NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Moto taimutorio: Tensei shitara suraimu datta kudan

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่1 : Who are you...?

    • อัปเดตล่าสุด 28 ต.ค. 67


    Former Time Trio OST

    .:Judgment Hall:.

    *“พวกเรา.... ชนะงั้นเหรอ?...” โครงกระดูกสวมฮู้ดได้พูดขึ้นท่ามกลางห้องโถงที่เหมือนพึ่งผ่านสงครามมา

    *“ดูเหมือนว่า... จะใช่นะ พวกเราสามารถขับไล่ผู้เล่นออกจากโลกนี้ได้สำเร็จ” โครงกระดูกที่กำลังลอยอยู่ได้กล่าวขึ้น (ใครไม่เข้าใจเนื้อเรื่องข้างต้นแนะนำให้ไปดู Former Time Trio Battle Animetion ก่อนนะครับ)

    *“นี่... ไหนๆ เราก็ชนะแล้ว... พวกเราไปที่ Gillby กันไหม?...” โครงกระดูกที่มีเลือดเต็มตัวได้พูดขึ้น

    *“รู้อะไรไหม? นั่นเป็นคำพูดที่ดีที่สุดที่ชั้นเคยได้ยินจากแกเลยหวะ!” โครงกระดูกสวมฮู้ดได้พูดขึ้น

    *“แซนส์ ชั้นรู้สึกอะไรบางอย่าง” โครงกระดูกที่สวมเสื้อคลุมสีดำได้พูดขึ้น

    *“อะไรงั้นเหรอกาสเตอร์?” โครงกระดูกที่บินอยู่ได้ถามโครงกระดูกที่สวมเสื้อคลุม

    *“ชั้นรู้สึกเหมือนมีคนกำลังมองพวกเราอยู่หนะ”

    *“มอนสเตอร์งั้นเหรอ?... ไม่สิ ชั้นสัมผัสถึงสิ่งมีชีวิตแถวนี้ไม่ได้เลย”

    *“ไม่ใช่แค่แกหรอกอินเซนนิตี้ ชั้นก็สัมผัสถึงมันไม่ได้เหมือนกัน” *‘มีบางอย่างแปลกๆ’

    ในขณะโครงกระดูกกำลังคุยกันอยู่ ที่ที่พวกเขาอยู่ก็เริ่มขาวขึ้น

    *“ชั้นคิดไปเอง... หรือว่าที่นี่มันขาวขึ้น”

    *“เอิ่ม.... Last Breath ชั้นคิดว่านายไม่ได้คิดไปเอง มันขาวขึ้นจริงๆ!!”

    ทันใดนั้นก็เกิดแสงสีขาวขึ้น และเมื่อพวกเขารู้สึกตัวกันอีกที พวกเขาก็อยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคยซะแล้ว

    .:Library:.

    ชื่อย่อ

    ชื่อย่อของแต่ละคน Last Breath = LB, Dust/Murder = D, Insanity = I, Phantom Papyrus = Pap, Gaster = G และ Diew Miller = DM

     

    “พวกเราอยู่ที่ไหนกันหละเนี่ย พวกนายโอเคกันไหม? เป็นอะไรกันรึป่าว?” LB ได้ถามอาการของคนอื่นๆ

    “ชั้นกับเจ้า Insanity ไม่เป็นอะไรแค่แสบตานิดหน่อย แล้วทางนายกับ G หละ?” D ได้ถามกลับไป

    “พวกเราก็ไม่เป็นอะไรเหมือนกัน แต่ที่นี่ก็ดูคล้ายคลึงกับห้องสมุดอยู่เหมือนกัน” G ตอบ

    ในระหว่างทีี่พวกเขากำลังคุยก็มีเสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น

    “เอิ่ม... ขอโทษที่ต้องรบกวนเวลาของพวกคุณนะครับ แต่ดูเหมือนว่าพวกคุณคงต้องการความช่วยเหลือนะครับ” ชายคนดังกล่าวพูดพร้อมรอยยิ้มที่เป็นมิตร

    “มนุษย์...งั้นเหรอ?...” I ได้ถามขึ้น

    “เหมือนจะใช่นะ แต่...มนุษย์คนนี้กลับไม่กลัวพวกเราที่เป็นโครงกระดูกเลย” D ตอบ

    “เอิ่ม... คุณคือ...?” LB ถาม

    “โอ้ะ! ต้องขออภัยด้วยที่ผมไม่ได้แนะนำก่อน ผมชื่อว่า Diew Miller หรือท่านจะเรียกผมว่า DM ก็ได้ครับ อย่างที่พวกคุณเห็มผมเป็นมนุษย์(ไม่อะ ในนิยายล่าสุดมึงไม่ใช่มนุษย์แล้ว!) และที่คือหอสมุดแห่งเรื่องราว ที่บันทึกเรื่องราวต่างๆในแต่ละ Multiverse เอาไว้ครับ ส่วนผมเป็นคนดูแล(ใกล้จะได้เป็นเจ้าของละ เพราะไม่มีใครสามารถเข้ามาได้นอกจากผู้อ่าน)ครับ”

    “นายเป็นคนเทเลพอร์ตพวกเรามาที่นี่งั้นเหรอ?” G ถาม

    “ใช่ครับเพราะผมต้องการให้พวกท่าน ที่สามารถเอาชนะผู้เล่นได้ช่วยหน่อยครับ”

    “ช่วยงั้นเหรอ?... ช่วยอะไร?” LB ถาม

    “กำจัดผู้เล่นที่กำลังจะไปรุกรานเรื่องราวอื่นครับ”

    “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกเรา?”

    “เพราะนั่นเป็นผู้เล่นคนเดียวกันกับที่ท่านเจอครับ หลังจากที่พวกท่านลบฟริสก์กับคาร่าออกไปพร้อมกับผู้เล่น ดูเหมือนว่าเขาจะใช้ฟริสก์กับคาร่าในการรุกรานเรื่องราวอื่นๆครับ”

    “. . .แล้วพวกเราต้องทำยังไง”

    “ทำเหมือนกับที่พวกท่านเคยทำเลยครับ”

    “. . . ดูเหมือนว่า... พวกเราต้องรับผิดชอบสินะ... เห่อ....” LB พูดพร้อมกับถอนหายใจ

    “แล้วทำไมคุณถึงไม่ทำเองหละ?” G ถาม

    “เพราะผมเป็นคนนอก ผมไม่สามารถเข้าไปแก้ปัญหาเองได้ครับ(มันทำได้ แต่แค่ไม่ทำ)” DM ตอบ

    “Ok... แล้วโลกที่พวกเราต้องไปคือโลกแบบไหน?” D ถาม

    “เป็นโลกแฟนตาซี มีเวทมนตร์ มีหลากหลายเผ่าพันธุ์ และ มีนักผจญที่คอยต่อสู้กับเหล่ามอนสเตอร์ครับ”

    “เดี๋ยวนะ งั้นถ้าเราไปที่โลกนั้นเราก็จะโดนพวกนักผจญหมายหัวเอาสิ เพราะพวกเราเป็นมอนสเตอร์” LB

    “ไม่ต้องเป็นหวงครับ เพราะถ้าผมส่งพวกคุณไปที่นั่นแล้ว ร่างมนุษย์จะถูกส่งไปในไม่ช้าครับ แต่ถึงจะช้าพวกท่านก็สามารถเข้าเมืองได้ครับ เพราะพวกเขาจะทำร้ายมอนสเตอร์ที่เป็นอันตรายก็เท่านั้นครับ ถึงจะแตกตื่นกันนิดหน่อยก็เหอะ”

    “เอิ่ม... งั้นเหรอ... งั้นก็หมายความว่า Insanity ก็เข้าเมืองไม่ได้นะสิ” LB ได้พูดขึ้น

    “คงงั้นแหละ...”

    “อ้อ เกือบลืม ผมมีของขวัญมามอบให้พวกท่านสามคนครับ”

    “ของขวัญงั้นเหรอ?”

    “ใช่ครับ พวกท่านรู้จักการรวมร่างกันรึป่าวครับ”

    “ก็... นิดหน่อยนะ หรือว่าจะให้พวกเรา 3 คนใช้ร่างเดียวกันงั้นเหรอ!?”

    “ใช่ครับ”

    “เอิ่ม... ทำไมถึงทำอย่างงั้นหละ?”

    “ไม่บอกครับ” หลังจากที่ DM พูดจบเขาก็ดีดนิ้วและมีควันขึ้นรอบตัวของแซนส์ทั้งสาม

    “อื่ม... น่าสนใจ อยากรู้จริงๆว่าจะออกมาเป็นยังไง” G ได้พูอขึ้น

    “คงเปลี่ยนไปไม่เยอะหรอกครับ 55”

    หลังจากควันจางหายไปก็ปรากฏแซนส์เพียง 1 คน

    “เป็นยังบ้างครับ ร่างกายใหม่” DM ได้ถามแซนส์ไป

    “ก็... ดี แต่ทำไมถึงไม่ให้ร่างมนุษย์มาหละ?” แซนส์ถาม

    “อ้อ... ยังไม่ได้ทำหนะครับ ส่วนคุณกาสเตอร์ก็ช่วยดูสเตตัสให้พวกเขาด้วยนะครับ”

    “เอิ่ม... ได้”

    “ว่าแต่... ชั้น(LB กับ Insanity)จะเห็น Phantom Pap ไหมแล้วหัวของ Pap ที่ชั้น(Insanity)ถือตลอดหายไปไหน?”

    “อ้อ ผมรวมพวกเขาเข้าด้วยกันหนะครับ”

    “งั้นเหรอ...”

    “มีคำถามอะไรอีกรึป่าวครับ”

    “เหมือนจะมีแต่ลืมไปแล้วหนะ งั้นคงไม่มี”

    “งั้นผมขอให้พวกท่านโชคดีนะครับ” หลังจากที่ DM พูดจบเขาก็ดีดนิ้วเพื่อส่งแซนส์กับกาสเตอร์ไปต่างโลกทันที

    หลังจากที่แซนส์กับกาสเตอร์ถูกเทเลพอร์ตออกไป ก็มีหญิงสาวผมเงิน(อาจจะขาวหรือเงินก็ได้)คนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นและกอดดิวจากด้านหลัง

    “. . .เอิ่ม... นี่คุณเป็นอะไรอีกหละเนี่ย?...” ดิวถามหญิงสาวไป

    “เค้าเหงาหนะ... กลับมานอนเป็นเพื่อนเค้าหน่อย” หญิงสาวตอบ

    “แต่... ผมพึ่งลุกออกมาจากเตียงไม่ถึง 5 นาทีเลยนะ...”

    “เธอไม่รักเค้าเหรอ?”

    “เห่อ.... ก็รักสิทำไมจะไม่รัก”

    “งั้นก็มา---กับเค้าสิ” หลังจากหญิงสาวพูดจบเธอก็ดึงดิวไปทันที

    โปรดติดตามตอนต่อไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×