คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทนี้ขออุทิศให้แก่ความเวิ่นเว้อ
ทำไงดี o_O เรื่องแบบนี้ฉันต้องบอกใครซักคน ใครก็ได้ช่วยบอกฉันทีว่ามันไม่จริง
ฉันไม่ได้โดนบอกเลิก ฉันไม่ได้ถูกผู้ชายไม่ชอบ ฉันยังสวย มีสเน่ห์และยังเป็นสาวป๊อปอันดับหนึ่งของโรงเรียน
ไม่มีผู้ชายหน้าไหนที่ไม่ชอบฉัน
บะหมี่เกี๊ยว !!
ฉันคิดถึงชื่อเพื่อนสนิทก่อนจะกดโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว
“อ่ะถึงฉันเริ่ดฉันเริ่ด ฉันก็ไม่เชิดใส่เธอ ถึงฉันร้ายฉันร้าย ฉันก็น่ารักกับเธอ อยากจะลองเล่นตัวอ่ะ ฮืม
ก็กลัวก็กลัวว่าเธอไม่เล่นตอบกลับมานะ~~”
ตั้งเสียงรอสายได้แร๊ดแรดด สงสัยเอาแต่เมาท์กับผู้ชาย เลยไม่ยอมรับโทรศัพท์เพื่อน ฮึ่มมม!! แต่นี่ไม่ใช่เวลามานั่งวิจารณ์เพื่อนตัวเองนะ T T สิ่งที่ฉันต้องทำก็คือต้องการที่ปรึกษาไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมมันไม่รับโทรศัพท์ฉันโทรกลับไปอีกรอบ แต่มันก็ยังไม่รับ
บะหมี่เกี๊ยว เธอกำลังทำเพื่อนเธอร้องไห้นะ T T โดยไม่ได้ตั้งใจ น้ำตาฉันก็ไหลลงมาช้าๆ ไม่ใช่เพราะความผิดหวังจากความรัก แต่เพราะความผิดหวังกับสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิต เหมือนคนที่สอบเลขได้เต็มมาตลอด แล้วอยู่ๆก็ตกเลข ฉันน้ำตาไหล แค่เพราะตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง เพราะมันอาจจะทำให้ประวัติเริ่ดหรูของฉันด่างพร้อยซะแล้ว ทำไง ทำไง ทำไง T T
ฉันฝันไปใช่มั๊ยยยย??????
“Girl! Pretty Girl! Pretty Girl! โชกึมโด มังซอลีล กอซ ออบจโย นัน Beautiful Girl! Beautiful Girl! Beautiful! ye ye ye ye..”
อ๊ะ o_o โทรศัพท์นี่ ฉันรีบปาดน้ำตาอย่างรวดเร็วก่อนจะควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋า อาจจะเป็นบะหมี่เกี๊ยว o_o
“หมี่เกี๊ยว!!!”
“จ๋า ^^ ว่าไงจ๊ะที่รัก“
“ถ้ารักมากก็รับโทรศัพท์ซะสิ มัวแต่แด๊ะแด๋อยู่กับผู้ชายเลยไม่รับโทรศัพท์เพื่อนใช่มั๊ยล่ะ” ฉันโวย
“เออย่ะ ก็นิดหน่อย แต่ไม่มากเท่าแกหรอก ใครจะมีผู้ชายล้อมหน้าล้อมหลังเหมือนแกล่ะยะ จะโทรมาอวดอะไรล่ะ ไปคว้าหนุ่มหล่อที่ไหนมาอีกล่ะ?” บะหมี่เกี๊ยวพูดอย่างอารมณ์ดี แต่นั่นยิ่งทำให้น้ำตาฉันไหลลงมา
“ฉัน..ฉัน..” ฉันกลื้นก้อนสะอื้นลงไป “ฉันถูกบอกเลิก กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
ปัง ปัง ปัง ปัง !!!!!
“เห้! คนที่อยู่ส้วมห้องนี้น่ะ ขี้ไม่ออกรึไง กรี๊ดทำไมวะ!”
RATING LOVE
ฉันนั่งจ้องกระจกอยู่ในห้องนอนด้วยอารมณ์ที่บอกไม่ถูก
ช็อค! สับสน! งง! เสียใจ! ผิดหวัง! ไม่เข้าใจ! ไม่มั่นใจ!
ดูคนที่อยู่ในกระจกสิ สวยออกขนาดนี้ ยิ้มก็สวยมีสเน่ห์ มีลักยิ้มน่ารัก ตาคม จมูกโด่ง ริมฝีปากเรียวสวย ฟันขาวเรียงเป็นระเบียบ มีเขี้ยวนิดนึงดูมีสเน่ห์ หุ่นก็ดี เอว อก สะโพกรับกันหมด ผิวขาวเนียนกำลังสวย
ยังไงคนในกระจกก็สวยชัดๆ! ไม่ใช่สวยธรรมดา แต่เพอร์เฟคชนิดหาที่ติไม่ได้จริงๆ!
แล้วผู้หญิงคนนี้ยังขาดอะไรไปอีกล่ะห้ะ??
หลังจากถูกเจ๊ปากตลาดคนนึงไล่ออกมาจากห้องส้วมเพราะกรี๊ดดังเกินไป(แกผิดไม่ใช่เรอะ=_=) ฉันก็ต้องระเห็จออกจากห้าง กลับบ้านมา แต่คำพูดของบะหมี่เกี๊ยวก็ยังวนเวียนวกวนในหัวฉันตลอดเวลา
“ฉันถูกบอกเลิก กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
...
..
.
“อะไร นี่แกกรี๊ดในห้องน้ำจริงเหรอเนี่ย มิน่าเสียงมันก้องๆ แต่ประเด็นคือแกกล้ากรี๊ดในห้องน้ำหรอฮะ เข้าใจว่ายางอายอะไม่มีแต่แกก็ควรเกรงใจข้างห้อง สมมุติคนเค้ากำลังอีอยู่ เจอเสียงกรี๊ดมหาปลัยแก อึ๊ก็คงไหลย้อนไปถึงหลอดอาหารแล้ว เป็นฉันฉันคงปีนคอห่านไปตบแกอะ”
บ้าสิ =_= ห้างไฮโซขนาดนี้ ถ้ายังเป็นคอห่านฉันก็ไม่เข้าแล้ว (ความจริงก็ไม่ได้เข้าอะนะ แต่เข้ามาร้องไห้ -_-;;)
“ว่าแต่ก่อนแกกรี๊ดแกพูดว่าอะไรนะ เสียงแกสั่นๆอะ เลยไม่ได้ยิน ไม่มีสัญญาณปะเนี่ย”
ฉันสูดหายใจลึกๆ ก่อนจะตัดสินใจพูดอีกครั้ง โว้ย! แกช่วยฟังดีๆ อย่าให้ฉันพูดเรื่องนี้ซ้ำซากได้มั๊ย T T
“แกจำพี่พูลได้ปะ”
“พูลไหน? พูลศิริที่เป็นประธานนักเรียนปะ?”
“เย้ย ไม่ใช่ๆ พูลผู้ชายดิวะ อีกอย่าง ไม่ใช่ พูน-สิ-ริ แต่เป็น pool(พูว) ที่แปลว่าสระว่ายน้ำต่างหาก”
“อ้อๆ พี่คนที่หล่อๆ ที่เค้าจีบแกมาตั้งแต่เดือนแล้วแล้วปะ”
“หรอ ตั้งแต่เดือนที่แล้วหรอ =_= ไม่เห็นรู้เลย”
“เอ้า แล้วไง แกงาบเค้ามาเป็นแฟนอีกแล้วเหรอ”
ไอ้นี่ -_-;; พูดงาบนี่ เห็นฉันเป็นจระเข้หรอ
“เป็นตั้งแต่วันพุธแล้วย่ะ แต่วันนี้น่ะเลิกแล้ว”
“แกนี่เลวจริงๆ บอกเลิกเค้าแล้วเหรอ o-;;”
“ความจริง เค้าบอกเลิกฉัน” ฉันพูดเสียงเบาลง แต่ก็มั่นใจว่าบะหมี่เกี๊ยวได้ยินแน่ๆ
“ฮะ o_O อะไรนะ ไม่จริง มีผู้ชายบอกเลิกแกเนี่ยนะ”
“เออ อย่างที่บอก แก เค้าบอกว่า ฉันมั่นเกินไปอะ”
“แล้ว แล้ว o_o(ช็อคอยู่)แกว่าไง”
“ฉันก็ช็อคดิ แต่ก็วางฟอร์มกลับอะ แบบฉันไม่อยากให้พี่พูลคิดว่าเค้าเหนือกว่าฉัน เค้าบอกเลิกฉันไรงี้ ฉันก็แบบ อ๋อเหรอ ความจริงวันนี้ก็จะมาบอกเลิกเค้าอยู่แล้ว เบื่อเหมือนกันพวกผู้ชายที่ยอมตามผู้หญิงต้อยๆเนี่ยไรงี้ เพราะฉะนั้นเค้าก็ไม่ได้ชื่อว่าเป็นคนบอกเลิกฉันซะทีเดียวหรอก เพราะฉันโต้กลับทัน”
“ทีเงี้ย มีสติจังเลยนะ-_-;;”
“โอ้ยแก ฉันเครียดจะตายอยู่แล้ว นี่ฉันถูกผู้ชายบอกเลิกเหรอเนี่ย ไม่จริงใช่มั๊ย ฉันไม่ดีตรงไหน ฉันทั้งสวย ทั้งมีสเน่ห์ ไม่เคยมีใครกล้าบอกเลิกฉันเลยนะ ไม่มีทาง พี่พูลบอกเลิกฉันแบบนี้แสดงว่าเค้าไม่เห็นสเน่ห์ฉันใช่มั๊ย นี่ฉันสเน่ห์ลดลงใช่มั๊ย หรือสวยน้อยลง แกบอกฉันสิ ฉันฟุ้งซ่านจะตายอยู่แล้ว”
“ใจเย็นแก อย่าเพิ่งเพ้อเจ้อ นี่แกคิดอะไรอยู่เนี่ย”
“ไม่รู้ ฉันบอกไม่ถูก มันเหมือนแบบศูนย์เสียความมั่นใจ แก ฉันไม่เคยถูกผู้ชายบอกเลิก ฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำไมคนเพอร์เฟคอย่างฉันถึงถูกผู้ชายบอกเลิกล่ะ ฉันไม่เคย..ไม่เคย..”
“หยุด โอเค เข้าใจแล้ว! แก อย่าได้คิดมากไป ก็แค่ถูกบอกเลิก มันไม่ใช่เพราะแกไม่สวย ไม่มีสเน่ห์ แกยังมี มีมาก มากที่สุดในโรงเรียน แกยังคงเพอร์เฟค ขนาดที่ฉันหาที่ติของหน้าตาแกไม่ได้เลย(จำใจชม) แต่อาจจะมีอย่างนึงที่แกไม่เคยทำนะ ผู้หญิง ผู้ชาย เค้าคบกัน เพราะเค้ารักกัน คบกัน พี่พูลเค้าอาจจะไม่ได้รับความรักจากแก เค้ารู้สึกว่าแกไม่แคร์เค้าแม้แต่นิด เค้าก็เลยบอกเลิกแก เท่านั้นเอง”
“แต่เค้าบอกเลิกฉันอะ ฉันไม่เคยเจอ ฉันมีแต่บอกเลิกคนอื่น”
“เออ โดนมั่งก็ดี เค้าก็แค่ไม่เหมือนแฟน 46 คนที่แกเคยเจอมาเท่านั้นเอง -_-;; อาจจะเป็นผู้ชายเจเนอเรชั่นฉลาดมากขึ้น คิดในแง่ดีแกจะได้พัฒนาความสามารถในการมัดใจผู้ชายมากขึ้น อย่าได้แคร์ เรื่องแค่นี้จิ๊บๆ อุ๊ย >_< น้องแบงค์โทรมาอะแก ฉันต้องวางแล้ว พรุ่งนี้เจอกัน บายๆๆ”
“เดี๋ยวววววววววววววววว”
“ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด”
=_= สาม สอง หนึ่ง
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!”
และนี่คือเหตุผลที่ฉันมานั่งส่องกระจกตัวเองเป็นบ้าอยู่นี่เอง เพื่อเรียกความมั่นใจกลับคืนมา ฉันยอมเสียเวลาไปสี่ชั่วโมงเพื่อนั่งมองหน้าตัวเองแล้วหาจุดบกพร่อง และผลที่ได้คือ ไม่มี!
อาจจะจริงอย่างที่หมี่เกี๊ยวบอกก็ได้ ความสวยกับสเน่ห์ของฉันยังเท่าเดิม แต่ที่ต่างไปคือผู้ชายที่ฉลาดขึ้น
ฉันยังสวยอยู่ ฉันยังสวยอยู่ ฉันยังมีสเน่ห์
แต่ ทำไงดีล่ะ ความมั่นใจของฉันมันลดลงไป 32% แล้วล่ะ ไม่ได้นะ! ฉันต้องเป็นสาวมั่น 100% เหมือนเดิม ก็แค่ผู้ชายโง่ๆบอกเลิก ไม่สิ เค้าไม่ได้บอกเลิกฉัน ฉันตั้งใจจะบอกเลิกเค้าอยู่แล้วต่างหาก โอเค โอเค ใจเย็นๆนะ นับเงิน สิ่งที่เธอต้องทำคือ เรียกความมั่นใจอีก 32% กลับคืนมา ไม่ยากหรอก ฉันหยิบครีมบำรุงต่างๆ ทาหน้า ทาผิว ก่อนจะตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตี 4 ครึ่ง และทิ้งตัวลงนอนตั้งแต่ยังไม่ 2 ทุ่มแบบนี้ เพราะอะไรน่ะเหรอ ฉันต้องรักษาหน้าไว้นะสิ แล้วพรุ่งนี้ฉันจะพิสูจน์ให้ได้ว่า ฉันก็คือนับเงิน สาวมั่น สาวสวยสเน่ห์แรง ที่ไม่มีทางทิ้งตำแหน่งนี้ และผู้ชายก็ยังเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับฉันเหมือนเดิม!
เอ๊กอีเอ๊กเอ๊กกกกก!!!
^_____^!!!
หน้าใส! ไร้สิว! ไม่มีรอยคล้ำใต้ตา! แก้มอมชมพูขาวเด้ง! ริมฝีปากนุ่มชุ่มชื้น!
ทรงผมรวบสวยงามกำลังเก๋
ผ่าน!
กลิ่นวานิลาหอมอ่อนๆทำให้ผู้ชายอยากลิ้มลอง...ผ่าน!
รอยยิ้มสวย บุคลิกน่าหลงใหล...ผ่าน!
นับเงิน..พร้อมแล้ว!!! ฉันค่อยๆเยื้องย่างลงจากบันไดที่มีพรมสีแดงปูอยู่อย่างช้าๆ(แม่ฉันซื้อให้เป็นของขวัญปีใหม่ปีที่แล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่า พอได้เดินบนพรมแดงทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเจ้าหญิง) ค่อยๆก้าวอย่างช้าๆตามขั้นตอน เชิด หลังตรง แอ่นกำลังงาม(ถ้าแอ่นมากเกินไปอาจจะทำให้คนอื่นคิดว่าเราไม่มีนมเลยต้องแอ่นเพื่อให้ดูตู้มขึ้น) ขยับทุกส่วนของร่างกายให้สมดุลกันไม่ว่าจะเป็นผมที่ค่อยๆสะบัดตามแรงเดินของเรา แขนที่แกว่งตามจังหวะการเดิน หรือเอามือมาจับผมบ้างเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ตึก ตึก ตึก ผลัก!
ฉันล้มลงไปกองอยู่กับพื้น อย่าได้คิดว่าฉันเป็นนางเอกโก๊ะๆ ที่เก๊กสวยแล้วล้มนะ ฉันไม่อ่อนหัดขนาดนั้นหรอก แต่ตัวการอะ วิ่งแซงไปแล้วต่างหาก =_=
“พ่อ! นับเจ็บนะ ทำไมต้องวิ่งชนด้วยอะ T T”
“ก็นับเดินช้าเองอ่ะ นี่มัน rush hour นะ ใครจะมามัวเดินเก๊กสวยโปรยยิ้มได้เหมือนลูกสาวคนสวยของพ่อล่ะ ถ้าพ่อไม่วิ่ง พ่อก็สายสิ-_-;;”
“แต่นับล้มเลยนะ T Tถ้าข้อเท้าพลิก ขาแพลง ก้นกบหัก กระดูกเชิงกรานร้าว นับจะทำไงอะ”
“นับก็ไปเรียกผู้ชายในสต็อคมาอุ้มสิ วะฮะฮ่า พ่อนี่ชาญฉลาดจริงๆ >O<!!” พ่อหัวเราะอย่างชั่วร้ายจากไปโดยไม่แคร์สื่อ ความจริงพ่อก็พูดเล่นไปงั้นแหละ พ่อรู้ว่ามีผู้ชายมาจีบฉันเยอะ แต่ถ้ามีใครมารุ่มร่ามกับฉันอย่างโจ่งแจ้งต่อหน้าพ่อก็จะโดนไปหนักเหมือนกัน อืมม..แต่พ่อหารู้ไม่ว่าลูกตัวเองนะเริ่มก่อน -.,-
เจ็บแก้มอ่า T T
ขณะที่ฉันกำลังจะพยุงร่างกายอันบอบช้ำ(จากการลอบทำร้ายของคุณพ่อผู้เป็นที่รัก=_=) ก็มีนางฟ้าใจดีแปลงกายมาอยู่ข้างๆฉัน
“ต๊าย!นับเงิน แม่ซื้อพรมปูมาให้ลูกเดินนะ ทำไมจะกลิ้งลงอย่างนั้นล่ะ”
“ก็พ่ออะ วิ่งมาชนนับ -_-;; แม่ นับเป็นแผลบ้างปะเนี่ย วันนี้นับต้องสวยนะ “
“ก็เห็นต้องสวยทุกวันอะ อุ๊ยๆๆ ตรงแขนมีแก้มมีรอยช้ำรึเปล่า อ๊าย! ใช่แน่เลย แล้วเดี๋ยววันนี้มันก็จะกลายเป็นสีม่วง o_o”
“อะไรนะคะ o_o” ฉันลุกขึ้นอย่างรวดเร็วแล้ววิ่งไปที่ห้องน้ำ ส่องกระจก ก่อนจะ..
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด o_o”
และแล้วแผนการความสวยความงามที่ฉันบำรุงมาตลอดทั้งคืนก็ล่มสลายไปในพริบตา
ฉันเดินเข้าโรงเรียนเหมือนซอมบี้ไร้วิญญาณ(ซอมบี้ไม่มีวิญญาณอยู่แล้วนะจ้ะ) หวังว่าแก้มของฉันจะยังไม่ม่วงเร็วๆนี้หรอกนะ เพราะเมื่อเช้าที่ฉันส่องกระจกน่ะมันเป็นสีแดงๆอะ T T ก่อนที่จะมีบุรุษร่างนึงวิ่งมาชนฉัน
ไอ้บ้า T T แกจะซ้ำแผลฉันรึไง คอยดูนะ ไอ้พวกหน้าม่อ ต่อให้หล่อแค่ไหนฉันก็ไม่เล่นด้วยหรอก โทษฐานมาม่อไม่ถูกเวลา(คือคิดไปตลอดเลยใช่มั๊ยว่าใครที่เค้ามา ก็ต้องมาม่อแก =_=)
“โอ้ย >O<! ไอ้บ้าไปไกลๆเลย“
“เธอสิบ้า -_-;; เมนส์ไหลย้อนกลับรึไง”
เมนส์ไหลย้อนกลับ =_= คนเดียวที่พูดจาไม่รักษามาดกับฉันได้ขนาดนี้ก็คือ อาร์ตติส
“อ้าว ก็ใครจะรู้ว่าเป็นแกล่ะ นึกว่าเป็นพวกเด็กบ้าที่จะมาจีบฉันน่ะสิ”
“สวยมากสินะ เธอนะ -_-;;”
“เออ =_=”
อาร์ตติส คือเพื่อนผู้ชายที่สนิทที่สุดของฉัน ความจริงก็ไม่สนิทมากเท่าไร แต่ก็คือประมาณว่าเป็นผู้ชายคนเดียวที่ฉันตัดออกจากลิสการเป็นเหยื่อของฉัน (เอ่อะ ศัพท์แบบว่าเหมือนจะไปตกปลานะ) ประวัติความเป็นมาคือ ฉันเข้าโรงเรียนนี้มาตอนม.4ใช่ปะ(ตอนนี้ม.5) แบบฉันเป็นเด็กใหม่ป็อปมาก โด่งดังสุดๆ เลยได้ตำแหน่งเป็น ’ควีน’(ตำแหน่งที่มอบให้กับเด็กใหม่ที่ป็อป มาแรงมากๆ) ทำนองนั้น และผู้ชายอีกคนที่เป็นเด็กใหม่เข้ามาตอนม.4 เหมือนกันและเป็น ‘คิง’ ก็คืออาร์ตติสเนี่ยแหละ (โอเค หล่อจริง) และอาจจะเพราะความที่มันเป็น ‘คิง’ กับ ‘ควีน’ เราเลยต่างรู้เจตนารมณ์ซึ่งกันและกัน ฉันน่ะคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงที่เก่งมาก เจอพวกผู้ชายฮ็อตๆ หล่อๆ คาสโนว่า กะล่อน หลอกผู้หญิงเก่งแค่ไหน ฉันก็คบมาเยอะแล้ว และก็เหนือกว่า ทิ้งได้ตลอด แต่แค่ดูท่าทางฉันก็รู้แล้วว่า อาร์ตติสเนี่ยก็น่าจะเก่งเหมือนกัน ความสามารถก็คงพอๆกับฉัน เหมือนอาร์ติสเองก็คงจะรู้ว่าฉันเป็นยังไง เราก็เลยตกลงเป็นเพื่อนกัน ซึ่งฉันว่าก็ดีแล้วอะนะ เพราะถ้าเกิดฉันคบกับอาร์ติสก็คงไม่ลงกันแน่ๆ (หรือไม่อาจจะทำลายประวัติฉัน กลายเป็นผู้ชายคนแรกที่ทิ้งฉัน ก่อนพี่พูลอีก เฮือก พี่พูล ม่ายยยย >O<!!) นั่นแหละ จบเหอะ ฉันเริ่มฟุ้งซ่านแล้ว
“วันนี้เธอแปลกๆนะ ดูไม่ค่อยมีออร่ายังไงไม่รู้”
“จริงดิ o_o สังเกตง่ายขนาดนั้นเลยหรอ”
“แหงอยู่แล้ว ชัดจะตาย ปกติเธอดูวิ๊งกว่านี้เยอะ”อาร์ตติสยิ้ม(หล่อบาดใจกระชากใจ-.,- ถึงจะตัดออกจากการเป็นเหยื่อ แต่ขอแอบบริโภคความหล่ออยู่ในใจก็คงโอเค >_<)
เฮือกกก o_o ไม่นะ นี่ขนาดตื่นมาบำรุงผิวหน้าตั้งแต่ตี 4 ครึ่งนะ อะไร ฉันเครียดจนรัศมีดับเลยหรอ
“เอาเป็นว่า ฉันไปก่อนละกัน” อาร์ติสโบกมือลาก่อนจะเดินแยกไป(เพราะถึงห้องมันแล้ว)
ฉันวางกระเป๋าลงบนโต๊ะ
เพื่อนกลุ่มฉันนั่งอยู่กันครบองค์ที่ห้องเรียน แสดงว่าวันนี้ฉันมาสายมากหรอเนี่ย -_-;;
โอเค ฉันจะชี้ให้ดูทีละคนนะว่าใครคือใคร
คนที่นั่งอ่านนิตยสารเรย์อยู่ตรงนั้นคือ ‘บะหมี่เกี๊ยว คนที่ฉันโทรหาเมื่อวานไงล่ะ ยัยนี่อ่ะนะ เป็นคนสวย(แต่แน่นอนว่าไม่เท่าฉัน ^O^) หน้าตาแลดูลูกครึ่งนิดๆ ผิวขาวๆ สูงๆ ตากลมๆ(ตาหวานมาก >_< ถึงฉันจะชอบตาคมๆของฉันมากกว่าก็เหอะ) จมูกโด่ง ปากชมพู รวมๆแล้วยัยนี่จะดูน่ารักมากกว่าสวยถ้าไม่แต่ง (แต่ถ้าแต่งแล้วก็สวยวิ๊งเหมือนกัน) บะหมี่เกี๊ยวอะ คนละสไตล์กับฉันเลย แบบแลดูเป็นคุณหนู ไฮโซ (แต่ไม่ได้เชิด แรงเวอร์) แต่ดูเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้(เพราะฉันว่าถ้าเหมือนตุ๊กตาบลายส์คงแลดูน่ากลัวไปหน่อย =_= ปล.ฉันกลัวบลายส์) แต่สิ่งที่ทำให้มันหมดมาดคุณหนูไฮโซคือ ชอบกรี๊ดกร๊าดคนหล่อ -.,- (แต่ก็ไม่น่าเกลียดหรอก ก็มันน่ารักนี่) และงานอดิเรกของมันคือม่อเด็ก อุบส์!
ส่วนคนที่ดูเปรี้ยวๆ ซอยผมสั้นเก๋ๆ กำลังโวยวายคุยโทรศัพท์กับใครซักคนอยู่(ซึ่งน่าจะเป็นแฟนมัน =_=) ก็คือ ‘จี’
ถ้าจะพูดถึงหน้าตา จีก็เป็นคนสวย คราวนี้ออกแนวเปรี้ยวๆ แรงๆ ผิวสีน้ำผึ้งที่ค่อนไปทางขาว ตาตี่ๆ แต่คมสวย จมูกโด่ง ปากกระจับ ถ้าพูดถึงความสวยแล้ว แน่นอนว่าฉันสวยกว่า(เอาอีกแล้ว =_=) แต่ถ้าพูดถึงเรื่องหุ่นแล้ว จีอะหุ่นดีเวอร์ๆ คนอะไรตัวบางได้ขนาดนั้น ฉันว่าฉันหุ่นดีแล้วนะ แต่จีเอวบางแบบ เอว 22 อ้ะ o_o อิจฉา
แล้วคนสุดท้ายที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาปั่นการบ้านอยู่ตรงข้ามกับบะหมี่เกี๊ยวคือ ‘คัพเค้ก’ เด็กหญิงที่เตี้ยที่สุดในกลุ่ม หน้าตาก็ธรรมดาที่สุดในกลุ่มแล้ว ความจริงถ้าไม่มีฉัน บะหมี่เกี๊ยว หรือจีไปเดินด้วย ฉันว่าคัพเค้กก็พอจะเรียกว่าน่ารักได้ แบบคาบเส้นผ่าน (ฉันไม่ได้ตั้งใจจะใจร้ายกับเพื่อนเลยจริงๆนะ T T) ถึงหน้าตาจะธรรมดาไม่มีอะไรโดดเด่นเลยแม้แต่น้อย แต่ผิวของคัพเค้กก็ขาวอมชมพู ใสปิ๊งมากๆ (นัjนก็คือสาเหตุที่ยัยนี่น่ารักคาบเส้นผ่านพอดี) แต่ถ้าพูดถึงเรื่องนิสัย คัพเค้กเป็นคนน่ารัก ร่าเริงอยู่ตลอดเวลา โก๊ะๆ (ที่ฉัน บะหมี่เกี๊ยวกับจีไม่เคยเป็น) พูดมาก(เกินไป) บ้าๆ(เกินไป) และ ตลก(เกินไป) ถ้าคนที่ได้รู้จักคัพเค้กแล้วก็ต้องชอบมันแน่ๆ แต่อีกอย่างที่ฉันไม่รู้ว่าจะจัดเป็นข้อดีรึเปล่า คือยัยนี่ชอบชมว่าตัวเองสวย =[]=” แบบไม่แคร์สื่อ แบบว่า ฉันสวย ฉันสวยที่สุด โอเค อาจจะนับเป็นข้อดีว่า
คัพเค้กเนี่ยตลกดีเนอะ -_-;;
และด้วยความสวยของเรา(ฉัน บะหมี่เกี๊ยวและจี)พวกเราทั้ง 4 คน(คัพเค้กที่ถูกเหมารวมด้วย)เลยได้รับการขนานนามว่าเป็น girly berry ของโรงเรียน(คัพเค้กได้รับการหยวนๆไป เพราะเห็นว่าอยู่กลุ่มเดียวกับคนสวย ก็เลยถูไถว่าสวยไปด้วย) ซึ่งได้รับการโหวตจากทั่วโรงเรียน และยกย่องให้เป็น Superstar ของโรงเรียน ที่ไม่มีใครมาเทียบได้ นั่นล่ะคือที่มา แต่ว่าฉัน บะหมี่เกี๊ยว จี ไม่ค่อยปลื้มใจกับตำแหน่งเกิร์ลลี่เบอร์รี่เท่าไรหรอกนะ ฉันว่ามันฟังดูแปลกๆ -_-;; แต่คัพเค้กนี่กรี๊ดกร๊าดสุดๆไปเลย(และพูดอยู่ตลอดเวลาว่า ฉันคือกิ๊ฟซี่ โอเค เลยตามเลยเถิดดด)
กลับมาสถานการณ์ปัจจุบัน o-;;
บะหมี่เกี๊ยวอ่านหนังสือ จีนั่งคุยโทรศัพท์ คัพเค้กนั่งปั่นการบ้าน โอเค แล้วพวกแกจะนั่งด้วยกันทำไมเนี่ย ในเมื่อไม่มีปฏิสัมพันธ์กันเลย -_-‘’
“Salut!!”(สวัสดีภาษาฝรั่งเศส แรดนะ=_=)
ทุกคนเงยหน้ามองฉันสามวิก่อนจะก้มลงไปทำภารกิจของตัวเองกันต่อ-_-;; สรุปว่าฉันเป็นเพื่อนแกมั๊ยเนี่ย หา?
“เต้ย หยุดพูดเดี๋ยวนี้เลยนะ! จีขี้เกียจฟังเต้ยแก้ตัวแล้วนะ โอเค ถ้ายังสำนึกไม่ได้ เราก็เลิกกัน!!!” จีพูดอย่างโมโหและวางโทรศัพท์ในที่สุด เต้ยที่ว่านี่คือแฟนมัน ซึ่งหล่อ -.,- โอเค ไร้คำบรรยาย แต่น่าเสียดายที่ถูกเขี่ยทิ้งไปเมื่อ 1 วินาทีที่แล้ว
คัพเค้กเงยหน้าขึ้นมา
“ไม่น้า จี แกเลิกกับพี่เต้ยไม่ได้น้า T^T”
“อะไรของแก เค้ก ฉันกำลังหงุดหงิดอยู่นะเว่ย เดี๋ยวฉันก็พ่นไฟใส่แกหรอก”
“ก็แหม >_< ถ้าแกทิ้งพี่เค้า ฉันก็จะไม่ได้เจอคนหล่อโฮกๆอย่างนั้นอีกดิ เสียดายน้า”
“แกเสียดายแต่ฉันไม่เสียดายอะ เลวๆอย่างนั้นไม่เอาไว้หรอก” จีเบ้ปาก
แกพูดว่าไม่เอาไว้แต่เห็นแกก็คบกับเค้ามาสามเดือนแล้วนะ -_-;; (จีเป็นคนเดียวในกลุ่มที่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน)
คัพเค้กหัวเราะคิกคักก่อนจะหันหน้ามาหาฉันแทน
“เอ้อ ใช่ นับ เห็นหมี่เกี๊ยวเล่าให้ฟังว่าแกถูกพี่พูลทิ้งหรอ ^^”
ฉันทำตาโตอย่างตกใจก่อนจะรีบตะครุบปากคัพเค้กไว้
“ยัยบ้า พูดออกมาได้ไงยะ ดีนะเนี่ยที่แกพูดเบา ไม่งั้นฉันเสียประวัติแน่”
“ประวัติอะไรของแก ทิ้งแฟน 46 คนอะนะ น่าภูมิใจตรงไหน โดนทิ้งบ้างก็ดี”
“อ้าว จี -_-;; หงุดหงิดเต้ยแล้วอย่ามาลงที่ฉันได้ป้ะ อีกอย่าง ฉันไม่ได้โดนทิ้งเหอะ ฉันกะจะบอกเลิกอยู่แล้ว เบื่อจะตาม อีกอย่างวันนั้นฉันก็ปล่อยให้เค้ารอตั้ง 3 ชม. แต่เค้าก็ยังรออะ ดูก็รู้แล้วว่าใครเหนือกว่าใคร” ฉันยักไหล่
“หรอจ๊ะ ^^” บะหมี่เกี๊ยวเงยหน้ามาจากนิตยสาร
ไอ้นี่ =_=
“ก็เอออ่ะดิ”
“แล้วใครกันล่ะโทรมาโวยวายร้องไห้คร่ำครวญกับฉันว่าฉันถูกทิ้งๆ”
“อ๊ากกก ไอบ้าๆๆ พูดเบาๆดิๆ” ฉันตะครุบปากบะหมี่เกี๊ยวบ้าง
“แกก็คิดมากอะนับ เรื่องงี้ไม่เห็นทำให้ประวัติแกด่างพร้อยตรงไหนเลย” คัพเค้กออกความเห็น
“หึ แน่นอนว่าไม่มีทางอยู่แล้ว” ฉันเชิดหน้าขึ้นอย่างมั่นใจ
“เพราะวันนี้ ฉันจะเรียกความมั่นใจของฉันกลับคืนมา ว่าฉันคือนับเงิน Superstar สุดฮ็อตของโรงเรียน ไม่ว่าผู้ชายหน้าไหนก็ต้องสงบให้ฉัน หึหึหึ”
จีหาวหวอดๆอย่างเบื่อๆ ”แล้วแกจะทำยังไง”
ฉันหันไปยิ้งหวานประดุจนางสาวไทย
“ถ้าเพื่อนๆที่รักอยากรู้ล่ะก็ ตามฉันมาแถวสนามบอลสิคะ ^^”
ความคิดเห็น