ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตะลุย 7 อัศจรรย์ในโรงเรียน

    ลำดับตอนที่ #2 : เสียงเรียกจากเงามือ

    • อัปเดตล่าสุด 13 มี.ค. 53


    ตอนที่ 2 เสียงเรียกจากเงามืด

    ในวันรุ่งขึ้น หลังจากที่นัทออกจากบ้าน เขาได้แวะไปเยี่ยมอาการของบัวที่ร้านเบเกอรี่ ก่อนเข้าโรงเรียนพร้อมกับไปเอาไปลาของเธอเนื่องจากเกิดการติดเชื้อจนเธอไม่สามารถไปไหนได้ ทำให้บัวไม่อาจไปโรงเรียนได้

    “เฮ้ย นัท พวกไอ้โจ้อ่า วันนี้ทำไมมันไม่มาโรงเรียนวะ” คำถามแรกเมื่อเขาเดินเข้าห้อง นัทเดินเข้าไปหาผู้ถามด้วยความงงงวย

    “ไม่รู้ว่ะ เดี๋ยวลองโทรเข้าเบอร์พวกมันดู”นัทตอบ พลางหยิบโทรศัพท์มือถือเก่าๆกดเบอร์โจ้น้อย แต่เมื่อมีคนรับกลับมีเพียงแต่เสียง

    “กรืดดด ครืนนนนน ....” เสียงรบกวนดังกล่าวสร้างความรำคาญให้นัท โดยถูกแสดงออกผ่านทางสีหน้าอย่างเห็นได้ชัด

    “เป็นไรวะ” อู๋ถามด้วยน้ำเสียงรำคาญ

    “คลื่นไม่ดีมั้ง ได้ยินแต่เสียงครืนนนนๆ”นัทหันมาตอบ

    “ไหนลองเอาของตูโทรดิ๊”

    “แกโทรเลย ตูจะเอาใบลาของบัวไปให้จารย์ก่อน”นัทเดินไปที่โต๊ะอาจารย์ที่อยู่ในห้องพักครูขณะเดียวกับที่อู๋เดินออกจากห้องเรียนตามเขามา

    “เฮ้ย... บัวเป็นไรวะ”อู๋แทบสะดุ้งทันทีที่รู้ข่าว

    “รถปาดหน้าเมื่อวานวะ พอดีตูไปเห็นเข้า เลยพาส่งโรงบาล”

    “แล้วทำไม่รีบบอกตูละฟ่ะ แกก็รู้ว่ากูคิดไงกับบัว”

    “ไอ้.... เมื่อวานแกก็ไม่มา ตูจะบอกตอนไหนละ”

    “ว่าแต่  โทรติดยังวะ”นัทหันกลับมาถามเรื่องโทรศัพท์อีกครั้ง

    “ติด ไม่มีใครพูดวะ”อู๋ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

    “งืม... แล้วค่อยไปหามันที่บ้านเอา จะไปกะตูไหม”ในที่สุดอู๋ก็หมดความพยายามจึงวางสาย

    “มีธุระอะไรกับพวกมันวะ”เขาทั้งสองพูดคุยกันขณะเดินกลับมายังห้องเรียนแล้วนั่งลงยังเก้าอี้ประจำในวิชาเคมี แล้วหยิบหนังสือเรียนขึ้นมา

    “เรื่องของตู”อู๋ตอบ

    “ไปๆ เดี๋ยวจะไปยืมนิยายบ้านไอ้โจ้น้อย”นัทหันหน้าไปคุย เมื่อเขาเตรียมหนังสือเรียนพร้อม และมิได้สักเกตุบันทึกช่วยจำเล็กๆที่ซ่อนอยู่ในหนังสือเรียนเคมีเล่มนั้น

    “บ้านแกร้านหนังสือไม่ใช่หรอวะ”อู๋ถาม

    “เอออ....แต่เรื่องนี้ตูไม่มีเว้ย... มันหาไม่ได้แล้ว ชิ”เมื่ออาจารย์เดินเข้าห้องและบอกให้เปิดหนังสือเรียนขึ้น นัทจึงเห็นบันทึกช่วยจำที่เขียนตัวเลขเงินที่เขาติดหนี้อาจารย์ไว้

    “เฮ้ยตาย...แล้ว จารย์เคมี” เขาอุทานออกมาด้วยความตกใจ หน้าถอดสี

    “ไรวะ” อู๋สักเกตุเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดนั่น

    “ติดเงินจารย์ ขอตูหลบๆหน่อยนะเว้ย”ไม่พูดปล่าวนัทมุดลงใต้โต๊ะอย่างชำนาญ ดังเขาหายไปจากห้องอย่างไร้ร่องรอย มีเพียงอู๋เท่านั้นที่รู้ว่าเขาอยู่ไหน(หลบเก่งมาก)

    “เอออออ ป่วยละ....”

    “ติดเท่าไหร่วะ”

    “หมื่นนึง”

    “ไอ้นัทเอ้ยยยยย”

    ...

    เย็นวันนั้น นัทกลับบ้านค่ำกว่าทุกวัน ขณะนำไอ้แก่ออกจากที่จอดรถ เขารู้สึกเหมือนมีใครมองมาจากชั้นบนอาคาร 7 แต่เมื่อมองขึ้นไป กลับไม่มีใครอยู่เลย ด้วยความสงสัย เขาจึงจอดไอ้แก่ไว้ แล้วเดินเลียบมาตามคอบเปอร์เวย์ ขึ้นอาคารซึ่งน้าภารโรงน่าจะปิดแล้ว

    นัทเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองเขาเหลียวมองซ้ายขวา เสียงสายลมยามเย็นพัดโบก กิ่งไม้ไหวเอนตามลมพัดดังครืนๆ เหมือนเสียงคนเดินลากของหนัก หนุ่มน้อยเดินตรงไปเรื่อยๆ ไปยังห้องที่6ซึ่งอยู่ด้านในสุดของชั้นสอง ห้องที่ครั้งหนึ่งเคยมียันต์ปิดอยู่ แต่บัดนี้มันกลับหายไปแล้ว กลิ่นแปลกๆโชยมาตามสายลมที่พัดผ่านขึ้นมายังชั้นสอง เป็นกลิ่นที่หอมหวนยวลยั่วใจ คล้ายกลิ่นไอของหญิงสาว

    นัทเปิดประตูออก แต่ภายในห้องไม่มีอะไร ห้อง 726 แห่งนี้ว่างเปล่า หน้าต่างถูกปิดสนิทลงยันต์อย่างหนาแน่น เขาเดินสำรวจห้องที่ว่างเปล่าแห่งนี้ แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ จึงเดินออกมาแต่ทันใดนั้น

    “ช่วยด้วย นัท ช่วยพวกตูด้วยย”เสียงร้องของความช่วยเหลือของเพื่อนๆที่หายไปได้ดังขึ้น นัทรีบวิ่งขึ้นมาอีกครั้ง และครั้งนี้เขาก็ได้พบกับเพื่อนๆของเขา ถูกโซ่ล่ามอยู่รวมกันกับเสาที่อยู่กลางห้อง นัทรีบเข้าไปหา แต่ทว่า เขาไม่รู้จะช่วยเหลือเพื่อนของเขาอย่างไร

    “ใครจับแกมาวะ แล้วทำไมตะกี้ตูมาไม่เห็น แล้วตูจะทำไงละ โอ้ งานเข้าละตู”นัทเริ่มเกิดอาการร้อนรน ทำอะไรไม่ถูก พอตั้งสติได้ เขาก็โทรหาคนช่วย ไม่นานก็ช่วยเพื่อนออกมาได้ แต่ทุกคนกลับขวัญเสีย จนพูดไม่รู้เรื่อง ต้องถูกนำส่งโรงพยาบาลเพื่อเช็คสภาพจิตใจ

    ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×