ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [NeRVe] 2 My Mine Mind... ของ...
Chapter: 2
Title: My Mine Mind...
Type: Modus
Type: Modus
Author: Deirc
“คิมคิบอม!! นี่นายยังไม่เลิกนิสัยแก้ผ้าออกนอกห้องน้ำอีกหรอฮะ!” ร่างบางหน้าโต๊ะเครื่องแป้งส่งสายตาดุผ่านกระจกไปหาอีกคนที่พึ่งออกมาจากห้องน้ำ
“คิมคิบอม!! นี่นายยังไม่เลิกนิสัยแก้ผ้าออกนอกห้องน้ำอีกหรอฮะ!” ร่างบางหน้าโต๊ะเครื่องแป้งส่งสายตาดุผ่านกระจกไปหาอีกคนที่พึ่งออกมาจากห้องน้ำ
“ทำไมต้องเลิก ก็นี่มันห้องผม ถ้าไม่ชอบก็กลับไปนอนห้องตัวเองสิ”
“แต่ตอนนี้นายไม่ได้อยู่คนเดียวนะ!” หันหลังไปจ้องหน้าอีกคน
“พี่จะอายอะไร ปกติก็เห็นกันหมดอยู่แล้ว แล้วก็สวยแล้วพี่ จะแต่งอะไรนักหนา ไอ่ที่ต้องแก้คือทำยังไงให้หน้ามันหายตอบตังหาก รีบลงไปกินข้าวได้แล้ว” ตอกกลับอย่างไม่ใส่ใจ คว้ากางเกงเนื้อดีมาใส่ก่อนเดินออกไปจากห้อง
อย่าเหลิงนักนะ
คิดว่าเป็นน้องแล้วจะได้รับข้อยกเว้นรึไง
อวดดี
แม้ความโกรธเคืองจะประดังเข้ามา แต่อย่างว่าฮีชอลก็ไม่เคยคิดจะลงมือกับคิบอมจริงๆ
ไหนๆก็ถูกขโมยความสงบยามเช้าไปแล้ว ลงไปหยั่งเชิงเสียหน่อยจะเป็นไร
“อรุณสวัสดิ์ครับ คุณพ่อ คุณเยซอง” เสียงสดใสกับยิ้มร่าเริงพุ่งตรงมาจากบันไดใหญ่ของบ้าน
“อรุณสวัสดิ์ อารมณ์ดีจังนะเช้านี้ แล้วนี่จะไม่ทักน้องหน่อยหรอ”
“เหอะ เจอกันตั้งแต่ข้างบนแล้วครับ มันมาเคาะห้องแต่เช้าเลย” ทำปากยื่นหันไปทางบุคคลที่สาม
“ฮ่าๆ ถ้างั้นก็นั่งซะ จะได้ทานมื้อเช้ากัน”
ตาโตกวาดมองมุมโต๊ะ ภาพร่างโปร่งในชุดพ่อบ้านสไตล์ยุโรปเตรียมเสิร์ฟอาหารสร้างความสำราญใจแก่คนมองไม่น้อย
เปลี่ยนอารมณ์เร็วจังนะ
. ทุกการกระทำอยู่ในสายตาของคนเป็นน้อง แต่อย่างไรก็ตาม อะไรที่เขาไม่มีส่วนได้ส่วนเสียก็แค่มีไว้ดูแทนละครหลังข่าว
“คุณเยซองนี่มือสวยจังนะครับ ไม่เหมือนคนทำงานหนักมาเลย ว่าแต่นี่คุณเยซองทำงานที่ไหนมาก่อนหรอครับ ดูชำนาญงานดีจัง” ร่างบางพูดขึ้นขณะเหลือบมองมือเรียวซึ่งกำลังตักข้าวใส่ในจานเบื้องหน้า
“อ๋อ เยซองเค้าทำงานให้คุณลีมาก่อนน่ะ พอดีพ่อไปมาบ้านเค้าบ่อยๆ ติดใจฝีมือการทำงาน คุณลีเขาก็ใจดีให้เยซองมาทำงานที่นี่” คุณคิมตอบด้วยรอยยิ้ม
“อ๋อ งี้นี่เอง” พยักหน้าเออออ
ทำงานที่อื่นมาก่อน คุณลีนั่นน่ะหรอจะยอมให้คนมีฝีมือมาง่ายๆแบบนี้ เล่นกับคนอย่างคุณเยซองนี่ ขนาดยังไม่ทันได้เริ่มก็สนุกเสียแล้ว
ยิ่งซับซ้อนก็ยิ่งท้าทาย
ยิ่งท้าทายก็ยิ่งสนุก
“วันนี้ใครจะนำสวด”
“คิบอม/ฮีชอล” สองพี่น้องหันหน้าเข้าหาอีกฝ่ายพร้อมส่งสายตาไม่ประสงค์ดีใส่กัน
“งั้นสวดพร้อมกัน” บทสรุปก็ออกมาหมือนทุกครั้ง
ระหว่างเวลาอาหารแสนหรรษาสงครามย่อยๆก็เกิดขึ้นระหว่างสองพี่น้อง เมื่อเกิดศึกชิงอาหารขึ้น หากแต่ไม่มีใครปริปากพูด ต่างคนต่างสู้กันด้วยสายตา ช้อน ส้อมและมีด ส่วนคนเป็นพ่อก็นั่งมองอย่างเพลิดเพลิน
“อิ่มแล้วครับ” คิบอมพูดเสียงเรียบหลังส่งเบคอนชิ้นสุดท้ายลงกระเพาะเรียบร้อย โดยมีฮีชอลส่งสายตาประทุษร้ายให้เป็นระยะๆ
แม้จะไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่ แต่เมื่อมองเห็นเยซองเดินมาเก็บจานชามบนโต๊ะ ร่างบางจึงเกิดนึกสนุกขึ้นอีกครั้ง
“แล้วนี่คุณเยซองทานมื้อเช้าหรือยังครับเนี่ย”
“ผมทานพร้อมพวกเมดมาก่อนแล้วครับ” โค้งให้คนถาม
“ทานแต่เช้าขนาดนั้นเชียว ผมว่าพรุ่งนี้เราให้คุณเยซองทานอาหารพร้อมเราเลย ดีไหมครับพ่อ คนเยอะๆอบอุ่นดี ฮ่าๆ” หันไปถามความเห็นคนที่นั่งหัวโต๊ะ
แค่นึกภาพมื้ออาหารถัดไปที่มีร่างโปร่งร่วมโต๊ะด้วย ก็อดตื่นเต้นไม่ได้เสียแล้ว
อดตื่นเต้นไม่ได้กับเกมล่าเหยื่อ
ชายสูงวัยประหลาดใจเล็กๆกับคำชวนของลูกชาย แต่ในเมื่อไม่ใช่เรื่องใหญ่ก็ไม่จำเป็นต้องต่อความยาวสาวความยืด ต่างจากลูกคนเล็กที่ขมวดคิ้วเป็นปม แต่แล้วทุกอย่างก็จบลงด้วยการตัดสินใจของลูกชายคนโตเช่นเคย
หลังเสร็จมื้อเช้าคุณชายใหญ่ตระกูลคิมก็ลากตัวคุณชายเล็กไปร่อนแถวย่านการค้าโดยมีคุณเยซองอำนวยความสะดวกเรื่องการเดินทาง
เมื่อพลังงานอันน้อยนิดจากการพักผ่อนแสนสั้นในคืนที่ผ่านมาหมดลง คนเด็กกว่าก็ต้องหาร้านให้พี่ชายตัวดีนั่งพักเติมพลัง
“คิมคิเนี่ยรู้ใจฉันจริงๆเลยนะ หิวก็รู้ อิ่มก็รู้ เหนื่อยก็รู้ น่ารักที่สุดเลย ฮะๆ” หยอดคำหวานใส่น้องชายแสนรู้ หลังส่งชาหอมกรุ่นลงคออึกใหญ่
“เมื่อคืนบอกให้ผมนอน ตัวเองมัวแต่คิดเรื่องไร้สาระอยู่ล่ะสิ” ตอบด้วยเสียงหน่ายเต็มที
“อะไรที่เป็นความสุขของฉันก็ไม่ไร้สาระหรอก” สายตาเอ็นดูที่ส่งให้ชิ้นเค้กตรงหน้าเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวใส่อีกฝ่ายทันที
ร่างสูงเพียงแต่ต่อต้านด้วยความเงียบแล้วก้มลงอ่านหนังสือต่ออย่างไม่ใส่ใจ อีกคนจึงลงมือจัดการขนมเค้กตรงหน้าบ้าง
“หมดแล้ว” พยายามเรียกร้องความสนใจจากคนที่อยู่ในโลกส่วนตัว
เมื่อรับรู้ร่างสูงเพียงแต่ยื่นมือหยิบกระดาษขาวสะอาดยื่นให้ ในขณะที่ตาก็ไม่ละไปจากตัวหนังสือตรงหน้า
มือเรียวคว้าข้อมือหนาไว้ทันที
“ไม่เอา คิบอมต้องเช็ดให้ฉันสิ”
หน้าคมเงยขึ้นสบตากับคนเอาแต่ใจ ดึงมือออกเพื่อยื่นไปเช็ดให้แต่ก็ถูกปฏิเสธอีกครั้ง
“ไม่ใช่แบบนี้”
คนฟังถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนยื่นหน้าเข้าไปจนเกือบติดหน้าสวย ส่งลิ้นโลมเลียเอาวิปครีมหวานหอมบนกลีบปากบางออกจนหมดอย่างรวดเร็ว เมื่อจะถอยห่างกลีบปากบางก็รีบประทับจูบเบาๆบนเคราบางอย่างรักใคร
ร่างบางอมยิ้มกับท่าทีเฉยชาของอีกฝ่าย
. นิ่งแค่ไหนก็อายเท่านั้น
หลังเช็คบิลเสร็จคนอารมณ์ดีก็วิ่งร่าสบายใจโดยมีอีกคนถือของพะรุงพะรังวิ่งตามไม่ห่าง
“คิบอมมานี่เร็ว!!! มาดูนี่ๆ!!!” ตะโกนเรียกคนที่พยายามก้าวตามมาด้วยความยากลำบากพลางชี้นิ้วไปยังสิ่งของที่อยู่อีกฝั่งของบานกระจกหน้าร้านขายเครื่องประดับ
ร่างสูงเร่งจังหวะการก้าวขาให้ถี่ขึ้นเพื่อให้ไปถึงที่หมายเร็วกว่าเดิม
“นี่ๆ สวยมั้ย จี้รูปไวโอลินกับคันชัก เหมาะกับเราดีเนอะ คิก” เงยหน้ายิ้มให้คนสูงกว่าพร้อมคว้าแขนแกร่งมากอดแน่น
“อยากได้พี่ก็ซื้อสิ ยังไงบัตรพี่คุณคิมก็เป็นคนจ่ายอยู่แล้วนี่”
“นี่นายเข้าใจมั้ยเนี่ย จี้คู่น่ะ ของแบบนี้นายต้องซื้อให้พี่สิถึงจะถูก นายเป็นไวโอลิน ส่วนฉันเป็นคันชัก ถึงจะเป็นแค่แท่งไม้ดูไม่สำคัญ แต่ถ้าไม่มีฉันนายก็ไม่มีเสียง ฮะๆ ”
ไวโอลินที่ไม่มีเสียงก็ไม่ต่างอะไรจากซากไม้ไร้ราคา
หากไม่มีฉันนายก็ไร้ประโยชน์
แต่ไม่หรอกก็คิบอมเป็นของฉันนี่
อะไรที่ไร้ค่าฉันก็จะไม่เก็บไว้
- - - - - - - - - - - - - - - -
“วันนี้พอแค่นี้แล้วกัน ประธานตามมาเอาตารางสอบไปติดบอร์ดด้วย” ทันทีที่อาจารย์เดินออกจากห้องเสียงก็ไม่ต่างอะไรกับระเบิดลงแน่นอนทุกหัวข้อสนทนาหนีไม่พ้น ‘ตารางสอบ’
“ฮะ ว่าไงนะ ตารางสอบ จะสอบแล้วหรอเนี่ย อะไรกันพึ่งเปิดเทอมแป๊บเดียวเองนะ แล้วนี่อะไรมีสอบวิชาเลือกด้วยหรอ” เสียงดังในระดับเดซิเบลที่เป็นอันตรายกระแทกเข้าหูเพื่อนทั้งสองที่นั่งอยู่ข้างๆ โดยหารู้ไม่ว่าคนที่โชคร้ายที่สุดคือคนที่นั่งอยู่ฝั่งขวามือของตนต่างหาก
“ทงแฮ เสคเรามีใครเลือกนิติวิยาศาสตร์มั้ย”
“ไอ่คลาสผ่าศพของนายน่ะหรอ ไม่มีนะ นายเลือกไว้ไม่ใช่หรอทำไมไม่รู้ล่ะ” เลิกโวยวายหันมาถามด้วยท่าทีเป็นผู้เป็นคนมากกว่าเดิม
“ก็ฉันแทบไม่ได้เข้าคลาสเลยน่ะสิ ใครจะไปคิดเล่าว่ากลางภาคจะมีสอบวิชาเลือก”
“นายโดดเรียนไปทำงานอีกแล้วใช่มั้ย ฉันนึกว่านายจะเลิกนิสัยนี้ตั้งแต่จบม.ปลายแล้วซะอีก เฮ้อ แย่ชะมัด”
“อย่าพึ่งบ่นสิทงแฮ ช่วยฉันคิดก่อนได้มั้ยว่าจะไปหาเลกเชอร์จากใคร คยูฮยอนนายพอรู้มั้ยว่ามีใครเลือกนิติวิทย์บ้าง” คุยกับคนข้างๆเสร็จก็ตะโกนข้ามไปหาคนถัดไป
หน้าเข้มละจากหนังสือหันไปหาคนที่พึ่งเรียก
“รู้อยู่คนนึง แต่ฉันไม่เคยคุยด้วยหรอกนะ” แววตาเศร้าหมองวิบวับทันทีที่ได้ยินเสียงเข้ม
“จริงหรอ ใครอ่ะ” ตะโกนข้ามหัวคนนั่งคั่นกลางอย่างไม่ใส่ใจ
“คิมคิบอมเสคหนึ่ง หาให้เจอละกัน ฉันไปล่ะวันนี้มีธุระที่ร้าน พวกนายกลับดีๆล่ะ”
ตาเรียวมองตามร่างสูงที่เดินจากไปอย่างหมดหวัง และหันมาทางคนข้างกาย
“โอเคฉันจะช่วยหาหมออีกแรงแล้วกัน เก็บของแล้วไปได้แล้ว แต่ต่อไปนี้นายห้ามโดดอีกนะเข้าใจมั้ย”
พยักหน้าหงึกหงักแล้วเก็บของอย่างรวดเร็ว
สายตาสี่ดวงสองคู่กวาดมองไปรอบๆห้องที่นักศึกษาเสคหนึ่งเรียนเป็นคาบล่าสุดของวันนี้ แต่ก็ไร้วี่แววของสิ่งมีชีวิตภายในห้องนอกจากเขาทั้งสอง
ในที่สุดสองชีวิตก็ตัดสินใจเดินถามเด็กปีเดียวกันในบริเวณรอบมหาลัยว่ามีใครเห็นบุคคลปริศนาผู้นั้นหรือไม่
“ทงแฮ วันนี้กลับก่อนดีกว่า เพราะยังไงนี่ก็เย็นแล้ว เค้าคงกลับไปแล้วล่ะ แล้วฉันก็มีงานที่ร้านด้วย”
“อืม พรุ่งนี้ค่อยมาหาใหม่ละกันยังไงก็สอบตั้งอาทิตย์หน้า แล้วนี่ให้ไปส่งที่ร้านมั้ย” เห็นด้วยเพราะจากเวลาเลิกคลาสนี่ก็ผ่านมาสามชั่วโมงแล้วคงไม่มีใครนั่งแช่อยู่ที่มหาลัยเป็นแน่
“ไม่เป็นไร ร้านกับบ้านนายมันก็คนละทางกัน นายกลับเถอะ”
“เดินทางดีๆล่ะ” โบกมือลาก่อนเดินจากไป
ท่ามกลางอากาศเย็นและฟ้าที่มืดลงเรื่อยๆ ยืนคนเดียวกลางมหาลัยความหวาดกลัวเริ่มคลืบคลาน แต่หากไม่ใช่เพราะบรรยากาศ
ก็เมื่อไหร่ที่อยู่คนเดียว
การมองใครสักคนเดินจากไป
จะแน่ใจได้ยังไงว่าการเฝ้ามองคนๆนั้นในครั้งนี้
..
..
..
จะไม่เป็นครั้งสุดท้าย
- - - - - - - - - - - - - - - -
“ลืมจนได้สินะ” หน้าหล่อตีกันยุ่งเมื่อนึกถึงสัมผัสว่างเปล่าในกระเป๋ากางเกง
แค่ลืมมือถือใจจริงก็อยากจะทิ้งไว้พรุ่งนี้ค่อยกลับไปเอา แต่ข้อมูลข้างในนี่สิถ้าหลุดไปได้ลงหน้าหนึ่งนิตยสารซุบซิบไฮโซแน่
นึกถึงนิตยสารทีไรต้องนึกถึงข่าวพี่กับหมอนั่นทุกทีสิ
น่ารำคาญที่สุด
แต่ว่า
ถ้ามีข่าวของผมกับคนอื่นพี่จะรู้สึกยังไงนะ
ระหว่างที่พี่ไม่อยู่ขอผมเล่นสนุกบ้างแล้วกัน
แต่ก่อนที่จะมาคิดเล่นสนุกร่างสูงก็ต้องรีบกลับไปเอาของสำคัญกลับมาก่อน
ทันทีที่เทียบรถหน้าประตูคณะขายาวก็รีบก้าวไปยังห้องที่ใช้เรียนคาบสุดท้ายของวันนี้
พลั่ก!!
ร่างสูงชนเข้ากับใครซักคนที่ตอนนี้ลงไปกองกับพื้นเป็นที่เรียบร้อยแต่ด้วยความเร่งรีบจึงได้เพียงเอ่ยขอโทษสั้นๆ
“โทษที ฉันรีบ”ว่าแล้วก็จ้ำอ้าวต่อไป
“เดี่ยว นายคือคิมคิบอมเองหรอ” คนที่นั่งกองอยู่บนพื้นตะโกนขึ้น
สองขาหยุดชะงักหันกลับไปพร้อมคำถามที่ดีสุดที่หลุดเข้ามาในหัว
“ถ้าใช่แล้วทำไม”
“ก็กระเป๋าตังค์นายมันบอกฉันเองนี่” ชูกระเป๋าหนังสีดำขลับขึ้นอย่างเป็นต่อ
มันจะอะไรนักหนาวะวันนี้
เดินกลับไปหาคนที่ยืนปัดกางเกงอย่างเมามัน มือเรียวรีบยื่นกระเป๋าตังค์ให้เจ้าของที่เดินมาประชิดตัว
“ขอบใจ” สั้น ง่าย และรวดเร็ว พร้อมหันหลังออกเดินทันที
“เดี๋ยวสิ อย่าพึ่งไป วิชาเลือกนายเรียนนิติวิทย์ใช่มั้ย” เดินตามคนที่กำลังรีบร้อนอย่างไม่ลดละ
“ใช่ ทำไม”
“คือว่า ขอยืมเลกเชอร์หน่อยได้มั้ย”
“นายจะเอาไปทำอะไร”
“คือฉันมีธุระบ่อยๆน่ะก็เลยไม่ได้เข้าเรียนเลย แล้วแบบ นี่ก็ใกล้สอบแล้ว” ก้มหน้าก้มตาพูด
ระหว่างที่พี่ไม่อยู่ขอผมเล่นสนุกบ้างแล้วกัน ไหนๆก็มีของเล่นเดินมาหาถึงที่แล้วนี่
“พรุ่งนี้เที่ยงมาเอากับฉันที่ห้องสมุด ไปก่อนล่ะ”
ในที่สุดร่างสูงก็มาถึงที่ๆลืมของเอาไว้ สายตากวาดมองใต้เก๊ะที่ใช้นั่งเมื่อตอนกลางวัน... ยังอยู่
มือหนารีบคว้าของสำคัญใส่กระเป๋าแล้วเดินกลับไปยังยานพาหนะราคาเก้าหลักเงินวอน
นายจะทำให้ฉันสนุกได้เท่าพี่รึเปล่านะ
NeRVe - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
มาอัพแล้วววววว
ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนตามจิก ห้า ห้า
ขอบคุณสำหรับทุกคนที่อ่านและเม้น ฮี่ๆ
ไม่เม้นไม่อัพน้า
มะมีกำลังใจ T T
ตอนนี้ก็ไม่ค่อยเครียด
เบรคความเครียดไว้ก่อน ฮ่าๆ
พาร์ทหน้ามันจะมาเต็มสตรีม
สำหรับทึกซินมีแน่ๆ อิอิ
อดใจรอต่อไป~
วันนี้ไปแล้วคับ!!!
มาอัพแล้วววววว
ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนตามจิก ห้า ห้า
ขอบคุณสำหรับทุกคนที่อ่านและเม้น ฮี่ๆ
ไม่เม้นไม่อัพน้า
มะมีกำลังใจ T T
ตอนนี้ก็ไม่ค่อยเครียด
เบรคความเครียดไว้ก่อน ฮ่าๆ
พาร์ทหน้ามันจะมาเต็มสตรีม
สำหรับทึกซินมีแน่ๆ อิอิ
อดใจรอต่อไป~
วันนี้ไปแล้วคับ!!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น