรัก ไม่ว่าอยู่ในรูปแบบใด ก็ทั้งสุขและทุกข์  ไปในคราวเดียวกัน  และเมื่อวันเวลาของการลาจากเริ่มมาถึงความเจ็บปวดก็จะยังคงตามมาคอยหลอกหลอนอยู่กับเรา

    คำคืนที่เจ็บปวดนี้   ไม่ว่าฝ่ายไหนก็ต่างอยากจะลบเลือนมันออกไปจากใจ 

     

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ในที่สุดก็ครบ ร้อยสักที 

    ภาษาในช่วงนี้อาจจะไม่ดีนักแต่ก็จะพยายามทำให้มันดีขึ้นในตอนต่อๆไปก็แล้วกัน(แต่ไม่รู้ว่าจะดีขึ้นสักแค่ไหน)

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×