คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 : ต้นเหตุของเรื่องราว 100%
Chapter 1 : ต้นเหตุของเรื่องราว
กลิ่นกาแฟ หอมอบอวลไปทั่ว ตั้งแต่เริ่มย่างก้าวผ่านประตูบานกระจกเข้ามา กลิ่นหอมอ่อนๆ ชวนเสน่ห์ให้น่าหลงใหล ทันทีที่มีแขกเข้ามาภายใน พนักงานเสิร์ฟต้อนรับ ยื่นเมนู ต่างให้ได้เลือกสรร
หอมกรุ่นกาแฟหลายชนิดมีให้เลือก ทั้งอุ่นร้อนพอให้หอม หรือหวานลิ้มของกาแฟเย็น เมนูข้างเคียง ด้วยชิ้นเค้กก้อนขนาดย่อม หลากรส
แผ่วเสียงเพลงนุ่มในบรรยากาศ ที่เป็นส่วนตัว ทั้งเงียบและสงบนิ่ง
ผมเลือกที่จะนั่งข้างๆบ้านกระจก ที่สามารถมองผ่านออกไปเห็นผู้คนกำลังเดินซื้อของภายในห้าง บางคนมาคนเดียวกับความโฉบเฉี่ยว บางคนมาเป็นคู่ กับเพื่อน กับคนรัก หรือมาเป็นกลุ่มๆ ทุกๆอย่างที่มองผ่านออกไปจากในนี้ให้แง่มุมและแง่คิดให้ได้เพลิดเพลิน
หญิงสาวในชุดแสกเดรสสั้น สีชมพูหวาน รูปหน้าเรียวไข่ แต่งแต้มด้วยสีที่อ่อนหวาน กับผมลอนยาวสีน้ำตาลอ่อน ขับความอ่อนหวาน สะกดตาให้ผมต้องมองตาม นับตั้งแต่ที่เธอก้าวขาขึ้นผ่านบันไดเลื่อน ขึ้นมายังชั้นที่ผม ได้นั่งอยู่นี้
ไม่นานนัก
“รอนานไหม?” เสียงหวานของใครคนหนึ่ง เดินเข้ามาหาผมด้วยรอยยิ้ม
“ไม่หรอก ... ที่นี่บรรยากาศดีนะ” ผมตอบกลับไปตามความรู้สึก กาแฟที่สั่ง ถูกนำมาวางไว้ กรุ่นหอมกลิ่นอบอวลของความหอมหวาน
“อื้ม....คิดไว้แล้ว ว่าต้องชอบ”เธอบอกกับผม แล้วนั่งลงที่เก้าอี้สีขาว ที่อยู่ตรงข้าม เธอ คือคนเดียวกับที่สะกดสายตาการมองเห็นของผม ให้จับจ้องไว้ที่เธอ นับตั้งแต่เริ่มมองเห็นตั้งแต่ไกลๆ
เธอที่เป็นเสมือนคนจับจองหัวใจของผมไว้มาโดยตลอด
โดยที่เธอเองไม่เคยรู้ตัวเลยสักครั้ง....
“สั่งอะไรหน่อยไหม? ทานอะไรมาหรือยัง” ผมจ้องมองเธอด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม รอยยิ้มที่ส่งไปจากใจ
“ไม่หล่ะ เราแค่ อยากจะมาบอกข่าวให้รู้อ่ะ เราคงอยู่ที่นี่ไม่นานหรอก” เธอบอก ส่งยิ้มกลับมา แต่ดูเหมือนว่าสายตาของเธอ ดูเหมือนไม่ยิ้มด้วยเลย
“ข่าว..... ข่าวอะไร...อื้ม น้องน้ำส้มแก้วหนึ่งนะ” ผมหันหน้าไปจ้องมองเธออีกครั้ง หลังจากที่ยกกาแฟเย็นขึ้นมาดูด
“เรากำลังจะหมั้น แล้วก็จะบินไปเรียนต่อที่อังกฤษ”
“หมั้น?....หมายความว่าไง?”
“เรารู้ ว่าเธอคงจะตกใจ แต่ เป็นความจริงเรากำลังจะหมั้น
เราคบกับพี่เนตรมา ได้ 3 ปีกว่าแล้ว คงถึงเวลาที่เราจะ....”
“จีน่าเอาเราไปไว้ที่ไหน.....ตลอดเวลาจีก็น่าจะรู้ ว่าเราคิดยังไง?
แล้วทำไม.....????”
“ปั้น จีน่าขอโทษนะ จีน่ารู้ว่าปั้นคิดไงกับเรา...แต่ เรื่องระหว่างเรา...”
“จีน่ามีคนอื่น? หรือ เราเป็นเพียงแค่..คนที่ผ่านมา..”
“มันไม่ใช่แบบนั้น ปั้นคือคนที่จีน่ารู้สึกดีด้วยมากที่สุด
แต่การหมั้นครั้งนี้ จีน่าเลี่ยงไม่ได้... ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่.....”
จีน่านั่งหน้าเศร้า ทุกอย่างเราคาดหวังไม่ได้จริง ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ผมคบกับจีน่ามาตั้งแต่ ม.5 จนมาตอนนี้ นับเป็นปีที่ 7 แล้ว
แต่ดูเหมือนว่า ความรักของเรา คง..... คงมาถึงทางตันแล้วจริงๆ
“ปั้น เราแยกกันที่ตรงนี้น่ะ สำหรับเราสองคน มันไม่มีอะไรแล้วตั้งแต่เริ่มต้น
ที่ผ่านมา เราก็แค่สนุกๆกัน แต่กับพี่เนต เรารักเขา เรารักเขามาก
ปั้นเข้าใจเราน่ะ”
นี่คือคำพูดสุดท้ายที่เธอบอกกับผม ยังไม่ทันที่น้ำส้มที่สั่งไปจะได้มาด้วยซ้ำ เธอก็เดินจากผมไปแล้ว
7 ปีกับที่รู้จักกันมา ในฐานะเพื่อน คบกันมาจนพัฒนาไปเป็นคนทู้ใจ
มีอะไรที่มากกว่าคำว่าเพื่อน แต่สำหรับเธอ..... ผมไม่เคยอยู่ในหัวใจเธอเลยด้วยซ้ำ...
ถึงแม้จะเป็นผู้ชาย แต่ความเจ็บปวด ที่ตรงหน้าอกข้างซ้ายนี้ ไม่อาจฉุดรั้งน้ำตาที่ไหลย้อนภายในได้ ทันทีที่เธอจากไป เหมือนกับว่าร่างกายนี้ ได้หมดกำลังไปแล้ว หัวใจที่เคยมีได้แตกสลายไปแล้ว
ครั้งหนึ่งก่อนที่จะมีเธอเขามา ผมก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่มีโลกส่วนตัวช่างสูงเหลือเกิน ชีวิตที่อยู่ไปวันๆ นับตั้งแต่ย้ายออกมาอยู่เพียงคนเดียว ความเหงาก็เข้าปกคลุมและเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต
เธอ คือคนที่เข้ามาทำให้ชีวิตของผมมีสีสัน
เธอเข้ามาทำให้ความรู้สึกของคน ที่เคยไร้หัวใจ และสิ่งที่เรียกว่า “รัก” ได้เปิดหัวใจขึ้น ได้รับความอบอุ่น
ระหว่างเรา ต่างก็รู้ตัวดี ว่าสิ่งที่ทำตามข้อตกลง เราก็แค่สนุกกัน ในคืนหนึ่งของความผิดพลาด แต่ฉุดรั้งให้เรา ต้องเข้าใกล้กันเรื่อยๆ และในระหว่างนั้นต่างรู้ดี ว่ามันเป็นแค่เพียงสัมผัสทางกาย ที่ไร้หัวใจ และรู้ดี เธอเองไม่เคยคิดกับผมไปมากกว่าคำว่าเพื่อนที่สนิทที่สุดเลย รู้ดี ว่ามีเพียงแค่ผมเท่านั้น ...ที่คิดไปคนเดียว
ต่อไปนี้ ความรู้สึก ที่เรียกว่าความเหงากำลังจะกลับเข้าจู่โจมอีกครั้ง
ต่อแต่นี้ ...คงไม่เหลือใครอีกต่อไปแล้ว .......
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เสียงเพลงยังคงไหลเรื่อยไปตามเสียงที่ดังกระหึ่มจากลำโพงที่ถูกติดอยู่ทั่วทั้งบริเวณ ชายหนุ่มหญิงสาวนักท่องราตรีต่าง โยกย้ายส่ายสะโพกไปตามจังหวะ ผีเสื้อราตรี ส่องประกายแวววามระยับในยามค่ำคืน โลกของกลางคืนไม่เคยขาดสีสัน
เสียงพูดคุยที่ดูเหมือนตะโกนแต่กลับได้ยินเสียงเพียงน้อยนิด การโน้มตัวเพื่อเข้าไปพูดคุยที่ข้างหู ดูจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด...และบางทีการเข้าใกล้ได้ขนาดนี้ อาจจะมีการที่ต้องเสียแก้มเนียนไปให้กับคนที่โน้มลงมาก็เป็นได้ ...ซึ่งมันก็ให้เห็นในแทบจะทุกซอก ที่ๆ มืดสลัวแบบนี้
“อะไรน่ะ มาไม่ได้ ... เออไม่เป็นไร กุอยู่คนเดียวได้ อืมๆ ไม่เป็นไรๆ กุไม่เป็นไร” น้ำเสียงที่ดังเกือบเหมือนตะโกนในตอนแรกของหนุ่มผมสั้นที่ถูกตัดให้เข้าทรง เจ้าของเรียวตาคม ใบหน้าติดไปทางลูกครึ่งอยู่บ้าง แต่ก็มีส่วนที่มีความเป็นไทยผสมอยู่อย่างลงตัว ค่อยๆผ่อนเสียงลงเมื่อปลายสายบอกความจำเป็นที่มานั่งดื่มเป็นเพื่อนไม่ได้
“สุดท้ายคืนนี้ ก็ต้องมานั่งอยู่คนเดียวสินะ” ทาคาริยะ เชอิจิ ได้แต่นั่งบอกตัวเอง ที่เค้าเตอร์ ของบาร์ ยามคำคืน
นิ้วเรียวยาวคล้องนิ้วเข้ากับส่วนหว้าของแก้วน้ำทรงมน ภายในมีน้ำสีเหลืองอำพัน กำลังหมุนวนไปตามแรงโคลงน้อยๆของเจ้าขอมือ ปล่อยอารมณ์ความคิดให้ไหลไปเรื่อยๆ
อีกฝั่งหนึ่งของสถานที่ปลดปล่อยความเจ็บปวด และเพื่อทำลายการเข้ามาของความเหงา ในมุมมืดของโซฟาตัวยาวสีแดงสด มีร่างโปร่งบางของใครคนหนึ่งกำลังจรดแก้วใบใสกับสีแดงสดรสชาติฝาดคอลงไป แก้วแล้วแก้วเล่ายังคงถูกมือเรียวสวยกระดกแก้วขึ้น ราวกับน้ำนั่นเป็นเพียงแค่น้ำหวานธรรมดา
ข้างๆกายมีชายหนุ่มในชุดสูทสีดำนั่งชงเครื่องดื่มให้ และไม่ว่าครั้งไหนที่ยื่นให้คนร่างโปร่งบางเล็ก ไม่ว่าจะมากน้อยสักเท่าไหร่ คนตรงหน้าก็จะยกทีเดียวแล้วหมดไปในทันที
“เฮ้ย....ปั้นน้อยๆหน่อย” เสียงของเจ้าของชายหนุ่มในชุดดำเอ่ยขึ้นห้ามปรามเพื่อนของตน
“นาฟ วันนี้ขอสักวันเหอะ กุอยากจะลืม ลืม...”
น้ำเสียงขาดหายไปพร้อมกับน้ำใสๆ ที่เริ่มหยดไหลรินออกมา น้ำตาของลูกผู้ชาย ที่ไม่เคยคิดจะมีมันให้กับใคร แต่ในที่สุดมันก็ไหลออกมา... เพียงแต่แค่เสี้ยววินาทีที่เพื่อนจะหันมาเจอ นิ้วมือสวยก็ปาดมันออก ราวกับจะลบความทรงจำที่เคยมีให้หายไปพร้อมๆกัน
กับคนที่คิดจะจริงจัง แต่แล้วทำไมฟ้าต้องคอยทำร้ายด้วย แม้จะพอรู้ตัวมาโดยตลอดว่าอาจเป็นได้แค่เพียง ความสนุกชั่วคราว แต่หัวใจยังคงอดร่ำร้องอยากจะเป็นตัวจริงของเธอ ... แม้จะรู้ว่าไม่มีสิทธิ์ แต่สิ่งหนึ่งที่รับรู้อยู่ตอนนี้คือ ความเจ็บปวดกำลังทำร้าย ความเหงากำลังคืบคลานเข้ามาใกล้อีกครั้ง
ภูดินันท์ อันน์คฤงทีป์ ยังคงนั่งนิ่งปล่อยอารมณ์ให้ล่องลอยออกไปไกล และเทน้ำที่ถูกนำมาวางตรงหน้าจากคนที่เคยนั่งด้วยกันที่ตอนนี้ต้องลุกออกไปคุมงานในร้าน
ไม่ผิดหรอกถ้าจะบอกว่า ร้านที่นายภูดินันท์มานั่งดื่มอยู่ในตอนนี้ก็คือร้านในกิจการครอบครัวของเพื่อน
ความรัก ไม่ว่าอยู่ในรูปแบบใด ก็ทั้งสุขและทุกข์ ไปในคราวเดียวกัน และเมื่อวันเวลาของการลาจากเริ่มมาถึงความเจ็บปวดก็จะยังคงตามมาคอยหลอกหลอนอยู่กับเรา
คำคืนที่เจ็บปวดนี้ ไม่ว่าฝ่ายไหนก็ต่างอยากจะลบเลือนมันออกไปจากใจ
ในที่สุดก็ครบ ร้อยสักที
ความคิดเห็น