ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • ฟอนต์ THSarabunNew
    • ฟอนต์ Sarabun
    • ฟอนต์ Mali
    • ฟอนต์ Trirong
    • ฟอนต์ Maitree
    • ฟอนต์ Taviraj
    • ฟอนต์ Kodchasan
    • ฟอนต์ ChakraPetch
[Kurosawa]ปฏิบัติการ หมั้นอลวน เทพอลเวง

ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 :: ประตูสู่เบื้องล่าง [win(d)]

  • อัปเดตล่าสุด 14 ก.พ. 52



         
มือเรียวคว้ารองเท้าสีขาวปักลวดลายสีทองยัดใส่เท้าเปลือยเปล่าอย่างทุลักทุเล เนื่องจากความพยายามที่จะใส่รองเท้าไป และวิ่งไปด้วยจากแรงกึ่งดึงกึ่งลากที่แขนอย่างร้อนรน พาร่างบางวิ่งผ่านทางเดินที่รั้งเพดานด้วยเสาสูงอย่างมหาวิหาร   ชุดผ้าสีขาวเบาบางสะบัดพลิ้วไหวไปด้านหลังอย่างรุ่มร่าม ยิ่งทำให้ความเร่งรีบนั้นช้าลงกว่าเดิมเมื่อผ้าบนไหล่ค่อยๆ ไหลตกลงมา  
เดี๋ยวก่อน พี่อากิ ...

          จับไว้สิคะ!”   คนถูกเรียกไม้แม้แต่หันมามอง กลับยิ่งกระชับมือแน่นขึ้นลากน้องสาวที่รีบตวัดชายผ้าขึ้นพาดรอบคอ   ยิ่งช้า ก็ยิ่งลำบาก

          แต่คือ ....   ค้านไปอีกฝ่ายก็คงไม่ฟัง เด็กหญิงจึงได้แต่ออกแรงวิ่งตาม   สายตาของทูตสวรรค์ที่เดินอยู่ตามทางเดินหันมองทั้งคู่ด้วยสายตาประหลาดใจ หากทางเดินก็ถูกแหวกออกให้เด็กสาวทั้งสองผ่านไปโดยง่าย   คงเป็นเพราะลายประจำตัวที่ปักอยู่บนชุดคลุมของพวกเธอ ...   ลายประจำตัวของทูตสวรรค์เพียงสี่องค์เท่านั้นที่สามารถทรง ...

          จตุรเทพผู้สรรค์สร้าง

          บนบทเล่าขานตำนานแห่งมวลมนุษย์

          จักรพรรดิแห่งสรวงสวรรค์ ผู้สร้างสิ่งทั้งปวง ...   ผู้ให้กำเนิดสรรพชีวิต

          ...   พร้อมด้วยบุตร แลธิดา   ยืนอยู่เหนือทิศทั้งสี่ ...

          เร็วเข้าครับ   ร่างสูงเพรียวผู้ยืนอยู่บนแท่นหินซึ่งถูกแกะสลักเป็นลาย เทพแห่งความอิสระ ร้องทักทันทีที่ประตูเปิดผางออก   เด็กหนุ่มสวมเครื่องประดับรูปปีกสีขาวตวัดด้วยสีม่วงเช่นเดียวกับด้วงตาไว้บนเรือนผมสีขาวยาว ....   เป็นอันเสร็จพิธี ...   เครื่องทรงประจำองค์สำหรับประกอบพิธีกรรม ...

          เด็กหนุ่มอีกคนเองก็พร้อมอยู่ตรง เทพแห่งโชคชะตา แล้ว   ใบหน้าหวานราวกับอิสตรีขมวดคิ้วน้อยๆ ขณะรอจนเด็กสาวทั้งสองขึ้นมาบนตำแหน่งของพวกนางเรียบร้อย มือขาวดั่งหิมะจึงได้ดึงออกข้างลำตัวเพียงเล็กน้อย และเริ่มพึมพำ   อำนาจแห่งจตุรศาสตรา ....   จงฟังข้าผู้เป็นนายเหนือเจ้า

          จงสถิตพลัง ...   สรรค์สร้าง แลทำลาย   เจ้าตำแหน่ง เทวีแห่งความยุติธรรม เอ่ยขึ้นตามด้วยเสียงอันทรงอำนาจ   ลายคันชั่งบนพื้นหินอ่อนที่ถูกสลักเป็นวงกลม ซึ่งล้อมด้วยตำแหน่งทั้งสี่ส่องลำแสงสีแดงขึ้น พันกับสีน้ำเงินเข้มที่ขึ้นมาพร้อมคำกล่าวก่อนหน้านั้น

          พลังอำนาจอันชอบธรรม ...   จงอยู่ภายใต้หัตถ์แห่งผู้บัญชา   ลายสีม่วงวิ่งจนสมบูรณ์เป็นลาย   ลายลมพัดหมุนวนล้อมวงพิธีกรรม และบุตรแห่งมหาเทพทั้งสี่   เสียงฝีเท้าจากภายนอกรีบร้อนดังใกล้เข้ามา ...   เร็วเข้า ...   ก่อนที่ผู้ไล่ตามจะเข้ามาใกล้มากกว่านี้!

          สตรีคนสุดท้ายลืมดวงเนตรสีอำพันแข็งกร้าวจ้องมองด้วยสมาธิไปยังวงพิธี   ฝ่ามือยืนสู่เบื้องหน้าดั่งผู้ประกาศิตถ้อยคำอันเป็นนิรันดร์   ลำแสงสีทองปรากฏเป็นลายวิหคเพลิงเป็นร่างสุดท้าย   บันดาลสิ่งที่จิตแห่งข้าปรารถนา ...   ประตูสู่มนุษยโลก จงเปิดเดี๋ยวนี้!!!

          สิ้นคำ พลันแผ่นหินอ่อนสีดำแยกออกเป็นสี่แผ่น ก่อนจะเลื่อนเปิดออกพร้อมกับแสงสว่างสีขาวเจิดจ้า จนผู้ประกอบพิธีต้องยกมือขึ้นบัง หากเท้าทั้งสี่คู่พาร่างเดินเข้าใกล้จนแทบจะตกลงไป ชุดประจำองค์ของเทวทูตทั้งสี่ปลิวตามแรงที่พุ่งขึ้นมาดูราวกับปีกสีขาว   ประตูหน้าวิหารถูกเปิดออก พร้อมผู้รับคำสั่งจากมหาเทพเซฟิรอธให้มาตามตัว ลูกๆ ของพระองค์เบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึง   จะ ... จตุรเทพ!!   อย่าทำเช่นนั้น ....!”

          ช้าไปแล้วละค่ะ ท่านเลขา   หญิงสาวผู้มีอายุมากสุดหันกลับมาพร้อมรอยยิ้มที่บอกให้คู่สนทนารู้ว่า ตัวเขาต้องเดือดร้อนเป็นแน่   เธอกล่าวทิ้งท้ายไว้ก่อนที่ทั้งสี่จะทิ้งตัวลงไปในทางไปสู่โลกมนุษย์   เราจะไม่ยอมให้ใคร มาจับพวกเราแต่งงานหรอก





 

 

          ฉันจะสาปแช่งพวกนาย ....

          สีหน้าบูดบึ้งบนใบหน้าสวยคมจนดึงสายตาผู้คนรอบข้างให้หันมาเป็นจุดเดียว หากเจ้าตัวไม่เพียงแค่ไม่สนใจ เท้าที่สวมรองเท้าส้นสูงยังกระแทกโครมตามจังหวะเดินไปบนระเบียงทางเดินของชั้นเรียน   ดวงตาสีอเมทิสต์จ้องขึงไปข้างหน้าอย่างหัวเสีย ทว่ายังดูนิ่งขึงคงความสง่างามที่ห้อมล้อมไว้อย่างปิดไม่มิด ซึ่งนั่นทำให้ดูน่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีก

          ใครที่มันให้ฉันใส่ชุดบ้าๆ นี่ ....

          ชุดบ้าๆ ที่ว่าคือชุดแต่งงานสีขาวล้วน พร้อมด้วยผ้าคลุมเจ้าสาวประดับอกไม้สีหวานติดเหนือใบหู   ต่างหูห้อยลงไล้ลำคอขาวเนียนราวกับผิวไข่มุก   เรือนผมสีดำยาวแผ่อยู่บนแผ่นหลังยิ่งทำให้ร่างบางดูโดดเด่นอย่างคมคาย   ราวกับหญิงสาวผู้สูงศักดิ์กำลังจะเข้าสู่พิธีแต่งงาน ...   ยิ่งคิด ริมฝีปากบางที่ถูกแต้มด้วยสีชมพูอ่อนธรรมชาติยิ่งเม้นแน่น

          ฉันจะฆ่ามัน .............!!

          โรงเรียนเซนต์ลูเชีย โรงเรียนซึ่งผู้เข้าเรียนหากไม่มาจากตระกูลเก่าแก่ที่มีอิทธิพลของประเทศ ก็เป็นลูกเจ้าของบริษัทชั้นนำที่มีชื่อในวงการธุรกิจ โรงเรียนชั้นนำที่ผลิตนักเรียนที่จบการศึกษาอย่างมีคุณภาพ และพร้อมด้วยความเป็นผู้นำเต็มเปี่ยม สอนครบวงจรตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงมหาลัย บนพื้นที่ขนาดใหญ่พอจะเป็นเมืองขนาดย่อมๆ ได้เลยทีเดียว

          เทศกาลงานโรงเรียน แม้จะต่างจากโรงเรียนทั่วๆ ความหรูหราของการจัดกิจกรรมต่างๆ แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ขนาดร้านกาแฟยังเรียกว่าระดับโรงแรมห้าดาวทีเดียว   หากทว่าสิ่งที่ เด็กวัยรุ่น อยากจะทำในงานเทศกาลก็ยังคงใกล้เคียงกันอยู่ ....   

          ด้วยเหตุนี้ จึงก่อกำเนิด ....   แฟนซีคาเฟ่   ‘Would you Marry Me?’    คาเฟ่ชุดเจ้าสาวขึ้นมา ...

          คาเฟ่บ้าอะไรฟะ!!!!!   แล้วไอ้ชุดแต่งงานผู้หญิงนี่อีก!

          จะรีบไปไหนล่ะครับ คุณหนู   แม้จะเป็นโรงเรียนเอกชนชั้นสูง ที่มีแต่ลูกคุณหนูสูงศักดิ์เท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้าเรียน แต่เรื่องภาชนะหุงต้มเสริมใยเหล็กนี่ก็ไม่เข้าใครออกใคร   ร่างบางไม่สนใจเสียงเรียก แต่อีกฝ่ายกลับคว้าแขนไว้   เดี่ยวก่อน ...

          ปล่อย!!”   เสียงแข็งประกาศกร้าวทันทีที่ดวงหน้านั้นสะบัดกลับมามอง   ฉันกำลังหงุดหงิด ถ้าไม่อยากมีเรื่องก็ช่วยปล่อยแขนด้วย

          ดุจัง   อีกฝ่ายกลับยิ้มเสียอีก และนั่นทำให้ความอดทนที่กำลังลดต่ำลงสุดขีดของร่างบางประดุขึ้น ...

          ฉันบอกว่าให้ ....!!”

          ก่อนที่เสียงหวานจะพูดได้จบ พลันเกิดแสงสว่างจ้าขึ้นวาบตรงหน้าขั้นระหว่างทั้งสอง แรงผลักราวกับมือกระแทกสองร่างแยกออกจากกันจนล้มลง   ประกายแสงสี่สีวิ่งพันกันจนตวัดพื้นเป็นลวดลายอักขระราวกับวงเวทมนตร์ จนเกิดเป็นสัญลักษณ์ ...

          ตำนานแห่งผู้สร้างโลก ...   เจ้าผู้ให้กำเนิดมวลมนุษย์

          ... จตุรทิศมหาเทพควบคุม ...   ต้นสายแห่งพลังที่สถิต   เป็นดั่งคำอวยพรที่พระเจ้าได้ประทานให้

          เพราะโชคชะตานั้น เราจักกำหนดเอง ....

          เพราะความยุติธรรม ...   สิทธิแห่งการเลือกเป็นของคนผู้นั้น

          ... เพราะอิสระ ...   จึงเกลียดชังโซ่แห่งพันธนาการ

          แสงตะวันนั้นสาดส่อง ...   

          เพียงเส้นทางที่เราชี้เท่านั้น!!

          ....   สัญลักษณ์พญาอินทรีแห่งนภาส่องสว่าง แปรแสงสีขาวเป็นสีม่วงเจือพันราวกับสายลมเมื่อยามเจ้าแห่งความอิสระสะบัดปีก แสงที่อาบด้วยกลิ่นของมนตรากลายเป็นขนนกแห่งทวยเทพโอบล้อมร่างหนึ่งไว้ราวกับปกป้องนายเหนือหัว ...   เทพแห่งความอิสระ

          ดวงตาคมเพียงปรายมองสถานที่ที่ตนเหยียบย่าง เปลวประกายแสงสีเดียวกับเนตรที่เพียงขยับก็สะกดเสียงอื้ออึงไว้ได้แล่นผ่านปลายนิ้วของร่างบุรุษเพศจนจางหายไป   ชุดแต่งกายสีขาวค่อยข้างกรุยกราย สลักด้วยตราสัญลักษณ์แห่งเทพ ซึ่งไม่ว่าผู้ใดทั้งบนโลกนี้ ...   หรือโลกเบื้องบนก็ไม่มีสิทธิ์ใช้มัน หากยังไม่สะดุดตาเท่ากับ ใบหน้าที่ทั้งดูคมคายดั่งรูปสลัก ทั้งคงความหวานราวกับอิสตรี ...   

          แย่จริงเชียว ...   บุรุษร่างสูงดึงผ้าคลุมไหล่ออก เผยให้เห็นผิวขาวนวล   รอยยิ้มบางเผยทำให้สีหน้านั้นดูอ่อนลงอย่างน่าประหลาด   การมาของผมทำให้สุภาพสตรีต้องบาดเจ็บ ...   ต้องขออภัยจริงๆ

          อย่ามาพูดบ้าๆ นะ!!”   ร่างบางหายจากอาการตะลึงในทันที ริมฝีปากสีอ่อนหยักอย่างฉุนกึก พลางปัดมือที่ยื่นมาช่วยพยุงออกแล้วยันตัวขึ้นเองทันที   นายเป็นใครกัน!”

          ถ้ารู้ว่าบนโลกมีคนที่งดงามเสียยิ่งกว่าเทพีผู้เลอโฉมที่สุดบนสวรรค์ ...   ผมคงลงมาที่นี่นานแล้ว ไม่ต้องรอให้ท่านพ่อจับหมั้นหมาย   หากอีกฝ่ายกลับยิ่งก้าวเข้ามาใกล้ ชุดผ้าคลุมสีขาวสะบัดขึ้นเบาๆ ทั้งที่ไม่มีลดพัดแม้แต่น้อย   ผ้าคลุมยาวถูกยื่นออกก่อนร่างสูงจะปล่อยให้มันลอยหลุดมือไป ...   ทว่าเมื่อผ้าผืนบางนั้นลอยผ่าน ร่างของนักเรียนคนอื่นๆ กลับล้มลงราวกับง่วงขึ้นกะทันหัน กระทั่งทั้งชั้นเรียนนั้นเหลือดวงตาที่ยังลืมอยู่เพียงสองคู่ ...   รอยยิ้มบนใบหน้าชวนหลงใหลดั่งคนช่างแกล้ง   ก่อนอื่นช่วยบอกหน่อยสิครับ ...   ผมทำอะไรให้คุณไม่พอใจหรือ

          พูดเรื่องอะไรน่ะ!”   อีกฝ่ายถอยหลังหนีอย่างที่ตนเองยังแปลกใจ ...   หมอนี่มันอะไร! ทำไมฉันถึงต้องยอมถอยด้วย   แล้วฉันก็เป็นผู้ชายต่างหาก!!!”

          พูดจบเด็กหนุ่มในชุดเจ้าสาวก็กระแทกร่างสูงกว่าให้หลบทางออกไป ไม่ไปเปล่ายังทิ้งหมัดพิฆาตเข้าที่ท้องของอีกฝ่ายเต็มรัก ก่อนจะวิ่งหายไปตรงทางเดิน   ชายหนุ่มในชุดกรุยกรายไอเบาๆ กับแรงกระแทกที่หนักมือไม่น้อย ....

          ผู้ชายเหรอ ....


          หึ ...   มีอะไรน่าสนใจบนโลกนี้แล้วสิ ...

          เรียบร้อยเลยนะครับเนี่ย ... พี่คิระ   เสียงหวานใสดังขึ้นเรียกสายตาของชายหนุ่มให้เงยขึ้นมอง แล้วก็ยิ้มให้น้องชายของตน ที่เดินมาพร้อมกับน้องสาวอีกคนหนึ่ง ...   ลูเซียส และเรย์   เด็กสาวผู้เป็นน้องคนที่สามในบรรดาพี่น้องทั้งสี่คนของเขาดึงหมวกซึ่งประดับปีกพันลายสีแดงออกด้วยสีหน้าติดรำคาญ ต่างจากน้องชายคนเล็กนั้นยังคงสภาพการแต่งตัวไว้เป็นอย่างดี   ไม่คิดเลยว่า ประตูสู่โลกมนุษย์ ที่พวกเราเปิดออกจะมากันคนละทาง   พี่เรย์กับผมอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่

          งั้นก็เหลือแต่พี่อากิสินะ   สิ้นคำกล่าวถึงเสียงเรียกก็ดังขึ้นจากอีกด้านหนึ่งของทางเดิน   ร่างของหญิงสาวในชุดผ้าสีขาวประดับด้วยลวดลายสีทองโบกมือน้อยๆ พร้อมกับส่งรอยยิ้มที่แสนจะอารมณ์ดีให้   หากที่แปลกนั่นคือเด็กหญิงอีกคนหนึ่งซึ่งเดินมาด้วยกันต่างหาก   พี่อากิ ...   เพิ่งจะลงมาไม่ทันไร พี่ไปหลอกเด็กผู้หญิงที่ไหนมาน่ะครับ

          เสียมารยาทต่า คิระจัง   เจ้าของนาม อากิระ ฟาดมือบนหลังของน้องชายเบาๆ หากไอ้ เบาๆ ของเธอนั่นก็ทำเอาแทบหน้าคว่ำ   ดวงตาสีอำพันที่ส่องประกายสดใส หากแข็งกร้าวอย่างไม่อาจหยั่งถึงบนผิวสีงาช้างบอกถึงความชอบใจของเธอ มือเรียวคว้าตัวเด็กหญิงมาตรงหน้า   นี่คือนานาลี่จัง ...   สาวน้อยแสนใจดีทีจะให้ที่อยู่พวกเราบนโลกมนุษย์นี่ยังไงล่ะ!!







 

 

          เลขาแห่งมหาเทพเซฟิรอธตัวลีบลงจบแทบจะเหยียบให้จมดินได้รู้แล้วรู้รอด   กระแสความโกรธแผ่ออกจากร่างบุรุษผู้เป็นใหญ่เหนือโลกทั้งสามแม้ไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำพูดใดๆ 

          หนีไปแล้ว ...   สุรเสียงดังกันวาลสะท้อนทั่วโถงแห่งวิหารทรงสูง มือที่เท้ากับเก้าอี้บัลลังก์ยกขึ้นปิดใบหน้า หากยังคงเห็นผิวนั้นเป็นสีแดงก่ำอย่างเดือดจัด ซึ่งคำพูดช้าชัดนี้บอกถึงความอดทนแสนประมาณ   ... แล้วยังไปบนโลกมนุษย์อีกด้วย ...   ทำได้ดีมาก คาออส ...

          คือ ...   ข้า

          เจ้าพวกลูกงี่เง่า!!!”   ฝ่ามือหนากระแทกกับพื้นโต๊ะเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่อาจนับ ซึ่งนั่นทำให้โต๊ะไม้สลักของวิจิตรเกิดรอยร้าว   ชายหนุ่มหายใจเข้าอย่างสะกดกั้น แต่เส้นเลือดที่ขมับนั้นปูดขึ้นจนแทบจะเห็นมันแตกไปต่อหน้าต่อตา   ก่อเรื่องยุ่งบนสวรรค์ไม่เว้นแต่ละวัน แล้วนี่ยังลงไปถึงโลกมนุษย์อีกงั้นเรอะ!!!!”

          ที่จริง ...   ราชเลขางึมงำ   ก็เพราะท่านจะจับทั้งสี่องค์หมั้นหมาย ...

          เพราะข้าจะดัดนิสัยเจ้าจอมก่อเรื่องสี่คนนั่นน่ะสิ!!!”   ไม่พ้นหูท่านมหาเทพ   เพราะไม่รู้จักโตเป็นผู้ใหญ่กันเสียที ถึงได้เอาแต่เล่นไปวันๆ แบบนี้ ...   นี่น่ะหรือ จตุรเทพที่มนุษย์บูชานับถือ!!   ก็จับมันแต่งงานซะ จะได้รู้จักคิดเสียบ้าง!”

          แต่ที่จริงก็ ...

          ก่อนที่ท่าเลขาคาออสจะได้พูดอะไรที่ทำให้ตัวเองเดือดร้อนไปมากกว่านี้ รายงานขอเข้าพบก็ดังขึ้นพร้อมกับประดูวิหารค่อยๆ เปิดออก ...   ร่างสี่ร่างปรากฏขึ้นที่บานประตูนั่น ลายปักบนเครื่องทรงบอกให้รู้ถึงลายลักษณ์เฉพาะตัวเทพ และเทพีชั้นสูง   หน้าสุดนั้นคือชายหนุ่มที่ต่างไปจากทุกคนในห้อง หรืออาจรวมทั้งพื้นสวรรค์นี้ก็เป็นได้ ด้วยสีแห่งเครื่องแต่งกายนั้นกลับเป็นสีเข้มที่ขัดกับโทนขาวของทูตสวรรค์   ดวงตาสีนิลภายใต้กรอบแว่นสบกับมหาเทพผู้กำลังโกรธระยะสุดท้ายได้อย่างไม่หวั่นเกรง   ได้ยินมาว่า คู่หมั้น ของพวกเรา ลงไปเยี่ยมเยือนโลกมนุษย์หรือขอรับ ...   ท่านมหาเทพ

          หนีน่ะสิ!”   ผู้อยู่เหนือกว่ากระแทกเสียงอย่างหงุดหงิด   ลูกข้านี่มันแย่จริงๆ!!”

          ผมพอจะเข้าใจความรู้สึกของเธอ ...   อยู่บ้าง   ชายหนุ่มส่งยิ้มบางอย่างใจเย็นมาให้   ส่งผลไปถึงอารมณ์คุกรุ่นของมหาเทพที่พอจะค่อยคลายลงบ้าง   เช่นนั้นผม ... และคู่หมายทั้งสาม   จะลงไปรับจตุรเทพกลับมาเอง





---------------------

ได้แค่นี้ละค่ะ ...

//โยนโลดด

 

 

ติดตามเรื่องนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน

ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

2ความคิดเห็น

กำลังโหลด...

2ความคิดเห็น

กำลังโหลด...
×
แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture