ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fan Fiction EXEcutional เป็ดXกระต่าย

    ลำดับตอนที่ #2 : (เกือบ)สงสาร(แล้ว)

    • อัปเดตล่าสุด 16 เม.ย. 52


    บทที่สอง (เกือบ)สงสาร(แล้ว)

    ในห้องเรียนยามเช้าที่ร้างผู้คน หนุ่มน้อยร่างเล็กเจ้าของสีผมสะดุดตายึดที่นั่งริมหน้าต่าง ดวงตากลมโตทอดมองผ่านกำแพงรั้วโรงเรียนไปยังมหาวิทยาลัยข้างๆโรงเรียน ห้องเรียนของเกษมอยู่ทางปีกซ้ายของโรงเรียน มองจากหน้าต่างห้องเรียนเห็นมหาวิทยาลัยข้างๆชัดเจน เด็กหนุ่มเห็นร่างหลายร่างในชุดนักศึกษาเดินกันขวักไขว่ แต่ด้วยความห่างของระยะทางทำให้ไม่สามารถบอกได้ว่านักศึกษาเหล่านั้นเป็นใคร

    …คนที่เขามองหาอยู่ในหมู่คนเหล่านั้นรึเปล่านะ…

    ในขณะที่เกษมจิตใจล่องลอยอยู่นั้นร่างๆหนึ่งก็เดินอย่างเงียบกริบมาหยุดอยู่ด้านหลังของเขาโดยที่เด็กหนุ่มไม่รู้ตัวเลยสักนิด


    แปะ…


    สัมผัสที่ไหล่ทำเอาคนใจลอยสะดุ้งสุดตัว เมื่อหันไปมองก็พบกับใบหน้าเฉยเมยอย่างทุกทีของวิริยา

    “วะ…วิริยา มาแล้วก็ให้สุ่มให้เสียงกันหน่อยสิครับ”

    เกษมพูดตะกุกตะกักด้วยความที่ยังตกใจไม่หาย

    “ใจลอยไปถึงไหนน่ะ”

    แม้จะถามเสียงเรื่อยๆเหมือนไม่คิดอะไร แต่แววตาของเธอวิบวับเป็นประกาย เกษมแทบจะสาบานได้เลยว่าเห็นเด็กสาวลอบยิ้มนิดๆด้วย

    เหมือนรู้ว่าเขากำลังคิดถึง… ไม่หรอก… ก็เขาไม่เคยแสดงออกเลยนี่นา… แล้วเธอจะรู้ได้ยังไง

    “ปะ… เปล่านี่ครับ แค่มองทิวทัศน์เพลินไปหน่อย…ชะ…เช้านี้อากาศดีนะครับ.. อ้ะ! จะนั่งที่สินะครับ งั้นผมลุกดีกว่า”

    เกษมปั้นยิ้มก่อนจะรีบลุกจากเก้าอี้ของวิริยาที่เขายืมนั่งตอนเช้าก่อนเจ้าของที่จะขึ้นห้องประจำจนกลายเป็นกิจวัตร ทุกเช้าเขาจะนั่งตรงนี้และเหม่อมองไปยังมหา’ลัยข้างๆ… มองหาคนๆนั้น…

    เด็กสาวมองตามเกษมที่กลับไปนั่งที่ตัวเอง แล้วยิ้มออกมา

    “ปากไม่ตรงกับใจเหมือนเดิมเลยนะ คุณหนู”

    เด็กหนุ่มกลืนน้ำลาย ใจเต้นตึกตัก ใบหน้าเริ่มมีเม็ดเหงื่อจับ ประโยคเรียบๆนั่นช่างแฝงไปด้วยความนัย… รึว่าเธอรู้…

    ขณะที่เกษมกำลังคิดหนักอยู่นั้นร่างๆหนึ่งก็พุ่งเข้ามาในห้อง พร้อมกับโวยวายเสียงลั่น

    “ยัยหน้าจืด! เธอจงใจแกล้งฉันช่ายหมายยยยยยยยย!”


    นี่เป็นครั้งแรกที่เกษมรู้สึกขอบคุณเจ้าเป็ดอย่างสุดซึ้ง


    “เปล่านี่ ฉันก็แค่ทำตามที่มัจฉาสั่ง” ผู้ถูกกล่าวหาปฏิเสธหน้าตาย

    “เธอตั้งใจแกล้งฉันชัดๆ!”

    “เปล่าซะหน่อย…”

    แล้วการทุ่มเถียงกันแบบเด็กๆของนันทกรกับวิริยาก็ดำเนินต่อไป เกษมที่นั่งดูอยู่ห่างๆลอบถอนหายใจ

    แล้วแบบนี้ ภารกิจที่มัจฉาให้กลุ่มหนึ่งไปจะสำเร็จไหมเนี่ย…

    ---------------

    “สรุป ห้องเราจะทำบ้านผีสิงกันนะ”

    เสียงประกาศิตของหัวหน้าห้องเหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยงทั้งๆที่เมฆยังไม่ตั้งเค้าฟาดลงมากลางกบาลของนันทกร


    บ้านผีสิง…


    สำหรับคนที่ไม่ชอบเรื่องลี้ลับอย่างเขาแล้ว มันสร้างความลำบากใจให้ไม่น้อย… (กลัวล่ะสิ)


    เออ! เขายอมรับก็ได้ว่าเขากลัว!!!



    แต่ถึงกระนั้นเด็กหนุ่มก็ไม่อาจคัดค้านอันใดได้ด้วยมันเป็นผลจากเสียงโหวตของเพื่อนร่วมห้อง

    “ฉันไปติดต่ออาจารย์ขอใช้ห้องคอมพิวเตอร์แล้ว จะใช้ห้องคอมฯนี่แหละจัดเป็นบ้านผีสิง ปิดม่าน เปิดแอร์ให้เย็นจะได้สร้างบรรยากาศ แล้วก็…”

    แล้วหัวหน้าก็แจกแจงรายละเอียดต่างๆให้สมาชิกในห้องฟัง ก่อนจะมอบหมายหน้าที่ให้ทุกคน แน่นอน รวมถึงนันทกรด้วย เขากับบรรดาเด็กผู้ชายในห้องต้องไปช่วยกันขนคอมพิวเตอร์ โต๊ะ และเก้าอี้ออกไปเพื่อเคลียร์พื้นที่ตามประสาเพศที่แข็งแรงกว่า ส่วนพวกเด็กผู้หญิงไปห้องศิลปะเพื่อขอยืมอุปกรณ์มาตกแต่งสถานที่

    หลังจากที่ขนย้ายของต่างๆในห้องคอมจนเกลี้ยงแล้ว ก็ถือว่าหมดหน้าที่ของพวกเขา เด็กผู้ชายในห้องพากันลงไปเล่นฟุตบอลที่สนาม เจ้าเป็ดก็ด้วย แต่ขณะที่เขาเดินลงบันได มัจฉาก็เดินสวนขึ้นมาจากชั้นล่าง ในมือถือลังใบใหญ่ที่ท่าทางจะหนักพอสมควร


    โอกาสมาแล้ว…

    เด็กหนุ่มเดินเข้าไปหามัจฉาด้วยสัญชาตญาณ พอรู้สึกตัวอีกทีตัวเองก็มายืนขวางทางเด็กสาวเสียแล้ว มัจฉาเลิกคิ้วมองนันทกรประมาณว่ามีธุระอะไร เจ้าเป็ดกลืนน้ำลายก่อนจะรีบพูดว่า

    “หะ-ให้ฉันช่วยถือไหม”

    “ขอบใจนะ แต่ไม่เป็นไร ฉันถือเองได้” เด็กสาวปฏิเสธก่อนจะเดินอ้อมตัวเจ้าเป็ดที่ยืนขวางอยู่ขึ้นบันไดไป

    ด้วยความที่มัจฉาเป็นคนไม่ชอบพึ่งพาใครเลยปฏิเสธความช่วยเหลือของนันทกร โดยไม่รู้เลยว่าคำปฏิเสธของเธอทำให้เจ้าเป็ดผู้อ่อนหัดเรื่องความรักเดินคอตกลงบันได โดยไม่ทันสังเกตอีกคนที่เดินสวนขึ้นมา

    วิริยาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เธอมองตามร่างห่อเหี่ยวของนันทกรแล้วความรู้สึกแปลกๆก็เกิดขึ้นมาในใจ…


    ฉันสงสารหมอนั่นเหรอ…


    เด็กสาวถามตัวเอง เธอมองสีหน้าท้อแท้ของเจ้าเป็ดอีกครั้ง


    สงสัยจะใช่…


    …ลองช่วยดูดีไหม…



    วิริยาเดินลงบันไดมาตามนันทกร แต่แล้วเธอก็เห็นว่าเจ้าเป็ดไปแย่งกันเตะลูกบอลกับเพื่อนๆที่สนามหญ้าอย่างร่าเริงเหมือนปกติแล้ว ระหว่างที่วิริยายืนดูอยู่ลูกกลมๆก็ลอยเข้าหน้านันทกรอย่างจังโดยฝีมือของเพื่อนร่วมทีม



    วิริยาหันหลังกลับเดินขึ้นอาคารเรียนทันที

    ------------------------------

    อัพแล้วค่า ขออภัยที่ดอง
    แอบมีอัษฎาเกษมนิดๆด้วยแฮะ ฮ่าๆ (ช่วยไม่ได้ คนเขียนชอบคู่นี้เหมือนกัน)

    ช่วยติดตามตอนต่อไปทีนะคะ ถึงข้าน้อยก็ชอบดอง อัพทีหนึ่งก็อัพน้อย แถมเล่นมุขยังแป้ก ฯลฯ แต่อย่างน้อย...

    ...ข้าน้อยก็อัพนะ! (/me กลิ้งหลบรองเท้า)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×