ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักสุดโฉด..ของยัยเฉิ่มสุดเชย

    ลำดับตอนที่ #2 : BLACK DEVIL=_="บทที่1..พรหมลิขิตหรือความบังเอิญกันนะ

    • อัปเดตล่าสุด 27 มี.ค. 52



    ��������
    เธอไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ย..?"�นายคาร์ถาม หลังจากที่พยุงฉันมานั่งในโรงอาหาร�

    ��������

    ����������"ฉันไม่เป็นไร��ขอบใจมากนะ"�ถึงนายจะหล่อ เพอร์เฟ็คและตรงสเป็คฉันมากแค่ไหนก็เถอะ แต่ขอสาบานได้เลย ว่าต่อให้ฟ้าถล่มดินทลาย ฉันก็ไม่มีทางเป็นญาติดีกับพวก�BLACK DEVIL แน่นอน

    ����������พูดจบ ฉันพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น เตรียมจะเดินออกไปให้พ้นจากหมอนี่...

    ����������แต่ความเจ็บปวดที่นายหัวดำมันก่อไว้ ทำให้ฉัน....��������

    �������� ทำเก่งอีก ก็เห็นๆอยู่ว่าเดินไม่ไหวฉันเซไถลเตรียมจะล้ม ดีนะ..ที่นายคาร์มารับได้ทัน ไม่งั้นฉันคงได้แผลเพิ่มอีกแหงๆ

    ��������� ..........” ช่วยเอาหน้าหล่อๆของนายไปไกลๆฉันสักทีได้มั้ย ไม่อย่างนั้นฉันคงต้องตกหลุมความหล่อที่นายขุดไว้ แบบพวกผู้หญิงคนอื่นๆแน่ๆ

    ��������� เดี๋ยวฉันพาไปส่งบ้านดีกว่า

    ��������� ไม่ได้นะ ไม่ได้!!” ฉันรีบปฏิเสธ ก่อนที่อะไรมันจะเกินเลยไปมากกว่านี้����

    ����������"ทำไมจะไม่ได้ ก็ฉันอยากไปส่งเธอนี่หน่า ฉันเป็นห่วงเธอนะ.."�

    �����������ฉันเป็นห่วงเธอนะ...

    ���������� ฉันเป็นห่วงเธอนะ...

    ���������� น้ำเสียงที่ดูจริงใจของเขา ดังก้องในหูของฉัน นี่ฉัน..เป็นอะไรไปเนี่ย ทำไมหน้าฉันต้องร้อนผ่าวด้วยนะ

    ���������
    ��ฉันมัวแต่ตกใจกับเหตุการณ์เมื่อกี้ จนไม่ได้สนใจว่าตอนนี้หมอนี่พาตัวฉันขึ้นรถไปซะแล้ว บ้าชะมัด..นี่ฉันเป็นอะไรไป

    ��������� ฉันมองทะลุหน้าต่างหลังจากที่นายหัวทองแล่นรถอย่างช้าๆ แฟนคลับหมอนี่แทบทั้งโรงเรียนยืนมองฉันที่นั่งอยู่บนรถหมอนี่ด้วยสายตาประมาณว่า..พรุ่งนี้เมื่อไหร่ แกตายแน่ยัยนินิว..!

    ��������� ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้วล่ะจู่ๆนายคาร์ก็ถามฉัน ทำลายความเงียบในรถ

    ��������� อ๋อ..จะสิบแปดแล้ว ทำไมเหรอฉันถามเขา แต่หมอนี่กลับเบี่ยงที่จะตอบ แต่กลับเป็นฝ่ายถามฉันต่อ

    ��������� มอหกแล้วสิ

    ���������

    ��������� อือ


    ��������� ฉันตอบ ก่อนความเงียบจะมาเยือนภายในรถอีกครั้ง หลายครั้งที่ฉันแอบหันไปมองหน้าของนายคาร์ มันทำให้ฉันใจสั่นทุกที เพราะภาพที่เห็นคือนายนั้นกำลังยิ้มตลอดทาง เฮ้อ..ทำไมต้องมาทำดีแบบนี้กับฉันด้วยนะ

    ��������� "อ๊ะ! ถึงแล้วบ้านฉันแล้วเหรอเนี่ย " ฉันหันมองบ้านปูนสองชั้น ที่ทั้งเก่าและเล็กรั่วโดนสนิมขึ้นเขรอะ แถมตัวบ้านยังมีรอยคราบดำจากน้ำฝนอีก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคือบ้านฉันเอง เอ๊ะเดี๋ยวนะ ฉันยังไม่ทันบอกเลยว่าบ้านหลังไหน นี่นายรู้ได้ไง

    ��������� อ๋อ..ฉันเดาเอา อย่าถามมากเลย รีบเข้าบ้านเถอะ เดินไหวมั้ย ฉันช่วยพยุง

    ��������� ไม่...ไม่ต้องหรอก ฉันไม่อยากเดือดร้อนน่ะ

    ��������� เดือดร้อนอะไรกัน ในเมื่อพ่อเธอก็ไปทำงานที่ต่างประเทศ ส่วนแม่เธอก็เสียแล้ว ไม่เห็นมีไรต้องเดือดร้อน

    ��������� นี่นายรู้??”

    ���������� อ่ะ..อ๋อ ฉันก็เดาไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีไรหรอก เอ้อ..จะเข้าบ้านไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวฉันช่วยพยุง นายหัวทองทำท่าเปิดประตูรถ

    ��������� อย่าเลย...ฉันกลัวจะเป็นขี้ปากชาวบ้านเอาน่ะ ไปก่อนนะ ฉันค่อยๆก้าวลงจากรถ ก่อนจะโบยมือบ๊ายบายให้หมอนั่น ก่อนเปิดประตูรั่วเตรียมเข้าบ้าน

    ��������� เฮ้ยเดี๋ยว! เอ้อ..คือว่า..เธอเกิดวันที่เท่าไหร่เหรอ”

    ������ ���หืม..อ๋อ 17 พฤจิ

    ��������� อ๋อ เฮอะๆ ไปก่อนนะ เข้าบ้านดีๆล่ะ

    ��������� อื้ม นายก็ขับรถดีๆล่ะกันฉันยิ้มให้หมอนั่น ก่อนจะเดินเข้าบ้านไป


    Car Says:


    ��������� "เฮ้อ...จะเรียกว่าพรหมลิขิตดีมั้ยเนี่ยหรือความบังเอิญดีนะ" ผมพึมพำกับตัวเองหลังกลับจากการส่งนินิว�เธอดูน่ารักขึ้นจากแต่ก่อนมาก�ไม่น่าเชื่อ...เพียงแค่ครั้งแรกที่เราเจอกัน ทำให้ฉันฝันถึงเธอมาตลอด แต่ในวันนี้ฟ้ากลับเล่นตลกกับเรา ทำให้ฉันมาเจอเธออีกครั้ง....


    ย้อนกลับไปตอนต้นเทอมของต้นเทอมที่ผ่านมา(นั้นก็คือ 2 ปีที่แล้ว)

    ��������� "นี่� แกอย่ามาหยิ่งหน่อยเลยหน่า กะแค่ให้ทำงานให้แค่นี้ ทำไม่ได้รึไง ฮ่ะ" เสียงโวยวายของพวกผู้หญิงดังลั่นออกมาจากซอกตึกเก่าๆที่คั่นระหว่างสองสถาบัน นั่นคือโรงเรียนมัธยม และมหาวิทลัยเอกชนชื่อดัง�

    ��������� ผมผละจากลูกบาสที่กำลังซ้อม มายังต้นเสียงทันที

    �������� "ก็บอกแล้วไงว่าไม่ทำ ปล่อยฉันนะ งานพวกเธอก็ทำเอาเองสิ"

    ��������� "หืย! ก็ฉันจะให้แกทำน่ะ� จะทำไม่ทำ จะไม่ทำใช่มั้ย!"

    ผลัวะ ผลัวะ ผลัวะ

    ����������เฮ้ยนั้นมัน...บิว��

    ��������� บิวฟาดมือลงกับใบหน้าของเด็กผู้หญิงคนนั้นอย่างไม่บันยะบันยัง จนทำให้เธอ..

    ��������� เธอล้มลงไปกองกับพื้นแล้ว!!!

    ��������� "หยุดเดี๋ยวนี้นะ! พวกเธอทำอะไรกันน่ะ ปล่อยผู้หญิงคนนี้เดี๋ยวนี้!"

    ����
    ��������� "นั้น..พี่คาร์� พี่คาร์มาได้ยังไง� คือ..มันไม่ใช่อย่างนั้นนะค่ะพี่คาร์ พวกนี้มันบังคับให้บิวทำคะ บิวไม่อยากทำจริงๆนะ เชื่อบิวนะ" บิวถลาเข้ามากอดขาผมไว้ ทำไมผมถึงรู้สึกขยะแขยงอย่างงี้�ทุกๆคำที่หลุดออกมาจากปากคนรักของผมมันล้วนเป็นคำโกหกทั้งสิ้น

    ��������� "อ้าวทำไมแกทำงี้อ่ะบิว ก็แกไม่ใช่เหรอที่สั่งให้พวกเราทำแบบนี้อ่ะ" เพื่อนบิวค้านเสียงแหลม


    ��������� "พอเหอะบิว�พี่เห็นทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว� ต่อไปนี้พี่จะไม่เชื่ออะไรบิวอีกต่อไปแล้ว ให้เราจบกันแค่นี้เถอะ" ผมสะบัดขา ก่อนจะวิ่งเข้าช้อนร่างคนที่นอนกองอยู่กับพื้น


    ��������� "ไม่นะ!� พี่คาร์จะทำอย่างงี้ไม่ได้นะ บิวไม่ยอมนะ" อยู่ๆบิวก็เข้ามาดึงขาผมไม่ได้เดินต่อ

    ��������� "ปล่อยบิว ปล่อย!!" ผมสั่งเสียงเฉียบขาด ทำให้บิวปล่อยมือจากขาของผม

    ��������� "ฮื่ออ..พี่คาร์..."

    ������

    ��������� ผมเดินลิ่วๆมาทางรถยนต์ที่จอดไว้ ก่อนจะวางร่างในมือลงกับเบาะรถ...


    แกร๊ก

    �������� ผมรูดบัตรทันทีเมื่อมาถึงคอนโดย่านอ่อนนุช�ที่ผมและเพื่อนอีกสองคนพักอยู่ด้วยกัน� เป็นธรรมดาเของเด็กมหาลัยที่อยากอาศัยอยู่กับเพื่อนมากกว่าครอบครัว


    ��������� "ว่าไงไอ้คาร์ วันนี้พาเด็กมาด้วยเหรอ" ดูเร็กซ์ทัก


    ��������� "บ้าบอหน่า ฉันไปเจอยัยนี้ถูก... ถูกรุมทำร้ายน่ะ".....จากบิว

    ��������� "ฉันไม่ค่อยอยากจะเชื่อแกสักเท่าไหร่เลย แต่เอาเหอะ.."

    ��������� "อืม"

    ����������ผมอุ้มยัยนี่วางลงบนเตียงในห้องอย่างเบามือก่อนจะเอื้อมมือปัดปอยผมและแว่นตาหนาเตอะที่ปกปิดใบหน้าออก

    ��������� ...น่ารัก น่ารักจริงๆ นี่ฉันคงไม่หลงรักเธอตั้งแต่แรกเจอหรอกนะ...

    ��������� "แม่คะ แม่มารับหนูแล้วใช่มั้ย เดี๋ยวสิค่ะแม่ แม่ รอหนูก่อน อย่าพึ่งไป! อย่าจากหนูไปไหนนะ!!"

    ��������� "เธอ..เธอ ตื่นสิ เป็นไรรึเปล่า" ผมเขย่าแขนยัยนี่เบาๆเป็นการเรียกสติ


    ���������� เปลือกตาคู่สวยเปิดขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับเหงื่อที่ผุดขึ้นเต็มใบหน้า�

    ��������� "อ้าว ตื่นแล้วเหรอ เธอเป็นอะไรรึเปล่า"


    ��������� "นายเป็นใคร?"

    ��������� "ฉันชื่อคาร์นะ ฉันช่วยเธอไว้จากพวกนั้นไง จำไม่ได....."

    ��������� "ขะ..ขอบใจนะ ฉันจะกลับแล้ว"

    ��������� "เดี๋ยวฉันไปส่ง นี่มันก็มืดแล้ว เธอกลับคนเดียวคงไม่ปลอดภัยแน่"

    ��������� "ไม่เป็นไร ฉันกลับเองได้"�เธอลุกพรวดไปยังประตู

    ��������� "เฮ้ยเดี๋ยว..งั้น..ฉันจะเดินไปส่งที่ BTS"

    ��������� ให้ตายเถอะ จะสามทุ่มแล้วเหรอเนี่ย ถึงว่าทำไมถนนถึงได้เงียบฉี่ขนาดนี้ เงียบจนได้ยินเสียงฝีเท้าแต่ละก้าวของเราสองคน

    �������� "เธอชื่ออะไรล่ะ" ผมถามทำลายความเงียบที่เริ่มก่อตัวขึ้นช้าๆ

    �������� "นินิว..."

    �������� "อืมนินิว ฉันชื่อคาร์นะ"

    �������� "นายบอกฉันไปรอบนึงแล้วนะ"

    �������� "เออเนอะ นั้นสิ เหอะๆ"

    �������� จบเสียงผม ก็เหมือนจบทุกอย่าง ยัยนี่ไม่คิดจะถามหรือตอบโต้อะไรผมบ้างเลยหรือไงนะ�อืม..จะทำยังไง จะคุยอะไรให้เธอสนใจดีนะ...คิดๆๆ

    �������� อ๋อออ..

    ���������"นินิว.."

    �������� "ห๊ะ ว่าไง.."

    ���������"เธอ..อยู่บ้านกับใคร"�ได้ผล ยัยนี่เงยหน้าขึ้นมามองผม�ก่อนจะก้มหน้ามองลงที่ปลายเท้า..เหมือนเดิม

    ���������"คนเดียวน่ะสิ ถามทำไม"

    ������� "พ่อแม่เธอล่ะ"

    ������� "จะอยากรู้ไปทำไม มันไม่ใช่เรื่องที่นายจำเป็นต้องรู้" ดูเหมือนวิธีแบบนั้นมันจะไม่เป็นผลเอาซะเลย ดูเหมือนยัยนี่จะโกรธเอามากๆซะด้วย

    ������� "แต่ฉันอยากรู้นี่หน่า"

    ������� "แต่ฉันไม่อยากตอบนาย โอเคมั้ยล่ะ!"

    ������� "แม่เธอเสียแล้วใช่มั้ย" บ้าเอ้ย�นี่ผมถามอะไรออกไปเนี่ย

    ������� "............"

    ������ "ฉัน..ฉันขอโทษ ฉันเห็นเธอละเมอเมื่อกี้น่ะ"

    �������"นายมันบ้า! แม่ฉันยังไม่ตาย แม่ฉันยังไม่ตาย จำเอาไว้!!"

    �������นินิวผลักอกผม ก่อนเธอจะวิ่งร้องไห้หนีไป โอ้ยย..ผมมันโง่จริงๆที่อยากรู้กับเรื่องไม่เป็นเรื่อง แล้วจะทำยังไงดีล่ะที่นี่ ฝนก็จะตกแล้วด้วย

    �������"เฮ้ยนินิว เดี๋ยวก่อน�ฉันขอโทษ..." ผมรีบวิ่งตามเธอไป อยู่ๆ ฟ้าเกิดเล่นตลก เม็ดฝนเม็ดใหญ่ค่อยๆตกลงมาสู่พื้น รู้นะว่ามันอาจเหมือนนิยายน้ำเน่าทางช่อง7� แต่มันเป็นเรื่องจริง� "นี่รอฉันก่อนสิ"

    �������ผมรีบวิ่งไปจับข้อมือของนินิวไว้ ก่อนจะดึงให้เข้าไปหลบใต้เครื่องเล่นของเด็กในสวนสาธารณะ��

    ������� ..ถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่หยุดร้องไห้� เธอคงเสียใจมากจริงๆ

    ������ �"ฉันขอโทษนะนินิว.."

    ������� "จะมาขอโทษฉันเรื่องอะไร ใช่สิ..นายไม่มีทางเข้าใจฉันหรอก ฉันไม่ได้บีบน้ำตาให้นายสงสาร แต่ในเมื่อตอนนี้นายยังมีแม่นายคอยอยู่ที่บ้าน นายก็ไม่มีทางรู้หรอกว่าความรู้สึกฉันตอนนี้มันเป็นยังไง!"

    ��������"ขอโทษนะ ฉันมันโง่เองน่ะ" ผมลูบหัวนินิวอย่างเบามือ�ถึงจะเป็นครั้งแรกที่เราเจอกัน เป็นครั้งแรกที่เราคุยกัน เป็นครั้งแรกที่เรารู้จักกัน แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก คุณเชื่อกับรักแรกพบมั้ยล่ะ..?

    ������� "ฉันขอโทษ...."

    ��������

    �����������

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×