คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : >>>>1
บ้านตระกูลคิม
“ทึกกี้....คุณปู่เป็นยังงั้ยบ้าง” ฮีชอลเมื่อเห็นพี่ชายตนเดินออกมาจากห้องก็รีบถามด้วยอาการร้อนรน
“ซินคุณปู่ให้นายเข้าไปหาข้างในรีบเข้าไปเถอะ” เขาไม่ได้ตอบคำถามคนตรงหน้าแต่กลับบอกให้เข้าไปข้างในแทน
ภายในห้องที่ร่างบางได้ก้าวเข้ามามีชายแก่คนหนึ่งกำหลังนอนอยู่บนเตียงซึ่งมีเครื่องช่วยหายใจครอบไว้ เขาเดินเข้ามาหยุดอยู่ข้างเตียงเมื่อเขาเห็นสภาพปู่ตัวเองที่นอนอยู่ทำให้เขาไม่อาจกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้
“คุณหมอครับ...คุณปู่ท่าน” ฮีชอลหันไปถามคุณหมอประจำตระกูลที่ยืนอีกฝั่งของเตียง
“ก็อย่างที่เห็นแหละครับตอนนี้อาการท่านนับว่าแย่ลงและท่านก็มีเรื่องอย่างที่จะคุยกับคุณ เดี๋ยวผมจะออกไปรอข้างนอก”
“คุณปู่ครับคุณปู่” ฮีชอลนั่งลงข้างๆเตียงจับมือคนที่นอนอยู่บนเตียงให้ได้รู้สึกตัว
“ฮีซอล...มาแล้วหรอ” เขาพยายามแปร่งเสียงพูดออกมาด้วยแรงทั้งหมดที่มี
“ใช่ครับผมอยู่นี่”
“ฮีชอลฟังปู่ให้ดีปู่รู้ว่าปู่มีโอกาสจะอยู่ได้อีกไม่นาน แล้วคนที่ปู่รักและเป็นห่วงมากที่สุดก็คือเจ้า
ปู่คงตายตาหลับถ้าปู่หาคนที่จะมาดูแลเจ้าต่อจากปู่ ปู่คิดว่าคนๆนั้นสามารถทำหน้าที่นั้นได้และปู่ก็เชื่อว่าปู่ดูคนไม่ผิด หลังจากที่ปู่ไปแล้วแต่งงานซะฮีชอลเมื่อเจ้าทำตามที่ปู่บอกปู่คงหมดห่วงในตัวเจ้า”
“ไม่ครับคุณปู่ผมจะไม่แต่งงาน ผมจะอยู่กับคุณปู่ผมจะไม่ยอมให้คุณปู่จากผมไปไหนเด็ดขาด” ฮีชอลพูดพร้อมกับโผเข้ากอดชายแก่ที่นอนอยู่บนเตียง
“ฮีชอลเจ้าจงเชื่อปู่ เจ้าไม่เคยดื้อกับปู่ไม่ไช่หรอ รับปากปู่ว่าจะทำตามที่ปู่บอก”
“ครับคุณปู่....ผมจะแต่งงาน”
“หลังจากที่ปู่ไม่อยู่แล้วดูแลตัวเองให้ดีปู่รักพวกเจ้าทั้งสามคนมากที่.......”
ชายแก่พูดยังไม่ทันจะจบก็สิ้นใจไปซะก่อน ร่างบางเห็นว่าชายที่ตนกอดอยู่แน่นิ่ง พร้อมกับเสียงเครื่องช่วยหายใจดังขึ้นเขาก็ถึงกับปล่อยโฮออกมาทันที
“ฮื่อๆๆคุณปู่ครับอย่าทิ้งผมไป คุณหมอครับคุณหมอ”
ลีทึกกับหมอรีบเข้ามาทันทีที่ได้ยินเสียงตระโกนมาจากข้างใน
“ซินคุณปู่เป็นอะไรไป”
“ทึกกี้คุณปู่....หมอครับช่วยคุณปู่ผมด้วย”
“ผมว่าคุณสองคนไปรอข้างก่อนดีกว่าครับ”
“ไปเถอะซินไปรอข้างนอก” ลีทึกดึงคนข้างๆให้ออกไปข้างนอกกับเขาถึงแม้ฮีชอลจะเดินออกไปตามแรงดึงของพี่ชายแต่สายตาก็ไม่วายจับจ้องไปยังบุคคลที่นอนอยู่บนเตียง
หน้าห้องผู้ป่วยมีคน2คนเดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องจนกระทั่งคนที่อยู่ข้างในเปิดประตูออกมา
“คุณหมอครับคุณปู่ผมเป็นยังงั้ยบ้าง” หมอทำสีหน้าลำบากใจก่อนตอบคำถามทั้งสองคน
“หมอเสียใจด้วยครับท่านไปสบายแล้ว”
หลังจากได้ยินสิ่งที่คุณหมอพูด ฮีชอลถึงกลับปล่อยโฮออกมาเลยทีเดียว
“ทึกกี้คุณปู่ท่านไปแล้วท่านจากเราไปแล้ว”ฮีชอลโผเข้ากอดพี่ชาย
ถึงแม้ว่าลีทึกจะไม่ได้ร้องไห้ออกมาเหมือนฮีชอลแต่เขาก็เสียใจไม่น้อยไปกว่าฮีชอลเลย ที่บุคคลที่เขาเคารพรักมากที่สุดจากไป เพราะตั้งแต่ที่พ่อแม่ทั้งสามคนตายจากไปก็ได้ปู่เขานี่แหล่งที่อุปการะเลี้ยงดูสามคนพี่น้องมาโดยตลอด ตอนนี้เขาต้องเป็นหลักให้กับฮีชอลเขาจะร้องไห้ไม่ได้
“ซินอย่าร้องนะคุณปู่ท่านไปสบายแล้วต่อไปนี้ฉันจะดูแลซินเองนะ ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่จากซินไปไหนอีก”
“คิบอม...ทึกกี้เค้าอยากเจอคิบอมทึกตามน้องกลับมานะ”
“ได้ๆฉันจะตามน้องกลับมาคิบอมต้องกลับมา” ยังไม่มีทีท่าว่าฮีชอลจะหยุดร้องง่ายๆ ทำให้ลีทึกต้องรับปากฮีชอลว่าจะตามน้องชายกลับมาทั้งๆที่เขาก็ไม่รุ้ว่าตอนนี้น้องชายเขาไปอยู่ที่ไหน
ณ.ประเทศสเปน
ด้วยความที่เป็นคนรักอิสระชอบการท่องเที่ยวคิมคิบอมน้องชายคนเล็กของตะกูลคิมก็ออกเดินท่องเที่ยวรอบโลกตามที่ตัวเขาเองชื่นชอบ และการที่เขาชอบถ่ายรูปบวกกับฝีมือการถ่ายรูปที่ไม่เป็นรองใครทำให้เขายึดอาชีพช่างภาพอิสระไปในตัวเงินที่ได้จากการขายภาพเขาก็เอามาเป็นทุนในการเดินทาง นานทีปีหนเขาจะติดต่อกลับมาหาครอบครัวเพียงเพื่อไม่ให้คุณปู่กับพี่ชายต้องเป็นห่วง
มีแต่เพียงEmailเท่านั้นที่ทางครอบครัวเขสามารถติดต่อเขาได้หากมีเรื่องจำเป็น วันนี้หลังจากที่เขาอ่านmailจากพี่ชายเขาแล้วเขาก็รีบออกจากที่พักแล้วเดินทางกลับเกาหลีโดยทันที
สนามบินประเทศเกาหลี
.....จุดรับผู้โดยสารขาเข้า....
ลีทึกกำลังยืนรอรับบุคคลที่เขาไม่ได้เจอมานานตั้งแต่คิบอมแวะไปหาเขาที่อังกฤษเมื่อปีก่อน เขาก็ไม่ได้เจอคิบอมอีกเลย
“คิบอม....คิบอมทางนี้” แล้วบุคคลที่เขายืนรอร่วมชั่วโมงก็มาถึง คิบอมถึงแม้ว่าผิวจะดูเข้มขึ้น ผมและหนวดที่ยาวขึ้นแต่เขาก็สามารถจำน้องชายได้ดี
“สวัสดีครับพี่ทึก รอนานหรือเปล่าครับที่จริงพี่ไม่ต้องลำบากมารับเองก็ได้นี่ครับ” เขาไม่อยากให้พี่ชายตัวเองต้องลำบากมารับเพราะเขารู้ว่าช่วงนี้ลีทึกคงยุ่งและเหนื่อยมาก
“น้องชายพี่กลับมาทั้งทีจะไม่มารับได้ยังงั้ยหล่ะ รีบไปกันเถอะเราต้องไปหาคุณปู่กันก่อน”
ทั้งสองคนขึ้นรถไปยังสถานที่ต่อไป
“พี่ทึกครับพี่ฮีซอลเป็นยังงั้ยบ้าง ยังเสียใจเรื่องคุณปู่อยู่หรือเปล่า”
“อื้ม...ตั้งแต่คุณปู่เสียไปซินก็เอาแต่ร้องไห้ ข้าวปลาไม่ยอมกิน นายก็รู้ว่าเรา3คนซินสนิทและใกล้ชิดกับคุณปู่มากที่สุดไม่ว่านายหรือฉันก็ใช้เวลาอยู่ต่างประเทศซะส่วนใหญ่ แต่ตอนนี้นายกลับมาแล้วนี่ซินคงดีใจ ซินคิดถึงนายมากนะบังคับฉันให้ตามตัวนายกลับมาให้ได้ ว่าแต่กลับมาคราวนี้จะอยู่นานหรือเปล่า” ลีทึกหันมาถามน้องชาย
“ก็คงนานกว่าทุกครั้งแหล่ะครับ ผมว่าจะเปิดนิทรรศการภาพถ่ายที่นี่ครับ”
“ก็ดีนะสิ เราจะได้อยู่ด้วยกันนานๆหน่อย เราไม่ได้อยู่พร้อมหน้า3คนพี่น้องมานานแล้วเนอะ ถ้าซินรู้คงดีใจมีนายมาอยู่ด้วยคงหายเหงา”เพราะทึกรู้ดีว่าที่คิบอมกลับมาคราวนี้แล้วอยู่นานกว่าทุกครั้ง ส่วนหนึ่งมาจากฮีชอล เขารู้ว่าคิบอมรักและเป็นหวงฮีชอลมากแค่ไหนคิบอมคงทำให้ฮีชอลเลิกเสียใจได้
หลังจากที่ได้ไปเคารพหลุมศพปู่ตัวเองแล้วลีทึกก็รีบขับรถพาคิบอมมาที่บ้านเพราะกลัวว่าคนที่อยู่ที่บ้านจะรอจนทนไม่ไหวกว่าที่เขาจะมาถึงฮีชอลก็โทรมา ถามแล้วถามอีกว่าเมื่อไรจะมาซักทีที่จริงที่แรกฮีชอลจะขอไปรับคิบอมที่สนามบินด้วยแต่เขาไม่อยากให้ฮีชอลต้องไปลำบากเพราะตั้งแต่คุณปู่ตายไปฮีชอลดูไม่ค่อยจะแข็งแรงมากนักเขาเลยไม่อยากให้ออกไปเบียดกับคนเยอะๆกลัวจะเป็นลมซะก่อน ก่อนจะได้เจอน้องชาย
พอได้ยินเสียงรถเข้ามาจอดร่างบางที่นั่งไม่ติดก็รีบวิ่งออกไปหน้าบ้านทันที
“คิบอม คิดถึงจังเลย” ยังไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะก้าวลงมาจากรถดีฮีชอลก็รีบวิ่งไปกอดน้องชายที่ไม่ได้เจอกันนาน
“โอ๊ยพี่ครับเบาๆหน่อยก็ได้ ผมหายใจไม่ออกคิบอมรีบดันตัวพี่ชายคนสวยออกจากตัวเอง” จริงๆแล้วเขาเขินต่างหากถึงแม้ว่าคนที่กอดจะเป็นพี่ชายตัวเองก็เถอะ
“นั้นซิซินเดี๋ยวน้องก็ตายพอดีหรอ” ลีกทึกเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้กับอาการรักน้องของฮีชอล
“ก็เค้าดีใจนี่หน่า เดี๋ยวนี่พี่กอดนิดก่อนหน่อยไม่ได้เลยใช่มั้ยคิบอมใช่สินายโตแล้วนี่” ฮีชอลพูดอย่างงอนๆ
“ไม่ใช่ซะหน่อย ผมคิดถึงพี่ฮีชอลนะครับอย่างโกรธเลยนะ” ที่นี่เด็กหนุ่มเป็นฝ่ายเข้ากอดพี่ชายตัวเองบ้าง
“เราเข้าไปข้างในกันเถอะครับผมซื้อของมาฝากพี่สองคนด้วยนะ” แล้วทั้งสามคนก็พากันเดินเข้าไปในบ้าน
วันนี้เป็นวันที่2แล้วตั้งแต่คิบอมกลับมาพร้อมกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกับสองคนพี่น้อง
“คิบอมอย่าหนีนะ มานี่ซะดีๆคราวนี้นายหนีฉันไม่พ้นแน่ๆ” ฮีซอลที่มีกรรไกรอยู่ในมือวิ่งไล่จับน้องชายตัวเอง
“พี่ฮีชอลจะทำอะไรผมล่ะครับผมบอกแล้วงั้ยผมไม่ตัด” ปากก็พูดเท้าก็วิ่งเขาไม่ยอมให้พี่ฮีชอลจับได้เด็ดขาดถ้าจับได้มีหวังเขาตายแน่ๆ
“ทึกกี้ช่วยจับคิบอมให้เค้าหน่อย อย่าปล่อยนะ” ลีทึกที่ไม่รู้เรื่องเดินลงมาจากข้างบนเห็นฮีชอลบอกให้จับเขาก็จับคิบอมไว้ด้วยความงง
“ฮ่าเสร็จฉันหล่ะดีมากทึกจ๋า ขอบคุณนะ” แล้วฮีชอลก็เดินมาจับหูคิบอมให้เดินไปกับตนเข้าไปในห้อง
อย่างอารมณ์ดี
“อะไรของเขานะ” ทึกพูดแล้วก็ยิ้มออกมานานเท่าไหร่แล้วนะที่ไม่ได้เห็นฮีชอลเป็นแบบนี้
ก่อน หลังโดนซินแปลงโฉม
ความคิดเห็น