คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เสียงเรียกจากเงามือ
ตอนที่ 2 เสียงเรียกจากเงามืด
ในวันรุ่งขึ้น หลังจากที่นัทออกจากบ้าน เขาได้แวะไปเยี่ยมอาการของบัวที่ร้านเบเกอรี่ ก่อนเข้าโรงเรียนพร้อมกับไปเอาไปลาของเธอเนื่องจากเกิดการติดเชื้อจนเธอไม่สามารถไปไหนได้ ทำให้บัวไม่อาจไปโรงเรียนได้
“เฮ้ย นัท พวกไอ้โจ้อ่า วันนี้ทำไมมันไม่มาโรงเรียนวะ” คำถามแรกเมื่อเขาเดินเข้าห้อง นัทเดินเข้าไปหาผู้ถามด้วยความงงงวย
“ไม่รู้ว่ะ เดี๋ยวลองโทรเข้าเบอร์พวกมันดู”นัทตอบ พลางหยิบโทรศัพท์มือถือเก่าๆกดเบอร์โจ้น้อย แต่เมื่อมีคนรับกลับมีเพียงแต่เสียง
“กรืดดด ครืนนนนน ....” เสียงรบกวนดังกล่าวสร้างความรำคาญให้นัท โดยถูกแสดงออกผ่านทางสีหน้าอย่างเห็นได้ชัด
“เป็นไรวะ” อู๋ถามด้วยน้ำเสียงรำคาญ
“คลื่นไม่ดีมั้ง ได้ยินแต่เสียงครืนนนนๆ”นัทหันมาตอบ
“ไหนลองเอาของตูโทรดิ๊”
“แกโทรเลย ตูจะเอาใบลาของบัวไปให้จารย์ก่อน”นัทเดินไปที่โต๊ะอาจารย์ที่อยู่ในห้องพักครูขณะเดียวกับที่อู๋เดินออกจากห้องเรียนตามเขามา
“เฮ้ย... บัวเป็นไรวะ”อู๋แทบสะดุ้งทันทีที่รู้ข่าว
“รถปาดหน้าเมื่อวานวะ พอดีตูไปเห็นเข้า เลยพาส่งโรงบาล”
“แล้วทำไม่รีบบอกตูละฟ่ะ แกก็รู้ว่ากูคิดไงกับบัว”
“ไอ้.... เมื่อวานแกก็ไม่มา ตูจะบอกตอนไหนละ”
“ว่าแต่ โทรติดยังวะ”นัทหันกลับมาถามเรื่องโทรศัพท์อีกครั้ง
“ติด ไม่มีใครพูดวะ”อู๋ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“งืม... แล้วค่อยไปหามันที่บ้านเอา จะไปกะตูไหม”ในที่สุดอู๋ก็หมดความพยายามจึงวางสาย
“มีธุระอะไรกับพวกมันวะ”เขาทั้งสองพูดคุยกันขณะเดินกลับมายังห้องเรียนแล้วนั่งลงยังเก้าอี้ประจำในวิชาเคมี แล้วหยิบหนังสือเรียนขึ้นมา
“เรื่องของตู”อู๋ตอบ
“ไปๆ เดี๋ยวจะไปยืมนิยายบ้านไอ้โจ้น้อย”นัทหันหน้าไปคุย เมื่อเขาเตรียมหนังสือเรียนพร้อม และมิได้สักเกตุบันทึกช่วยจำเล็กๆที่ซ่อนอยู่ในหนังสือเรียนเคมีเล่มนั้น
“บ้านแกร้านหนังสือไม่ใช่หรอวะ”อู๋ถาม
“เอออ....แต่เรื่องนี้ตูไม่มีเว้ย... มันหาไม่ได้แล้ว ชิ”เมื่ออาจารย์เดินเข้าห้องและบอกให้เปิดหนังสือเรียนขึ้น นัทจึงเห็นบันทึกช่วยจำที่เขียนตัวเลขเงินที่เขาติดหนี้อาจารย์ไว้
“เฮ้ยตาย...แล้ว จารย์เคมี” เขาอุทานออกมาด้วยความตกใจ หน้าถอดสี
“ไรวะ” อู๋สักเกตุเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดนั่น
“ติดเงินจารย์ ขอตูหลบๆหน่อยนะเว้ย”ไม่พูดปล่าวนัทมุดลงใต้โต๊ะอย่างชำนาญ ดังเขาหายไปจากห้องอย่างไร้ร่องรอย มีเพียงอู๋เท่านั้นที่รู้ว่าเขาอยู่ไหน(หลบเก่งมาก)
“เอออออ ป่วยละ....”
“ติดเท่าไหร่วะ”
“หมื่นนึง”
“ไอ้นัทเอ้ยยยยย”
...
เย็นวันนั้น นัทกลับบ้านค่ำกว่าทุกวัน ขณะนำไอ้แก่ออกจากที่จอดรถ เขารู้สึกเหมือนมีใครมองมาจากชั้นบนอาคาร 7 แต่เมื่อมองขึ้นไป กลับไม่มีใครอยู่เลย ด้วยความสงสัย เขาจึงจอดไอ้แก่ไว้ แล้วเดินเลียบมาตามคอบเปอร์เวย์ ขึ้นอาคารซึ่งน้าภารโรงน่าจะปิดแล้ว
นัทเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองเขาเหลียวมองซ้ายขวา เสียงสายลมยามเย็นพัดโบก กิ่งไม้ไหวเอนตามลมพัดดังครืนๆ เหมือนเสียงคนเดินลากของหนัก หนุ่มน้อยเดินตรงไปเรื่อยๆ ไปยังห้องที่6ซึ่งอยู่ด้านในสุดของชั้นสอง ห้องที่ครั้งหนึ่งเคยมียันต์ปิดอยู่ แต่บัดนี้มันกลับหายไปแล้ว กลิ่นแปลกๆโชยมาตามสายลมที่พัดผ่านขึ้นมายังชั้นสอง เป็นกลิ่นที่หอมหวนยวลยั่วใจ คล้ายกลิ่นไอของหญิงสาว
นัทเปิดประตูออก แต่ภายในห้องไม่มีอะไร ห้อง 726 แห่งนี้ว่างเปล่า หน้าต่างถูกปิดสนิทลงยันต์อย่างหนาแน่น เขาเดินสำรวจห้องที่ว่างเปล่าแห่งนี้ แต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ จึงเดินออกมาแต่ทันใดนั้น
“ช่วยด้วย นัท ช่วยพวกตูด้วยย”เสียงร้องของความช่วยเหลือของเพื่อนๆที่หายไปได้ดังขึ้น นัทรีบวิ่งขึ้นมาอีกครั้ง และครั้งนี้เขาก็ได้พบกับเพื่อนๆของเขา ถูกโซ่ล่ามอยู่รวมกันกับเสาที่อยู่กลางห้อง นัทรีบเข้าไปหา แต่ทว่า เขาไม่รู้จะช่วยเหลือเพื่อนของเขาอย่างไร
“ใครจับแกมาวะ แล้วทำไมตะกี้ตูมาไม่เห็น แล้วตูจะทำไงละ โอ้ งานเข้าละตู”นัทเริ่มเกิดอาการร้อนรน ทำอะไรไม่ถูก พอตั้งสติได้ เขาก็โทรหาคนช่วย ไม่นานก็ช่วยเพื่อนออกมาได้ แต่ทุกคนกลับขวัญเสีย จนพูดไม่รู้เรื่อง ต้องถูกนำส่งโรงพยาบาลเพื่อเช็คสภาพจิตใจ
...
ความคิดเห็น